All Blog
รักออกอากาศ ตอนที่ 4





ที่ห้องคอนโทรลเวลาเดียวกันนั้น ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว และทีมงาน ต่างก็ตกใจเมื่อเห็นนักเลง 3 คนกำลังจะจัดการกับเจ้าคุณ เพราะไม่ใช่ทีมงานของตน

“เฮ้ย! ใครน่ะ”
“แย่แล้วเจ้าคุณ”
ลูกน้องกรูกันมาดูจอทีวี

เหตุการณ์ในตลาดยังคงชุลมุนหวานเจี๊ยบโวยวาย
“ทำไงดี ทำไงดี”
“ต้องรีบไปตามปลัด ขึ้นรถเร็ว!”
แคบหมูคว้าชามโจ๊กพุ้ยใส่ปากไปด้วย ขณะหันไปบอกคนงาน นักเลงคนหนึ่งโดนเจ้าคุณต่อยถลามาใกล้แคบหมู แคบหมูเอาชามโจ๊กร้อนๆ ราดใส่หัวจนนักเลงคนนั้นร้องจ๊าก แคบหมูกับคนงานขึ้นรถ แต่แคบหมูดันขึ้นที่นั่งคนขับ คนงานขึ้นไปนั่งข้างๆ แล้วนึกได้
“เฮ้ย! แล้วจะไปยังไง พี่มาขับซิ”
คนงานกับแคบหมูสลับที่กัน คนงานรีบขับออกไปทันที เจ้าคุณยังลุยนักเลงอยู่ มีบางจังหวะเกิดเพลี่ยงพล้ำแต่หวานเจี๊ยบเอาที่ไสน้ำแข็ง ตบเปรี้ยงปักหน้าลูกน้องนักเลงไว้ได้คนหนึ่ง ดำเกิงกับเคนและติ๊ก เห็นเจ้าคุณแล้วฮึดสู้กับลูกน้องนักเลงอีกคนนึง ดำเกิงหวิดเพลี่ยงพล้ำแต่เจ้าคุณเข้ามาช่วยไว้ทัน ดำเกิงแอบซึ้งใจ แม่ค้าโจ๊กเอาโจ๊กร้อนๆ ราดหน้าลูกน้องนักเลงไปอีกคน

ชาวบ้านคนจ้องดูทีวีในร้านค้า ยายแก่ผัดข้าวค้าง ตาจ้องทีวี หลานเล็กๆ และลูกค้าในร้านก็ถือช้อนค้าง เพราะลุ้นเอาใจช่วยเจ้าคุณในทีวี
“อ้ายขุนทอง! สู้ซิลูก สู้มัน”
ยายถลกผ้าถุง ชูตะหลิวลุ้นยังกะเชียร์มวย
ร้านหวานเจี๊ยบ ดำเกิง เคน ติ๊ก หวานเจี๊ยบ แม่ค้าโจ๊ก ชาวบ้าน ฯลฯ ช่วยกันอัดนักเลงจนน่วม วิ่งหนีหางจุกตูด
“อัดมันให้น่วม” เจ้าคุณสั่ง
“ยำมันให้เละ!” ดำเกิงตะโกนบ้าง
แล้วทุกคนก็ขำกันลั่น
แมทธิวนอนจ้องทีวีอยู่ที่คอนโดกำลังเดือดดาล เขวี้ยงรีโมททิ้งอย่างโมโหสุดขีด
“ไอ้พวกงี่เง่า!”

จัดการนักเลงที่แมทธิวส่งมาจัดการเจ้าคุณได้สำเร็จ หวานเจี๊ยบปรี่มาเกาะแขนเจ้าคุณ
“เก่งจังเลย เก่งที่สุดเลยอ้ายขุนทอง”
“พอได้แล้วน้องหวานเจี๊ยบ”
ดำเกิงเหล่ใส่หวานเจี๊ยบชะงักมองดำเกิงว่าจะหาเรื่องอะไรเจ้าคุณอีก ดำเกิงกระชากหวานเจี๊ยบออกไป แล้วปรี่ประชิดเจ้าคุณแทน
“ไอ้ขุนทอง! (เปลี่ยนเสียง เปลี่ยนอารมณ์ โผกอดแน่น) ข้าขอบใจเอ็งจริงๆ ขอบใจที่ไม่ทิ้งให้ข้าโดนตื้บแบนแต๊ดแต๋”
ดำเกิงเปลี่ยนเสียง และซาบซึ้งในน้ำใจจองเจ้าคุณที่เข้าช่วยตนจากนักเลง โผเข้ากอดแน่น จนเจ้าคุณเจ้าคุณแอบเขิน
“นี่ขนาดว่าข้ากับเอ็งเคยมีเรื่องกัน เอ็งยังอุตส่าห์มีน้ำใจช่วยข้า สมแล้วที่เอ็งเป็นลูกหลานม่วนแต๊เหมือนข้า เพราะว่าลูกหลานม่วนแต๊ต้องหล่อ ต้องดี และมีน้ำใจ”
“อ้วก! ที่พูดมาน่ะ แกไม่เข้าข่ายเลยซักนิดอ้ายเกิง”หวานเจี๊ยบประชดด่าใส่ซ้ำ
“แหม น้องหวานเจี๊ยบอ่ะ ไป จะกินอะไร อ้ายเกิงเลี้ยงเต็มที่
“ไม่ได้หรอก ต้องไปส่งชาต่ออีก”
“ไม่ต้องไปแล้ว”
ทุกคนหันขวับ สมใจยืนหน้ายักษ์อยู่กับปลัดจืด มีแคบหมูทำหน้าสยองขวัญอยู่ใกล้ๆ ทำหน้าสงสารเจ้าคุณรอไว้ล่วงหน้า
“หมายความว่ายังไง ไม่ต้องไปแล้ว”
“ก็หมายความว่า ไม่ต้องไปแล้ว ไงล่ะ ชั้นสั่งให้ไปส่งของ แต่นายกลับมามีเรื่องมีราวไง อยากโชว์ฟอร์มอวดหญิงนักรึไง”
แคบหมูอ้าปากจะพูด สมใจก็ไม่ฟัง ผลักอกเจ้าคุณ
“กลัวชาวบ้านเขาไม่รู้เหรอว่าเจ๋ง ว่าเป็นนักเลง”
เจ้าคุณอึ้ง ทุกคนก็อยากจะอธิบาย แต่สมใจไม่หยุด
“พ่อแม่จะดีใจมั้ยเนี่ยถ้ารู้ว่าลูกเป็นนักเลงในตลาดแบบเนี้ย”
เจ้าคุณอึ้ง
“เธอไม่มีสิทธิ์พูดถึงพ่อแม่ฉัน!”
สมใจกับทุกคนตกใจ เจ้าคุณเดินพรวดออกไป
“ไอ้ใจ๋! แกไปพูดถึงพ่อเขาทำไม พ่อเขาตายไปแล้วนะเว๊ย”
สมใจอึ้งกับพูดตัวเอง รู้สึกผิดขึ้นมา

เจ้าคุณเดินมาตามทาง แล้วก็หยุดเดิน หันไปมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินที่บ้านม๊วนแต๊อากาศดี พลางคิดย้อนกลับไปสมัยเป็นเด็ก
ภาพในอดีตตอนเจ้าคุณยังเด็ก วัย7ขวบ เจ้าคุณถูกพ่อเอาไม้เรียวตี เจ้าคุณกอดอกร้องไห้ไม่หยุด โดยมีรจนาวรรณ ยืนร้องไห้อยู่ใกล้ๆ
“พอเถอะค่ะคุณ พอได้แล้ว”
“คุณหญิง อย่ายุ่ง! คุณน่ะตามใจลูกมากซะจนจะเสียคน”
“แต่ลูกยังเด็กอยู่ แกยังไม่ประสีประสา”
“ถ้าจะสอนก็ต้องสอนกันตั้งแต่เด็กนี่ล่ะถึงจะถูก”
รจนาวรรณยิ่งไม่กล้า พ่อเดินมาตรงหน้าเจ้าคุณที่ร้องไห้ไม่หยุด คุกเข่าตรงหน้า
“พ่อเคยสอนว่ายังไง”
“คุณพ่อสอนว่าให้รู้จักรักษาคำพูด ห้ามทรยศกับคำพูดของตัวเองครับ” เจ้าคุณสะอื้นไห้
“เจ้าคุณรับปากกับพ่อว่าจะทำการบ้านให้เสร็จ แล้วทำไมถึงทำไม่เสร็จ”
“เพราะผมห่วงเล่นเกมครับ ผมขอโทษครับคุณพ่อ ต่อไปนี้ผมจะไม่ทรยศกับคำพูดตัวเองอีกแล้ว”
พ่อพยักหน้าด้วยความพอใจ “
“ดีมาก! ลูกผู้ชาย คำไหนคำนั้น พูดอะไรออกไป ต้องทำให้ได้ เข้าใจมั้ย”
พ่อดึงเจ้าคุณมากอด เจ้าคุณกอดพ่อแน่น

วันที่เจ้าคุณไม่อยากให้มาถึงก็เกิดขึ้น ขณะที่เจ้าคุณกำลังเล่นรถบังคับกับพ่ออย่างสนุกสนาน ทันใดนั้นพ่อเกิดอาการเจ็บที่หัวใจขึ้น เจ้าคุณไม่รู้เรื่อง พ่อเริ่มปวดมากขึ้นแต่พยายามแสดงออกว่าไม่เป็นอะไร
“เจ้าคุณ...”
“ครับ
“ไปเอายาบนโต๊ะในห้องทำงานให้พ่อ รีบเอามานะ”
“ครับ”
เจ้าคุณรีบวิ่งออกไป ทันทีที่เจ้าคุณออกไป พ่อทรุดเข่าลงกับพื้น เจ็บจนจะทนไม่ไหว เอามือกุมอกข้างซ้าย เริ่มกระตุกๆ เจ้าคุณวิ่งกลับเข้ามาเห็นสภาพพ่อแล้วตกใจ กลัว
“จะ..จะ..เจ้าคุณ..อะ..เอา..ยา..มา”
เจ้าคุณกลัวๆ กล้าๆ เอายาส่งให้พ่อ พ่อคว้าหมับมาแล้วกระตุกทีนึง ดูน่ากลัวสำหรับเจ้าคุณ พ่อพยายามเปิดฝายา ขวดหล่น ยากระจายเต็มพื้น พ่อยื่นมือไขว่คว้า ตาจ้องเจ้าคุณ
“อะ..เอา..ยะ..ยา..สะ..ใส่..ปาก..พ่อ..ที”
เจ้าคุณกลัวส่ายหน้าไม่กล้า
“เร็ว!”
เจ้าคุณสะดุ้งเฮือก รีบวิ่งไปหยิบยามาถือไว้เม็ดนึง แต่พอหันกลับมาก็เห็นว่าพ่อฟุบนิ่งไปแล้ว เจ้าคุณยืนอึ้ง
รจนาวรรณวิ่งพรวดมา ตะลึง
“คุณ ไม่จริง! ไม่จริ้ง! คุณ อย่าทิ้งชั้นไป”
เจ้าคุณยืนอึ้ง ตัวสั่น มือสั่นและในมือยังถือยาอยู่ในมือไว้แน่น

คืนนั้น สมใจดูกระวนกระวายใจ เดินไปเดินมา ผุดลุก ผุดนั่ง คำปุยเดินผ่านมาเห็นสมใจก็รู้ว่าเป็นอะไร
“ใจ๋ ไอ้ใจ๋! ถ้ารู้สึกผิดกับอ้ายขุนทองก็ไปขอโทษเขาซะ แกจะได้เลิกเดินไปเดินมาเป็นหนูติดจั่นแบบนี้ซักที”
คำปุยทักเพื่อน สมใจเริ่มหน้าถอดสี แก้ตัวพลัวัน
“ฉันไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย หิวแล้ว ไปทำอะไรกินดีกว่า”
สมใจรีบเดินออกไป คำปุยส่ายหัว พร้อมถอนหายใจ
“ไอ้ใจ๋เอ๊ย!”

ส่วนกำโป๊ง วันนี้ชะเง้อคอยาวรอเจ้าคุณเหมือนเช่นทุกวัน เพราะเลยเวลากลับบ้านมาสักพักแล้ว
“ทำไมป่านนี้ไอ้ขุนทองยังไม่กลับมาอีก”
ทันใดนั้นไส้อั่ววิ่งหน้าตาตื่นกลับมา
“ลุงแย่แล้ว แย่แล้ว!”
“อะไรของเอ็งห๊ะไอ้อั่ว”
“งูเห่า งูเห่าหลุดจากฟาร์ม!”
กำโป๊งใจเสีย เป็นห่วงเจ้าคุณขึ้นมาทันที

ที่ห้องคอนโทรล ก้องเกียรติกำลังโทรศัพท์กับกำโป๊งหน้าตาตื่นตระหนก
“ไอ้คุณยังไม่กลับบ้าน!”
ก้องหันไปทางกิ๋ง แล้วทั้งคู่ก็หันไปดูที่หน้าจอทีวี เห็นมุมต่างๆของหมู่บ้าน แต่ไม่เห็นเจ้าคุณ จึงโทรศัพท์หากำโป๊ง
“คุณไปไหนอ่ะก้อง” กิ๋งถามอย่างห่วงใยเพื่อน
“ผมยังไม่เห็นไอ้คุณเลยครับลุง”
กำโป๊งวิตกมากขึ้น
“แย่แล้ว!”
“มีอะไรรึเปล่าครับ ห๊ะ! งูหลุด!”
ก้องเกียรติคุยโทรศัพท์กับกำโป๊งทราบเรื่อง เจ้าคุณและงูหลุดพร้อมกันจึงตกใจ
“ฉันจะแวะไปที่บ้านนังใจ๋ บางทีไอ้ขุนทองอาจจะอยู่ที่นั่น”
กำโป๊งวางสายรีบออกไป ก้องวางสายหันไปมองกิ๋งใจไม่ดี
“แล้วคุณหายไปไหน ทำไมเราถึงหาไม่เจอ”
ก้องหันไปมองที่หน้าจอทีวี มองยังไง ก็ไม่เห็นเจ้าคุณ

เจ้าคุณนอนแผ่อยู่ในทุ่งหญ้าที่สูงท่วมตัว นอนดูดาวบนท้องฟ้า พลางคิดย้อนกลับไป ในวัยเด็กอีกครั้ง ในวันที่นอนดูดาวเจ้าคุณนอนบนตัวพ่อดูดาวด้วยกัน
“นู่นเขาเรียกว่าดาวลูกไก่”
“แล้วตรงนู้นล่ะครับ”
“นั่นดาวไถ”
“แล้วมีดาวคุณพ่อรึเปล่าครับ”
“นั่นไง ดาวของพ่อ ดาวที่ส่องแสงสว่างที่สุด เด่นที่สุดบนท้องฟ้า จำไว้นะเจ้าคุณ ถ้าลูกโตขึ้น ไม่ว่าลูกจะเจออุปสรรค หรือปัญหาอะไร ขอให้ลูกมองมาที่ดาวดวงนี้ ลูกจะรู้ว่าพ่ออยู่กับลูกเสมอ
เจ้าคุณมองที่ดาวดวงนั้น พ่อกอดเจ้าคุณเอาไว้”
เจ้าคุณยื่นมือออกไปเหมือนจะคว้าดาวดวงนั้น
“พ่อครับ ผมคิดถึงพ่อ”
เจ้าคุณน้ำตาซึม งูเห่าตัวหนึ่งกำลังเลื้อยเข้าไปในพงหญ้า

สมใจกินอะไรไม่ลง คำปุย สมหมาย สมศรี และแคบหมู นั่งอยู่ด้วย
“ใจ๋ ทำไมเขี่ยข้าวเล่นอย่างนั้นล่ะ”
“นั่นซิ ไม่สบายรึเปล่า”
“ใจจ๊ะลุง ใจของใจ๋มันไม่ฉบาย” คำปุยชิงพูดก่อน
“กินเข้าไปจะได้ไม่ต้องพูดมาก” สมใจตักอาหารเข้าปากคำปุย”
สมหมายกับสมศรีงงๆ ทันใดนั้นลุงกำโป๊งทะเล่อทะล่าเข้ามา ทุกคนหันไปมอง
“อ้าวตากำโป๊ง! หน้าตาตื่นหยั่งกับวิ่งหนีอะไรมา”
“ไอ้ขุนทองอยู่ที่นี่รึเปล่า”
สมใจผงะ หันไปมองคำปุยกับแคบหมู แล้วก็ใจไม่ดี
“ไม่อยู่ มีอะไรเหรอ”
“ไอ้อั่วมันบอกว่ามีงูเห่าหลุดออกมา กัดคนตายไปคนนึงแล้ว แล้วตอนนี้ไอ้ขุนทองก็ยังไม่กลับบ้านมาเลย
สมใจหน้าเสีย ทำช้อนร่วงใส่จานเสียงดัง ทุกคนหันไปมอง

คืนนั้นที่อนามัยหมู่บ้านม๊วนแต๊สมใจ สมหมาย สมศรี ลุงกำโป๊ง คำปุย แคบหมู และไส้อั่ว รีบวิ่งเข้ามาในอนามัย เห็นพยาบาลเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน สมใจรีบเข้าไปหา
“คนที่โดนงูกัดอยู่ไหนคะ”
ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่เข็นศพออกมา ทุกคนหันไปมอง
“พวกเราขอดูศพหน่อยได้มั๊ยคะ”
“พวกคุณเป็นญาติรึเปล่าคะ”
“ผมเป็นลุงของมัน”
สมใจ สมหมาย สมศรี ลุงกำโป๊ง คำปุย เดินมาข้างเตียง คำปุยจะร้องไห้ไม่กล้าดู ลุงกำโป๊งค่อยๆเปิดผ้า ยังไม่เห็นว่าเป็นใคร

ที่ห้องคอนโทรล กิ่งแก้วเห็นเจ้าคุณเดินออกมาจากทุ่งหญ้า ก็ดีใจ รีบหันไปเรียกก้องเกียรติ
“ก้อง!”
ก้องเกียรติหันไปเห็นเจ้าคุณก็ยิ้มกว้างโล่งใจ
“ไอ้คุณ!”

ที่หน้าบ้านกำโป๊ง ทุกคนกำลังโจษขานกันเรื่องมีคนโดนงูกัดในหมู่บ้าน
“น่าสงสารไอ้หม่อง มันยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ๆ” สมหมายเอ่ยขึ้น
“นั่นซิ เห็นมาตั้งแต่ตัวกระเปี๊ยก ไม่น่าจะอายุสั้นเลย เออ ว่าแต่พวกเราก็ยังไม่รู้เลยนะว่าขุนทองหายไปไหน”
สมใจยังจ๋อยอยู่ คำปุยหันไปเห็น
“ไอ้ใจ๋ ยังไม่หายจ๋อยอีกเหรอแก”
“จะหายได้ไง เพราะฉันแท้ๆที่ทำให้นายขุนทองหายตัวไปแบบนี้ ถ้านายนั่นเป็นอะไร ฉันจะทำไง”
คำปุย และไส้อั่วหันขวับมองตากันทันที
แล้วเจ้าคุณก็เดินออกมา ลุงกำโป๊ง สมหมาย สมศรีเห็น
“ไอ้ขุนทอง!”
สมใจกับคำปุยหันไปเห็นเจ้าคุณก็ดีใจกันสุดๆ ลุงกำโป๊งกระโดดกอดเจ้าคุณ เจ้าคุณงง
“ลุงเป็นไร”
“ข้าคิดถึงเอ็งน่ะซิ”
กำโป๊งกอดเจ้าคุณแน่น เจ้าคุณอึ้งๆ ที่มีคนเป็นห่วงอย่างจริงใจ เจ้าคุณหันไปเห็นสมใจยืนยิ้ม เจ้าคุณมอง สมใจรีบหุบยิ้ม

กลางดึกคืนนั้นกำโป๊งเดินมาคุยกับเจ้าคุณที่ห้องนอน เจ้าคุณหันมาทางลุงกำโป๊งสีหน้าแปลกใจ
“คิดว่าฉันโดนงูกัดตายเนี่ยนะ!”
“เออซิวะ ทุกคนเขาออกตามหาเอ็งกันให้ควั่ก เป็นห่วงเอ็งแทบตาย”
“จะมาห่วงฉันทำไม โอ๊ย! ลุงตบหัวฉันทำไม”
“หมั่นไส้น่ะซิ แหม พูดออกมาได้ ห่วงฉันทำไม ข้าจะบอกอะไรให้เอ็งฟัง ใครก็ตามที่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านม่วนแต๊ ก็เปรียบเสมือนเป็นลูกเป็นหลาน พวกเรารักกันเหมือนพี่น้อง มีอะไรก็ช่วยกัน ไม่ใช่ตัวใครตัวมันเหมือนคนกรุงเทพอย่างเอ็ง
“พูดดีๆก็ได้ จะตบหัวทำไม”
“ต้องตบ จะได้จำ จำไว้ให้ดีด้วยว่า ใครๆ เค้าก็เป็นห่วงเอ็งกันทั้งนั้น อ้อ! โดยเฉพาะไอ้ใจ๋ หน้ามันงี้ซีดยังกะไก่ต้มเลยตอนที่นึกว่าเอ็งโดนงูกัดตายน่ะ”
เจ้าคุณชะงัก กำโป๊งพูดไปเรื่อยไม่ได้คิดอะไร เจ้าคุณนิ่งคิด โดยไม่รู้ว่าไส้อั่วลอบมองสังเกตอากัปกิริยาตัวเองอยู่

เช้าวันถัดมา เจ้าคุณออกมาจากบ้าน แล้วก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ เจ้าคุณหันไปเห็นสมใจขี่มอเตอร์ไซด์มาจอดตรงหน้าบ้าน สมใจทำฟอร์ม
“พอดีว่าเมื่อเช้าฉันไปตลาด ขากลับผ่านมาทางนี้ ก็เลยแวะมารับนายไปไร่”
“ทำไมต้องแวะ”
“ตกลงเอาไง จะไปมั้ย”
สมใจ ทั้งยัวะทั้งแอบเก้อ เจ้าคุณไม่ตอบ ขึ้นไปนั่งซ้อนท้าย สมใจสตาร์ทแต่ไม่ติด สมใจสตาร์ทอีกสองสามครั้งก็ไม่ติด
“เป็นอะไรอีกล่ะลูกแม่ ขัดใจแม่จริงๆเลย ลงมาก่อน”
เจ้าคุณลงมา สมใจนั่งยองๆดูมอเตอร์ไซด์
“เก่ายังกะเศษเหล็ก”
“มันเป็นของพ่อฉัน พอฉันโต พ่อก็ยกให้ฉัน ถึงมันจะเก่า แต่มันมีคุณค่าทางใจ ไม่เคยได้อะไรจากพ่อเลยซิท่า”
เจ้าคุณอึ้ง สมใจชะงักกึก เอามือปิดปากตัวเอง
“เอ่อ โทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
สมใจหน้าแหย แต่เจ้าคุณหน้าเฉย สมใจรีบเฉไฉไปก้มหน้าก้มตาซ่อมมอเตอร์ไซค์
เจ้าคุณมองสมใจซ่อมมอเตอร์ไซค์
“ทำไมเธอทำอะไรเป็นเยอะแยะ”
“เอ๊า! ทำไม่เป็นแล้วใครจะทำให้ล่ะ เอ้า! ถือไว้หน่อย”
เจ้าคุณรับชิ้นส่วนมอเตอร์ไซค์ไว้ แป๊บนึงสมใจแบมือขอรับกลับ เจ้าคุณยื่นให้แล้วเอามือลูบหน้าเช็ดเหงื่อตัวเองคราบดำจากมือติดหน้า สมใจยิ้ม เจ้าคุณหันไปมอง
“ทำไม”
“หน้านายเปื้อน”
สมใจปาดรอยเปื้อนบนหน้าให้ เจ้าคุณชะงัก มองสมใจ สมใจรู้ตัวรีบเอามือออก ปัดมือ แล้วสตาร์ทเครื่อง เครื่องสตาร์ทติด
“เยส ไง ฉันเก่งมั๊ย”
“ก็ พอได้”
“ขึ้นมาได้แล้ว”

เจ้าคุณซ้อนท้ายรถ สมใจขับรถออกไปแล้วก็แอบอมยิ้ม รถมอเตอร์ไซค์สมใจแล่นไปตามทางผ่านวิวทิวทัศน์สวยของหมู่บ้าน จังหวะนั้นยางรัดผมสมใจหลุด ทำให้ผมปลิวสยายตามแรงลมมาโดนหน้าเจ้าคุณ เจ้าคุณสูดกลิ่นหอมของผมสมใจเผลอเอามือโอบเอว สมใจตกใจ เบรกเอี๊ยด เจ้าคุณตัวเด้งไปตามแรงเบรก สมใจหันหน้ามาพอดี ทำให้จมูกเจ้าคุณแตะแก้มสมใจ สมใจผงะ ตีหัวเจ้าคุณอัตโนมัติ
เจ้าคุณสะดุ้ง “โอ๊ย!”
“เห็นฉันดีด้วยก็เลยฉวยโอกาสงั้นเหรอ”
“ฉันเปล่านะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ เมื่อ..เมื่อ..เมื่อกี๊ฉันจะหล่น ก็..ก็...ก็เลยรีบจับเอวเธอ พอเธอเบรก ฉะ..ฉะ..ฉัน..ก็..ก็..” เจ้าคุณติดอ่างขึ้นมาทันที
“เออๆ พอแล้ว รำคาญ ขี้เกียจฟัง เฮ้ย! ยางรัดผมหายไปไหน
สมใจมองหาแต่ไม่เจอ “มานี่”
สมใจหันไปมอง เจ้าคุณรวบผมให้สมใจ สมใจชะงักไปนิดๆ รู้สึกหัวใจเต้นแรง
“ฉันจับผมให้เธอเอง”
สมใจมองอึ้ง
“ไปซิ เดี๋ยวก็สายหรอก”
สมใจอึ้ง ค่อยๆ ออกรถไป เจ้าคุณอมยิ้ม โดยไม่รู้ตัวสมใจขี่มอเตอร์ไซด์มีเจ้าคุณซ้อนท้าย แล่นไปตามถนนที่สวยงามและน่าประทับใจ

ขับมาได้สักพักสมใจจอดรถมอเตอร์ไซด์ สมใจหันไปทางเจ้าคุณ
“ขอโทษ”
เจ้าคุณชะงัก หันไปมองสมใจอย่างไม่เข้าใจในเรื่องที่อีกฝ่ายขอโทษ
“อะไรนะ”
“ฉันบอกว่าขอโทษ”
“ขอโทษ ขอโทษฉันเรื่องอะไร”
“ที่ฉันพูดถึงพ่อของนาย ทั้งๆที่ เออ พ่อนาย ไม่อยู่แล้ว”
เจ้าคุณผงะ อึ้งช็อกมาก
“ฉันขอให้ลุงกำโป๊งเล่าให้ฉันฟังเองแหละ ตอนนี้ฉันเชื่อแล้วว่านาย เออ ต๊องจริง ไม่ได้โกหก”
เจ้าคุณเงียบ เพราะแปลกใจว่ากำโป๊งไปเล่าอะไรให้สมใจฟัง แต่สมใจเข้าใจว่าเจ้าคุณไม่หายโกรธ
“นี่นายยังไม่หายโกรธฉันเหรอ”
เจ้าคุณยังเงียบอยู่เพราะงง
“ขี้งอนเป็นผู้หญิงไปได้ งั้นเอางี้ นายอยากให้ฉันทำไรให้ บอกมาเลย”
“ทุกอย่าง”
สมใจพยักหน้า เจ้าคุณมองสมใจแล้วก็ยิ้มมุมปาก

ที่บ้านสมใจ คำปุยกับแคบหมูมองสมใจด้วยความตกตะลึง
“จะสอนอ้ายขุนทองขี่มอเตอร์ไซค์”
“เออ ทำไมต้องตกใจกันด้วย”
“พุธโธ ธัมโม สังโฆ ไม่ตกใจไม่ได้หรอก แกญาติดีกับอ้ายขุนทองตั้งแต่เมื่อไหร่”
“นั่นซิ ทำไมแค๊บตกข่าว โอ๊ย อารมณ์เสีย”
“ที่ฉันตกลงจะสอนนายขุนทองขี่มอเตอร์ไซด์ ไม่ใช่ว่าฉันญาติดี ฉันก็แค่ไถ่โทษเรื่องที่พูดถึงพ่อเขา ก็แค่นั้น”
“ขอให้แค่นั้นจริงๆเถอะ
“อะไรของแกห๊ะไอ้ปุ๋ย แค่นั้นอะไร”
“หึ้ย! ไม่ได้ดั่งใจ แคบพูดเอง พี่ปุ๋ยเขาคิดว่าพี่ใจ๋เอาการสอนอ้ายขุนทองขี่มอเตอร์ไซด์มาบังหน้า เพราะที่แท้พี่ใจ๋กับอ้ายขุนทองแอบปิ๊งกันแล้วน่ะซิ”
“แกคิดแบบนั้นเหรอไอ้ปุ๋ย
“ใช่ ว๊าย!”
คำปุยหลุดปาก เลยเจอสมใจเขกหัวแก้เขิน
“นี่แน่ะ”
“โอ๊ย!”
“พวกแกเนี่ยนะ วันๆคิดแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง เพ้อเจ้อที่สุด”
สมใจรีบเดินออกไปเพราะใจเต้นกับคำพูดของแคบหมู คำปุยหันไปเขกหัวแคบหมูเอาคืน

“โอ๊ย! พี่ปุ๋ย เจ็บนะ”
“เพราะแกคนเดียวเลยนังแคบ ไปบอกไอ้ใจ๋ทำไมก็ไม่รู้”
“คนอย่างแคบไม่ชอบทำอะไรหลบๆซ่อนๆ มีอะไรก็เปิดเผยกันไปเลย ชัดเจน เคลียร์ๆ”
“ถ้างั้น เราไปแอบดูกันมะ”
“ชัดเจน เคลียร์ๆ ฮิฮิ”
คำปุยกับแคบหมูรีบออกไปด้วยกัน

ถนนสวยยามเย็น เจ้าคุณยืนอยู่ข้างรถมอเตอร์ไซด์สมใจ สมใจกำลังอธิบาย
“มอเตอร์ไซด์ฉันเป็นเกียร์ธรรมดา สิ่งแรกที่นายต้องทำก็คือ เข้าเกียร์ว่าง สตาร์ทเครื่องให้ติด”
เจ้าคุณตั้งใจดู สมใจอธิบายไปเรื่อยๆ
“ใช้มือซ้ายบีบคลัทช์ค้างไว้ อย่าพึ่งปล่อย เท้าซ้ายเข้าเกียร์ 1 โดยการตบลงไปที่ด้านหน้า 1 สเต็ป ใช้มือขวาค่อยๆเร่งคันเร่ง พร้อมกับค่อยๆปล่อยคลัทช์ที่มือซ้าย รถจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป แต่ถ้าปล่อยคลัทช์เร็วเกินไป รถจะพุ่งตัวออก แบบนี้ อย่าตกใจ บีบคลัทช์กลับเข้ามาอย่างเก่า สมใจดับเครื่อง ลงจากรถ หันไปทางเจ้าคุณ
“ค่อยๆฝึกตอนออกตัวที่เกียร์ 1 ให้ชำนาญก่อน อ่ะ ลองดู”
“เกียร์ว่าง สตาร์ท”
เจ้าคุณทำตามที่สมใจบอก แต่รถกระชากไปอย่างแรงพุ่งหัวทิ่มข้างทางดูตลก
“ ว๊าย! ลูกแม่!”
สมใจตกใจ รีบเข้ามาดูรถก่อนเจ้าคุณเสียอีก
“เฮ้ย! ลูกแม่เป็นไงบ้าง”
“ลูกเธอไม่เป็นไรหรอก ถามฉันดีกว่ามั้ย”
“นายมันถึก ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก ระวังหน่อยซิ รถคันนี้ฉันรักมากนะ”
เจ้าคุณเซ็งส่ายหน้า สมใจมองสภาพเจ้าคุณแล้วขำ เจ้าคุณพยายามประคองรถมอเตอร์ไซด์ สมใจลุ้น สุดๆ เห็นเจ้าคุณขับเข้าข้างทาง สมใจตกใจรีบเข้าไปดู เจ้าคุณขับมอเตอร์ไซด์อีก ครั้งนี้ทรงตัวดีขึ้น สมใจลุ้น เจ้าคุณค่อยๆประคองจนทำได้ เจ้าคุณดีใจสุดๆ หันมาทางสมใจด้วยความดีใจ เผลอปล่อยมือจากแฮนด์ แล้วก็นึกได้ รีบจับแฮนด์ สมใจโล่งอก แต่ก็ยิ้มที่เจ้าคุณทำสำเร็จ เจ้าคุณเลี้ยวรถกลับมาจอดตรงหน้าสมใจ แล้วก็ลงจากรถ เข้ามาจับมือสมใจ
“ฉันขี่มอเตอร์ไซด์เป็นแล้ว”
สมใจยิ้มตอบ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเจ้าคุณจับมือ เจ้าคุณก็นึกขึ้นได้เช่นกัน ก้มมองมือตัวเองที่จับมือกัน ก่อนจะรีบปล่อย สมใจกับเจ้าคุณหันหน้ากันไปคนล่ะทาง ทำหน้าไม่ถูก ดูเก้อๆเขินๆกันไป คำปุยกับแคบหมูเห็นทุกอย่าง หันมามองหน้ากัน
“ชัดมั้ยเนี่ย”
คำปุยถามแคบหมู
“เคลียร์มั้ยอ่ะ”

แคบหมูถามกลับอย่างมั่นใจ สองคนก็หันมาจ้องสมใจกับเจ้าคุณตาเขม็ง ในขณะที่สัมพันธภาพของสมใจและเจ้าคุณดีขึ้นมากในเวลานี้

สมใจสอนเจ้าคุณจนขับมอเตอร์ไซค์ได้ เจ้าคุณก้มมองมือตัวเองที่จับมือสมใจ ทั้งคู่ชะงัก ก่อนจะรีบปล่อย สมใจกับเจ้าคุณหันหน้ากันไปคนละทาง ต่างทำหน้าไม่ถูก ดูเก้อๆเขินๆ

จังหวะหนึ่งสมใจหันไปเห็นคำปุยหน้าแจ๋นแหล๋นออกมาตรงที่ซ่อน คำปุยตกใจรีบหดหัวหลบ สมใจหรี่ตามอง เจ้าคุณมองสมใจเป็นเชิงถามว่ามีอะไร สมใจยิ้มเจ้าเล่ห์ พูดกับเจ้าคุณแบบไม่ออกเสียง คำปุยกับแคบหมูหน้าตาตื่นเต้น ก้มหัวงุดกันอยู่ทั้งคู่เพื่อสมใจจะได้ไม่เห็น
“ไอ้ใจ๋มันต้องเห็นฉันแล้วแน่ๆ”
“ไม่นะ! ถ้าเห็น เจ๊ใจ๋ไม่เงียบกริบอย่างนี้หรอก ป่านนี้เจ๊แกด่าป่าแตกไปแล้ว”
สมใจแอบฟังทำหน้าเคืองสุดขีดที่โดนเม้าท์ แล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มโหด
“เอ ป่านนี้ยังเงียบอยู่แฮะ รึว่าโดนอ้ายขุนทองจับจูบปากเลยไม่มีปากจะด่าพวกเรา ฮ่าๆ”
ว่าแล้วคำปุย กับแคบหมูขำกลิ้งแบบไม่ออกเสียง สมใจตาโตทำหน้าเหี้ยม แล้วหย่อนรังมดแดงใส่คำปุย กับแคบหมู สองคนคันยิบไปทั้งตัวจนต้องกระโดดเหยง
“อ๊าย! พุธโธ ธัมโม สังโฆ”
“แกกับนังแค๊บมาแอบดูฉันทำไม” สมใจถามน้ำเสียงฉุน
“แอบดูอาไร้ พวกเราแค่บังเอิญเดินผ่านมาตะกี้นี้เอง ชิมินังแค๊บ” คำปุยปฏิเสธลั่น
“ชิมิ ชิมิเจ้า” แคบหมู หันไปทำหน้าซื่อตาใสกับสมใจ
“หน็อย บังเอิญผ่านมา แล้วหมาที่ไหนมันเม้าท์ว่าฉันโดนอ้ายขุนทองจับจูบปาก”
พูดจบก็สะดุ้งโหยงซะเอง
“อะไรวะ” เจ้าคุณเองก็สะดุ้ง
คำปุยรีบเปลี่ยนเรื่องทันที ทำทีเป็นเพิ่งเห็นเจ้าคุณ รีบจับแขนแคบหมูเดินออกไป
“อ้าวอ้ายขุนทอง มายืนทำหล่ออะไรตรงนี้”
“ฉันมาเรียนขี่มอเตอร์ไซค์กับสมใจ” เจ้าคุณตอบ
“แล้วอยากได้คนนั่งซ้อนท้ายเป็นเพื่อนอ๊ะป่าว” คำปุยแซวอีกดอก
“นังปุ๋ย!” สมใจฮึดฮัด
“ยังงี้ซ้อน 4 เลยดีมั้ยอ้าย” แคบหมูเสนอ
สมใจหันไปมองเจ้าคุณ “นี่ เพิ่งจะมือใหม่หัดขี่อย่าซ่าส์”
“จะไปยากอะไร อาจารย์ใจ๋ก็โชว์ฟอร์มซิเจ้า”
แคบหมูท้าสมใจให้ขับแทนเจ้าคุณเสียเอง

ไม่นานหลังจากนั้น สมใจขี่มอเตอร์ไซค์นั่งซ้อน 3 เริ่มด้วยแคบหมู คำปุย และเจ้าคุณอยู่ท้ายสุด คำปุยดูแฮปปี้ลั้นลามากๆ ที่เจ้าคุณนั่งเอาหลังแนบชิดตัวเอง รีบร้องบอกเพื่อนสาว
“ไปเลยนังใจ๋!”
สมใจสตาร์ท ขับออกไป คำปุยดี๊ด๊าทำท่าขยับไปมาตลอด เจ้าคุณรู้สึกไม่ไหวแล้ว
“หยุด! หยุดก่อน”
สมใจเบรกเอี๊ยด เจ้าคุณกระแทกคำปุยอย่างแรง
“อร้าย! มาเสยท้ายกันอย่างนี้ ก้นชนฉันบุบกันพอดีอ้ายขุนทอง”
เจ้าคุณรีบลงจากรถ เดินมาหาสมใจ
“ฉันว่าฉันขับมั่งดีกว่า”
เจ้าคุณเบียดขึ้นไปนั่ง สมใจจำต้องถอย ทำให้แคบหมูกับคำปุยต้องถอยไปด้วย
“อะไรของนายเนี่ย”
เจ้าคุณรีบสตาร์ทแล้วบิดอย่างแรง รถกระชากตัว ทำให้คำปุยหล่นตุ่บ
“อ๊าย!”
เจ้าคุณเบรกเอี๊ยด เจ้าคุณ สมใจ แคบหมูหันไปมองคำปุยที่นั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่บนพื้นหน้าตาเหยเกด้วยความเจ็บ
“อูย คราวนี้ห้องเครื่องพังหมดเลยอ่า ฮือๆ”
ทั้งสมใจ เจ้าคุณ และแคบหมูต่างพากันขำคำปุยที่ตกมอเตอร์ไซค์ก้นจ้ำเบ้า

พอมาถึงบ้านสมใจ เจ้าคุณ กับสมใจประคองคำปุยที่เจ็บก้นกบเข้ามาในบ้าน โดนมีแคบหมูตามาติดๆ สมหมายกับสมศรีเห็นก็รีบเดินออกมา
“โดนใครถีบมา ห๊ะ!” สมหมายถามคำปุย
คำปุยอ้าปากจะพูดแต่แคบหมูสาระแนตอบแทนเสียก่อน
“ไม่ได้โดนใครถีบมาหรอกจ้ะ พี่ปุ๋ยตกมอ’ไซค์”
“เอ้า แล้วไปขี่อีท่าไหน ถึงตกมอเตอร์ไซค์”
คำปุยอ้าปาก แคบหมูตอบแทนให้อีกรอบ
“เจ๊ปุ๋ยไม่ได้ขี่ แต่คนขี่คืออ้ายขุนทองเจ้า”
สมหมายหันขวับมองเจ้าคุณ
“นี่! นังแค๊บ ตกลงแกรึฉันที่เจ็บกันแน่” คำปุยหันมาบ่นแคบหมูที่ตอบแทนไปเสียทุกสิ่งอย่าง
“แหม ก็ห่วงว่าเจ๊จะเจ็บตูดจนพูดไม่ออก ก็เลยพูดแทนให้”
“เฮ๊อะ! ขี่มอเตอร์ไซค์ยังทำไอ้ปุ๋ยหล่น แล้วจะไปทำอะไรกิ๊น” สมหมายแดกดันเจ้าคุณ
“เอ๊ะตาหมาย ตั้งแต่เข้าวัยทองนี่เป็นยังไง ปากจัด กัดเก่งขึ้นเยอะเลยนะ”
สมศรีหันไปหยิกปากสมหมาย จนสมหมายต้องรับปัดออก
“โอ๊ย! คนนะ..ไม่ใช่หมา”
“ฉันกลับก่อนล่ะจ้ะ”
“เดี๋ยว! อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนซิ น้าเพิ่งทำเสร็จเลย” สมศรีชวน
“จะไปชวนมันกินทำไม บ้านอ้ายกำโป๊งก็มีข้าวกิน ให้มันกลับไปกินที่บ้านซิ”
“แหม พอดีเลยจ้ะน้าศรี ลุงกำโป๊งบอกว่าเย็นนี้ที่บ้านไม่มีอะไรกินเลยน่ะจ้ะ” เจ้าคุณผุดยิ้มมุมปากอยากแกล้งสมหมาย
“ว่าไงนะ”
สมหมายไม่พอใจ ไม่อยากให้เจ้าคุณอยู่ใกล้สมใจ เพราะหวงลูกสาว แต่ไม่อาจฝืนคำสั่งสมศรีผู้เป็นภรรยาที่รักได้

เจ้าคุณ สมใจ คำปุย แคบหมู สมหมาย และสมศรีนั่งกินข้าวด้วยกัน สมหมายมองเจ้าคุณที่นั่งติดกับสมใจก็ไม่พอใจ รีบลุกขึ้นมานั่งแทรกกลางระหว่างเจ้าคุณกับสมใจ
“ตาหมาย วันนี้แกเป็นอะไรของแก ยุกยิกๆ พิกล”
“วันนี้อยากนั่งข้างลูกสาวสุดที่รัก ไม่ได้เหรอไง”
“เดี๋ยวนี้ชักเยอะนะ”
สมหมายเหล่เจ้าคุณไม่ชอบขี้หน้าอย่างแรง เจ้าคุณไม่สนใจ เอื้อมมือไปตักอาหาร สมหมายรีบยื่นช้อนไปตักชิ้นเดียวกับเจ้าคุณ ทุกคนมอง ลุ้นว่าจะเกิดเรื่องอะไรรึเปล่า
เจ้าคุณเปลี่ยนไปตักอีกจาน สมหมายก็ตักบ้าง เจ้าคุณเริ่มไม่พอใจ แกล้งจะไปตักอีกจาน สมหมายรีบเอาช้อนตักดัก แต่เจ้าคุณเปลี่ยนใจกลับไปตักอาหารจานแรกใส่ปากหมับ เคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย ทำให้สมหมายหัวเสีย สมใจ กับแคบหมู เหล่มอง
“ฉันว่าพ่อหมายกับอ้ายขุนทองดูแปลกๆ นะไอ้ใจ๋” คำปุยเอ่ยขึ้น
“นั่นซิ”
“สงครามเย็นชัดๆ”
สมหมายหัวเสีย แล้วก็นึกอะไรออก หันไปทางเจ้าคุณ
“ขุนทอง แกงส้มดอกแคสูตรเด็ดของแม่ศรีเขา ลองซักนิดนะ กำลังร้อนๆ เลย
สมหมายมองตาเจ้าเล่ห์ ยกชามแกงร้อนๆมาให้เจ้าคุณ แล้วก็แกล้งทำหกใส่เสื้อเจ้าคุณ ทุกคนตกใจ เจ้าคุณสะดุ้งโหยง
“โอ๊ย!”
“ต๊ายตาย สุมาเต๊อะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
เจ้าคุณหันไปมองสมหมาย รู้ว่าสมหมายจงใจแกล้ง
“ขุนทองรีบถอดเสื้อออกมาก่อน เดี๋ยวเนื้อจะพอง” สมศรีร้องบอกเจ้าคุณทันที
“อุแม่เจ้า!” แคบหมูอุทาน
“ข้าบอกแล้ว นังแค๊บ! มันปะล้ำปะเหลือแต๊ๆ” คำปุยน้ำลายหก

เจ้าคุณถอดเสื้อ สมศรี สมใจ คำปุย และแคบหมูผงะ อ้าปากค้างกับหุ่นซิกแพค สมศรีปรี่เข้าเช็ดให้ คำปุย แคบหมูรุมเข้าช่วยเช็ดกันใหญ่ สมหมายยิ่งยัวะที่ผิดแผน กระชากมือสมศรีไม่ให้เช็ดเพราะหึง
“มันโตเป็นควายแล้ว แค่นี้มันเช็ดเองได้”
ไม่มีใครฟัง สมหมายเลยยกขันน้ำดื่มสาดตัวเองโครม แล้วแกล้งร้องโวยวาย
“โอ๊ย! น้ำหก! น้ำหก!”
ทุกคนหันขวับไปมอง สมหมายรีบถอดเสื้อ แต่พุงพลุ้ยมาก ทุกคนถึงกับเซ็ง ก้มหน้ากินข้าวกันต่อ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สมหมายเสียเซลฟ์
“เฮ้ย! ข้าเปียกซ่กเลย หนาวนะเว๊ย”
สมศรีส่ายหน้าอย่างอนาถ โยนผ้าขี้ริ้วเต็มหน้าสมหมาย
“รีบๆ เช็ดซะเร็ว ทุเรศลูกกะตา”
ทุกคนหันไปดูซิกแพ็คเจ้าคุณกันต่อ ยกเว้นสมใจสมหมายเซ็งสุดๆ เจ้าคุณอมยิ้ม สมหมายแค้นใจ

เมื่อเจ้าคุณกลับบ้าน รีบไปซักเสื้อที่เปื้อนน้ำแกงทันที ไปถึงโยนเสื้อที่เปื้อนแกงใส่ลงในกะละมัง หันไปคุยกับไส้อั่ว
“ลุงกำโป๊งไปตั้งกังหันลมที่หมู่บ้านข้างๆ กลับพรุ่งนี้”
“จ้า ฉันไปนอนก่อนนะจ๊ะ”
ไส้อั่วหาวแล้วก็เดินออกไป เจ้าคุณกำลังจะนั่งซักผ้า แล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เจ้าคุณหน้าเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันที

ไม่นานเจ้าคุณยืนอยู่หน้าห้องลับ และจำได้ว่าครั้งหนึ่งกำโป๊งเคยออกมาจากห้องนี้ เจ้าคุณดูสายยูที่ล็อกหน้าห้อง ก็ยิ้มมุมปาก เอาคีมตัดเหล็กที่ถือไว้ขึ้นมา เตรียมจะตัด ก้องเกียรติและกิ่งแก้วที่อยู่หน้าจอมอนิเตอร์เริ่มเครียด
“เฮ้ย!”
“แย่แล้วอ่ะก้อง ถ้าเจ้าคุณเข้าไปในห้องนี้มีหวังรายการไฮโซบ้านเฮาของเราพังหมดแน่ ทำไงดีล่ะ”
ก้องนิ่ง เงียบ จนกิ๋งแปลกใจ
“ก้อง! เคขาถามว่าทำไงดี ทำไมนั่งเงียบอยู่ได้”
“เงียบก็เพราะไม่รู้ไง ว่าจะทำไงดี”
“เอ้า!”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วหน้าเสียมองไปที่หน้าจอ กิ๋งไม่รู้จะทำไง รีบยกมือพนม หลับตา ปากก็พูดอะไรไม่รู้มุบมิบๆ ก้องเกียรติถอนใจเฮือก เจ้าคุณพยายามตัดเหล็ก แต่ตัดไม่ออก
“ทำไมมันแข็งอย่างนี้ อ๊าก!”

ที่บ้านสมใจ สมใจใส่ชุดนอนกำลังจะนอน แล้วก็ชะงักนึกขึ้นมาได้
“กุญแจมอไซค์! อยู่ไหนเนี่ย อยู่ที่ไอ้นายขุนทอง โธ่เอ๊ย!”
ปลัดจืดขี่มอเตอร์ไซด์มาตามทาง แล้วก็ชะงักที่เห็นสมใจขี่จักรยานมาจอดที่หน้าบ้านกำโป๊ง ปลัดจืดชะงัก รีบหยุดรถ แล้วเพ่งมอง ปลัดจืดสงสัย ส่วนสมใจเดินเข้าไปในบ้านกำโป๊งใกล้กับห้องลับ

หน้าห้องลับ เจ้าคุณพยายามตัดสายยูจนหมดแรง ถึงกับทรุดลงนั่งกับพื้น มองมือตัวเองด้วยความเจ็บ แต่แววตายังมุ่งมั่น เจ้าคุณเอาผ้าขาวม้าที่คาดเอวขึ้นมาคาดหัว หยิบที่ตัดเหล็กขึ้นมา หน้าตามุ่งมั่นพยายามตัดสายยู ด้านหลังเห็นสมใจเข้ามา ก็ชะงักเห็นเจ้าคุณที่มีผ้าขาวม้าโพกหัว สมใจตกใจ รีบหลบ
“ขโมย! แย่แล้ว หมู่บ้านเราไม่เคยมีขโมย ฮึ่ม แกตายแน่”
สมใจค่อยๆโผล่หน้าออกไปมองอีกครั้ง แล้วก็เหลือบไปเห็นท่อนไม้หรือท่อนเหล็กแถวนั้น สมใจคว้าขึ้นมากระชับในมือแน่นแล้วย่องเข้าไปหาเจ้าคุณ ปลัดจืดยืนอยู่นอกตัวบ้าน มองเข้าไปในบ้าน สีหน้ากังวลใจ
สมใจเข้าใกล้เจ้าคุณมากขึ้น แล้วก็เงื้อไม้ฟาดอย่างแรง เจ้าคุณสะดุ้งโหยง ทำคีมตัดเหล็กหล่นทับเท้าตัวเอง
“โอ๊ย!”
สมใจฟาดไม่หยุด เจ้าคุณต้องก้มหน้าและยกมือป้องกันตัวเองเอาไว้
“เฮ้ย! หยุด หยุด!”
“ไอ้หัวขโมย!”
เจ้าคุณเงยหน้าขึ้นมา จับมือสมใจหมับ
“จะบ้าเหรอ!”
“นายขุนทอง!”
สมใจตกใจที่รู้ว่าเป็นขุนทอง ทันใดนั้นมีมือปลัดจืดมากระชากไหล่เจ้าคุณให้หันไปแล้วต่อยเปรี้ยง เจ้าคุณเซถลาไปบนพื้น สมใจแทบช็อก สมใจรีบเข้าขวาง หันไปมองเจ้าคุณด้วยความเป็นห่วง เห็นเจ้าคุณปากแตก แล้วทันใดนั้นไฟในบ้านก็ถูกเปิดให้สว่าง ทุกคนหันไปเห็นกำโป๊งยืนหน้าเหวี่ยงอยู่ เจ้าคุณตกใจสุดขีด
“ทำอะไรกัน!”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว ที่นั่งมองในห้องคอนโทรล ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หันมาตีมือกัน ด้วยความสบายใจ
“ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พรุ่งนี้เช้าลูกจะจัดนางรำชุดใหญ่ไปถวายนะเจ้าคะ”
“นางรำ นางรำที่ไหน
“ก็เขากับตัวเองไง”
“ห๊ะ!”
กิ่งแก้วยิ้มแหย ก้องเกียรติมีสีหน้ากลุ้มใจ

เจ้าคุณส่งกุญแจมอเตอร์ไซค์คืนสมใจ ปลัดจืดหันไปขอโทษเจ้าคุณที่เข้าใจผิดคิดว่าลวนลามสมใจเหมือนทุกครั้งที่เคยเข้าใจผิด
“ขอโทษ ฉันนึกว่านายจะทำร้ายใจ๋”
เจ้าคุณเหล่ปลัดจืด ขณะที่เอามือกุมปาก เจ็บปาก กำโป๊งยังจ้องเจ้าคุณตาเขม็ง เจ้าคุณทำหน้าไม่ถูก
“ฉันก็ต้องขอโทษนายเหมือนกันที่คิดว่านายเป็นขโมย แต่ท่าทางนายมันใช่อ่ะ”
ลุงกำโป๊งยังจ้องเจ้าคุณจับผิด เจ้าคุณหลบตาพยายามแก้ตัว
“เออ ฉันได้ยินเสียงดังมากจากในห้อง ก็..ก็.. สงสัยว่าเสียงอะ..อะไร ก็..ก็...เลยจะเข้าไปดู”
เจ้าคุณติดอ่าง กำโป๊งที่หรี่ตามองเจ้าคุณไม่เชื่อ ก่อนจะพูดกับสมใจ ปลัดจืด
“ดึกแล้ว กลับบ้านกันได้แล้ว”
สมใจกับปลัดจืดไหว้ลากำโป๊ง แล้วก็เดินออกไป เหลือเจ้าคุณกับลุงกำโป๊งสองคน เจ้าคุณรีบลุกขึ้นยืน
“จะไปไหน”
“ปะ..ปะ..ไปนอนไงลุง ง๊วงง่วง”
กำโป๊งตบโต๊ะดังปัง แล้วก็เจ็บมือเอง เจ้าคุณสะดุ้ง
“เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าห้องนี้ห้ามเข้า จะตบโต๊ะอีก แต่ชะงักกลัวเจ็บ เปลี่ยนใจไปหยิบคีมตัดเหล็กขึ้นมา หนอย คิดจะตัดสายยู ฝันไปเถอะ สายยูอันนี้ข้าทำขึ้นมาจากเหล็กกล้าคัดพิเศษ ไม่มีอะไรในโลกนี้ตัดมันได้หรอกเว๊ย ไอ้โง่ ฮ่าๆ”
กำโป๊งพูดจบก็เดินออกไป
“ห้ามดีนัก ซักวันจะเข้าไปให้ดู!”
เจ้าคุณพูดด้วยสีหน้าเอาเรื่อง และหมายมั่น ว่าจะต้องรู้ความจริงได้ว่าห้องลับนั้นมีอะไรกันแน่

คืนนั้นที่บ้านกำโป๊ง สมใจกับปลัดจืดเดินออกมาด้วยกัน ปลัดจืดยังข้องใจที่สมใจมาบ้านนี้ดึกๆ ดื่นๆ
“เดี๋ยวนี้ปี๊ดง่ายนะปลัด เดี๋ยวต่อยเลย เลิกเป็นปลัดไปเป็นนักมวยตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“ใจ๋ยังไม่บอกผมเลยว่ามาบ้านลุงกำโป๊งทำไมดึกๆ ดื่นๆ”
“แหม ไม่ใช่นักมวยอย่างเดียว แต่ยังจะเป็นพ่อฉันด้วยนะเนี่ย”
“ใจ๋ ใจ๋ไม่ได้ปิ๊งนายขุนทองใช่มั้ย”
สมใจแถไปมา จนปลัดจืดทนไม่ไหวหันมามองหน้าสมใจจริงจัง
“เฮ้ย! อะไร๊ ปิ๊งนายขุนทอง จะบ้าเหรอะ ปลัดเอาอะไรมาพูดก็ไม่รู้ หึ้ย!”
สมใจตัดบทไปทันทีแล้วรีบเดินออกไป ปล่อยให้ปลัดจืดหันไปมองด้วยสีหน้าหนักใจ

เช้าวันถัดมากำโป๊งกำลังกินข้าวเช้า เจ้าคุณเดินมานั่ง ทั้งที่มุมปากยังมีรอยช้ำที่โดนปลัดจืดต่อยมาเมื่อคืน ส่วนกำโป๊งเมินหน้าหนีไปทางอื่น เจ้าคุณผงะ
“ยังโกรธฉันอยู่อีกเหรอลุง ขี้งอนอย่างงี้ ตุ๊ดป่ะเนี่ย”
“เอ็งซิตุ๊ด! แล้วข้าก็ไม่ได้งอน แต่ข้าไม่ชอบคนที่ทำตัวเป็นหัวขโมย”
พูดไปทั้งที่ข้าวเต็มปาก หลุดกระเด็นมาที่เจ้าคุณ...เต็มๆ
“โธ่ ลุง”
“อยากได้อะไรก็ขอกันดีๆ”
“ถ้าฉันขอดีๆ ลุงจะให้ฉันเข้าห้องนี้ป่ะล่ะ เห็นมะ ลุงก็ไม่ให้ฉันเข้า ฉันคิดถึงแม่ อยากโทร.หาแม่”
เจ้าคุณเสียงอ่อนลงแต่จริงใจ จนกำโป๊งแอบสงสารแต่ก็ไม่ให้
“ไม่ได้เว๊ย! ไอ้ก้องมันสั่งไว้!” กำโป๊งหลุดปาก พอรู้ตัวก็รีบเอามือปิดปาก
“ไอ้ก้อง ไอ้ก้องมันสั่งอะไรลุง”
“สั่งอะไร ใครหน้าไหนจะกล้ามาสั่งคนอย่างข้า มัน เออ มันก็รู้สันดานเอ็งไงล่ะ เอ็งเป็นพวกหยิบโหย่ง ไม่เอาไหน ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ความ เอะอะก็จะฟ้องแม่ เอ็งมันเป็นไอ้ลูกแหง่”
“ไอ้ก้องมันพูดอย่างนั้นเหรอลุง
“เออ ไม่แค่ไอ้ก้องนะเว๊ย มีแฟนมัน แล้วก็เพื่อนๆ ของเอ็งรุมด่าเอ็งให้ข้าฟังกันเกรียวเลย”
“ฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้น!”
เห็นเจ้าคุณเถียงโวยวายเสียงดังลั่น กำโป๊งเลยได้ที
“ถ้างั้นเอ็งก็ต้องพิสูจน์ เอ็งก็ต้องอยู่ที่นี่ให้ได้ โดยไม่ต้องโทรศัพท์กลับไปฟ้องแม่”
พูดจบกำโป๊งเดินกวนๆ ทำท่าโทรศัพท์ล้อเจ้าคุณอย่างอารมณ์ดี “ฮาโหลๆ แม่จ๋าๆ” และเดินออกไป ในขณะที่เจ้าคุณเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้อย่างมาก

กำโป๊งโทรศัพท์หาก้องเกียรติในห้องคอนโทรล เล่าเรื่องเจ้าคุณให้ฟัง
“เจริญล่ะลุง บอกมันไปแบบนั้น มีหวังมันกลับมาแหกอกผมกับกิ๋งแน่ๆ”
“ก็ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกนี่หว่า อะไรแถได้ก็ต้องแถไปก่อน ว่าแต่ไอ้รายการโคโยตี้”
“เรียลลิตี”
“เออ วุ้ย เรียกยาก ไอ้ตี้ๆ อะไรของเอ็งเนี่ย มันจะจบเมื่อไหร่ ขืนนานไปเดี๋ยวชาวม่วนแต๊จับได้ขึ้นมา ข้ามีหวังตายหยังเขียดเลยนะเว้ย”
“อีกไม่นานหรอกลุง ทนหน่อยนะครับ แค่นี้ก่อนนะลุง แล้วคุยกันใหม่ สวัสดีครับ ว่าไงกิ๋ง อ่ะพร้อมก็พร้อม”
ก้องเกียรติรับสายกิ่งแก้ว แล้วทำหน้าจ๋อย

เช้าวันรุ่งขึ้นที่บริเวณหน้าออฟฟิศของก้องเกียรติ และกิ่งแก้ว มีเสียงดนตรีไทยเดิมดังขึ้น ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วใส่ชุดรำไทยเต็มยศซอยเท้ายิกๆ ออกมารำ ท่าทางเก้ๆกังๆ ต่างจังหวะดนตรี พนักงานยืนดูยิ้มขำกันใหญ่

เวลาเดียวกัน ปลัดจืดนั่งลงที่ร้านหวานเจี๊ยบในตลาด มองมือตัวเองที่ต่อยเจ้าคุณด้วยความเจ็บ หันไปทางหวานเจี๊ยบ
“น้ำแดงแก้วหนึ่ง”
หวานเจี๊ยบเดินออกมากำลังจะอ้าปากด่า ปลัดจืดหันมาชี้หน้า
“อย่า!อย่าชวนทะเลาะ วันนี้อารมณ์ไม่ดี เอาน้ำแดงมาเร็วๆเข้า”
ปลัดจืดมามาดเหี้ยม หวานเจี๊ยบผงะ เดินไปชงน้ำแดง แล้วก็มองปลัดจืดไปด้วย
“ดุยังกะหมาบ้า ตาก็ขวาง บรื๋อ”
หวานเจี๊ยบเอาน้ำแดงมาให้ปลัดจืด เห็นมือปลัดจืดแดงเป็นจ้ำ
“มือไปโดนไรมา” หวานเจี๊ยบถาม
“ชกหน้าไอ้ขุนทองมาน่ะซิ” ปลัดจืดบอก
หวานเจี๊ยบตกใจ ปลัดจืดกำลังจะคว้าน้ำแดงดื่ม แต่หวานเจี๊ยบคว้าเร็วกว่าแล้วสาดใส่หน้าปลัดจืด ปลัดจืดตกใจ
“สาดน้ำใส่ฉันทำไม”
“แก้แค้นให้อ้ายขุนทองของฉันยังไงล่ะ”
ปลัดจืดผงะ ยกแขนเสื้อเช็ดหน้า แค่นั้นยังไม่พอ หวานเจี๊ยบผลักปลัดจืดอย่างแรงจนล้มก้นจ้ำเบ้า
“โอ๊ย! อะไรเนี่ยยัยบ้า”
หวานเจี๊ยบเอาป้าย “ปิดร้าน” มาแขวน
“ปิดร้าน! วันนี้ไม่ขายแล้ว อารมณ์เสีย”
หวานเจี๊ยบก็รีบขี่จักรยานออกไป ลำใยที่แอบอยู่ได้ยินทุกอย่าง มีสีหน้าครุ่นคิด

เช้าวันนั้น ที่มุมทำใบชาที่ไร่ม่วนใจ๋ เจ้าคุณกับคนงานกำลังช่วยกันเอาใบชาใส่กระจาดเพื่อเอาไปตาก พลันก็มีมือยื่นยาหม่องมาตรงหน้าเจ้าคุณ เจ้าคุณหันไปมอง
“ยาหม่อง ทาซะ จะได้หายช้ำ”
“ยาหม่องอีกแล้วเหรอ”
“นี่เป็นยาวิเศษ ทาแผลฟกช้ำ แผลสด กลาก เกลื้อน ผื่นคัน วันเดียวหายสนิท เอาไปเลยฉันให้”
เจ้าคุณรู้สึกดี รับยาหม่องมา แล้วก็เปิดทาแผลที่มุมปาก สมใจหันมาเจอสายตาคำปุยกับแคบหมูที่กำลังจ้องจับผิดก็ทำไม่เป็นไม่สนใจ เดินไปเอากระจาดใส่ใบชาไปตาก คำปุยกับแคบหมูรีบตามไป
“เป็นห่วงเป็นใยกันเหลือเกิ๊น”
คำปุยแซวสมใจ โดยมีแคบหมูคอยเสริม
“นั่นน่ะเซ่” แคบหมูว่า
“ดูเผินๆ นึกว่าเป็นแฟนกัน”
“นั่นน่ะเซ่”
“อยากปากแตกมั๊ยไอ้ปุ๋ย”
“นั่นน่ะเซ่”
“แกก็อีกคนนังแค๊บ!”
“นั่นน่ะเซ่ อ่ะจึ๋ย แฮ่ๆ”
“ฉันเป็นต้นเหตุทำให้นายขุนทองเจ็บตัว มันก็ไม่แปลก ถ้าฉันจะแสดงน้ำใจ”
“อ่ะจ๊ะอ่ะจ๊ะ เชื่อก็ได้ มุสาวาทาเวระมณีสิขา....”
คำปุย หลับตาพนมมือ จนโดนสมใจผลักหัวอย่างแรงพร้อมกับด่า
“นังปุ๋ยบ้า!”
“นั่นน่ะเซ่ อิอิ” แคบหมูว่า
กลายเป็นแคบหมูที่โดนคำปุยเขกหัวต่อ

ส่วนทางด้านหวานเจี๊ยบรีบปั่นจักรยานมาตามทาง ทันใดนั้นลำใยก็ปั่นจักรยานมาประกบข้างๆ
หวานเจี๊ยบหันไปมองก็ชะงัก “นังลำใย! แกจะไปไหน”
“จะรีบไปดูอ้ายขุนทอง” ลำใยลอยหน้าบอก
“นี่แกแอบฟังฉันกับไอ้ปลัดจืดคุยกันเหรอ”
“ไม่ได้แอบฟัง แต่เสียงแกมันแหลมลอยมาเข้าหูฉันเองย่ะ ไปก่อนล่ะนะ ไม่อยากเสวนากับผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ”
พูดจบลำใยก็แซงหน้าหวานเจี๊ยบขึ้นไป
หวานเจี๊ยบหัวเสีย “ฮึ้ย อีหน้าหนอน!”
หวานเจี๊ยบรีบปั่นตามไปข้างๆ สองคนแข่งกันปั่นจักรยาน ผลัดกันแซงไม่หยุดไปตลอดทาง แถมมีการเอาขาเตะกันด้วย

หน้าไร่ชา เจ้าคุณกับสมใจช่วยกันยกกระจาดใส่ใบชา สมใจยกมือเช็ดเหงื่อที่หน้า ทำให้ใบชาติดที่เหนือปาก เจ้าคุณหันมาเห็นหน้าสมใจเหมือนมีหนวดก็ขำ
“ขำอะไร”
“เธอมีหนวด”
“ห๊ะ!”
สมใจจับไปที่เหนือปากแต่หยิบไม่โดนใบชา เจ้าคุณเลยเอื้อมมือไปหยิบใบชาออกไป ด้านหลังเห็นคำปุยกับแคบหมูสะกิดกันดู ยิกๆ ทั้งคู่ตาลุกวาว สมใจชะงักเล็กน้อย เจ้าคุณยื่นใบชาให้ สมใจทำหน้าไม่ถูก
ทันใดนั้นเสียงประสานของหวานเจี๊ยบกับลำใยก็ดังขึ้น
“อ้ายขุนทอง!”
ทั้งหมดหันไปเห็นหวานเจี๊ยบกับลำใยจอดจักรยานแล้วรีบเดินพุ่งมาหาเจ้าคุณ จนกระแทกจนสมใจกระเด็นออกไป
“เจ็บตรงไหน เป็นไงบ้าง ไปหาหมอมั้ย ไหนดูแผลหน่อยซิ” หวานเจี๊ยบกับลำใยแย่งกันพูด
เจ้าคุณสุดทนเพราะเสียงแผดเข้าหู ตวาดออกมา “หยุด!”
หวานเจี๊ยบกับลำใยชะงัก
“นี่มันอะไรกันเนี่ย”
“เอ่อ คือ พี่ใจ๋อย่าหึงนะ คือหวานเจี๊ยบก็ยังรักพี่ใจ๋ แต่หวานเจี๊ยบได้ข่าวว่าอ้ายขุนทองถูกปลัดจ๋อยชกหน้า หวานเจี๊ยบเป็นห่วงก็เลยมาดู”
“ต๊าย! นังวันทองสองใจ แต่แทใยเป็นห่วงมากกว่านังลิงเจี๊ยกเป็นร้อยเท่าพันทวีนะจ้ะ” ไหนดูซิ โถๆ ปากช้ำหมดเลย อย่างเงี้ยต้องจูบจะได้หายช้ำ”
ลำไยจะทำจริงตามพูด เจ้าคุณตกใจ หวานเจี๊ยบผลักลำใยอย่างแรง ลำใยหงายหลังทับกระจาดใบชา เจ้าคุณ สมใจ แคบหมู และคำปุยตกใจ
“เฮ้ย! หยุด!” สมใจตะโกนสั่ง
ลำใยโมโห ลุกขึ้นมาผลักหวานเจี๊ยบ หวานเจี๊ยบหงายหลังทับกระจาดใบชาอีก
“เฮ้ย! บอกให้หยุด!” สมใจตะโกนสั่งอีกแต่ไม่ได้ผล
หวานเจี๊ยบกรี๊ดดังลั่น ลำใยกรี๊ดดังกว่า จังหวะหนึ่งหวานเจี๊ยบกับลำใยคว้ากระจาดตากใบชาขึ้นมาตีกัน แล้วก็ปาใส่กัน ใบชาหล่นเต็มพื้น เห็นหวานเจี๊ยบกับลำใยเหยียบย่ำใบชา สมใจใจแทบขาด
“หยุดนะ หยุด ใบชาของฉัน หมดกัน! หมดแล้ว”
คำปุยกับแคบหมูรีบเข้าไปห้ามสองสาว
“สุมาเตอะเจ้า ขอเถอะ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร” คำปุยห้าม
“หนูขอร้องล่ะ เลิกตีกันได้แล้ว” แคบหมูบอก
ทว่าคำปุยกับแคบหมูกลับโดนผลักกระเด็นออกมา
เจ้าคุณสุดจะทนไหว เห็นสายยางฉีดน้ำ จึงเข้าไปดึงออกมา สมใจเห็นก็ตกใจ
“เฮ้ย! อย่า!”
สมใจตะโกนห้ามเจ้าคุณ ไม่ทันแล้ว เจ้าคุณเปิดน้ำ ฉีดใส่หวานเจี๊ยบกับลำใย สองสาวหยุดกึกจ๋อยไปตามๆ กัน สมใจโมโหมาก หันไปมองรอบๆ เห็นใบชาเปียกแฉะ และหกเต็มพื้น สมใจมองเจ้าคุณ หวานเจี๊ยบ และลำใยด้วยความโกรธสุดขีด
“บ้า!ไอ้พวกบ้า!”
สมใจเนื้อตัวสั่น น้ำตาคลอวิ่งพรวดออกไปทันที
เจ้าคุณ หวานเจี๊ยบ และลำใยจ๋อย แต่เจ้าคุณไม่เข้าใจ
“เจ๊แกเป็นไร” เจ้าคุณหันไปถามคำปุย
“ใบชาหล่นพื้นก็ยังพอเก็บได้ แต่นี่อ้ายขุนทองเล่นฉีดน้ำซะเละเทะแบบนี้ ใบชาพวกนี้ก็ใช้ไม่ได้แล้ว”
“ที่สยองขวัญกว่านั้น ก็คือพี่ใจ๋ต้องไปส่งชาให้ลูกค้าวันนี้ด้วย” แคบหมูพูดสีหน้าเศร้า
เจ้าคุณอึ้ง หันไปมองหวานเจี๊ยบกับลำใยอย่างไม่พอใจ สองสาวก้มหน้าจ๋อยสนิท

เจ้าคุณยืนรอสมใจที่บริเวณหน้าไร่ชา สีหน้าเป็นกังวลใจ คำปุยกับแคบหมูยืนอยู่ด้วย ไม่นานสมใจขี่มอเตอร์ไซค์กลับมา พอเห็นเจ้าคุณก็เมินหน้าหนี จอดรถแล้วรีบลงมาหาคำปุยกับแคบหมู

“ฉันบอกเฮียเจ้าของร้านแล้วว่าขอส่งของพรุ่งนี้ เฮียแกโอเค แต่เราต้องรีบเก็บใบชา แกกับนังแค๊บไปบอกชาวบ้านให้มาช่วยกันที ไม่งั้นไม่ทัน”
“จ้ะๆ”
คำปุยกับแคบหมูรีบออกไป สมใจจะเดินออกไป
เจ้าคุณรีบเรียกไว้ “สมใจ”
“ไม่ต้องพูด พวกเราต้องเดือดร้อน เพราะนายคนเดียว!!”

สมใจพูดน้ำเสียงเย็นชา เจ้าคุณหน้าจ๋อยสนิท เพราะไม่ได้ตั้งใจทำให้ใบชาเสียหาย







Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 18:11:11 น.
Counter : 689 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]