All Blog
มือปราบพ่อลูกอ่อน ตอนที่ 13 (ต่อ)



จตุพลพูดทักแกมเย้ยหยันจบก็ยังยืนอยู่บนรถกระบะ ส่วนลูกสมุน 4-5 คนที่มากับรถคันนั้น กระโดดลงมาล้อมแล้วถือปืนเล็งทั้งสามคนไว้ กริสน์ อธิป และเดชถูกสมุนของจตุพลจู่โจมล้อมจนไม่มีทางหนีไปไหน

“หึๆๆ สร้างหมู่บ้านอยู่กันเป็นล่ำเป็นสันแบบนี้ก็ดี..ผมจะได้ไม่ต้องออกแรง ตามหาสัตว์เลี้ยงของอากู๋ให้หนื่อย” จตุพลบอก
“จตุพล!! ทุกคนที่นี่ เป็นคนที่เคยมีพระคุณกับแกทั้งนั้น!! แกกล้าเรียกเค้าว่า..หน็อย..ไอ้หลานชั่ว”อธิปด่า
อธิปทำท่าจะขยับไปหาจตุพล แต่พวกสมุนของจตุพลต่างหันปากกระบอกปืนมาตรงหน้าอธิปทั้งกันทั้งหมดแล้วขึ้นนกพร้อมยิง อธิปเห็นดังนั้นก็ถึงกับผงะ
“เข้ามาสิครับ ผมรับรองว่าจะไม่หนี..แต่อากู๋ต้องแน่ใจนะว่าตอนที่ชกผม จะยังมีชีวิตอยู่” จตุพลขู่
ทันใดนั้น ผู้ใหญ่ชวดกับเจ๊ช้างก็นำขบวนชาวบ้านนับสิบถือปืนพร้อมอาวุธต่างๆ เดินเข้ามา ทั้งหมดยืนเรียงเป็นแผงอยู่ในท่าพร้อมรบอย่างไม่หวั่นเกรง
“แน่ใจนะว่าจะไม่หนี!” เจ๊ช้างถาม
“โหว ยังกะชาวบ้านบางระจันเลยวุ้ย” กริสน์ทึ่ง
“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน อย่าคิดว่าพวกชั้นจะให้แกมาอวดเบ่งในถิ่นของชั้นได้!” ผู้ใหญ่ชวดพูดเสียงเข้ม
แล้วผู้ใหญ่ชวดก็โยนปืนลูกซองให้ทั้งสาม กริสน์รับปืนได้ด้วยท่าเท่ อธิปก็รับปืนได้เท่พอกัน เดชชูมือรอจะรับปืน แต่รับพลาดปืนกระแทกโดนหัวตัวเอง “โหยยย ทำไม๊..จะเท่บ้าง ไม่เคยสำเร็จ” เดชบ่น
“เห็นอย่างนี้แล้ว อยากจะหนีขึ้นมาบ้างหรือยัง” ผู้ใหญ่ชวดถาม
“เดี๋ยวก็รู้ว่าใครกันแน่ที่ต้องหนี” จตุพลพูดแล้วก็ยกมือให้สัญญาณ
รถกระบะอีก 3คันที่บรรทุกสมุนจตุพลมาเต็มคันรถแล่นเข้ามาจากรอบทิศ แล้วอยู่ๆก็มีรถอีกคันพุ่งออกมาโดยน้อมพงษ์อยู่บนรถคันนั้น น้อมพงษ์ถือปืนกลเล็งมาทางพวกอธิป
“ขอให้เจ้าภาพจงเจริญ!” น้อมพงษ์พูดยังไม่ขาดคำเขาก็ระดมยิงปนเข้าใส่
กริสน์ตะโกนบอกทุกคนทันที “ทุกคน หลบ!”
ชาวบ้านทุกคนกระโจนแล้วแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง ทุกคนวิ่งหนีกันอลหม่าน หัวซุกหัวซุน แต่ชาวบ้านหลายคนก็ถูกยิงร่วงลงไปกอง
น้อมพงษ์ยังคงระดมยิงด้วยความสะใจ จตุพลที่ดูเหตุการณ์อยู่ก็สะใจ ชาวบ้านพากันวิ่งหนีตายอย่างอลหม่าน อธิป เดช กริสน์ ผู้ใหญ่ชวด และเจ๊ช้างก็กระโจนหาที่กำบังได้อย่างหวุดหวิด
“ไป..เชือดให้หมดหมู่บ้าน..ใครล่าแต้มได้มากสุด ชั้นมีรางวัลให้” จตุพลตะโกนสั่ง
บรรดาลูกสมุนของจตุพลได้ยินดังนั้นก็ร้องเฮดังลั่น

พวกสมุนของจตุพลยังระดมยิงกันอย่างไม่หยุด พวกชาวบ้านก็พยายามยิงต่อสู้เป็นระยะๆ กริสน์ อธิป และเดชหลบหลังที่กำบังซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน โดยทั้งสามก็ยิงสู้ด้วย
“พวกมันกะฆ่าหมด ไม่เว้นแม้แต่เด็กเลยหรือไง!” กริสน์ฉุน
“พวกมันจัดเต็มมาทั้งคนทั้งอาวุธ กะถล่มหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านแน่..งานนี้ตายเป็นตาย!” เดชหันไปยิงสู้
“ไอ้เดช แกรีบไปดูแลโอปอล์เดี๋ยวนี้ ไป..ส่วนแก ไอ้กริสน์..ไปหาคุณพิมกับหลาน แล้วพวกแกก็พาทุกคนหนีออกไปจากที่นี่..ไปๆๆ” อธิปสั่ง
“ถ้าจะตายก็ต้องตายด้วยกัน แต่เดชจะไม่ทิ้งเสี่ยเอาตัวรอดเด็ดขาด”
อธิปหันไปยิงสู้ แล้วหันมาตะคอก “ชั้นสั่งให้แกไปปกป้องลูกสาวชั้น!” อธิปถีบเดชจนกระเด็น “ไป!”
กริสน์กับเดชมีท่าทีอึกอัก ผู้ใหญ่ชวดกับเจ๊ช้างเข้ามาสมทบอีกแรง
“พวกข้าดูแลเสี่ยเอง” ผู้ใหญ่ชวดบอก
“บอกให้ไป!” อธิปย้ำ
“ดูแลตัวเองด้วยนะครับเสี่ย” กริสน์พูดแล้ววิ่งออกไป
“เสี่ยครับ” เดชเข้าไปกอดอธิปจนเต็มรัก แล้วค่อยผละไป “เดชรักเสี่ยนะครับ”
อธิปยิงสู้อย่างไม่กลัวเกรง

พิมมาดาพาเด็กๆ วิ่งหนีออกมาโดยมีสมุนจตุพลวิ่งตาม ชาวบ้านคอยยิงสกัดแต่ก็ต้านไม่อยู่ สมุนจตุพลคนหนึ่งโผล่มาดักหน้าพิมมาดาและเด็กๆ พิมมาดาถูกจับเหวี่ยงไปชนกับปลาของชาวบ้านที่ตากแดดเอาไว้จนล้มระเนระนาด
“น้าพิม!” พวกเด็กๆ รีบวิ่งไปดูพิมมาดาทันที
โจ๊กหันมาเผชิญหน้าสู้กับพวกสมุน
“เป็นผู้ชายต้องดูแลปกป้องผู้หญิง ทำแบบนี้ไม่เป็นสุภาพบุรุษ!” โจ๊กว่า
แล้วโจ๊กก็วิ่งเข้าไปชก แต่สมุนคนนั้นจับโจ๊กยกขึ้นมาทั้งตัว แล้วเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา แจ๊สเห็นน้องชายถูกทำร้ายก็ได้แต่กรีดร้องเสียงดัง “กรี๊ด!”
“โจ๊ก!!! แกอย่าทำอะไรเด็กนะ ปล่อยเด็กไป” พิมมาดาตะโกน
“ปล่อยพี่โจ๊ก!” จีจ้าสั่ง
สมุนเอามือสองข้างบีบคอโจ๊ก พิมมาดาเห็นก็ตกใจ “โจ๊ก!”
ทันใดนั้น กริสน์ก็เข้ามาเอาไม้ตีหัวสมุนเต็มแรง ไม้ไม่หักแต่สมุนล้มทั้งยืน
สมุนคนอื่นเห็นกริสน์ ก็รีบควักปืนออกมา แต่กริสน์ไวกว่าจึงยิงสวนไปจนบรรดาสมุนกระเด็น
พิมมาดาร้องด้วยความตกใจ “กรี๊ด” โจ๊กวิ่งไปกอดพิมมาดา
“คุณไม่เป็นอะไรกันนะ” กริสน์ถาม
“น้ากริสน์ระวัง!” จีจ้าตะโกนบอก
กริสน์สั่งทุกคน “หลับตา!”
พวกเด็กๆหลับตา พิมมาดาเข้ามาปิดตาจีจ้า กริสน์หันไปยิงสมุน 2คนที่กำลังจะยิงเขาจากด้านหลังจนร่วงไปทันที
กริสน์กระโดดหลบไปมาพร้อมกับยิงสวนเหล่าสมุน สมุนอีก 2คนกำลังวิ่งมาทางด้านหลังกริสน์
จีจ้าหันไปเห็นแหที่วางอยู่อีกด้าน ก็รีบเรียกพี่ชายตัวเอง “พี่โจ๊ก”
โจ๊กรู้งานจึงวิ่งไปอีกด้าน ในจังหวะที่สมุนทั้งสองวิ่งมา โจ๊กกับจีจ้าก็ดึงแหจนตึง สมุนทั้งสองสะดุดแหล้มหน้าคว่ำทันที
“เย้ๆๆ” โจ๊กกับจีจ้าดีใจ
สมุนคนหนึ่งโงหัวขึ้นจะยิงทั้งคู่ แต่พิมมาดาเห็นก่อนจึงรีบตะโกนบอกหลาน “โจ๊ก! จีจ้า!”
พิมมาดารีบวิ่งไปปกป้องโจ๊กกับจีจ้า อยู่ๆ ก็มีรถเข็นพุ่งเข้าใส่สมุนโครมใหญ่จนสมุนคนนั้นน็อกไป พิมมาดากับหลานๆ หันไปมองก็เห็นว่าแจ๊สคือคนผลักรถเข็นคันนั้น
ส่วนสมุนอีกคนที่นอนอยู่โดนพิมมาดาปาก้อนหินใส่หัวไปเต็มๆ
“พี่แจ๊ส!! น้าพิมสุดยอดเลยๆ” โจ๊กกับจีจ้าส่งเสียงชม
“จะดีใจทำไม..นี่มันผู้ร้ายของจริง พวกเธอห้ามอวดเก่งอย่างนี้อีกเข้าใจมั้ย” พิมมาดาเตือน
“พอๆๆ อย่าเพิ่งต่อว่ากัน หนีก่อน” กริสน์บอก
ทันใดนั้น น้อมพงษ์ก็โผล่มา “คิดว่าแกจะรอดไปได้เหรอไอ้กริสน์..ตายๆๆ”
น้อมพงษ์รัวปืนกลเข้าใส่
“วิ่ง!” กริสน์ตะโกนบอกทุกคน พิมมาดาและพวกเด็กๆ วิ่งหนีสุดชีวิต
น้อมพงษ์ยิงปืนใส่ไม่ยั้งแล้วก็หัวเราะสะใจ “ฮะๆๆ”
กริสน์พาพิมมาดากับเด็กๆหลบไปได้อย่างหวุดหวิด

กริสน์พาพิมมาดากับเด็กๆ มาซ่อนที่โขดหินแห่งหนึ่ง จีจ้ากอดกริสน์เอาไว้แน่น “ลูกพี่ต้องอยู่กับเรานะ”
“ไม่งั้นพวกเราจะต้องถูกยิงตายกันหมด” แจ๊สเสริม
“จีจ้า แจ๊ส โจ๊ก พวกเธอต้องปลอดภัย..ไม่ว่าจะเป็นยังไง ชั้นจะไม่ทิ้งพวกเธอ ชั้นจะปกป้องด้วยชีวิตของชั้นเอง” กริสน์บอกแล้วหันไปพูดกับโจ๊ก “โจ๊ก นายเป็นผู้ชายคนเดียว”
“ผมจะปกป้องทุกคนเอง” โจ๊กรับคำ
กริสน์เขกหัว “ชั้นจะบอกว่า อย่าอวดเก่ง เชื่อฟังน้าพิม เข้าใจมั้ย”
“เราจะรอดไหมนายกริสน์” พิมมาดาถามเสียงสั่น
“รอดแน่นอน” กริสน์ตอบอย่างเชื่อมั่น
“ชั้นจะเชื่อคำพูดนายได้ไง นายดีแต่หลอกลวง”
“คุณพิม..คุณต้องเชื่อใจผม..ผมบอกคุณได้แค่นี้”
กริสน์พูดพร้อมกับสบตาพิมมาดาด้วยแววตาที่แสดงถึงความรักและห่วงใย แล้วเขาก็วิ่งออกไปยิงพวกสมุน พิมมาดาดึงหลานๆ เข้ามากอดแล้วซ่อนตัวไว้
“โอปอล์..โอปอล์อยู่ที่ไหน” โจ๊กเป็นห่วงโอปอล์

โอปอล์กำลังกรีดร้องอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้าน “กรี๊ดๆๆ”
สมุนของจตุพล 2คนยืนอยู่ตรงหน้าของโอปอล์ ทั้งสองถือปืนอยู่ในมือแต่ยังเกี่ยงกันไปมา
“ชั้นทำไม่ลงว่ะ แกลงมือดิ”
“แกดิ”
“ชั้นลงมือเอง” เดชเอ่ยขึ้นแล้วเข้ามาล็อคคอสมุนทั้งสองก่อนจะจับมากระแทกกัน แล้วกระโดดฉีกขาเตะสมุนทั้งสองพร้อมกันจนสมุนทั้งสองหมอบไปอย่างง่ายดาย
“หึๆๆ ไม่รู้ซะแล้วว่าเดชเรียนกังฟูมาจากเฉินหลง..รีบหนีเถอะครับคูณหนู” เดชหันมาพบว่าโอปอล์หายไปแล้ว “อ้าว คุณหนู..คุณหนูหายไปไหน”
“ฮือๆ ป๊า ช่วยด้วย” เดชได้ยินเสียงโอปอล์ร้องไห้ดังมา เขาจึงตามเสียงไปจนถึงถังน้ำแข็ง เดชพบว่าโอปอล์กำลังนั่งขดตัวซ่อนอยู่ในถังน้ำแข็งด้วยความกลัว
“คุณหนู..ไม่ต้องกลัวแล้วนะครับ เดชอยู่นี่ทั้งคน ไม่มีใครทำอะไรคุณหนูได้แน่ๆ..ออกมาเถอะครับ”
โอปอล์ยังนั่งนิ่งไม่ยอมออก “ป๊า..โอปอล์จะหาป๊า”
“ป๊า..ยังไม่ว่างครับ..ไปกับเดชก่อนนะ เดชจะพาไปหลบในที่ปลอดภัย..นะครับ”
“ป๊า โอปอล์จะหาป๊า”
เดชพยายามข้อร้องอ้อนวอนแต่โอปอล์ก็ไม่มีทีท่าจะออกมา เดชได้แต่ยืนกลุ้มใจ

จตุพลยืนหัวเราะสะใจอยู่ที่รถกระบะที่จอดอยู่ เขาพูดใส่โทรโข่ง “เสี่ยอธิป เจ้าพ่อในตำนาน ทำได้แค่หัวหดอยู่แต่ในรูเหรอ ฮะๆๆ ออกมา” จตุพลทำเสียงเหมือนเรียกสุนัข “มาๆๆ ออกมา”
ผู้ใหญ่ชวดกับเจ๊ช้างที่กำลังยิงต่อสู้อยู่หลังที่กำบังรู้สึกโกรธแค้นแทน
“หน็อย มันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงซะแล้ว” ผู้ใหญ่ชวดแค้น
“แน่จริงก็หยุดยิง แล้วมาตัวๆกับเสี่ยสิวะ..ใช่มั้ยเสี่ย” เจ๊ช้างพูดแล้วเธอกับผู้ใหญ่ชวดก็หันไปมองที่อธิป เห็นอธิปกำลังเอาผ้ามาคาดหัว แล้วป้ายเขม่าควันที่แก้มคล้ายแรมโบ้
“เสี่ย..จะทำอะไร” ผู้ใหญ่ชวดร้องถาม
อธิปถือปืนขึ้นมา “ชวด ช้าง..พวกแกยิงคุ้มกันให้ชั้นด้วย..ไอ้หลานไม่รักดี วันนี้ แกกับชั้นได้เห็นดีกันแน่..ย้าก!”
อธิปวิ่งกระโจนออกมาจากที่กำบังทันที โดยมีผู้ใหญ่ชวดกับเจ๊ช้างลุกขึ้นยิงคุ้มกันให้ อธิปวิ่งฝ่ากระสุนคล้ายแรมโบ้ ทั้งกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง ทั้งกระโจนม้วนหน้า แล้วลุกขึ้นวิ่งต่อ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่จตุพล
จตุพลแสยะยิ้มแล้วตะโกนสั่งการให้สมุนยิงไม่หยุด ผู้ใหญ่ชวดกับเจ๊ช้างยิงพวกสมุนล้มคว่ำไป อธิปวิ่งเข้ามาใกล้จตุพลมากขึ้น จตุพลเริ่มเห็นท่าไม่ดี
อธิปกระโดดขึ้นมายืนบนกระโปรงหน้ารถกระบะที่จตุพลอยู่ ทั้งสองเผชิญหน้ากัน
“หมดเวลาของแกแล้ว” อธิปบอก
“ใครกันแน่ที่หมด” จตุพลย้อนถามพร้อมกับยิ้ม เขายกปืนขึ้นยิงทันที อธิปกระเด็นตกจากรถ
ผู้ใหญ่ชวดกับเจ๊ช้างเห็นดังนั้นก็ตกใจ “เสี่ย!”
จตุพลยืนมองอธิปอย่างสะใจ “ยุคของอากู๋มันหมดไปนานแล้ว ยุคนี้มันยุคของผม ฮะๆๆ”

อีกด้านหนึ่ง กริสน์วิ่งจ้ำสุดชีวิตไปตามหาด สักพักก็มีสมุนโผล่มาจากข้างทาง กริสน์ควักปืนยิงไปวิ่งไปซึ่งก็ถูกสมุนจนร่วงกันไปหมด
ชาวบ้านชายและหญิงพยายามหนีพวกสมุน แต่ถูกพวกสมุนกระชากตัวได้แล้วจะยิงทิ้ง กริสน์วิ่งเข้ามากระโดดถีบและอัดสมุนจนน็อกไป
“ไปหาที่ซ่อน เร็ว” กริสน์บอกชาวบ้านทั้งสอง
ชาวบ้านตั้งท่าจะหนีไป แต่ก็มีสมุนโผล่มาอีก
กริสน์คว้าสวิงบนเรือ แล้วกระโดดเอาสวิงเกี่ยวปืนจนปืนของสมุนหล่น จากนั้นเขาก็เอาสวิงเกี่ยวหัว แล้วกระชากจนสมุนหน้าคว่ำไปกับพื้น ก่อนที่เขาจะตามไปฟาดจนสมุนน็อกไป แล้วกริสน์ก็สั่งชาวบ้าน “ไปๆ หลบไป”
สมุนอีก 2คนวิ่งมาจากด้านหลัง กริสน์ใช้สวิงปักกับพื้น แล้วกระโดดลอยตัวถีบทั้งสองจนกระเด็น ขณะที่กริสน์กำลังสู้กับพวกสมุนอยู่ อยู่ๆ น้อมพงษ์ก็โผล่ออกมายกปืนยิงกราด พวกสมุนโดนยิงร่วง
กริสน์มองไปยังที่มาของกระสุน เห็นน้อมพงษ์ยืนยิ้มเหี้ยมเกรียม “อ้าว..ยิงผิด..โทษทีนะ”
“นี่แกยิงพวกเดียวกันเองเหรอวะ ไอ้ชั่ว” กริสน์ว่า
“ผลลัพธ์สำคัญกว่าวิธีการเว้ย” น้อมพงษ์บอกแล้วก็ระดมยิงอีก “ตายๆๆ”
กริสน์รีบวิ่งหนีกระสุน เขากระโดดไปหลบบนเรือ น้อมพงษ์ยังคงยิงไม่หยุด กระสุนมากมายเจาะเข้าที่ข้างเรือ เรียงเป็นชุดจนไม้และชิ้นส่วนเรือแตกหักกระจุยกระจายเป็นผุยผง
กริสน์ที่หลบอยู่ถึงกับบ่นออกมา “ไอ้โหด ไอ้บ้าสงคราม ทำไมไม่ไปอยู่ชายแดน” ทันใดนั้น เสียงปืนก็เงียบไป กริสน์กระชับปืนแล้วโผล่ออกไปหมายจะยิงสู้
กริสน์ถึงกับผงะเมื่อเห็นน้อมพงษ์ถือระเบิดอยู่ด้วยใบหน้าเหี้ยม
“รักนะคะคนดีของชั้น” น้อมพงษ์โยนระเบิดเข้าใส่ทันที
“รักบ้านมึงดิ!” กริสน์รีบกระโดดหลบ เรือลำนั้นระเบิดตูมทันที
“ก๊ากๆๆ ..โอ้ เมื่อมีไฟ ไฟ ไฟ ลุกขึ้นแจ่มจ้า สุขอุราเมื่อเรามาพร้อมหน้ากัน” น้อมพงษ์หัวเราะอย่างสะใจ

จตุพลยกปืนขึ้นเล็งไปที่อธิป อธิปพูดกับหลานตัวเอง
“ไอ้จตุพล ชั้นไปทำอะไรแกแค้นนักแค้นหนา แกถึงตอบแทนชั้นอย่างนี้”
“ก็แค่อากู๋ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ผมอยากจะอยู่..อากู๋ก็รู้ว่าวงการนี้ เบอร์หนึ่งก็มีได้แค่คนเดียว..แล้วจะเผาแบงก์กงเต็กตามไปให้นะอากู๋”
ทันใดนั้น ผู้ใหญ่ชวดกับเจ๊ช้างก็ยิงสวนมาที่จตุพล จตุพลรีบหลบทันที
“ตราบใดที่ชั้นยังอยู่ ใครก็ทำอะไรเสี่ยอธิปไม่ได้!” ผู้ใหญ่ชวดบอก
จตุพลจำต้องถอยโดยให้สมุนยิงคุ้มกัน เดชและโอปอล์เข้าถึงตัวอธิปจึงรีบลากเข้าไปหลบมุม
“ป๋า” โอปอล์ตกใจ “ป๋าโดนยิง”
“เดชมาช่วยแล้วนะครับเสี่ย..ลุกไหวมั้ยครับ”
“โอปอล์...ป๋าไหว...ป๋ายังไหว...ไม่เป็นไรนะคะ” อธิปบอกลูกสาว
เดชเข้ามาประคองอธิปให้ลุก ผู้ใหญ่ชวดกับเจ๊ช้างคอยยิงคุ้มกันให้ เดชกำลังจะพาอธิปหนีไปแต่จตุพลยกปืนขึ้นยิงทันที กระสุนถูกที่หัวไหล่ของเดชอย่างจัง
“โอ๊ย!!!ทำม้ายๆๆ พอจะเท่ทีไร ต้องแป้กทุกทีเลย” เดชคร่ำครวญ
“กรี๊ด!!” โอปอล์ร้องด้วยความตกใจ
เดชกับอธิปทรุดลงไปตรงนั้นพร้อมๆ กัน
“ไอ้เดช!!” ผู้ใหญ่ชวดตะโกนสุดเสียง
ผู้ใหญ่ชวด เจ๊ช้าง และพวกชาวบ้านยังยิงคุ้มกันให้อยู่ เดชพยายามจะประคองอธิปให้ลุกขึ้นแต่ก็ไม่มีแรง ทั้งสองทรุดลงไปอีกครั้ง
“ทิ้งชั้นไว้ แล้วพาโอปอล์หนีไป” อธิปสั่ง
“ไม่ ผมไม่ทิ้งเสี่ย” เดชบอก
“ไม่...โอปอล์ไม่ไป...” โอปอล์ร้องไห้

น้อมพงษ์เข้ามาดูซากเรือพร้อมกับมองหากริสน์ กริสน์ยังคงนอนกองอยู่ แรงระเบิดทำให้เขาระบมไปทั้งตัว กริสน์ลุกไม่ขึ้น ตาพร่า และหูอื้อ
น้อมพงษ์ได้ทีจึงเตะกริสน์เต็มแรง แล้วควักปืนเล็กที่ซ่อนเอาไว้ออกมาถือ
“ฮะๆๆ เมื่อกี้ยังเก่ง ทำไมทีนี้จ๋อยนักล่ะวะ..สู้มาดิ สู้มา!” น้อมพงษ์ชกลมโชว์ “สายสืบตำรวจมีดีแค่นี้เองเหรอ”
อยู่ๆ ก็มีเสียงกรี๊ดของพิมมาดากับเด็กๆ ดังมา สักพักสมุนก็ลากพิมมาดามาบริเวณที่กริสน์อยู่
“คุณพิม” กริสน์ตกใจ
“เฮ้ย หรือว่า แกแอบรักยัยพิมมาดา..ก๊ากๆๆ สาวๆเอ๊าะๆมีตั้งเยอะ ไม่ชอบ ไปชอบยัยพิม อีนี่มันลูกสามแล้ว แกยังจะเอาอีก รสนิยมแกโคตรเพี้ยนเลย ก๊ากๆๆ” น้อมพงษ์ว่า
“แก!” กริสน์แค้น
“ทำไม!! แกคิดหือเหรอ ไอ้ใฝ่ต่ำ” น้อมพง์ชกใส่กริสน์เป็นชุด “จ้องหน้าทำไม” น้อมพงษ์ชกอีก “ยังจะจ้องอีกใช่มั้ย..ได้..งั้นชั้นจะจัดให้เด็กแกสักดอก” น้อมพงษ์หันปืนไปทางพิมมาดา
กริสน์ถึงกับผงะ เด็กๆ ร้องระงม สมุนจับตัวเด็กๆ เอาไว้ น้อมพงษ์กำลังจะลั่นไกแต่อยู่ๆ ก็มีบูมเมอแรงลอยคว้างพุ่งมากระแทกปืนของน้อมพงษ์จนกระเด็นหล่นไป
“โอ๊ย!” น้อมพงษ์ร้อง
ห่างออกไป โอ้ยืนรับมูมเมอแรงท่าเท่อยู่ที่โขดหิน
“มาริโอ้!” แจ๊สตะโกน
“ชั้นเป็นอย่างบูมเมอแรง ขว้างไปยิ่งแรงยิ่งกลับมาเร็ว...เพื่อนแจ๊สฮะ เพื่อนโอ้มาช่วยแล้ว” โอ้ร้องบอก
สมุนหันปืนจะไปยิงโอ้ แต่โอ้รีบหลบทันที ทันใดนั้นสมุนของโอ้ก็โผล่ออกมาตามมุมๆ พวกเด็กๆ ยิงหนังสติ๊กใส่สมุนของน้อมพงษ์จนเต้นเป็นเจ้าเข้า
ส่วนสมุนน้อมพงษ์ยิงไปเท่าไหร่ก็ไม่โดนเด็กๆ โอ้โผล่ออกมายิงหนังสติ๊กโดนกกหูน้อมพงษ์ไปเต็มๆ
กริสน์หยิบทรายมาซัดเข้าตาน้อมพงษ์ทันที ส่วนพิมมาดาก็ชกเข้าที่กกหูของน้อมพงษ์ จนน้อมพงษ์ล้มกลิ้งไป
พิมมาดามองเห็นรถกระบะที่จอดอยู่ก็หันมาบอกหลานๆ “รถ..เด็กๆ ไปขึ้นรถเร็วๆ” พิมมาดาต้อนเด็กๆ ไปขึ้นรถ
พิมมาดารีบประคองกริสน์ไปขึ้นรถ ส่วนแจ๊สมองหาโอ้ สักพักโอ้ก็โผล่ออกมาจากมุมหนึ่ง พร้อมกับยกมือบ๊ายบาย แจ๊สบ๊ายบายตอบ พิมมาดาขึ้นรถแล้วตัดสินใจขับออกไปอย่างรวดเร็ว

ชาวบ้านช่วยกันพาอธิป โอปอล์ และเดชหลบไปที่มุมหนึ่ง โดยมีผู้ใหญ่ชวดกับเจ๊ช้างยิงคุ้มกันไว้
“กระสุนหมด..โธ่เว้ย เอาไงต่อดี” เจ๊ช้างบ่น
“ข้าก็ไม่รู้เว้ย” ผู้ใหญ่ชวดบอก
“โอ้มาช่วยอีกแรงแล้ว” โอ้วิ่งเข้ามาหา
“แกกลับมาทำไม ไอ้เดช” อธิปจะดุเดช
“คุณหนูซ่อนตัวอยู่ ไม่ยอมออกมา เรียกหาแต่เสี่ยคนเดียวครับ” เดชบอก
“โอปอล์” อธิปเรียกลูกสาว
“โอปอล์ไม่ไปไหนทั้งนั้น โอปอล์จะอยู่กับป๋า โอปอล์มีป๋าคนเดียวนะ”
“โอปอล์พูดซึ้งกินใจเดชมาก..เดชก็มีเสี่ยคนเดียว ถ้าไม่มีเสี่ยเดชก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง..เดชจะอยู่สู้กับเสี่ย..สู้เว้ย!”
“พวกข้าด้วย!” ผู้ใหญ่ชวด เจ๊ช้าง และโอ้ประสานเสียง
“ตายยากตายเย็นจริงๆ” จตุพลบ่น
น้อมพงษ์เดินเข้ามาสมทบ
“ไอ้นี่ดีกว่าคุณจตุพล” น้อมพงษ์ควักระเบิดออกมาแล้วยื่นให้จตุพล จตุพลรับมาแล้วถอดสลัก จตุพลตั้งท่าจะโยน อยู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น สมุนที่ยืนอยู่ข้างๆ จตุพลร่วงลงไป
“เฮ้ย..ใครวะ!” จตุพลตะโกนถาม
ตำรวจมากมายเดินเท้าวิ่งกระจายตัวไปซุ่มตามมุมต่างๆ แล้วล้อมเอาไว้ทุกด้าน รถตำรวจต่างแล่นเข้ามาจอดมากมาย
มาวินประกาศใส่ไมโครโฟน “มาวิน มือปราบสุดหล่อมาแล้วครับท่าน จะยอมหรือจะให้ยิง อำนาจในการตัดสินใจอยู่ในมือท่านแล้ว เลือกมา!”

พวกตำรวจกระจายกำลังกันเข้าล้อมเอาไว้ มาวินประกาศอีก
“วางอาวุธลงเดี๋ยวนี้..ใครตุกติก เรายิงแน่!”
จตุพลลังเล เขายังกำระเบิดที่อยู่ในมือแน่น แล้วก็ตัดสินใจโยน
“ยอมก็ไม่ใช่เจ้าพ่ออันดับหนึ่งสิวะ” จตุพลพูดแล้วโยนระเบิด
ระเบิดตกลงหน้ารถตำรวจแล้วระเบิดบึ้ม ตำรวจยิงต่อสู้ทันที พวกสมุนจตุพลกระจายกันยิงใส่ตำรวจ น้อมพงษ์ดึงจตุพลให้ถอยออกมา ทั้งสองปล่อยให้สมุนยิงสู้กับตำรวจไป

ผู้ใหญ่ชวด เจ๊ช้าง และโอ้ รีบพาอธิป โอปอล์ กับเดชแยกหลบออกมา
“เสี่ย..รีบหนีไปก่อน..พวกเราจะล่อตำรวจเอาไว้ให้เอง” เจ๊ช้างบอก
“ข้าไม่ไป” อธิปยืนกราน
“ไม่ไปไม่ได้ เสี่ยยังมีคุณหนูโอปอล์ต้องดูแล..ส่วนพวกเรา ไม่มีอะไรให้ห่วงอีกแล้ว” ผู้ใหญ่ชวดบอก
“หนีไปเถอะครับเสี่ย ไม่ต้องห่วงเรา อย่างมากก็ถูกตำรวจจับ ไม่ตายหรอก” โอ้บอก
“เดช..พาเสี่ยหนีไป” ผู้ใหญ่ชวดสั่ง
“แต่..” อธิปอ้ำอึ้ง
“ไปเถอะครับเสี่ย” เดชบอก
“ไอ้ชวด นังช้าง ระวังตัวด้วย” อธิปพูด
แล้วอธิป โอปอล์กับเดชก็พากันออกไป ผู้ใหญ่ชวดกับเจ๊ช้างมองตามอย่างโล่งอก
“ทีนี้ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราแล้ว” โอ้บอก
ตำรวจวิ่งเข้ามาพอดี “พวกมันอยู่ทางนี้”
“ไปเร็วช้าง ไอ้โอ้” ผู้ใหญ่ชวดบอก
โอ้ ผู้ใหญ่ชวดกับเจ๊ช้างรีบแยกย้าย โดยวิ่งล่อตำรวจไปคนละทาง

พวกสมุนของจตุพลและพวกชาวบ้านถูกจับมารวมตัวกัน ทั้งหมดถูกสั่งให้นอนราบไปกับพื้น มาวินเดินเข้าดูหน้าทีละคนๆ
“ทำไมมีแต่พวกลูกกระจ๊อก..ไอ้ผู้ร้ายตัวเป้งๆอย่างเสี่ยอธิป นายจตุพล มันไปอยู่ไหน..อย่าบอกนะว่ามันหนีรอดไปได้”
พวกตำรวจจ๋อยไปตามๆ กัน มาวินออกคำสั่ง
“ออกไปตามล่าสิ!! พวกมันคงยังหนีไปไม่ได้ไกล ไปๆๆ”
ตำรวจส่วนหนึ่งแยกย้ายกันออกไป ส่วนตำรวจอีกสองนายจับตัวผู้ใหญ่ชวดกับเจ๊ช้างมาหามาวิน
“แก..แกรู้ใช่มั้ยว่าเสี่ยอธิปหนีไปไหน บอกมา!!” มาวินบอก “ถ้าแกให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ชั้นจะช่วยให้แกได้ลดโทษ”
“ชั้นไม่เคยขายนาย” ผู้ใหญ่ชวดตอบเรียบๆ
ตำรวจอีกนายคุมตัวเจ๊ช้างเข้ามา มาวินเครียดหนัก
“โอ๊ย อุตส่าห์จัดชุดกำลังมาเต็มเหนี่ยวขนาดนี้ แต่ดันจับไอ้ตัวเป้งๆไม่ได้สักคน โอ๊ยๆๆ” มาวินประกาศก้อง “ไม่ว่าพวกแกจะอยู่ไหน ชั้นจะล่าตัวมาเข้าคุกให้ได้!”
มาวินพูดยังไม่ทันขาดคำก็มีบูมเมอแรงลอยมาโดนหัวเขาเต็มๆ “อ๊าก...ใครวะ”
โอ้ที่ยืนอยู่อีกมุมหนึ่งหัวเราะลั่นแล้ววิ่งหนีไป
“ไปจับไอ้เด็กนั่นมาเร็ว...ไป” มาวินโมโหสุดๆ

พวกเด็กๆ ที่ต่างก็ขอบตาดำกำลังนอนหงายเป็นเต่าทอง ทั้งหมดทั้งหัวเราะ ทั้งดิ้น ทั้งตะกุย ทั่วสนามฟุตบอลของโรงเรียน ครูหลายคนวิ่งวุ่นเข้ามาดูแลเด็กๆกันจ้าละหวั่น ครูบางคนลงไปดิ้นกับเด็กๆ ด้วย
ครูฟ้าใสยืนมองจากหน้าต่างห้องฝ่ายปกครอง กลุ่มพ่อแม่ของเด็กๆ นั่งรอคำตอบอยู่เต็มห้อง
“ว้อท แฮพเพ่น ทู มาย สติ้วเด้นท์” ครูฟ้าใสตกใจสุดขีด “เกิดอะไรขึ้นกับนักเรียนของชั้น”
ทันใดนั้น ปาล์มก็โผล่มาเกาะกระจกด้านนอกห้อง “แฮ่ๆๆ”
เด็กคนอื่นๆ ตามมาเกาะกระจกเหมือนปาล์ม เพราะในห้องนั้นมีขนมสวีทโอปอล์ที่ครูพงษ์พัฒน์ยึดจากเด็กๆ อยู่
“นี่โรงเรียนหรือหนังผีซอมบี้เนี่ย” ครูพงษ์พัฒน์ตกใจ
“ครูฟ้าใสจะว่ายังไงครับ..เด็กป่วยครึ่งค่อนโรงเรียนขนาดนี้ ทางโรงเรียนจะบอกว่าไม่ทราบสาเหตุ ไม่ได้..ผมไม่ยอม” ผู้ปกครองคนหนึ่งโวยวายขึ้น
แม่ของเด็กคนหนึ่งโบ๊ะหน้าไปด้วยพูดไปด้วย “เด็กๆไม่ได้ป่วย ไม่ได้เป็นโรค ไปหาหมอก็ตรวจอะไรไม่พบ”
“แต่อาการที่เห็น มันไม่ใช่ปกติธรรมดาแน่นอน” แม่ของเด็กอีกคนพูด
“คุณพ่อ คุณแม่ขา ทางโรงเรียนก็พยายามหาคำตอบสุดความสามารถแล้ว เราไม่ได้นิ่งนอนใจนะคะ” ครูฟ้าใสชี้แจงด้วยน้ำตารื้น “เด็กทุกคนก็เหมือนลูกในไส้อิชั้น เห็นพวกแกเป็นอย่างนี้ อิชั้นก็ทรมาน ไม่ต่างจากคุณพ่อคุณแม่หรอกค่ะ” ครูฟ้าใสพยายามเงยหน้าเพื่อไม่ให้น้ำตาไหล
“โถ ครูฟ้าใส..ทุกคนใจเย็นๆก่อนนะครับ..จริงๆแล้ว ทั้งหมดที่เราเห็น อาจจะเป็นแผนการรวมหัวกันต่อต้านฝ่ายปกครองของโรงเรียนก็ได้” ครูพงษ์พัฒน์บอก
“หมายความว่ายังไง” แม่ของเด็กคนหนึ่งสวนขึ้น
“ก็เด็กๆชอบทำผิดกฏ” ครูพงษ์พัฒน์เทของออกจากถุงใบแรก “กระโปรงสั้น กางเกงสั้นผิดระเบียบ โบว์ดอกกุหลาบยักษ์ ถุงเท้ายาว..แต่ที่หนักสุด คือถุงนี้” ครูพงษ์พัฒน์เทออกมามีแต่ขนมสวีทโอปอล์ “เด็กๆแอบกินขนมในห้อง นี่คือที่ผมยึดมาแค่ห้องเดียวนะครับ”
พวกเด็กๆ ด้านนอกเห็นขนมสวีทโอปอล์ก็มีปฏิกิริยากระหายมากขึ้น
“ดูๆ พอเห็นของที่ถูกยึดก็ออกอาการ..เห็นมั้ยครับ” ครูพงษ์พัฒน์บอก
“จะเป็นแค่การประท้วงได้ยังไง ในเมื่อตอนอยู่ที่บ้าน ลูกชั้นก็มีอาการแบบนี้” แม่คนหนึ่งบอก
“เพื่อความแนบเนียนสมจริงยังไงครับ..โอเค เดี๋ยวผมจะออกไปเจรจากับพวกเด็กๆดู แล้วทุกคนคอยดูนะครับ”
ครูพงษ์พัฒน์หิ้วถุงขนมออกไปนอกห้องฝ่ายปกครอง ครูฟ้าใสและพวกผู้ปกครองจับตามอง
ครูพงษ์พัฒน์เดินแหวกวงล้อมของเด็กๆออกไป “เดี๋ยวๆๆๆ ใจเย็นๆๆๆ ครูมีข้อเสนอ มาตกลงกับพวกเธอ”
“เอาขนมมา” ปาล์มตะโกน
“นายปาล์ม..นายเป็นแกนนำของเด็กซอมบี้พวกนี้ใช่มั้ย..ดี งั้นเรามาเจรจาตามประสาแกนนำกัน”
ปาล์มพยายามกระชากถุงขนมมา “เอาขนมมา”
ครูพงษ์พัฒน์ดึงถุงขนมไว้ “เว้ย ใจเย็นๆ คุยกันก่อน”
ปาล์มกระโดดเข้ากัดแขนครูพงษ์พัฒน์ทันที เด็กคนอื่นๆรุมกัด ครูพงษ์พัฒน์พยายามวิ่งหนีจนล้มลงไป พวกเด็กๆ กระโจนเข้ามารุมครูพงษ์พัฒน์ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด
“เบาๆๆ ปล่อยครู..โอ๊ยย อย่ากัด..โอ้ว นั่นไม่ใช่ขนม..ครูยอมแล้ว”
ในที่สุด ปาล์มก็แย่งเอาถุงขนมไปได้
พวกเด็กๆไปรุมแย่งกันกินขนม ไม่สนใจครูพงษ์พัฒน์อีก
ครูฟ้าใสและพวกผู้ปกครองมองอยู่ในห้องฝ่ายปกครอง
“โถ ยิ่งเห็นยิ่งใจจะขาด” ครูฟ้าใสคร่ำครวญ
“คุณครูไม่ต้องดราม่า..ถ้าวันนี้พวกเราไม่เห็นการแก้ไขปัญหาที่ดีขึ้น เรื่องยาวแน่!” แม่คนหนึ่งขู่
ครูฟ้าใสหน้าซีด พวกพ่อแม่เดินออกจากห้องไป สวนกับครูสาวที่หน้าตาตื่นวิ่งเข้ามา
“ครูใหญ่ขาๆ..แย่แล้วค่ะ คือ..คุณเมทินีค่ะ ข้างนอก”
เสียงเมทินีประกาศใส่ไมโครโฟนดังทั่วบริเวณ “พ่อแม่พี่น้อง..เราจะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว” สิ้นเสียงของเมทินีพ่อแม่ทั้งหมดก็เฮรับ

ครูฟ้าใสกับครูสาวรีบพากันเดินออกไป ครูพงษ์พัฒน์กำลังจะเดินตามไปแต่ก็ต้องชะงัก เขาเห็นขนมสวีทโอปอล์ตกอยู่จึงเข้าไปหยิบ
“มันจะอร่อยแค่ไหนกันเชียว” ครูพงษ์พัฒน์หยิบขนมมาแตะลิ้นเพื่อชิม “อื้ม อร่อยว่ะ”

ครูพงษ์พัฒน์กินอีกเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด







Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2555 9:12:05 น.
Counter : 370 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]