"แมงเม่าของเมื่อวันวาน คือ เซียนหุ้นของพรุ่งนี้"
Group Blog
 
All Blogs
 
ชีวิต12ปีในการเล่นหุ้น โดย kkk

9ปีแรกเอาเงินที่หามาใด้แต่ละปีเล่นหุนเสียประมาณ500000บาท ตอนscb-c1 และ tisco-c1เข้าเล่น2ตัวนี้ใด้ประมาณ1000000บาท ต่อมาซื้อscb-c1ราคา16บาทใช้เงิน3000000บาท ติดหุ้นตั้งแต่นั้นมา วันแรกที่tmb-c1เข้าก็เปลียนscb-c1ราคา5.70บาทเข้าtmb-c1หมดราคา1.80บาทเพราะเห็นว่าอายุนานก่วา ก่อน11ก.ย.เปลี่ยนtmb-c1ราคา1.70บาทหมดเข้าgencoหมดราคา12บาทเพราะข่าวซื้อหุ้นคืนและแตกพาร์ ขายgencoราคา1.20บาทเข้าqh-w3หมดราคา1.18บาทวันแรกที่เข้าซื้อขาย เดือนมี.ค.ขายqh-w3ราคา3.50บาทใด้ทุนscb-c1หมด3000000บาท ต่อมาซื้อkk-w4ใด้กำไร850000บาท ต่อมาใด้ซื้อtisco-c1ด้วยเงินทั้งหมดของครอบครัว5000000บาทราคา6.70บาท อาทิตย์เดียวราคาลงเหลือ4.80บาทขาดทุน950000บาท วันที่19เม.ย.ใด้ขายtisco-c1หมดราคา6.70บาท สรุป12ปีที่เล่นหุ้นใด้กำไร1350000บาทโดยภรรยาผมร้องไห้นับครั้งไม่ถ้วน ภรรยาบอกผมเสมอว่าการค้าที่ทำอยู่ก็ไปได้สบายโดยไม่ต้องเล่นหุ้น วันนี้สัญญากับตัวเองและภรรยาว่าจะเล่นหุ้นไม่เกิน1000000บาท ยอมรับว่าช่วงที่ติดหุ้นแต่ละครั้งผมและภรรยาเครียดมาก ภรรยาบอกผมว่า12ปีที่กำไร1350000บาทไม่ค้มกับที่ต้องร้องไห้นับครั้งไม่ถ้วนและอาจหมดตัวทำให้ลูกเมียต้องลำบาก เป็นครั้งแรกที่เข้ามาในห้องนี้ พิมพ์ไม่เก่งใชเวลานานมาก ทุกท่านคิดอย่างไรกับ12ปีในการเล่นหุ้นของผม

จากคุณ : kkk - [21 เม.ย. 45 18:21:34]


ความคิดเห็นที่ 1

ผมโหวตให้เป็นหนึ่งในกระทุ้ที่ดี เพราะ อาจทำให้บางคนได้ฉุกคิดได้ว่า เงินที่เอามาเล่นนี้ คุณเอาอนาคตลูกและครอบครัวมาเดิมพัน โดยที่บางทีเขาไม่ได้มารับรู้กับคุณด้วยเลย ผมเคยเจอเด็กสาว คนนึง มาขายตัว เพราะอยากประชดพ่อที่เล่นหุ้นจนหมดตัว

จากคุณ : เอ - [21 เม.ย. 45 18:35:27]


ความคิดเห็นที่ 2

ผมอ่านแล้วอยากให้คนอื่นวิเคราะห์ ดูว่าเป็นเพราะเค้าทุนแบบถือยาวแล้วกำไรได้เท่้านี้ หรือเค้าลงทุนแบบระยะสั้นไม่เป็น คือมีพอที่จะมีกำไรแล้วไม่ขาย รอจนมันลงไปมากแล้วจึงจะขาย หรือเพราะเค้าลงทุนแต่พวก c1,w3, ที่มีอายุของมัน ถือยาวแลัวไม่กำไรเท่ากับหุ้นแม่
อยากให้สรุปว่าเป็นเพราะอะไร ไม่อยากแค่การกระทู้่ที่ทำให้คนฉุกคิดได้ว่าไม่ควรที่จะมาลงทุนในหุ้น มันต้องมีสาเหตุว่าทำไม่ คนอื่นเค้าใช้เงินเท่ากันใช้เวลาเท่ากันกลับมีกำไรเป็นกอบเป็นกำ แบบนี้หน้าสนใจกว่า



จากคุณ : azure - [21 เม.ย. 45 18:54:21]


ความคิดเห็นที่ 3

ขอบคุณครับ ผมจะได้ จัดวงเงินในการ ลงทุน กับหุ้นนะครับ ขอให้คุณพี่ พบแต่สิ่งที่ดี ในชีวิตนะครับ โชคดีครับ


จากคุณ : ยาเบื่อ - [21 เม.ย. 45 19:21:51]


ความคิดเห็นที่ 4

เห็นด้วยอย่างยิ่ง การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยง ควรเล่นอย่างจำกัดวงเงินไม่ให้เกินความเสี่ยงที่รับได้ อย่าเอาเงินทั้งหมดมาทุ่มในหุ้น ถึงแม้หุ้นนั้นจะมีอนาคตดีอย่างไร มันอาจผันผวนได้ ไม่ใช่หรือ ใครจะคิดว่า ธนสยาม หุ้นดี ๆ ใน อดีตจะเหลือศูนย์ หุ้นภัทรฯ จะขายคืนฝรั่งได้ในราคา 5 บาทเท่านั้น(จำราคาไม่ได้แต่ใกล้เคียงนี้) ผมเล่นหุ้นมา 13 ปี ตั้งแต่ปี

2533 ปีแรกขาดทุนเล็กน้อยแต่ มี ความสนุกและเพลินและอยากชนะมันให้ได้

จากนั้นอีก 3 ปี 2534-2536 กำไรปีละเล็กปีละน้อย ได้ใจว่าชนะตลาดได้ ก็เริ่มลงทุนมาก ขึ้น ๆ ความโลภและคิดว่าหาเงินทางนี้ก็เป็นทางหนึ่งจึงเพิ่มการลงทุนไปอีก

จากนั้นอีก 5 ปี 2537-2541 ปรากฎว่า ขาดทุนต่อเนื่องเลยมากกว่า ที่ได้ก่อนหน้านี้ 3ปี เป็นช่วงแย่ที่สุดของชีวิต แต่ดีอย่างที่ไม่เคยเอาเงินของครอบครัวหรือเงินออมด้านอื่น ๆ มาโถมลงในหุ้น อยากเรียนรู้มัน มีเงินอยู่ แต่ก็อยากรู้ว่า margin เป็นอย่างไร ลองเปิดบัญชี margin กับ ทาง citi bank เลย ตอนนั้นเล่นผ่านทาง พาราพัฒนา แต่วงเงินได้จาก citi bank ยอมรับเลยฝรั่งนี้ เก่ง หาทางให้ credit เรามาเล่นหุ้น อีก 2 เท่าของวงเงิน พอเล่นไปสักพักหนึ่ง ต้องรีบซื้อรีบขายไม่งั้น ดอดเบี้ยจะกินเราหมด margin นี่อันตรายมาก เลยรีบปิดบัญชีเลย เฉพาะความอยากรู้เรื่อง margin เขาเล่นกันอย่างไร ทำให้เสียเงินไปอีกก้อนหนึง อยากเตือนว่า มีหลายชีวิตต้องเศร้าและเสียเงินไปหมด จากเคยมีมาเป็นจนและ ล้มละลาย นี่ความจริงที่เกิดขึ้น

ตั้งแต่ปี 2542-45 สี่ปีนี้ กำไรมาตลอด สามารถทำกำไรได้สูงสุดในปี ที่แล้ว ลบการขาดทุนที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด ปีที่แล้วต้นปียังขาดทุนใน port อยู่ ประมาณ 30% มาปลายปี ขาดทุนเหลือ 15%ใน port พอต้นปีนี้ และขณะนี้ เปลี่ยนจากขาดทุนมาเป็นกำไรแล้ว กำไรได้ 35%ใน port

ที่ชนะตลาดและหุ้นกลับมาดีได้เพราะได้เปลี่ยนแปลงการลงทุน แต่ก่อนที่เสียมากเพราะเล่นตาม มารเก็ตติ้งเชียร์ ประโยคแรกที่คุยก็จะว่า วันนี้เขาเล่นกันตัวไหน ราคานี้พอซื้อได้ไหม นั่นแหละ ทำให้เราขาดทุนเชื่อว่ามันจะขึ้น แต่พอขาดทุนก็ไม่ยอมขาย หุ้นประเภทนี้ ขึ้นเร็ว แต่ก็ลงเร็วและมากด้วยซิ พอหันมาเล่นหุ้นปันผลก็ชนะตลาดได้ ได้ทั้งราคาที่เพิ่มและปันผลรับทุกปี ที่ชอบที่สุดก็ในกลุ่มของใช้ในครัวเรือน รองมาก็ประกันภัย และสุดท้ายก็กลุ่มที่ดิน ทั้งสามกลุ่มนี้ทำให้ผมรอดมาได้และชนะในที่สุด แต่อยากเตือนว่า ปีหน้าอาจเป็นปีสุดท้ายที่จะเล่นหุ้นได้กำไร หลังจากนั้นจะเล่นยากขึ้นอีก เพราะจากการเก็บข้อมูลทุกปี รอบการเล่นหุ้นรอบใหญ่ของผมเป็น 5 ปีครั้งหนึ่ง น่าจะจบรอบขาขึ้นในปีหน้า ซึ่งคงเล่นน้อยตัวและจะลดการลงทุนด้านนี้ให้น้อยที่สุด

จากคุณ : ขอไม่บอก - [21 เม.ย. 45 19:24:17]


ความคิดเห็นที่ 5

เฮียก็อาจต้องเปลี่ยนนิสัยเล่นหุ้นด้วยหนะครับ ดูเฮียเล่นแล้วเสียวและเสี่ยงเหลือเกิน เล่นแต่พวกวอร์แรนต์ทั้งนั้นเลยครับ และถ้าเล่นมา12ปีจริงๆผมว่าเฮียอาจหมดไปกับDS-W NFS-W TFB-Wตั้งเยอะแล้วก็ได้

นอกจากเรื่องตกลงกับซ้อว่าจะเล่นไม่เกินวง1ล้านแล้ว เฮียไม่ลองคุยกับซ้อหน่อยเหรอว่า ลองหันหาหุ้นที่เน้นการลงทุน และหวังปันผลด้วย นอกจากจะเล่นวอร์แรนต์อย่างเดียว..

จากคุณ : เสี่ยจ๋อง - [21 เม.ย. 45 19:25:40]


ความคิดเห็นที่ 6

ผมคิดว่าคุณkkkมีเหตุผลทุกครั้งที่ซื้อหรือขายหุ้นแต่อาจไม่มีหลักการที่ชัดเจนทำให้กำไรไม่มากหรือติดหุ้นนานควรหาหลักการที่เหมาะกับตัวเองครับ สำหรับผมลงทุนมา5ปี2เดือน......2ปีแรกซื้อหุ้นตามงบการเงินโดยไม่สนใจสัญญานทางเทคนิคได้กำไรเป็นเงินปันผลแต่ราคาหุ้นไม่ไปไหนครับ....ปีที่3ปีที่4ลองซื้อหุ้นเก็งกำไรแต่ไม่รู้จักcut lossแถมยังชอบเล่นวอแรนท์ทำให้nav10บาทเหลือnav2บาท.....ปีที่5เริ่มลงทุนในหุ้นตามทฤษฎีเกม(หุ้นทุกตัวมีคนจ้องจะซื้อจ้องจะขาย)ถึงตอนนี้navมากกว่า10บาทแล้วครับ


จากคุณ : think_pos - [21 เม.ย. 45 19:42:29]


ความคิดเห็นที่ 7

เห็นใจครับ ผมคิดว่าที่คุณเล่นหุ้นมา12ปีแล้วผลเป็นอย่างนี้ผมว่าจุดที่ผิดอยู่ที่วิธีการครับ สําหรับผมซื้อหุ้นผมหวังปันผลมากกว่าcapital gain หุ้นทุกตัวที่ผมถือมีปันผลรองรับอย่างน้อย10% ก่อนที่ผมจะซื้อหุ้นผมจะศึกษาทําการบ้านหุ้นตัวที่ผมเล็งไว้อย่างลึกซึ้งย้อนหลังไปหลายปี(5-6ปี)
หุ้นที่ผมจะซื้อต้องมีหนี้น้อยมากๆๆ สภาพคล่องทางการเงินสูง จ่ายปันผลดี ราคาไม่แพงเกินไปและถ้ามีการเติบโตของยอดขายหรือกําไรยิ่งมากยิ่งดี ผมคิดว่าการเลือกซื้อหุ้นก็เหมือนกับการเลือกภรรยา ผมชอบหุ้น(ภรรยา)ที่ขยันทํามาหากิน รู้จักใช้ใช้อย่างมีเหตุผล จ่ายในสิ่งที่ควรจ่าย รู้จักเก็บหอมรอมริบ ไม่สร้างหนี้สร้างสิน ผู้บริหารซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบรายย่อย คุณต้องคิดเองพิจารณาเองศึกษาหาข้อมูลไม่ใช่คอยถามแต่มาร์เก็ตติ้งหรือถามคนอื่นเอาหรือซื้อขายตามข่าวลือข่าวปล่อย มาร์เก็ตติ้งส่วนไหญ่ชอบแนะนําให้ลูกค้าซื้อขายบ่อยๆเพราะได้ค่าคอมเยอะซึ่งมักจะแนะนําbank finance telecom electronic(บอกตามตรงหุ้นในพอร์ตผมไม่มีbank finance telecom
ก่อนอื่นแนะนําให้อ่านหนังสือหาความรู้ ศึกษาทําความเข้าใจให้มากๆ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนครับ ถ้าจะซื้อจะขายหุ้นยังต้องคอยถามคนอื่นไม่เป็นตัวของตัวเอง อันตรายนะครับ ศึกษาบริษัทที่เราจะซื้อจะขายหุ้นให้ดีก่อนซื้อขาย หลายคนเข้าตลาดแบบไม่ศึกษา ซื้อขายหุ้นยังไม่รู้เลยว่าบริษัทที่ตัวเองซื้อทํามาค้าขายอะไร กําไรดีหรือไม่ หนี้สินเยอะหรือเปล่า ผู้บริหารเคยมีพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ เอาเปรียบรายย่อยบ้างหรือไม่ ผมว่าเอาbasicที่สุดเลยคุณไปซื้อหนังสือตีแตกของดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากรที่se-edมาอ่านก่อนซัก3รอบ จากนั้นอ่านหนังสือเกี่ยวับงบการเงินและการวิเคราะห์งบการเงินซัก3-4รอบให้เข้าใจ จากนั้นหาข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนมาศึกษาให้ดีให้ลึกซึ้งย้อนหลังไปหลายๆปี มีปัญหาอะไรก็ติดต่อมาได้ครับที่wirotedent@hotmail.com target=_blank>wirotedent@hotmail.comถ้าตอบได้ยินดีตอบทุกปัญหาครับ



จากคุณ : LOSO - [21 เม.ย. 45 19:58:49]


ความคิดเห็นที่ 8

ขอบคุณครับ

จากคุณ : ** - [21 เม.ย. 45 20:44:18]


ความคิดเห็นที่ 9

จากข้อมูลที่คุณให้
เรื่องหุ้นคุณโง่มากทั้งจากวิธีการและผลตอบแทนที่ได้รับ
เรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว คุณเป็นคนที่เลวและเห็นแก่ตัวอย่างที่สุดทำตามใจตัวเองโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนในครอบครัวทำร้ายคุณที่รักคุณเป็นเวลายาวนานถึงสิบๆปี
สรุปกันให้ชัดๆว่าคุณโ่ง่และเลว แล้วคุณคิดว่าคุณเป็นคนยังไงล่ะ รู้จักคิดดูบ้างสิ

จากคุณ : ปลาจ๊ะจ๋า - [21 เม.ย. 45 20:45:28]


ความคิดเห็นที่ 10

คุณยังมีกำไรผมตามทุนมาตลอดตั้งแต่ฟองสบู่แตก ยังไม่ครบเลยเริ่มเล่นหุ้นโดยที่ยังไม่รู้ว่า PE ratio คืออะไร Book คืออะไรก็ไม่รู้ เล่นอย่างเดียวตามเพื่อน แต่แปลก กำไรเยอะจริงๆ ตอนนั้นกินเหล้าสองยี่ห้อแบล็คกับชีวาส พอฟองสบู่แตก สิ่งที่เจ๊งเลยนี่ มาร์จิ้น เจ้าเพื่อนที่แนะนำให้เล่นหุ้นเข้าโรงพยาบาลเลยน้ำตาลขึ้น นึกว่าต้องไปงานศพซะแล้ว เจ๊งกันเป็นแถบ มาได้คืนช่วงหลังนี่แหละอีกนิดนึงได้ทุนคืนแล้ว เล่นมาตั้งแต่ปี 38 นะ

จากคุณ : พีพีพี - [21 เม.ย. 45 20:55:04]


ความคิดเห็นที่ 11

ขอบคุณมากครับสำหรับกระทู้ดีๆแบบนี้
เป็นกระทู้ที่มองได้หลายด้านวิเคราะได้หลายมุม
คิดว่าจากนี้ไปคุณคงจะมีแต่สิ่งดีๆแล้วละครับ ขอเป็นกำลังใจให้

จากคุณ : sai - [21 เม.ย. 45 21:08:09]


ความคิดเห็นที่ 12

ผมเพิ่งเข้ามาได้ 7 เดือน ได้อ่านแ้ล้ว พูดตรงๆว่า
สงสารภรรยาคุณ และครอบครัวคุณมาก
และผมนึกถึงเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ห้ามไม่ให้ผมเล่นหุ้น
เพราะคุณพ่อของเธอ เล่นหุ้น แล้วทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ไม่มีความสุข

สงสารเธอนะครับ มี bad impression ไปจนวันตาย
เธอจะไม่มีทางฟัง และเปลี่ยนมาทราบได้ว่า

มีการลงทุน ในตลาดหุ้นด้วย

ลูกคุณล่ะครับ




จากคุณ : Timothy - [21 เม.ย. 45 21:13:34]


ความคิดเห็นที่ 13

คิดว่า ทุกความเห็นเป็นประสบการณ์ตรงที่ทุกท่านได้แสดงให้เพื่อนๆได้รับทราบ

ขอบคุณทุกท่านที่ให้มุมมองในหลายๆมุมครับ

จากคุณ : นายหนุนยัน - [21 เม.ย. 45 21:37:30]


ความคิดเห็นที่ 14

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ ที่ต้องขาดทุนในการลงทุนมากมายขนาดนั้นอ่ะค่ะ
ส่วนตัวแล้วคิดว่า เงินลงทุนที่เยอะขนาดนั้น น่าจะทำกำไรได้รวดเร็ว และทันใจด้วยนะคะ ถ้าเล่นแบบถือสั้นๆน่ะค่ะ
ตอนนี้ หัดเล่นหุ้นแบบเต็มตัวมาสองเดือนแล้วค่ะ
ทุนแสนนึงค่ะ แต่เล่นแรกๆ จะเล่นไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอันค่ะ กว๊านซื้อหุ้นให้ทั่วไปหมดเกือบสิบตัว แต่ก็หยั่งว่านะคะ ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาก็รู้ๆกัน หุ้นตกค่ะ กำไรจึงได้น้อยมาก ส่วนใหญ่จะติดหุ้น และถือรอมากกว่า กำไรที่ได้ก็น้อยมากๆ ซะจนมานั่งคิดว่า ถ้าเอาเวลาไปทำอย่างอื่น น่าจะได้ดีกว่านี้ค่ะ
เดือนแรกกำไร 1800 เดือนนี้ผ่านมาครึ่งเดือนแล้วกำไร 700 กว่าๆ เฮ้อ นอกนั้นหุ้นมันติดสูงอยู่ ขายไม่ออก
กะว่าลองดูกะหุ้นปีนึงค่ะ ว่ามันจะดีขึ้นเรื่อยๆ รึแย่ลง ถ้ามันแย่ลงก็ว่าจะหันหลังดีกว่าค่ะ ขอบคุณค่ะที่อ่าน

จากคุณ : เด็กหัดเดิน - [21 เม.ย. 45 21:43:06]


ความคิดเห็นที่ 15

ผมเล่นหุ้นมานานกว่า12ปี จนจำไม่ได้ น่าจะตั้งกะตลาดเปิดละมั้ง ขอแนะนำว่า ควรจัดสรรเงินซื้อหุ้นปันผล เช่นเวลานี้ซื้อ หุ้น ปตท. ไอ้ที่ราคา32 บาทเนี่ยก็ยังได้ แล้วอย่าขายรอรับปันผลดีกว่าดอกแบงก์1.25%ด้วยซ้ำไป
เงินที่เหลือ50ในร้อย ก็ซื้อหุ้นอนาคตดีที่ไม่ใช่ พวก ซีพวกวอแรน แล้วคุณจะได้ไม่เครียด เล่นหุ้นเป็นงานอดิเรก เอาพอมันก็พอ ....ถึงขั้นลูกเมียเดือดร้อน ...อย่างนี้เลิกเสียเหอะนะ อย่างน้อยไอ้เงินห้าแสนกับ ปตท. นี่ได้ตังคืนแน่ๆครับ แล้วเก็บไว้ให้ลูกๆใช้ในอนาคตยังดีเสียกว่าไปเสี่ยงกับหุ้นหวือหวาพวกที่คุณเอ่ยมา

จากคุณ : ปลากดชอบกัด - [21 เม.ย. 45 21:48:07]


ความคิดเห็นที่ 16

ผมคนหนี่งที่ลงทุนในหุ้นมาแล้ว 10 ปี จะครบรอบเดือน พ.ค. 45 นี้ ผมเริ่มลงทุน จากหลักแสน ใช้ระบบถือสั้น ไม่ได้ผล ก็มาถือยาว ใช่เงินที่ค้าขายได้ มาลงทุน ตอนแรกก็ขาดทุนมาก โดยเฉพาะ ปี 41 ผมถือ nava เก็บสะสมจาก 80 บาท ใช้เงิน 100000 จนประมาณ 2 ล้าน และมาขายก่อนถูกลดทุนเลือ 1 สต. 1 วัน ได้เงินคืนประมาณ 1แสนกว่า จากวันนั้นจนมาถึงต้นปีนี้ ผมก็ฟื้นมาได้ ผมจะลงทุนระยะสั้น ผมเพิ่งกำไร 1.2 ล้าน เมื่อต้นปี ขณะนี้กำไร 5แสนกว่า แต่ผมดีที่ภรรยา เข้าใจพอสมควร และผมจะไม่เลิกลงทุนหุ้นเด็ดขาด เพราะผมชอบมาก และผมเคยเจ็บมามาก แต่ผมคิดว่า ให้ผมขาดทุนหุ้นเสียดีกว่าให้ผมเลิกลงทุนในหุ้น

จากคุณ : jave - [21 เม.ย. 45 21:48:34]


ความคิดเห็นที่ 17

เรื่องจริงหรือเรื่องโจ๊ก

จากคุณ : โจ๊กนะ - [21 เม.ย. 45 21:59:29]


ความคิดเห็นที่ 18

ถ้าเทียบประสบการณ์เรื่องหุุ้้้้้้้้้นของคุณกะผม ผมว่าคุณยังเด็กๆมากนะ ที่สำคัญที่สุดของคนที่จะเข้ามานรกแห่งนี้คือต้องจำกัดความเสี่ยงครับ อย่าเสี่ยงมากจนพลาดแล้วครอบครัวต้องเดือดร้อน

จากคุณ : sos - [21 เม.ย. 45 22:14:01]


ความคิดเห็นที่ 19

มันเป้นธุรกิจที่ดี ไม่ต้องมีลูกจ้าง ไม่ยุ่งกับสรรพากร แต่ค่าเรียนนั้นมันนานแพงและเจ็บปวดมาก ผมคนหนึ่งเป็นทั้งคนเคาะกระดานโป๊กๆ ในสมันนั้นเห็นคนรวยก็เยอะเจ็งก็เยอะ ออกมาเป็นนักลงทุนก็เห็นเพื่อนๆที่นั้งเล่นด้วยกันเจ็งจนหมดเนื้อหมดตัวเสียผู้เสียคนไปหลายคน บางคนก็เสียสติไป ยิ่งช่วง1700 เพื่อนผมเองเป็นคนเขียนในวารสารหุ้นเล่มหนึ่งว่าหุ้นจะไปถึง 2500 มันจะบ้าหรือเปล่าในตอนนั้น
ส่วนผมเองก็เคยรวยเพราะหุ้นก็เยอะ เสียเพราะหุ้นก็เยอะ สรุปแล้วยังมีกำไร ถือคติ อย่าโลภ อย่าเล่นหลายตัว เล่นตัวที่คุณชำนาญ แค่สองสามตัวก็รวยใด้ อย่าเล่นวอร์ ที่สำคัญต้องอ่านมูดของตลาดให้ออก กล้าตัดขาดทุนเมื่อผิดทาง
สำคัญที่สุดไม่ควรเอาเงินออมที่มีอยู่มาลงทุนเกิน 25% แม้คุณเจ็งหมดก็ยังไม่เดือดร้อน

จากคุณ : ก้วยเจ๋ง - [21 เม.ย. 45 22:38:33]


ความคิดเห็นที่ 20

โลภมาก ทุกข์มาก เป็นเงาตามตัว

จากคุณ : 10 - [21 เม.ย. 45 23:26:49]


Create Date : 11 สิงหาคม 2548
Last Update : 11 สิงหาคม 2548 12:21:12 น. 2 comments
Counter : 6071 Pageviews.

 
ความคิดเห็นที่ 21

เป็นบทเรียนที่เพื่อนจะได้จำไว้บ้างครับ ขอบคุณ

จากคุณ : aeaw - [21 เม.ย. 45 23:42:19]


ความคิดเห็นที่ 22

ผมว่าที่คุณพลาดอย่างมากคือการที่เอาเงินทั้งบ้านไปลงทุน ถ้าคุณคิดได้แต่แรกที่จะลงในวงจำกัดและห้ามใจให้ได้ ล้านเดียวก็พอนะ ติดก็ติดไป เข้าออกไว อย่าโลภมาก เพราะดูจากการลงทุนคุณเล่นแต่พวกหุ้นปั่นที่ขึ้นลงรวดเร็ว พวกนี้ไม่เหมาะกับคุณที่ค่อนข้างช้า
การลงทุนไม่จำเป็นต้องมีหุ้นตลอดเวลา เข้าเมื่อคิดว่าต่ำที่สุด ขายเมื่อได้กำไรไม่ว่ามากหรือน้อย และนั่งรอเวลาหุบเหยื่อ ไม่ใช่ต้องซื้อขายทุกวันหรือทุกเดือน ของผมบางทีไม่ชั่วร์ 6 เดือนยังไม่ซื้ออะไรเลย มันขึ้น ขึ้นไปไม่เสียดาย แต่ต้องติดตามข่าวตลาดโดยตลอดอย่างทิ้งข่าวเป็นอันขาด จะได้กำไรตลอด ทางขาดทุนมีน้อยมาก

จากคุณ : pp - [22 เม.ย. 45 00:17:15]


ความคิดเห็นที่ 23

ตอนดัชนี 1,700 จุด น่ะ ไฟแนนซ์ซิลลิ่งทุกวันเป็น
อาทิตย์ แล้วมันซื้อเข้าไปได้อย่างไรกันตอนนั้น p/e
ratio บางตัว 100 เท่า เขาเรียกว่าไม่ดูตาม้าตาเรือไง
ผมเองก็งงว่ามันขึ้นไปได้ยังไงทุกวันละเกือบชนซิลลิ่ง
10 เปอร์เซ็นต์ ทุกคนรู้จักหุ้นหมดไม่ต้องโปรโมท

จากคุณ : ? - [22 เม.ย. 45 00:32:43]


ความคิดเห็นที่ 24

ขอขอบคุณในความเอื้อเฟื้อของทุกท่านๆที่นำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากกับน้องๆเด็กๆรุ่นหลังที่เข้ามาสัมผัส และจะมีส่วนเสริมสร้างนักลงทุนรุ่นใหม่ ที่จะมีความรู้ความเข้าใจในตลาดหุ้นมากขึ้น

ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้อีกครั้ง

โชคดีมีเงินใช้ครับ

จากคุณ : โจโฉมาเอง - [22 เม.ย. 45 08:00:03]


ความคิดเห็นที่ 25

น่าชมเชยเจ้าของกระทู้ที่ยอมเล่าเรื่องผิดพลาดของตัวองให้คนอื่นมองเป็นตัวอย่าง ในตลาดหุ้นกลโกงมีสารพัดแบบ ยิ่งตอนนี้ทั้งต่างชาติและรายใหญ่ทำมาหากินกับเงินออมรายย่อยทุกวัน คนที่อยู่มานาน เข้าใจเล่หเหลี่ยมกลโกง ของเจ้ามือได้ก็ไม่ค่อยเจ็บตัว หุ้นที่มีเจ้ามือสร้างราคาแล้วทิ้งให้รายย่อยติดสูง หรือทำกำไรส่วนต่างโยนขึ้ยโยนลง จนต้นทุนต่ำมากๆ มีกี่คนที่จะเอากำไรออกมาได้ถ้าไม่เป็นพรรคพวกเจ้ามือ วงเวียนชีวิตไนนก็คงมีคนเจ๊งกับหุ้นอีกมากมายสรุปอย่าลงทุนหุ้นเกินจะรับความเสี่ยง ในตลาดมีเทคนิคมากมายในการดูดเอาเงินคุณไป

จากคุณ : 2kk - [22 เม.ย. 45 08:38:33]


ความคิดเห็นที่ 26

ผิดแล้วสำนึกผิด สมควรได้รับคำชม.........


จากคุณ : Sand Whale - [22 เม.ย. 45 09:00:11]


ความคิดเห็นที่ 27

กระทู้ดี กระทู้ดี

จากคุณ : ป๋า - [22 เม.ย. 45 09:52:03]


ความคิดเห็นที่ 28

ผมเล่นหุ้นมาเกือบ10ปี ยังขาดทุนอยู่ 2.5ล้านบาท
รู้สึกแย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

จากคุณ : ปี - [22 เม.ย. 45 09:58:34]


ความคิดเห็นที่ 29

อ่านแล้วน่าใจหายที่สุด ตรงประโยคที่ว่า
เอาเงินทั้งหมดของครอบครัวมาเล่นหุ้น
นั้นเป็นสิ่งที่ผมจะไม่มีวันยอมทำเป็นอันขาด
ไม่ว่าหุ้นมันจะดีเลิศขนาดไหนก็ตาม
ขอบคุณสำหรับกรณีศึกษานี้ครับ

จากคุณ : คลายเครียด - [22 เม.ย. 45 10:00:26]


ความคิดเห็นที่ 30

ก่อนที่จะเริ่มเล่นหุ้นผมว่าพี่แกต้องอยู่ในบ่อนมาก่อนแน่เลยเพราะว่าใช้วิธีเดี่ยวกับที่บ่อนการพนันชอบใช้"วัดดวงแล้วก็ใจถึง"

จากคุณ : tor - [22 เม.ย. 45 10:43:06]


ความคิดเห็นที่ 31

ตลาดหุ้นเปรียบเหมือนบ่อเงินบ่อทอง ที่มีอสรพิษร้ายรายรอบอยู่ปากบ่อ การที่จะเข้าไปเอาของมีค่าได้ต้องมีวิธีนะครับ

จากคุณ : x50 - [22 เม.ย. 45 11:51:54]


ความคิดเห็นที่ 32

ลองเล่นหุ้นแบบมีเป้าหมายบางอย่างที่สามารถเปลี่ยนค่าเงินได้สิครับ ผมเล่นหุ้นในช่วงปี 87-92 Port ประมาณ 1 ล้านบาท ( ขอยืมเงินแม่มา) ได้กำไรประมาณ 1ล้านบาท ก็เอาผสมกับเงินเก็บไปเรียนต่อ ( 1us =25 บาท) จบกลับมาเงินหมดพอดี
แล้วมาเริ่มเล่นใหม่ปี 98-99 ในวงเงินแค่ 700,000 บาท ขาดทุนกำไรยังงังงัยโปะไปโปะมา ผ่อน Condo ไปครึ่งนึงแล้วครับ ก็กะว่าวงเงินเท่านี้ จะเล่นไปเรื่อยๆ ใช้เงินเดือนผ่อนมั่ง กำไรหุ้นผ่อนมั่ง
ผมได้ความรู้ติดตัว ได้ Condo เล็กๆ และ ที่สำคัญ ทำให้ผมอ่านงบการเงินเป็น ตามข่าวเศรษฐกิจ

ผมว่าผมกำไรเยอะนะเนี่ย

จากคุณ : Folk - [22 เม.ย. 45 12:32:20]


ความคิดเห็นที่ 33

ไม่สำคัญว่าอะไรเกิดขึ้น สำคัญว่าเราจะแก้มันอย่างไร

ไม่เคยเล่นหุ้น แต่ก็มีความสนใจค่ะ

จากคุณ : a_ngun@lycos.com - [22 เม.ย. 45 12:33:21]


ความคิดเห็นที่ 34

ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ เร็วๆนี ทรีนิตี้ หรือเปล่าครับ

จากคุณ : มือใหม่ - [22 เม.ย. 45 13:20:28]


ความคิดเห็นที่ 35

อย่าคิดว่า สิ่งที่ได้จากตลาดคือเม็ดเงินกำไรอย่างเดียว หากแต่คุณได้เรียนรู้และเข้าใจในธรรมชาติของตลาด แม้เม็ดเงินที่ได้นั้นอาจน้อยนิดซึ่งก็วัดจากความรู้สึกของคุณเองเช่นกัน แต่ดิฉันเชื่อมั่นว่า ต่อจากนี้ไป คุณจะใช้สมองที่ได้สั่งสมประสพการณ์ทั้งด้านบวกและลบ มาทำให้คุณไม่พลาดซ้ำอีกค่ะ

อย่าเอากำไรที่ได้ไปเปรียบกับคนอื่นนะคะ เดี๋ยวอาจทำให้เราท้อแท้ หรือ กดดันที่จะต้องพยา่ยามทำกำไร จนอาจขาดทุนได้

ได้นิดได้หน่อยก็ยังดีกว่าเสีย คุณเองโชคดีที่ยังมีทุนมาต่อลมหายใจ หลาย ๆ ท่านที่เคยรวยและหมดไปกับตลาดหุ้นไม่มีโอกาสได้ต่อทุนในยามที่ตลาดฟื้นตัว ซึ่งก็นับว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้โชคดีเพียงไม่กี่่คนที่ยังสามารถเอาชนะตลาดได้ในตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ซึ่งครึ่งทางที่ผ่านมาเป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุดค่ะ

ขอให้โชคดีค่ะ

จากคุณ : AJ - [22 เม.ย. 45 16:23:33]


ความคิดเห็นที่ 36

Stock Market is not an easy place to earn your living. It is fun to gambling sometime. The way that you put all your saving money in it seems like the one who quit his job and jump in this game, which I had comment before and somebody told me that I had mental problem to criticised that guy.
Unfortunately that I would like to see Thais esp.
educated Thais to work in productive ways for our country not just for himself .

จากคุณ : Love Thais - [22 เม.ย. 45 16:37:43]


ความคิดเห็นที่ 37

เปลี่ยน กลยุทธ์ ตาม สมรภูมิ

จากคุณ : kitosf@hotmail.com - [22 เม.ย. 45 21:27:10]


ความคิดเห็นที่ 38

โห เล่นเก็งกำไรแต่ W กับ C
ทำไมคุณไม่ลงทุนหุ้นบ้างล่ะ
หุ้นดีดี P/E ต่ำๆเยอะแยะไปที่ปันผลมากกว่าดอกเบี้ยธนาคาร หลายๆเท่า



จากคุณ : นายกระโห้ - [22 เม.ย. 45 23:04:18]


ความคิดเห็นที่ 39

ขอบคุณที่ช่วยเตือนสติผมครับ จะได้จัดสัดส่วนเงินเล่นหุ้นให้เหมาะสม

จากคุณ : คนเพิ่งเริ่ม - [23 เม.ย. 45 01:03:50]


ความคิดเห็นที่ 40

สงสัยต้องทำใจให้นิ่งกว่านี้ครับ


จากคุณ : เฟยหง - [23 เม.ย. 45 09:03:57]


โดย: หมากเขียว วันที่: 11 สิงหาคม 2548 เวลา:12:16:49 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 41

40คคห นี่สรุปว่าได้มากกว่าแล้วซิแต่เรายังขาดทุนอยู่เลยเล่นนานพอๆกันแหละเสียไป1ล้านยังไม่ได้คืนเลย แต่ไม่เสียใจเพราะระยะหลังไม่ได้เล่นเลยไม่ได้ไม่กล้าซื้อแต่ที่ไม่เสียใจเพราะที่เสียล้านนึงสมัยติดFIN1 DS NAVAแต่เพื่อนที่รู้จักเสียมากขึ้นตอนชวนขึ้นไป500จุดแล้วเขาเอาเงินใหม่ใส่ไปอีกล้านกว่ายังติดอยู่เลยเขาก็ไม่ได้เข้าออกนะถือยาวมา3ปีแล้วไม่เห็นได้ทุนเลยหุ้นดีๆทั้งนั้นแต่ที่เจ้าของกระทู้หรือคคหอื่นๆที่ได้คืนต้องยอมรับว่าเป็นW-Cเลยได้คืนเร็ว

จากคุณ : เบื่อหุ้นมานานแล้วแต่ชอบดู - [23 เม.ย. 45 11:32:30]


ความคิดเห็นที่ 42

ขอบตุณสำหรับกระทู้ดีๆ อย่างนี้ ช่วยเตือนสติได้ดีเลยค่ะ

จากคุณ : มือใหม่หัดเล่น - [23 เม.ย. 45 13:09:49]


ความคิดเห็นที่ 43

เพื่อนผมคนนึงเล่น B-LAND ช่วง พ.ศ.2532 ตอนนี้สูญเงินไปเกือบ 2 ล้านบาท


จากคุณ : ตุ่น - [23 เม.ย. 45 16:37:47]


ความคิดเห็นที่ 44

ผิดเป็นครูครับ คำนี้ใช้ได้เสมอ
ศึกษาปรับปรุงแก้ไข ล้มแล้วลุกอย่างมั่นคง
อย่างถ้อขอให้สูงต่อไป ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆหรอกครับ



จากคุณ : ดาวเหนือ - [23 เม.ย. 45 16:50:50]


ความคิดเห็นที่ 45

ผิดเป็นครูครับ คำนี้ใช้ได้เสมอ
ศึกษาปรับปรุงแก้ไข ล้มแล้วลุกอย่างมั่นคง
อย่างถ้อขอให้สู้ต่อไป ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆหรอกครับ
สู้แล้วแพ้ ดีกว่าไม่ยอมสู้


จากคุณ : ดาวเหนือ - [23 เม.ย. 45 16:51:58]


ความคิดเห็นที่ 46

ลงทุน 1 ล้าน เลือกหุ้นปันผลที่ 10% ขึ้นไป เอาเงินปันผลทบลงไป 10% ส่วนเกินเก็บไว้ซื้อขนม 20 ปีก็กลายเป็น 7 ล้านแล้วนะครับ คำนวณให้ดูเล่น ๆ น่ะแต่อยู่ที่ว่าเราจะเลือกเดินทางไหนมากกว่า มองเผื่อดีสุด ๆ และร้ายสุด ๆ ว่าเรายืนอยู่ได้ไหม ประสบการณ์วันนี้ไม่ว่าดี หรือร้าย หากหมั่นศึกษาจดจำ วันข้างหน้าก็เป็นอาวุธที่ดีให้เราได้

จากคุณ : หมาจรจัด - [23 เม.ย. 45 17:52:13]


ความคิดเห็นที่ 47

การซื้อ W หรือ C ครั้งต่อไปขอให้เลือกที่
อายุยาว
แม่พื้นฐานดี
ถ้าได้ที่ gearing สูง และ premium ติดลบ ยิ่งดี

ชีวิต12ปีที่ผ่านมาคงเครียดมาก เห็นใจอ่ะ

จากคุณ : ....s - [23 เม.ย. 45 19:25:44]


ความคิดเห็นที่ 48

ผมเห็นเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ตื่นเต้น ในตลาดหุ้นย่อมมีผู้แพ้ผู้ชนะปนกันอยู่ ถ้ามีแต่ผู้ชนะอย่างเดียว เป็นไปได้ยังไง
ทุกสมรภูมิมีผู้แพ้ผู้ชนะทั้งนั้น ทำกิจการค้าขายไม่เล่นหุ้น เล่นพนัน ยังล้มละลายได้ เจ้าของกระทู้อยู่ในกลุ่มผู้แพ้ ด้วยกลยุทธที่ผิดพลาด คนที่ชนะตลาดก็มี อย่างผมเวลานี้ยังชนะตลาดอยู่ 50% ผมจะชนะใครเล่า ก็พวกเรากันในนี้แหละที่เสียให้ผมคนละเล็กละน้อย ที่กล่าวมานี้ไม่ใช่ซ้ำเติม แต่มันเป็นความจริง ก็เห็นใจ บางครั้งบางช่วงผมแพ้ตลาดก็มี พวกเราในนี้ก็กินเงินผมไปแล้ว ผมก็ปรับปรุงกลยุทธใหม่ แก้ตัวใหม่ ดังนั้นกลยุทธของแต่ละคนจึงต้องปรับแต่งเรื่อยไปตามภาวะตลาด บางครั้งการนำเอาประสพการณ์ที่ผิดพลาดมาเล่าก็ดีเป็นประโยชน์ต่อสังคม แต่บางครั้งการมาแนะนำให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้ ด้วยความหวังดี กลับถูกโจมตี ด่าทอ ก็มีบ่อยๆ ลองกลับไปอ่านกระทู้เก่าๆดูเถิด

จากคุณ : เห็นสัจจะ - [23 เม.ย. 45 20:59:22]


ความคิดเห็นที่ 49

ตลาดหลักทรัพย์ หรือ ตลาด_ลักทรัพย์
คนที่ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น คือ คนที่ทำอะไรแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ในตลาด และสามารถควบคุมความโลภ และความกลัวได้ดี
จากประสบการณ์การเล่นหุ้นมา 15 ปี พบว่า หลักการเล่นหุ้นให้ได้กำไร ผมจะใช้วิธีเลื่อกหุ้นที่มีพื้นฐานดี ซื้อง่ายขายคล่อง เข้าซื้อตอนที่ราคาหุ้นเปลี่ยนแนวโน้มจากลงเป็นขึ้น (ดูกราฟราคาหุ้นหลายๆ เดือน แล้วลากเส้นแนวโน้มลง เฝ้าติดตามจนกว่าราคาหุ้นจะขึ้นทะลุเส้นแนวโน้มลง จึงเข้าซื้อ) เมื่อซื้อแล้วก็อดทนถือ โดยผมจะกำหนดจุดตัดขาดทุนไว้ด้วย หากราคาหุ้นตกถึงจุดตัดขาดทุนผมจะขายออกทันที หากหุ้นขึ้นผมก็จะถือไว้ไม่ปล่อยออกจนกว่าแนวโน้มหุ้นจะเปลี่ยนจากขึ้นเป็นลง (โดยผมจะใช้วิธีลากเส้นแนวโน้มขึ้น และคอยติดตามดู หากราคาหุ้นหลุดทะลุเส้นแนวโน้มขึ้นก็จะขายออกทำกำไรทันที) แล้วรอหาจังหวะเข้าซื้อในราคาต่ำใหม่ หรือหาหุ้นตัวอื่น ที่น่าสนใจ และเข้าหลักการนี้ต่อไป
หลักการง่ายๆ ในการทำไรจากตลาดหุ้นมีเพียงเท่านี้ครับ
ขอให้ทุกท่านที่รักหุ้น โชคดีทุกคน

จากคุณ : เพื่อนร่วมทาง - [24 เม.ย. 45 09:46:22]


ความคิดเห็นที่ 50

เห็นด้วยกับคห 49 ครับ
ผมก็ใช้กลยุทธเช่นนี้ สำคัญที่สุด ต้องหาบริษัทที่ดีให้ได้ก่อน แล้วค่อยหาจังหวะซื้อและขาย ถึงผิดพลาดอย่างไรก็
ไม่เสียหายมากเพราะเป็นบริษัทดีในตัวเองอยู่แล้ว


จากคุณ : K2 - [24 เม.ย. 45 10:09:12]


ความคิดเห็นที่ 51

เห็นว่าตลาดหุ้นไม่ได้เหมาะกับเจ้าของกระทู้ ควรไปทำอาชีพอื่นจะรุ่งเรืองกว่านี้

ในวงการนี้มีพวกมืออาชีพที่เชี่ยวชาญมากและประสบการณ์สูง มีเงินหนาและรับรู้ข้อมูลจากหลายแหล่ง เวลาฝรั่งไม่อยู่พวกนี้คุมบังเหียนกำหนดทิศทางตลาดได้ และกินเงินของพวกมือสมัครเล่นเสมอๆ


จากคุณ : options - [24 เม.ย. 45 11:54:52]


ความคิดเห็นที่ 52

ความคิดเห็น 49

ดูมีหลักการดี ถ้าตัดสินใจว่า จะเล่นหุ้นแล้ว จะลองนำไปปฏิบัติดู ถ้าได้ผลเป็นบวก(และน่าพอใจ)แล้วจะตามไปขอบคุณนะครับ

จากคุณ : นายหนุนยัน - [24 เม.ย. 45 13:47:57]


ความคิดเห็นที่ 53

อย่าเพิ่งเหมาครับ..ว่าไม่ว่าจะทำอะไร ก็ต้องมีผู้ชนะกับผู้แพ้ เสมอ...
มีอยู่ธุรกิจนึง..ที่มีแต่ผู้ชนะ กับผู้ชนะครับ..คือ..ธุรกิจขายตรง แบบการตลาดหลายชั้น..ให้ไปศึกษาดู..ธุรกิจนี้คือธุรกิจ..ที่ดี..และรวยกันมาก็มาก..ใครๆก็สามารถทำได้..ถ้ามีสมอง และมองเห็น..
แต่ผมว่า..มันคงไม่เหมาะกับพวกคุณๆในนี้..แค่อยากบอกกล่าว..กัน..ก็แค่นั้น
และผมก็สนใจหุ้นเหมือนกัน....

จากคุณ : 500 - [24 เม.ย. 45 15:31:02]


ความคิดเห็นที่ 54

ไม่จริงครับ...พวกขายตรงนั้นผมและเพื่อนอีกหลายๆท่านเคยถูกหลอกและยอมลงทุนด้วยเงินมากๆเพราะหลงเชื่อพวก upline ทำให้เงินจม ขาดทุนกันแบบเป็นลูกโซ่เลยครับ...ขอยืนยัน
และพวกนี้ยังใช้การดึงคนเข้ามากินเป็นลูกโซ่แบบวิธีหลอกกันด้านๆเลย....เช่น พวกใปปลิวประกาศรับสมัครงาน รายได้เสริม 20000 - 100000 บาท/เดือน อะไรทำนองนี้...แท้จริงแล้วจะถูกหลอกให้ไปเข้าอบรม เสียเงินซื้อของ และถูกสอนถึงวิธีการ เทคนิคในการหลอกคนอื่นเข้ามาเป็นเหยื่ออีกเป็นทอดๆต่อไป....คงจะจำกันได้นะครับจากการออกมาแฉเบื้องหลังของพวกขายตรงของเฮอร์บาไลฟ์ อาหารเสริมราคาโหด ในรายการถอดรหัสทาง itv เมื่อเดือนที่แล้ว
ขอเข้าเรื่องหุ้นต่อ....ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับกับเจ้าของกระทู้...คุณเล่นกับหุ้น คุณมิใช่คนที่ลงทุนในหุ้น
คุณจำไว้นะครับว่าตลาดหุ้นนี้มันเปรียบเสมือน Game ล่าสมบัติ
เป็นตลาดที่เต็มไปด้วยเสือ สิงห์ กระทิง แร่ด ทั้งพวกแมงเม่า พวกประสบการณ์สูง พวกรู้ลึก พวกรู้จริง พวกโง่ตามชาวบ้าน ไม่รู้จักพลิกแพลงกลยุทธ์ตามสถานการณ์ คนเหล่านี้จะรวมกันอยู่ในตลาดหุ้นครับ
คุณจะเข้าไปชิงสมบัติกองกลางมาได้จำเป็นต้องมีความรู้และเทคนิคอันดีเยี่ยม อาศัยประสบการณ์จากผู้รู้ จากการลองผิดลองถูกแล้วนำยุทธวิธีที่ได้นั้นมาปรับใช้เป็นของเราเอง...และต้องรู้จักชิงไหวชิงพริบ รู้จักปรับตัว มีวินัยจุดยืนและเป้าหมายที่ชัดเจน......แล้วคุณจะเป็ผู้ชนะในเกมส์ล่าสมบัติในตลาดหุ้นนี้อย่างแน่นอนครับ...ขอให้โชคดี

จากคุณ : pig - [24 เม.ย. 45 18:54:55]


ความคิดเห็นที่ 55

ผมว่านะ

เหมือนเล่นการพนัน เลย นะ
ว่ามั้ย

ประมาณ ผีพนัน อะ

จากคุณ : eig - [25 เม.ย. 45 02:46:25]


ความคิดเห็นที่ 56

ก็ดีครับ

จากคุณ : kritsadapoj - [26 เม.ย. 45 14:43:54]


ความคิดเห็นที่ 57

แฟนก็เล่นหุ้นเหมือนกัน.....เป็นห่วงจ้ง
พึ่งเข้าตลาดก่อนตึกเวลิด์เทรรด์ถลมนี้เอง

จากคุณ : คนห่วงแฟน - [26 เม.ย. 45 17:36:52]


ความคิดเห็นที่ 58

ตลาดหุ้นเป็น ZERO-SUM GAME
คือถ้ามีคนได้ก็ต้องมีคนเสีย และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะอยู่ฝั่งคนที่ได้ และง่ายมากที่จะอยู่ฝั่งคยเสีย
เพราะฉนั้นเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ เช่น
-ความรู้
-ประสบการณ์ (ทั้งของตัวเองและของคนอื่น)
-กลยุทธ์การลงทุน
-การจัดสรรเงิน


จากคุณ : Suparkij - [27 เม.ย. 45 12:51:22]


ความคิดเห็นที่ 59

ตลา่ดไม่ใช่ Zero-Sum Game
Zero-Sum Game หมายถึง คนหนึ่งได้อีกคนเสียซึ่งเมื่อรวมกันจะเป็น 0 พอดี แต่ตลาดหุ้นไม่ใช่นะคะ ลองนึกดูให้ดี ยามตลาดขาขึ้น ส่วนใหญ่ก็จะได้กันหมด
ยามตลาดพัง ส่วนใหญ่ก็จะเสียกันหมดค่ะ รวมกันอย่างไรก็ไม่เป็น 0 อาจเป็น + หรือ - ค่ะ

ยกเว้นพวกตราสารเช่น put option and call option อันนี้ใช่เลย หรือ พวกเล่นไพ่ การพนัน

จากคุณ : AJ - [28 เม.ย. 45 17:29:40]


โดย: หมากเขียว วันที่: 11 สิงหาคม 2548 เวลา:12:20:49 น.  

หมากเขียว
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




สวัสดีครับทุกท่าน...ผมหมากเขียวแห่งสินธร...จาก Head of Prop Trade สู่ Private Trader อิสรภาพที่รอคอย



สงวนลิขสิทธิ์ © พ.ศ.2553 โดย หมากเขียว™ ห้ามลอกเลียน ทำซ้ำ หรือคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความที่เขียนโดยข้าพเจ้านอกจากจะได้รับอนุญาต

Copyright © 2010.All rights reserved. These articles and photos may not be copied, printed or reproduced in any way without prior written permission of Mhakkeaw™.
Friends' blogs
[Add หมากเขียว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.