Group Blog
 
All blogs
 

Review : เคล็ด(ไม่)ลับผิวสวยด้วย SKINPLANTS Rose Hip Oil ออยดีที่เจ้ปลื้ม

ว่าด้วยเรื่องการบำรุงผิวถ้าคนที่ติดตามเค้าจะทราบกันว่า
เค้ามีเคล็ด(ไม่)ลับในการบำรุงผิวอยู่อย่างนึงคือการใช้"ออย"
ทาๆโบกๆทั้งหน้าและตัว อินเลิฟกับการใช้ออยมากใช้แล้วเสพย์ติด555
 ซึ่งหลายคนมักกังวลว่าออยจะเหนอะจะมันไหม
ขอบอกเลยว่าออยช่วยให้สกินแคร์เนื้อลื่นทาง่ายและซึมไวขึ้น
ส่วนเหนอะไม่เหนอะอยู่ที่เนื้อของออยแต่ละประเภท แต่ละยี่ห้อ
ซึ่งบล็อคนี้จะขอมารีวิวออยตัวนึงที่ใช้ต่อเนื่องมาขวดที่สองแล้วและเจ้ปลื้ม
นั่นก็คือ "SKINPLANTS Rose Hip Oil" นั่นเองจ้า


ก่อนจะชมรีวิวขอเม้าเกี่ยวกับตัวแบรนด์ SKINPLANTS สักนิด
มั่นใจว่าหลายคนเห็นแพ็คเกจแล้วจะไม่อยากเชื่อว่านี่คือแบรนด์ของไทย
ตอนได้มาลองใช้ขวดแรกเมื่อนานมาแล้วถึงกับต้องชมเชย
ว่าเป็นแบรนด์ไทยที่ทำแพ็คเกจออกมาได้อินเตอร์สุดๆ สไตล์เรียบๆแต่ดูน่าสนใจน่าใช้มาก
แถมยังเป็นแบรนด์ออแกนิคที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติเน้นๆ
เพราะก่อนที่เค้าจะมาทำแบรนด์สกินแคร์เองเค้าเป็นบริษัทที่ขายวัตถุดิบ
ส่วนผสมจากธรรมชาติในเครื่องสำอางมากว่า 10 ปีแล้วนั่นเอง
ซึ่งก่อนหน้านี้เค้ายังทำ Rose Hip Oil ขายภายใต้แบรนด์ Tropicalife มาเป็นสิบปีแล้วเช่นกัน
จนปัจจุบันมาออกเป็นแบรนด์ของตัวเองภายใต้ชื่อ SKINPLANTS
และมีการปรับเพิ่มส่วนผสมด้วย อยากรู้ว่าต่างจากเดิมๆอย่างไรอ่านรายละเอียดได้ในรีวิวเลยฮะ
ที่สำคัญคือเค้าเป็นหนึ่งในแบรนด์ไทยที่ไม่ทำการทดลองในสัตว์ (Cruelty Free) ด้วยนะฮะ!



SKINPLANTS Rose Hip Oil
น้ำมันโรสฮิปออยบริสุทธิ์ผสมวิตามินอีจากธรรมชาติ

ขนาด 30 ml ราคา 695 บาท

หาซื้อได้ที่ www.facebook.com/skinplants

รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าไปชมหรือสอบถามได้ตามลิงค์ด้านล่างจ้า

-------------------------------------------------------------------------------

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

SKINPLANTS เป็น Rose Hip Oil ที่ผลิตจากผล Rose Hip เกรด organic จากประเทศชิลี
ซึ่ง Rose Hip นี้ ก็คือผลกุหลาบที่มีแดงอมส้ม ซึ่งเต็มไปด้วย วิตามินเอ, วิตามินอี, 
วิตามินซี, Omega 3, 6 และ 9, Bio-Flavonoids และกรดไขมันธรรมชาติอีกมากมาย
ที่จำเป็นต่อผิว ไม่ว่าจะเป็น Linoleic Acid, Oleic Acid, Stearic Acid, Palmitic Acid 
โดยที่ Rose Hip Oil แท้ๆ จะใช้วิธีบีบเย็น จนได้น้ำมันที่มีสีออกเหลืองแดง และมีกลิ่นเฉพาะตัว



คุณสมบัติของ Rose Hip Oil 

- ช่วยยับยั้งไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น และลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น
- ช่วยซ่อมแซมรอยแผลเป็น เช่นรอยบาด รอยขีดข่วน หรือร่องรอยแผลเป็นจากสิว
ผิวอักเสบ วิตามินเอและอีที่มีใน Rose Hip Oil จะช่วยลดเรือนรอยแผลเป็นเล็กๆน้อยๆ
หรือแม้แต่การทาบนแผลเป็นคีลอยด์เป็นประจําก็ทําให้แผลเป็นนุ่มและจางลงได้
- ลดรอยแตกลาย ใช้ได้ในหญิงตั้งครรภ์ โดยไม่เป็นอันตรายต่อลูกในท้อง
- เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวที่แห้งกร้าน โดยไม่ทิ้งความมันเหนอะหนะเอาไว้
- ปรับสีผิวให้กระจ่างใส เรียบเนียนและสม่ำเสมอกัน
- ช่วยฟื้นฟูผมที่แห้งแตกปลาย โดยเฉพาะมีวิตามินเอและอีธรรมชาติที่ดีต่อผมและหนังศีรษะ
- ช่วยเร่งการซ่อมแซมรักษาผิวจากแผลไหม้หรือผิวไหม้จากแสงแดด



ส่วนผสมแค่นี้จริงๆฮะ โรสฮิปออยบริสุทธิ์จากประเทศชิลี
และวิตามินอีจากธรรมชาติ (Tocopherol)

คุณสมบัติของโรสฮิปออยก็ตามด้านบนเลยแต่การเพิ่มวิตามินอีเข้ามา
จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เห็นผลได้ไวขึ้น เพราะประโยชน์ของวิตามินอี
เค้าว่าก็ช่วยเสริมกันนะ อย่างที่เรารู้ๆกันว่าวิตามินอีหลักๆคือช่วยเรื่องให้ความชุ่มชื่น
ลดเลือนริ้วรอย ลดรอยแผลเป็น ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากรังสี UV
ลดความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ 
คือคุณสมบัติจัดเต็มมากจริงๆจึงไม่แปลกที่จะพบวิตามินอีเป็นส่วนผสมในสกินแคร์
แต่ฝากไว้นิดว่าทาผิวให้ประโยชน์สารพัด แต่ถ้าจะนำมารับประทาน
ควรอยู่ในการควบคุมและได้รับคำแนะนำเรื่องปริมาณจากแพทย์นะฮะ
เพราะวิตามินอีละลายในไขมัน ถ้าทานมากเกินไปอาจเกิดภาวะเป็นพิษได้เน่อ



ลักษณะเนื้อและกลิ่น

บรรจุภัณฑ์เป็นขวดแก้วใสมาพร้อมดรอปเปอร์ทำให้กะปริมาณการใช้ง่ายดี
แต่ด้วยความเป็นขวดใสควรระวังในเรื่องการวางไว้ในที่โดนแสงแดดหรือความร้อนนะฮะ

ออยสีเหลืองเนื้อเข้มข้นระดับนึงแต่ทาลงบนผิวแล้วเกลี่ยง่ายซึมไวกว่าที่คิด
ออยจะเคลือบไปบนผิวหลังทาสัมผัสได้เลยว่าผิวนุ่มและชุ่มขึ้นมาก
นวดไปบนผิวแล้วซึมได้หมดไม่เหนอะหนะแต่จะหนึบขึ้นเพียงเล็กน้อยจ้า
จากส่วนผสมจะเห็นว่าไม่ได้มีการแต่งกลิ่น กลิ่นจึงเป็นแบบว่าธรรมชาติสุดพลัง
ยอมรับว่าช่วงใช้แรกๆอาจจะรู้สึกตุๆนิดนึงน้า แหะๆ แต่เค้าใช้สักพักมันจะชินกลิ่นไปเองฮับ



วิธีการใช้ในแบบของเค้า หลักๆเลยคือเค้าชอบใช้ทาผิวตัว
ด้วยการผสมกับโลชั่นทาผิวที่ใช้อยู่.....เพราะทาออยเดี่ยวๆมันเปลือง
ก็ราคามันแพงกว่าโลชั่นนี่นา 555 แหมมันก็ไม่ใช่แค่เรื่องราคา
แต่เค้าเองเป็นคนผิวตัวธรรมดาค่อนไปทางแห้งแต่ด้วยความที่บำรุงผิวต่อเนื่อง
ผิวตัวจึงไม่ได้แห้งมากมาย ถ้าใครแห้งมากๆ(และมีทุนทรัพย์)จะใช้ออยเพียวๆเลยก็ได้
แต่ถ้าใช้แบบเค้าก็คือผสมกับโลชั่นในปริมาณตามชอบเอาฮะ
จากนั้นวอร์มในมือให้โลชั่นและออยรวมเป็นเนื้อเดียวกันแล้วค่อยทาลงไปบนผิว



ข้อสำคัญของการบำรุงผิวตัวท่องจำกันไว้เลยคือหลังอาบน้ำเช็ดตัวหมาดๆให้โบกทันที!!!
หลายคนชอบอ้างว่าไม่อยากทาสกินแคร์เพราะมันเหนอะหนะ ทาแล้วไม่ซึม
ซึ่งคนส่วนใหญ่หลังอาบน้ำชอบเอ้อระเหยผึ่งแอร์ผึ่งพัดลมจนตัวแห้งแล้วค่อยมาทา
นี่แหละคือสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ทาอะไรก็ไม่ซึมเพราะผิวมันปิดตัวคายความชุ่มชื่นไปหมดแล้ว
พอทาอะไรลงไปมันก็เคลือบแค่ด้านบนไม่ซึมลงไปบำรุงด้านล่าง
จึงทำให้รู้สึกว่าผิวยังแห้งกร้านแต่เหนอะหนะมากมายนั่นเอง

เอาใหม่นะคะสาวๆนาทีทองของการบำรุงผิวคือหลังอาบน้ำให้รีบลงไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซึ่งการผสมออยลงไปกับโลชั่นจะให้ผลลัพธ์อย่างนึงที่น่าทึ่ง
จากที่คิดมาตลอดว่าออยทำให้เหนอะ แต่จะกลายเป็นว่าเมื่อผสมออยลงไปแล้ว
ออยกลับทำให้เนื้อโลชั่นลื่นขึ้น เกลี่ยง่าย และซึมผิวไวขึ้นนะเออ ไม่เชื่อลองเลย
เพราะเค้าทำแบบนี้มาเป็นปีๆทาออยผสมกะโลชั่นเสร็จแล้วโบกกันแดดตามทุกวัน
จับผิวตัวเองแล้วรู้สึกฟิน ออยมันช่วยให้ผิวชุ่มชื่นได้นานกว่าการทาโลชั่นเดี่ยวๆมากจริงๆ



พิสูจน์ด้วยภาพนี้เลย ผิวตัวถ่ายสดโนแอฟโนฟิลเตอร์
บำรุงผิวด้วยวิธีนี้มาตลอดรักเลย ผิวนุ่มมากกกกกกใครเจอเค้าขอท้าให้มาสัมผัส
สิ่งที่เค้าเลิฟโรสฮิปออยตัวนี้มากกว่าออยอื่นๆคือคุณสมบัติที่ได้มากกว่าแค่ความชุ่มชื่น
ด้วยความที่เป็นคนซุ่มซ่ามมากจะได้แผลตามแขนขาบ๊อยบ่อย แหะๆ
แต่สังเกตว่าเวลาใช้ออยตัวนี้พวกรอยแผลมันจะฟื้นตัวไวมากและไม่ค่อยทิ้งรอยไว้
ถ้ารอยไหนชัดๆเค้าจะป้ายโรสฮิปออยลงไปเน้นๆเลยไม่กี่วันแผลจางสบายใจยิ้มได้
ใครซุ่มซ่ามเหมือนกันและไม่อยากเป็นแผลเป็นเต็มตัวแนะนำเลย
แต่ต้องรีบป้ายตั้งแต่แผลเพิ่งจะหายใหม่ๆน้าถึงจะหายไว
พวกแผลเป็นเก่าเก็บค่อยๆทาไปมันก็จางแต่จะใช้เวลามากกว่าเยอะเลย
อ้อ พวกรอยสิวบนใบหน้าไรงี้ก็ทาได้เน่อช่วยให้รอยจางไวเช่นกันค่า



สรุปคือโรสฮิปออยตัวนี้เค้าใช้เองมาเป็นขวดที่สองแล้ว
หลักๆคือใช้ทาตัวอย่าที่รีวิวให้ชม แต่ถ้าเวลาไปเที่ยวจะพกติดกระเป๋าไปด้วย
เพราะใช้ทาได้หมดเลยทั้งผิวหน้า ผิวตัว รวมถึงบำรุงผม พกขวดเดียวคุ้ม!
นี่พูดจริงใช้นวดปลายผมที่แห้งๆได้ด้วย รวมถึงใช้นวดๆในจุดแห้งกร้าน
อย่างพวกหัวเข่า ข้อศอก ตาตุ่ม สภาพจุดกร้านจะดีขึ้นไวกว่าการทาครีมจ้า

ส่วนตัวเค้าผิวหน้าแห้งใช้กับหน้าแล้วโอเคมากชุ่มดีไม่เหนอะไม่อุดตัน
แต่ถ้าใครผิวมันอุดตันง่ายอันนี้ต้องลองดูเองเน่อตอบให้ไม่ได้ว่าจะอุดตันไหม
เพราะเรื่องการอุดตันมันเป็นความแจ็คพ็อตของผิวแต่ละคน ไม่มีใครตอบให้เราได้จ้า

แถมเคล็ดลับไว้ให้นิดถ้าใครผิวแห้งแบบเค้าส่วนตัวทาทั่วหน้าทั้งเช้าและเย็นได้เลย
แต่ถ้าใครค่อนข้างมันง่ายเค้าแนะนำว่าใช้ก่อนนอนอย่างเดียวจะโอเคกว่า
ส่วนขั้นตอนตำแหน่งการทาเค้าจะวางออยไว้ในขั้นตอนหลังเซรั่ม ก่อนทาครีมบำรุงตัวสุดท้ายฮะ

----------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณ SKINPLANTS ที่ส่งไอเท็มโปรดมาให้
จะตามไปอุดหนุนอีกแน่นอนค่ะแบรนด์ไทยของดีต้องสนับสนุน Smiley

หวังว่ารีวิวนี้จะทำให้สาวๆได้เทคนิคในการดูแลตัวเองมากขึ้น
การดูแลผิวบอกเลยเริ่มก่อนชนะ เห็นผลต่อเนื่องในระยะยาว
อย่าลืมหันมาใส่ใจผิวกันให้มากๆนะคะ แล้วเจอกันบล็อคหน้า
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมมากๆค่า Smiley




 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2557 22:13:11 น.
Counter : 14069 Pageviews.  

Review : Hada Labo Natural Face Wash โฟมล้างหน้าสุดเลิฟ ไม่มีน้ำหอมและสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง



 Hada Labo Softening & Whitening Face Wash

สูตรสีม่วงสำหรับผิวต้องการความนุ่มชุ่มชื่นกระจ่างใส

Hada Laba Mild & Sensitive Skin Face wash
สูตรสีเหลืองสำหรับผิวบอบบางระคายเคืองง่าย

Hada Labo Deep Clean & Blemish Control Face Wash
สีฟ้าสำหรับผิวที่มีปัญหาสิว

ขนาด 100g ราคา 175 บาท มีขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
และสำหรับสูตร Softening & Whitening สีม่วง
มีขนาด 50g 89 บาท มีขายเฉพาะใน 7-11 จ้า




 

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2557    
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2557 11:11:21 น.
Counter : 3765 Pageviews.  

Review : เซรั่มวิตามินซีเข้มข้นราคาน่าคบ >>>Oriental Princess Natural Power C Power Boosting Serum


สวัสดีค่าบล็อคนี้มาตามสัญญา อิอิ
บอกเอาไว้ใน IG ว่าจะมารีวิวเซรั่มวิตามินซีเข้มข้นให้ชมกัน
กับแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดีว่าเป็นแบรนด์ไทยคุณภาพเริ่ด
Oriental Princess
Natural Power C Miracle Brightening Complex
Power Boosting Serum 
นั่นเองค่า
เชื่อว่าเป็นไลน์ที่หลายคนรู้จักกันดีเพราะโด่งดังมาก
ขึ้นชื่อว่ามีส่วนผสมของวิตามินซีเข้มข้นสูสีแบรนด์นอกเลย แต่มาในราคาที่น่าคบสุดๆ
ไปชมรีวิวกันเลยเลยจ้าเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าวิตามินซีช่วยอะไรผิวเราได้บ้าง
Smiley



Oriental Princess
Natural Power C Miracle Brightening Complex
Power Boosting Serum

----------------------------------------------------------------
พาวเวอร์บูสติ้งเซรั่ม : เซรั่มเข้มข้นเพื่อฟื้นฟูผิว

ขนาด 60 ml. ราคา 475 บาท
มีขายที่ช็อป Oriental Princess ทุกสาขาค่ะ



Oriental Princess Natural Power C
Miracle Brightening Complex  Power Boosting Serum

เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในไลน์ Natural Power C Miracle Brightening Complex
ที่เน้นคุณสมบัติในเรื่องให้ผิวดูกระจ่างใส ดูสดใสเปล่งปลั่งในทุกระดับสีผิว
ซึ่งส่วนผสมหลักของเค้าคือ"วิตามินซี" เรียกได้ว่าเป็นราชินีแห่งวิตามิน
เพราะมีคุณสมบัติในการช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวให้ผิวกระจ่างใส
ช่วยเร่งการสร้างคอลลาเจน ป้องกันปัญหาการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
แต่ปัญหาที่มักพบคือวิตามินซีมักจะก่อให้เกิดการระคายเคืองและเสื่อมสภาพได้ง่าย
เค้าจึงมีการพัฒนาออกมาเป็น Prime C ComplexTM
ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Oriental Princess
ที่มี Niosome Technology คือเทคโนโลยีที่ช่วยกักเก็บประจุวิตามินซี
มีลักษณะเป็นถุงทรงกลมขนาดเล็กสร้างขึ้นจากไขมันเลียนแบบผิวหนังธรรมชาติ
ทำหน้าที่กักเก็บสารต่างๆและช่วยนำพาสารบำรุงเข้าสู่ผิว ลดการระคายเคือง
โดยจะค่อยๆปล่อยประจุวิตามินซีเข้าบำรุงผิว ทำให้ได้วิตามินซีที่มีความคงตัวไม่สลายง่ายๆ
และสามารถรีไซเคิลประจุวิตามินซีและกระตุ้นวิตามินซีที่เสื่อมสภาพแล้ว
ให้กลับมาบำรุงผิวได้อย่างต่อเนื่องทำให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่นั่นเองค่ะ



สำหรับบูสติ้งเซรั่มส่วนผสมหลักตัวนี้เป็น Niacinamide หรือ วิตามินบี 3 นะฮะ
เป็นวิตามินสารพัดประโยชน์อีกหนึ่งตัวที่มักพบในสกินแคร์ทั่วไป
เนื่องจากเป็นส่วนผสมที่ราคาไม่สูงแต่ให้ประสิทธิภาพที่ดีมีความเสถียรมาก
ช่วยทั้งเรื่องเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ให้ความชุ่มชื่น ช่วยลดการอักเสบของผิว
รวมถึงเป็นสารที่มีความเสี่ยงในการระคายเคืองต่ำมากฮะ

ตัวที่น่าสนใจใส่มาเป็นอันดับสี่เลยคือ Medicago Sativa (Alfalfa Extract)
เป็นสารสกัดจากพืชที่มีฤทธิ์ในการช่วยต้านอนุมูลอิสระใส่มาให้จัดเต็มจริงๆ

ส่วนผสมวิตามินซีที่เป็นนางเอกก็ใส่มาเป็นอันดับต้นๆเลย ได้แก่
Ascorbyl Tetraisopalmitate เป็นอนุพันธุ์วิตามินซีชนิดที่ละลายในน้ำมัน
ที่เสถียรกว่าวิตามินซีในรูปฟอร์มอื่นๆรวมถึงก่อให้เกิดการระคายเคืองต่ำ
ถ้าเทียบจากสูตรเก่าจะเห็นว่าเค้าเพิ่มปริมาณของวิตามินซึขึ้นมาเยอะเลยหล่ะ
ทำให้สามารถคาดหวังเรื่องผลลัพธ์ได้มากยิ่งขึ้น
รวมถึงใส่ วิตามินอี  เข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพด้วย
เพราะวิตามินอีจะช่วยรีไซเคิลวิตามินซีที่ใช้งานไปแล้วให้กลับมาทำงานได้ใหม่
อย่างที่เค้าบอกว่าเป็น
Niosome Technology นั่นเองฮะ
นอกจากนี้ยังใส่ Magnesium Ascorbyl Phosphate อนุพันธุ์วิตามินซีเข้ามาเสริมทัพอีกตัวด้วย

--------------------------------------------------------------------

สำหรับส่วนผสมที่เป็น Key Hilight ที่ใส่มาในทุกผลิตภัณฑ์
ไลน์
Natural Power C Miracle Brightening Complex คือ

- Jujube Extract : เป็นสารสกัดจาก Chinese Apple ที่มีความเข้มข้นของวิตามินซี
มากกว่าแอปเปิ้ลปกติถึง 100 เท่า!!! ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความหมองคล้ำ ให้ผิวเรียบเนียน

- Bitter Orange Extratct : สารสกัดจากดอกส้มมีวิตามินบำรุงมากมาย
มีสรรพคุณในการให้ความเนียนนุ่มชุ่มชื่นผิว เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

- Chamomile Extract : สารสกัดจากดอกคาร์โมมายด์ดีงามมากที่ใส่มาด้วย
เพราะช่วยลดอาการแพ้หรืออาการระคายเคืองของผิว


--------------------------------------------------------------------

ส่วนผสมอื่นๆเน้นความเป็นธรรมชาติเป็นพวกสารสกัดจากพืช
ส่วนผสมโดยรวมดีงามมากแม้จะมีแอลกอฮอล์แต่มาอันดับหลังๆ
ซึ่งไม่มีผลอะไรนะปกติแอลกอฮอล์จะทำให้ผิวเราแห้งลง
แต่เค้าใส่สารให้ความชุ่มชื่นมาแบบจัดเต็มจึงมิต้องกังวลอะไร
ส่วนท้ายสุดคือน้ำหอมอันนี้ใส่มาจริงแต่น้อยมากเป็นแค่กลิ่นอ่อนๆ
ใครกังวลเรื่องการระคายเคืองก็ป้ายเทสหลังใบหูซัก 24 ชม.ก่อนได้ฮะ

***เป็นแบรนด์ไทยที่ดีงามน่าสนับสนุนมาก
ทุกผลิตภัณฑ์ของเค้าไม่ทดลองในสัตว์นะเออ!!!




บรรจุภัณฑ์ดีงามเป็นขวดแก้วหนาทึบแสงและเป็นหัวปั๊ม
ไม่เสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพจากแสงแดดและอากาศได้ดี
แต่ขวดแบบนี้มันหนักอาจจะพกพาลำบากนิดนึง
ซึ่งเค้าก็มีแบบ “Travel Set “ ไซส์พกพา
เป็นทางเลือกสำหรับสาวๆที่ต้องเดินทางบ่อยๆด้วยฮะ



ลักษณะเนื้อและกลิ่น


เนื้อเซรั่มสีครีมขุ่นๆ เนื้อเข้มข้นแต่ลื่นปรื้ดเกลี่ยลงบนผิวง่าย
และขอบอกว่าซึมไวมาก กลิ่นหอมอ่อนๆแนวซิตรัส
เค้าว่าเป็นฟิลของกลิ่นแบบวิตามินซีไม่ใช่กลิ่นแนวน้ำหอมเท่าไหร่
ทาแล้วให้ฟิลที่สดชื่นดีนะ หลังทาให้เท็กซ์เจอร์ที่แห้งสนิทสบายผิว
ไม่มันไม่เงาเลย แต่จับแล้วสัมผัสได้ว่าผิวจะนุ่มๆชุ่มๆ



สรุปความรู้สึกหลังทดลองใช้

เค้าลองใช้ต่อเนื่องเองมาประมาณสองสัปดาห์
ขั้นตอนการใช้เหมือนเซรั่มทั่วไป คือทาก่อนทาครีมใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
สามารถใช้ควบคู่กับสกินแคร์อื่นๆที่เราใช้อยู่ได้เลยฮะ
สำหรับใครที่มีขั้นตอนบำรุงผิวมากมายแบบเค้าเรียงการใช้ง่ายๆ
ด้วยการดูความเข้มข้น ตัวไหนเนื้อเหลวกว่าทาก่อนโลดจะไม่งง อิอิ

ในเรื่องของความกระจ่างใสนั้นตอบให้ยากเพราะเค้าบำรุงผิวมาตลอดจริงๆ
ไม่เคยปล่อยให้ผิวเยินอ่านะ แต่ตัวนี้เค้าชอบมากคือเรื่องของเท็กซ์เจอร์และกลิ่น
ทาแล้วให้ฟิลที่ดีเป็นเซรั่มในกลุ่มไบร์ทเทนนิ่งที่ให้ความชุ่มชื่นได้ดีเลย
หลังทาผิวจะนุ่มๆหยุ่นๆขึ้นแต่ไม่เหนอะหนะสามารถทาครีมตามแล้วซึมได้ดี
สิ่งที่เค้าสังเกตได้คือผิวแน่นเรียบเนียนขึ้นนิดนึง หน้าดูอิ่มๆฟูๆดีแม้นอนน้อย(มาก)

ส่วนตัวผิวหน้าเค้าค่อนข้างถูกกับวิตามินซีอยู่แล้วไม่เคยแพ้ใดๆฮะ
ด้วยส่วนผสมที่จัดเต็มทั้งวิตามิน B3 , C , E พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระ
แถมยังมีเท็กซ์เจอร์ที่ทาแล้วสบายผิว พูดเลยว่าเป็นแบรนด์ไทยที่เริ่ดอ้ะ!
ส่วนผสมดีงามในราคาไม่ถึง 500 บาท ควรค่าแก่การทดลองจริงๆ
แต่ถ้าใครที่มีสีผิวไม่ได้ขาวอยู่แล้วแบบเค้าก็สามารถใช้ได้นะฮะ
เหมาะกับทุกสีผิวเพราะว่ามันช่วยเรื่องความกระจ่างใสให้หน้าดูไบร์ทดูเฟรชนะ
ไม่ใช่ขาวเว่อร์วัง คือทำให้หน้าเนียน ดูกระจ่างใสแบบผิวสุขภาพดีมากกว่า
บอกเลยว่าถ้าอยากให้หน้าดูใสจริง ต้องเริ่มที่ผิวกระจ่างใส ดูสุขภาพดี
และถ้าอยากจะใช้แบบคาดหวังเรื่องกระจ่างใสแบบชัดๆ ห้ามลืมทากันแดดเด็ดขาดฮะ
มัวแต่บำรุงแต่ไม่ป้องกัน บำรุงแทบตายแต่ถูกแดดทำร้ายทุกวัน
ไม่เห็นผลเพราะตัวเองโทษว่าสกินแคร์ไม่ดีไม่ได้นะจ๊ะ

----------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณ Oriental Princess ที่ส่ง
Natural Power C
Miracle Brightening Complex
มาให้ลองทั้งไลน์เลยนะค้า
เป็นแบรนด์ของไทยที่ไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ ของดีราคาไม่แพงยังมีในโลก!

รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปชม
และสอบถามเพิ่มเติมได้ตามลิงค์ด้านล่างเลยค่า

//www.orientalprincesssociety.com


https://www.facebook.com/orientalprincesssociety

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าคร้าบ Smiley




 

Create Date : 14 ตุลาคม 2557    
Last Update : 20 ตุลาคม 2557 15:33:31 น.
Counter : 132356 Pageviews.  

Review : ไม่มีบัตรเครดิตก็ช้อปได้กับ WeCard by Truemoney อยากช้อปเท่าไหร่เติมเงินเท่านั้น!

 สวัสดีค่าขาช้อปทั้งหลายบล็อคนี้ขอเอาใจขาช้อปกันแบบเต็มที่
เพราะจะมารีวิวอัพเดทการช้อปปิ้งแบบใหม่ให้ได้รู้จักกัน
เหมาะมากสำหรับคนที่ยังไม่สามารถขอบัตรเครดิตได้ เช่นน้องๆนักเรียนนักศึกษา
หรือใครที่คุมตัวเองไม่ได้อยากช้อปแบบคุมวงเงิน

กับ  WeCard by Truemoney

จะแตกต่างกับบัตรเครดิตทั่วไปอย่างไร? 
สะดวกกว่าเพราะอะไร? ไปชมกันเลยจ้า



ขั้นแรกอยากมี WeCard ไม่ต้องไปธนาคารนะฮะ
เข้าไปดาวน์โหลดแอพ Wallet by Truemoney โลดรองรับทั้ง IOS และ Android
โหลดมาแล้วทำการลงทะเบียนโลดโดยใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือและอีเมล ในการลงทะเบียน




ล็อกอินเข้าไปปุ๊บหน้าแรกจะโชว์ยอดเงินให้เราดูเลย
ซึ่งนี่แหละคือความต่างระหว่าง WeCard by Truemoney  กับบัตรเครดิตและบัตรเดบิต
เพราะ WeCard จะต้องทำการเติมเงินเข้าไปในบัตร
ให้เพียงพอกับยอดของที่จะซื้อก่อนจึงจะสามารถนำไปใช้จ่ายได้
ดังนั้นจึงเป็นข้อดีที่ว่าเราสามารถควบคุมการใช้จ่ายของเราได้ไม่ให้จ่ายเงินตัว
คือไม่มีเงินเติมเข้าไปก็ช้อปปิ้งไม่ได้นั่นเองจ้า

วิธีการเติมเงินมีให้เลือกหลายช่องทางมาก
ไม่ว่าจะเป็นการเติมผ่านธนาคารแบบระบบ Internet Banking
เติมผ่านร้านสะดวกซื้อ หรือจะเติมผ่านตู้เติมเงินก็ยังได้
รวมถึงการโอนเงินให้กันระหว่างบัญชี Wallet
เพียงแค่กรอกเบอร์ของคนที่เราจะโอนให้




ในตัวแอพ Wallet เองก็มีบริการที่แสนสะดวกสบาย
อย่าง Pay Bill แสกนบาร์โค้ดปุ๊บจ่ายบิลปั๊บ
อันนี้ดีอ้ะไม่ต้องวิ่งวุ่นไปจ่ายพวกบิลค่าไฟนอนอยู่ห้องก็เคลียร์บิลได้
หรือจะเติมเงินโทรศัพท์ ซื้อสติกเกอร์ไลน์ ก็ทำได้เลย

มาถึงประโยชน์หลักๆของเจ้า WeCard by Truemoney กัน! ซึ่งมีสองรูปแบบได้แก่
1. ซื้อเป็นบัตร WeCard ที่สามารถใช้รูดปรื้ดๆ
คล้ายบัตรเดบิตที่ต้องเติมเงินเข้าไปก่อนถึงจะรูดได้นะจ๊ะ
สามารถซื้อบัตรได้ที่ 7-11 และ True Shop ราคาบัตรใบละ 50 บาท
ได้บัตรมาปุ๊บลงทะเบียนในแอพ Wallet จบค่ะใช้งานได้เลย

2. ใช้ชอปปิ้งออนไลน์ด้วย Virtual WeCard
แค่โหลดแอพ Wallet มาก็ช้อปปิ้งออนไลน์ได้เลย
ด้วยการ สร้างเลขบัตรเครดิตเสมือน ขึ้นมาในแอพ
มีเลขให้ครบถ้วนกรอกรายละเอียดช้อปปิ้งได้เหมือนบัตรเครดิตเป๊ะ!
(แต่ตอนนี้ยังใช้ได้เฉพาะร้านค้าในประเทศไทยเท่านั้นนะจ๊ะ)



ว่าแล้วก็จัดไปลองทำ Virtual WeCard เลย
ขั้นตอนง๊าย ง่าย แค่กรอกชื่อ-นามสกุลแบบที่จะให้ปรากฎบนบัตร
เค้าก็จะครีเอทเลขบัตรขึ้นมาให้เรา แต่ไม่ต้องกลัวเค้ามีระบบรักษาความปลอดภัย
ไม่ใช่ว่าใครก็ได้ที่จะสามารถเข้าไปดูเลขบัตรเราได้ 
เพราะถ้าจะเข้าไปดูหมายเลขบัตรจะต้องกรอกรหัส OTP หกหลัก
โดยเค้าจะส่งไปให้ทางเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้
แต่ส่วนใหญ่แอพ Wallet by Truemoney ก็มักจะอยู่ในโทรศัพท์เบอร์ที่ลงทะเบียนชิมิ
ดังนั้นอย่าไปเผลอเมมอีเมลกะพาสเวิร์ดเอาไว้ในเครื่องนะฮะ

พอกรอกรหัส OTP เรียบร้อยเราก็สามารถเข้าไปดู
รายละเอียด Virtual WeCard ของเราได้
เป็นบัตร MasterCard ฮะ มีข้อมูลทุกอย่างแบบบัตรเครดิต

ข้อดีอีกอย่างที่อยากนำเสนอคือระบบเปิด/ปิด การใช้งานบัตร
อย่างเวลาบัตรเครดิตหายทีนี่อายัดกันให้วุ่นวาย
แต่ถ้าเป็นบัตร WeCard เราสามารถสั่งปิดการใช้งานได้ด้วยตัวเองเลยฮะ

โอเคเมื่อบัตรพร้อมคนพร้อมก็ได้เวลาไปช้อปปิ้งกัน ฮี่ๆSmiley



เรื่องช้อปขอให้บอกนั่งคลิกๆเพลินๆแป๊บเดียวก็เสียตังได้ละ แหม่เว้ย!
เดี๋ยวปลายปีมีทริปเลยไปสอยกระเป๋าเพิ่มซักกะหน่อย
เป็นกระเป๋าที่ช่่วยจัดระเบียบสัมภาระในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
ขอบอกฮะว่ามันเวิร์คมากนะที่เวลาเปิดกระเป๋ามาแล้วทุกอย่างอยู่ในที่ที่ควรจะอยู่ไม่เละเทะ
ช่วยให้เรารื้อหาจัดเจ็ดเสื้อผ้าเครื่องใช้ได้ดีมาก ไม่อยากเวลาโดนตม.ขอเปิดเป๋า 555

วิธีการช้อปปิ้งออนไลน์ก็เหมือนปกติที่เราทำเลย
กรอกข้อมูลทุกอย่างเหมือนบัตรเครดิตโดยใช้เลขของ Virtual WeCard ที่เราสร้างไว้
เสียดายตอนนี้ยังช้อปได้เฉพาะร้านค้าในไทยแต่อนาคตเดี๋ยวพอใช้กับเมืองนอกได้จะมันส์กว่านี้



เย้ๆเรียบร้อยนะฮร้าบัตรอนุมัติผ่านทุกอย่าง
คอนเฟิร์มการสั่งซื้อ สิ้นสุดการช้อป!



เมื่อทำการจ่ายเงินเรียบร้อยก็เปิดเช็คยอดในแอพ Wallet by Truemoney ได้เลย
เค้าจะแจ้งให้ว่าเราเพิ่งซื้ออะไรไปในเว็ปไหนและยอดเงินคงเหลือมีเท่าไหร่
สมัครง่าย รวดเร็ว เช็ครายละเอียดได้ทันทีทันใจ!

สรุปในมุมมองเค้านะ WeCard ทำออกมาเพื่ออำนวยความสะดวก
ให้กับคนที่ยังไม่สามารถขอบัตรเครดิตได้ แต่มีความจำเป็นต้องใช้
คือทุกวันนี้ถ้าอยากช้อปออนไลน์ยังไงบัตรก็ค่อนข้างจำเป็น
เพราะสินค้าบางอย่างก็ต้องใช้บัตรเครดิตในการยืนยันการซื้อ
เช่น ตั๋วเครื่องบิน อยากจะบอกว่าเค้าเองเป็นคนนึงที่เคยแอนตี้การใช้บัตรมากกกก
รู้สึกว่ามันไม่จำเป็นอ้ะก็มีเงินสดก็ซื้อได้เหมือนกัน แต่พอชอบเที่ยวต้องจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก
พึ่งมาสำนึกได้ไงว่าอ้าวแล้วชั้นไม่มีบัตรทำไงดี เป็นฟรีแลนซ์จะทำเรื่องขอบัตรเครดิตก็ไม่ค่อยรอด
WeCard จึงเป็นอีกทางออกนึงที่ช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น แค่มีมือถือโหลดแอพได้ก็จบ

ข้อดีของ WeCard คือแม้จะใช้จ่ายทุกอย่างได้แต่ก็ต้องเติมเงินเข้าไปก่อน
ดังนั้นใครที่คุมตัวเองไม่ค่อยได้ใช้บัตรเครดิตแล้วรูดเพลินเกินตัว
ลองหันมามองบัตรแบบนี้ดูก็ดีนะฮะ วินัยในการใช้จ่ายจะช่วยให้เราสบายในอนาคต
และ WeCard by Truemoney เค้าก็มีจัดโปรโมชั่นร่วมกับร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ 
ไม่ต่างกับบัตรเครดิตเลยหล่ะ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ //www.truemoney.com/wecard/

หวังว่าบล็อคนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆนะค้า
ทุกอย่างมีประโยชน์ถ้ารู้จักเลือกใช้ให้ถูกทาง
ช้อปปิ้งกันแล้วห้ามลืมเก็บเงินออกอย่างเด็ดขาด
อนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่รู้หัดออมเงินไว้ตั้งแต่อายุยังน้อยกันนะจ๊ะ จุ๊บๆ Smiley




 

Create Date : 06 ตุลาคม 2557    
Last Update : 6 ตุลาคม 2557 15:27:21 น.
Counter : 8245 Pageviews.  

Preview : Garnier Sakura White Sleeping Essence ไนท์ครีมเนื้อเจลสูตรเข้มข้นชุ่มชื่นเหมือนมาส์ก



สวัสดีค่ามีไนท์ครีมสูตรใหม่จาก Garnier มาอัพเดทให้ชมกัน
เป็นไลน์ที่สาวไทยชื่นชอบกันมากนั่นก็คือไลน์ไวท์เทนนิ่ง Sakura White นั่นเอง
ซึ่งตอนนี้เค้ามีทั้งเซรั่ม เดย์ครีม และไนท์ครีม รวมถึงโฟมล้างหน้ากับมาส์กอีกด้วย

จุดเด่นของไลน์
Sakura White แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆตรงที่ไม่ใช่เน้นแค่ความขาว
แต่เน้นช่วยบำรุงให้ผิวกระจ่างใสอมชมพู ซึ่งจะดูเป็นผิวที่มีสุขภาพดี
ไม่ว่าสาวๆโทนสีผิวไหนก็อยากมีผิวที่ดูสดใสมีเลือดฝาดไม่ใช่ซีดๆเซียวๆเนอะ
ซึ่งส่วนผสมหลักของเค้าก็ตามชื่อเลยคือ สารสกัดจากซากุระ (Sakura Extract)
ที่มีคุณสมบัติในการบำรุงและฟื้นฟูผิวหนัง ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน
ความน่าสนใจของไนท์ครีมก็คือเค้าเพิ่มสารสกัดจากซากุระมาเป็นสองเท่าของเดย์ครีม
ไปชมรายละเอียดของไนท์ครีมตัวนี้พร้อมๆกันเลยจ้า



Garnier Sakura White
Pinkish Radiance Sleeping Essence

การ์นิเย่ ซากุระ ไวท์ พิงคิช เรเดียนซ์ สลีปปิ้ง เอสเซนส์


ครีมบำรุงผิวสำหรับกลางคืนสูตรเข้มข้น

-----------------------------------------------------------------------

ขนาดและราคา

18 มล. ราคา 119 บาท
50 มล. ราคา 279 บาท

หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อทั่วไปจ้า



บรรจุภัณฑ์เป็นกระปุกแก้วทึบแสงป้องกันการเสื่อมจากแสงได้ดี
แต่ต้องระวังในเรื่องของการเสื่อมจากอากาศและสิ่งสกปรก
ที่จะลงไปเจือปนเวลาปาดเนื้อครีมออกมาใช้
ควรล้างมือให้สะอาดหรือใช้ไม้พายในการปาดเนื้อครีม

กระปุกของเดย์ครีมและไนท์ครีมจะคล้ายกันมากกกกระวังหยิบใช้ผิดนะฮะ
ถ้าดูด้านหน้ากระปุกจากภาพบน ไนท์ครีมจะมีแถบเส้นสีน้ำเงินเล็กๆ
แต่สังเกตง่ายสุดคือด้านหลังกระปุก
เดย์ครีมเป็นแถบสีชมพู ส่วนไนท์ครีมจะเป็นแถบสีน้ำเงิน
นอกจากดูแถบสีแล้วสังเกตจากเนื้อครีมก็ได้ฮะเป็นเนื้อคนละแบบเลย
เดย์ครีมจะเป็นเนื้อครีมทึบแสงสีขาวอมชมพู ไนท์จะเป็นเนื้อเจลสีชมพูเข้มกว่าเล็กน้อย

***สกินแคร์ทุกชนิดไม่มีความจำเป็นต้องแช่ตู้เย็นนะคะ
โดยเฉพาะครีมแบบกระปุกเนื่องจากจะทำให้ครีมเสื่อมประสิทธิภาพได้เร็วกว่าปกติอีกด้วย
เนื่องจากมีการเปลี่ยนอุณหภูมิไปมาถ้าไม่แช่ต่อเนื่อง
และในตู้เย็นที่มีการแช่อาหารจะมีแบคทีเรียอาศัยอยู่มากมาย
ครีมแบบกระปุกที่ต้องเปิดปิดในการตักครีมจะเสี่ยงต่อการเจือปนของแบคทีเรียได้ง่าย
ดังนั้นการเก็บครีมที่ดีที่สุดคือไว้ในห้องอุณหภูมิปกติโดยเลี่ยงแค่ความร้อนกับแสงแดดก็เพียงพอค่ะ




เนื้อและกลิ่นของผลิตภัณฑ์

ปาดเทียบกันจะสังเกตเห็นได้เลยว่าเดย์กับไนท์เนื้อเป็นคนละแบบ
เดย์ครีมจะเป็นเนื้อครีมสีขาวอมชมพูทึบแสง หลังทาสีผิวจะดูขาวขึ้นทันที
เนื่องจากเดย์ครีมมีส่วนผสมของสารกันแดด Titanium Dioxide นั่นเอง

ส่วนไนท์ครีมมีลักษณะเป็นเนื้อเจลมีเท็กซ์เจอร์นุ่มลื่นเกลี่ยง่าย
ทาแล้วไม่ทำให้สีผิวเปลี่ยน เนื้อชุ่มชื่นทาแล้วสัมผัสได้ว่าผิวดูนุ่มๆขึ้น

เค้าว่าเนื้อครีมให้ฟิลเหมือนพวกสลีปปิ้งมาส์กเลยหล่ะ
หลังทาไม่มันหรือเหนอะหนะแต่จะให้ความรู้สึกเป็นฟิลม์บางๆเคลือบบนผิว

กลิ่นของเดย์กับไนท์เป็นกลิ่นแนวดอกไม้สดชื่นๆสดชื่นๆ
กลิ่นดอกซากุระแบบเดียวกัน แต่กลิ่นของไนท์จะอ่อนกว่าเดย์ครีมนิดนึงค่ะ





ข้อมูลผลิตภัณฑ์จากทางแบรนด์

ครีมบำรุงผิวสำหรับกลางคืนสูตรเข้มข้น ด้วยเนื้อครีมที่เนียนนุ่มพิเศษ
แต่ซึมซาบเร็วดุจเอสเซนส์ อุดมด้วยคุณค่าสารสกัดจากซากุระเอสเซนส์ที่เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า
ผสานสารสกัดธรรมชาติจากผลไม้และวิตามินซีจี ตรงเข้าปรนนิบัติและฟื้นบำรุงผิว
ในระหว่างการนอนหลับ ให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึกดุจมาส์ก
ชุ่มชื่นยาวนานถึง12 ชม. ให้จุดด่างดำดูลดเลือน ผิวแลดูเรียบเนียน
เผยผิวอมชมพูสะพรั่ง นุ่มเด้ง เปล่งปลั่งทุกเช้า และเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
ผิวดูกระจ่างใสเปล่งประกายอมชมพูขึ้นอย่างเห็นได้ชัดใน 2   สัปดาห์


ส่วนผสมตัวชูโรง
สารสกัดจากซากุระ (Sakura Extract)
ตามในส่วนผสมจะใช้ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Prunus Yedoensis Leaf Extract
จากงานวิจัยพบกว่าสารสกัดจากซากุระมีคุณสมบัติในการบำรุงและฟื้นฟูผิวได้ดี
มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงสดใด
จุดเด่นหลักที่ทางการ์นิเย่นำมาเป็นคุณสมบัติหลักคือช่วยลดเลือนจุดด่างดำ
ให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นด้วยคุณสมบัติในการยับยั้งเอนไซม์สร้างเม็ดสีเมลานิน (Tyrosinase)

นอกจากสารสกัดจากซากุระแล้วยังเน้นส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติอีกหลายตัว
ไม่ว่าจะเป็น Citrus Limon Fruit Extract , Lemon Fruit Extract ,
Jasmine Flower Extract , Nymphaea Alba Flower , Sugar Cane Extract
ฯลฯ
ซึ่งส่วนใหญ่มักมีฤทธิ์ในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

วิตามินที่เค้ายกมาเป็นตัวเด่นอีกหนึ่งตัวอาจจะเป็นชื่อที่เรายังไม่คุ้นมากนัก
นั่นก็คือ "วิตามินซีจี : Vitamin CG : Ascorbyl Glucoside"
ปกติเรามักพบว่าสกินแคร์ในไลน์ไวท์เทนนิ่งมักจะมีส่วนผสมของวิตามินซี
เพราะวิตามินซีมีคุณสมบัติในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน
ช่วยป้องกันเซลล์ผิวหนังที่ถูกทำลายโดยแสงแดด ช่วยลดจุดด่างดำ
แต่เนื่องจากวิตามินซีนั่นสลายตัวได้ง่าย จึงได้มีการนำไปเกาะกับน้ำตาลกลูโคส
เพื่อให้มีความคงตัวมากขึ้นสลายได้ยากขึ้นจึงกลายเป็น Ascorbyl Glucoside
Vitamin C+G (Glucose) เมื่อร่างกายรับวิตามินซีจีเข้าไปแล้ว
เอนไซม์ในผิวหนังเราสามารถย่อยพันธะกลูโคสออกได้
ทำให้ร่างกายสามารถดึงวิตามินซีไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

***ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน แต่มีส่วนผสมของน้ำหอมค่ะ



สรุปเค้าว่าไนท์ครีมตัวนี้น่าสนใจตรงที่ให้ความชุ่มชื่นได้ดีแม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไวท์เทนนิ่ง
ขอบอกว่าความชุ่มชื่นจำเป็นมากๆในการบำรุงยามค่ำคืน เนื่องจากส่วนใหญ่เรามักจะนอนห้องแอร์
ซึ่งจะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่นได้มาก ผิวที่ขาดความชุ่มชื่นจะดูแห้งกร้าน
ทำให้ตื่นมาผิวดูไม่สดใส ซึ่งเดย์ครีมมักจะทำเนื้อที่บางเบากว่าเพื่อไม่ให้รู้สึกเหนอะหนะ
ถ้านำมาใช้แทนไนท์ครีมก็อาจจะให้ความชุ่มชื่นได้ไม่เพียงพอค่ะ
ซึ่ง Day Cream มีค่า SPF ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดจึงเหมาะกับการใช้ตอนกลางวันจ้า

แต่ถามว่าไนท์ครีมใช้แทนเดย์ครีมได้ไหม ตอบให้ว่าได้แต่จะเหมาะกับคนที่ผิวค่อนข้างแห้ง
เพราะไนท์ครีมจะเน้นให้ความชุ่มชื่นแบบยาวนานเนื้อจึงค่อนข้างข้นกว่าเดย์นั่นเองค่ะ
แถมทริกให้สำหรับคนที่มีผิวมันและผิวผสมเค้าไม่แนะนำให้แต้มครีมแบบ 5 จุด
เพราะ 3 จุด หน้าผาก จมูก คาง คือจุดที่มีต่อมไขมันมาก ผลิตน้ำมันเยอะ
การทาครีมในจุดทีโซนมากเกินไปทำให้หน้าเยิ้มได้ไว
จึงแนะนำให้แต้มบริเวณแก้มมากหน่อยแล้วส่วนที่เหลือค่อยทาทีโซน
ก็จะช่วยให้ผิวในจุดที่แห้งได้รับความชุ่มชื่นเพียงพอและไม่เพิ่มภาระความมันให้ทีโซนจ้า

ข้อดีของการใช้ไนท์ครีมอีกหนึ่งอย่างก็คือช่วยให้ความมันระหว่างวันลดลง
อ๊ะอย่าเพิ่งงงเพราะผิวเราผลิตน้ำมันออกมาเพื่อทำการเคลือบผิวกันความชุ่มชื่นระเหยออก
ผิวที่ขาดการบำรุงและมีความชุ่มชื่นน้อยก็จะยิ่งผลิตน้ำมันมาเคลือบผิวมากขึ้น
ทำให้หน้ามันเยิ้มแต่ผิวกลับดูแห้งกร้าน ดังนั้นการบำรุงให้ผิวชุ่มชื่นมีน้ำหล่อเลี้ยงพอดี
ก็จะทำให้ร่างกายผลิตน้ำมันออกมาน้อยลงนั่นเอง

ฝากทิ้งท้ายไว้ใครที่ต้องการใช้สกินแคร์ในกลุ่มไวท์เทนนิ่งให้เห็นผล
ต้องควบคู่กับการทากันแดดและเลี่ยงแดดนะฮะ
เพราะแดดคือสาเหตุของปัญหาผิวหมองคล้ำถ้าบำรุงแต่ไม่ป้องกันมันก็ไม่ค่อยช่วยอะไรเน่อ

-------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณ Garnier ที่ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่มาให้ทดลองนะคะ
รายละเอียดข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมเข้าไปชมหรือสอบถามได้ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ

www.garnierthailand.com/sakura-white-night

www.facebook.com/GarnierThailand

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าด้วยค่า Smiley




 

Create Date : 24 กันยายน 2557    
Last Update : 1 ตุลาคม 2557 19:26:48 น.
Counter : 20512 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  

SaRaY
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]




..........ชื่อ "ทราย" นะค๊า นามแฝงที่ใช้ก็มี SaRaY และก็ Mhunoiii (หมูน้อย) ค่า สนใจการถ่ายภาพ กะการแต่งหน้า จากเป็นงานอดิเรกจะกลายเป็นงานประจำอยู่แล้ว 555 เลยอยากจะทำบลอคเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มานะค๊า ได้มากบ้างน้อยบ้าง มั่วๆกันปายยยย อิอิ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนแบบ
หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพและข้อความใน
http://www.mhunoiii.bloggang.com แห่งนี้ไปใช้
ทั้งโดยเผยแพร่ หรือเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต
จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด

ปล.ห้ามมิให้นำภาพใดๆจากในบล็อคไปใช้เพื่อการขายของโดยเด็ดขาดนะคะ !!!

---------------------------------------------------------

hits
New Comments
Friends' blogs
[Add SaRaY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.