Q[-___-Q ma leaw ja
Group Blog
 
All Blogs
 

ขับไล่ความเบื่อ เพื่อรักกันใหม่




เพราะต่อให้เป็นสามี-ภรรยากันนานแค่ไหน ก็ไม่อาจรับประกันได้หรอกว่า ความรักจะหวานจ๋อยเย็นเจี๊ยบตลอดกาล รักขม รักคุดยังมีเลย แล้วนับประสาอะไร จะไม่มีรักพะอืดพะอมชนิดสุขบ้าง เศร้าบ้าง เจือปนกันไป

เหตุนี้ จึงชวนกันมาเติมความสดชื่นให้ สายใยรักสำหรับชีวิตคู่กันดีกว่า เพราะคู่ไหนที่ว่า สวีทๆ หรือหวานใส่กันมากๆ เห็นมานักต่อนักแล้ว ที่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น เกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย หรือเซ็งจนนับไม่ถ้วน สิ่งนี้ขอตั้งข้อสงสัยพอสังเขปว่า เป็นเพราะอยู่ด้วยกันนานๆ เข้า จากที่เคยรู้สึกหวือหวา ก็กลายเป็นความธรรมดา และชินชาในที่สุด คิดง่ายๆ แค่ตัวเรายังนึกเบื่อตัวเองในบางครั้งเลย แล้วจะไม่ให้ชังน้ำหน้า คนที่อยู่ด้วยบ้างในบางครั้งได้ไง

เท่าที่สังเกต ผู้ชายมักเป็นฝ่ายแสดงอาการเบื่อผู้หญิง ให้จับได้ไล่ทัน ก่อนอิสตรีจะตั้งตัวติดซะอีก ถ้าเมื่อไหร่คุณนายเกิดสะดุดใจ ว่า กำลังถูกเขาไม่เหลียวแลแล้วไซร้ ลองงัดกลยุทธ์ทั้ง 10 ประการ ที่จะฝอยให้ฟังดังต่อไปนี้ หันมาล่อหลอกเขาให้ติดใจคุณอีกครั้งดูสิ

10 Ways to crush on your gay again ในนิตยสารเรด บุกส์ เกริ่นนำว่า กุญแจสำคัญที่จะเพิ่มรสชาติให้ชีวิตคู่ อ้อ ขออธิบายก่อนว่า ชีวิตคู่ในที่นี้ไม่จำเป็นต้องแต่งงาน แล้วจึงค่อยนำวิธีการนี้มาใช้ เพราะต่อให้คุณแค่คบหาสมาคมกันก็ใช้ได้ อย่ามัวแบ่งว่า แต่งงานแล้วต้องอย่างนี้ ส่วนก่อนแต่งต้องอย่างนั้น ถ้าวิธีไหนดีต่อการสร้างความเข้าใจ ให้เกิดขึ้นระหว่างสองเราละก็ ใช้ไปเถอะว่าแล้ว จะสะกิดใจให้คนที่คุณรัก หันมาหลงใหลได้ปลื้มในตัวคุณอีกครั้งได้ไง ให้ทำอย่างนี้

** กลยุทธ์ 10 ประการล่อหลอกให้เขาสนใจคุณอีกครั้ง **

1. รำลึกถึงอดีต ลองนึกดูสิว่า สิ่งที่พวกคุณเคยทำให้ต่างฝ่ายต่างรักกัน อย่างดูดดื่มนั้นคืออะไร แล้วนำเอาวิธีเก่าๆ นั้นแหละมาใช้

2. แสร้งเป็นมองเขาในฐานะคนรักใหม่ ไม่ใช่แค่คนรักเดิม เอมี ออสเตอร์ วัย 30 ปี อาศัยในนิวยอร์ก เล่าถึงวิธีที่ทำให้เธอไม่รู้สึกเบื่อสามีไปซะก่อน ด้วยการแยกห่างกันในบางเวลา โดยเฉพาะถ้าต้องออกงานสังคมด้วยกันละก็ เธอจะขอปลีกตัวไปคุยกับเพื่อนฝูง แล้วสังเกตเขาจากระยะไกล แกล้งทำเป็นว่าเราไม่รู้จักกัน หากคุณเห็นเขาทำให้หญิงอื่นหัวเราะขึ้นมาได้ คุณจะยิ่งตระหนักถึงเสน่ห์ในตัวเขามากขึ้น แต่อย่าเผลอคิดเป็นว่า เขาเจ้าชู้เสียก่อนล่ะ

3. ชวนเขาออกไปเที่ยว หมายถึงออกเดทของจริงเลยนะ ด้วยการหาเวลาว่างยามค่ำคืนใดสักคืนหนึ่ง แล้วโทรศัพท์ ไปจองโต๊ะตามโรงแรมหรูๆ หรือจะท่องเรือสำราญก็ตามสะดวก แต่อย่าลืมแล้วกันว่า ไปเที่ยวคืนนั้นควรไร้คนกวนใจอย่างสิ้นเชิง เครื่องมือสื่อสาร อย่าพกไปให้เกะกะ บรรดาเพื่อนนักจ้อจะได้ไม่โทร. มารังควาน เดี๋ยวหมดมู้ดกันพอดี

4. คิดถึงความทรงจำเก่าๆ ที่จะกระตุ้นให้หัวใจของคุณพองโตขึ้นอีกครั้ง แพทริเซีย ลาวิน วัย 41 แม่ลูก 6 เล่าว่า ความที่มีลูกมาก ปัจจุบันจึงรู้สึกว่า ความโรแมนติก สงสัยจะอยู่ในรถแวน เพราะต้องกระเตงสมาชิกทั้งครัวเรือน ไปไหนมาไหนพร้อมกันด้วยรถคันใหญ่ จนความโรแมนติกที่แท้จริง เหือดหายไปโดยไม่รู้ตัว
กระทั่งวันหนึ่ง ไปค้นเจอจดหมายรักฉบับเก่าๆ ที่สามีเคยเขียนถึงสมัยวัยรุ่น เมื่ออ่านดูหลายประโยค สะท้อนให้ฉันเห็นคุณค่า (ที่ฉันแทบจะลืมไปแล้ว) ของตัวเอง และสามารถกระพือความรู้สึกอับเฉา แปลงสภาพมาเป็นความสุขอีกครั้ง ใครเคยได้เลิฟ เลตเตอร์ (love letter) แล้วฉีกทิ้งคงแย่แน่

5. นัดไปหวานกันใหม่ในโรงแรมชั้นดี ไม่ใช่ม่านรูด สังเกตเอาเถอะว่า ข้าวของเครื่องใช้ทั้งหลายในโรงแรม จะกระตุ้นความเร่าร้อนต่อเกมรักขึ้นได้ การให้บริการของรูม เซอร์วิส, ผ้าขนหนูสีขาวที่แสนนุ่มและสะอาด หรือได้ค้างคืนในห้องที่คุณ ไม่ต้องลงมือทำความสะอาดด้วยตัวเอง... สิ่งเหล่านี้น่าหลงใหลตายชัก ลองเปลี่ยนบรรยากาศดูแล้วจะรู้

6. มองคนรักด้วยแววปลื้ม แม้บางครั้งกลิ่นของเขาจะชวนให้รู้สึก อยากอาเจียนมากกว่าก็ตาม

7. อดกลั้นการมีเซ็กซ์ไว้จนกว่าจะทนบ่ได้ ถึงเวลานั้นการเมคเลิฟจะพิเศษกว่าที่ผ่านมา

8. สร้างความวาบหวิวเล็กๆ น้อยๆ เช่น ใส่แต่อันเดอร์แวร์ยามอยู่ด้วยกันตามลำพัง สองต่อสอง

9. ปล่อยความขี้เล่นของคุณออกมา เช่น ชวนกันไปเรียนลีลาศ แต่แยกเต้นรำกันคนละคู่ กระนั้นยังไม่วายส่งสายตาระยิบระยับให้กัน แสดงถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่น

10. เว้นช่วงไม่เจอกันตลอดสัปดาห์ของการทำงานดูบ้าง แล้ววันหยุดอย่าลืมชดเชยกันให้หนำใจ ให้คนรักอยู่ห่างเป็นบางวันอย่างนี้แหละดี พอเจออีกที คุณจะยิ่งอยากอยู่กับเขามากขึ้น อ้าว ถ้าเป็นงี้ คงต้องหาแฟนต่างสำนักงานแล้วมั้ง




 

Create Date : 08 สิงหาคม 2551    
Last Update : 8 สิงหาคม 2551 16:00:06 น.
Counter : 272 Pageviews.  

อย่าทำลายรักของคุณว่า "เบื่อ"





หลังจากหมดช่วงข้าวใหม่ปลามัน คู่แต่งงานส่วนใหญ่ มักจะให้ความสนใจ ในเรื่องการสร้างครอบครัวเป็นหลัก ยิ่งถ้าอยู่ในฐานะคุณแม่บ้านด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งแล้วใหญ่ค่ะ เพราะต้องรับบทหนักทั้งงานราษฎร์งานหลวง สุดท้ายก็ไม่เหลือเวลาส่วนตัวให้ตัวเองได้หายใจหายคอ หรือเอาอกเอาใจคนรักอย่างที่เคยทำ ของแบบเนี้ยนะ ยิ่งนานก็ยิ่งชิน ยิ่งชินก็ทำให้เบื่อ และนี่แหละคือ ที่มาของโรคเบื่อ ที่จะทำให้คุณ กลายเป็นแม่น้ำพริกถ้วยเก่า ของคุณสามี ที่ยังรักชอบความ ตื่นเต้นในชีวิตอยู่ไปเสีย

ทำยังไงไม่ให้ "เบื่อ"

1. ความเชื่อใจกัน
ความเชื่อใจนี้ ถือเป็นการให้เกียรติ และการยอมรับในความ ต้องการ ที่แตกต่างของกันและกัน หมายถึงทั้งคู่ต้องไม่โกหก หลอกลวง และจะไม่พูด หรือทำ สิ่งใดที่ทำให้อีกคนต้องเสียใจ หรือเป็นการ ทำลายชีวิตคู่


2. การรักษาสัญญา
นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตแต่งงาน เมื่อคุณได้ให้สัญญาต่อกัน สัญญานั้น เปรียบเสมือนเกราะป้องกัน ไม่มีสิ่งใดมาทำลาย ความรักของคุณได้ "จะรักคุณ.ไม่ว่ายามเจ็บหรือยามสบาย จะรักคุณจนกว่าชีวิต จะหาไม่" คำสัญญานี้ จะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายจาก กันไปเท่านั้น การรักษาคำมั่นสัญญา นอกจากจะช่วยให้คุณทั้งสอง สามารถ ผจญกับ อุปสรรคต่างๆ จนไปถึงเป้าหมายสูงสุดได้แล้ว มันยัง ช่วยให้คุณดิ่งลงสู่ ก้นเหวแห่งความทุกข์..เพราะคุณ ผิดคำ สัญญานั้น


3. มีทักษะความชำนาญ
ชีวิตแต่งงาน เป็นการที่คนทั้งสอง ตกลงว่าจะอยู่ด้วยกัน ไปตลอดชีวิต ซึ่งต้องอาศัยการทำความเข้าใจกันมากเป็นพิเศษ คุณต้องสามารถ แสดงออกว่า ต้องการอะไร รู้จักรับฟังเหตุผล ของอีกฝ่าย สามารถ ตัดสินใจ ในเรื่องต่างๆ ได้ดี สามารถไกล่ เกลี่ยต่อรองได้ แก้ปัญหาข้อขัดแย้งได้ ให้ความสนใจที่จะ พูดคุยกัน และแน่นอน คุณจำเป็นต้องรู้ ว่าจะทำมาหา กินอะไร และรู้วิธีทำ อาหาร วิธีดูแลบ้านช่องให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และสำคัญที่สุด วิธีการเป็นพ่อเป็นแม่คนที่ดี เขาทำกันอย่างไร


4. การเอาใจใส่ดูแล
วิธีทะนุถนอมให้ชีวิตคู่ยืนยาวนั้น คุณต้องรู้จักวิธี เอาอกเอาใจ กันบ้าง บางคู่แค่มองตา ก็รู้ว่าต้องการอะไร และจะทำแต่สิ่งที่เขา ชอบ และจะไม่ ทำอะไรที่เขาไม่ชอบให้ขุ่นเคืองใจ ซึ่งจะทำให้อีก ฝ่าย รู้สึกมีความสุขเหลือเกิน ที่ได้คุณเป็นคู่ชีวิต


5. การเอาใจเขามาใส่ใจเรา
"จงทำกับคนอื่นเหมือนกับ ที่อยากให้คนอื่นทำกับคุณ" หมายความ ว่า การจะทำสิ่งใดก็ตาม ให้คุณคิดก่อนว่า เมื่อทำแล้ว จะทำให้เกิด ผลดี ผลเสียกับใครหรือเปล่า ถ้าไม่ดีก็อย่าทำ เพราะ คุณคงไม่ อยาก ให้ใครมา ทำแบบนั้น กับคุณเหมือนกัน วิธีนี้นอกจาก จะช่วยป้องกันไม่ให้คุณทำอะไร ที่จะทำร้ายจิตใจ คนที่คุณรัก แล้วยังเป็นเหมือน ตาข่ายที่จะช่วยกลั่นกรอง ให้คุณ ทำหน้าที่สามีหรือภรรยาที่ดี ได้สำเร็จอีกด้วย


6. ความเพียร
จะมีประโยชน์อะไร ถ้าคุณเป็นคนที่ เชื่อใจได้ รักษาสัญญา มีความ รู้ มีทักษะ และรู้วิธีดูแล เอาใจใส่ แต่ไม่ได้ใช้มัน การที่ชีวิตคู่จะ อยู่ดีมีสุขได้ คุณต้องใช้ ความพยายามในทุกๆ ด้าน ตลอดทั้งชีวิต ของคุณ ทีเดียว


7. การคาดหวัง
เหตุผลอย่างหนึ่ง ที่ทำให้คู่สามีภรรยารู้สึกว่าชีวิตแต่งงาน ของตัว เองล้มเหลว เมื่อพบว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ตั้งความหวังกับ ตัวเองไว้สูงมาก เป็นเรื่องปกติที่ คนเราจะวาดวิมานในอากาศ ถึงความสุขีสุโข กับชีวิตคู่ โดยคาดหวังว่า คู่ของตัวจะต้องเลิศ เลอเพอร์เฟค เป็นเพื่อนคู่คิดที่ดี เป็นตู้ ATM ให้กดได้ตลอดเวลา และที่สำคัญ มีความช่ำชองที่สุด กับเรื่องบนเตียง

เฮ้ย.. ดูท่าความ ฝัน คงไม่มีทางเป็นจริงได้! เพราะเรื่องจริงกับ ความฝัน มันช่าง ห่างไกลกันเหลือเกิน แน่นอนที่คุณจะต้อง พบกับความผิดหวังครั้ง ใหญ่ ต้องเผชิญกับความล้มเหลว ความ เสียใจ แต่เชื่อเถอะ ในที่สุด คุณจะค่อยๆ ยอมรับความจริงได้เอง





วิธีบำรุงชีวิตคู่ให้สุขสันต์
- เลือกเวลาเหมาะๆ เพื่อใช้เป็นเวลาอันมีค่า สำหรับพูดคุยกับคนรัก เกี่ยวกับ ชีวิตคู่ของคุณทั้งสอง หมั่น แลกเปลี่ยนความคิด ความรู้สึก และความต้องการของคุณ แต่เฉพาะในแง่ดีและสร้างสรรค์เท่านั้น เพราะยังไม่ถึงเวลา ที่จะมาต่อว่าหรือโต้เถียงกัน

- กล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึก ที่เป็นตัวตนจริงๆ ออกมา ไม่ว่าจะอยู่ใน อารมณ์แบบไหน : สนุกสนานเริงร่า เจ็บช้ำน้ำใจ เพ้อฝัน หรือแม้ แต่ เวลายินดี มีความสุข) โดยไม่ต้องคำนึงถึง เหตุผล ดีเลว และถูกผิด ใดๆทั้งสิ้น

- คิดจะพูด ก็ให้พูดเพื่อตัวคุณเอง โดยใช้คำเหล่านี้ "ฉันรู้สึกว่า" "ฉันอยากจะ.." "ฉันคิดว่า.." "ฉันชอบ.." แต่อย่าพูด แบบกลัวๆ กล้าๆ "คุณว่า…" หรือ "เขาพูดกันว่า…" มันทำให้คุณดูไม่มีความ มั่นใจในตัวเอง

- ค่อยพูดค่อยจากัน ด้วยภาษาดอกไม้ ให้ฟังแล้วรื่นหู "ฉันชอบจังค่ะ เวลาที่คุณช่วยฉันล้างจาน" พูดอย่างไรก็ได้ ให้คนฟังรู้สึกดีๆ และไม่เป็น การจุดชนวน สงครามน้ำลาย ขึ้นกลางวง

- ควรให้มีการ "ขอเวลานอก" ในกรณีที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด รู้สึกอึดอัด หรือยังไม่พร้อมที่จะสนทนาในเรื่องนั้นๆ ต่อ ก็สามารถ "ขอเวลา นอก" ซึ่งอาจจะพักสักครู่หนึ่ง หรือไม่ก็เปลี่ยนหัวข้อ การสนทนาซ่ะ โดยไม่ต้องถามเหตุผลใดๆ ทั้งนั้น เพราะเราจะรู้ สึกสนุก กับการ เล่า ก็ต่อเมื่อ เราสามารถเลือกเรื่อง เลือกเวลา ที่เราอยากเล่าได้

- หัดฟังคนอื่นเขาบ้าง และต้องฟังอย่างตั้งใจด้วย ว่าที่เขาพูด หมายความว่าอย่างไร แล้วลองเช็คกลับไป ด้วยการพูดทวนว่า ที่คุณเข้าใจนั้น ถูกต้องตามที่เขาพูดไหม จำไว้ว่า "เมื่อไรที่ไม่แน่ ใจ ไม่เคลียร์ ให้ถามได้เลย! "




 

Create Date : 08 สิงหาคม 2551    
Last Update : 8 สิงหาคม 2551 15:57:38 น.
Counter : 292 Pageviews.  

รู้ทันกฎหมาย-แต่งซ้ำแต่งซาก



การแต่งงานไม่เพียงเป็นการสร้างครอบครัวแต่พัวพันไปถึง สิทธิหน้าที่ทั้งหลายที่ต้องมีให้กันนอกเหนือจากความรักและความไว้วางใจเรื่องจดทะเบียนสมรสจึง เป็นกฎที่ต้องนำมาใช้เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงของครอบครัว เมื่อทะเบียนสมรสเป็นเรื่องดีมากกว่าเสียหายหลายคนก็เลยตัดสินใจมีไว้ แต่อย่าคิดที่จะมีทีเดียวหลายๆ ใบ เพราะกฎหมายท่านอนุญาตให้ได้เพียงหนึ่งเดียว

หมายความว่าถ้าอยากมีทะเบียนสมรสก็ไปจดทะเบียนที่อำเภอหรือสำนักงานเขตก็เป็นอันเสร็จพิธี แล้วก็มีใบทะเบียนมาใส่กรอบเหน็บข้างฝาเป็นสัญญารักต่อกัน

ไม่มีทางที่จะมีใบที่สองหรือสามได้ต่อให้จดทะเบียนใหม่กับคนเก่า ก็ต้องนับอายุการแต่งงานตั้งแต่การจดกันครั้งแรกเท่านั้น การจดซ้ำจดซากกับคนเก่าคนเดิมอย่างไร ในทางกฎหมายการจดครั้งใหม่นั้นเป็นอัน โมฆะ

ถ้าอยากหนีจากความเป็นสามีหรือภรรยาต่อกันก็ต้องหันมาพึ่ง ทะเบียนหย่าอีกใบจึงจะลาออกจากตำแหน่งทางกฎหมายได้ เป็นอันว่าจดทะเบียนได้คราวละใบเท่านั้นเอง

ไม่ต้องตกใจหากใบทะเบียนสูญหายหรือฉีกขาดสถานภาพก็ยังไม่สะบั้นตามกระดาษแผ่นนั้น และไม่ต้องพากันไปจดทะเบียนใหม่เพื่ออัพเดท เพื่อเอาเคล็ดประการใด จะทำได้ก็เพียงไปแจ้งความว่า เอกสารเสียหายและขอออกใบแทนใบเดิมไม่จำเป็นต้องไปจดใหม่ซ้ำเข้าไปให้สับสน

เอกสารที่เป็นทะเบียนสมรสเป็นเพียงหลักฐานแสดงการจดทะเบียนมีเก็บไว้ที่หน่วยราชการอีกชุดหนึ่ง ตราบใดที่ไม่ได้หย่า ก็อย่าหวังว่าการสมรสจะหมดสิ้นไป โมโหฉีกทะเบียนยังไงก็ไร้ผล

ทีนี้ถ้าไม่จดซ้ำแต่จดซ้อนคำตอบก็ไม่ต่างกันเท่าไรถ้าจดกับต่างคนต่างเวลากันไป จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีทะเบียนหย่ากับการสมรสครั้งก่อนแล้วเสียก่อน ไม่เช่นนั้นทะเบียนซ้อนก็โมฆะเหมือนกัน

หลายคนอาจให้ความสำคัญกับทะเบียนมากมายเพราะมีปมด้อยว่ากว่าจะได้แต่งก็แท้งทางใจมาหลายครั้ง ดังนั้นเมื่อมีโอกาสก็ไม่อยากพลาด ยื่นคำขาดให้จดเอาไว้หลายๆ ใบ

แบบนี้มีทำกันไม่น้อยและทำได้โดยไปจดทะเบียนตามกฎหมายของหลายประเทศเข้าไว้ บ้างก็เพื่อสิทธิบางอย่าง หรือเพื่อจุดประสงค์อะไรก็แล้วแต่ใจของคู่รักคู่สมรสนั้น

การจดทะเบียนเพียงประเทศเดียวก็มีผลให้ประเทศอื่นเขายอมรับว่าสองคนนี้เป็นสามีภรรยากันได้ไม่ต้องไปตระเวนจดทุกทวีปก็ได้

สำหรับเมืองไทยก็ใช้วิธีนำทะเบียนสมรสของประเทศอื่นมาจดแจ้งแทงฐานะครอบครัวกับทางราชการเพื่อให้เกิดการรับรองชัดเจนได้แต่จะต้องมีเงื่อนไขว่าสามีหรือภรรยาคนใดคนหนึ่งต้องเป็น คนสัญชาติไทย

ต่อให้จดทะเบียนเอาไว้หลายแห่งก็ต้องทำใจแม้จะไม่เป็นการจดซ้ำเพราะคนละหน่วยงานกันก็ตามที แต่ถ้าลองของไปจดซ้อนเมื่อไร คือไปจดกับคนอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาหรือสามีคนที่จดกันไว้ ก็มีอันถูกยกเลิกเพิกถอนได้ และอาจถูกข้อหาปิดบังข้อความจริงหรือแจ้งเท็จได้

อีกอย่างที่ต้องทำใจก็คือการจดไว้หลายแห่งเวลาเลิกกันก็ต้องหย่ากันให้ครบทุกแห่งด้วยไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาติดตามมามากมายเพราะสิทธิเรียกร้องยังคงมีอยู่ต่อไปตามที่ลงทะเบียนเอาไว้ว่าเป็นสามีภรรยา

เอาเป็นว่าน่าจะมีแผนชีวิตที่ผ่านการคิดอย่างรอบคอบแล้วจะได้คำตอบที่เหมาะสมสำหรับคู่ของตน อยากจดซ้ำจดซากก็ทำได้ แต่ต้อง เคลียร์ของเก่าให้เสร็จสิ้นไปเสียก่อน





 

Create Date : 08 สิงหาคม 2551    
Last Update : 8 สิงหาคม 2551 15:52:26 น.
Counter : 324 Pageviews.  

รักของม่ายเรือพ่วง

ขาดความมั่นใจ
แม้หน้าที่การงานจะมั่นคง บุคลิกมาดมั่น แต่ถ้าเรื่องความรักแม่ม่ายอาจจะยังหวาดๆอยู่ว่าจะล้มไม่เป็นท่าอีกหรือไม่ ถ้ารักแม่ม่าย ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความเชื่อมั่น และพร้อมที่จะเริ่มชีวิตครอบครัวใหม่อีกครั้งโดยไม่หวนคิดถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา

บางท่านอดอ่อนไหวกับการเป็นม่ายของตนเองไม่ได้ ไม่เชื่อว่าใครจะมาจริงจังกับผู้หญิงที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว แต่ในความจริง ความรัก เป็นเรื่องปัจจุบันมากกว่าเรื่องอดีต ถ้ารักกัน จะเป็นม่ายหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับว่าสามารถอยู่ด้วยกันอย่างเข้าใจและมีความสุข คนเป็นแม่ม่ายอาจพิจารณาคนที่เข้ามาชีวิตค่อนข้างมาก เพราะมีประสบการณ์ในชีวิตคู่ รู้จุดอ่อนจุดแข็ง แต่อย่างไรก็ตามไม่มีคำตอบสำเร็จรูปตายตัวกับชีวิตแต่งงานแต่ละครั้ง ถ้าคิดว่าคุณสมบัติโดยรวมของคนปัจจุบันดีพร้อมระดับหนึ่ง ก็ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับคนที่ผ่านมา


เรื่องของลูก
แม่ม่ายหลายคนไม่แต่งงานใหม่ ด้วยเหตุผลเรื่องลูก ไม่อยากให้ลูกต้องปรับตัวกับคนใหม่ กลัวลูกจะมีปมด้อย แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นข้อกำหนดตายตัว การมีโอกาสได้เริ่มชีวิตคู่ที่ดีอีกครั้งเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เพียงแต่ต้องคำนึงประเด็นเรื่องลูกและการเตรียมความพร้อมทั้งตัวแม่เอง ตัวลูก และฝ่ายที่จะเข้ามาเป็นคู่ชีวิตใหม่


เตรียมพร้อมแม่
ต้องยอมรับว่าลูกจะผ่านการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง แม่ต้องพร้อมจะทำความเข้าใจ ให้คำอธิบาย ถ้าลูกยังเล็กมากลูกอาจรับรู้เพียงการเปลี่ยนแปลงที่มีคนเข้ามาใกล้ชิดเขาเพิ่มอีกคน แต่ในลูกที่โตแล้วมักอยากมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เพราะเข้าใจคำว่าแต่งงานใหม่ เข้าใจเรื่องพ่อแม่ลูก

ปฎิกริยาของลูกมีหลายแบบ อาจเริ่มด้วยท่าทีไม่วางใจ ปฏิเสธ หรือเฉยๆไม่สนใจ แม่ควรเป็นฝ่ายเริ่มต้นการทำความรู้จักระหว่างสองฝ่าย หากิจกรรมทำร่วมกันเพื่อให้ลูกได้ทำความคุ้นเคยกับคนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัวจากน้อยไปหามาก ลูกจะได้ค่อยๆ ปรับตัว

จุดสำคัญคือต้องไม่ทำให้การแต่งงานใหม่เปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและกิจวัตรประจำวันของลูกน้อยมาก นอกจากมีคนเพิ่มขึ้นมา ลูกจะสามารถปรับตัวได้เร็ว


เตรียมพร้อมพ่อใหม่
หากรักแม่ม่ายเรือพ่วงต้องรักลูกด้วย ถ้าทำใจยอมรับไม่ได้ จะเอาแต่แม่ไม่เอาลูก ก็อย่าแต่งงานกันดีกว่า การทำความรู้จักเข้าไปใกล้ชิดกับเด็กๆ ควรค่อยเป็นค่อยไป และไม่คาดหวัง ไม่ควรเริ่มต้นด้วยการแสดงตัวเป็นพ่อ เด็กๆอยากทำความรู้จักคนที่จะเข้ามาในชีวิตของแม่ก่อน ถ้าความสัมพันธ์เดินหน้าไปจนเขารู้สึกถึงบทบาทความเป็นพ่อ เด็กจะยอมรับในบทบาทนั้นเอง แม้เขาจะไม่เคยเรียกว่าพ่อก็ตาม

ระยะแรกจึงเป็นเวลาทำความรู้จักซึ่งกันและกัน ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน และค่อยๆช่วยแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในการดูแลลูก พ่อใหม่สามารถทำหน้าที่พูดคุย แนะนำ รวมทั้งอบรมสั่งสอนได้ แต่ต้องหลังจากสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ให้เด็กคุ้นเคยและเข้าหาได้อย่างสนิทใจก่อน เมื่อต้องทำหน้าที่สั่งสอน เด็กจะยอมรับและยินยอมให้ทำบทบาทใหม่ในฐานะพ่อ ถ้ามองในแง่ดี รักม่ายเรือพ่วงก็เป็นสีสันที่ครบเครื่อง
เพราะแต่งงานครั้งเดียวแถมลูกมาด้วยเลย ขอเพียงทั้งสองฝ่ายเริ่มต้นกับปัจจุบันของกันและกันอย่างเข้าใจ ชีวิตใหม่ที่มีความสุขก็ไม่ใช่เรื่องยาก


ติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่คอลัมน์ WE Live นิตยสาร WE ฉบับเดือนมิถุนายน




 

Create Date : 08 สิงหาคม 2551    
Last Update : 8 สิงหาคม 2551 15:50:11 น.
Counter : 533 Pageviews.  

แผนการเงิน เผื่อเลิกกับแฟน

ไม่ว่าคุณจะมีสถานภาพทางสังคมแบบไหน เป็นโสด, แต่งงานแล้ว หรือหย่าปุ๊บก็เป็นม่ายปั๊บ รู้สึกตอนนี้ใครๆ ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ถูกพิษเศรษฐกิจกดดันบะล่ะฮึ่มพอๆ กัน ยิ่งได้ยินแต่เรื่องของแพง, ร้านค้าและธุรกิจทยอยปิดกิจการกันทุกวั้นทุกวันก็กระสับกระส่ายและกังวลกันอีกแล้ว

หากคุณเป็นโสด คงมีวิธีจัดการด้านการเงินได้ไม่ยาก เพราะอยู่คนเดียวมาตั้งนานย่อมบริหารเงินเป็นมั่งล่ะ ยกเว้นไม่พอกินจริงๆ อุ้ยโหยว...คงต้องหาทางเพิ่มรายได้ให้พอกินเข้าซี

ส่วนฝ่ายที่มีคู่ดู๋ดี๋ ไว้กวนกายและกวนใจแล้ว ไม่ว่าเป็นวิวาห์ถูกต้องตามธรรมเนียม หรือวิวาห์ เหาะก็เหอะหากคู่ไหนเข้ากันได้ดี ยึดมั่นในความรักที่มีต่อกันละก็ โอ้ย....สมานฉันท์ขนาดนี้ก็หมดห่วงได้ว่า หากฝ่ายหนึ่งมีปัญหาทางการเงินขึ้นมาก็สามารถขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายได้ เผลอๆ ยังไม่ทันเอ่ยปากขอให้ช่วยด้วยซ้ำ ก็ให้สิ่งดีๆ กันแล้ว! ตรงข้ามหากคู่ไหนต่างฝ่ายต่างไม่เคยจุนเจือช่วยเหลือกันแล้วไซร้ เพราะดันขัดแย้งกันทีหลัง แล้วจะพึ่งกันและกันได้รื้อ? แถมบางคนก็แปลกแฮะ หากมีแฟนมหาระรวย (เป็นคนรวยนั่นแหละ) ก็คิดรวบรัดซะแล้วว่า ชั้นตกถังข้าวสารแหงเลย เออคงใช่นะ เพราะความเป็นอยู่ดีขึ้นนี่หว่า แต่เค้าคงไม่ให้คุณครอบครองทรัพย์สินของเค้าทุกอย่างร้อก อ่ะทว่ายังดีกว่ามีแฟนจนแหงล่ะ เพราะถ้าเลิกกัน อย่างน้อยคงได้ทรัพย์ติดตัวไปมั่ง หนำซ้ำเครื่องพ้ง เครื่องเพชรหรือทองเทิงที่เค้าซื้อให้ก็ เอามาเปลี่ยนเป็นเงินได้อีก อู้อ่า...ยัปปะดั๊บปะดู้ มีเงินไปทำทุน ทำการค้าหรือธุรกิจแล้วดีจัง

แต่แม้คู่ไหนเลิกกัน แล้วต้องกลับมาใช้ชีวิตโฉด เอ้ย....โสดอีกครั้ง ถึงมีเงินอยู่ บ้าง ก็ต้องรู้จัก “ใช้จ่าย” ให้ถูกที่ถูกทางอยู่ดี เคยเห็นบางคนตกอยู่ในอาการโคม่าหลังเลิกกับแฟน แล้วทำตัวไม่ถูก และ “ใช้เงินไม่เป็น” ก็มีนะ เอาเถอะหากการเลิกกับแฟนแล้วทำให้ใจของคุณสับสน จนต้องซมซานคลานขึ้นไปนอนพักบนเตียงซะ 5 วัน 7 วันก็ไม่เป็นไร แต่หลังจากนั้นต้องลุกขึ้นมา “สู้ต่อ” และ หาทางพึ่งตนเองด้านเศรษฐกิจให้ได้นะยะ ไม่งั้นเงินที่มีก็จะร่อยหรอลงทุกวัน

งั้นเอางี้สิ หลังเลิกกับแฟน แล้วโสดปุ๊บปั๊บ ควรเตรียมรับกับภาวะฉุกเฉิน หยั่งงี้มะ....

1. เริ่มจากเฉือนรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทิ้งไปก่อน เช่น เคยไปเที่ยวมิดไนต์โต้รุ่งกันเกือบทุกคืน ก็ลดลงเป็นสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จนลดได้ถึงสัปดาห์ละครั้ง ยิ่งดี แม้การไปเที่ยวน่ะจะมีเหตุผลดีตรงคลายเครียดก็เถอะ แต่แหมเศรษฐกิจยุคนี้บวกกับอายุปูนนี้เพลาลงได้ จะประหยัดไปเปลาะนึง

2. ตอนนี้มีภาระอะไรอยู่รึเปล่า? บางคนเลิกกับแฟนแล้วต้องผ่อนบ้านคนเดียวต่อไป เพราะไม่มีคนผ่อนด้วยอีกแล้ว ก็ควรมั่นใจว่าคุณมีรายได้พอที่จะจ่ายตรงนี้นะ อย่านั่งนอนเป็นคุณนายหรือคุณชายเหมือนแต่ก่อนเด็ดขาด เพราะชีวิตที่ต้องแบกภาระไว้คนเดียวก็หนักไม่ใช่เล่น อ้ออย่าลืมหารายได้เข้ามาเติมส่วนที่มีอยู่แล้ว ด้วยล่ะ นี่สิถึงจะแฮปปี้จริงกับการเป็นโสดกันอีกครั้ง ว่ามะว่ามะ




 

Create Date : 08 สิงหาคม 2551    
Last Update : 8 สิงหาคม 2551 15:48:40 น.
Counter : 251 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  

นากาชิม่า
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Tried to take a picture
Of love
Didn't think I'd miss her
That much
I want to fill this new frame
But it's empty

Tried to write a letter
In ink
It's been getting better
I think
I got a piece of paper
But it's empty
It's empty

Maybe we're trying
Trying too hard
Maybe we're torn apart
Maybe the timing
Is beating our hearts
We're empty

And I even wonder
If we
Should be getting under
These sheets
We could lie in this bed
But it's empty
It's empty
Friends' blogs
[Add นากาชิม่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.