ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บบอร์ด Thailand Aquatic Pets เว็บบล็อคสำหรับ คนรักสัตว์น้ำ ( และ สัตว์ที่อยู่ในน้ำ ) ประเทศไทยจ้า

รวม 14 วิธีดูแลแมวเปอร์เซีย

15 วิธีดูแลแมวเปอร์เซีย

          แมวเปอร์เซียนั้นได้ชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมไปทั่วโลก ด้วยความที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องรูปร่าง หน้าตา ที่ชวนให้ใครๆ หลงรักได้ง่ายๆ  ด้วยนิสัยที่ร่าเริง และขี้ประจบ ทำให้มัดใจเจ้านายได้อยู่หมัด แต่ในการด้านเลี้ยงดูแล้ว แมวพันธุ์นี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงควรเรียนรู้ที่จะดูแลอย่างถูกวิธี เพื่อให้เจ้าเหมียวอยู่กับเราได้นาน ๆ อย่างมีความสุข... ว่าแล้วก็ไปดูวิธีดูแลแมวเปอร์เซียกันเลย

1. หมั่นแปรงขนเป็นประจำ
         จุดเด่นของแมวเปอร์เซียนั้นอยู่ที่ขนนุ่มยาวของมัน ที่ทำให้แมวเปอร์เซียดูสง่าหรูหรามากกว่าพันธุ์ไหน ๆ จนเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมาย เราจึงควรดูแลขนของมันให้ดูนุ่มสลวยอยู่เสมอ ด้วยการใช้หวีแปรงขนให้แมวของคุณ อย่างน้อยวันละ 15 นาที นอกจากนี้ ควรเน้นในจุดที่น้องแมวของคุณไม่สามารถเอื้อมไปเลียขนไม่ถึง เป็นพิเศษด้วย เช่น ที่คอ ขา และหาง
2. อย่าปล่อยให้แมวอ้วนจนเกินไป
           แม้ว่าแมวอ้วนกลมจะดูน่ารักน่าเอ็นดูก็เถอะ แต่เราก็ไม่ควรปล่อยให้อ้วนจนเกินไป เพราะมันจะไม่ดีกับสุขภาพร่างกายของเจ้าเหมียวแน่ ๆ แต่ถ้าหากเผลอตามใจจน "เสียแมว" ไปแล้วล่ะก็ ยังไม่สายที่คุณจะจับเขามาเข้าคอร์สไดเอทด้วยการเลือกอาหารลดน้ำหนักสำหรับแมวโดยเฉพาะ หรือปรับลดเนื้อสัตว์ เพิ่มผักทีละน้อย และเพิ่มขึ้นในทุก ๆ มื้อจนกว่าเจ้าเหมียวจะคุ้นชิน ซึ่งแรก ๆ สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณอาจจะไม่ปลื้ม และกินอาหารได้น้อยลง แต่นั่นล่ะ คือผลลัพธ์สู่หุ่นสวยสุขภาพดี ดังนั้น จงอย่าใจอ่อนเลยเชียวล่ะ อย่างไรก็ตาม แมวแต่ละตัวอาจมีสภาพร่างกายที่ต่างกัน เพราะฉะนั้น ควรปรึกษาสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิด
3. อาบน้ำบ่อย ๆ
          การที่แมวของเรามีเนื้อตัวสกปรก นอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพของมันแล้ว ยังกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคในบ้านอีกด้วย เราจึงควรรักษาความสะอาดของมันอยู่เสมอ ด้วยการอาบน้ำให้แมวอย่างน้อยเดือนละครั้ง ทั้งนี้ หากแมวของคุณออกไปนอกบ้าน หรือมีเหตุให้ต้องคลุกคลีกับสิ่งสกปรกอยู่บ่อย ๆ ก็ควรอาบนำให้บ่อยขึ้น ประมาณอาทิตย์ละครั้ง
4. ดูแลรอบดวงตาของมันด้วย
          เพราะรูปหน้าที่เชิดรั้นเข้าคู่กับแก้มป่อง ๆ ของแมวเปอร์เซีย ทำให้มันต้องประสบปัญหาจากคราบน้ำตา และขี้ตาที่เกาะติดรอบตาจนยากจะเอาออกอยู่เสมอ การดูแลรอบตาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และละเลยเสียไม่ได้ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลรอบตาแมวโดยเฉพาะมาเช็ดตามรอบตาของมัน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกหาซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้ ก็สามารถนำกระดาษทิชชู่ชุบน้ำอุ่นมาเช็ดตามรอบตาของเจ้าเหมียวของคุณได้เช่นกัน
5. ไม่ควรปล่อยแมวออกไปข้างนอกบ่อยนัก
         แม้แมวส่วนใหญ่จะชอบออกไปผญภัยนอกบ้าน แต่แมวเปอร์เซียนั้นกลับต่างออกไป เพราะขนยาว ๆ ของมันจะทำให้มันรู้สึกอบอ้าวขึ้นมาอีก ถ้าต้องเจอกับสภาพอากาศร้อน ๆ ภายนอก และมันก็ไม่ใช่แมวที่ขยันสำรวจหาสิ่งใหม่ ๆ นัก ยิ่งไปกว่านั้น ขนของมันยังไปเกี่ยวพันกับสิ่งสกปรกได้ง่ายกว่าแมวทั่ว ๆ ไปอีกด้วย มันจึงเหมาะกับการเลี้ยงในบ้านมากกว่า
6. รับมือกับโรคถุงน้ำที่ไต
          แมวเปอร์เซียประมาณ 36 - 49 % มักจะเป็นโรคถุงน้ำที่ไตซึ่งทำให้มันสูญเสียความสามารถในการกรองสารพิษออกจากร่างกาย โดยจะเริ่มแสดงอาการตั้งแต่ช่วงอายุ 3 - 10 ปี ซึ่งมันจะมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด อาเจียน เซื่องซึม และกระหายน้ำมากจนผิดสังเกต อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีวิธีรักษาโรคดังกล่าวนี้ให้หายขาด เพราะฉะนั้น หากแมวของคุณมีอาการดังกล่าว ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อปรึกษาหาวิธีดูแล และจัดเรื่องอาหารให้มันอย่างถูกวิธี
7. อย่าปล่อยให้แมวของคุณขี้เกียจจนเกินไป 
           แมวเปอร์เซีย มักมีอุปนิสัยขี้เกียจกว่าแมวทั่วไป และพร้อมจะนอนอยู่เฉย ๆ ได้ทั้งวันโดยไม่รู้จักเบื่อ เราจึงควรหากิจกรรมใหม่ ๆ มาเรียกร้องความสนใจอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้มันใช้ชีวิตเอื่อยเฉื่อยจนตัวอ้วนกลมเกินไป อาจจะหาซื้อของเล่นใหม่ ๆ เช่น ลูกบอล หรือไม้แหย่แมว มาคอยดึงความสนใจของมันก็ได้
8. ให้อาหารแต่พอเหมาะ
          ควรให้อาหารในจำนวนที่พอดีเพื่อไม่ให้แมวของคุณทานมากจนเกินไป นอกจากนี้ หากแมวของคุณมีอาการผิดปกติหลังกินอาหาร เช่น ท้องเสีย หรืออาเจียน ก็ควรพาไปพบสัตวแพทย์ เพราะมันอาจมีอาการไม่ถูกกับอาหารบางชนิดก็ได้  ฉะนั้นควรปรึกษาสัตวแพทย์ดูให้ดีว่าแมวของคุณเหมาะกับอาหารแบบไหน
9. รับมือกับปัญหาขนร่วง
          แน่นอนว่าแมวเปอร์เซียที่มีขนยาวเป็นพิเศษนั้น มักมีขนร่วงจำนวนมาก จนยากที่จะคอยดูแลเก็บทิ้งตลอดเวลา บรรดาเจ้าของแมวทั้งหลายจึงเลือกที่จะพยายามทำให้แมวของตนมีขนร่วงลดลงให้มากที่สุด ด้วยการให้ทานอาหารสำเร็จรูปสูตรที่ทำให้ขนหลุดร่วงลดลงแทน อย่างไรก็ตาม นอกจากวิธีดังกล่าวแล้ว คุณสามารถเลือกใช้วิธีอื่นได้อีกเช่นกัน ด้วยการให้แมวของคุณทานต้นกล้าอ่อนข้าวสาลีเป็นประจำ ทั้งนี้ ต้องมั่นใจได้ว่า ต้นกล้าอ่อนข้าวสาลีที่คุณนำมาให้แมวของคุณทานนั้นปลอดสารพิษ เพื่อให้ไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพของแมว
10. สังเกตปัญหาเรื่องการหายใจ
       เนื่องจากแมวเปอร์เซีย มีโพรงจมูกที่ค่อนข้างสั้น จึงทำให้มันต้องประสบปัญหาในการหายใจอยู่เสมอ และในกรณีที่เป็นหนักเข้า แมวบางตัวอาจจำเป็นต้องให้สัตวแพทย์ช่วยผ่าตัดแก้ไข เพื่อให้หายใจได้สะดวก ดังนั้นคุณจึงควรสังเกตพฤติกรรมของมันอยู่เสมอ หากแมวของคุณส่งเสียงทางจมูกบ่อย ๆ หรือมีอาการกรนดังผิดปกติ ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
11. ทำความสะอาดหูเป็นประจำ
        แน่นอนว่าแมวของคุณไม่สามารถทำความสะอาดหูด้วยตัวเองได้ เจ้าของอย่างคุณจึงจำเป็นต้องเป็นคนคอยจัดการดูแลให้มันอยู่เสมอ ด้วยการใช้กระดาษทิชชู่ หรือผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดให้มัน ทั้งนี้ หูของแมวนั้นเป็นส่วนที่อ่อนไหวมาก คุณจึงควรพยายามทำความสะอาดให้เบามือที่สุด และใช้เวลาให้น้อยที่สุดด้วย
12. อย่าละเลยเวลาที่มันอ้อน
        แม้บางครั้งคุณจะยุ่งกับชีวิตทำงาน และครอบครัวมากจนแทบไม่มีเวลา ก็ควรแบ่งเวลาไว้ดูแลแมวของคุณด้วย เพราะมันก็ชรู้สึกน้อยใจได้เหมือนกันเวลาที่เจ้าของไม่สนใจ ดังนั้นเวลาที่มันอ้อนด้วยการคลอเคลียเอาใจ ก็ควรหันไปเล่นกับมันบ้าง เพื่อให้เขาไม่รู้สึกว่าคุณไม่ใส่ใจมันเท่าที่ควร จำไว้ว่าไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็ต้องการความรัก และการเอาใจใส่ด้วยกันทั้งนั้น
13. ตัดแต่งขนให้ดูดีอยู่เสมอ
        หากต้องการให้แมวของคุณดูสวยโดดเด่นอยู่เสมอ ก็ควรหมั่นพาไปตัดขนที่ร้านเป็นประจำ เพื่อให้ช่างสามารถใช้ลูกเล่น ซอยไล่ระดับขนให้ออกมาดูเป็นประกายสวยงามได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณเบื่อกับการตัดขนแบบเดิม ๆ อาจขอให้ช่างตัดทรงอื่น ๆ ให้กับแมวของคุณด้วยทรงต่าง ๆ เช่น ทรงสิงโตที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ก็ได้
14. ดูแลฟันให้สะอาด
ฟันของสัตว์เลี้ยงมักเป็นสิ่งที่เจ้าของละเลยที่จะสนใจอยู่เสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การดูแลสุขภาพปากของสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว เพราะถ้าหากเกิดการติดเชื้อในช่องปากขึ้นแล้ว อาจนำมาซึ่งโรคร้ายสารพัด และทำให้แมวของคุณอายุสั้นลงได้อีกหลายปี เราจึงควรดูแลฟันของแมวที่เรารักให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยการใช้แปรงสีฟันขนาดเล็กแปรงให้มันเป็นประจำ
       เพียงแค่ทำตามวิธีดูแลนี้ แมวเปอร์เซียของคุณก็สามารถอยู่กับคุณได้นานหลายปีโดยมีสุขภาพที่ดีได้แล้ว เพราะฉะนั้น คนรักแมวทั้งหลายอย่าลืมนำเทคนิคการดูแลนี้ไปใช้กับเจ้าเหมียวที่บ้านกันนะจ๊ะ
ซ้ำขออภัยค่ะ  
ที่มา: 108health



Create Date : 08 ธันวาคม 2556
Last Update : 8 ธันวาคม 2556 11:08:23 น. 0 comments
Counter : 1546 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เหมียวกุ่ย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




ยินดีต้อนรับพี่ๆน้องๆทุกท่านเข้าเยี่ยมชม เว็บบล็อคแห่งนี้ หวังว่าทุกท่านจะมีความสุขในการชมบล็อคของกระผมนะครับ










View My Stats
New Comments
[Add เหมียวกุ่ย's blog to your web]