"แมงเม่าของเมื่อวันวาน คือ เซียนหุ้นของพรุ่งนี้"
Group Blog
 
All Blogs
 
ราคาตลาดตามแรงกรรมแห่งความโลภและความกลัว โดย คลาย เครียด

ผมมีความเห็นว่า
ราคาตลาดของหุ้น ตามแรงกรรมของผลประกอบการ
ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าใครเป็นเจ้ามือ
เพราะความจริงที่น่าเจ็บปวดคือ
ราคาหุ้นในบริเวณนี้ จะไม่มี "เจ้ามือ" ตัวจริงเสียงจริง

ผมมักชอบใช้คำพูดอยู่หนึ่งประโยค

"หุ้นไม่มีสภาพคล่องคอ"

ที่มันไม่คล่องคอ ก็เพราะว่ามันไม่เจ้ามือนั่นเอง
พอมันไม่มีเจ้ามือ ที่จะใส่เงินก้อนยักษ์เข้ามาปั่นหุ้นตัวนั้น
หุ้นก็จะขึ้นลงอยู่ในกรอบบริเวณของ
ราคาตลาด ตามแรงกรรมของผลประกอบการเท่านั้น
ซึ่งในบริเวณนี้ เราดูแค่ปัจจัยพื้นฐานของหุ้น
บวกลบ สภาพคล่องคอ และข่าวดีร้ายจริงตามปัจจุบันก็พอ

ถ้าหุ้นไม่มีความเป็น"ตลาด"
เราแทบไม่ต้องดูอะไรเลย นอกจากดู บีวี เท่านั้น

แต่พอมันเข้า"ตลาด"
ก็เกิดอุปสงค์ อุปทานที่แตกต่างกัน ในหุ้นนั้นๆขึ้น
เงินกับหุ้น จะอยู่สลับต่ำแหน่งกันตลอดเวลา
ยิ่งถ้าหุ้น หลุดเข้าไปเล่นในกรอบ
แรงกรรมแห่งความโลภและความกลัว
เกมล่าส่วนเกินทุน จะมีข่าวดีเกินปัจจุบัน
เป็นตัวทวีคูณ ทำให้ราคาหุ้นขึ้นได้แบบไร้เหตุผล
เพราะปริมาณเงินที่อัดใส่เข้าไป พร้อมกับความโลภของคน
แต่จะมีอยู่กรณีเดียวเท่านั้น ที่หุ้นจะขึ้นได้ไม่สิ้นสุด

"ต้องมีเงินก้อนใหม่ๆ ใส่เข้าไปในหุ้นตัวนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ"

เวลาหุ้นมีสภาพคล่องคอสูง
ลอยอยู่ในกรอบแรงกรรมแห่งความโลภฯ
เงินกับหุ้น จะสลับตำแหน่งกันเร็วมาก
เร็วจนคนที่รวยอย่างแน่นอนที่สุดคือ
คนเก็บค่าต๋ง ฮาๆๆ


ดูภาพประกอบก่อน
เดี๋ยวผมขอออกความเห็นแบบเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่งต่อว่า
บริเวณไหนต้องใช้ความรู้พิเศษ
มารองรับความโลภฯและความกลัวของเราที่มีเพิ่มขึ้น
จากข่าวดี และร้ายเกินปัจจุบัน
และข่าวดีเกินปัจจุบันมีอะไรบ้าง



จากการเดาตามหลักเกินของสำนัก TEMPLE BOXING
หุ้นจะเริ่มหลุดเข้าไปเล่นในกรอบบริเวณ
แรงกรรมแห่งโลภของผู้คนในตลาดก็ต่อเมื่อ

1 มีสภาพคล่องคอเพิ่มหรือมีอยู่แล้วโดยปกติ

สภาพคล่องคอของหุ้นต้องมีมากพอ
ที่รายใหญ่ซึ่งเป็นผู้นำในการทำราคาขึ้นไปสูงมากๆ
จะสามารถขายหุ้นทิ้ง ได้ทุกระดับราคาที่ต้องการ
โดยมีคนเข้ามารับตลอดเส้นทางขาลง
ที่น่ากลัวมากคือ เขาจะขายได้ทุกระดับราคา
โดยไม่ได้สนใจว่ากำไรหรือขาดทุน
ขอเพียงได้กลับมายืนในตำแหน่งเงินสดอีกครั้งเท่านั้น
เพราะมีแต่เงินสดเท่านั้น
ที่สามารถนำไปสร้างตำแหน่ง เพื่อถือครองหุ้นตัวใหม่ๆต่อไป

2 หุ้นตัวนั้นๆ จะขึ้นไปได้เรื่อยๆ

ตามใดที่มีเงินก้อนใหม่ๆใส่เข้าไป
และเงินก้อนเก่าที่ปั่นขึ้นยังไม่ถอนตัวออกมา
จากการเปลี่ยนตำแหน่งยืน จากหุ้นกลับมาเป็นเงิน
ส่วนเงินก้อนใหม่ๆที่ใส่ตามเข้าไปทีหลัง
ก็จะเปลี่ยนตำแหน่งยืน จากเงินเป็นหุ้นโอท็อป ฮาๆๆ

3 มีข่าวดีเกินปัจจุบันเป็นตัวทวีคูณให้ราคามุ่งไปสู่พีบีวีสูงมากๆ

ข่าวดีเกินปัจจุบันได้แก่อะไรบ้าง
สำนักเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่งได้จัดแบ่งออกเป็น 2 ซับสปีชี่คือ

ก. ข่าวดีเกินปัจจุบัน สายสามัญสำนึก

ได้แก่การวิเคราะห์อนาคตของหุ้น
จากแนวโน้มที่มีอยู่ในอดีตและปัจจุบัน
ซึ่งผลประกอบการเริ่มดีขึ้นมากๆ
ข่าวดีเกินปัจจุบันสายสามัญสำนึก
จะใช้ความรู้ทางเศรษฐศาตร์ใส่เข้าไป
ให้ดูเหมือนว่าการขึ้นของหุ้นมีเหตุผล
แต่ไม่ว่าจะวิเคราะห์อย่างไร
ก็จะลงท้ายที่เป้าราคา ที่หุ้นจะไปในอนาคต
เป็นเป้าราคาที่"กูรู้" เชื่อ
หรือแค่ต้องการให้คนอื่นเชื่อว่ามันจะเป็นจริง
ส่วนจะจริงไม่จริง ก็เป็นอีกเรื่อง
แต่ความจริงที่เราพบเห็นในตลาดหุ้นคือ
ตัวเองเชื่อ แทบไม่มีความสำคัญอะไรเลย
ต้องทำให้คนอื่นๆ
ซึ่งถือครองเงินที่มีอำนาจในการซื้อตาม เชื่อเท่านั้น
ราคาหุ้นถึงจะขึ้นไปได้เรื่อยๆ
เป้าราคา จึงก็เป็นแค่ตัวกระตุ้นต่อมความโลภให้พุ่งกระฉูด
เกิดการเล่นเกมล่าส่วนเกินทุนแบบสุดๆ

หุ้นจะขยับขึ้นไปหาเป้าราคาได้ ถ้า

"ทุกคนพากันซื้อ โดยหวังจะไปรอขายให้คนอื่นๆที่เป้าราคา"

แปลกดีนะ
แมลงเม่าหุ้นมักจะไม่ถามตัวเองว่า
ที่เป้าราคา ใครจะเป็นคนซื้อ ฮาๆๆ

ข. ข่าวดีเกินปัจจุบัน สายวิสามัญฆาตกรรม ฮาๆๆๆ

จะมีข่าวดีเกินปัจจุบันอันไหน
ที่เด็ดและทำให้หูตั้งฉากไปกว่า

ข่าววงในทุกระดับพรีเมียรลีก ดิวิสั้นหนึ่ง สอง และสาม
ข่าวปล่อยจากมาร์เก็ตตี้แสนสวย
ข่าวเป้าราคาแบบ เห็นเขาบอกว่า.......

4 ทำไมต้องมีความรู้พิเศษฯให้เหมาะสมกับความโลภฯ

สำนักเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่งมีความเห็นว่า
เมื่อไรที่หุ้นหลุดออกไปจากกรอบราคาตลาดฯตามผลประกอบการ
หุ้นจะกลายเป็นแค่สำรับไพ่
ที่ผู้คนในตลาดหุ้น เห็นพ้องต้องกัน
ที่จะหยิบมันขึ้นมาเล่น
"เกมล่าส่วนเกินทุน" จากเงินที่ทุกคนใส่เข้าไป
ไม่ได้เกี่ยวกับเงินเกินทุนที่จะได้จาก
ผลประกอบการของบริษัท ในรูปของยีลด์แม้แต่น้อย
หุ้นจะไม่มีคำว่าหุ้นดีหรือเน่า
มีแต่หุ้นขึ้นหรือลง
เงินและความโลภเป็นแรงผลักดันสำคัญที่สุด
ที่ทำให้หุ้นขึ้นหรือลงได้อย่างเว่อๆ
ไม่ใช่ผลประกอบการของบริษัทอย่างที่มักจะอ้างกัน
ผลประกอบการ ไม่สามารถชี้นำและรองรับราคาหุ้นแล้ว
ปริมาณเงินที่ถูก
มือที่มองไม่เห็นใส่เข้าไปต่างหาก
เป็นตัวชี้นำราคาหุ้น

5 ความรู้พิเศษที่จำต้องมี เมื่อเล่นหุ้นนอกกรอบที่ตัวเองถนัด

สำนักเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่งจะเน้นย้ำอยู่เสมอว่า

"โลภมาก ต้องรู้ให้มาก
ถ้ารู้ไม่มาก อย่าดันโลภมาก"

ความรู้พิเศษที่ควรมีเมื่อตามเข้าไปเล่นหุ้นในกรอบ
แรงกรรมแห่งความโลภและความกลัว
ถ้าเรียงอันดับของสำคัญที่สุด
ที่จะทำให้เราชนะเกมล่าส่วนเกินทุน
ก็คือ

ก. ความรู้พิเศษเรื่องข่าววงใน

อันนี้สำคัญที่สุด มีความรู้พิเศษอันนี้แค่อันเดียว
ความรู้อันอื่นๆ โยนลงรีไซเคิล บินได้เลย ไม่มีความหมาย
แต่ต้องจำให้ขึ้นใจเลยว่า
จะรับประกันผลการเล่นได้กำไรร้อยเปอร์เซนต์
ต้องเป็นข่าววงในระดับ

พรีเมียร์ลีก และดิวิสั้นหนึ่งเท่านั้น ฮาๆๆๆ

สมมติถ้าผมเป็นเสี่ยเอกภพ
ก่อนเซ็นสัญญาเข้าร่วมแหกกระเป๋าแมลงเม่าหุ้นกับยูทีวี
ผมก็กระซิบบอกแม่ยายกับน้องเมียว่า
อีกไม่นานจะเซ็นแล้ว
คุณแม่ และคุณน้องเมียสุดที่รัก ตุนไว้ซิฮะ
พอพรีเมียร์ลีก และดิวิสั้นหนึ่งตุนหุ้นไว้เพียบแล้ว
ก็ใช้บ๋อยกระจายข่าว
ให้บ๋อยพลีชีพ และบ๋อยรับทิพ
ผลัดกันเล่นราคาหุ้นจากข่าววงในดิวิสั้นสองและสาม ฮาๆๆ

ข. ความรู้พิเศษ จากการประยุกต์ความรู้ทางเทคนิคทั่วไป

เมื่อเราไม่มีความรู้พิเศษเกรดซุปเปอร์เอ
ความรู้พิเศษถัดมา มีเราควรมีก็คือ
เทคนิคพิเศษ รู้เฉพาะคนหมู่น้อยๆ
เช่นกราฟที่มีการต่อยอด จิตวิทยามวลชนเฉพาะตลาดหุ้น ฯลฯ
ถ้าทุกคนในตลาด รู้แค่เท็คนิคทั่วไป
แล้วรวยหุ้นจากกรอบบริเวณแรงกรรมแห่งความโลภฯได้
ป่านนี้รายย่อยรายจุกจิก กลายเป็นรายใหญ่ไปหมดแล้ว
แต่ความจริงก็คือ
เท็คนิคที่คนทั่วๆไปรู้กันดี

"จะไม่สามารถจะเอาชนะเกมล่าส่วนเกินทุนแบบยั่งยืน"

ถ้าไม่มีการต่อยอดออกไปใช้เฉพาะตัว
พ่อเลี้ยงเอวี่ คงไม่มีทางตั้งสำนักเผ่นพันลี้
ถ้ารู้แท่งเทียนเขียวแดง แค่งูๆปลาๆ ฮาๆๆๆ

ค. ความรู้จักควบคุมความโลภของตัวเอง

หลักเกินของสำนักเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่งมีว่า
ถ้าเราไม่มีความรู้พิเศษข้อ ก และ ข
ความรู้พิเศษที่เราจำเป็นต้องมีให้ได้ก็คือ
ความรู้จักควบคุมความโลภของตัวเองให้ดีๆ
ผมในฐานะของผู้ร่วมก่อตั้งสำนัก ฮาๆๆๆ
ขอกระซิบบอกความจริงว่า
ผมไม่มีความรู้พิเศษ ข้อ ก และ ข เลยคร๊าบ
ดังนั้นก็เลยต้องใช้ความรู้พิเศษข้อ ค. เข้าสู้

ผมจะไม่ตามไปซื้อหุ้นที่หลุดกรอบ
แรงกรรมของผลประกอบการไปมากๆ
นั่งน้ำลายหกได้เป็นปีๆ ดีกว่าน้ำตาตกชั่วข้ามวัน
เพราะตัดขายขาดทุนไม่เป็น
นั่นคือการไม่เปลี่ยนจุดอ่อนของเรา
ให้กลายเป็นจุดตาย
และถ้าตราบใดที่หุ้นผมซื้อ ยังยืนอยู่ในกรอบ
ราคาตลาด ตามแรงกรรมของผลประกอบการ
ผมจะถือหุ้นตัวนั้น กินปันผลเป็นน้ำจิ้มไปเรื่อยๆ
เมื่อไรก็ตาม มีเจ้ามืออัดเงินก้อนยักษ์เข้ามาปั่น
ก็จะทะยอยขาย โดยการทำคลายเครียดเรโช
เอาเงินตัวเองขึ้นมาก่อน
เอาเงินคนอื่นตามไปเล่น
ทำไมมันง่ายๆ และดูโง่ๆ ยังงี้วะ
ก็เหมือนที่พระพยอมเคยเทศน์ไว้
เลิกสูบบุหรี่ง่ายนิดเดียว อ้าปากไว้ ก็เลิกสูบได้แล้ว
วิธีง่ายและโง่แบบนั้น
ทำไมคนติดบุหรี่ส่วนใหญ่ทำไม่ได้ ฮาๆๆ


Create Date : 05 สิงหาคม 2548
Last Update : 5 สิงหาคม 2548 15:59:52 น. 0 comments
Counter : 1313 Pageviews.

หมากเขียว
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




สวัสดีครับทุกท่าน...ผมหมากเขียวแห่งสินธร...จาก Head of Prop Trade สู่ Private Trader อิสรภาพที่รอคอย



สงวนลิขสิทธิ์ © พ.ศ.2553 โดย หมากเขียว™ ห้ามลอกเลียน ทำซ้ำ หรือคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความที่เขียนโดยข้าพเจ้านอกจากจะได้รับอนุญาต

Copyright © 2010.All rights reserved. These articles and photos may not be copied, printed or reproduced in any way without prior written permission of Mhakkeaw™.
Friends' blogs
[Add หมากเขียว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.