Q[-___-Q ma leaw ja
Group Blog
 
All Blogs
 

วิธีประหยัดค่าโทร แบบน่ารัก น่ารัก

วิธีประหยัดค่าโทร แบบน่ารัก

1. Save เลขหมายโทรศัพท์ ของแฟน ในมือถือเครื่องของคุณโดย SaveName ว่า 'คิดถึงเหมือนกัน' แทนชื่อแฟนของคุณ

2. Save เลขหมายโทรศัพท์ ของคุณ ในมือถือของแฟนโดย SaveName ว่า 'คิดถึงนะ' แทนชื่อของคุณ

3. เมื่อถึงเวลาที่จะต้องโทรหากัน คุณก็โทรหาแฟนสัก 1 - 2 ตู๊ดแล้ววางสาย ที่เครื่องของแฟนก็จะ Show Miss Call เมื่อListดูก็จะพบข้อความว่า 'คิดถึงนะ'

4. เช่นเดียวกัน เมื่อแฟนต้องการจะตอบว่า คิดถึงเหมือนกันก็ให้โทรหาคุณ แล้ววางสาย Show Miss Call เมื่อList ดู คุณก็จะพบข้อความว่า 'คิดถึงเหมือนกัน '

เท่านี้คุณสามารถก็ประหยัดค่าโทรไปได้อย่างน้อยก็วันละ 6 บาท เก็บเงินไว้พาแฟนไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนดีกว่า

นั่นมันสำหรับแฟนกัน ถ้าแต่งแล้วต้องตามนี้เลย

1. Save เลขหมายโทรศัพท์ ของเมีย ในมือถือเครื่องของคุณโดย SaveName ว่า 'เองอยู่ไหน ทำไมยังไม่กลับบ้าน' แทนชื่อเมีย

2. Save เลขหมายโทรศัพท์ ของคุณ ในมือถือของเมียโดย SaveName ว่า 'ติดประชุม(โว้ย)' แทนชื่อของคุณ

3. เมื่อถึงเวลาเมียตามกลับบ้าน จะต้องโทรหาคุณ คุณไม่ได้รับเพราะ....ก็จะ Show Miss Call เมื่อListดูก็จะพบข้อความว่า 'เองอยู่ไหน ทำไมยังไม่กลับบ้าน'

4. เช่นเดียวกัน คุณก็โทรหาเมียคุณ ๑ ตู๊ด แล้ววางสาย เมียคุณก็จะเห็น Miss Call เมื่อList ดู คุณก็จะพบข้อความว่า 'ติดประชุม(โว้ย)'

เท่านี้คุณสามารถก็ประหยัดค่าโทรไปได้อย่างน้อยก็วันละ 6 บาท แต่อาจต้องนอนนอกบ้าน




 

Create Date : 06 สิงหาคม 2551    
Last Update : 6 สิงหาคม 2551 9:22:42 น.
Counter : 275 Pageviews.  

Test บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรส-ยี่ห้อไหนคุ้ม อร่อยกว่ากัน

Test บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรส-ยี่ห้อไหนคุ้ม อร่อยกว่ากัน






“จน…เครียด…กินมาม่า”
“ไว ไว คือปัจจัยที่ 5 ของเรา”
“โซ้ย…ยำ ยำในยุคที่เศรษฐกิจ “สกรัม” คนจน…!”


หลายคนอ่านข้อความที่แปะหลังสิบล้อข้างต้นถึงกับทำเสียงครางในลำคอเออ… ออ…! ทำนองเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับการเล่นเชิงล้อๆประมาณว่าในยุคที่น้ำมันแพง ข้าวแกง ก๊าซ ถุงยาง กางเกงใน กุ้ง-ปลาของชาวประมงและผงซักฟอก ฯลฯ จ่อขึ้นราคาอีกละรอกใหญ่
ก็แหม...ไม่ให้พวกเขา(หมายถึงบริษัทผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป) สำคัญตัวเองอย่างนั้นได้ไงเพราะจากการประมาณการตัวเลขคร่าวๆ ปัจจุบัน
คุณรู้หรือไม่ว่าต่อหนึ่งวัน เราๆ ท่านๆ โซ้ย…บะหมี่กึ่งสำเร็จวันละมากถึง 5-6 ล้านซองต่อ 1วัน หรือหากจะคำนวณและพูดกันแบบภาษานักการตลาดปีๆ หนึ่งตลาดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในบ้านเรามีมูลค่าเกือบหนึ่งหมื่นล้านเลยทีเดียว
เรียกได้ว่าสินค้าไฮเทคบางชนิดฟังตัวเลขมหาศาลอย่างนี้ “มีเขิน”

ทั้งนี้คงจะไม่ผิดที่จะบอกว่า ณวันนี้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ผุดขึ้นมามากมายกำลังจะครองเมืองอยู่รอมร่อ เสนอตัว(ขณะเดียวกันก็แข่งขันกันเอง)มาช่วยพวกเราประหยัดค่ากินค่าใช้จ่ายให้แก่มนุษย์เงินเดือนในแต่ละบาท-สตางค์ชนิดที่มนุษย์เงินเดือนเต็มใจนั้น
คำถามมีอยู่ว่าขณะที่เรามีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยืนจังก้าให้เราๆ ท่านๆ เลือกมากมาย หลาย Brandหลายรสชาติ คุณสงสัยหรือไม่ว่า ยี่ห้อไหน รสชาติไหน เป็นอย่างไรซื้อแล้วคุ้มค่าและทุ่นเงินในกระเป๋าในช่วงเวลาหฤโหดแบบนี้มากที่สุดแล้ว
นั่นซิ…?
วันนี้ นอกจาก Metro life มี Scoop Test สินค้าให้แก่แฟนพันธุ์แท้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งขาจรและขาประจำเพื่อเปรียบเทียบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหลายรส หลายยี่ห้อในท้องตลาด ที่สุดแล้วถ้าเราจะพึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปประทังท้องซื้อยี่ห้อไหนไม่เพียงคุ้มค่า
และสมกับคำที่ให้ใครๆ เรียกว่า “ปัจจัยที่ 5” มากที่สุด
ก็อย่างว่าละครับวันนี้เราอยู่ในยุคที่น้ำมันใกล้จะแตะ 60 บาท-ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน-รถทะลุ7 % แต่ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่งแตะ 200 บาทดังนั้นเงินแต่ละเหรียญ แต่ละเฟื้องจะกระเด็นจากกระเป๋า

มันต้องคำนวณดีๆ นะคุณ


*********

การเดินทางของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
จากญี่ปุ่นถึงเมืองไทย


บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยนายอันโด โมโมฟุกุ ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท นิชชินประมาณปี 1958 ซึ่งเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นประสบกับปัญหาข้ามยากหมากแพงทำให้ชาวญี่ปุ่นต้องทานแต่อาหารที่ราคาถูกและสะดวกในการทำหรือหาทาน ซึ่งก็คือราเมน ทำให้นาย อันโด ได้พยายามคิดค้น ราเมนที่ สามารถทำทานเองที่บ้านเก็บไว้ได้นาน และราคาถูก ขึ้นมา จนในที่สุดก็ได้ 'ชิกิ้นราเมน'ขึ้นมา สำหรับประเทศไทย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้เข้ามาราวปี พ.ศ. 2514-2515บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อแรกในประเทศคือ 'ซันวา'ที่มีต้นแบบมาจากบะหมี่ญี่ปุ่นที่ต้องต้มก่อนทาน


************


เลือกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ยี่ห้อไหนคุ้มค่าที่สุด





บอกตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนนะครับว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้ง 5 ยี่ห้อ 5 รสชาติที่เรานำมา Test ในวันนี้ เราวัดจากความคุ้มค่าทางราคา พูดง่ายๆ เอาความ “ถูก” เป็นตัวตั้งโดยปัจจุบันราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองขายปลีกที่ถูกที่สุดคือ 6 บาท โดยเราจะเอาราคา 6 บาทตั้งและไล่ๆไปตามแต่ละยี่ห้อ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าของเงินเป็นหลักหลังจากนั้นก็ค่อยมาว่ากันเรื่องการให้ความสำคัญกับวิธีโดยใช้วิธี Test เรื่องรสชาติ แบบที่ใครๆ ต่างเชื่อโฆษณาที่กรอกหูเราปาวๆ ว่า “ต้มยำทะเลหม้อไฟ” ของฉันนะมันอร่อยและเผ็ดร้อนหรือกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของฉันนะเพราะว่าฉันราคาถูกที่สุดในบรรดาเซกเมนต์เดียวกันเป็นต้น Test ดูว่ามันดีและอร่อยจริงสมคำร่ำลือหรือไม่

เมื่อเข้าใจในแบบเดียวกันก็เสียบปลั๊กต้มน้ำร้อน...กำเงิน6 บาทอย่างมีความหวัง และค่อยๆ ตามเรามา อ้อ... อย่าลืมค้นตู้เย็นหาผัก-หมูสาดเข้าไปนิดก็ได้นะ เพื่อประโยชน์และโภชนาที่ดีกว่ากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพียวๆ

************

ยี่ห้อที่คุ้มที่สุด
1.ยำยำ








รายละเอียดมีรสชาติให้เลือกทั้งหมด 10 รสชาติ เช่น รสต้มยำกุ้งน้ำข้น,รสหมูสับ, รสไก่โอชา, รสต้มยำกุ้ง,รสต้มแซบตำรับอีสาน และรสต้มยำทะเลหม้อไฟ เป็นต้น

รสที่ใช้ Test
ต้มยำทะเลหม้อไฟ เหตุผลเป็น 1 ในสี่รสชาติที่ออกมาใหม่และได้รับความนิยมสูงสุด
= ขนาด 67 กรัม (6บาท)

จุดแข็ง

1. เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆรสต้มยำทะเลหม้อไฟถือว่าคุ้มค่ามากที่สุดในตลาดกับขนาด 67 กรัมในราคา 6 บาท

2. เครื่องปรุงมีกลิ่นหอมมากๆ นอกจากจะแถมซองน้ำพริกเผาแล้วรสนี้ยังเด็ดตรงนี้ได้นำเอา ครีมผง (โปรตีนนม) พริกป่น พริกคั่ว หอมแดง กระเทียมซอสถั่วเหลือง เกร็ดเนื้อกุ้งและเกล็ดปลาแมคเคอเรสเอามาผสมรวมกันไว้อยู่ในซองเดียว ทำให้พอใส่ลงไปแล้วนอกจากจะลดความมันของน้ำพริกเผาไม่ให้ดุเดือดแบบที่มันควรจะเป็นซองเครื่องปรุงที่ว่ายังเพิ่มพลานุภาพทำให้รสชาติของต้มยำทะเลหม้อไฟกลมกล่อมแบบไม่มันอีกด้วย

3.เมื่อผ่านน้ำร้อน 3 นาทีแล้วถือว่าหน้าตาดูดีไม่ผิดหวัง เพราะเส้นยังเรียวเล็กชวนเรียกน้ำลาย แถมกลิ่นกุ้งกลิ่นมันกุ้งลอยหอมฉุยก็มาตามนัดแบบที่เขาโฆษณาด้วย

4. น่าแปลกใจ…กับอีกหนึ่งจุดเด่นกล่าวคือ เมื่อปล่อยให้ยำยำรส “ต้มยำทะเลหม้อไฟ”คลายความร้อนมันจะยิ่งส่งกลิ่นหอมมันกุ้งฉุยแถมรสชาติยังเข้มข้นและอร่อยเพิ่มมากขึ้นอีกใครบอกว่ากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินได้แต่ตอนร้อนๆ เย็นแล้วก็อร่อยได้

5.กิน “ยำยำ”จัมโบขนาด 67 กรัม เพียง 2 ซองหรือเท่ากับ 134 กรัม ไม่เชื่อว่ามันจะอยู่ท้องไปถึงครึ่งวัน

************

2. มาม่า






รายละเอียด
มีให้เลือกชิมกว่า 31 รสชาติได้แก่ เจรสต้มยำ เจรสเต้าหู้เห็ดหอม รสต้มยำกุ้ง รสต้มยำกุ้งน้ำข้นรสต้มยำกุ้งบิ๊กแพ็ค รสต้มยำเส้นชาเขียว รสเป็ดพะโล้ รสผัดขี้เมาแห้ง รสเย็นตาโฟรสหมูต้มยำ เป็นต้น

รสที่ใช้
Test รสชาติหมูสับเพราะเป็นรสที่ขายดีที่สุดในบรรดาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทย
= ขนาด 60 กรัม (6บาท)

จุดแข็ง

1.น้ำซุปที่เข้มข้นส่งกลิ่นหอมของหมูสับอย่างชัดเจน

2.รสชาติที่เป็นกลางรับประทานได้ทุกเพศ ทุกวัย

3.เก็บไว้กินได้นานถึง 6 เดือน นับจากวันผลิตจากหน้าซอง

4.ระยะเวลาในการเปิดถ้วยดูเส้นที่อืดน่ากินต้องประมาณ4 นาที แล้วจะรู้สึกว่ากินอิ่มกว่าแช่น้ำร้อนเพียงแค่ 2-3 นาที เพราะเส้นจะดูดน้ำทำให้เส้นอืดขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าให้ดีอย่าแช่ไว้เกิน5 นาที จะทำให้เส้นขาดความเหนียวนุ่มใช้ตะเกียบคีบทีเส้นแทบขาด

5.เครื่องปรุงที่ประกอบไปด้วย ธาตุไอโอดีน 50ไมโครกรัม, ธาตุเหล็ก 5 มิลลิกรัมและวิตามินเอ 267 ไมโครกรัม ซึ่งช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหาร

**************

3. เอฟ เอฟ








รายละเอียด

มีหลากหลายรสชาติมาก เช่น รสปรุงเสร็จ,รสเอ็กซ์โอซ๊อส, รสเนื้อ, รสต้มยำทะเล, รสต้มยำกุ้ง, รสเป็ดพะโล้,Oriental เป็นต้น
รสที่ใช้ Test
รส Oriental เพราะเป็นรสที่สามารถกินได้ทุกวัยและขายดีที่สุด
= ขนาด 60 กรัม (6บาท)

จุดแข็ง
1.เส้นเหนียวเล็กและเหนียวนุ่มไม่แข็งกระด้างลิ้น ที่สำคัญเส้นไม่คืนตัวและไม่อมน้ำเวลานอนอยู่ในน้ำร้อนนานๆ

************

4. ไว ไว






รายละเอียด
รสที่ผลิตมีทั้งหมด 12 รสเช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปรุงสำเร็จ รสหมูสับต้มยำ รสต้มยำกุ้งน้ำข้นรสหอยลายผัดฉ่า ควิก รสต้มโคล้ง ควิกรสต้มยำกุ้ง ควิกรสต้มยำมันกุ้งและควิกรสกุ้งนึ่งมะนาว เป็นต้น

รสที่ใช้ Test
รสกุ้งนึ่งมะนาว เพราะเป็นรสใหม่ล่าสุดและเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น
=55 กรัม (6 บาท)

จุดแข็ง
1. เครื่องปรุงนั้นมีส่วนผสมทั้งกุ้งผงมะนาวผง พอเติมน้ำร้อนลงไปทำให้คลุกเคล้ากันเข้าที่ คุณก็จะได้กลิ่นกุ้งและกินมะนาวลอยหอมฉุยมาเตะจมูก

2. รสชาติจัดจ้านถึงใจ

3. เส้นของไวไวควิกนั้นจะมีรสเค็มในตัวดังนั้นเมื่อใส่น้ำลงไป
น้ำซุปที่ได้จะมีรสเค็มโดยไม่ต้องเติมน้ำปลาเพิ่ม

*************

5. เทสโก้





รายละเอียด
มีรสชาติให้เลือกน้อย เช่น ต้มยำกุ้ง รสหมูสับและ Oriental เป็นต้น
รสที่ใช้ Test
“รสต้มยำกุ้ง” เพราะได้รับความนิยมมากที่สุด
= 55 กรัม / 6 ซอง 20บาท เฉลี่ยซองละ 3.33 บาท (ไม่มีขายปลีก)

จุดแข็ง
1. ราคาถูกที่สุด
2.ถือว่าเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่แฟร์ดีเพราะหากคุณไม่ถูกใจในรสชาติสินค้า ด้านหลังซองเขาระบุว่ากรุณานำมาคืนหรือเปลี่ยนใหม่ได้ที่ เทสโก้ โลตัส ทุกสาขา น่าสงสัย…ก็แค่ว่าแล้วพวกเราจะนำบะหมี่กึ่งสำเร็จที่ไม่พอใจเอาไปคืนในรูปหรือสภาพไหนเท่านั้น

************

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กับสิ่งที่ไม่ควรเชื่อ






อย่างที่จั่วหัวละครับ บางอย่างที่แฟนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเชื่อๆตามกันมาเข้าข่ายเป็นความเชื่อ บางอย่างเข้าขั้นงมงาย เช่นเรื่องการใส่น้ำร้อนและทิ้งไว้ 3 นาที หรืออย่างเรื่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปราศจากการใส่ผงชูรส ฯลฯ วันนี้เรา Test มาให้ทุกๆ คนดูแล้วครับว่าจริงหรือหลอก...!

ความเชื่อที่ 1เทน้ำร้อนทิ้งไว้ 3 นาทีกินได้เลย

อันนี้เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะใส่ใจตั้งคำถามว่าจริงๆแล้วเมื่อแกะซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรสที่ชอบใส่ชามเติมเครื่องปรุงในซองที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อนั้นๆแล้วจึงกับกดต้มน้ำร้อนที่มีจุดเดือดอยู่ที่ 100 องศาแล้วปิดฝารอ 3 นาที บะหมี่จะสุกเส้นจะนิ่มนวลดูน่ารับประทานทั้งหมดซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดครับ เพราะจากที่เราได้ทดลองทำตามขั้นตอนดังกล่าวโดยเริ่มจากการใช้กาต้มน้ำร้อนแบบเสียบไฟยี่ห้อ “ชาร์ป”ต้มน้ำร้อนทิ้งไว้กระทั่งปรอทวัดความร้อนหน้ากระติกระบุว่าขณะนี้น้ำมีอุณหภูมิ 100 องศาแล้ว

จึงทำตามขั้นตอนที่ข้างซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูประบุไว้ที่ละขั้นตอน

1.นำบะหมี่ใส่ชาม ใส่เครื่องปรุงแล้วเติมน้ำเดือด 1 ถ้วยครึ่ง ปิดฝาทิ้งไว้ 3 นาที

ปรากฏว่าเอาเข้าจริงแล้วบะหมี่ทุกยี่ห้อที่เรานำมา Test นั้นเส้นเหลืองของมันถือว่ายังไม่สุกดี แถมยังเกาะตัวติดกันเป็นแพเมื่อลองเอาตะเกียบคีบเอาเส้นเข้าปาก คุณจะได้รับรู้ว่ามันไม่นิ่มและมีเสียงกรุบกรับ คล้ายๆ กับการเคี้ยวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเล่นๆ ก่อนเอามาต้มที่สำคัญเครื่องปรุงยังไม่กระจายไปซึมซับตัวอยู่ในเส้นยังเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่นซึ่งมันจะทำให้ความอร่อยและความเข้มข้นที่ควรจะเป็นลดทอนลงไปพอประมาณ

อย่างไรก็ดี เราลองทำตามขั้นตอนข้างต้นใหม่คือ ขั้นตอนว่า นำบะหมี่ใส่ชาม ใส่เครื่องปรุง แล้วเติมน้ำเดือด 1 ถ้วยครึ่ง ปิดฝา ทิ้งไว้จากเดิม 5 นาที

ปรากฏว่าผลลัพธ์ต่างกันมากๆเพราะเมื่อเปิดฝาออกมา หน้าตาของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เรานำมาเทสต์ทั้งหมดสีสันของเส้นเหลืองผ่องใสแถมกลิ่นเครื่องปรุงที่แทรกซึมเข้าไปในเส้นยังแย่งกันส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งดูน่ากินผิดจากวิธีแรกที่เราทำตามขั้นตอนที่ระบุหลังซอง

ความเชื่อที่2 สวย ใส น่ากิน...ไม่ได้เป็นแบบที่คุณเห็น

คุณเคยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่หมด และเคยหันไปมองสภาพมันในชามไหมถ้ายังไม่เคย..

เราทำผลการตัดสินมาแล้วว่า

10 นาทีผ่านไป เส้นที่ถือว่าอมน้ำซุปในชามจนมีสภาพบวมเบ่งได้แก่ ยี่ห้อ ยำยำ ไวไว มาม่ามีสภาพบวมและมีสีสันผิดไป กล่าว คือมีสีขาวซีด ไม่เหลืองอร่ามน่ากิน มีสภาพคล้ายๆกัน แต่สำหรับ เอฟเอฟ และ Tesco ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสภาพไม่บวมน้ำมากเรียกได้ยังพอได้เห็นสภาพเมื่อตอนโดนน้ำใหม่ๆได้ คือเรียว เล็กได้รูป แต่รสชาติก็ไม่เวิร์ค

อย่างไรก็ดี เชื่อกันว่าพอกินเส้นที่มีลักษณะอืดเข้าไปแล้ว มันจะทำให้หิวน้ำ






ความเชื่อ3 อย่าเชื่อโฆษณา.. ปรุง หรือไม่ ต้องตัดสินใจเอง

หัวข้อนี้คนมือหนักและชอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับควรอ่านครับเราเตือนนิดว่า

ส่วนใหญ่แล้ว ควรชิมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป“รสหมูสับ” ของคุณก่อนเหยาะๆสิ่งแปลกปลองเพิ่มลงไป โดยเฉพาะน้ำปลา เพราะมันจะทำให้ น้ำซุปของรสหมูสับซึ่งมีรสเค็มนำอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความเค็มเข้าไปใหญ่

ส่วนถ้าเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้ออื่นๆที่เรานำมา Test เช่น

-รสกุ้งนึ่งมะนาว เปรี้ยวนำ ซึ่งหากยิ่งบีบมะนาวแบบที่โฆษณาในทีวีทำให้เราดูมันน่าจะมีรสชาติจะออกมาไม่น่าภิรมย์สักเท่าไหร่

-ผิดกับ Tesco ต้มยำกุ้งที่ว่ากันว่า รสชาติไม่จัดแถมยังออกไปในทางเค็มและเผ็ดนำนิดๆ

-ส่วนเอฟเอฟ Oriental รสนี้ที่เขาโฆษณาหน้าซองว่าเป็นรสปรุงเสร็จซึ่งหลายคนเดาว่ารสชาติน่าจะออกมากลมกล่อม ผิดถนัดครับ มันจืดสนิทอย่างไรก็ดีในบรรดาที่เรา Test มา รสนี้เรียกร้องและเปลืองพริก น้ำปลา มากที่สุด

-ส่วนรสชาติที่เราถือว่า OK มากที่สุด เห็นจะเป็น ยำยำ รสต้มยำทะเลหม้อไฟ เพราะมันได้ทั้งรสเผ็ด ร้อนหอมกรุ่นและมีเครื่องเทศแซมๆ อยู่

ความเชื่อที่4 หลายคนคิดว่าเครื่องปรุงของบะหมี่กึ่งสำเร็จใส่ผงชูรสมาก

ซึ่งจากการที่เรา Test บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาแล้วทั้งหมด5 ยี่ห้อ ซึ่งก็ถือได้ว่า ทุกๆ ยี่ห้อมีปริมาณผงชูรสมาก

อย่างไรก็ดีถ้าสังเกตให้ดีปัจจุบันผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เรานำมา Test ต่างก็เลี่ยงมาใช้คำว่า“โมโนโซเดียมกลูตาเมท” (และผงปรุงรส)แทนที่จะใช้คำว่า “ผงชูรส” คนเมืองอย่าเราๆอาจจะรู้ทัน แต่ น้องๆ หนูๆ ปู ย่า ตา ยาย เจอก็อย่าหลงเล่ห์กลของเขาเชียวล่ะทั้งนี้มียี่ห้อเดียวในบรรดาที่เรา Test กล้าใส่คำว่าผงชูรสลงไปอย่างชัดเจนก็คือTesco

**************

กินอย่างไรในยุคฝืดเคือง

น่าสนใจนะครับ ว่าถ้ามนุษย์เงินเดือนเมินอาหารตามสั่ง กระทั่งงด เมนู Junk food แล้วหันมาใช้บริการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป3 มื้อ คุณว่ามันจะทุ่นค่าใช้จ่ายของเราไปเท่าไหร่และนี่คือตารางที่เราทำขึ้นมาเปรียบเทียบให้ดูว่าถ้าเรา “หัวหมอ”สิ้นเดือนเราจะมีเงินเหลือเท่าไหร่…!

ตารางเทียบ

สมมติ นางสาว ก.จบปริญญาตรีเงินเดือนเริ่มต้น 8,500 บาทด้วยค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น

แต่เงินเดือนเท่าเดิมทำให้นางสาว ก.ต้องปรับชีวิตการบริโภค โดยหันมาบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 3 มื้อต่อวัน

มาดูว่าการเปลี่ยนมาบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป3 มื้อต่อวันของเธอเดือนหนึ่งนั้นจะสามารถประหยัดเงินได้เท่าไร





1 เดือนเก็บเงินได้ 2,100 บาท
ถ้า 1 ปีนางสาว ก.จะมีเงินเก็บ 25,200 บาท ลองคิดดูซิครับว่าถ้าคุณกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากกว่านี้จะมีเงินเก็บเท่าไหร่แต่อย่างไรก็ดีเพื่อสุขภาพที่ดี มีผัก มีหมู มีไข่ไก่ หลงเหลือในตู้เย็นก็มิกซ์ๆใส่

รู้ไว้ใช่ว่า

แนะนำนิดหนึ่งนะครับว่าการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากๆ เสี่ยงต่อการเป็นโรคไต

ดังนั้นควรอ่านและพิถีพิถันซักหน่อยว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อไหน

นอกจากจะดูว่ายี่ห้อไหนมีรายละเอียดว่ามีสารไอโอดีนธาตุเหล็ก และวิตามินเอ แล้ว

อย่างอ่านแล้วพานทำซื่อๆ พูดง่ายๆคุณควรเพิ่มเติมไข่หรือเนื้อสัตว์และผักลงไปทุกครั้งอาจเติมเครื่องปรุงครึ่งซองหรือน้อยกว่า

และไม่ควรรับประทานแบบดิบ ๆเพราะเส้นบะหมี่จะลงไปพองตัวในกระเพาะอาหาร เกิดการจุกแน่นท้องได้
อย่างไรก็ดี ให้รับประทานอาหารไทยที่มีสารอาหารครบ5 หมู่ สลับหรือทดแทน

เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ ขนมจีนข้าวผัด เข้าไปด้วยเพื่อสุขภาพอันดี




 

Create Date : 06 สิงหาคม 2551    
Last Update : 6 สิงหาคม 2551 12:46:16 น.
Counter : 354 Pageviews.  

นิสัยของกรุ๊ปเลือดแต่ล่ะกรุ๊ป น่ารักดีค่ะ 55+































 

Create Date : 06 สิงหาคม 2551    
Last Update : 6 สิงหาคม 2551 9:15:16 น.
Counter : 678 Pageviews.  

เถียงยังไงให้ยังรัก

เมื่อพูดถึงเรื่องความขัดแย้ง โต้เถียงหรือทะเลาะกันคงไม่มีใครชอบ แต่คนเราร้อยพ่อพันแม่เมื่อมาอยู่รวมกันเรื่องอย่างนี้หลีกเลี่ยงได้ยาก โดยเฉพาะกับผู้หญิงคนสำคัญคนนั้นยิ่งแล้วใหญ่ พ่อแง่แม่งอนบางครั้งก็ดูน่ารักดี แต่มากๆ เข้าก็อาจทำให้เกิดรอยร้าวที่ยากจะประสานได้

เคยได้ยินประโยคที่ว่า 'โกรธเพื่อรักกัน' หรือเปล่าครับ ประโยคนี้อาจฟังดูแปร่งๆ สำหรับบางคน แต่หากมองให้ลึกลงไปความขัดแย้งก็ถือเป็นกลไกของธรรมชาติที่จะทำให้คนเรารู้จัก รู้ใจและมีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกันมากยิ่งขึ้น

แต่ไม่ว่าจะมีปากมีเสียง มีอารมณ์ขุ่นเคืองกับหวานใจในเรื่องเล็กหรือใหญ่และอยากเถียงให้ชนะขนาดไหนก็ตาม แต่ถ้ายังอยากอยู่ด้วยกันต่อไปล่ะก็ ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณผู้ชายพึงระลึกไว้เสมอ





1.นิ่งไว้ก่อนเมื่อมีอารมณ์
ไม่ว่าผู้หญิงของเราจะทำตัวเอาแต่ใจไร้สาระ น่าหมั่นไส้ หรือ แผดเสียงกรี๊ดใส่แก้วหูเข้าขั้นอีเดียทขนาดไหน แต่ถ้าคุณรู้ตัวว่าควันเริ่มออกหูแล้ว สิ่งแรกที่ต‰องทำคือสงบสติอารมณ์และความฉุนเฉียวเอาไว้ให้มิด เพราะถ้าคุณระเบิดอารมณ์สิ่งที่คุณพูดออกมาก็จะไม่มีความหมายอื่นนอกจากยิ่งทำให้เกิดรอยแผลลึกกันเข้าไปอีก แถมถ้าเธอคนนั้นมีองค์มาลงด้วยยิ่งไปกันใหญ่ คุณจึงต้องนิ่งมีสติไว้ให้มั่นและหาโอกาสอธิบายถึงเหตุผลของคุณในจังหวะที่เหมาะสมตามทำนองว่าพูดน้อยแต่ต่อยหนัก (แต่อย่าต่อยจริงๆ นะ เดี๋ยวเป็นเรื่อง ช่วงนี้เขายิ่งรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงอยู่ด้วย)

2.เหตุผลสำคัญที่สุด
เวลาที่คนเราเถียงกันนั้นไม่ใช่เพื่อเอาชนะกันเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อทำความเข้าใจในเหตุผลของกันและกัน จะมีประโยชน์อะไรที่เราเถียงชนะ แต่เจ้าหล่อนไม่ยอมรับไม่ยอมเข้าใจในเหตุผลของเรา

ดังนั้นจึงต้องจำไว้ให้มั่นว่าห้ามหลุดคำรุนแรงหรือหยาบคายออกมา เพราะจะทำให้เกิดทั้งกำแพง ทำให้การให้เกียรติหรือเคารพในกันและกันลดน้อยลง ที่ต้องทำก็คือต้องกลั่นกรองถ้อยคำแต่ละคำที่จะพูดว่าเหมาะสมหรือ ไม่ใช่เติมเชื้อไฟลงไปอีก การใช้เหตุผลอธิบายที่มาที่ไปของสิ่งที่เราจำต้องกระทำในเวลาที่เหมาะสม ทำให้เราเข้าใจกันได้ในที่สุด


3.เถียงให้ถูกที่-ถูกเวลา
บางคนพอของขึ้นก็ไม่สนใจอินทร์-พรหมหน้าไหนอีกแล้ว ต้องสำแดงอิทธิฤทธิ์ให้รู้ดีรู้ชั่วกันไปเดี๋ยวนั้น แต่พอรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นละครช่อง 7 ให้ชาวบ้านตาดำๆ มุงดูกันแล้ว การเถียงกันในที่สาธารณะนอกจากจะเสียหน้าแล้วยังเสี่ยงต่อการสาวไส้ให้กากินประจานความผิดกันต่อหน้าธารกำนัล ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาลุกลามต่อไปได้อีก แถมเรื่องความขัดแย้งระหว่างคน 2 คน นั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกคุณ เก็บเอาไว้ไปเถียงกันในที่รโหฐานดีกว่า

ทุกครั้งที่เรามีปากมีเสียงกัน หากเราเถียงกันอย่างมีสติพยายามทำความเข้าใจ รู้จักยอมรับข้อดีข้อเสีย นิสัยใจคอที่แตกต่าง รวมถึงให้อภัยซึ่งกันและกัน เราจะค่อยๆ รู้จักรู้ใจและผูกพันกันมากยิ่งขึ้นกลายเป็นความรักที่แข็งแกร่งขึ้น


ทำผิดขอโทษ-รู้จักให้อภัย และการปรับตัว คือทางรอดของรัก
แม้ว่าจะรักกันมากเพียงใดก็ตาม แต่หลายครั้งที่ความรักล่มเรากลับพบว่าสาเหตุสำคัญนั้นไม่ได้อยู่ไกลตัวแต่อยู่ภายในตัวของเราเอง เพราะเรามีตัวตนของเราเองมากเกินไป จึงไม่เข้าใจและไม่รู้จักวิธีการที่จะยอมรับคนอื่น

การทำผิดแล้วขอโทษจากใจ และรู้จักให้อภัยก็เป็นทางออกที่ดี แต่ถ้าต้องขอโทษ ต้องยกโทษให้กันในเรื่องเดิมๆ บ่อยๆ มันคงไม่เวิร์กหรอก ทางที่ดีเมื่อทะเลาะกันทุกครั้งเราก็ควรเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหากันด้วย ไม่อย่างนั้นก็อาจเป็นเหมือนเนื้อเพลงที่ว่า 'ยื้อก็เหมือนเราจะยิ่งเหนื่อย รักไม่ช่วยอะไรเลย ฉันไม่ยอมเปลี่ยน เธอไม่ยอมเปลี่ยน ยังทำตัวเหมือนเคยๆ ปรับความเข้าใจกันไปมันก็ซ้ำเก่า ทั้งๆ ที่รักกันแต่เราเข้ากันไม่ได้เลย"
ดังนั้นทุกครั้งที่ทำผิดทำพลาดแล้วมีโอกาสพูดคุยเพื่อปรับความเขาใจก็อย่าลืมปรับตัวปรับใจกันด้วยนะ




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2551    
Last Update : 5 สิงหาคม 2551 16:10:30 น.
Counter : 290 Pageviews.  

ทำตัวให้สวย...ช่วยเพิ่มคะแนนความรัก

อยากจะสวยแบบครบสูตรน่ะ มันต้องสวยทั้งข้างนอก-ข้างใน โดยเฉพาะความคิดและจิตใจที่สวยงามเลยแหละ...สำคัญนัก ถ้าคิดจะทำแต้มความรักให้พุ่งปรี๊ดแล้วล่ะก็ มัน ก็ต้องรู้จักปรับเปลี่ยนตัวเองกันหน่อยนะสาวๆ...เพราะผู้ชายร้อยทั้งรอยน่ะ เค้าหลงความสวยจากภายในของผู้หญิงเราที่สุดเลยเชียว...ที่สำคัญ ยังช่วยให้เรทติ้งความรักแรงดีไม่มีตกแบบระยะยาวอีกด้วยนะ


1. มีอารมณ์ขัน
รู้หรือเปล่า...ว่าสาวที่ชอบทำหน้าบูดทั้งวันน่ะ ดูไม่มีเสน่ห์ขนาดไหน ลองทำตัวเป็นสาวอารมณ์ดีมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเป็นโลโก้ประจำตัวดูบ้างก็ดีนะ เพราะมีอารมณ์ขันบ่งบอกถึงการเป็นคนมีสุขภาพจิตที่ดีแถมยังมองโลกในแง่ดีอีกต่างหาก

2. พูดจาไพเราะ
ไม่ต้องถึงกับพุดคะๆขาๆตลอดทั้งวัน แค่พูดจาแบบทิ้งหางเสียงไว้บ้างก็พอแล้ว

3. มีเหตุผล
หยุดทำตัวเป็นสาวขี้งอนและเอาแต่ใจตัวเอง ได้แล้ว การรู้จักคิด และชั่งน้ำหนัก ถูกผิดต่างหากที่ จะช่วยให้เรา เป็นสาวน้อยที่ น่าเข้าใกล้ จนหนุ่มไหนก็ยอมสยบ!

4. ฟัง ฟัง ฟังและฟัง
รู้จักรับฟังหวานใจเสียบ้าง ในยามที่เขาต้องการการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือระบายความใจ แม้ว่าเรื่องราวนั้นๆ อาจจะไม่น่าสนใจหรือ ขาดสีสันไปก็เถอะ แค่เขาเห็นว่าเราพยายามที่จะรับฟังเขาด้วยความเข้าใจแค่นี้เขาก็รักตายแล้ว...

5. วันๆ ทำอะไรจ๊ะ
มั่นเติมเต็มความห่วงใยอย่างสม่ำเสมอ ด้วยคำถามธรรมดาๆ ที่แฝงไวด้วยความเอาใจใส่ เหล่านี้แหละ..ทานข้าวหรือยัง, วันนี้เป็นยังไงบ้าง เรียนเหนื่อยมั้ย...อะไรทำนองเนี้ยะ ให้เขาได้รู้ว่าเราน่ะสนใจความเป็นไปของเขา แล้วรับประกันได้เลยว่าเขาจะ หันมาสนใจเรามากขึ้นเหมือนกันเชียวล่ะ

6. อย่าหักศอกตอนกลับ
เป็นแฟนกันมันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้างแหละ แต่เรื่องร้ายแรงแค่ไหนก็อย่าให้วิธีสวน กลับด้วยคำพูดเชือดเฉือนจิตใจเป็นอันขาด ลองเคลียร์ปัญหา ด้วยความใจเย็น และมีสติ รับรองรักนี้ไม่มีขาดสะบั้น !

7. โปรดทราบ อารมณ์บ่จอย
ไม่ว่าจะหงุดหงิดด้วยเรื่องอะไรก็ตาม รีบบอกให้หวานใจได้รู้ไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะจะได้เป็นวัคซีนป้องกันการทะเลาะเบาะแว้ง แถมยังเรียกคะแนนความเห็นใจได้อีกโขเลยเชียวนะ...

8. ช่างเอาอกเอาใจ
หนุ่มๆ ไปไหนไม่รอดหรอก...ถ้าแฟนของเขาเป็นสาวน้อย ช่างเอาอกเอาใจ ไม่ว่าจะด้วยคำพูดดีๆ หรือการะทำที่น่ารัก อย่างเช่น ซื้อขนมๆของโปรดหรือหนังสือที่เขาชอบมาฝาก เพราะฉะนั้นอย่ามัวแต่ให้เขาเอาใจอยู่ฝ่ายเดียวล่ะ

9. ให้เขาเป็นผู้นำ
ไม่ว่าเราจะเกิดมาเป็นหญิงมั่นปานใด แต่สาวน้อยแสนฉลาดนั้น จะรู้ดีว่าการทำตัวให้ดูไร้เดียงสาเสียบ้างก็จะช่วยให้หนุ่มๆ เกิดความเอ็นดูเรามากขึ้น ปล่อยให้เขาเป็นผู้นำ แล้วทำตัวเป็นผู้ตามที่น่ารัก เพราะหนุ่มๆน่ะจะรู้สึกดีเป็นที่สุด ถ้าเราทำให้เขารู้ว่า เขามีความสำคัญกับเราแค่ไหน !

10. แฟนฉันน่ารักที่ซู้ด
บอกเขาไปเถอะว่า เขาน่ะน่ารักและน่าชิดใกล้สำหรับเรามากแค่ไหน ไม่ต้องกลัวเสียฟอร์มหรอก เพราะคำปราบปลื้มเล็กๆน้อยๆเหล่านี้แหละ ที่จะช่วยกระตุ้นให้ความรักที่ราบเรียบกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง...




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2551    
Last Update : 5 สิงหาคม 2551 16:07:45 น.
Counter : 315 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  

นากาชิม่า
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Tried to take a picture
Of love
Didn't think I'd miss her
That much
I want to fill this new frame
But it's empty

Tried to write a letter
In ink
It's been getting better
I think
I got a piece of paper
But it's empty
It's empty

Maybe we're trying
Trying too hard
Maybe we're torn apart
Maybe the timing
Is beating our hearts
We're empty

And I even wonder
If we
Should be getting under
These sheets
We could lie in this bed
But it's empty
It's empty
Friends' blogs
[Add นากาชิม่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.