Group Blog
 
All blogs
 

How To<Video>&Mini Review :เตรียมผิววันเร่งด่วน&บำรุงพิเศษก่อนนอนด้วยL’Oreal Day&Night SpotCorrector

สวัสดีค่าสาวๆรอบนี้ทรายขอมาแชร์เทคนิคในการลงเบสเมคอัพในวันเร่งด่วนพร้อมกับวิธีบำรุงในตอนก่อนนอน ซึ่งมาในรูปแบบของวิดีโอเชิญรับชมจ้า….




แถมด้วย Mini Review L’Oreal White Perfect Day&Night Spot Corrector ที่ทรายใช้ในวิดีโอ ^^


-------------------------------------------------------------------------



L’Oreal


White Perfect Day&Night Spot Corrector


คำอธิบายผลิตภัณฑ์ : ไวท์ เพอร์เฟ็คท์ เดย์&ไนท์ สปอต คอร์เร็คเตอร์ จากลอรีอัล ปารีส ช่วยแก้ปัญหาจุดด่างดำและสีผิวไม่สม่ำเสมออย่างมีประสิทธิภาพด้วย 2 ปฏิบัติการเพื่อผิวขาวสมบูรณ์แบบ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกลางวันและกลางคืน ได้แก่


           ปฏิบัติการที่ 1 ช่วงกลางวัน ด้วยคอลซีลลิ่ง ทรีทเม้นท์ : เนื้อครีมกึ่งคอนซีลเลอร์ผสมสารกรองรังสียูวีที่มีส่วนผสมใหม่ของ คัลเลอร์ อิควอไลเซอร์ สเฟียร์ เพื่อการปกปิดในทันทีที่ใช้ พร้อมด้วยส่วนผสมของเมลานิน-วานิช ทำให้ผิวคุณได้รับการปกปิด บำรุงและปกป้องไปพร้อมกันในขั้นตอนเดียว เพื่อต่อสู้กับปัญหาจุดด่างดำอย่างมีประสิทธิภาพ ผิวดูกระจ่างใสและเนียนเรียบขึ้นในทันทีที่ใช้


           ปฏิบัติการที่ 2 ช่วงกลางคืน ด้วยสปอต คอร์เร็คเตอร์ เอสเซนส์ : เนื้อเอสเซนส์ที่มีเมลานิน –วานิช (อานุภาพ 50 เท่า*เพื่อผิวกระจ่างใส เมื่อเทียบประสิทธิภาพกับ 1 หยดของเมลาโน-บล็อค) เข้มข้นที่สุดของลอรีอัล ปารีส สามารถช่วยลดเลือนความเข้มของเซลล์ผิวและจุดด่างดำบนผิวชั้นนอก  ช่วยลดปัญหาจุดด่างดำอย่างต่อเนื่องในขณะที่คุณพักผ่อน ทำให้สีผิวแลดูสม่ำเสมอ กระจ่างใสขึ้น เปล่งประกายแห่งผิวที่มีสุขภาพดีอย่างแท้จริง


ราคา : 390 บาท



DAY : Concealing Treatment


ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : เป็นเนื้อครีมบำรุงที่คุณสมบัติทางคอสเมติกเป็นคอลซีลเลอร์ที่ใช่ในการปกปิดให้รอยจุดด่างดำดูจากลงเมื่อตอนที่เราทา โดยเนื้อมีลักษณะแบบครีมข้นปานกลาง สีเนื้ออ่อน กลิ่นหอมบางๆลักษณะเหมือนกับครีมของ L’oreal ตัวอื่นๆ


ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : เมื่อลองเกลี่ยไปบนผิวเนื้อครีมจะกลืนเข้าไปในผิวแต่ช่วยปรับสีผิวในบริเวณที่ทาให้ดูกระจ่างขึ้น ให้การปกปิดแบบปานกลางคือแลดูจากลงแต่ไม่ปิดทับทั้งหมด เหมาะสำหรับวันที่ต้องการลุคเป็นธรรมชาติดูไม่หนาจ้า เนื้อครีมหนืดเล็กน้อยแต่เกลี่ยไม่ยาก แต่สีจะค่อนข้างขาวถ้าสาวผิวสองสีแนะนำให้ไปลองเทสก่อนได้ที่ตามหน้าเคาท์เตอร์จ้า


NIGHT : Spot Corrector Essence


ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : เนื้อเอสเซนส์เป็นเนื้อเหลวสีใส มีความหนืดไม่มาก กลิ่นใกล้เคียงกับตัว Day เหมือนครีมของ L’Oreal อื่นๆจ้า


ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : เมื่อทาเอสเซนส์ไปบนบริเวณจุดด่างดำ เนื้อเอสเซนส์จะซึมลงผิวได้ค่อนข้างรวดเร็ว มีความเหนะหนะทิ้งไว้บนผิวน้อยจ้า


-------------------------------------------------------------------------------



          สรุปผลการทดลองใช้  L’Oreal White Perfect Day&Night Spot Corrector สำหรับทราย ทรายชอบด้าน DAY ที่เป็น Concealing Treatment เพราะตัวนี้อย่างที่เห็นในวิดีโอคือสามารถใช้เป็นคอลซีลเลอร์แบบบางเบาในวันที่เราไม่ต้องการการปกปิดมากนักและต้องการความรวดเร็ว ซึ่งเหมือนได้บำรุงและปกปิดในคราวเดียว ส่วนตัว NIGHT ที่เป็น Spot Corrector Essence ทรายใช้ทาในบริเวณที่เป็นรอยกระ แต่อาจจะยังไม่ได้ใช้ในระยะที่ยาวนักจึงยังไม่ค่อยเห็นผล ซึ่งเหตุผลอีกประการคือกระของทรายเป็นกระที่เกิดจากกรรมพันธุ์ จะรักษาให้หายไปเลยก็เป็นไปไม่ได้ดังนั้นตัวนี้อาจจะช่วยในเรื่องชะลอการเกิดขึ้นของกระหรือช่วยป้องกันไม่ให้กระดูเข้มหรือดูชัดเจนขึ้นจ้า สำหรับสาวที่เป็นรอยสิวตัวนี้ก็สามารถใช้แก้ปัญหารอยสิวได้เช่นกันค่า ขอขอบคุณสาวๆทุกคนที่ติดตามชมนะคะ ผลของการใช้ผลิตภัณฑ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพผิวเดิม วิธีการใช้ ฯลฯ ดังนั้นก่อนจะเลือกผลิตภัณฑ์ใดๆขอให้เลือกอย่างมีวิจารณญาณ สาวๆก็จะได้สกินแคร์ที่โดนใจได้ไม่ยากเลยค่า ขอบคุณมากค่า บะบาย ^^


 






 

Create Date : 22 มีนาคม 2554    
Last Update : 28 มีนาคม 2554 18:30:51 น.
Counter : 5495 Pageviews.  

Review : SK-II Facial Treatment Essence น้ำป้าเจี๊ยบอันเลื่องชื่อ ^^

            สวัสดีค่าสาวๆเอารีวิวสกินแคร์มาฝากกันอีกแล้ว รอบนี้เชื่อว่าเป็นสกินแคร์ที่สาวๆหลายคนรู้จัก เคยใช้ หรือสนใจกันอยู่แน่ๆเลย เพราะเป็นสกินแคร์ชื่อดังซึ่งก็คือ >>>> SK-II Facial Treatment Essence หรือ Miracle Water หรืออีกหนึ่งชื่อที่ชอบเรียกกันคือ “น้ำป้าเจี๊ยบ” นั่นเองจ้า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ทุกตัวของ SK-II ที่เรารู้จักกันดีก็คือ “Pitera™” (Saccharomycopsis ferment filtrate) ซึ่งได้จากกระบวนการหมักบ่มยีสต์สายพันธุ์พิเศษหนึ่งเดียวของ SK-II อย่างที่เราได้เห็นกันในโฆษณาที่มือของหญิงชราในโรงบ่มสาเกนุ่มราวและเนียนเรียบราวกับผิวเด็กนั่นแหละจ้า


             สำหรับการทดลองใช้ครั้งนี้ทรายลองใช้ตัว Facial Treatment Essence อันเป็นตัวเด่นที่สุดของ SK-II เพราะเป็นตัวที่มีส่วนผสมของ “Pitera™” มากที่สุดถึง 90% โดยทรายคลีนหน้าตามปกติ หลังจากนั้นเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ แล้วตามด้วยตัว Facial Treatment Essence และปิดท้ายตัวมอยซ์เจอร์ไรเซอร์และอายครีม ทำแบบนี้เช้าเย็นแต่ตอนเช้าจะทาด้วยกันแดดตามทุกครั้งโดยทดลองแบบนี้มาร่วมหนึ่งเดือนตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม ซึ่งคุณสมบัติของตัวนี้จะช่วยให้เกิดการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเป็นไปตามวงจรธรรมชาติ 28 วัน ครบตามกำหนดเวลาจึงขอนำประสบการณ์ในการใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ของทรายมาแบ่งปันให้ชมกันจ้า ^^


-------------------------------------------------------------------------------


SK-II


Facial Treatment Essence


ผลิตภัณฑ์โลชั่นบำรุงผิวหน้า



คำอธิบายผลิตภัณฑ์ :


        “Miracle Water” (มิราเคิล วอเทอร์) ที่เป็นเอกลักษณ์ของ SK-II ที่มีส่วนผสมของ SK-II Pitera มากกว่า 90% ช่วยในกระบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวให้เป็นไปตามวงจรธรรมชาติ 28 วัน, ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเรียบเนียน, ช่วยให้ผิวกระจ่างใส, ช่วยฟื้นฟูผิว, ช่วยรักษาสมดุลของการผลิตน้ำมันในผิว, รักษาระดับของค่า pH ในผิวให้เหมาะสม, ช่วยลดอาการระคายเคือง อักเสบอันเนื่องจากการสัมผัสแสงแดด” เหมาะสำหรับทุกประเภทผิวที่ต้องการให้ผิวสุขภาพดี สวยงาม หรือผู้ที่มีปัญหาผิวเกี่ยวกับจุดด่างดำ มีริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ


ลักษณะผลิตภัณฑ์ และคุณประโยชน์


เป็นโลชั่นบำรุงผิวชนิดพิเศษ ด้วยสูตรส่วนผสมของ SK-II Pitera ที่มีมากกว่า 90% ช่วยในการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว


ช่วยให้ผิวเรียบเนียน


ทำให้ผิวกระจ่างใส


ทำให้ผิวชุ่มชื้น


ทำให้ผิวมีสุขภาพดี


ควบคุมสมดุลค่า PH ของผิว


ซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว


ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์


ปราศจากสีและน้ำหอม


ส่วนผสม : Saccharomycopsis Ferment Filtrate (Pitera), Butylene Glycol, Pentylene Glycol, Water, Sodium Benzoate, Methylparaben, Sorbic Acid


ขนาดและราคา : 75ml 2,800 บาท / 150ml 4,300 บาท / 215 ml 5,300 บาท (ขวดที่ทรายใช้ขนาด 75ml จ้าใช้สองคนทาเช้าเย็นมาหนึ่งเดือนพร่องไปประมาณ 2/5 ของขวดจ้า ^^)


ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : โลชั่นบำรุงผิวบรรจุมาในขวดแก้วเนื้อหนาเคลือบขุ่น มีฝาปิดเป็นฝาเกลียวสีเงิน ดังนั้นเพื่อเซฟประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จึงควรเก็บไว้ในที่พ้นแสงแดดนะจ๊ะ เนื้อโลชั่นเป็นน้ำใสกิ๊งราวกับน้ำเปล่า มีกลิ่นของน้ำยีสต์หมักเฉพาะตัว และไม่มีการใส่น้ำหอมแต่อย่างใดซึ่งอันนี้ถูกใจทรายเพราะทรายเป็นคนไม่ค่อยถูกกับน้ำหอมนักจะเวียนหัวได้ง่าย แต่ถ้าคนไม่ชินกับกลิ่นเฉพาะตัวของผลิตภัณฑ์อาจจะไปทดลองที่เคาท์เตอร์ก่อนก็ได้จ้า


ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : หลังจากล้างหน้าและเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์เพื่อปรับสภาพผิวให้พร้อมแก่การบำรุงแล้วทรายก็ตามด้วยน้ำป้าเจี๊ยบตัวนี้ ซึ่งตามข้างกล่องอธิบายวิธีการใช้มาสองแบบคือใช้หยดใส่สำลีแล้วแตะกระชับให้ทั่วใบหน้า หรือ ใช้เทใส่มือแล้วกดซับเบาๆให้ทั่วใบหน้า ซึ่งทรายทดลองใช้มาสองแบบสรุปประทับใจการทาแบบหลังมากกว่าคือใช้มือทาโดยทรายจะกดๆตบๆเบาๆให้เนื้อโลชั่นซึมเข้าผิว ลักษณะของเนื้อโลชั่นเป็นน้ำ ขอย้ำว่าน้ำจริงๆเนื้อสัมผัสเหมือนน้ำเปล่าคือไม่มีความเหนียวเหนอะหนะหรือมีความข้นเลยแม้แต่น้อย เมื่อทาเข้าไปบนผิวมันจึงซึมในทันทีค่ะ กลิ่นจะเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของน้ำหมักยีสต์ที่เมื่อทาไปบนผิวจะเหลือกลิ่นติดผิวเล็กน้อย แต่เมื่อใช้ทุกวันทรายก็ชินกับกลิ่นของเค้าจ้ามันเป็นกลิ่นอ่อนๆไม่ได้ฉุนแต่อย่างใด หลังจากที่โลชั่นซึมผิวจนหมดลองลูบในหน้าดูหน้าจะแห้งเรียบลื่นแต่จะให้ความรู้สึกเหมือนมีชั้นฟิลม์บางๆเคลือบอยู่ ไม่มีความเหนียวความมันเลยแม้แต่น้อยดังนั้นคนที่รู้สึกว่าตัวเองผิวมันไม่ชอบความรู้สึกหนักผิวตัวนี้ไม่มีความรู้สึกนั้นเลยจ้า จับผิวหลังทาจะนุ่มๆแต่สำหรับทรายที่ผิวค่อนข้างแห้งถึงแห้งมากจึงต้องทามอยเจอร์ไรเซอร์ทับอีกหนึ่งชั้นเพิ่มเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวค่ะ


ผลการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ : สำหรับหนึ่งเดือนที่ผ่านมาสำหรับทรายจุดที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือเรื่องของความเรียบเนียนของผิวบริเวณแก้มที่ข้างแนวจมูกว่าดูเนียนขึ้น ที่สังเกตเห็นตรงจุดนั้นคือเมื่อทาครีมบำรุงครบเซตพร้อมกันแดดเมื่อแต่งหน้าเมคอัพมันติดง่ายขึ้นและทนขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วคนผิวแห้งจะเกิดอาการเมคอัพไม่ติดผิวได้ง่าย ส่วนในเรื่องความกระจ่างใสนั้นในช่วงหนึ่งเดือนที่ใช้เป็นช่วงที่ผิวอยู่ในภาวะปกติไม่ได้คล้ำหรือหมองกว่าปกติ สำหรับทรายที่เป็นคนดูแลผิวมาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมออาจจะดูไม่เห็นความกระจ่างใสที่มากขึ้นชัดเจนนักแต่เมื่อผิวดูเรียบเนียนขึ้นนั้นก็ช่วยให้หน้าดูเฟรชขึ้นและดูเคลียร์ขึ้นจ้า             


-------------------------------------------------------------------------------



             สรุปผลโดยรวมสำหรับสกินแคร์ตัวนี้ ทรายว่าเหมาะมากๆสำหรับคนที่ขาดการบำรุงผิวอย่างต่อเนื่องเพราะทรายแอบให้คุณแฟนใช้ SK-II Facial Treatment Essence ไปพร้อมๆกัน ซึ่งให้ผลที่ไวมากสำหรับผิวที่ขาดการดูแล เห็นผลได้รวดเร็วในเวลาไม่นาน แต่สำหรับคนที่บำรุงผิวอย่างเต็มสตรีมทุกวันการเพิ่มตัวโลชั่นนี้เข้าไปอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนหรือไม่คงต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคนว่าจะให้การตอบสนองต่อส่วนผสมหลัก “Pitera™” ที่มีเฉพาะใน SK-II ได้ดีเพียงใด จากที่เห็นคือคนที่ใช้แล้วถูกกับผิวผิวจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่คนที่เกิดอาการแพ้ก็มีบ้างตามปกติของสกินแคร์ ดังนั้นจึงแนะนำว่าให้ไปทดลองก่อนจะดีที่สุดจ้า ในระดับความพอใจของทรายถือเป็นโลชั่นที่ช่วยให้ผิวแลดูละเอียดและเรียบเนียนขึ้นจ้า ส่วนรายละเอียดผลิตภัณฑ์อื่นๆของ SK-II สามารถเข้าไปชมเพิ่มเติมได้ที่ www.sk-ii.co.th จ้า ^^


          การทดลองและประสบการณ์ที่ทรายนำมาแชร์ทั้งหมดเป็นความรู้สึกส่วนตัวของทรายแต่เพียงผู้เดียวดังนั้นจึงขอให้ทุกคนใช้การรีวิวของทรายเป็นหนึ่งในข้อมูลสำหรับการเลือกซื้อสินค้านะจ๊า พื้นฐานผิวของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ปัจจัยแวดล้อม การใช้ชีวิต อาหารการกินที่ต่างกัน ย่อมมีผลต่อผลลัพธ์ของการใช้สกินแคร์ที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้นเราเองจะตอบได้ดีที่สุดว่าสิ่งไหนเราใช้แล้วรู้สึกว่าเหมาะกับเราจ้า ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้านะค๊า สำหรับรีวิวนี้ขอจบเพียงเท่านี้ ขอบคุณนะค๊า ^^







 

Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2554 0:23:39 น.
Counter : 44357 Pageviews.  

>>รวบรวมสุดยอดไอเทมโดนใจทำไมต้องซื้อซ้ำของ mhunoiii ในปี 2010 ที่ผ่านมาจ้า<<ภาคจบจ้า

มาต่อภาคจบแล้วจ้าเชิญรับชมได้เล้ยยย ^^



>>>ดินสอเขียนขอบตาที่แทบไม่พกพาแพนด้ามาด้วย : Beautilicious


เหตุผลที่โดนใจ : ดินสอเขียนขอบตาเป็นไอเทมที่มักพกพาแพนด้ามาด้วยเนื่องจากเนื้อดินสอทั้งหลายจะมีความเป็นครีมมี่สูง ถ้าเนื้อไม่ครีมมี่ก็จะถมดำได้ไม่เต็มที่นัก ขนาดทรายผิวแห้งก็จะประสบปัญหาแพนด้าน้อยๆในบางครั้งจนมาเจอดินสอตัวนี้ของ Beautilicious ทรายว่าเป็นดินสอที่ตอบโจทย์ได้ดีให้คุณสมบัติการถมดำที่ดำปี๋ได้ใจ และแอบพาลูกแพนด้ามาเล็กน้อยถึงน้อยมากๆ คือระหว่างวันมันเยิ้มน้อยมากเลยของทรายแค่หางตาเล็กๆ จึงเป็นดินสอคู่ใจไว้พกพาเติมระหว่างวันได้แบบชิลๆเลยจ้า


แอบติซักนิด : เป็นแท่งหมุนใช้ง่ายแต่บางทีแบบหมุนปรื้ดออกมายาวไปทำให้หักได้จ้า



>>>เซตที่ดัดขนตาสุดที่เลิฟ : Shiseido , Shu Uemura , Gino Mccray


เหตุผลที่โดนใจ : เอาอีกแล้วๆไหนว่าเลือกที่โดนใจมาเป็นเซตอีกแล้ว แหะๆ คือว่าขนตาทรายมันยังหาที่ดัดที่โค้งโดนเบ้าตาเป๊ะๆไม่ได้ เพราะฉะนั้นดัดหนึ่งครั้งจึงต้องพึ่งพาที่ดัดขนตาหลากยี่ห้อ โดยจุดเด่นของ Shiseido คือเด้งดึ๋งดั๋ง โดยเฉพาะหัวตาถึงกลางตา แต่หางตามันเก็บได้ไม่หมดเลยต้องหันมาพึ่งพาตัวต่อไปคือ Shu Uemura ที่ดัดหางตาได้หมดจนเส้นสุดท้าย หางตาสวยได้ด้วยลุงชู อิอิ ส่วน Gino จัดเป็นที่ดัดขนตาราคาประหยัดที่เอาไว้ดัดย้ำที่โคนมันทำให้โคนเด้งไม่ตกระหว่างวันเลยจ้า แต่ถ้าให้เลือกพกหนึ่งอันสำหรับเบ้าตาทรายขอเป็น Shiseido แม้จะไม่สุดหางตาแต่มันก็เด้งเริ่ศนะค๊า


แอบติซักนิด : อยากจะผสานคุณสมบัติทั้งสามอันมารวมกันเป็นอันเดียวจังเล้ยยยยยยยยยยย อิอิ  แต่ขอบอกว่าที่ดัดขนตาจะดีสำหรับเราหรือไม่ขึ้นอยู่กับมันโค้งรับพอดีเบ้าตาเราไม๊นะจ๊าเพราะฉะนั้นเทสเองดีที่สุดค่ะ



>>>อายไลน์เนอร์ที่แทบไม่ต้องพึ่งพาฝีมือ อิอิ : L’Oreal Super Liner


เหตุผลที่โดนใจ : จัดเป็นอายไลน์เนอร์รุ่นบุกเบิกที่ทรายหัดใช้ตอนหัดแต่งหน้า รองจากแบบลิขวิดของ covermark ขอบอกว่าตัวนี้เขียนง่ายม๊ากกก หัวไม่นิ่มเกินไม่แข็งไป เนื้อแบบลิขวิดลากแล้วคมกริ๊บ สีดำก็ดำเกือบสนิท สีน้ำตาลก็คลาสสิกกรีดแล้วตาหวานๆแบบเป็นธรรมชาติ แถมพกพาง่ายไม่ต้องกลัวเลอะเทอะเอาไว้เติมได้ระหว่างวัน ที่สำคัญราคาช่างน่าคบหายิ่งนัก ใช้มาแล้ว 4-5 แท่ง ไม่โดนใจไม่ซื้อต่อหลายอันขนาดนี้แน่น๊อนนน ^^


แอบติซักนิด : ปลายหัวที่เขียนจะมนๆหน่อยบริเวณหางตาจึงต้องสะบัดปลายซักนิดจึงจะได้หางตาเฉียบๆ และตัวนี้แอบละลายน้ำนะจ๊า น้ำตาไหลหางตามันก็จะละลายเส้นตรงหางตาออกไปดังนั้นพกพาไว้เติมระหว่างวันจะทำได้ดูเนี้ยบตลอดวันค่า



>>>ลิปไลน์เนอร์ลบขอบปากแก้สีลิปเพี้ยนๆ : Oriental Princess


เหตุผลที่โดนใจ : ลิปไลน์เนอร์อันนี้เป็นแบบสองด้านที่จะมีหนึ่งด้านเป็นสีนู้ดและอีกหนึ่งด้านมีให้เลือกหลากสี ตัวนี้ซื้อมาใช้แต่สีนู้ดหมดไปสามแท่ง สำหรับทรายหนึ่งแท่งใช้ได้นานนนนนนนมั่กๆ เป็นลิปไลน์เนอร์ที่กลบสีปากแดงๆของทรายได้มิด และไม่ทำให้เป็นคราบที่ขอบปากด้านในแต่อันนี้อาจจะขึ้นอยู่กับลิปที่เราทาทับลงไปด้วยนะจ๊ะ สอยตอนลดราคาสมาชิกวันพุธหรือวันพฤหัสถ้าจำไม่ผิดจะได้ราคาถูกจนน่าต๊กกะใจเลยค่า


แอบติซักนิด : สำหรับทรายสีมันแอบเข้มกว่าสีเนื้อไปนิดดังนั้นถ้าเขียนเกินขอบปากมามันจะแอบสังเกตเห็นได้แต่สำหรับสาวผิวกลางๆมันเริ่ศถึงเริ่ศที่สุดใช้ทำลุคปากแดงด้านในนู้ดนอกได้แบบอั้ม พัชราภาเลยขอโบกกกกก อิอิ



>>>แปรงแต่งหน้าที่เห็นราคาแล้วกรี้ดๆๆๆ : Holika Holika


เหตุผลที่โดนใจ : เป็นแปรงแต่งหน้าราคาถูกที่สุดสุดจะถูก ซื้อมาเกือบสิบอันหมดไปไม่ถึงพันห้า เนื่องจากไปสอยจากเกาหลีพร้อมได้ส่วนลดพิเศษในวันฮาโลวีน ขนแปรงตัวนี้ไม่นิ่มมากแต่ไม่แข็งบาดหน้าขนแปรงแตะติดเนื้อแป้ง เนื้อบรัชและเนื้ออายแชโดวได้ดีเกินราคามากๆ แถมด้ามสวยถูกใจ สามารถทำให้ทรายข่มใจไม่สอยแปรง Sigma ยกเซตได้ อิอิ ประหยัดไปเยอะเลยทีเดียว เอาว่าถ้าใครอยากได้แปรงคุณภาพเกินราคาโดยไม่ต้องกระเป๋าฉีกขอเสนอ Holika Holika เป็นอีกหนึ่งทางเลือกจ้า (แต่ทรายไม่ทราบราคาที่ขายในชอปไทยน๊า)


แอบติซักนิด : ซื้อมายกเซตแต่....ไม่มีซองใส่แปรงขายเลยต้องมาเสาะแสวงหาซองใส่กันต่อไป ^^



>>>ลิปบาล์มที่เนื้อฉ่ำได้ใจสำหรับสาวปากแหกแบบเรา : Origins WEIL Conditioning Lip Balm


เหตุผลที่โดนใจ : ถ้าใครได้เคยเห็นปากทรายตอนลอกจะเห็นว่าทรายเป็นคนปากแหกขั้นเทพ ใช้ลิปมาแล้วแสนแปดไม่ว่าจะถูกจะแพง สมุนไพรก็แล้วก็ไม่สามารถเอาอยู่ ลิปบาล์มในความรู้สึกทรายมันเป็นลิปที่ไม่ฉ่ำปากแหกๆเล้ยยย จนได้มาลองลิปบาล์มตัวนี้คุณสมบัติมันก็ไม่ได้สามารถทำให้ปากที่แหกได้โล่ของทรายหายได้แต่...มันฉ่ำค่ะ รู้สึกได้ถึงความชุ่มชื่นของเนื้อลิปที่เคลือบไปบนปาก เอาว่าถ้าใครปากไม่มีปัญหาร้ายแรงแบบทรายได้ลองตัวนี้น่าจะเลิฟๆจ้า ^^


แอบติซักนิด : เนื้อลิปบาล์มมันเป็นสีเหลืองเวลาทามากไปแอบทำให้ดูปากเหลืองๆได้นะค๊า 555 และคราบลิปบาล์มจะเลอะๆตรงฝาเป็นคราบเหลืองๆทำให้แพคเกจดูเหลืองๆคราบๆแอบดูสกปรกได้ค่า



>>>ครีมทาผิวที่ช่วยฟื้นฟูผิวอันแห้งกร้านได้อย่างไม่น่าเชื่อ : Vitara E Natural Moisturizing Cream


เหตุผลที่โดนใจ : ผิวแห๊งแห้งของทรายดูสวยนุ่มชุ่มชื่นได้ต้องยกรางวัลให้ครีมทาตัวอันนี้ จริงๆตัวนี้ใช้ทาหน้าได้ด้วยแต่ยังไม่เคยลองทรายใช้ทาแต่ตัว เนื้อครีมสีขาวไม่มีน้ำหอมทาแล้วซึมเหลือความหนึบเพียงเล็กน้อยแต่ผ่านไปหนึ่งคืนในห้องแอร์ตื่นมาจับๆผิวยังชุ่มชื่นอยู่เลย เริ่ศๆๆๆ กักเก็บความชุ่มชื่นผิวได้ดีจริงจัง ผิวทรายจับแล้วแทบจะไม่รู้ว่าเป็นคนผิวแห้งแต่ตัวนี้ทรายเอาไว้ทาก่อนนอนเท่านั้นนะค๊า ทากลางวันอาจจะรู้สึกหนักผิวเกินไปคร๊าบบบ


แอบติซักนิด : แพคเกจจิ้งไม่น่าใช้เล้ยยยย ถ้าทำให้สวยกว่านี้จะดูน่าใช้มากขึ้นคร๊าบบบ



>>>ครีมทาผิวสามัญประจำห้อง : Jergens


เหตุผลที่โดนใจ : เป็นครีมสามัญประจำห้องที่ทรายซื้อติดไว้ประจำลองเปลี่ยนมาแล้วแทบทุกสูตร เอาไว้ทาตอนกลางวันแล้วค่อยทากันแดด สำหรับทรายที่ผิวแห้งตัวนี้ซึมได้เกลี้ยงหมดเลยขอบอก ให้ผิวชุ่มชื่นกำลังดีแต่ไม่มากเท่าตัวข้างบน เอาว่านึกอะไรไม่ออกก็สอยเจอเก้น ยิ่งเจอลดราคายิ่งต้องสอย 555


แอบติซักนิด : งืมๆนึกไม่ออก เอาว่าถ้าราคาเป็นโปรโมชั่นตลอดจะเริ่ศมาก 555



>>>ทรีทเมนต์ผมที่ทำให้ผมนิ่มที่ซู้ดดดในโลก : Kiehl’s Sunflower สำหรับผมทำสี


เหตุผลที่โดนใจ : ตั้งแต่เคยลองใช้ทรีทเมนต์มาทั้งถูกทั้งแพง แบบโปรเฟซชันแนลก็ลองมาแล้วสรุปได้ว่าตัวนี้มันทำให้ผมนิ่มได้ถึงขีดสุด และทำให้ผมดูมีน้ำหนักปานนางแบบโฆษณาผม แต่อันนี้ทรายว่าก็ต้องแล้วแต่สุขภาพของแต่ละคนด้วยนะคะผมเดิมทรายสุขภาพดีแต่ผ่านการทำสี กัดสีมาโชกโชน ปลายก็มีแห้งบ้างอะไรบ้าง แต่วันไหนหมักทรีทเมนต์ตัวนี้ ซึ่งทรายจะใส่ตัวทรีทเมนต์เฉพาะปลายผม ส่วนกลางผมใช้ตัวครีมนวดอันที่เป็นหลอด ผมลื่นนุ่มตรงเงา สรุปได้ว่าเริ่ศศศศศค่า


แอบติซักนิด : ผมเดิมทรายเป็นคนโคนผมมันอยู่แล้ว ถ้าหมักผมด้วยตัวนี้แล้วเผลอทิ้งไว้นานเกินไปมันจะทำให้โคนผมทรายมันมากเกินไป และถ้าวันไหนต้องการโรลผมแนะนำว่าอย่าใส่ทรีทเมนต์เยอะเพราะผมที่ลื่นไปจะทำให้โรลไม่ติดลอนจ้า



>>>ยาสีฟันไอเทมสุดรักที่หลายคนคาดไม่ถึง : Denta Mate


เหตุผลที่โดนใจ : สาวๆหลายคนที่ประสบปัญหาปากแห้ง ลอก ขอบปากไหม้ ร้อนใน เรามักจะนึกถึงลิปว่าเราแพ้ลิปอะไรหรือเปล่า แต่อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่คาดแทบไม่ถึงกันคือ “ยาสีฟัน” ค่า อย่างคนที่เป็นสิวบริเวณใต้คางยาสีฟันก็เป็นสาเหตุน๊าขอบอก อย่างทรายทรายแพ้ฟลูออไรด์ในยาสีฟัน ขอบปากไหม้ ปากลอกเป็นแผ่นๆพอเปลี่ยนมาเป็นแบบไร้ฟลูออไรด์อาการขอบไหม้ก็หายไปเลยจ้า นอกจากฟลูออไรด์ที่จะแพ้กันได้แล้ว พวกส่วนผสมมินท์ๆเย็นๆเมนทอลๆก็ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายนะค๊า เจ้ายาสีฟัน Denta Mate ตัวนี้จึงตอบโจทย์ได้ไม่เย็นไม่มีฟลูออไรด์ จึงกลายเป็นหนึ่งไอเทมที่ทรายขาดไม่ได้เลยค่า


แอบติซักนิด : เท่าที่ทรายเคยเห็นยี่ห้อนี้มีขายแต่ใน Golden Place โครงการหลวง ซึ่งหาใช้ได้ยากและราคาแอบสูงเมื่อเทียบกับยาสีฟันยี่ห้ออื่นๆ หลอดเล็กๆเท่ายาสีฟันหลอดเล็กสุดราคา 65 บาทกันเลยทีเดียวแต่ว่าจะใช้ในปริมาณเพียงเม็ดพริกไทยค่า



>>>ครีมทาหน้าสามัญประจำบ้าน : GoodSkin Labs Totol Face


เหตุผลที่โดนใจ : ทรายเป็นคนเปลี่ยนสกินแคร์เป็นว่าเล่น แต่ด้วยความที่ผิวแห้งหนึ่งในครีมบำรุงจะต้องมีตัวมอยซ์เจอร์ไรเซอร์อยู่ด้วย ซึ่งครีมตัวนี้เป็นมอยซ์เจอร์เนื้อหนักที่หนักได้ใจโบกแล้วรู้สึกถึงความชุ่มชื่น เอาว่าก่อนหน้าจะบำรุงด้วยอะไรถ้านึกไม่ออกก็จะขอปิดท้ายด้วยครีมตัวนี้ทุกครั้งไป เมื่อผิวแห้งๆได้เติมความชุ่มชื่นอย่างเพียงพอผิวก็จะดูเฟรชขึ้นค่า จึงจัดเป็นไอเทมนึงที่ขอมีติดบ้านไว้จ้า


แอบติซักนิด : หนึ่งหลอดร่วมสองพันราคาแอบสูงไปนิด และเนื้อที่ค่อนข้างหนักซึ่งทรายชอบแต่สาวๆที่ผิวไม่แห้งมากอาจจะรู้สึกหนักผิวเกินไปจ้า



>>>ที่ลอกสิวเสี้ยนพลังช้างสาร : Lansley จาก Beauty Buffet


เหตุผลที่โดนใจ : สำหรับที่ลอกสิวนั้นทรายลอกมาแล้วหลากหลายยี่ห้อ Kose ยี่ห้อดังก็ใช้ทั้งมาส์กขาวลอกเสี้ยนและมาส์กดำกระชากวิญญาณ ใช้มาตลอดจนได้มาเจอตัวนี้ด้วยความที่เห็นราคาที่ต่างกันมากจึงซื้อมาแบบไม่คาดหวังมาก แต่พอลองใช้เท่านั้นย้าย Kose เข้ากรุกันเลยทีเดียว สำหรับทรายตัวนี้ลอกได้เกลี้ยงกว่ามาก บริเวณข้างปีกจมูกที่ปกติลอกไม่ออกตัวนี้ก็สามารถ จนรู้สึกว่าบางทีมองๆดูก็ไม่มีสิวเสี้ยนมากแต่พอลอกอันนี้แทบช็อคเฮ้ยยสิวเสี้ยนมันมาจากไหนนักหนา ถือว่าเป็นตัวลอกสิวเสี้ยนที่สะใจเจ๊มากๆเลยค่า ^^


แอบติซักนิด : แอบขาดตลาดไปพักใหญ่นะค๊า



>>>กันแดดทาตัวที่สบายผิวที่ซู้ดดดดด : Biore UV Aqua Rich SPF30 PA+++


เหตุผลที่โดนใจ : เมื่อก่อนกันแดดทาตัวที่เลิฟสุดคือ Face of Australia ขวดฟ้าที่ไม่สามารถหาซื้อในไทยได้ ณ ตอนนั้นทรายว่าเนื้อมันลื่นทาง่ายเหมือนทาครีมบำรุงแต่พอมาเจอตัวนี้ตัวนั้นตกกระป๋องอีกแล้วตัวนี้เป็นกันแดดที่เป็นเนื้อแบบน้ำกึ่งเจลทาแล้วซึมผิวไปเล้ยยย แถมยังให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นทิ้งไว้บนผิวหลังทาอีกด้วย เวลาแสบๆแดดมาทรายจะทาซ้ำระหว่างวันช่วยให้รู้สึกอาการแสบแดดทุเลาลงมากทำให้ผิวสดชื่นขึ้นค่า


แอบติซักนิด : อยากได้ขวดใหญ่กว่านี้อ่าค่ะขวดแค่นี้ทาทุกวันไม่นานก็หมดแล้วจ้า อ้ออีกอย่างเค้าอยากได้ SPF50 ง่าแม้จะกันแดดได้มากขึ้นแค่ 1% มันก็เป็นความสุขทางใจน๊า อิอิ



>>>เสปรย์กันแดดเก๋กว่านี้มีอีกไหม : Libote UV Hydrating Mist SPF30 PA+++


เหตุผลที่โดนใจ : ตัวนี้ขอกรี้ดๆๆๆเพิ่งเคยเจอกันแดดที่สามารถทาทับระหว่างวันได้โดยทับไปบนเมคอัพได้เลย เริ่ศสุดๆค่า ลองอ่านข้างขวดกันแดดทั้งหลายทั้งแหล่จะเขียนว่าควรทาซ้ำระหว่างวัน เอิ่มแล้วอิชั้นแต่งหน้ามันจะทาทับระหว่างวันยังไงดี จนมาเจอตัวนี้พ่นปื้ดๆทับเมคอัพได้เลยโดยไม่ทำให้เมคอัพเป็นคราบ และสำหรับสาวผิวแห้งแบบทรายที่เมคอัพเซตตัวช้ากันแดดอันนี้มีเบสเป็นน้ำแร่พ่นบนหน้าแล้วเหมือนได้พ่นน้ำแร่ซึ่งช่วยให้เมคอัพเซตตัวไวขึ้นด้วยค่า  และด้วยความเป็นน้ำแร่มันเหลไมใเหนอะหน้าเลยค่า แถมเวลาเบิร์นแดดพ่นตัวนี้เย็นสดชื่นสบายผิวด้วยขอบอก และสุดท้ายมันทำให้คุณแฟนที่เกลียดการทาครีมทุกสิ่งลงบนผิวยอมทากันแดดได้ด้วยเพราะแค่บังคับให้หลับตาแล้วพ่นปื้ดๆคุณแฟนยอมแฮะ แหม่ยอดเยี่ยมที่สามารถทำให้ผู้ชายเกลียดสกินแคร์ได้ยอมใช้กันแดดได้ค่า ตบมือให้เลย แปะๆ ^^


แอบติซักนิด : ราคาแอบสูง ขนาดแอบเล็กไปหน่อยเพราะทรายแอบใช้พ่นตัวด้วย 555 และถ้าทำให้ SPF เป็น 50 ได้จะเหมาโหลกันเลยทีเดียวค่า


       เย้ๆๆๆจบแล้วแอบหมดแรงกันเลยทีเดียว สำหรับไอเทมทั้งหมดที่ทรายถูกใจในปีที่ผ่านมาหวังว่าจะมีตัวไหนตรงใจสาวๆกันบ้างนะค๊า แต่ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นของทรายแต่เพียงผู้เดียว สภาพผิวที่ต่างกัน ปัจจัยแวดล้อมที่ต่างกันนั้นมีผลต่อประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นั้นๆด้วยดังนั้นขอให้สาวๆใช้วิจารณญาณในการรับชมนะค๊า ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้ามากๆค่า ขอบคุณค่า บะบายย ^^





 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2554 0:41:20 น.
Counter : 17842 Pageviews.  

>>รวบรวมสุดยอดไอเทมโดนใจทำไมต้องซื้อซ้ำของ mhunoiii ในปี 2010 ที่ผ่านมาจ้า<< ภาคแรก

        


  “ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดใช้” สวัสดีปีใหม่จีนค่าสาวๆทุกคน อยากจะรวบรวมไอเทมที่ไอ้หมูเลิฟๆมาตั้งแต่ปีใหม่ไทยแต่มันไม่ทันจริงๆ เอามาลงปีใหม่จีนคงยังไม่ช้าเกินไปหล่ะน๊า อิอิ ไอเทมทั้งหมดนั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของทรายแต่เพียงผู้เดียวนะจ๊า รีวิวคละกันไปไม่ได้แยกประเภท เอาว่าค่อยๆเลื่อนดูว่ามีตัวไหนที่เราโดนใจเหมือนกันบ้างไม๊ เริ่มกันเลยจ้า ^^



>>>ที่เขียนคิ้วโดนใจตลอดกาล : Kate Designing Eyebrow


เหตุผลที่โดนใจ : เป็นที่เขียนคิ้วแบบพาวเดอร์ที่สีมันได้น้ำตาลทองซึ่งได้ลุคธรรมช๊าติ ธรรมชาติ ซึ่งจุดเด่นมากๆของตัวนี้คือการผสมสีกลางและอ่อนใช้ในการไล้ดั้งได้เริ่ศสุด คือความสามารถในการเขียนคิ้วทรายว่าไม่ต่างจากยี่ห้ออื่น แต่ความเป๊ะของสีในการนำมาไล้ดั้งนั้นเข้ากับผิวทรายสุดๆ จึงทำให้ต้องตกม้าตายไปลองอย่างอื่นก็ต้องกลับมาซื้อเจ้า Kate อันนี้จ้า


แอบติซักนิด : แบบว่าไม่เคยใช้สีเข้มหมดเลยซักอันเดียว จะเห็นในรูปว่าช่องสีกลางและสีอ่อนทะลุเป็นหลุมไปแล้วแต่สีเข้มเต็มเปี่ยม เลยอยากจะได้แบบที่ช่องสีเข้มน้อยหน่อยเอาอีกสองช่องใหญ่ๆได้ม๊ายยย อิอิ อีกหนึ่งอย่างเมื่อสองช่องล่างมันพร่องเป็นหลุมได้ที่มันก็จะกระเทาะตัวเองออกมาให้เราเสียดายเล่นๆ เฮ้อออเซ้งจริง



>>>มาสคาร่าหนึ่งในใจคุณ : Maybelline Cat Eyes


เหตุผลที่โดนใจ : สำหรับคนที่ติดตามบลอคทรายแล้วได้ชมคลิปการปัดมาสคาร่า จะเห็นได้ว่าหนึ่งการปัดนั้นทรายใช้มาสคาร่าเยอะม๊ากกกก เพราะขนตาทรายนั้นครบสูตรคือไม่ยาว ไม่งอน ไม่หนา 555 จึงต้องประสานพลังของมาสคาร่าหลากหลายยี่ห้อ แต่ถ้าถามว่าบังคับให้เลือกเพียงอันเดียวเท่านั้นทรายจะเลือกอะไรก็ขอตอบเป็นตัวนี้ เป็นมาสคาร่าแบบหวีที่แยกช่อขนตา ช่วยเรื่องความหนาได้เริ่ศ ปัดแล้วแลดูมีขนตาขึ้นมา ที่สำคัญมันงอนไม่ตกระหว่างวันนี่หล่ะที่เริ่ศ เพราะส่วนใหญ่ถ้าเน้นหนาขนตาก็ตก การปัดมาสคาร่าทรายเน้นอันดับแรกคือความงอน ต่อให้ปัดยาวแค่ไหนหนาแค่ไหนแต่ไม่งอนมันก็ดูไม่มีขนตาอยู่ดีจ้า รุ่นนี้คือแคทอาย เจ้าลายคิทตี้นั่นคือลิมิเต็ดซึ่งไม่ได้มีค่าอันใดเลย แต่ซื้อเพราะความอยากรู้มันแพงกว่ารุ่นธรรมดา อย่าโดนหลอกแบบทรายอันธรรมดาก็เริ่ศแล้วจ้า (ยกเว้นคนเลิฟน้องแมวคิทตี้ ^^)


แอบติซักนิด : อืมไม่มีนะ แต่ถ้ามันทำให้ยาวด้วยจะเริ่ศ แต่บอกแล้วว่าไม่มีมาสคาร่าตัวไหนตอบโจทย์ได้ทุกสิ่งอันนี่เนอะ ^^


      


>>>ไฮไลท์โดนใจใช้มันซะทุกครั้งที่แต่งหน้า : Etude Golden Ratio Face Glam & Contour Maker


เหตุผลที่โดนใจ : ถือเป็นไฮไลท์ตัวแรกที่ใช้แล้วติดๆๆๆไม่มีเหมือนแต่งหน้าไม่ครบ ตัวเฟซแกลมทรายกรี้ดกับด้านฝามากๆ เป็นเนื้อครีมแต่งหน้าเสร็จแตะปาดดั้ง มันทำให้ดั้งเด้งดึ๋งขึ้นมาอย่างหน้าอัศจรรย์ ส่วนตัวคอนทัวร์ทรายเอาแตะไล้ทับหลังลงแบบครีม พร้อมปัดตรงพวงแก้มและโหนกแก้ม ช่วยให้หน้าแห้งๆของทรายดูฉ่ำราว SNDN ได้ประทับใจจี้ดๆๆๆเลยค่า ถือเป็นสองไอเทมที่ทำให้ทรายหันกลับมามองเมคอัพของ Etude จากที่เคยรู้สึกว่าเป็นคสอ.แบบเด็กๆ กลายเป็นประทับใจและอยากลองในอีกหลายๆตัวเลยค่า


แอบติซักนิด : ในคอนทัวร์เมคเกอร์นั้นมีเฉดดิ้งให้แต่สีมันไม่เข้ากับผิวคนไทยที่ติดเหลืองเลยอ่าค่ะปัดแล้วดูแอบลอยๆ ถ้าเปลี่ยนสีเฉดดิ้งเป็นสีเดียวกับที่เขียนคิ้วเคทได้จะกรี้ดๆๆๆๆสอยไว้สะสมเลยค่า ^^


       


>>>พาเลทอายแชโดวที่โด่งดังแห่งปี : Urban Decay NAKED


เหตุผลที่โดนใจ : ตัวนี้ซื้อมาด้วยกิเลสล้วนๆ เห็นสาวๆเอามายั่วเช้ายั่วเย็นแม่เว้ยตบะแตกสอยมาจนได้แต่ดีใจได้มาราคาประหยัดอันนี้ต้องขอบพระคุณพี่โบว์ Bowy คนสวยที่ฝากพี่สาวสอยมาให้หนูได้ราคาสบายกระเป๋านะค๊า จุ๊ฟๆ เนื้ออายแชโดวขอบอกว่าสมราคา ได้มาเป็นแผงกับคุณภาพที่คับแก้ว แตะนิดเดียวติด โทนสีแต่งง่ายใช้ได้ทุกวัน แพคเกจหรูหราพกพาได้แบบไม่ต้องกลัวแตก จะไม่ยกรางวัลให้ก็กระไร เอาไปเลยกับพาเลทแห่งปีจ้า


แอบติซักนิด : โทนสีอ่อนของเค้าน้อยไปนิด ให้โทนสีเข้มมาขนาดนี้จะให้สโมคกี้อายทุกวันก็มิไหวนะคร๊า อีกอย่างหาซื้อยากจริงเชียวเมื่อไหร่จะเอามาวางขายในไทยคร๊า


       


>>>พาเลทอายแชโดวที่พกพาบ่อยสุดในรอบปี : Lunasol #02 Light Variation


เหตุผลที่โดนใจ : พาเลทนี้ขอบอกตามตรงว่าได้มาทีแรกปาดๆแล้วรู้สึกว่าไมพิกเมนต์มันน้อยจังแต่งแล้วจะเห็นสีไม๊เนี่ยเพราะเป็นพาเลทจาก Autumn Collection 2010 ที่เน้นประกายออโรร่า แต่ใช้ไปสักพักมาสังเกตตัวเอง เฮ้ยแต่งหน้าด้วยพาเลทนี้บ่อยมากกกก คิดไรไม่ออกก็ปาด ไปเที่ยวก็พกพา มาดูกันแบบจริงจัง สีเซตนี้ที่เค้าจัดมามันเริ่ศมากเป็นสีโทนธรรมชาติที่ดูหวานนิดๆ แต่งออกมาแล้วดูใสๆแต่มีสีสัน ไอ้ที่เคยมองว่าแตะสีไม่ติดเพราะเราปาดกับแขนแต่พอปาดกับเปลือกตาแบบว่าสวยมากประกายวาววับบนพื้นสีน้ำตาล นู้ด ชมพู มีไฮไลท์โทนเหลือง ไม่รู้จะอธิบายยังไงเอาว่าเลิฟจริงจัง เวลาไปไหนแม้จะพกน้อง Naked ก็จะแซมพาเลทนี้ไปอีกอันเพราะสีโทนอ่อนไฮไลท์เค้านั้นเจิดจริงจ้า ^^


แอบติซักนิด : ราคาสูงลอยลิบลิ่ว อยากให้ลูนาโซลทำพาเลทอายแชโดวขนาดเท่าน้อง Naked ออกมาขายจังเลยจะสอยเก็บกันเลยทีเดียว


       


>>>แป้งฝุ่นที่ราคาสุดอลังการงานสร้าง : Impress Loose Powder


เหตุผลที่โดนใจ : แป้งฝุ่นโปร่งแสงอะไร๊เนื้อบางเบาดังปุยนุ่น ไม่ทำให้รองพื้นเปลี่ยนสี ไม่แมทเกินไปไม่ฉ่ำเว่อร์ไป (แต่ทรายผิวแห้งนะจ๊ะเรื่องคุมมันตอบมิได้จริงๆ) ถือเป็นไอเทมแต่งหน้าที่แพงสุดในกรุ แต่เป็นชิ้นที่ถูกสุดเพราะได้ฟรี 555 เป็นของขวัญวันเกิดจากสุดที่เลิฟเมื่อปี 51 โอ้วนี่ปี 54 มันยังไม่หมด แต่ไม่ต้องกลัวหมดอายุเพราะว่ามันแยกเคสที่ใส่กับตัวรีฟิลจ้า เทียบระยะเวลาที่ใช้กับราคาแล้วก็สมเหตุสมผลอยู่นะนี่ อิอิ แต่ถ้าได้ฟรีอีกจะเริ่ศมาก


แอบติซักนิด : แพง.......คำเดียวจบ !!!                                             


       


>>>แป้งผสมรองพื้นที่เนื้อบางเบาสุดๆๆๆๆ : Lola


เหตุผลที่โดนใจ : เป็นแป้งผสมรองพื้นที่มีอนุภาคของทองคำผสมอยู่ ไฮโซวเน๊อ ^^ เนื้อแป้งเบามากเบาขนาดที่ว่าใช้แปรงแตะแรงไปหน้าแป้งกระจุยเลยนะค๊า แม้ว่าจะมีเนื้อบางเบาสุดๆแต่กลับให้การปกปิดในระดับกลางๆที่แลดูเป็นธรรมชาติ ทรายจึงเลิฟมากสำหรับวันที่ไม่อยากโบกหน้าก็จะทากันแดดให้หน้าพอหนึบๆมีอะไรให้แป้งเกาะ แล้วจัดการใช้แปรงปัดแป้งอันใหญ่แตะแป้งเบาๆแล้วปัดให้ทั่วหน้า มันทำให้หน้าดูผิวดี๊ดี และสำหรับวันที่จะเนี้ยบอีกนิดก็เกลี่ยรองพื้นบางๆแล้วตามด้วยตัวนี้สเตปเดิมคือใช้แปรงปัดเริ่ศอย่างแรงเลยค่า


แอบติซักนิด : เนื้อแป้งช่างร่วนซุยมากจนอาจจะมากเกินไปไม๊ มันทำให้แป้งหมดเร็วมากกกก และเมื่อใช้จนเป็นหลุมไม่แนะนำให้พกพาทรายโดนมาแล้วคือมัน “แตก” เนื้อแป้งแตกกระจุยตอนนี้วางไว้ใช้เป็นแป้งฝุ่นไปแล้วจ้า สำหรับทรายทรายว่าตัวนี้ใช้กับแปรงแล้วเริ่ศแต่ทรายไม่ค่อยชอบใช้กับพัฟและใช้ในการเติมหน้าระหว่างวันจ้า


       


>>>มาสคาร่าย้อมคิ้วที่ไม่ควรพลาด : Etude Color my Brows & Benefit Speed Brow


เหตุผลที่โดนใจ : จะแต่งคิ้วให้สวยเนี้ยบนั้นทรายว่ามาสคาร่าย้อมคิ้วสำคัญมากโดยเฉพาะสาวผมสีอย่างทราย ทำสีผมมาอย่างเริ่ศแต่คิ้วดำมันไปกันไม่รอดนะจ๊า ดังนั้นไอเทมที่โดนสำหรับทรายคือ Etude Color my Brows ที่เป็นสีน้ำตาลทองอ่อนได้ใจซึ่งมากับแปรงที่ปัดง่ายเกิดการเกาะเป็นก้อนได้ยาก แต่เอ๊ะถ้าสาวผมสีเข้มจะไม่ปัดเลยคิ้วมันก็ไม่เรียงเส้นสวยทรายเลยมีอีกตัวที่โดนมากสำหรับสาวผมเข้มคือ Benefit Speed Brow เป็นมาสคาร่าย้อมคิ้วที่เก๋มากตรงที่มันเป็นเนื้อเจลสีน้ำตาลปัดแล้วไม่ได้เปลี่ยนสีคิ้วนักแต่ทำให้ขนคิ้วเรียงสวยได้รูปเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ใช้ทุกครั้งเวลาแต่งหน้าให้สาวผมสีเข้มจ้า ^^


แอบติซักนิด : นึกยังไม่ออกน๊าสรุปว่าโดน อิอิ


       


>>>ลิปสีนู้ดที่รักที่ซู้ดดดดดดตอนนี้ : Canmake Melty Nude #02


เหตุผลที่โดนใจ : ทรายเป็นคนพื้นปากค่อนข้างแดงทาลิปแล้วมันจะออกแดงอยู่เรื่อยเลยทำให้ไม่ชอบทาปากถ้าจะทาก็รักที่จะทาให้สีปากอ่อนลงโดยเฉพาะโทนนู้ด ยิ่งเป็นคนแต่งตาเยอะจะทาปากเยอะมันก็จะดูมากเกินไป หาลิปสีนู้ดที่เข้ากับผิวมานานเจอแต่นู้ดที่มันเข้มกว่าผิวจนสุดท้ายได้ลงเลยกับแคนเมคตัวนี้ แม้เนื้อลิปจะไม่ได้เริ่ศเลอเพอเฟคแต่ด้วยราคาอันน่ารักทำให้ต้องยกตำแหน่งลิปนู้ดโดนใจให้เลย ทรายพกพาตลอดเวลาออกไปข้างนอกจะเอาไว้ทาก่อนจะทาตัวอื่น หรือเอาไว้ผสมเพื่อให้สีดูอ่อนลงใช้หมดไปแล้วหนึ่งแท่งถือเป็นลิปอันแรกที่ซื้อซ้ำคร๊าบบบ


แอบติซักนิด : เนื้อลิปแอบเหลวมากเวลาใช้ค่อยๆหมุนขึ้นมานะจ๊ามันหักง่ายที่สุด หักไปแล้วสองแท่ง แท่งที่สามเลยพยายามทะนุถนอมให้มากที่สุด อิอิ


       


>>>รองพื้นเซตนี้ที่ปลื๊ม ปลื้ม : Lunasol (Cream) & Shu & Ipsa & Covermark


เหตุผลที่โดนใจ : เอ่อให้เลือกไอเทมโดนใจไหงรองพื้นมาเป็นเซต แหะๆจะบอกว่าตัดใจไม่ได้คนพี่ก็ดีคนน้องก็โดน คือทรายเป็นคนใช้รองพื้นโดยเลือกแล้วแต่สถานการณ์และลุคที่ต้องการจ้า พื้นผิวทรายเป็นคนผิวแห้งดังนั้นทรายจึงต้องการรองพื้นที่เนื้อฉ่ำทาแล้วผิวดูไม่แมท และไม่ต้องการคุณสมบัติคุมมันเลยแม้แต่น้อย มาไล่ความโดนในแต่ละตัวเริ่มจาก Lunasol ชนิดครีม ตัวนี้ฉ่ำไวสุดทาแล้วหน้าดูหยุ่นๆฉ่ำๆให้การปกปิกในระดับกลางๆจ้า , Shu ตัวใหม่ทีเป็นตัวรองพื้นแบบมอยซ์เจอร์คือเน้นชุ่มชื่นตัวนี้มันเป๊ะมากได้หมดเนียน ปกปิด ฉ่ำ แต่หัก ณ จุดเดียวคือสีเข้ม เบอร์ขาวสุดของเค้ายังเข้มกว่าผิววันไหนทาตัวนี้คุณแฟนถามเลยทำไรมาหน้าหมองๆ T T ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยน๊า ฮือๆ , Ipsa ชนิดครีม อันนี้ใช้เบอรขาวสุดตอนแรกที่ได้มาแอบตกใจจะขาวไปม๊ายยย แต่พอเกลี่ยจึงได้พบว่าเนียนกลืนผิวดีมากๆๆ การเซตตัวของตัวนี้ค่อนข้าช้าคือกว่าหน้าจะเด้งก็ต้องหลายชม.ผ่านไปแล้วแต่ขอบอกยิ่งดึกยิ่งเด้ง ราวกับเพิ่งเมคอัพกันมาเลยทีเดียวค่า ปิดท้ายด้วยตัวสุดท้าย Covermark เป็นรองพื้นเนื้อลิควิดที่ทรายอัศจรรย์ใจมากกับประสิทธิภาพในการปกปิด มันบางมากแต่ปกปิดได้เนี้ยบมาก ทาแล้วสบายหน้าและสำหรับคนผิวมันตัวนี้คุมมันค่ะ แต่ทรายผิวแห้งใช้มันก็ไม่แมทน๊า เริ่ศๆแต่อีกแล้วเหมือนลุงชูเลยสีทีได้มาไม่ตรงผิวดำอีกแล้วง่า T T


แอบติซักนิด : ติข้างบนไปหมดแล้วคร๊าบบบบ เอาว่าทุกตัวที่กล่าวมาราคาพอสมควรนะจ๊ะ


       


เจลไลน์เนอร์ที่รัก : Etude Code B


เหตุผลที่โดนใจ : เทียบด้วยราคาต้องยกนิ้วให้ตัวนี้เลยจริงๆค่า สำหรับทรายแทบไม่มีอาการแพนด้าให้เห็น สีดำสนิทสุดๆ เขียนง่ายลื่นปรื้ดดดดด แถมยังมีแปรงมาให้ในตัวอีกและหัวแปรงเขียนได้เส้นเฉียบคมมั่กๆๆๆ หลายคนที่เปลือกตามันยังต้องยอมให้ว่าตัวนี้แพนด้าน้อยจริงๆ คุณภาพเกินราคาแบบนี้ไม่รักได้ไง


แอบติซักนิด : มันแห้งง่ายใช้เสร็จแล้วควรปิดฝาเลยนะค๊า และเวลาเขียนควรมือนิ่งนิดนึงเขียนรวดเดียวได้จะดีมากเพราะเมื่อมันแห้งจะเขียนซ้ำลำบากพราะมันจะขึ้นเป็นขุยๆจ้า


วันนี้ขออัพเท่านี้ก่อนหมดแรงยังมีไอเทมโดนๆอีกเยอะ ที่เหลือจะมาทยอยอัพให้ชมกันนะค๊าอย่าลืมติดตามชมกันน๊า ขอบคุณที่ติดตามชมจ้า บะบายยยย ^^       





 

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2554 0:49:23 น.
Counter : 6839 Pageviews.  

Review : Cute Press UV Expert Protection SPF50 PA+++ Extra Whitening

        สวัสดีค่าสาวๆผ่านหน้าหนาวมาได้แป๊บเดียวเริ่มจะร้อนอีกแล้ว พอหน้าร้อนมาถึงสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “กันแดด” สาวๆคนไหนอยากมีผิวสุขภาพดี สีสม่ำเสมอ กระจ่างใส ลดการเกิดริ้วรอย ขอบอก “กันแดด” นี่หล่ะค่ะตอบโจทย์ เพราะต่อให้สาวๆบำรุงผิวดีแค่ไหนแต่ไร้ซึ่งกันแดดก็เหมือนผิวถูกทำลายทุกวันๆ ประสิทธิภาพของครีมบำรุงก็จะน้อยลงด้วยน๊า เพราะฉะนั้นไม่ว่าวันไหนขี้เกียจทาครีมบำรุงอย่างไรก็ขอให้โบกกันแดดไว้มันคือสกินแคร์ชั้นยอดที่ทรายขาดไม่ได้เลยจ้า


        มารอบนี้ขออัพเดทผลิตภัณฑ์ตัวใหม่จาก Cute Press ที่ทรายได้มาลองช่างประจวบเหมาะที่กันแดดในกรุร่อยหรอเกือบหมดกำลังมองหาตัวใหม่ๆมาใช้ แถมเมื่อไม่กี่วันนี้ก็เพิ่งเห็นโฆษณาในทีวีเร็วๆนี้นี่เองค่า อันที่ไม่ต้องรีบตื่นก็แต่งหน้าไปทำงานทัน โฆษณามาเคลมว่าใช้แทนรองพื้นหรือเมคอัพเบสได้เลย ซึ่งกันแดดเซตนี้จริงๆมีอีก 2 ตัวที่เป็นกันแดดสีเนื้อ 2 เฉดซึ่งใช้แทนรองพื้นได้เลย แต่ตัวนี้ที่ทรายริวิววันนี้เป็นสูตรไวท์เทนนิ่ง ให้ใช้แทนเมคอัพเบสเพราะไม่เน้นปกปิดค่า สรรพคุณขนาดนี้ก็เลยต้องขอพิสูจน์ซักหน่อย มาดูรีวิวแบบละเอียดกันเลยจ้า


-------------------------------------------------------------------------------


Cute Press : UV Expert Protection SPF50 PA+++ Extra Whitening


ครีมทาผิวหน้าผสมสารป้องกันแสงแดด เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว



คำอธิบายผลิตภัณฑ์ : ด้วยเทคโนโลยีการค้นคว้า และวิจัยพัฒนาของสถาบันศาสตร์ด้านความงามและสุขภาพที่พัฒนาขึ้นอีกขั้น สู่วิทยาการในการปกป้องแสงแดดพร้อมการบำรุง เพื่อผิวกระจ่างใส ครีมกันแดดสูตรบางเบาที่ให้การปกป้องยาวนานด้วยค่า SPF 50 PA+++ ซึ่งช่วยปกป้องทั้งรังสี ยูวีเอ และยูวีบีได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อม บี-ไวท์ นวัตกรรมเพื่อผิวกระจ่างใส ตรงเข้าลดสาเหตุของความหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผสาน อัลฟ่า อาร์บูติน วิตามินบี 3 และวิตามินซี ช่วยให้รู้สึกกระจ่างใสยิ่งขึ้น เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง พร้อมโปรตีนจากน้ำนม และวิตามินอี ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น รู้สึกเรียบเนียน ด้วยหนึ่งขั้นตอนง่ายๆได้ทุกวัน เพื่อผิวหน้าสวยกระจ่างใสอย่างที่คุณต้องการ


ส่วนประกอบสำคัญ : CYCLOPENTASILOXANE/DIMETHICONE CROSSPOLYMER , ALUMINUM STARCH OCTENYLSUCCINATE , ETHYLHEXYL METHOXYCINNAMATE , BIS-ETHYLHEXYLOXYPHENOL METHOXYPHENYL TRIAZINE , EHTHYLHEXYL SALICYLATE , CI77891/CI77492/DIMETHICONE/METHICONE COPOLYMER , TITINIUM DIOXIDE/AULUMINA/DIMETHICONE,BENXOPHENONE-3 , CI77019,CETYL DIMETHICONE, C12-15 ALYL BENZOATE , POLYSORBATE 20,BUTYLENE GLYCOL/ HYDROGENATED LECITHIN/ SODIUM OLEATE/OLIGOPEPTIDE-68/ DISODIUM EDTA,ALPHA-ARBUTIN,MEDICAGO SATIVA(ALPALFA) EXTRACT, NIACINAMIDE,HYDROLYZED SILK , WATER , GLYCYRRHIZA GLABRA (LICORICE) ROOT EXTRACT, HYDROLYZED MILK PROTEIN , TOCOPHERYL ACETATE , CAPRYLIC/CAPRIC TRIGLY CERIDE, PHYTOSTERYL/OCTYLDODECYL LAUROYL GLUTAMATE , BISABOLOL , PEG-8/TOCOPHEROL/ALCORBYL PALMITATE/ASCORBIC ACID/CITRIC ACID , PHENOXYETHANOL , BHT , PRAGRANCE.


ขนาดและราคา : 30 g 299 บาท (ช่วงนี้มีจัดโปรราคาน่าร๊ากกก 239.- ค่า)



ลักษณะทั่วไปของผลิตภัณฑ์ (เนื้อ และกลิ่น) : บรรจุมาในหลอดพลาสติกนิ่มบีบใช้ได้ง่าย มีสีขาวทึบแสง ฝาเกลียวสีฟ้า เนื้อกันแดดเป็นสีเนื้ออ่อนแต่เมื่อเกลี่ยแล้วสีจะกลืนเข้าไปกับผิวไม่เหลือคราบมันและความเหนียวเนอะหนะทิ้งไว้บนผิว ลักษณะเนื้อคล้ายมูสมีกลิ่นหอมอ่อนๆคล้ายแป้งเด็ก



ลักษณะของผลิตภัณฑ์เมื่อทดลองใช้ : เนื้อกันแดดมีสีเนื้ออ่อน เมื่อปาดบนผิวจะเหมือนเนื้อมูสเบาๆเคลือบไว้บนผิว ตอนแรกอาจจะเหมือนสีขาวกว่าผิวแต่เมื่อเกลี่ยจนซึมหมดสีกันแดดจะซึมลงไปบนผิวไม่ทำให้หน้าวอก เปรียบเทียบหน้า Before ที่ลงสกินแคร์เรียบร้อย และ After หลังเกลี่ยกันแดดจนซึมผิวหมดแล้ว จะเห็นว่ากันแดดตัวนี้ช่วยปรับสีผิวบนใบหน้าให้ดูสม่ำเสมอและดูหน้ากระจ่างขึ้นอย่างชัดเจน (ทรายถ่ายในมุมเดียวกัน เซตค่ากล้องเหมือนกันเป๊ะไม่ได้ปรับแสงใดๆจ้า) ผิวสัมผัสหลังทาลูบดูจะรู้สึกผิวลื่นๆและเรียบเนียนขึ้นคล้ายเนื้อซิลิโคนแต่เบาสบายผิวกว่าค่า

 



วิธีการใช้ในแบบ mhunoiii : ทรายเกลี่ยกันแดดทั่วใบหน้าและลำคอ จากนั้นใช้แปรงหัวกลมอันใหญ่แตะแป้งผสมรองพื้นเนื้อบางเบาปัดบางๆให้ทั่วจ้า



ผลการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ : ทรายลองแต่งหน้าโดยการใช้กันแดด Cute Press ตัวนี้แล้วตามด้วยแป้งผสมรองพื้น Lola เนื้อเบาๆปัดให้ทั่วแล้วเมคอัพตามปกติไม่เติมแป้งไม่ซับหน้าใดๆทั้งนั้นตั้งแต่ห้าโมงเย็น จนถึงตีสอง (แอบอายเค้ารู้กันหมดเลยว่าหมักเมคอัพกว่าจะล้าง 555) สิริรวมได้ 9 ชั่วโมง แหะๆเค้าอยากเทสกันแดดจริงๆแล้วไม่หมักนานขนาดนี้ (เหรอ !!!) อย่างที่เห็นกันในภาพเลยแต่ภาพแรกทรายถ่ายแสงธรรมชาติ ภาพหลังถ่ายแฟรชนะคะ เห็นได้ว่าหน้าเนียนมากแม้จะไม่ได้ให้การปกปิดเนี้ยบเหมือนรองพื้นแต่อย่างที่เคลมในโฆษณาว่าใช้แทนเมคอัพเบสได้สวยในขั้นตอนเดียวอันนี้ทรายคอนเฟิร์มให้ได้ว่ามันใช้แทนได้เวิร์คมาก แต่อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีปัญหาผิวต้องการเมคอัพอย่างรวดเร็ว ทากันแดดได้เมคอัพเบสเนื้อบางเบาแค่ช่วยปรับสีผิวให้ไบรท์ขึ้นไม่เน้นการปกปิดจ้า

 



สรุปผลโดยรวม >>> ครีมกันแดด Cute Press : UV Expert Protection SPF50 PA+++ Extra Whitening ตัวนี้ถือเป็นกันแดดอีกหนึ่งตัวในลิสต์ที่ทรายประทับใจ จุดเด่นที่ทรายชอบคือใช้เป็นเบสเมคอัพไปในตัวได้เลย ซึ่งช่วยให้หน้าดูไบรท์ขึ้น และไม่ทำให้หน้าเป็นคราบระหว่างวัน ส่วนเรื่องการคุมมันนั้นสำหรับทรายที่ผิวแห้งจึงตอบได้ไม่ชัดเจนนัก ถ้าสาวผิวมันสนใจทรายแนะนำว่าไปเทสเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ชอปน่าจะตอบตัวเองได้ง่ายกว่าว่าชอบผิวสัมผัสแบบนี้หรือไม่ ส่วนสาวผิวแห้งแบบทราย ทรายว่าตัวนี้เนื้อชุ่มชื่นทาแล้วไม่ทำให้ผิวแห้งและทำให้หน้าดูไม่แมทระหว่างวันจ้า ที่สำคัญเทียบกับราคาที่ถูกมากๆสำหรับครีมกันแดด ซึ่งได้ทั้งการป้องกันรังสี UVA และ UVB พร้อมเป็นรองพื้น/เมคอัพเบสที่ช่วยให้หน้าดูเนียนเด้ง และที่ชอบอีกอย่างคือมีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้ คือ Alpha Arbutin และ Vitamin B3 ได้ทั้งกันแดดและครีมบำรุงไปในตัวถือว่าเป็นกันแดดที่สวยจัดเต็มมากคะ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับสาวๆได้อย่างดีจ้า หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการให้ข้อมูลสาวๆเพื่อนำไปใช้เลือกกันแดดได้บ้างนะค๊า ขอบคุณทุกคนที่ติดตามชมจ้า ขอบคุณค่า ^^         


-------------------------------------------------------------------------------








 

Create Date : 27 มกราคม 2554    
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2554 12:34:09 น.
Counter : 11404 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  

SaRaY
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]




..........ชื่อ "ทราย" นะค๊า นามแฝงที่ใช้ก็มี SaRaY และก็ Mhunoiii (หมูน้อย) ค่า สนใจการถ่ายภาพ กะการแต่งหน้า จากเป็นงานอดิเรกจะกลายเป็นงานประจำอยู่แล้ว 555 เลยอยากจะทำบลอคเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มานะค๊า ได้มากบ้างน้อยบ้าง มั่วๆกันปายยยย อิอิ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนแบบ
หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพและข้อความใน
http://www.mhunoiii.bloggang.com แห่งนี้ไปใช้
ทั้งโดยเผยแพร่ หรือเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต
จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด

ปล.ห้ามมิให้นำภาพใดๆจากในบล็อคไปใช้เพื่อการขายของโดยเด็ดขาดนะคะ !!!

---------------------------------------------------------

hits
New Comments
Friends' blogs
[Add SaRaY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.