All Blog
ต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 8



ต้มยำลำซิ่ง ตอนที่ 8

ในห้องแต่งตัว จวงใจนั่งรออยู่ ครู่หนึ่งจุ๊บแจงออกมาจากห้องน้ำ
“ทำไงดีพี่จวง คุณอิทไล่แจงกลับกรุงเทพแล้ว”
“เรายังกลับไม่ได้หรอก เพราะแผนเรายังไม่สำเร็จ”
“แผนอะไรคะ”
“อ้าว ก็ให้ท่านายทูนไง เมื่อกี้พี่เห็นนายทูนพานังรุ้งเข้ามาในบ้านแล้ว แจงรีบเข้าไปยั่วเลยนะ ถ้านังรุ้งมันเห็นด้วยยิ่งดี”
“ดียังไงล่ะพี่”
“อ้าว นังรุ้งมันจะได้ประสาทกินไง โธ่! นี่พูดเรื่องเดียวกันรึเปล่าเนี่ย”
“เข้าใจแล้วค่ะ งั้นแจงไปแต่งตัวให้สวยๆเลย”
“ไม่ต้องน้องแจง ชุดนี้แหละสวยแล้ว”
“อุ๊ย เสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียว นอกจากไม่สวยแล้วยังโป๊อีกนะคะพี่”
“ก็โป๊นี่ไงคะ ถึงจะยั่วได้ผล”
“เข้าใจอีกเรื่องแล้วค่ะ”
จุ๊บแจงดึงเสื้อตกไหล่ทันที สองสาวหัวเราะให้กัน จวงใจหัวเราะเจื่อนๆ อยากด่าจุ๊บแจงว่าโง่เต็มที

ทูนอินทร์เข้ามาในห้องนอน พบว่าฟ้าใสนอนระทวยอยู่บนเตียง
“มีสิทธิ์อะไรเข้ามาในห้องนอนฉัน”
“สิทธิ์ของความเป็นเมียคุณไงคะ”
“เอาเอกสารมา ฉันจะเซ็นเดี๋ยวนี้”
“ขึ้นมาบนเตียงซีคะ เรามาตกลงเรื่องหย่ากันบนเตียงดีกว่านะ”
“หยุดที”
ทูนอินทร์ดึงร่างของฟ้าใสขึ้นมา
“เธอเข้ามาสอดแนมอะไรในบ้านนี้รึเปล่า เสี่ยดำรงให้ทำใช่ไหม”
“ไม่เกี่ยวกับเสี่ย แต่ฟ้าต้องการรู้เอง ว่านังฝรั่งมันจะเลือกใครกันแน่ ระหว่างคุณกับนาย อิทธิ”
ฟ้าโอบรอบคอทูนอินทร์
“แล้วเธอคิดว่ารุ้งเลือกใคร”
“อาจจะเลือกทั้งสองคนก็ได้ เพราะให้ประโยชน์หล่อนทั้งคู่ แหมฟ้าแค่มาด้อมๆ มองๆ แป๊บเดียว รู้เบื้องลึกเบื้องหลังเยอะแยะ”
“เธอรู้อะไร”
“ก็อย่างเมื่อกี้ ยายรุ้งมันก็พูดเองว่ามันโกหกประวัติมัน จากเมืองไทยไปตั้งแต่ห้าขวบ แทบไม่รู้จักแม่ แต่เรื่องจริง มันอยู่กับแม่จนเจ็ดขวบ ตระเวนร้องเพลงด้วยกันแทบทุกจังหวัด จากนั้นถึงได้ส่งมันไปอยู่อเมริกา”
“เรื่องนี้อย่าพูดไปนะ”
“ไม่ได้รู้แค่เรื่องยายรุ้งนะคะ ยังมีเรื่องสนุกๆ ในการถ่ายทำอีกเพราะฟ้าแน่ใจ ว่าที่เรือนังจุ๊บแจงมันล่มน่ะ ไม่ใช่อุบัติเหตุหรอก”
“เธอกำลังจะบอกว่า รุ้งแกล้งจุ๊บแจงงั้นเหรอ”
“เปล่า อาจมีมือที่สามแกล้งก็ได้”
ทูนอินทร์เข้ามาจับร่างฟ้าใส
“บอกมา ใครมือที่สาม”
“ไม่บอก แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าอาจจะมีเรือล่มหนสอง”
ฟ้าใสหัวเราะระรื่น ทูนอินทร์ยิ่งเครียด ทันใดเสียงจุ๊บแจงดังมาจากนอกห้อง
“คุณทูน คุณทูนขา อยู่ไหนเอ่ย”
ทูนอินทร์และฟ้าใสมองไปที่โถงด้านนอก

ด้านนอก รุ้งระวีลงเรืออีกครั้ง ทีมงานช่วยประคอง โดยมีอาชาและขวัญข้าวรออยู่ในเรือแล้ว อินทรกำลังเซ็ทแสง เมธช่วยอยู่ด้วย ขณะที่อิทธิ จี่หอย มะปรางรออยู่ในร่ม ดูการถ่ายทำ
“มาแล้ว แม่นางเอกกว่าจะเยื้องกรายลงมาได้ เกรงใจกันบ้างซี ให้พวกฉัน รอตากแดดจนตัวดำ” อาชาบ่น
“พวกหัวนอก แหม่มกะปิมันก็อย่างนี้แหละ พูดไทยอ่านไทยได้นะ แต่สะกดคำว่าเกรงใจไม่เป็น” ขวัญข้าวเสริม
รุ้งระวีกระแทกพายลงน้ำแตกกระจายใส่ทั้งคู่อีกครั้ง อาชาและขวัญข้าวกรี๊ดเอะอะอีกครั้ง
“คุณอิทธิ พวกเราเปียกอีกแล้วครับ”
“นังฝรั่งแกล้งเราค่ะ”
“ถ่ายต่อไม่ได้แล้วละครับ เปียกอย่างนี้”
สองคนแย่งกันฟ้อง อิทธิตะโกนบอก
“ต้องถ่ายต่อ ถอยเรือไปอยู่ข้างหลัง ไกลเลยๆ”
“อ้าว!”
“ถอยเรือไป”
ทีมงานถอยเรืออาชาและขวัญข้าวไปไกล รุ้งระวีสะใจ อาชา ขวัญข้าวบ่นกันเสียงขรม
“รูปนี้ขอยิ้มกว้างๆ เลยนะคะ” จี่ห้อยแกล้งตะโกน
รุ้งระวียิ้มกว้างให้ดู เมธ จี่หอย มะปรางแอบหัวเราะ
“สวยครับ สวยมาก” อินทรบอก ขณะที่ถ่ายไปด้วย
ขณะเดียวกันนั้น คำรณยังแอบดูสถานการณ์อยู่ใต้ใบบัว
“คุณรุ้งยิ้มเลยครับ อย่างนั้น”
“ยิ้มเลยลูก ยิ้มกว้างๆเลย” จี่หอยส่งเสียงเชียร์
รุ้งระวียิ้มสวยให้ถ่ายรูป ขณะที่เรืออาชา ขวัญข้าว อยู่ไกลๆ เป็นภาพเบลอๆอยู่ในเฟรมกล้อง ช่วงเวลาเดียวกันนั้น คำรณที่แอบอยู่ใต้ใบบัว ดูเหตุการณ์รอจังหวะ!

ทูนอินทร์ออกมาที่โถงกลาง พบว่าจุ๊บแจงอยู่ในเสื้อคลุมอาบน้ำ ใส่ไว้หลวมๆ ส่งสายตาหวานให้เขาอยู่
“คุณแจง มีอะไรเหรอครับ”
“แจงเดินหลงน่ะค่ะ บ้านคุณทูนใหญ่จัง”
“ผมพาไปที่ห้องแต่งตัว”
“เดี๋ยวก็ได้ค่ะ เจอคุณทูนแจงก็อุ่นใจแล้ว เราคุยกันส่วนตัวสักครู่ได้ไหม”
“ได้ครับ ว่ามาเลย ผมต้องรีบไปทำงาน”
“ห้องด้านในคือห้องอะไรคะ เราเข้าไปคุยในนั้นได้ไหม”
“ห้องนั้นไม่เหมาะครับ เป็นห้อง”
“มีอะไรลึกลับรึเปล่าคะ แหม ชอบจัง เศรษฐีหนุ่มรูปหล่อที่มีความลับซุกซ่อนอยู่ เราเข้าไปคุยกันในนั้นนะคะ”
จุ๊บแจงดึงทูนอินทร์เข้าห้องไป จวงใจออกมาจากมุมที่ซ่อน
“ไม่เสียแรง ฝึกมาดี”
จุ๊บแจงดึงทูนอินทร์เข้ามาในห้องนอน ทูนอินทร์มองไปรอบๆห้อง เห็นฟ้าใสแอบอยู่มุมหนึ่ง ฟ้าใสมองอย่างไม่พอใจ
“อุ๊ย ห้องนอนคุณทูน แล้วทำไมไม่บอกก่อนว่านี่ห้องนอน เขินจัง” จุ๊บแจงทำท่าเอียงอาย
“งั้นไปคุยกันข้างนอกนะครับ”
“ไม่ค่ะ หายเขินแล้ว คุยกันในห้องนอนนี่แหละ ได้บรรยากาศ”
“คุณแจงครับ ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอครับ”
“นี่ละค่ะ เรียบร้อยแล้ว”
“งั้นมีอะไรครับว่ามา”
“คุณอิทสัญญาว่าจะเปิดอัลบั้มใหม่ของแจงสิ้นปีนี้ แจงจะขอให้คุณทูนทำมิวสิคให้แจงได้ไหมคะ เพราะภาพคุณทูนสวยมาก แจงจะต้องออกมาสวยสะเดิดแน่นอน”
“ผมอาจจะไม่ว่าง”
จุ๊บแจงเข้ามากอดแขนทูนอินทร์ทันที
“แล้วทำไงละคะถึงจะว่าง”
ทูนอินทร์มองจุ๊บแจงที่เข้ามาคลอเคลีย
“หรือว่าต้องการให้แจงสมนาคุณให้พิเศษ”
“หมายความว่ายังไงครับ”
“อย่างนี้ไงคะ”
จุ๊บแจงผลักร่างทูนอินทร์ ล้มลงไปบนเตียงนอน แล้วทาบทับร่างลงไป
“คุณแจง อย่าครับ มันไม่ดี คุณเองมีเจ้าของแล้ว”
“ถ้าหมายถึงนายอิทธิ นั่นแค่คนผลักดัน ไม่ใช่เจ้าของแจง”
“งั้นผมก็...” ทูนอินทร์มองไปที่ฟ้าใสที่ออกมายืนเท้าสะเอวอยู่ “ผมก็มีเจ้าของแล้วเหมือนกัน”
“ถ้าหมายถึงนังรุ้ง แจงไม่สน”
“ไม่ใช่ครับ ผมมีภรรยาแล้ว”
“อุ๊ย ใครคะ”
“ฟ้าใสไงครับ”
“นังฟ้าใส นังฟ้าใส ใจสะออนนั่นน่ะเหรอ เมียคุณ”
“ครับ นั่นละเมียผม”
“อย่ามาโกหก แจงไม่เห็นรู้เรื่อง”
“เราแต่งงานกันก่อนที่ฟ้าใสจะดังน่ะครับ”
“อ้อ แต่ตอนนี้ก็น่าจะเลิกกันไปแล้ว”
“ครับเลิกแล้ว แต่ยังไม่ได้หย่า”
“อุ๊ย งั้นไม่ถือ รับแจงเป็นแฟนอีกคนนะ แจงจะได้แก้แค้นส่วนตัว”
“แก้แค้นอะไรครับ”
“แก้แค้นนังฟ้าต่ำไงคะ นังนี่เลวนรกตัวแม่”
ทูนอินทร์เหลือบไปเห็นฟ้าใสอ้าปากค้าง
“ออกคอนเสิร์ทการกุศลเวทีเดียวกับมัน มันแกล้งแจงกับเจ๊ขวัญหน้าแตกกลางเวทีเลยค่ะ”
จุ๊บแจงนึกไปถึงอดีตอย่างแค้นๆ
เหตุการณ์ในอดีต เป็นงานคอนเสิร์ตการกุศล เมื่อฟ้าใสร้องเพลงของรักของหวงท่อนสุดท้าย ขวัญข้าวและจุ๊บแจงรอจะขึ้นเวทีที่หลืบด้านหนึ่ง ฟ้าใสประกาศ
“ลำดับต่อไป ขอเชิญรับชมรับฟัง สองสาวตัวแม่แห่งค่าย อิทธิซาวนด์ น้องจุ๊บแจง แตงร่มใบ และขวัญข้าว สาวอีสานค่ะ”
สองสาวออกมาหน้าเวที ฟ้าใสส่งไมค์ให้ ทำท่ารักกันจี๋จ๋า ระหว่างนั้นฟ้าใสแอบหยิบขวดหล่อลื่นออกมา แล้วบีบลงไปที่พื้นใกล้ส้นสูงของทั้งสองสาว แล้วเธอกลับไปด้านหลัง แล้วแอบมองอยู่ข้างเวที
จุ๊บแจงและขวัญข้าวร้องเพลงคนละท่อน จุ๊บแจงร้องเพลงแม่แตงร่มใบ โชว์ผิวขาวของตัวเองข่ม ขวัญข้าวมองอย่างหมั่นไส้เต็มที เมื่อจุ๊บแจงร้องจบท่อน ดนตรีขึ้นใหม่เป็นเพลงถึงดำก็เด็ด ขวัญข้าวกระแทกจุ๊บแจงเซไป เท้าของขวัญข้าว เหยียบลงไปบนหล่อลื่นเต็มๆ ทำให้เธอเสียหลัก ล้มหงายไปทั้งตัว พร้อมเสียงกรี๊ดดด ร่างขวัญข้าวนอนแอ้งแม้งอยู่กลางเวที
“พี่ขวัญ”
จุ๊บแจงวิ่งเข้ามาจะช่วย แล้วตัวเองก็เหยียบลงบนเจล ลื่นถลาลงไปทับร่างของขวัญข้าว ทั้งคู่ร้องกรี๊ด นอนทับกันอยู่บนพื้นเวที เจ้าหน้าที่ชายวิ่งมาประคอง แล้วพลอยลื่นล้มกันไปด้วย คนดูหัวเราะกันด้วยความขำ
ขวัญข้าวและจุ๊บแจงลุกขึ้นนั่ง เนื้อตัวเปื้อนฝุ่น และเจลลื่น
“ใคร ใครเอาน้ำมันมาทาพื้น” ขวัญข้าวโวยวาย
“แหวะ ทั้งพื้นเลยพี่ เปื้อนหมดเลย”
เสียงฟ้าใสหัวเราะ สองสาวหันขวับไปมอง รู้ทันทีว่าใครแกล้ง
“อีฟ้าใส โธ่ อีไพร่สถุลสกุลกา”
จุ๊บแจงมองงงๆ
“มันแกล้งเราเหรอพี่”
“ใช่ มันแกล้งเรา อีฟ้าหลัว”
“เอาไงดี”
“ลุกขึ้นแจง”
เจ้าหน้าที่ประคองสองสาวลุกขึ้น เนื้อตัวมอมแมม คนดูหัวเราะดังยิ่งกว่าเดิม ขวัญข้าวหันไปบอกนักดนตรีของวงให้เล่นดนตรีต่อ จุ๊บแจงงง
“หา! จะร้องต่อเหรอพี่ เปื้อนไปทั้งตัวแล้วนะ”
“ต้องร้อง ไม่งั้นเราแพ้มัน”
“มันลื่นนะพี่ คนดูก็หัวเราะเยาะเราด้วย”
“ยิ่งดีใหญ่”
ขวัญข้าวดึงจุ๊บแจงก้าวออกมา ด้านหน้าเวทีที่ไม่โดนน้ำมัน เจ้าหน้าที่ช่วยประคอง
“พ่อแม่พี่น้องขา เห็นไหมคะว่าดำน่ะดีกว่าขาว ดูซีเปื้อนฝุ่นขนาดนี้ ก็ยังสวยเด้งค่ะ”
คนดูยิ่งเฮ ปรบมือในสปิริตของขวัญข้าวข้าว
“ไม่จริงค่ะ ถึงจะเปื้อนฝุ่น แต่ความขาวใสของเราก็ยิ่งดูน่าทะนุถนอมนะคะ หรือใครไม่อยากสัมผัสขาวใสอย่างจุ๊บแจงอยากลูบไม๊ล่ะ ลูบม้า ลูบม้า”
จุ๊บแจงยื่นมือมาให้คนดูหน้าเวที หนุ่มๆวิ่งกรูกันเข้ามาจะจับ พร้อมตะโกน “ลูบจ๊ะ” จุ๊บแจงรีบหดมือกลับ หัวเราะคิก หนุ่มๆซี๊ดซ๊าด เพลงของจุ๊บแจงเล่นต่อเนื่อง จุ๊บแจงร้องต่อ สองสาวหันไปมองฟ้าใสอย่างสะใจที่คนดูยังชอบ
ฟ้าใสเจื่อนไป แต่ยิ้มแสยะให้ ก่อนสะบัดกลับเข้าหลังเวที สองสาวทั้งร้องทั้งเต้นต่อไปอย่างเมามัน

ทูนอินทร์ฟังเรื่องราวจากจุ๊บแจง แล้วเหล่ไปที่ฟ้าใส
“เธอร้ายขนาดนั้นเชียวเหรอ”
“ขนาดยังไม่รู้จักกันนะคะ มันยังแกล้งได้ขนาดนี้ อย่างว่าละ เพราะแจงสาวสวยกว่ามัน มันเข้าวงการกว่าจะดัง นู่นค่ะ ใกล้ห้าแยกหลักสี่เข้าไปแล้ว มันเลยอิจฉาแจง เพลงแจงก็ดังกว่ามันตั้งเยอะ”
ทูนอินทร์แอบยิ้ม คิดแผนได้
“ฟ้าใสร้ายกาจอย่างนั้นเชียวเหรอ”
“แสดงว่าคุณทูนยังไม่รู้นิสัยนังนี่ดี ตอนที่ไปเข้าสังกัดเสี่ยดำรงน่ะ มันเสนอตัวเป็นเมียน้อยเขา ยั่วยวนต่างๆ จนเมียหลวงเขาหนีกระเจิงไปอยู่ต่างจังหวัด เพราะทนอับอายไม่ได้”
“ผมไม่รู้มาก่อนเลยนะ”
“พี่จวงสอนไว้ ซื่อได้แต่อย่าโง่ค่ะ นังฟ้าต่ำมันไม่เคยอาย หน้ามันหนายิ่งกว่าเหล็กเส้นสะพานแขวน มันประกาศเลยว่ามันคือเมียใหม่เสี่ยดำรง ไปงานไหนประกาศงานนั้น แม้แต่งานโกนจุกก็ยังไปประกาศนะคะ”
ทูนอินทร์เหลือบไปมองทางฟ้าใส ที่หน้าแดงจนจะคล้ำด้วยความโมโห
“เออ น้องแจงครับ ผมว่าน้องแจงจะว่าใคร ก็ให้ระวังหน่อยนะครับ เพราะเจ้าตัวเขาอาจอยู่แถวนี้”
“คุณทูนตลกอีกและ พูดอย่างกะว่าคุณทูนซุกนังฟ้าต่ำ เอาไว้ในห้องนี้อย่างนั้นแหละ ฮิ ฮิ”
“มันก็อาจจะเป็นไปได้นะครับ เออ ผมต้องขอตัวไปทำงานก่อน”
ทูนอินทร์ลุกทันที จุ๊บแจงรั้งไว้ ฟ้าใสเดินออกมา ตรงมาข้างหลังจุ๊บแจง
“ไม่เอา ต้องอยู่กับแจงนะคะ”
“ตอนนี้เคลียร์กันเองก่อนดีกว่านะครับ”
“เคลียร์ เคลียร์กับใคร”
“ฉันไง นังแจง แตงเน่า”
จุ๊บแจงสะดุ้งเฮือก หันไปมองฟ้าใส
“ว้าย! มาได้ไง”
“มาถึงที่นี่ก่อนแกเสียอีก และฟังแกด่าฉันครบทุกข้อหาเลยด้วย”
“ไม่ใช่หน้าที่ผมแล้ว ขอตัวครับ”
ทูนอินทร์ยิ้มกริ่มออกจากห้องไปหน้าตาเฉย
“ไง ว่าฉันเป็นเมียน้อยเสี่ยดำรง แล้วแกล่ะ เป็นเมียน้อยนายอิทธิ แย่งผัวเขามาจากเมียหลวงเหมือนกัน แกกะฉันต่างกันตรงไหนวะ”
จุ๊บแจงหน้าเชิ่ดไม่ตอบ
“แกก็หน้าหนาไม่ต่างจากฉันหรอก ถ้าฉันเหล็กเส้นสะพานแขวน แกก็เสาตอม่อสะพานลอย”
จุ๊บแจงหน้าตึง

ทูนอินทร์หัวเราะขำออกมาที่โถงกลาง เจอเข้ากับจวงใจพอดี
“เอ้า คุณทูน เห็นน้องแจงไหมคะ”
“อยู่ในห้องนอนผมน่ะครับ ผมเพิ่งออกมา”
“อุ๊ย ห้องนอนคุณเหรอคะ แอบไปทำอะไรกันสองต่อสองเอ่ย”
“อ๋อ ไม่ได้แอบครับ เพราะไม่ได้อยู่สองต่อสอง”
“อ้าว แล้วมีใครอยู่ด้วย”
“เป็นตัวแม่อีกตัวน่ะครับ”
จวงใจจะเข้าไปทันที ทูนอินทร์ดึงไว้
“ตอนนี้อย่าเพิ่งเข้าไปครับ เพราะเขากำลังเคลียร์กันอยู่”
“คุณทูนคะ คุณทูนพูดอะไร พี่งง”

ในห้อง จุ๊บแจงด่ากับฟ้าใสอย่างมันปาก
“ถึงฉันจะแย่งผัว แต่ศักดิ์ศรีฉันเหนือกว่าแกทุกอย่าง”
“ตรงไหนไม่ทราบ”
“ดูสารรูปตัวเองก่อน แก่แล้วนะ ที่จริงถือว่าเสี่ยดำรงเขาใจกว้างมาก ที่ยอมมีเมียน้อยที่เหี่ยวพอๆกับเมียหลวง ฉันเชื่อนะว่าอายุแกไม่เท่าไหร่หรอก แต่สังขารล่วงเลยอายุไปมาก สงสัยจะสมบุกสมบันกับชีวิตไปหน่อย”
“ขอบใจที่เตือน และนี่แทนคำขอบใจของฉัน“
ฟ้าใสตบหน้าจุ๊บแจงฉาดใหญ่ จุ๊บแจงผงะไป งงไปครู่
“คนอย่างอีแจง ไม่ชอบให้ใครมาลองดีเหมือนกัน นังฟ้าหลัว”
จุ๊บแจงสะบัดหลังมือ ฟาดไปบนหน้าฟ้าใสกลับเสียงฉาดลั่น ฟ้าใสลูบหน้าตัวเอง แล้วกรี๊ดเสียงสนั่นกระโดดเข้าตบตีจุ๊บแจง
จุ๊บแจงกรี๊ดตามต่อสู้เป็นพัลวัน ล้มไปบนเตียงทั้งคู่ เสียงกรี๊ดลั่นออกมาด้านนอก จวงใจวิ่งเข้าไปในห้องทันที พบว่าจุ๊บแจงและฟ้าใสกำลังตบตีกันวุ่นบนเตียง
จุ๊บแจงเสียหลักล้มลงไปที่พื้น ฟ้าใสลงนั่งคร่อม กระชากผมจุ๊บแจง โขกหน้ากับพื้น
“นังฟ้าใส หยุดนะ”
จวงใจวิ่งเข้ามาแล้วจิกผมฟ้าใสขึ้น
“กรี๊ด!”
“แกล้งเด็กฉันเหรอ ต้องเจอตัวป้าอย่างฉัน”
จวงใจตบฟ้าใสล้มไปกับพื้น
“พี่จวง รุมมันเลย”
สองสาวเข้ารุมทึ้งฟ้าใสที่ร้องกรี๊ดลั่น ทูนอินทร์ปิดหูตัวเอง แล้วออกจากห้องไป

อินทรยังถ่ายรูปอยู่ เสียงกรี๊ดดังมาจากในบ้าน ทุกคนหันไปมอง
“เสียงผีเปรตที่ไหนมันร้อง” อิทธิถาม
“ดังมาจากในบ้านน่ะค่ะ”
“เสียงแจงนี่”
เสียงโครมครามข้าวของแตกเปรื่อง
“เสียงยายฟ้าใสด้วย”เมธร้องบอก
“อะไรนะ ฟ้าใสอยู่ในบ้านเหรอ” อิทธิหันไปถาม
“ครับ” เมธพยักหน้ารับ
อิทธิ จี่หอย มะปราง อินทร มธ วิ่งกรูกันไปที่บ้าน เหลือแต่ทีมงาน ขณะเดียวกันในบึง รุ้งระวี อาชา ขวัญข้าว มองไปที่บ้านอย่างสงสัยเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้น
“นี่ หนุ่มแน่น เอาเรือกลับเข้าฝั่งเดี๋ยวนี้” อาชาหันไปบอกทีมงาน
“เดี๋ยวจะต้องถ่ายต่อนะครับ “
“เอาเถอะน่า กลับเข้าฝั่ง นังฟ้าใสมาอาละวาดที่นี่ ต้องไปดู“
ทีมงานดันเรือกลับเข้าฝั่ง เหลือแค่เรือของรุ้งระวีลำเดียว รุ้งระวีชะเง้อมอง สงสัยเหมือนกัน

ในห้องนอน จวงใจและจุ๊บแจงเข้ารุมฟ้าใส แต่แล้วกลับถูกฟ้าใสยันโครมเข้าทั้งคู่ ร่างทั้งคู่กระเด็นไปกระแทกตู้อย่างแรง ฟ้าใสเข้ามาคร่อมร่างจวงใจ แล้วตบซ้ายขวาเมามัน
ขณะเดียวกันทูนอินทร์ที่กำลังกรูกันเข้ามาในบ้าน พบทูนอินทร์ที่กำลังออกมา
“ทูน มีเรื่องอะไรกัน”เมธถาม
“ตัวแม่ตบกันครับ ขึ้นไปดูกันเอาเองก็แล้วกัน”
อิทธิ มองทูนอินทร์อย่างไม่พอใจมากที่พาฟ้าใสเข้ามาในกองถ่ายของตน ทั้งๆที่อยู่คนละค่ายกัน แต่ก็วิ่งตามทุกคนขึ้นไปชั้นบน เหลือทูนอินทร์หัวเราะขำลำพัง
อาชาและขวัญข้าวขึ้นฝั่ง ทั้งสองรีบตรงไปที่บ้าน รุ้งระวีอยู่ในเรือลำพัง
“คุณรุ้งจะขึ้นฝั่งก่อนรึเปล่าครับ” ทีมงานถาม
“ไม่ละ ฉันรออยู่ในเรือนี่แหละ”
ทีมงานแยกไป เหลือเพียงเรือของรุ้งระวีลำเดียว คำรณแอบอยู่ใต้ใบบัว เห็นว่าจังหวะปลอดคนพอดี รีบดำน้ำลงไป คำรณโผล่ขึ้นมาข้างกราบเรือ รุ้งระวียังมองไปทางบ้าน เช่นเดียวกับกลุ่มทีมงาน คำรณยิ้มย่ามใจที่ไม่มีมองมาทางตน

ทุกคนวิ่งเข้าไปในห้องนอนทูนอินทร์ พบว่าฟ้าใส จวงใจ และจุ๊บแจงกำลังฟัดกันนัวเนีย หัวยุ่งกระเซิงไปหมด
“เฮ้ย อะไรกัน แยกที”
เมธ อินทรเข้าแยกฟ้าใสออกมา จี่หอยและมะปรางช่วยดึงจวงใจ อิทธิกระชากร่างจุ๊บแจงออกมา
“เข้ามาบ้านฉัน ยังจะมาก่อเรื่องอีกเหรอ” เมธตวาด
“นังนี่มันหาเรื่องฟ้าก่อนนี่คะ” ฟ้าใสโต้
“หาเรื่องเหรอ แกนั่นแหละที่ตบฉันก่อน” จุ๊บแจงโวย
“แล้วใครที่ด่าฉันก่อนสาดเสียเทเสีย”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น จวงพาแจงออกไปได้แล้ว” อิทธิสั่ง
“เดี๋ยว คุณอิท มันทำร้ายจวงกับแจงนะคะ คุณไม่ช่วยเราเลยเหรอ”
“ช่วยซี ช่วยให้กลับกรุงเทพเร็วขึ้นไง ออกไปทั้งคู่”
จวงใจมองอย่างแค้น แล้วพาจุ๊บแจงออกไป อิทธิหันไปบอก
“ขอโทษนะฟ้าใส เด็กของผมมันทำเกินกว่าเหตุ”
“ยังดี ที่คุณยังยุติธรรม ไม่เข้าข้างเด็กคุณ”
“ผมยุติธรรมเสมอ”
อิทธิออกไป พร้อมจี่หอยและมะปราง
“แต่อย่านึกว่าฉันจะเป็นธรรมกับเธอ ยายฟ้า กลับได้แล้ว ทร พาแม่นี่ไปส่งที่รถเลย”
“ครับ”
สองชายจับแขนฟ้าใสพาออกไป

ขณะเดียวยกันนั้น คำรณที่ซุ่มอยู่ข้างกราบเรือรุ้งระวี ขยับตัวทำให้เกิดเสียงน้ำกระเพื่อมข้างเรือ รุ้งระวีหันมามอง คำรณหลบวูบ แล้วตัดสินใจผลักเรือให้พลิกคว่ำทันที
“กรี๊ด!”
รุ้งระวีตกน้ำ เสียงตู้มใหญ่ คำรณว่ายน้ำหนีทันที ทีมงานชายหันมามอง รุ้งระวีจมดิ่งลงในสระ ทีมงานชายร้องกันเอะอะ
รุ้งระวีพยายามตะเกียกตะกายในน้ำ และร่างกลับจมดิ่งลงไป ทูนอินทร์หันมองตามเสียงร้องทันที
“รุ้ง”
ทูนอินทร์วิ่งไปที่บึง จังหวะเดียวกับที่เมธและอินทร พาฟ้าใสออกมาจากบ้าน
“อะไรอีกน่ะ”
“ฮ่ะ ฮ่ะ เตือนแล้วไม่ฟัง บอกแล้วว่าต้องเกิดเหตุเรือล่มหนสอง”
“เรือล่ม”
เมธและทรวิ่งไปที่บึง ฟ้าหัวเราะสะใจ

ทูนอินทร์วิ่งมาที่บึง ทีมงานกำลังงมหารุ้งระวี
“รุ้งล่ะ”
“จมหายไปครับ”
ทูนอินทร์กระโดดลงสระทันที เมธและอินทรวิ่งมาถึง
“เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น”
“คุณรุ้งจมน้ำครับ”
ขณะเดียวกันที่ใต้น้ำ รุ้งระวีดำดิ่งลงไปก้นสระ กำลังจะหมดสติ ทูนอินทร์ว่ายตามลงมา เห็นร่างของเธอ จึงเข้ารวบ แล้วพาทะยานขึ้นไปบนพื้นน้ำ






Create Date : 31 มกราคม 2555
Last Update : 31 มกราคม 2555 0:30:44 น.
Counter : 294 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]