ตอน 6 Ciudad de las Artes y las Ciencias Valencia, Spain
ส่องสเปนวันที่ 15 the City of Art and Science
วันนี้ทั้งวันจะยกให้ เมืองแห่งศิลปะและวิทยาศาสตร์ ที่เที่ยวใหม่ล่าสุดของบาเลนเซีย ตั้งอยู่บนบริเวณที่เคยเป็นปากแม่น้ำTuria ปัจจุบันถมทำเป็นสวนสาธารณะ อาคารส่วนใหญ่ของ Ciudad de las Artes y las Ciencias เป็นผลงานออกแบบของ Santiago Calatrava สถาปนิกชาวบาเลนเซีย ผู้สร้างชื่อเสียงใ้ห้ตัวเองหลังจากออกแบบ Calatrava Communication Tower ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกส์ 92 ที่บาร์เซโลนา โครงการนี้เริ่มตั้งแต่ปี 1996 และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อต้นศตวรรษใหม่นี้เอง
Ciudad de las Artes y las Ciencias สร้างบนพื้นที่ทั้งหมด 350,000 ตร.ไมล์ ประกอบด้วยอาคาร 4 หลังที่ล้วนเป็นสถาปัตยกรรมล้ำยุค ส่วนของพิพิธภัณฑ์ทางทะเลจะแยกออกไปในพื้นที่ต่างหาก แต่เดินถึงกัน
3. - Museo Las Ciencias Príncipe Felipe เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในสเปน ตัวอาคารยาว 220 เมตร กว้าง 80 เมตร สูง 55 เมตร มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ 42,000 ตร.เมตร พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งนี้มีผู้มาเยือนแล้ว 18 ล้านคนนับตั้งแต่เปิดอย่างเป็นทางการ นิทรรศการถาวรที่เรียกว่า Science on Stage จัดแบบ interactive ให้ผู้เข้าชมไ้ด้จับต้อง และทดลองโมดูลวิทยาศาตร์ต่างๆ ตอนที่เราไปเห็นยกเรือใบ (หลายลำ) เข้าไปจัดแสดงข้างใน ด้านหลังอาคารที่หันไปทางสวนสาธารณะเป็นโครงผนังกระจกสูง ในช่วงนี้ภายนอกอาคารยังจัดซุ้มนิทรรศการ Americas Cup ให้เข้าชมเพื่อโปรโมทมหกรรมแข่งเืรือใบที่จะเริ่มต้นในเร็วๆนี้
4. - Palau de les Arts Reina Sofía คอนเสิร์ตฮอลหน้าตาเหมือนแมลงปีกแข็งขนาดยักษ์ (เราว่าเหมือนปลากบกำลังสะบัดเบ็ดบนหัวพร้อมงาบเหยื่อ ไม่ก็ฉลามกำลังอ้าปากมากกว่า) เปลือกนอกของอาคารกรุกระเบื้องสีขาวมันวาว ภายในมีคอนเสิร์ตฮอลใหญ่ 4 ห้อง จุผู้ชมได้ทั้งหมด 4,400 คน ใหญ่เป็นรองแค่ Sydney Opera House เพียงที่เดียว (รูปแรกสุดยืมมาค่ะ มุมสวยกว่าและกว้างกว่ากล้องปัญญาอ่อนของเรา)
[ซ้าย] Hostal Venecia ที่พักของเรา มองจาก Plaza del Ayuntamiento [กลาง] ศาลากลาง ใครเป็นแฟนทีมฟุตบอลบาเลนเซียคงจำระเบียงหน้าตึกได้ดี ทีมชูถ้วยเฮกับแฟนๆจากบนนั้นตอนฉลองแชมป์เมื่อหลายปีก่อน [ขวา] Estación del Norte สถานีรถไฟ
น้ำพุและอาคารรอบ Plaza del Ayuntamiento
[ซ้าย] Valencia Bus Turistic ที่นำเราชมรอบเมือง [ขวา] ถนนในเขตเมืองเก่าจะเล็ก มีต้นไม้สองข้างทาง
[ซ้าย] Gran Via Fernando Catolico ถนนสายใหญ่สายแรกในเขตเมืองใหม่ [ขวา] Torres de Quart สร้างในศตวรรษที่ 15 ป้อมนี้หันไปทิศต.ต.ทางมาดริด รูที่เห็นบนผนังป้อม ไกด์บอกเป็นรอยกระสุนปืนจากสงครามตั้งแต่สมัยนโปเลียน
[ซ้าย] วงเวียน Porta de la Mar หรือประตูสู่ทะเล [ขวา] สนามสู้วัวกระทิงอยู่ข้างสถานีรถไฟ
[ซ้าย] ลวดลายตกแต่งหน้าตึกโบราณ [ขวา] Torres de Serranos ป้อมประตูเมืองหันไปทิศต.อ. ทางยุโรป
[ซ้าย] อาคารเก่าใหม่อยู่เคียงข้างกันได้ไม่ขัดเขิน [ขวา] Plaza de la Reina จุดเริ่มต้นของบัส ตูริสติค มีสนง.ท่องเที่ยวย่อย คาเฟ่ ร้านค้า คึกคักตลอดกลางวันกลางคืน
[ซ้าย] La Miguelete หอระฆังของโบสถ์ Conjunto [ขวา] หอระฆังของโบสถ์ Santa Catalina ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน
Plaza de la Reina ยามเย็นใกล้โพล้เพล้ก่อนนั่งรถชมเมืองรอบค่ำ วนกลับมาก็ได้เห็นบรรยากาศยามค่ำ ยังคึกคักแม้จะ 5 ทุ่มกว่า
วันรุ่งขึ้น วางแผน walking tour ในเขตเมืองเก่าแล้วมุดเมโทรไปเมสตาญา (แต่กลายเป็นเดินเพลินจนถึงสนาม เชิญชมภาพเมสตาญาพร้อมสนามฟุตบอลดังอื่นๆที่ไปมาค่ะ) ข้อมูลอสท.บาเลนเซียโอ่ว่าบาเลนเซียเป็นเมืองศิลปะรองจากบาร์เซโลนา มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Museu Pio V) ใหญ่เป็นที่สองรองจาก El Prado สะสมผลงานของจิตรกรสำคัญหลายคนของสเปนและของบาเลนเซียกว่า 2 พันชิ้น เปิดให้เข้าชมฟรี และมีทีมฟุตบอลเก่งที่สุดเป็นอันดับสามของประเทศ (ข้อมูลสุดท้ายอ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ดาวิด บิญา)
เขตเมืองเก่าได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี ถนนสายหลักค่อนข้างกว้าง แต่ถนนใน Barrio del Carmen ย่านเก่าแก่ที่สุดในเขตเมืองเก่าจะเล็กแคบ ตรอกซอกซอยเป็นทางปูอิฐซ่อกแซ่ก ตัดกันไปมา วกวนเป็นเขาวงกต เดินดูตึกโบราณเพลิน ไม่คอยสังเกตทาง มีสิทธิ์หลงเอาง่ายๆ ถนนเกือบทุกสายในเขตเมืองเก่าจะดิ่งมาจบที่จัตตุรัสอะไรสักอย่างเหมือนเมืองเก่าทั่วไปในยุโรป เขตเมืองใหม่จะล้อมรอบเขตเมืองเก่าเป็นดาวล้อมเดือน มีอาคารสูงทันสมัย กระจายออกไปถึงบริเวณชายทะเลที่อยู่ไม่ไกล นั่งรถก็ราว 20 นาที หรือจะนั่งเมโทรไปก็ได้ สุดสายก็โผล่หัวจากใต้ดิน เดินอีกนิดก็ถึงชายหาด เมืองมีระบบขนส่งมวลชนที่เดินทางสะดวกสบายรวดเร็ว จุดท่องเที่ยวในเขตเมืองใหม่ที่ดังที่สุดในขณะนี้คงเป็นกลุ่มอาคารล้ำสมัยไฮเทคที่เรียกว่า เมืองแห่งศิลปะและวิทยาศาสตร์ (Ciudad de las Artes y las Ciencias หรือ the City of Arts and Sciences) พรุ่งนี้จะไปเที่ยวที่นี่ ขอยกยอดไปเล่าวันพรุ่งนี้
[ซ้าย] ประตูโบสถ์ Conjunto [กลาง] ประตูอีกด้าน [ขวา] เมื่อเดินอ้อมไปด้านหลังจะเป็นอีกพลาซ่า (Plaza de la Virgen) เดินถึงกันได้ พลาซ่านี้มีโบสถ์ Neustra Seňora de los Desamparados ซึ่งมีรูปปั้น the Virgin (นักบุญประจำเมืองบาเลนเซีย) แฟนทีมฟุตบอลบาเลนเซียก็จะรู้จักโบสถ์นี้อีกนั่นแระ ทีมจะมาที่โบสถ์นี้เพื่อสักการะ the Virgin แต่เราโชคไม่ดี เข้าไปเห็นแต่ผ้าคลุมแท่นพิธีเพราะกำลังซ่อมแซมรูปปั้น
ประตูทางเข้าโบสถ์ Seňora de los Desamparados และ Plaza de la Virgen
[ซ้ายและกลาง] บรรยากาศใน Barrio del Carmen ถนนโบราณที่รถ (เล็ก) วิ่งเข้าไปได้ ทางรถและทางคนเดินเรียบเสมอกัน แค่คั่นด้วยแผงเหล็กเป็นช่วงๆ [ขวา] หอนาฬิกาของ Mercado Central หรือตลาดกลาง สถาปัตยกรรมโมเดิร์นิสต้าอีกแห่ง สร้างในปี 1928 ในสมัยโบราณพ่อแม่ที่ลูกมากยากจนจะพาลูกมายังหอนาฬิกานี้ หลอกให้เด็กเงยหน้ามองนาฬิกา พอลูกหันกลับมาพ่อแม่ก็หายไปแล้ว สมัยนั้นเด็กจรจัดคงเยอะเลยนิ แต่ไกด์บอกสมัยนี้ไม่ทำกันแล้ว
ค่อยๆกระเดิบตามขั้นบันไดชันลงมายืนบนพื้นดินแล้ว [ซ้าย] ตึก Banco de Valencia [กลาง] อนุเสาวรีย์กษัตริย์ Jaime I, the Conqueror ผู้ปลดปล่อยบาเลนเซียจากชาวมัวร์ ตั้งอยู่กลาง Plaza Alfonso el Magnánimo [ซ้าย] ต้นไม้อายุหลายร้อยปี คนสเปนไม่ตัดต้นไม้เอาเลย จะตัดเท่าที่จำเป็นจริงๆ แต่ละเมืองจะมีต้นไม้อายุหลายร้อยปีให้เห็นเป็นปกติ คนชาตินี้เลยจัดสวนเก่งไปโดยปริยาย
คอลเลคชั่นสะพาน นี่คือ Puente del Mar สร้างในศตวรรษที่ 20 แต่ใช้หินกำแพงเก่าจากศตวรรษที่ 13