All Blog
ลิขิตฟ้าชะตาดิน ตอนที่ 4 (ต่อ)



ที่บริเวณลานจอดรถข้างอาคารราชการ บุรี กับนายเด่นก้าวลงจากรถตู้ของบริษัท ทั้งคู่แต่งตัวโก้และเรียบร้อยดูเป็นทางการอย่างนี้ เวลาที่มาร่วมงานประมูลโครงการสำคัญเสมอ

เป็นจังหวะเดียวกับที่ รถสปอร์ตคันหรูของเกียรติบดินทร์แล่นปราดเข้ามาจอด
ทั้งสองคนมองเห็นเกียรติบดินทร์ แล้วหันมองหน้ากัน รู้สึกตกใจ
เกียรติบดินทร์ ในชุดเสื้อเชิ้ตผูกไท แม้จะพยายามแต่งตัวให้ดูเป็นทางการ แต่ก็ยังเปรี้ยวปรี๊ดอยู่ดี เกียรติบดินทร์ลงจากรถ เดินวางมาดเข้ามาสมทบ
“น้องดิน น้องดินมาทำอะไร” บุรีรีบถามอย่างสงสัย
“ผมก็มาเรียนรู้งานกะอาไงครับ นายเด่น สั่งสอนผมด้วยนะ ผมไม่เคยเห็นบรรยากาศเวลาเค้าเปิดซองประกวดราคากันซักที อยากรู้จริงๆ ว่ามันจะตื่นเต้นขนาดไหน” เกียรติบดินทร์ว่ายิ้มๆ
“มันไม่มีอะไรตื่นเต้นหรอก น้องดิน ก็รู้ๆ อยู่แล้ว ว่าเราต้องชนะ”
“อาบุรีรู้ได้ไง นายหัวตั้งราคาต่ำเกินจริง จนทุกคนต้องยอมยกให้งั้นเหรอ” เกียรติบดินทร์ล้อ
“ผมว่า..คุณดินอย่ามารู้เรื่องพวกนี้ดีกว่าครับ มันไม่สนุกหรอก” เด่นบอก
“น้องดิน น้องดินอยู่บ้านสบายๆ กลับไปเรียนหนังสือ แล้วหากีฬาเล่นให้สะใจไปวันๆจะดีกว่า” บุรีบอก
“ถ้าคุณดินอยากเรียนรู้งาน ก็ให้ทุกอย่างมันเรียบร้อยก่อน แล้วตอนมีการลงมือก่อสร้าง..แล้วน้องดินก็มาคุมงาน..น่าจะมีประโยชน์กว่านะครับ” เด่นเสริม
“ยิ่งพูดกันแบบนี้..ก็เท่ากับยิ่งเร้าใจ ให้ผมอยากรู้น่ะสิครับ” เกียรติบดินทร์ขยับเนคไทค์ แล้วเดินมาดหล่อ นำขึ้นบันไดไป

คนอื่นๆ ภายในห้องประชุมของที่ว่าการแห่งนั้น นั่งๆ ยืนๆ และพูดคุยกันอยู่ อย่างมักคุ้นกัน เกียรติบดินทร์เดินวางท่าเข้ามา โดยบุรีและนายเด่นรีบตามเข้ามาแทบไม่ทัน
มาดามพิณ นพชัยกำลังคุยกะเพื่อนในวงการประมูลอยู่ นพชัยเห็นเกียรติบดินทร์ ถึงกับเบิกตากว้าง แล้วรีบสะกิดให้ภรรยาดู มาดามพิณหันมาเห็นจังหวะที่เกียรติบดินทร์มองมาพอดี
เกียรติบดินทร์ยิ้มเก๊ก เดินเข้ามาหา แล้วยกมือไหว้เสมออก ค้อมตัวก้มหน้านิดๆ อย่างให้เกียรติ
“มาดามพิณ คุณนพชัย”
“คุณเกียรติบดินทร์ ไม่นึกว่า...จะได้เจอคุณ” มาดามพิณยิ้มแย้มทักทาย
“อ๋อ นายหัวส่งผมมาน่ะครับ งานสำคัญแบบนี้..นายหัวอยากให้ผมได้เป็นคนลงมือเอง” เกียรติบดินทร์คุยโว
บุรี นายเด่น รีบเข้ามา พยายามกันเกียรติบดินทร์ออกไป
“มาดามพิณ คุณนพชัย สบายดีไหมครับ” บุรียิ้มทักทาย
“คุณบุรี ไม่คิดว่างานก่อสร้างอาคารแบบนี้ นายหัวก็สนใจทำด้วย” มาดามพิณว่า
“นายหัวของเราทำทุกอย่างนั่นแหละครับ มาดามพิณ ที่เป็นการพัฒนาท้องถิ่นของเราให้เจริญรุ่งเรือง” นายเด่นเอ่ยขึ้น
“แต่ก็แปลกนะครับ..ที่นายหัวบัญชาแทรกเข้ามาทัน ในนาทีสุดท้ายก่อนกำหนดการปิดยื่นซองประกวดราคาพอดี” นพชัยพูดสอดขึ้นมา
“มืออาชีพเก่งๆ อย่างนายหัว ทำอะไรก็เซอร์ไพร้ซ์ใครๆ แบบนี้เสมอล่ะครับ”
คำพูดของเกียรติบดินทร์ทำเอามาดามพิณอึ้งไป

เวลานั้นรถของบัญชาจอดรออยู่ในบริเวณลานจอดรถข้างอาคารราชการแห่งนั้นนั่นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น บัญชาที่กำลังยืนกระวนกระวายใจอยู่หันขวับ แทบจะกระโดดมาคว้ามือถือ รีบกดรับสายทันที
“เรียบร้อยใช่ไหม บุรี”
“เรียบร้อยครับ นายหัว” เสียงเกียรติบดินทร์ดังทางปลายสาย
บุญชา สะดุ้ง อึ้ง ประหลาดใจระคนแปลกใจ “ดิน!! นั่น..ดินไปทำอะไรที่นั่น”
เกียรติบดินทร์ซึ่งอยู่ในห้องประมูล เดินคุยโทรศัพท์มือถือของบุรีอยู่
“ผมมาเดินแบบมั้งครับ..แหม..นายหัวครับ ลูกชายมาปฏิบัติหน้าที่แทน นายหัวน่าจะภูมิใจเราชนะครับ นายหัว ราคาของเราต่ำสุด..ต่ำกว่ามาดามพิณแค่ 3 พันห้าร้อยบาทเท่านั้นเอง..ก็ชนะได้ น่าตื่นเต้นเป็นบ้าเลยครับ เกิดมา ผมเพิ่งเคยได้มีประสบการณ์มันๆแบบนี้ คู่แข่งของเราหน้าถอดสีไปเลย ว้าว..มันคูลมากเลยครับ นายหัว” เกียรติบดินทร์ดูจะตื่นเต้นจริงๆ
บัญชาอึ้งอีก “นายดิน รีบกลับมาบ้านเดี๋ยวนี้ แล้วขอพ่อพูดกับอาบุรีด่วน”
จังหวะนั้นดารากานต์ เดินกลับมาจากข้างนอก มีนายวังช่วยหอบถุงของที่ไปช้อปปิ้งมามากมาย มาได้ยินเข้าพอดี หยุดฟัง
“แกพาน้องดินไปที่นั่นเหรอ บุรี แกคิดอะไรของแก หา” บัญชาเสียงดุ
บุรีกำลังสบตากับนายเด่น สีหน้าเซ็งและซีด
“เปล่าครับ นายหัว..น้องดินมาเอง..ผมก็ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน”
บุญชาฟังแล้วหงุดหงิด “เออๆๆ แล้วก็แล้วไปเถอะ..รีบกลับมา เร็วๆ”
“ครับๆๆ”
บัญชาวางหู อยู่ในอาการเซ็งๆ
ดารากานต์ได้ยินชื่อเกียรติบดินทร์ก็ถามขึ้นน้ำเสียงห่วงๆ “น้องดินไปทำอะไรอีกหรือคะ”
“เปล่า” บัญชาพูดสั้น
“เปล่าอะไรกันคะ นายหัว ลูกไปทำอะไร..มีเรื่องกับใครอีกหรือเปล่า” ดารากานต์คาดคั้น
“ทำไมมองน้องดินในแง่ร้ายแบบนั้นล่ะ น้องดินไป..ไปช่วยผมทำงาน แต่ผมยังไม่อยากให้แกไปยุ่งกับงานบางงาน..จนออกหน้าออกตาเกินไป..เพราะแกยังเด็ก..อาจจะดูไม่น่าเชื่อถือ..ก็เท่านั้น”
“แหม..ก็นายหัวนั่นแหละ ทำท่าทางยังกับ..มีอะไรคอขาดบาดตาย ชั้นก็พลอยห่วงลูกไปด้วย”
“คุณห่วงน้องดินด้วยหรือ..ผมนึกว่าห่วงแต่...” บัญชาเกือบหลุดปาก แต่รู้ตัวเสียก่อนจึงรีบหยุดไป
ดารากานต์หันมา ทำหน้างงๆ “ห่วงแต่..อะไรคะ”
“เอ้อ..เปล่าๆไม่มีอะไร ก็เห็นช่วงนี้..คุณต้องดูแลคุณนายดาว หม่าม้าคุณอย่างใกล้ชิด แล้วท่านเป็นยังไงบ้างล่ะ เห็นป้าบัวบอกว่า..ไม่ค่อยยอมกินข้าวกินปลา” บัญชารีบเบี่ยงเบนเรื่อง
“นายหัว...ชั้นต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่...ชั้นต้องไปค้างกับหม่าม้าทุกวัน ไม่ใช่ว่าชั้นไม่สนใจคุณกับลูกนะคะ แต่หม่าม้าไม่ยอมกิน ไม่ยอมนอนเลย หม่าม้าน่าสงสารมาก ตลอดชีวิตตั้งแต่อายุ 16 แกก็อยู่กะอาป๊าสองคนมาตลอด รักกันมาก แล้วอาป๊ามาเสียไปแบบนี้ หม่าม้าแกทำใจไม่ได้จริงๆ”
“หึๆ..คนที่รักเดียวใจเดียวตลอดชีวิตนี่..ช่างน่าเวทนาจริงๆ” บัญชาพูดเยาะแกมหยันอยู่ในที
ดารากานต์มองบัญชา งงๆ แต่บัญชาทำเป็นเดินไปรินชามาดื่ม ไม่รู้ไม่ชี้

ครู่ต่อมาบุรีกับนายเด่นเดินมาที่รถตู้ คนรถรีบวิ่งมาเปิด สองคนกำลังจะขึ้นรถ ทันใด รถเบนซ์รุ่นใหญ่ แล่นมาชะลอหยุด นพชัยที่ขับเอง มีมาดามพิณนั่งคู่ กดกระจกไฟฟ้าเลื่อนลง นพชัยยิ้มแค้นๆ พลางเอ่ยขึ้น
“คุณบุรี ฝากไปเรียนนายหัวบัญชาด้วย ว่าเค้าแน่มาก ที่ทำกับพวกเราได้”
“แต่ดิฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไมคนเราไม่อยากมีเพื่อน แต่อยากมีศัตรู” มาดามพิณหันมา
“มาดามเข้าใจผิดแล้วครับ..ทุกอย่าง..มันเกิดขึ้น..โดยความบังเอิญ พวกเราไม่ตั้งใจจะทำให้ใครโกรธเคืองเลยจริงๆ” บุรีบอก
“ใครๆก็มีสิทธิ์ประมูลงานได้ ใครประกวดราคาชนะ คนนั้นก็ต้องได้งานไป มาดามมีน้ำใจนักกีฬาหน่อยสิครับ” นายเด่นช่วยแก้ต่างเสริม
“พิณ..พอเถอะ..เสียเวลา พูดไปก็ไร้ประโยชน์” นพชัยบอกภรรยาแล้วกดกระจกปิด แล้วจะออกรถ
ทันใดนั้น ก็มีเสียงบีบแตรสนั่นจากด้านหลัง ทุกคนตกใจ หันไปมองตามเสียง
เกียรติบดินทร์พุ่งรถสปอร์ตเบรคกระทันหันเสียงดังเอี๊ยดมา ปาดหน้ารถนพชัย จังหวะนั้นชะลอรถลง หันหน้ามายิ้มกวนๆให้อย่างท้าทาย ก่อนจะเหยียบคันเร่ง เสียงรถดังกระหึ่มบึ้นๆๆ ก่อนจะวิ่งเฟี้ยวนำไป
นพชัยสุดจะแค้น รีบพุ่งรถตามไป รถทั้งสองคันทำเสียงเอี๊ยดอ๊าด ท้าทายกัน บุรี กับนายเด่น ที่ยังยืนอยู่ หันมามองหน้ากัน ท่าทางจะคิดในใจเหมือนๆ กันว่า...ซวยแล้ว

เกียรติบดินทร์ซิ่งรถมาตามถนนอย่างคึกคะนอง มีรถนพชัยขับจี้มาติดๆ
“นพ ไม่เอา นพๆ..อย่าค่ะ” มาดามพิณพยายามห้ามสามี
“ไอ้เด็กนรก แบบนี้มันต้องสั่งสอน” นพชัยคำรามในลำคอ
นพชัยแซงปาดหน้าขึ้นไปด้ แล้วหันมาหัวเราะท้าทาย เกียรติบดินทร์กัดฟันอย่างแค้นใจ เร่งความเร็วรถขึ้นไปอีก แล้วขับตามจี้ จากนั้น ทั้งสองคนก็เร่งความเร็วแข่งกัน ในที่สุดเกียรติบดินทร์แซงได้
นพชัยไม่ยอม เร่งความเร็วบี้ตามไปประกบ เกียรติบดินทร์ไม่ยอม เร่งหนี รถทั้งสองคันเล่นประกบกันไป
จู่ๆ ก็มีรถบรรทุกสวนมา รถนพชัยกำลังเร่งจะแซง เกือบจะบวกประสานงารถบรรทุก
รถบรรทุกบีบแตรสุดเสียง มาดามพิณกรี๊ดด้วยความตกใจ
นพชัยตัดสินใจ หักหลบไปที่อีกฝั่ง แต่เสียหลักไถลลงข้างทางไปเลย นพชัยตั้งสติประคองรถจดลงแบบเกือบคว่ำ
เกียรติบดินทร์ร้องอย่างสะใจ
“วุฮู้”

ที่คอนโดในสิงคโปร์ห้องเดิมนั้น ปีเตอร์โอบบ่านพชัย เดินคุยกันมาเรื่องนายหัวบัญชาที่พลิกลิ้น
“อย่าเอาแต่โมโหเลย คุณนพชัย ทำธุรกิจก็แบบนี้แหละ เป็นเรื่องธรรมดา”
“มันไม่ใช่เรื่องธรรมดานะปีเตอร์ แบบนี้มันคือการประกาศสงครามชัดๆ” นพชัยแค้นไม่หาย
“แด๊ดดี้คะ ถ้าคนไทยเห็นเราเป็นศัตรู เราก็ไม่ต้องไปเปิดบริษัทที่นั่นก็ได้ เทเรซ่าว่า..ที่เมืองจีน เรายังมีโอกาสดีกว่ามาก” เทราซ่าเอ่ยขึ้น
“ถ้าพวกคุณทิ้งพวกเรา..เราคงเสียใจมากครับ เทเรซ่า คุณอย่าเพิ่งท้อใจสิครับ..นี่แค่งานแรกเท่านั้นที่พลาด ยังมีอีกหลายงาน ที่เราจะต้องชนะ” ชิงชัยบอก
“ชิงชัยพูดถูก..ตอนแรกพวกเรามองโลกในแง่ดีเกินไป ตอนนี้เรามีบทเรียนแล้ว ต่อไปเราจะไม่พลาดอีก” ปีเตอร์ว่า
“ชั้นไม่ยอมแพ้หรอก ปีเตอร์ นายหัวบัญชาเล่นสกปรกได้ ชั้นก็เล่นได้เหมือนกัน” มาดามพิณพูดเสียงจริงจังมาก
“แต่ผมไม่อยากใช้วิธีสกปรก” ปีเตอร์บอก
“ชั้นก็ไม่อยาก แต่ครอบครัวนี้มาร้ายกับชั้นก่อน จะให้ชั้นยอมให้เค้ารังแกข้างเดียวแบบนี้หรือปีเตอร์”
คำพูดของมาดามพิณ ทำเอาปีเตอร์อึ้ง เทเรซ่ามองพ่ออย่างไม่สบายใจนัก

วันต่อมารถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ ทะเบียนจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ แล่นผ่านอนุสาวรีย์ มาจอดลงด้านหนึ่ง ภายในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช

ฟ้ากระจ่างแต่งตัวเรียบร้อย สวมเชิ้ตสีอ่อน กางเกงยีนส์สีเข้ม รองเท้าผ้าใบขาวเก่าแต่สะอาด สวมถุงเท้า ทำหน้าที่คนขับ เปิดรถ พุ่งลงจอดแบบทำท่าบิดตัวบอกเป็นเชิงไม่ไหวแล้ว
“อาจารย์ฝากล็อครถ ฝากกุญแจด้วยนะครับ เดี๋ยวอาจารย์ไปแผนกไหน ชั้นไหนอะไรยังไงโทตามผมด้วยนะครับ ผมขอไปห้องน้ำก่อน เดี๋ยวผมตามไป” ฟ้ากระจ่างเริ่มออกวิ่ง
อาจารย์สมบัติตะโกนตามไป “ห้องพักอาจารย์ แผนกไอซีที. คณะนิเทศศาสตร์ ชั้นไหน ก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ใช่คนแถวนี้ เดี๋ยวนายถามเจ้าหน้าที่เค้าเองละกัน”
“คร้าบ” ฟ้ากระจ่างวิ่งสุดฝีเท้า เข้าไปภายในตึกใกล้ๆ
อาจารย์สมบัติกับอาจารย์พิทักษ์หัวเราะกันสนุก
“ก็รถกรุงเทพฯ มันติดนี่เนอะ จ้างมันล่อกาแฟเข้าไปหลายแก้วด้วย” อาจารย์พิทักษ์ว่าท่าทีขำๆ

เสร็จธุระจากห้องน้ำ ฟ้ากระจ่างสวมรองเท้าผ้าใบ เดินมาบนพื้นหินอ่อนของอาคารภายในมหา’ลัย พร้อมกับกำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ เช็ดหน้าที่เพิ่งล้างมา เสร็จแล้วจึงพับผ้าเช็ดหน้าจนเรียบร้อยเก็บใส่เป๋ากางเกง พลางสอดส่ายสายตามองรอบๆ พอเห็นคนเยอะ นักศึกษาสาวๆ แยะ ก็มีอาการสำรวม ตัวลีบเล็กลงโดยอัตโนมัติ
ฟ้ากระจ่างเดินไป พยายามองหาเจ้าหน้าที่ หรือใครที่พอจะถามทางได้ ทว่าอาคารแห่งนั้นกว้างใหญ่นัก แล้วเวลานี้ ฟ้ากระจ่างดูจะหลงทาง ไม่มั่นใจ ทาทีเด๋อด๋า
ฟ้ากระจ่างหันไปเห็นมุมหนึ่ง เห็นเค้าน์เตอร์ ที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ ก็ดีใจ รีบเดินเข้าไปหา
“ขอโทษครับ คือ..ผมจะไปที่ห้องพักอาจารย์ แผนกไอซีที. คณะนิเทศศาสตร์ ไม่ทราบว่าอยู่ชั้นไหนครับ” ฟ้ากระจ่างถาม
“คณะนิเทศฯ..ไม่ได้อยู่ตึกนี้ค่ะ” เจ้าหน้าที่บอก
“อ้าว..” ฟ้ากระจ่างจ๋อยไปเล็กน้อย ถามต่อ “แล้ว..อยู่ตึกไหนครับ”
“ออกประตูนั้นนะคะ แล้วจะเห็นตึกคณะนิเทศฯอยู่ทางซ้ายค่ะ” เจ้าหน้าที่บอก
“อ๋อ ครับๆ” ฟ้ากระจ่างงงๆ “มีป้ายบอกหน้าตึกเลยใช่ไหมครับ ว่าเป็นตึกคณะนิเทศฯ”
นักศึกษาหญิงคนหนึ่ง ที่กำลังจัดเอกสารใส่แฟ้มอยู่ที่เค้าน์เต้อร์บริเวณนั้น โดยมีเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งกำลังดูแลอยู่ ได้ยินที่ฟ้ากระจ่างพูด จึงหันมา ที่แท้เป็นดวงยิหวานั่นเอง
“จะไปคณะนิเทศฯหรือคะ” ดวงยิหวาถาม
“ครับ..ไปห้องพักอาจารย์ แผนกไอซีทีครับ” ฟ้ากระจ่างยิ้มๆ เด๋อๆ
“งั้นเดินไปด้วยกันก็ได้ค่ะ กำลังจะไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาที่นั่นเหมือนกัน” ดวงยิหวาว่า
ฟ้ากระจ่างรู้สึกดีใจ “หรือครับ..ขอบคุณครับพี่” รีบยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม
ดวงยิหวาตกใจ รีบรับไหว้แทบไม่ทัน “เอ่อ..ค่ะๆ ไม่เป็นไรค่ะ”

สองคนเดินมาด้วยกัน ดวงยิหวาเดินนำนิดๆ ฟ้ากระจ่างตามมา มองรอบๆ สนใจไปหมด
ดวงยิหวาหันมามองๆ รู้สึกถูกชะตา และมีเมตตาต่อฟ้ากระจ่าง จึงถามขึ้น
“อาจารย์ที่ปรึกษาน้องชื่ออะไรคะ”
“อ๋อ เปล่าครับ..ผมไม่ได้เรียนที่นี่ พี่เรียนคณะนิเทศฯหรือครับ”
“ค่ะ”
“นิเทศฯนี่..ที่จบไปเป็นนักข่าวทีวี..ใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ แต่ไม่ได้เรียนที่จะเป็นนักข่าว เรียนการผลิตรายการวิทยุและโทรทัศน์ค่ะ” ดวงยิหวาบอก
ฟ้ากระจ่างมองด้วยสายตาอย่างทึ่ง “ผลิตรายการ..คงเรียนยากนะครับ..พี่ต้องเก่งมากเลย”
“อุ๊ย ก็ยังไม่รู้อะไรมากหรอกค่ะ..เพิ่งลงได้เทอมที่2เอง ยังเป็นพวกวิชาพื้นฐานอยู่เลย
แล้วน้องล่ะคะ เรียนที่ไหน อยู่ปีไหนแล้ว”
ฟ้ากระจ่างยิ้มกว้างตามสไตล์ “ผมเรียนจบแล้วครับ เรียนสายอาชีพน่ะครับ เพิ่งจบปีก่อน”
ดวงยิหวาได้ฟังก็ตาโต เสียงดัง “จริงเหรอ..จบสายอาชีพมาเหมือนกัน” ชี้ที่ตัวเอง “ได้ปวส.มา จบปีที่แล้วเหมือนกัน”
“อ้าว..พี่เกิดปีอะไร ปีลิงหรือเปล่าครับ” ฟ้ากระจ่างถาม
ดวงยิหวากลั้นยิ้มก่อนบอก “ปีไก่ค่ะ”
“โอ๊ย..งั้นไม่ใช่พี่แล้ว เป็นน้องผมแล้ว..โธ่ อุตส่าห์ไหว้ซะสวยเลย” ฟ้ากระจ่างว่า
ดวงยิหวารีบไหว้ “งั้นเรารีบไหว้กลับ เดี๋ยวอายุสั้น”
ทั้งสองคนหัวเราะให้กัน ด้วยความรู้สึกทั้งเป็นมิตรและกันเอง

สองคนเดินเข้ามาในตึกด้วยกัน ด้วยท่าทางสดใส
“ต้องไปขึ้นลิฟท์ตรงนั้นค่ะ ห้องพักอาจารย์อยู่ชั้น 5” ดวงยิหวาบอก
ทั้งสองเดินไปด้วยกัน พอดีจังหวะนั้นโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าฟ้ากระจ่างดังขึ้น
ฟ้ากระจ่างดีใจ หยิบโทรศัพท์มาดูเบอร์ “ขอโทษนะครับ” กดรับสาย “ครับผม..อ้าว..หรือครับ ผมกำลังจะขึ้นลิฟท์ไปชั้น 5 ครับ..ครับๆ ได้ครับ” ฟ้ากระจ่างกดปิดการติดต่อ หันมาบอกดวงยิหวา “อาจารย์ผมโทร.มา คือ..อาจารย์ผมน่ะครับ ที่มีธุระมาหาเพื่อนที่เป็นอาจารย์อยู่ที่นี่ อาจารย์บอกว่าพวกอาจารย์อยู่กันที่ห้องประชุมข้างล่างนี่เอง..ผมไม่ต้องขึ้นไปแล้ว”
“อ๋อ..ค่ะ...” ดวงยิหวาว่า
“ขอบคุณมากนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
พอดีลิฟท์มาถึง และประตูลิฟท์เปิดออก
“งั้น..ไปก่อนนะคะ โชคดีนะคะ..พี่” ดวงยิหวายิ้มล้อๆ แล้วไหว้ลา
ฟ้ากระจ่างรีบรับไหว้ “ขอบคุณครับ โชคดีเหมือนกันนะ ..น้อง”
ดวงยิหวาเข้าลิฟท์ไป ฟ้ากระจ่างโบกมือให้แบบขำๆ ในอาการร่าเริง ลิฟท์เลื่อนปิดประตู ทั้งสองส่งยิ้มให้กันจนวินาทีสุดท้ายที่ลิฟท์ปิดสนิท นั่นเอง ฟ้ากระจ่างจึงค่อยได้สติ นึกออกว่าลืมบางอย่าง
“อ้าว..ยังไม่ได้ถามชื่อเลย..เบอร์โทร.ก็ไม่ได้ขอ..ว้า…”
ฟ้ากระจ่างเซ็ง นึกอยากเขกหัวตัวเอง

เครื่องบินของสายการบินโลว์คอสท์แลนดิ้งลงจอดในสนามบินภูเก็ตอย่างเรียบร้อยและปลอดภัย ดวงยิหวาเดินลากกระเป๋าเดินทางไซส์เล็กที่มีล้อออกมาภายนอก หญิงสาวสวมแว่นดำ กวาดสายตามองหาคนมารับ แต่ไม่เห็นใครที่รู้จัก ดวงยิหวาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจะกดโทร. พอดีเงยขึ้น แล้วต้องชะงัก เกียรติบดินทร์ยืนยิ้มเก๊กหล่อตามเคย
“คุณดิน” ดวงยิหวาประหลาดใจ
“นายเด่นไม่ว่าง ให้ผมมารับคุณแทน” เกียรติบดินทร์บอก
“ไม่มีทางหรอก” ดวงยิหวาไม่เชื่อ
เกียรติบดินทร์หัวเราะกลบเกลื่อนที่ถูกจับไต๋ได้
“อ่า สารภาพก็ได้ นายเด่นให้เด็กของบ้านคุณ..ชื่ออะไรไม่รู้ ผมจำไม่ได้ รู้สึกจะอะไรทองๆ เนี่ย…”
“ทองเหลือบ” ดวงยิหวาพูดสวนออกมา
“อือ..ชื่อประหลาดๆ นี่แหละ ให้มารับคุณ ผมเลยไปติดสินบนมัน บอกว่ามันไม่ต้องมา ผมมาเอง เชิญ...” เกียรติบดินทร์ผายมือให้ดวงยิหวา
รถสปอร์ตคันงามของเกียรติบดินทร์จอดเทียบในที่ห้ามจอด เป็นการโชว์พาวว่าตัวเองเจ๋งสุดๆ
“เก๋เนอะ..รถแพง จอดในที่ห้ามรถทั่วไปจอดได้ อภิสิทธิ์น่าดู” ดวงยิหวากัด
เกียรติบดินทร์ไม่รู้สึกรู้สา มองกวนๆ “ก็งี้แหละ เป็นแฟนผม..คุณจะรักทั้งนามสกุล รักยี่ห้อรถยนต์ รักที่ผมไม่จน..มีมีสตางค์ให้จ่าย”
“ชั้นไม่นั่งรถคันนั้นไปกับคุณให้คนมองกันทั้งเมืองหรอกนะ ชั้นอายเค้า” ดวงยิหวาเดินลากกระเป๋าผ่านหน้าไป เกียรติบดินทร์วิ่งตาม ดักหน้าดักหลัง
“ดวงยิหวา คุณทำแบบนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจให้ผมเอาชนะเหรอ คุณอยากจะเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใครในจังหวัดนี้..เพื่อปั่นหัวผม..นึกว่าผมไม่รู้จักเกมนี้หรือไง”
“คุณดิน คุณมันประสาท น้ำเน่า เพ้อเจ้อ” ดวงยิหวาว่า
มาดามพิณ นพชัย ชิงชัยเดินออกมาจากอีกทาง ทั้งสามคนเพิ่งกลับจากสิงคโปร์พอเห็นเกียรติบดินทร์ต่างชะงัก
“ลูกไอ้นายหัวนี่..พ่อ” ชิงชัยบอกผู้เป็นพ่อ
“ไอ้เด็กนรก!” ความแค้นแน่นจุกอก นพชัยรีบวางกระเป๋าเดินทางขนาดกลางในมือลง
“นพชัย อย่า…” มาดามพิณร้องห้ามสามี
นพชัยไม่สน ปราดเข้าไปหา
“ไอ้ดิน!”
เสียงนพชัยเรียก เกียรติบดินทร์หันมา
นพชัยตบเพี๊ยะ “มึงนึกว่ามึงเจ๋งนักเหรอ”
เกียรติบดินทร์ไม่ทันตั้งตัว หัวเกือบทิ่ม
ดวงยิหวากรี๊ดลั่น
“ว๊าย”
นพชัยกระชากคอเกียรติบดินทร์มา “มึงเกือบทำให้กูตายวันนั้น มึงคิดว่ามึงเป็นลูกนายหัวบัญชาแล้วจะทำอะไรกะใครก็ได้เหรอ” นพชัยชกสุดแรงอีกหนึ่งตูม
เกียรติบดินทร์กระเด็น ล้มลงก้นจ้ำเบ้า
“ไอ้สารเลว! พ่อแม่ไม่สั่งสอน!” นพชัยปราดเข้าไปเตะๆๆ เกียรติบดินทร์
เกียรติบดินทร์กำลังจะโงหัวขึ้น นพชัยเตะตัดเข้าลำตัว
“นี่แน่ะ! ไอ้ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม นี่! นี่! กูจะสั่งสอนมึงเอง” นพชัยกระทืบซ้ำอยู่อย่างนั้น
ผู้คนต่างตกใจ ดูกัน อย่างตะลึง
รปภ.วิ่งเข้ามา เป่านกหวีดปรี๊ดระงับเหตุการณ์
มาดามพิณเพิ่งได้สติ วิ่งเข้ามาดึงนพชัยออก “พอแล้วๆ นพชัย หยุดค่ะ หยุดๆๆ”
เกียรติบดินทร์กองอยู่กับพื้น อยู่ในอาการมึน ได้แต่มอง จ้องหน้า ชี้มือไปมา
เกียรติบดินทร์เลือดกบปาก “ไอ้แก่..มึง..มึงตายแน่..
“มึงนั่นแหละ ที่จะตาย ไอ้เลวเอ๊ย!” ชิงชัยบอกอย่างมีอารมณ์
“ชิงชัย หยุด..มานี่..ไป..รีบไปเดี๋ยวนี้” มาดามพิณแหวใส่ลูกชาย แล้วลากลูกกับสามีแหวกคนออกไป
ดวงยิหวาเข้ามาประคองเกียรติบดินทร์ ที่ตัวงอ พยายามจะลุก แต่ทรุดลงไปกอง เหมือนอาการเจ็บเริ่มออกฤทธิ์
“คุณดินๆ..โธ่...” ดวงยิหวาเงยมา บอกรปภ. “ช่วยด้วยค่ะ..ช่วยเรียกรถพยาบาลให้ด้วย”
“ครับๆ รถพยาบาลครับ” รปภ.หยิบว.ออกมาพูดส่งภาษาด้วยรหัสสื่อสารแบบภาษาว.น้ำเสียงตื่นเต้นๆ
“คุณดิน..ทำไงดีเนี่ย” ดวงยิหวาตกใจหนักจนจะร้องไห้ หยิบโทรศัพท์มากดโทร.ออก “พ่อ..พ่อจ๋า..คุณดินมีเรื่อง ที่สนามบินพ่อ...”

ผู้คนเริ่มเข้ามามุงดูมากขึ้นๆ เกียรติบดินทร์อาการเริ่มทรุดหนัก ชายหนุ่มขดตัวหงิกงอกัดฟันพยายามอดทน









Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2555 10:46:57 น.
Counter : 331 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]