Group Blog
 
All blogs
 

Review : L'Oreal UV PERFECT ADVANCED AQUA ESSENCE LONG UVA SPF 50+/ PA++++ บางเบา ไม่เหนอะ ไม่ว่อก

 สวัสดีค่าบล็อกนี้มีรีวิวไอเท็มเด็ดรับร้อนจาก ลอรีอัล ปารีส มาฝากกัน
กับกันแดดสูตรใหม่ล่าสุด ที่ขอบอกว่าคุณสมบัติและเท็กซ์เจอร์ดีงามมากกก
ในราคาที่จับต้องได้และหาซื้อง่ายสุดๆ ไปชมกันเลยจ้า Smiley



L'Oreal Paris UV Perfect Advanced Aqua Essence [HA]
Long UVA SPF 50+/ PA++++

----------------------------------------------------------------------------------

กันแดดเนื้อเอสเซนส์ บางเบาแบบน้ำ
ปกป้องผิวจากรังสียูวียาวนาน 12 ชั่วโมง

ขนาด 30 ml. ราคา 339 บาท

มีจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อทั่วไปจ้า



คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ตามคำเคลม

ที่สุดของครีมกันแดดต้องปกป้อง LONG UVA
ปกป้องเหนือกว่าครีมกันแดดทั่วไป 15X บางเบาแบบน้ำ 
แต่เปี่ยมประสิทธิภาพล้ำหน้าไปอีกขั้นกับแอดวานซ์ แอนตี้-ยูวี 
ด้วย MexorylTM SX/XL สารกรองรังสียูวีลิขสิทธิ์เฉพาะของลอรีอัล ปารีส 
เพิ่มประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยสารกรองแสงรังสี LONG UVA

ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีในแสงแดดต้นเหตุของจุดด่างดำ 
และริ้วรอยก่อนวัยอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยสัมผัสที่บางเบาดุจน้ำ

อุดมด้วยสารในการลดเลือนริ้วรอยที่มีประสิทธิภาพ
ด้วยคุณค่าของ Adenosine และ Micronized [HA] ให้ความชุ่มชื้น 
ช่วยลดเลือนริ้วรอย และทำให้ผิวดูเต่งตึง
ผสานแอนตี้ออกซิเดนท์ด้วย วิตามิน E และ Detoxyl 
ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะและฝุ่นควัน



รายละเอียดส่วนผสมแบบคร่าวๆ

ส่วนผสมในเชิงกันแดดสามารถปกป้องรังสี UV ได้เริ่ด
ปกป้องผิวได้ทั้งจากรังสี UVA และ UVB ครบถ้วน ด้วย....

Ethylhexyl Triazone <<< ป้องกัน UVB

Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine 
(Tinosorb S) <<< ป้องกัน UVA & UVB

Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate <<< ป้องกัน Long UVA 

Titanium Dioxide <<< ป้องกัน UVA , Long UVA & UVB

Drometrizole TriSiloxane (Mexoryl® XL) <<< ป้องกัน UVA , Long UVA & UVB

สารกันแดดใส่มาแบบจัดเต็มแถมยังเป็นสารที่เสถียร
จึงสบายใจได้ในเรื่องการปกป้องผิวจากแสงแดดจ้า

นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวและให้ความชุ่มชื่น
อย่าง Adenosine ช่วยลดเลือนริ้วรอย 
Hydrolyzed Hyaluronic Acid [Micornize HA] ให้ความชุ่มชื่น
Tocopheryl Acetate หรือ Vitamin E ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
แต่พวกสารบำรุงอาจจะไม่ได้มีมาเยอะมากเพราะเค้าเน้นความเป็นกันแดดอ่าเนอะ

***มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และมีน้ำหอมจ้า



ขวดพลาสติกสีฟ้าทึบแสงปกป้องการเสื่อมได้ดี
และปลายหลอดขนาดเล็กทำให้กำหนดปริมาณในการใช้ได้ง่ายดีค่ะ



เนื้อและกลิ่น

เนื้อกันแดดสีขาวมีกลิ่นหอมอ่อนๆในสไตล์ ลอรีอัล ปารีส
ตามคำเคลมคือเป็นเนื้อเอสเซนส์แบบน้ำ
ซึ่งเวลาบีบมาจะมีความเหลว แต่พอเกลี่ยแล้วจะแตกตัวไปบนผิวง่ายมาก
เนื้อลื่นปรื้ด เกลี่ยง่ายสุดๆ ซึมผิวได้ดี ไม่มีสีเหลือบนผิวไม่ลอยไม่ว่อก
หลังทาไม่เหนียวเหนอะหนะแต่มีความหนึบผิวหลังทาเล็กน้อย 
เมื่อทาบนผิวจะรู้สึกเย็นๆผิวเล็กน้อย




ปริมาณในการทากันแดดที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ
ว่าเป็นปริมาณที่สามารถให้ประสิทธิภาพในการกันแดด
เท่ากับค่า SPF และ PA ที่แสดงอยู่บนผลิตภัณฑ์
คือ สำหรับใบหน้าไม่รวมคอใช้ประมาณ 1 ช้อนชา นะจ๊ะ!!!

หลายคนถึงขั้นอื้อหือเพราะคนไทยส่วนใหญ่ทากันแดดน้อยมว๊ากกก
ทำให้ได้ประสิทธิภาพในการกันแดดเพียงเล็กน้อย
เลยรู้สึกว่าทากันแดดทุกวันแต่ทำไมยังดำอยู่ ประเด็นคือปริมาณนี่หล่ะจ้า
ใครไม่ชินเค้าแนะนำแบ่งทา 2 รอบได้น้า ทาไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ชิน



บอกเลยว่าเค้าทาปริมาณเท่านี้มาหลายปี คอก็บีบไปอีก 1 ช้อนชา
ถ้าเป็นตอนทาตัวนี่บีบออกมาทวีคูณเลย ไหนๆก็เสียตังซื้อกันแดดมาแล้ว
ถ้าทาน้อยไปเพราะกลัวเปลืองครีมแต่กันแดดได้นิดเดียวก็เหมือนเสียตังฟรีๆเลยน้า
ดังนั้นถ้าจะซื้อครีมกันแดดทั้งที เราต้องเลือกสิ่งที่คุ้มค่าทั้งเรื่องราคา 
และคุณสมบัติในการปกป้องแสงแดด  แบบ ลอรีอัล ปารีส ตัวนี้
แล้วใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะได้ประโยชน์มากกว่าจ้า

ที่ขยันโบกขนาดนี้เพราะรังสียูวีในแสงแดดเป็นสาเหตุของปัญหาผิวทุกประการ
ไม่ว่าจะเป็นความหมองคล้ำ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ จาก UVB
รวมถึงริ้วรอยก่อนวัย จาก UVA , Long UVA
การปกป้องผิวจากแสงแดดจึงเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการดูแลผิวนะจ๊ะ

เทคนิคของเค้าคือจะ ไม่แต้ม 5 จุด เค้าจะทาตรงแก้มที่มีพื้นที่มากกว่าก่อน
แล้วค่อยทาตรงทีโซน ก็จะช่วยให้บริเวณทีโซนไม่โดนครีมมากเกินไป
จะไม่ทำให้หน้ามันง่ายระหว่างวันค่ะ



เท็กซ์เจอร์ของกันแดดบนผิวหลังทาในปริมาณ 1 เหรียญสิบทั่วหน้า
สังเกตได้เลยว่าสีไม่ว่อก ไม่เป็นคราบ ให้ลุคกลางๆไม่มันแต่ไม่แมทท์

แต่เนื่องจากมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
เค้าแนะนำว่าควรลงสกินแคร์ให้ผิวชุ่มชื่นก่อน
แล้วค่อยตามด้วยครีมกันแดดก็จะไม่มีผลไปทำให้ผิวเราแห้งลงจ้า



สรุปผลตามความรู้สึกของเค้าจัดให้เป็นหนึ่งในกันแดด
ที่ส่วนผสมเริ่ดดดดด....ในราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้และหาซื้อง่าย
เท็กซ์เจอร์ดี๊ดี บางเบาสมคำเคลมจริงๆ
ไม่ว่อกด้วย ทำให้เราสามารถทาในปริมาณเยอะหน่อยได้

ลุคที่ได้ไม่ถึงขั้นแห้งแมทท์แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าดูมัน
สำหรับผิวแห้งแบบเค้าก็สามารถใช้ได้
ขอแค่โบกสกินแคร์บำรุงให้ชุ่มก่อน
แต่ไม่ว่าผิวแบบใดไม่จำเป็นเฉพาะผิวแห้ง
ก็ควรทาสกินแคร์ก่อนลงกันแดดทุกครั้งนะจ๊ะ

แต่ด้วยความที่มีส่วนผสมที่ทำให้รู้สึกเย็นผิวตอนที่ทา
และมีน้ำหอม สำหรับคนที่ผิวระคายเคืองง่ายเค้าแนะนำว่า
ควรป้ายเทสหลังใบหูทิ้งไว้ซัก 24-48 ชั่วโมงเพื่อดูอาการก่อน
เพื่อความสบายใจ ถ้าไม่มีอาการใดๆค่อยทาทั่วหน้าจ้า

----------------------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by L'Oreal Paris
Information : https://www.facebook.com/lorealparisthailand
//www.lorealparisthailand.com/




 

Create Date : 29 พฤษภาคม 2558    
Last Update : 29 พฤษภาคม 2558 18:10:50 น.
Counter : 5942 Pageviews.  

Preview : Beauticool.com เว็ปช้อปปิ้งออนไลน์สุดคูล & Mini How To แปลงร่างย้ายเพิ้งเป็นนางซินสุดแซ่บ!

สวัสดีค่าขาช้อปทั้งหลาย Smiley
ปฎิเสธไม่ได้เนอะว่าช้อปปิ้งออนไลน์มาแรงแซงโค้ง
ทั้งราคาที่ถูกกว่า มีแบรนด์ให้เลือกหลากหลาย ไม่ต้องหอบหิ้ว
ยิ่งอากาศร้อน(เว่อร์ๆ)แบบนี้ นั่งคลิกอยู่บ้านสวยๆ
ดีกว่าออกไปฝ่าอากาศร้อนและรถติดเป็นไหนๆ
บล็อคนี้เลยมีเว็ปช้อปคูลๆมาฝากกัน

กับเว็ป >>> www.beauticool.com <<<

 จะคูลอย่างไร? แตกต่างจากเว็ปอื่นๆอย่างไร? ไปชมกันเลยจ้า



หน้าเว็ปโทนชมพู-ขาว-ดำ 
เปิดหน้าแรกมาปุ๊บเจอแรงกระตุ้นในการช้อปอย่างแรกเลย

ได้แก่โปร "Beauti Deals"

เป็นดีลที่ลดราคาแบบจัดเต็ม กับสินค้าที่มีจำนวนจำกัด 
และเวลาจำกัด โดยทางเว็ปจะอัพเดทดีลใหม่ๆให้ทุกวันจันทร์
รอบนี้ที่เค้าเปิดดูลดสูงสุดถึง 80% เลยนะเออ! 
ดีลนี้เน้นไวเพราะช้าหมดอดนะจ๊ะ



แต่ถ้าตามดีลไม่ทันทางเว็บก็มีส่วนลดที่สุดคูลไว้ให้อยู่แล้วในทุกรายการสินค้าจ้า



ด้านซ้ายของเว็ปที่เห็นจากภาพบนอันนี้เก๋ 

คือ "Beauti Bid"

จุดนี้เลยที่เค้าว่าทำให้ Beauticool แตกต่างจากเว็ปอื่นๆ
เพราะเป็น Beauty Mall Online แห่งแรกในประเทศไทย
ที่จัดกิจกรรมการประมูลขึ้นในหน้าเว็ป
โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่ำ " Bid มันๆเริ่มวันพฤหัส "

ซึ่งเราสามารถเข้าไปดูประวัติการประมูลย้อนหลังได้ด้วย
ว่าเริ่มประมูลด้วยราคาเท่าไหร่ ปิดประมูลด้วยราคาเท่าไหร่
เทียบกับราคาจริงแล้วคุ้มเว่อร์ ใครชอบว่าตื่นเต้นนี่บิดเพลินแน่นอน
เพราะไอเท็มที่เค้านำมาประมูลมีแต่ตัวจี๊ดๆที่สาวๆกรี้ดทั้งนั้น



แบรนด์ในเว็ปมีให้เลือกหลากหลายเลยทั้งเคาท์เตอร์แบรนด์ดังๆ
จากฝั่งยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี รวมถึงแบรนด์ฮ็อตฮิตตามกระแส
และแบรนด์ไทยคุณภาพดี ซึ่งมีกว่า 300 แบรนด์ มากกว่า 5,000 รายกาย
เอาว่าถ้าไม่ได้คิดมาก่อนจะช้อปอะไร ได้ส่องกันตาแฉะทั้งคืนแน่นอน Smiley



วิธีการสั่งซื้อก็เหมือนปกติ แต่อำนวยความสะดวกให้ขาช้อป
ด้วยการที่เราสามารถเลือกจ่ายเงินได้หลายช่องทาง
ไม่ว่าจะเป็นจ่ายผ่านบัตรเครดิต โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร
จ่ายผ่าน 7-11 , Tesco Lotus , FamilyMart

และพิเศษสุดตรงสามารถเลือกจ่ายเงินปลายทาง ได้ด้วย
สำหรับยอดซื้อที่ตั้งแต่ 2,500 บาท แต่เฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ นะจ๊ะ

กับบริการ "1 DAY RUSH"

บริการจัดส่งด่วนพิเศษพร้อมชำระเงินปลายทาง
ที่ให้บริการทุกวันจันทร์-เสาร์ 9.30-18.30 น. 
(ยกเว้นวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ซึ่งของจะบึ่งมาจัดส่งถึงมือเราภายใน 3-24 ชั่วโมง หลังทำการสั่งซื้อจ้า

บริการนี้เริ่ดจริงอะไรจริงสำหรับสาวๆที่อยู่กรุงเทพ
ได้ของทันใจไม่ต้องโอนเงินไปก่อนด้วย
แถมราคายังถูกกว่าไปซื้อที่ห้างซึ่งถ้ารวมค่ารถค่าเสียเวลา
ออกไปช้องเองไม่คุ้มอย่างแรงยิ่งเป็นของที่ใช้ประจำไม่ต้องลองก่อน
เค้าว่าสั่งผ่านเว็ปที่ไว้ใจได้เรื่องของแท้มันคุ้มกว่ากันเยอะจริงๆเนอะ



พิเศษๆก่อนจะไปเปิดถุงช้อปที่ทาง Beauticool จัดเต็มมาให้พร้อมมินิฮาวทู
เค้ามี CODE สิทธิพิเศษ สำหรับเพื่อนๆที่เข้ามาชมบล็อคนี้กันด้วย


โดยหลังจากช้อปปิ้งเรียบร้อยในขั้นตอนการชำระเงินตรงช่องข้อความถึงผู้ขาย

ให้ใส่โค้ดว่า "Beauticool@MN"

ก็จะได้รับ Laura Mercier Mascara ขนาด 5.7g ไปฟรีๆเลยจ้า
สิทธิ์นี้สำหรับ 100 ท่านแรก ที่ใช้โค้ดนี้เท่านั้นน้า
อย่าลืมไปใช้โค้ดเพื่อรับของขวัญพิเศษจากทาง Beauticool กันน้า



ท๊าดา......เปิดถุง Shopping Bag
ที่ทาง Beauticool จัดมาให้เค้าได้ลอง



มีแต่แบรนด์คุ้นเคยทั้งนั้นเลย อย่างเคาท์เตอร์แบรนด์ก็มี Lancome , Laneige
แบรนด์ไทยคุณภาพเริ่ดที่เค้าก็ใช้อยู่แล้วอย่าง Cosluxe , Passion Ville
และไอเท็มฮอตฮิตที่ไม่มีวางขายในบ้านเราอย่างแป้งดินน้ำมันอันโด่งดัง Ver.22

-------------------------------------------------------------------------------------------

เปิดถุงอย่างเดียวก็ไม่สนุกเลยมี Mini How To มาฝากกันด้วย กับคอนเซ็ปต์เก๋ๆ 

How To : "Beauticool เปลี่ยนหมูน้อยเป็นซินเดอเรล่า" 

ซึ่งเค้าจะคัดไอเท็มไม่กี่ชิ้นจากในถุงช้อปปิ้งแบ็ค
มาครีเอทลุคง๊าย ง่าย ที่จะแปลงร่างจากหมูน้อยสภาพยายเพิ้ง
ให้ดูสวยสดให้ขึ้นเหมือนนางซินที่ได้พรจากนางฟ้า! 
หูยปูไว้ซะเว่อร์555 ไปชมกันดีโลด



เตรียมผิวง่ายๆด้วยการลงเบสเมคอัพเสต็ปเดียว

[ ราคาเต็ม  2,190 ประหยัด 1,371฿ เหลือ  819 ฿ ]

แป้งดินน้ำมันจากเกาหลี ที่เห็นฮิตม๊ากมากจากกระแสรีวิวในเน็ต
ได้ลองเองเสียที เนื้อแป้งมีความยืดหยุ่นกดแล้วยุบได้เหมือนเนื้อดินน้ำมัน
ตัวนี้จัดว่าปกปิดดีเลยแต่อาจจะทายากหน่อยเค้าว่าแท็บๆเอาดีกว่าปาด
คุณสมบัติเน้นคุมมันขั้นเทพแต่เค้าผิวแห้งตอบให้มิได้เน่อ
แม้คุมมันแต่ลุคที่ได้ดูฉ่ำๆคล้ายทารองพื้นไม่ได้ดูแห้งแมทท์เน่อ
สีแป้งค่อนข้างขาวตามประสาแป้งเกาหลี เลือกเบอร์ดีๆนะจ๊ะ



ต่อด้วยสิ่งที่สำคัญสุดของใบหน้าก็คือคิ้ว
อันนี้กรี้ดดดดด เพราะสิ่งที่เค้าส่งมาให้คือดินสอเขียนคิ้วที่เค้าเลิฟที่สุดใช้ทุกวัน!
ได้แก่ Cosluxe Slim Brow pencil ใช้ดีสุดๆหัวเล็กเขียนไม่เป็นก้อน
ใครอยากดูฮาวทุวิธีเขียนคิ้วด้วยในแบบของเค้า
คลิกไปชมแบบคลิปใน YouTube โลด >>>CLICK<<<

สำหรับเซ็ตนี้เป็นเซ็ตพิเศษแบบจับคู่ดินสอกับมาสคาร่ามาให้ 

[ ราคาเต็ม  510 ประหยัด 102฿ เหลือ  408 ฿ ]

เค้าใช้สีน้ำตาลอ่อนสุดสี #Caramel ฮะ ตัวมาสคาร่าเพิ่งเคยลองก็เวิร์คนะนี่
หัวแปรงเล็กมากทำให้ซอกซอนเส้นขนคิ้วได้ดี โทนสีอ่อนสวยด้วย



มาถึงไอเท็มที่เป็นคีย์หลักของลุคนี้ก็คือ

PASSION VILLE Cream blush on the road!
#เบอร์ 07 Darjeeling Road
[เริ่มวางขายในเว็ปตั้งแต่เดือนพฤษภาเป็นต้นไปจ้า]

ครีมบลัชสารพัดประโยชน์ที่ใช้ได้ทั้งทาแก้มและปาก
ซึ่งเค้าจะมาประยุกต์ใช้ตาทาเป็นเบสก่อนด้วย
แอบเพิ่มความเก๋อีกนิดด้วยอายแชโดวกลิตเตอร์สีชมพูและทอง
จากเซ็ตเมคอัพของ Laneige ที่จะเอามาเพิ่มความวิ้งวับให้เปลือกตา



- ทาเปลือกตาด้วยบลัชครีมโทนส้ม
- ทาทับหัวตาด้วยอายแชโดวกลิตเตอร์สีชมพู
-ทาทับกลางถึงหางตาด้วยอายแชโดวกลิตเตอร์สีทอง
- เขียนขอบตาด้านในด้วยดินสอสีดำ
- ดัดขนตาปัดมาสคาร่า LANCOME Hypnose Star 
Waterproof Mascara #01 Noir Midnight (840฿)
- แต้มหัวตาล่างเล็กน้อยด้วยอายแชโดวกลิตเตอร์สีชมพู
- ทาแก้มด้วยบลัชสีส้มเน้นที่โหนกแก้มโดยใช้การแท็บเบาๆเพื่อเกลี่ย
- ทาลิปด้วยครีมบลัชสีส้มแนะนำให้ใช้นิ้วค่อยๆแตะจะออกมาเนียนสวยจ้า

----------------------------------------------------------------------------------------------

ฺBEFORE & AFTER



แปลงร่างเรียบร้อยจากยายเพิ่งเป็นนางซินยุคใหม่
ด้วยเมคอัพโทนส้มสดใสแต่งง๊ายง่ายใช้อุปกรณ์นิดเดียว







หวังว่าลุคนี้จะถูกใจกันลองไปปรับแต่งกันดูน้า

สำหรับบล็อคนี้ก็ขอลาไปก่อน...แต่ถ้าแวะเข้าไปช้อปปิ้งที่


ก็อย่าลืมใส่ CODE พิเศษ ว่า"Beauticool@MN"
เพื่อรับ Laura Mercier Mascara ขนาด 5.7g
เป็นของขวัญพิเศษไปด้วยน้า

บ๊าย บายค่า Smiley

----------------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by Beauticool
Information : www.beauticool.com




 

Create Date : 25 เมษายน 2558    
Last Update : 27 เมษายน 2558 22:21:02 น.
Counter : 4700 Pageviews.  

Review : KIEHL'S Iris Extract Activating Treatment Essence เอสเซ้นส์ฟื้นฟูผิวจากความร่วงโรยแห่งวัย



  กระแสเอสเซ้นส์น้ำตบๆบอกเลยว่ามาแรงมากจัดเต็มมากันทุกแบรนด์
และในที่สุดหนึ่งในแบรนด์สุดเลิฟของเค้าก็มีเอสเซ้นส์แล้ว เย้ๆ
นั่นก็คือแบรนด์ KIEHL'S : คีลส์ แบรนด์เก่าแก่จากนิวยอร์ค
ที่พัฒนามาจากร้านยามีประวัติยาวนานมากว่า 160 ปี

โดยเอสเซนส์ตัวแรกของเค้าเน้นตอบโจทย์สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหา
ผิวที่ร่วงโรย ดูหยาบกร้าน สูญเสียความเปล่งปลั่งเนื่องจากอายุที่มากขึ้น! 
อืม....จากวัยของเค้าแล้วจัดว่าตอบโจทย์ ไม่เห่อเท่าไหร่แต่ก็แค่ลองใช้ทันทีที่ได้มา555
เปิดตัวเอสเซ้นส์ตัวแรกของแบรนด์ขนาดนี้จะน่าสนใจอย่างไรไปชมรีวิวกันเลยจ้า  Smiley



KIEHL'S 
Iris Extract Activating Treatment Essence

---------------------------------------------------------------------

เอสเซ้นส์บำรุงผิวเพื่อผิวดูเปล่งปลั่ง ลดเลือนริ้วรอย 
และพร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไป

ขนาด 200 มล. ราคา 2,000 บาท 

มีวางจำหน่ายแล้วที่เคาท์เตอร์คีลส์ทุกสาขา
เช็คที่ตั้งได้ที่ >>>CLICK<<<

และสามารถช้อปปิ้งออนไลน์ที่ //www.kiehls.co.th/

***ขาช้อปออนไลน์คุ้มกว่าบอกเลย
เพราะเลื่อนไปท้ายรีวิวเค้ามีโค้ดส่วนลดมาแจกด้วย!!!



คุณสมบัติหลักของเอสเซ้นส์ตัวนี้พรีเซนต์ในเรื่องของ"ความเปล่งปลั่ง"
ซึ่งแปรผกผันไปตามวัย......คำว่าแก่พูดเบาๆก็เจ็บ กระซิกๆ
แต่นี่คือความจริงที่ผิวเราจะดูเปล่งปลั่งน้อยลงเมื่อวัยเพิ่มขึ้น

เหตุเพราะสมัยเอ๊าะๆผิวเรามีการเรียงตัวของเคราติน, คอลลาเจน, เมลานิน
อย่างเป็นระเบียบสวยงาม เปรียบเหมือนกระจกเรียบๆ
ทำให้ผิวกระจายแสงได้ดี ผิวจึงดูบริ๊งไบร์ทเปล่งปลั่งสวยงาม 

แต่เมื่ออายุมากขึ้นระดับความความชุ่มชื้นของผิวก็จะลดลง
เนื่องจากเคราตินและคอลลาเจนเริ่มเสื่อมสภาพ ร่ายกายผลิตได้น้อยลง
ทำให้ประสิทธิภาพการอุ้มน้ำของผิวลดลง ผิวจึงขาดความชุ่มชื่นและแห้งลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น
รวมถึงอัตราการผลัดเซลล์ใหม่ลดลง และการทำงานของเซลล์ผิวชั้นนอกลดลง 
ส่งผลให้เกิดเป็นริ้วรอย ผิวไม่เนียนเรียบสม่ำเสมอ
เปรียบง่ายๆว่าเมื่อกระจกไม่เรียบการสะท้อนแสงของผิวจึงลดลง
ทำให้ผิวดูหมองคล้ำไม่เปล่งปลั่งเหมือนสมัยเรายังเอ๊าะๆนั่นเอง



ส่วนผสมหลักที่เป็นตัวชูโรงบอกชัดเจนอยู่ในชื่อนั่นก็คือ "Iris Extract"
ซึ่งแน่นอนว่าต้องได้จากดอกไม้สีม่วงแสนสวยดอกไอริสนั่นเอง
แต่เค้าไม่ได้เอาดอกมาสกัดแต่ใช้ส่วนที่เป็นแหล่งสะสมสารอาหารทั้งหมดนั่นก็คือราก
ซึ่งได้มาเป็นสารสกัดจากรากไอริสฟลอเรนตินา (Iris Florentina Root Extract)

ที่มีความพิเศษตรงที่.....

Smiley ปลูกในแถบเมดิเตอเรเนียน และบานเพียงปีละ 3 ครั้ง
Smiley เก็บเกี่ยวด้วยมือตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง 
Smiley ผ่านกระบวนการสกัดที่นุ่มนวล เพื่อให้ได้สารสกัด
ที่ยังคงอุดมด้วยสารอาหารความเข้มข้นสูง 
Smiley อุดมด้วยฟลาโวนอยด์ (flavonoid) ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช 
มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวและชะลอความร่วงโรยของผิว



มาดูส่วนผสมคร่าวๆกัน.....ส่วนผสมหลักๆที่ใส่มามากสุดคือสารให้ความชุ่มชื่น
อย่าง Glycol และ Glycerin แต่พอเลื่อนมาเจออันดับ 5 อาจทำให้หลายคนชะงัก
นั่นก็คือ Alcohol Denat. หรือแอลกอฮอล์ในกลุ่มระเหยง่าย
ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะกังวลว่าจะทำให้ผิวแห้งหรือแพ้ง่าย
จึงอยากชี้แจงในจุดนี้ให้ฟังกันสักนิดว่าแท้จริงแล้ว
แอลกอฮอล์ในสกินแคร์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด!

----------------------------------------------------------------------------------

แต่เดิมนั้นส่วนใหญ่เราจะเชื่อต่อๆกันมาว่าสกินแคร์ตัวไหนมีแอลกอฮอล์คือไม่ดี
มีโอกาสที่จะแพ้สูง ซึ่งเอาจริงๆแล้วคนแพ้แอลกอฮอล์น้อยมากกกกก
และแอลกอฮอล์ก็ผสมอยู่ในสกินแคร์เกือบ 90% ในท้องตลาด
เพราะเป็นตัวทำละลายที่ทำให้เท็กซ์เจอร์โดนใจคนใช้คือซึมไวไม่เหนอะหนะ
ถ้าจะเลือกสกินแคร์ที่ปราศจากน้องแอลอย่างสิ้นเชิงจึงเรียกว่าหาได้ยากสุดๆ

แต่ในความจริงแล้วน้องแอลจะมีผลต่อผิวเราก็ต่อเมื่อมีปริมาณมากเกินไปเท่านั้นเอง
เนื่องจากตัวมันเองระเหยไวจึงทำให้น้ำในผิวเราระเหยออกไปด้วย
เมื่อผิวขาดความชุ่มชื่นจึงส่งผลให้ผิวอ่อนแอลงและระคายเคืองง่ายขึ้น
สรุปว่าปัญหาเกิดเมื่อผิวขาดความชุ่มชื่น ไม่ใช่เพราะน้องแอลไปทำให้ผิวแพ้หรือระคายเคือง

เพราะฉะนั้นถ้าในส่วนผสมไม่ได้มีแอลกอฮอล์มากเกินไป
คือไม่ได้มีมาในอันดับต้นๆของส่วนผสม (ลำดับ 1-3)
และมีส่วนผสมอื่นๆที่ให้ความชุ่มชื่นมาด้วยก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อผิวเรา
สิ่งสำคัญสุดของการใช้สกินแคร์ที่มีแอลกอฮอล์ก็คือการเติมความชุ่มชื่น
ถ้าเราบาลานซ์ความชุ่มชื่นผิวได้ดี มีการใช้มอยส์เจอร์ควบคู่
แอลกอฮอล์ในสกินแคร์ก็ไม่สามารถทำให้ผิวเราอ่อนแอลงได้
แต่ดีซะอีกที่ได้ใช้สกินแคร์ที่เท็กซ์เจอร์สบายผิวไม่เหนะหนะเหมาะกับอากาศบ้านเราจ้า

----------------------------------------------------------------------------------

จบเรื่องน้องแอลกอฮอล์เนอะใครกังวลอยู่จะได้สบายใจ
เพราะเอสเซนส์ตัวนี้จัดสารให้ความชุ่มชื่นประโคมมามากมาย
ดังนั้นแอลกอฮอล์ที่ใส่มาจึงไม่ได้มีผลที่ทำให้ผิวแห้งลง
แต่อย่างไรก็ตามแนะนำว่าควรใช้มอยส์เจอร์ที่ให้ความชุ่มชื่นควบคู่ไปด้วยฮะ

ส่วนผสมตัวชูโรงตัวแรกที่ใส่มาโดยอยู่ลำดับกลางๆของส่วนผสม
คือ Lipo Hydroxy Acid หรือ LHA
ตามในส่วนผสมคือ Capryloyl Salicylic Acid
ซึ่งก็คืออนุพันธ์ของ Salicylic Acid (BHA)
ช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพสาเหตุความหมองคล้ำอย่างอ่อนโยน
เนื่องละลายได้ดีในไขมันจึงกระจายตัวบนผิวชั้นนอกสุดได้ทั่วถึงกว่า
ทำให้เข้าถึงเซลล์ผิวเสื่อมสภาพได้ตรงจุด
นอกจาก LHA ก็ยังมี AHA อย่าง Citric Acid ใส่มาด้วย
แต่อยู่ในส่วนผสมแทบจะท้ายสุดจึงไม่น่ามีผลเท่าไหร่
โดยส่วนตัวเค้าผิวแห้งปกติจะไม่ค่อยใช้สกินแคร์ที่ใส่สารผลัดเซลล์ผิว
แต่ใช้ตัวนี้ได้ไม่รู้สึกอะไรไม่มีอาการแสบๆหรือยิบๆแต่อย่างใด คาดว่าไม่ได้ใส่มาเยอะมาก
น่าจะแค่ช่วยกระตุ้นให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติของเราทำงานได้ดีขึ้นฮะ

ตัวชูโรงตัวที่สองที่เกริ่นไปแล้วคือสารสกัดจากรากดอกไอริส
ตามในส่วนผสมได้แก่ Iris Florentina/Iris Florentina Root Extract
ตามคุณสมบัติที่แบรนด์แจ้งมาคือช่วยในการชะลอความร่วงโรยและช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก
ถนอมคุณภาพผิว ให้ผิวแน่นกระชับ และช่วยลดเลือนริ้วรอย 
โดยยังประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับความชุ่มชื้นในผิวชั้นนอก
พร้อมปรับปรุงการทำหน้าที่ของปราการคุ้มกันผิว เพื่อให้กักเก็บความชุ่มชื้นไว้นานขึ้น
รวมถึงอุดมด้วยฟลาโวนอยด์ (flavonoid) ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

ตัวชูโรงตัวสุดท้ายคือ Sodium Hyaluronate
อันนี้คุ้นกันอยู่แล้วคือสารช่วยอุ้มน้ำทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้น
เมื่อผิวชุ่มชื่นผิวจึงดูอิ่มฟู ริ้วรอยตื้นๆจึงดูจางลงนั่นเอง

***ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน แต่มีแอลกอฮอล์และน้ำหอมจ้า
เรื่องน้ำหอมใครยังงงๆเลื่อนไปอ่านที่ร่ายไว้ให้ฟังเน่อ



ลักษณะบรรจุภัณฑ์เป็นขวดพลาสติกใสสีม่วง
จึงป้องกันการเสื่อมจากแสงได้ไม่ค่อยดี
ควรวางไว้ในจุดที่ไม่โดนแสงสาดตรงๆนะฮะ
แต่เอาจริงๆต่อให้ขวดทึบแสงก็ต้องเก็บไม่ให้โดนแสงอยู่ดีเนอะ
เพราะมันไม่ได้เสื่อมแค่โดนแสงแต่ก็เสื่อมด้วยความร้อนได้อยู่ดี



เนื้อและกลิ่นของผลิตภัณฑ์

เนื้อเอสเซนส์ใสแจ๋วเหมือนน้ำเปล่า แต่มีความหนืดมากว่า
เมื่อสัมผัสไปบนผิวจะรู้สึกหนึบๆเล็กน้อย แต่ตบเบาๆก็จะซึมผิวได้หมด
หลังทาสัมผัสได้เลยว่าผิวจะชุ่มชื่นและนุ่มขึ้นโดยไม่เหนอะหนะ
แต่ให้ฟิลเหมือนมีฟิลม์บางๆเคลือบผิวไว้ ไม่ทำให้รู้สึกว่าผิวแห้ง
มีกลิ่นหอมดอกไม้ค่อนข้างชัดมีกลิ่นแอลกอฮอล์เจืออยู่เล็กน้อย
แต่โดยรวมเค้าใช้แล้วชอบกลิ่นนะเป็นดอกไม้ที่ไม่หวานมากออกแนวเฟรชๆดี



วิธีและขั้นตอนการใช้

ใช้เป็นขั้นตอนในการบำรุงขั้นตอนแรกหลังการล้างหน้า หรือหลังการใช้โทนเนอร์
โดยเทใส่ฝ่ามือเค้าเองใช้ประมาณเกือบ 1 เหรียญห้า กะๆเอาตามขนาดหน้าเนอะ
ประกอบสองมือเข้าด้วยกันให้เอสเซนส์กระจายตัวทั่วฝ่ามือ
แล้วทำการตบๆกดๆลงที่หน้า เน้นว่าเบาๆมือนะจ๊ะ ตบแรงไม่ได้ช่วยให้ซึมไวขึ้น
ค่อยๆตบไปบนผิวเบาๆตั้งแต่แก้ม หน้าผาก คาง อย่าลืมที่คอด้วยนะฮะ!
ทำไปจนกว่าเอสเซนส์จะซึมลงผิวหมด แล้วจึงบำรุงเสต็ปอื่นต่อไปตามชอบ
โดยคุณสมบัติของเอสเซนส์ตัวนี้นอกจากช่วยบำรุงแล้ว
ยังช่วยให้สกินแคร์ตัวอื่นทำงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย แนะนำให้ใช้ทุกวันเช้า-เย็น

เอสเซนส์ตัวนี้สามารถใช้ร่วมกับเอสเซนส์ตัวอื่นๆได้ไม่ต้องกังวลว่าจะซับซ้อน
เพราะส่วนที่เป็นคีย์หลักของเอสเซนส์แต่ละตัวต่างกันให้การบำรุงคนละจุด
เราจึงสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์จับคู่สกินแคร์ใช้ร่วมกันได้ตามชอบ
โดยเทคนิคการเรียงลำดับง่ายๆคือสกินแคร์ตัวไหนเนื้อเหลวกว่าให้ทาก่อนจ้า



ความรู้สึกหลังทดลองใช้

เค้าใช้เอสเซนส์ตัวนี้เช้า-เย็นต่อเนื่องมาประมาณ 2 สัปดาห์กว่าๆ
ส่วนตัวคือชอบฟิลหลังทาที่สัมผัสได้เลยว่าผิวชุ่มชื่นขึ้น
ใครกังวลเรื่องแอลกอฮอล์ตัดไปได้เลยสาวผิวแห้งคอนเฟิร์มให้ว่าชุ่มจริง
ผิวหลังทาเอสเซนส์จะรู้สึกชุ่มๆ จับแล้วจะให้สัมผัสที่นุ่มขึ้น

เมื่อทาสกินแคร์ขั้นอื่นต่อจะรู้สึกได้ว่าสกินแคร์ซึมได้ไว
นอกจากสัมผัสหลังการใช้ที่เค้าชอบแล้วยังติดใจตรงกลิ่น
ทาแล้วได้ฟิลอโรมาดี มีกลิ่นติดที่ผิวอ่อนๆให้ความรู้สึกเฟรชดี
แต่ใครผิวระคายเคืองง่ายแนะนำให้เทสป้ายตรงหลังใบหูซัก 24-48 ชม.ก่อนก็ดีนะฮะ 



แต่ในส่วนของผลลัพธ์ เค้าเองทาบำรุงสม่ำเสมอทาหลายตัวด้วย
ประกอบกับลองใช้ได้ไม่นานก็ยากที่จะตอบเรื่องความเปลี่ยนแปลง
แต่ถ้าวัดกันแค่ฟิลหลังทาก็จัดว่าเป็นเอสเซนส์ที่เท็กซ์เจอร์ดี
เน้นในเรื่องการเติมความชุ่มชื่นโดยที่ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะ
สามารถนำไปมิกซ์ใช้กับสกินแคร์ตัวเดิมๆที่เรามีอยู่ได้ง่าย
ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มระหว่างวันจึงใช้ได้ทุกสภาพผิวจ้า

***ใครกังวลเรื่องจะแพ้หรือจะระคายเคืองไหม
สามารถเข้าไปที่เคาน์เตอร์หรือช็อปคีลส์ทุกสาขา
เพื่อขอผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองมาลองก่อนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายน้า



ปิดท้ายนี้มีส่วนลดมาฝากกันด้วย
ใครกำลังเล็งผลิตภัณฑ์ของคีลส์และอยากสอย 
KIEHL'S Iris Extract Activating Treatment Essence ตัวนี้
แนะนำให้เข้าไปช้อปปิ้งออนไลน์ เลยจ้าที่


โดยก่อนจะจ่ายเงินให้ใส่ Promotion Code 

IRISMHUNOIII
(ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด)

ก็รับส่วนลดไปเลยทันที 10%
(เมื่อช้อปปิ้ง Iris Essence คู่กับผลิตภัณฑ์ใดๆก็ได้)
ใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1-15 พฤษภาคม 2558 นี้นะคร้าบ!!!

------------------------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by KIEHL'S Thailand




 

Create Date : 17 เมษายน 2558    
Last Update : 20 เมษายน 2558 15:57:35 น.
Counter : 14771 Pageviews.  

Preview : ORYZE สกินแคร์บำรุงผิวครบขั้นตอนจากญี่ปุ่นด้วยสารสกัดจากข้าวกล้องหอมมะลิไทย

 "ข้าวกล้องหอมมะลิ" ผลิตผลทางการเกษตรของไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก
ซึ่งไม่ใช่แค่ดังในเรื่องของรสชาติความหอมอร่อยเท่านั้น
แต่ปัจจุบันได้มีการค้นพบว่าในข้าวหอมมะลิมีสารบำรุงทรงคุณค่ามากมาย
จึงมีการนำข้าวหอมมะลิมาสกัดใส่ในสกินแคร์เพื่อช่วยบำรุงผิว

บล็อคนี้เลยจะขอชวนมาทำความรู้จักกับสกินแคร์แบรนด์นึง
ที่นำสารสกัดจากข้าวกล้องหอมมะลิไทยมาใช้เป็นส่วนผสมชูโรง
จะน่าสนใจอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ Smiley



แบรนด์ที่จะมาเล่าให้ฟังกันคือแบรนด์ "ORYZE" (โอริเซ่)
เกิดจากความร่วมมือของไทยซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิชั้นเยี่ยม
กับประเทศญี่ปุ่นที่มีวิวัฒนาการและเทคโนโลยีในการพัฒนาสกินแคร์
ออกมาเป็นเบสิกสกินแคร์ที่สกัดจากข้าวหอมมะลิไทย
ที่สามารถใช้ได้ทุกวันควบคู่กับสกินแคร์อื่นๆที่เราใช้อยู่
โดยขั้นตอนการวิจัยและการผลิตทั้งหมดทำในประเทศญี่ปุ่น



ORYZE มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 4 ชิ้น ได้แก่....

ORYZE GENTLE CLEANSING FOAM  (100 g 2,100 บาท)
ORYZE NOURISHING ESSENCE (100 ml. 3,700 บาท)
ORYZE REPLENISHING SERUM (30 ml. 4,300 บาท)
ORYZE ADVANCED CORRECTIVE CREAM (30 g 5,100 บาท)

มีจำหน่ายที่ King Power Duty Free สาขารางน้ำและพัทยา
และในเว็ปไซต์ได้แก่ www.oryze.com

---------------------------------------------------------------------------------------

ส่วนผสมหลักคือสารสกัดจากข้าวกล้องหอมมะลิ Oryzea สายพันธุ์ที่ดีที่สุดของโลก
ปลูกในที่ดินที่คัดเลือกแบบว่าเหมาะที่สุดคือจังหวัดเพชรบูรณ์
แล้วนำไปสกัดทางชีวภาพด้วยนวัตกรรมไบโอเทคโนโลยี HAKKOU 
จากทีมศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นจนได้สารสกัด Oryzea
ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว
ผลัดเซลล์ผิวเดิม ฟื้นฟูผิวใหม่ กระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid หรือ HA
ที่เป็นตัวสำคัญในการลำเลียงสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นจากกระแสเลือดไปยังเซลล์ต่างๆ 
และยังช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจนในชั้นเซลผิว 
ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้เกิดความยืดหยุ่น นุ่มนวล

ทำให้เซลล์ผิวทำงานได้ดีขึ้น กักเก็บความชุ่มชื่นได้ดี
จึงลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งดูมีสุขภาพดีจากภายใน

ORYZE จัดอยู่ในกลุ่มเบสิกสกินแคร์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิวและทุกช่วงอายุ
เพราะเป็นการบำรุงขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อผิวคือการให้ความชุ่มชื่น
และลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนค่อนข้างหลงลืมกันเนอะ

เรามักกังวลและเลือกสกินแคร์ที่แก้ใช้เพื่อปัญหาเฉพาะจุดมากกว่า
อย่างพวก Whitening หรือ Anti-Aging
ซึ่งจริงๆแล้วควรใช้สกินแคร์กลุ่มนี้ร่วมกับเบสิกสกินแคร์
จะเป็นการฟื้นฟูและ Maintain คุณภาพผิวไปพร้อมๆกัน

เปรียบง่ายๆเบสิกสกินแคร์ก็เหมือนกับร่างกายที่ต้องทานข้าวทุกวัน
การเลือกบำรุงเฉพาะจุดก็เหมือนการทานอาหารเสริม
ที่ช่วยบำรุงเพิ่มเติมแต่ไม่สามารถใช้แทนอาหารหลักได้นั่นเองจ้า

มาดูรายละเอียดของแต่ละชิ้นกันว่าใช้ในขั้นตอนไหนกันบ้าง.....



ORYZE GENTLE CLEANSING FOAM
โฟมล้างหน้า

ขนาด  100 g ราคา 2,100 บาท

----------------------------------------------------------

จุดเด่นของส่วนผสม

มีส่วนผสมของคอลลาเจนโมเลกุลที่เล็กที่สุด
และ  โอรีซ่า เซรามายด์จากข้าว ช่วยในเรื่องความชุ่มชื่น
มี กลาสโนว์ สารสกัดจากข้าว ที่ช่วยในเรื่องให้ผิวขาวกระจ่างใส
และยับยั้งความมันส่วนเกินบนใบหน้า

ลักษณะเนื้อและกลิ่น

เนื้อโฟมเข้มข้นสีขาวตีกับน้ำแล้วขึ้นฟองง่ายมากกกก
แค่ใช้มือตีฟองก็ได้ฟองที่นุ่มฟูในภาพไม่ต้องใช้ตัวช่วยในการตีฟองเลย
บอกเลยว่าประทับใจ ณ จุดนี้จริงๆ เพราะเค้าชอบล้างหน้าแบบฟองละเอียดฟูๆ
ซึ่งปกติมันต้องใช้พวกตาข่ายหรือแปรงตีฟองช่วยแต่บางวันก็ขี้เกียจอ่านะ
โฟมตัวนี้เลยจัดว่าเริ่ดที่สามารถให้ฟองที่เยอะและนุ่มฟูได้จากการตีฟองด้วยมือ
ซึ่งข้อดีของการตีฟองให้นุ่มฟูก่อนล้างหน้าจะทำให้ลดการเสียดสีของมือที่ถูบนหน้า
ทำให้ผิวหน้าสะอาดได้ล้ำลึกกว่าและไม่เป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยจากแรงขัดถูทางกายภาพจ้า

เรื่องของกลิ่นแม้มีส่วนผสมของน้ำหอมแต่ใส่มาน้อยมากเลยหล่ะ
เป็นกลิ่นหอมสไตล์มะลิๆจางๆล้างแล้วไม่มีกลิ่นติดผิว
สัมผัสหลังการล้างคือดีงามเค้าชอบนะสะอาดเกลี้ยงดี
แต่ไม่ทำให้รู้สึกว่าผิวแห้งหรือรู้สึกฝืดๆผิว หลังล้างจับผิวจะรู้สึกนุ่มๆขึ้น
ถือเป็นโฟมล้างหน้าราคาค่อนข้างแรงแต่คุณภาพสมราคาเลยหล่ะ



ORYZE NOURISHING ESSENCE
เอสเซนส์บำรุงผิว

ขนาด  100 ml. ราคา 3,700 บาท

----------------------------------------------------------

จุดเด่นของส่วนผสม

สารสกัดจากข้าว โอรีซ่า ซาทีว่า ลีส์ เอ็กซ์แทรกท์ (Oryza Sativa Lees Extract) 
และเดอร์มาไวท์(Derma White)  สารสกัดผ่านกรรมวิธีธรรมชาติ 
ช่วยฟื้นบำรุงเซลล์ผิวให้กระจ่างใส ลดความมันบนใบหน้า
AA2G ยับยั้งการผลิตเมลามีน ตัวการก่อให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ 
ไฮยาลูโรนิค เอสิด และ โอรีซ่า เซรามายด์ ช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นบนผิวหนัง 
ปกป้องและควบคุมระดับคอลลาเจนใต้ผิวให้คงความชุ่มชื้นตลอดเวลา

ลักษณะเนื้อและกลิ่น

เอสเซนส์เนื้อใสๆใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังล้างหน้า
ด้วยการหยดใส่มือแล้วกดลงบนผิวเบาๆ
มีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆไม่ชัดมากกลิ่นค่อนข้างธรรมชาติ
เนื้อเอสเซนส์ซึมลงผิวได้ดี ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ
ให้ความชุ่มชื่นได้ดีหลังใช้ผิวจะนุ่มขึ้น
ให้ความรู้สึกเป็นฟิลม์บางๆเคลือบผิวอยู่



ORYZE REPLENISHING SERUM
เซรั่มบำรุงผิว

ขนาด  30 ml. ราคา 4,300 บาท

----------------------------------------------------------

จุดเด่นของส่วนผสม

ลีส์ลาสติน สารสกัดจากพืชพันธุ์ธรรมชาติ 
ช่วยลดเอนไซม์ที่เป็นสาเหตุของริ้วรอยบนใบหน้า
พร้อมสร้างเอนไซม์ดีขึ้นทดแทนเพื่อฟื้นบำรุงผิวให้กระชับ
โอซีลิฟท์ สารสกัดจากข้าวโอ๊ต ช่วยกระชับเซลล์ผิว 
และจัดเรียงเซลล์ผิวให้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ผิวกระชับ
โพลีลิฟท์ สารสกัดจากเมล็ดอัลมอนด์ ที่ช่วยเรียบเรียงชั้นโปรตีนใต้ผิวหนัง 
ให้ผิวเนียนนุ่ม สุขภาพดี  และ ทริปเปิล คอลลาเจน ให้ผิวคงความชุ่มชื่นเปล่งปลั่ง

ลักษณะเนื้อและกลิ่น

เซรั่มเนื้อกึ่งเจลมีความเหลวใส
เมื่อลูบไปบนผิวจะแตกตัวให้สัมผัสลื่นคล้ายน้ำ
ซึมผิวไวมากกกคล้ายทาเอสเซนส์เลย ไม่มันไม่เหนอะหนะ
ให้ฟิลเป็นฟิลม์บางๆเคลือบผิว มีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ
ถ้าใช้คู่กับสกินแคร์อื่นๆเค้าแนะนำให้ลงกลุ่มเอสเซนส์ให้เสร็จ
แล้วตามด้วยเซรั่มตัวนี้เป็นตัวแรกเพราะเนื้อบางเบากว่าเซรั่มทั่วไปมาก
ถ้าเราใช้สกินแคร์ผสมกันหลายตัวเทคนิคง่ายๆใรการเรียงลำดับสกินแคร์คือ
ให้เรียงตามความเข้มข้นของเนื้อ อันไหนเนื้อเหลวกว่าให้ทาก่อนจ้า



ORYZE ADVANCED CORRECTIVE CREAM
ครีมบำรุงผิว

ขนาด  30 g ราคา 5,100 บาท




ส่วนผสมนางเอก Oryza Sativa Lees Extract คือตัวชูโรง
เป็นสารสกัดเข้มข้นที่ได้จากการหมักโดยกรรมวิธีธรรมชาติ
ช่วยฟื้นบำรุงเซลล์ผิวให้กระจ่างใส และยังขจัดความมันส่วนเกินบนใบหน้า
เพราะมีกรดอะมิโนซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติใต้เซลล์ผิว 
ช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรง ลดรอยดำช่วยลดการอักเสบ ช่วยปกป้องผิว และป้องการการเกิดฝ้า
และยังประกอบไปด้วย โอลิโกแซคคาไรด์ ที่มีหน้าที่หล่อเลี้ยงความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิว
ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเดิมและสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่และเซลล์ไฟโบรบลาสต์
ส่งผลให้มีการกระตุ้นสร้างสาร Hyaluronic acid และคอลลาเจน เพิ่มขึ้น

มีเซรามายด์จากข้าว และ ทริปเปิล คอลลาเจน 
ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพควบคุมระดับคอลลาเจน
ให้ผิวคงความชุ่มชื้นตลอดเวลา เสริมสร้างผิวให้เปลั่งปลั่ง
พร้อมซ่อมแซมเซลล์ผิวแม้อยู่ส่วนลึกที่สุด



เรียกได้ว่าเป็นนางเอกของแบรนด์ได้เลยกับครีมกระปุกนี้ราคาชวนตะลึงมาก
แต่ก็มาในแพ็คเกจจิ้งที่สวยงามหรูหราโทนขาวทอง
ตัวกระปุกเป็นแก้วทึบแสงป้องกันการเสื่อมจากแสงได้ดี
แต่ต้องระวังการปนเปื้อนจากมือเวลาควักเนื้อครีม
ซึ่งในกล่องจะมีที่ตักครีมมาให้ด้วย
แนะนำให้ให้ที่ตักครีมเพราะจะสะอาดกว่าการใช้มือจ้า



ลักษณะเนื้อและกลิ่น

เปิดกระปุกมากลิ่นมะลิลอยชัดขึ้นมาเลย
จัดว่ากลิ่นชัดว่าชิ้นอื่น แต่เค้าชอบนะเป็นกลิ่นแนวธรรมชาติๆดี

เนื้อเป็นแบบเจลครีม ดูตาเปล่าจะเป็นสีขาวข้นแบบครีม
แต่พอป้ายเนื้อจะสัมผัสได้ว่าลื่นแบบเนื้อเจล
เกลี่ยบนผิวได้ง่าย เทียบกับความข้นจัดว่าซึมไวเลย
ให้ความรู้สึกหนึบผิวเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกหน้ามันนะฮะ
คอนเฟิร์มว่าสบายผิวกว่าการทาครีม จึงสามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว
แค่ปรับลดปริมาณตามแต่สภาพผิวเอา
ส่วนตัวเค้าผิวแห้งควักใช้ทีละหนึ่งช้อนตักประมาณไข่มุกเม็ดใหญ่

ทริกในการทาครีมไม่แนะนำให้แต้มลงไปห้าจุดเน่อ
เพราะสามจุดจะไปตกอยู่บริเวณ T-Zone ซึ่งเป็นจุดที่ผิวมัน
แต่แก้มสองข้างเป็นโซนที่ผิวแห้งกว่ากลับได้ครีมเพียงเล็กน้อย
การทาในแบบของเค้าเลยใช้การวอร์มครีมเข้าในมือ
จากนั้นปาดลงไปบนหน้าแก้มทั้งสองข้างก่อนจนรู้สึกว่าชุ่มดี
เนื้อครีมที่เหลือจึงค่อยนำไปทาบริเวณ T-Zone
ซึ่งจะช่วยให้แก้มชุ่มชื่นทั่วถึงและไม่ทำให้ T-Zone มันเยิ้มระหว่างวันจ้า

สำหรับเค้าประทับใจนางเอกกระปุกนี้
ตรงเท็กซ์เจอร์ครีมเจลที่ทำออกมาได้ดีมาก
คือทาง่าย ชุ่มชื่นดี แต่ไม่เยิ้มไม่เหนอะ
ขนาดเค้าเป็นคนชอบโบกสกินแคร์หลายขั้นตอนละนะ
ปิดท้ายด้วยครีมตัวนี้ยังรู้สึกว่าซึมลงผิวได้อีก
ให้ฟิลที่ดีมากหลังทาคือจับผิวจะรู้สึกชุ่มเลยผิวนุ่มขึ้นจริงจัง
เอาว่าทำเนื้อมาได้สมราคาค่าตัวแต่จะป้ายทีก็ระวังที
ต้องปาดเก็บทุกอณูบนมือให้ซึมเข้าหน้าแบบว่าเสียดาย555 Smiley


สรุป.....เค้าว่าจัดเป็นสกินแคร์ที่ราคาค่อนข้างสูง
แต่รูปลักษณ์แพ็คเกจจิ้งก็ทำออกมาได้หรูหราสมราคา
เน้นการปกป้องผลิตภัณฑ์จากอากาศและแสงแดดได้ดี
เท็กซ์เจอร์เนื้อผลิตภัณฑ์ก็ทำออกมาได้เริ่ดไม่แพ้เคาท์เตอร์แบรนด์
เค้าลองแล้วประทับใจมากคือโฟมและครีมหล่ะ

ประกอบกับคอนเซ็ปต์ที่เน้นสารสกัดจากข้าวกล้องหอมมะลิไทย
ที่ปลูกในไทย มันทำให้มีความน่าสนใจมากกว่าปกติ
และรู้สึกมั่นใจกับคุณภาพด้วยการที่วิจัยและผลิตในญี่ปุ่น
จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
ซึ่งเหมือนเราได้สนับสนุนชาวนาไทยไปในตัวด้วยค่ะ

--------------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by ORYZE
Information: www.oryze.com




 

Create Date : 29 มีนาคม 2558    
Last Update : 2 เมษายน 2558 10:54:34 น.
Counter : 4210 Pageviews.  

Review [Text + Video] : Benefit Roller Lash Mascara งัดขนตาให้งอนเด้งแบบไม่ง้อที่ดัดขนตา!!!


 สวัสดีค่าสาวๆ ขอบอกว่าบล็อคนี้พราวทูพรีเซนต์มากอ้ะพูดเลย!
เพราะได้เจอกับมาสคาร่าที่เกิดมาเพื่อสาวเอเชียโดยเฉพาะแล้ว วู๊วววว Smiley
ซึ่งขนตาของเรานั้นช่างเพอร์เฟ็ค (ในทางไม่ดี) เสียนี่กระไร
ไม่ยาว ไม่หนา และไม่งอน เฮร่ออออ! จะปัดแต่ละทีก็ลำบากเพราะตาเล็ก
ใครเจอปัญหาเดียวกันต้องอ่านบล็อคนี้เชื่อว่าจะกรี้ดไม่ต่างกะเค้า อิอิ

ไปชมกันเล้ยยย....จัดให้ทั้งแบบภาพนิ่งและคลิป 
แต่แอบกระซิบว่าให้ดูคู่กัน เพราะในคลิปบอกเทคนิคให้จัดเต็มมั่กๆ Smiley



Benefit Roller Lash
เบเนฟิตโรลเลอร์ลัช....โรลม้วนขนตาในแท่งมาสคาร่า

--------------------------------------------------------------------------

ราคาแท่งละ 950 บาท

หาซื้อได้ที่เคาท์เตอร์ Benefit ทุกสาขา 
สามารถเช็คสาขาได้ที่ >>>Click<<<

หรือช้อปออนไลน์ที่





เป็นมาสคาร่ารุ่นใหม่ล่าสุดจาก Benefit ที่เน้นในเรื่องของความงอนโดยเฉพาะ
ซึ่งเป็นสิ่งที่สาวเอเชียแบบเราประสบมากสุด ด้วยลักษณะขนตาที่สั๊น สั้น 
ไร้ซึ่งความงอน ขนตานี่เทลงเป็นกันสาด แถมตาก็เล็กปัดยากได้อีก 
จะให้ดัดส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่าดัดให้งอนเป็นเรื่องยากเพราะมักจะดัดแล้วขนตาหักมากกว่างอน
เค้าเลยพัฒนามาสคาร่าสูตรนี้ออกมาเพื่อตอบโจทย์ในทุกปัญหาที่กล่าวมานั่นเอง



จุดเด่นของเค้าอยู่ที่หัวแปรงปัดมาสคาร่า
ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก.....โรลม้วนผม เอ้อเก๋เนอะ
เพราะโรลสามารถม้วนให้ผมขึ้นเป็นลอนได้
จึงนำมาพัฒนาให้เป็นแปรงปัดมาสคาร่าที่จะม้วนเส้นขนตาให้งอนเด้ง

ขนแปรงเค้าจะมีสองแบบโค้งด้านบนจะเป็นแปรงหวีซี่ละเอียดเรียงตัวเสมอกัน
ซึ่งในการปัดให้ใช้ด้านหวีปัดลงไปก่อนจะทำให้ขนตาแยกเส้นสวยงาม
จากนั้นพลิกอีกด้านแปรงจะเป็นแปรงขนที่ยาวกว่าวางตัวเป็นแนวโค้ง
สังเกตุดีๆจะเห็น ขอเกี่ยว เล็กๆที่ขนแปรงชื่อว่า hook ‘n’ rollTM
ซึ่งเจ้าขอเกี่ยวนี่หล่ะได้แรงบันดาลใจมาจากหนามเล็กๆ บนโรลม้วนผม
ซึ่งจะช่วยเกี่ยวแล้วยกขนตาให้งอนขึ้นแม้จะเป็นขนตาเส้นที่สั้นที่สุด
โดยไม่ต้องดัดขนตาก่อนเลย เอ้าจริงไม่จริงไปพิสูจน์กัน!



วิธีการปัดให้งอนเด้ง

Smiley ใช้ด้านแปรงหวีซี่สั้นๆปัดลงไปก่อน
โดยเน้นที่โคนยกค้างสักแป๊บแล้วค่อยๆสะบัดขึ้นไปที่ปลายขนตา
เทคนิคของเค้าคือปัดทีละน้อยๆแล้วรอให้แห้งหน่อยค่อยปัดซ้ำ
จะทำให้มาสคาร่าไม่เกาะขนตามากไปจนทำให้ขนตาหนัก
ผลลัพธ์ที่ได้จะงอนและเด้งกว่าปัดซ้ำๆหลายๆรอบในทีเดียวจ้า

Smiley พลิกเป็นหัวแปรงฝั่งที่เป็นขอเกี่ยว
ปัดโดยเน้นที่โคงเช่นกันเทคนิคเค้าคือที่โคนจะปัดแบบซิกแซ็ก
ทำให้ขอเกี่ยวเกี่ยวเส้นขนตาได้มากสุดแล้วทำการยกค้างไว้
ขนแปรงด้านนี้เกี่ยวขนตาดีมากจริงจังสามารถยกขนตาขึ้นไปได้ทั้งแพ
เมื่อยกค้างจนเริ่มงอนก็ค่อยสะบัดแปรงไปที่ปลายเบาๆ
มาสคาร่าจะติดที่โคงมากกว่าปลายช่วยให้โคนขนตาดูหนาขึ้น
ปัดเสร็จแล้วรอมาสคาร่าหมาดๆจึงปัดซ้ำด้วยวิธีเดิมซัก 3-4 รอบ
จนกว่าจะได้ความหนาและความงอนในระดับที่พอใจ



ซูมดูกันชัดๆว่ามันเกี่ยวขนตาขึ้นได้ราวกับโรลม้วนผมจริงๆ
ขนตาสั้นๆทิ่มลงแบบเค้ายังเอาอยู่เลยเพราะหัวแปรงมันเล็กด้วยหล่ะ
ปัดแล้วซอกซอนเข้าไปในตาหมวยๆได้ดีจริงๆ
และด้วยความี่เป็นแปรงแบบหวีทำให้ไม่ต้องใช้สกิลมากปัดไงก็แยกเส้น
เค้าเองชอบมาสคาร่าแปรงหวีมากกว่ารู้สึกว่าปัดง่ายกว่าฮะ



BEFORE - AFTER

มาดูผลลัพธ์กันชัดๆเค้าเทสให้ 2 แบบเลย คือ 
ขนตาเทลงแบบออริจินัล กับขนตาที่ดัดให้งอนเด้ง
แล้วค่อยทำการปัดด้วยวิธีเดียวกันอย่างที่แนะนำไปด้านบน

ผลลัพธ์ที่ได้ทำเอาอิชั้นกรีดร้องงงงงงงงงงงงงง Smiley
มันงอนพอกันค่ะคู๊ณณณณณณ!!! แล้วจะเสียเวลาดัดเพื่อ?!!??!
สรุปที่เค้าบอกว่างอนได้แบบไม่ง้อที่ดัดขนตาคอนเฟิร์มให้ว่าจริง
ซึ่งเป็นความงอนแบบธรรมชาติและงอนทนทั้งวันไม่เหี่ยวลง
นี่ขนาดขนตาเค้าเทแบบ 45 องศานะยังได้ขนาดนี้
ถ้าคนที่ขนตามีความงอนอยู่บ้างแล้วเชื่อว่าสะพรึงแน่นอน

อ้อตัวนี้กันน้ำกันเหงื่อได้ในระดับนึงแต่ไม่ถึงกะ Waterproof นะฮะ
โดนน้ำเบาๆเอาอยู่แต่ถ้าร้องไห้แบบดราม่านี่ก็เลอะบ้างจ้า
ส่วนการล้าง ล้างออกไม่ยากเค้ามีเทคนิคบอกอยู่ดูในคลิปเลยจ้า

สรุปจบเลยละกันงอนเด้งจริงไปลองเถ๊อะ!
ไม่รู้จะบอกไงของแบบนี้ต้องพิสูจน์กันดูเนอะ Smiley

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าด้วยค่า

Smiley XOXO Smiley

-----------------------------------------------------------------------------

Disclaimer : Sponsored Content by Benefit




 

Create Date : 18 มีนาคม 2558    
Last Update : 18 มีนาคม 2558 22:14:54 น.
Counter : 3372 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  

SaRaY
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]




..........ชื่อ "ทราย" นะค๊า นามแฝงที่ใช้ก็มี SaRaY และก็ Mhunoiii (หมูน้อย) ค่า สนใจการถ่ายภาพ กะการแต่งหน้า จากเป็นงานอดิเรกจะกลายเป็นงานประจำอยู่แล้ว 555 เลยอยากจะทำบลอคเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มานะค๊า ได้มากบ้างน้อยบ้าง มั่วๆกันปายยยย อิอิ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนแบบ
หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพและข้อความใน
http://www.mhunoiii.bloggang.com แห่งนี้ไปใช้
ทั้งโดยเผยแพร่ หรือเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต
จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด

ปล.ห้ามมิให้นำภาพใดๆจากในบล็อคไปใช้เพื่อการขายของโดยเด็ดขาดนะคะ !!!

---------------------------------------------------------

hits
New Comments
Friends' blogs
[Add SaRaY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.