|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]
|
สวัสดีครับทุกท่าน...ผมหมากเขียวแห่งสินธร...จาก Head of Prop Trade สู่ Private Trader อิสรภาพที่รอคอย
สงวนลิขสิทธิ์ © พ.ศ.2553 โดย หมากเขียว™ ห้ามลอกเลียน ทำซ้ำ หรือคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความที่เขียนโดยข้าพเจ้านอกจากจะได้รับอนุญาต
Copyright © 2010.All rights reserved. These articles and photos may not be copied, printed or reproduced in any way without prior written permission of Mhakkeaw™.
|
|
|
|
|
|
|
|
ทั้งๆที่อยากได้ใจจะขาด ไม่ได้องอายอะไรหรอกครับ
พอดีขอคนที่บ้านมางานมีตติ้ง ถ้ากลับเข้าบ้านไปดึกๆ
แล้วถือหนังของเฮียติดมือมาด้วย ผบ.ทบ.ถาม ผมไม่รู้จะ
ตอบยังไง5555555.......
จากคุณ : ton4fm - [ 28 มี.ค. 48 12:38:35 ]
ขอบคูณครับเฮีย และผู้อวุโส(ในวงการ)ท่านอื่นๆด้วย
ฝั่งซ้ายที่ชนะฝั่งขวา
เพราะมั่นใจว่าไพ่ในมือถึงแม้จะต่ำ แต่มีคนคุ้มหัว
เปรียบเสมือนหุ้นเน่าๆ แต่มั่นใจว่ามีเจ้าคุ้มหัว ถึงตอนนี้ไม่ดี เดี๋ยววันดีคืนดีก็มีคนลาก
ส่วนฝั่งขวา ไพ่ถึงแม้จะมีแต้มสูง แต่ดอกสะเปะสปะคนถือก็เลยขาดความมั่นใจ
เปรียบเสมือนหุ้นพื้นฐานปานกลาง อาจจะมีผลกำไรอย่างต่อเนื่อง แต่คงที่หรือลดลงทุกปี
ทำให้คนถือขาดความมั่นใจ พอตลาดไม่ดีก็ไม่กล้าถือไว้ หมอบดีกว่า
แต่สุดท้าย ทั้งฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวามันก็ยังเป็นเกมส์ ที่อยู่ในกรอบ
ใครจะสู้ใครจะหมอบก็ด้วยการตัดสินใจของตัวเอง บนพื้นฐานการประเมินกำลังคู่ต่อสู้
แพ้หรือชนะก็เกิดจากตัวเราเอง
แต่ที่น่ากลัวกว่านั้น ผมกลัวแต่พวกแอบดูไพ่คนอื่นก่อน โดยที่กรรมการจับไม่ได้
แถมกรรมการบ้านเราไม่เคยจับได้ซั๊กที
สู้เมื่อไร เราก็แพ้อยู่ร่ำไป .......................
จากคุณ : Livestock - [ 28 มี.ค. 48 13:21:46 ]
มาร่วมวงเล่นไพ่กับเฮียอีกคนครับ
สวัสดีเฮียปรัชญาครับ
หนังที่เฮียยกตัวอย่าง คล้ายๆกับเรื่องสามก๊ก
ตอนที่ขงเบ้งวางแผนหลอกล่อคู่ต่อสู้ด้วยเสียงเพลงบนกำแพง
ลูกชายสุมาอี้ก็ฟังออกครับว่า เสียงดนตรีมีปัญหา
เสียงดนตรีแฝงด้วยความหวั่นไหว ไม่นิ่ง ไม่ใส
สั่งให้ผู้่พ่อลุยเต็มที่
แต่สุมาอี้เองก็ไม่กล้า ที่สุดก็พ่ายแพ้ไป
ในหนัง คู่ต่อสู้พระเอกก็มองออก
และกล้าทุ่มหมดหน้าตัก แฮะ... ที่สุดก็แพ้เหมือนกัน
การต่อสู้กับตัวเอง ยากจริงๆ
จากคุณ : ธราธิป - [ 28 มี.ค. 48 14:20:51 ]
คุณพ่อของดิฉัน บินไปเล่นที่มาเก๊าทุกวันศุกร์ถ้าไม่ติดว่ามีเรือเข้า ขนครอบครัว (น้อยๆ) พี่เลี้ยงเด็ก คนขับรถ ไปครบเซท เนื่องจากเป็นคนขี้เหงา ไปไหนคนเดียวไม่เป็น
ถ้าพวกเขาไม่ยอมไปกัน ก็เอาน้องชายคนเล็กดิฉันติดไปด้วย ลูกที่โตกว่าติดเรียน ติดงาน ส่วนแม่เกลียดการพนัน
ถ้ามีพายุใหญ่ เครื่องลงฮ่องกงไม่ได้ ยังอุตส่าห์ไปเก็นติ้งไฮแลนด์ที่มาเลเซียแทน ซึ่งสมบุกสมบันมาก ไปครั้งเดียวเข็ด ไม่มีใครยอมตามไปด้วย เลยเลิกไป
เล่นมานานนับสิบปี ไม่เคยเสียเงินเลย มีแต่ได้ แต่ไม่มาก เลยไม่โดนเก็บไปเสียก่อน อีกอย่าง เพราะบรรดาผู้ติดสอยห้อยตาม (พ่อออกเงินให้ไปเป็นเพื่อน) คือบรรดา ญาติโกโหติกาทั้งหลาย อาโกว อาแปะ อาเจ็ก อาเฮีย อาแจ้ กระทั่งหลานๆ ต่างเสียกันถ้วนทั่วหน้า
ไปไม่ฟรีจริงนี่นา สุดท้าย เข็ดขยาด ไม่มีใครยอมไปอีก
ระหว่างช่วงนั้น ทุกคนก็เห็นชาวฮ่องกงเขาเล่นหุ้นกัน ก็เล่นเก็งกำไรตามแบบฉบับรายย่อยทั้งโลกเขาเล่นกันนั่นแหละ
อยากเล่นหุ้นมั่ง น่าจะดีกว่าเข้าบ่อน ทุกคนลงความเห็นว่ายังงั้น พอดีเมืองไทยมีโครงการเปิดตลาดหุ้น เลยรอกันอย่างใจจดใจจ่อ ตระเตรียมการ และระดมเงินทุนกันใหญ่
พอตลาดหุ้นเปิด ก็กระโจนกันเข้าไปเลยทั้งตระกูล ไม่ใช่แค่เป็นลูกค้านะ แต่เป็นทั้งโบรก ทั้งผู้ถือหุ้นบุริมสิทธ์ ทั้งมีธนาคารหนุนหลัง เล่นมาร์จินกันทุกคน
พวกลุงๆ ป้าๆ ลูกๆโตกันหมด บรรลุนิติภาวะแล้ว สบายมาก โอนทรัพย์สินทั้งหมดให้ลูก (บอกแล้วว่าเตรียมการพร้อม) แต่พ่อเป็นลูกคนที่ 7 ของครอบครัว ลูกที่บรรลุนิติภาวะมีแค่สอง ดิฉันอยู่อังกฤษ น้องชายเรียนแพทย์ก็ลงเล่นหุ้นด้วย เลยไม่รู้ว่าจะโอนให้ใครดี แม่ก็เล่นด้วย
หุ้นที่ซื้อก็หุ้น blue chip big market cap ทั้งสิ้น ตอนนั้นยังไม่มีพวก warrants และบรรดาหุ้นตัวเล็กตัวน้อยมาให้ปั่นกันเล่นเยอะแยะเต็มกระดานอย่างตอนนี้
เล่นไปเล่นมา เริ่มมีรายย่อยๆตามเข้ามาแย่งกันซื้อ หุ้นก็ขึ้นไปเรื่อยๆๆๆ จนถึงจุดๆหนึ่ง คือทุกคนเงินหมด มีแต่หุ้น
ทีนี้ทุกคนก็อยากขาย แต่ใครล่ะจะมาซื้อต่อ ????
ก็จบรอบน่ะสิ
ทั้งคนที่เก่งการพนัน และคนที่เจ๊งเพราะการพนัน ล้วนมีโอกาสเจ๊งหุ้นได้เท่าเทียมกัน ต่างกันที่ว่า
ปลาเล็กๆ รอดตาข่ายร่างแหได้ ปลาใหญ่ดิ้นไม่หลุด โดนจับไปแล่เนื้อแถหนัง
รายย่อยถ้ายอมตัดใจ cut loss สั่งขายไม่กี่นาทีก็หมดโอกาสติดหุ้นไม่มีเลย สบาย รอดตัว
รายใหญ่ต่างหาก เจ๊งเละ หนีไม่รอด ตายสนิท
ดิฉันดีใจที่เป็นรายย่อย เป็นปลาตัวเล็กๆ ที่หนีรอดมาได้ทุกครั้ง สบายกว่ากันเยอะ
จากคุณ : prettypetite - [ 28 มี.ค. 48 15:01:15 ]
เล่นหุ้นคือการเล่นการพนัน ที่แพ้ชนะกันด้วย...... ใจครับ
จากคุณ : solarplexus - [ 28 มี.ค. 48 17:01:05 ]
ผมกลับมองว่าทั้งโป็กเกอร์และหุ้นไม่ใช่การพนัน เพราะ เซียนอย่างไงก็เป็นเซียน
สมมุติว่าให้คุณไปสู้กับเซียนโป็กเกอร์แบบมีจำนวนเงินเริ่มต้นเท่ากัน คุณว่าคุณจะมีโอกาสชนะเกิน 10% ตามสถิติที่เฮียคลายเครียดว่ามาหรือเปล่า สำหรับผมว่าโอกาสชนะคงน้อยกว่า 1% แน่ๆ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ผู้ชนะ 10% มักจะเป็นคนหน้าเดิมๆ ส่วน 90% ที่เหลือจะค่อยๆ ตายไปแล้วหน้าใหม่ก็เข้ามาแทน
ผมว่ามันน่าจะเป็นกีฬามากกว่า ที่แต่ละคนเอาฝีมือและสมองมาชิงไหวชิงพริบกัน ส่วนเจ้ามือเขาอาจจะมีอุปกรณ์พิเศษที่ดีกว่าและมีประสบการณ์มากกว่า เราถึงได้สู้กับเขาได้ยาก จริงๆ พวก 10% คงไม่ตีกันเองมั่งครับ สู้ไปทุบหัวพวก 90% น่าจะง่ายกว่า ดังนั้นการที่เราจะไปเป็น 10% ก็คงต้องฝึกฝนพัฒนาความสามารถขยายข้อจำกัดของตัวเอง ให้ใกล้เคียงกับพวก 10% ให้ได้
แต่ยังไก็ขึ้นกับมุมมองของแต่ละคน มองแบบไหนก็เป็นแบบไหนตามที่เรามอง ตัวอย่างเช่นแฟนเรา คนอื่นจะว่าอย่างไงเรามองเขาสวยที่สุดอยู่แล้ว ฮาๆๆๆๆ
จากคุณ : KoKoMan - [ 28 มี.ค. 48 18:30:23 ]
ตามมาฟังเซียนคุยกัน เฮียคลายเครียดจะมีมุมมองน่าคิดมาเสมอ ขอบคุณครับ
จากคุณ : Joy.BJ - [ 28 มี.ค. 48 21:00:46 ]
ขอบคุณทุกท่านที่ออกความเห็นครับ
น่าจะสรุปได้ว่า
ส่วนใหญ่เชื่อว่า
ต่อให้หุ้นเป็นการพนัน
มันก็ยังเป็นการพนัน ที่ไม่ได้แพ้ชนะกันด้วยการเสี่ยงดวง
ความเห็นของคุณโกโกแมนน่าสนใจมาก
ถ้าเราเล่นการโป๊กเกอร์กับเซียนโป๊กเกอร์แล้ว
ต่อให้เรามีเงินเท่ากับเขา เกือบทุกคนก็จะแพ้เซียนโป๊กเกอร์
ดังนั้นเล่นหุ้น
ไม่ใช่การเล่นการพนันแบบเสี่ยงดวงอย่างแน่นอน
จากคุณ : คลาย เครียด - [ 29 มี.ค. 48 11:43:54
ในการพนัน จริง ๆ แล้วยังมีการลงทุนซ่อนอยู่
เหมือนที่คุณโกโกแมน บอกไว้
ทำไมเราเล่นกับเซียนโป๊กเกอร์แล้วมี โอกาสเสียมากกว่า
กลับกันกับการเล่นโยนหัวก้อย (ใช้เหรียญเดียว ไม่มีกลาง) กับ โครตเซียนเกาจิ้ง :) โอกาส ได้และเสีย จะเท่ากัน
เรื่องนี้ทางเมือกนอกเค้ามี หลักสูตรเฉพาะ เป็นพวกนักคณิตศาสตร์การพนัน ทำการวิเคราะห์การเล่นในแต่ละแบบ โอกาสได้-เสียต่าง ๆ สำหรับใช้ใน Casino
ความเสี่ยง โอกาสและผลตอบแทนที่ได้ ในเครื่องเล่นแต่ละชนิด จะถูกคำนวณไว้หมดแล้ว
ขอให้เจ้ามือมีโอกาส มากกว่า ผู้เล่น แค่ 50.01 กับ 49.99 ก็พอ (หาได้ยาก ส่วนใหญ่จะสูงกว่า ยกเว้นพวก โป๊กเกอร์ ซึ่งขึ้นกับหน้าไพ่ที่ได้และการตัดสินลงทุนในแต่ละตา)
นับจำนวนครั้งที่เล่นเป็น ล้าน ๆ ครั้ง ยังไง เจ้ามือก็ได้อยู่ดี
สุดท้าย ในตลาดหลักทรัพย์เมื่อมีเจ้า ก็ย่อมมีบ่อน แล้วยังมีคนเก็บค่าต๋งอีก เฮ้อ เยี่ยมจริง ๆ (ล้อเล่นนะครับ)
สำหรับผมแล้วการลงทุนในหุ้นไม่ใช้การพนันนะครับ :)
จากคุณ : BeSmile - [ 29 มี.ค. 48 15:02:55 ]