อยู่เพือเรียนรู้ และไปให้ถึงที่สุด

Group Blog
 
All blogs
 
สุขภาพกาย-ใจ

อาหารเพื่อผิวสวย

ขั้นตอนและเคล็ดลับความงามอย่างหนึ่งของผู้หญิงเรานั้นก็คงต้องรู้จักวิธีการกินที่ถูกต้องสักหน่อย เพราะถ้ากินไม่ถูกต้องแล้วสาวๆ หลายต่อหลายคนอาจจะต้องปวดร้าวเพราะการกินนี้แหละ และถ้าคุณรู้จักกินเพื่อบำรุงร่างกายและผิวพรรณด้วยแล้ว ก็ถือว่าได้ประโยชน์อย่างสูงสุด ซึ่งอาหารเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้คุณสวยได้จากข้างในทีเดียวละ อาหารเหล่านี้ได้แก่...

ข้าวสาลี : มีสรรพคุณช่วยลบรอยเหี่ยวย่นได้ ข้าวสาลีที่กำลังออกรวงอ่อนๆ จะเป็นระยะที่เมล็ดข้าวอุดมไปด้วยวิตามิน เอ บี อีและเอฟ และมีสารคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงทำให้ผู้ผลิตเครื่องสำอางบางชนิด นิยมใช้น้ำมันจากข้าวสาลีผสมในเครื่องสำอางประเภทที่ใช้สำหรับลบรอยเหี่ยวย่น และบำรุงผิวพรรณ

แปะก๊วย : ว่ากันว่าใบของต้นแปะก๊วยนั้นสามารถนำมาสกัดใช้ทำเครื่องสำอางได้ เหตุเพราะมีฤทธิ์กระตุ้นให้บริเวณที่ทาสารสกัดนี้มีเลือดมาเลี้ยงมากขึ้น ทำให้เซลล์ได้รับอาหารและอ๊อกซิเจนมากขึ้น จึงช่วยให้เซลส์แข็งแรง ผิวพรรณจะดูสดใส ปราศจากริ้วรอยเหี่ยวย่น มีเครื่องสำอางหลายชนิดที่ใช้กับใบหน้าแลผิวกาย แม้กระทั่งผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นให้ผมดก ก็ยังต้องใช้ส่วนผสมของใบแปะก๊วย

โสม : เรารู้จักกันในรูปแบบของเครื่องดื่มเป็นส่วนมาก แต่สำหรับชาวจีนเกาหลีและญี่ปุ่น แล้วนิยมใช้โสมในการบำรุงร่างกายมาแต่ครั้งโบราณ สำหรับในสมัยปัจจุบันแล้ว โสมมีบทบาทมาก เพราะมีการสกัดโสมมาทำเครื่องสำอาง เพื่อเอื้อประโยชน์ในการบำรุงผิว และรักษาผิวได้เป็นอย่างดี เพราะโสมที่สกัดแล้วสามารถกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลส์เก่าได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็ทำให้ผิวพรรณสดใส และมีความชุ่มชื้นมากขึ้น

เมล็ดงา : น้ำมันที่ได้จากการสกัดเมล็ดงานั้นช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวและนำมาผสมกับเครื่องสำอางอย่างในลิปสติกเป็นต้น แม้แต่เครื่องสำอางที่ใช้บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์สำหรับปรับสภาพเส้นผม

ปัญหาผมร่วง

สาเหตุหลักที่ทำให้ผมร่วง

ได้รับสารเคมีบ่อยๆ เป็นประจำ เช่น น้ำยาดัดผม, สเปรย์, คลอรีนที่อยู่ในน้ำ ใช้ยาสระผม และครีมนวดผม ที่ไม่ถูกกับหนังศรีษะ
เกิดจากความเครียด ติดยาเสพติด, ติดบุหรี่
เป็นโรคร้าย เช่น มะเร็ง ขาดสารอาหาร โดยเฉพาะโปรตีนจากสัตว์
ภาวะหลังคลอดบุตร ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ไม่ต้องตกใจ ผมที่ร่วงหลุดไป จะมีการสร้างขึ้นมาใหม่อีก

การป้องกันไม่ให้ผมร่วง

เลือกรับประทานอาหารและของที่มีประโยชน์กับเส้นผม เช่น ธัญพืช, ข้าวกล้อง, งาดำ, เมล็ดทานตะวัน, ฟักทอง
ควรนวดหนังศรีษะเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพื่อบำรุงรากผมบ้าง
ควรทำความสะอาดผมอย่างสม่ำเสมอ ควรใส่ครีมบำรุงผม ทุกครั้งที่สระผม
ควรรับประทานแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อรากผม เช่น Biotin ซึ่งมีคนรับประทานเยอะมาก และส่วนมากอาการผมบางจะดีขึ้น มีการสร้างผมใหม่ขึ้นมาทดแทน, Zine ซึ่งเป็นแร่ธาตุ

เทคนิคดูแลผม

ผมมัน
คุณต้องสระผมบ่อยๆ แต่ไม่ต้องใช้ครีมนวดมาก หรือไม่ต้องใช้เลยได้ก็ดี แต่บางคนติดที่จะ
ใช้ก็ควรใช้แต่น้อย ไม่ต้องนวดหนังศีรษะมากนักเพราะการนวดจะเป็นการกระตุ้นต่อมไขมันให้
ผลิตน้ำมันออกมา ทำให้ผมมันเหนอะหนะเร็วขึ้น

ผมแห้ง
ต้องบำรุงด้วยครีมนวดหลังสระ ไม่ควรไว้ผมให้ยาวมาก แต่หากชอบไว้ผมยาว ควรหมั่น
เล็มผมที่แห้งแตกปลายสม่ำเสมอ และไม่ควรดัดหรือไดร์บ่อยนักเพราะน้ำยาดัดและความร้อน
จะทำให้ผมของคุณแห้งกร้านมาก


ผมร่วง
อาการผมร่วงอาจเกิดจากขาดสารอาหารบางอย่างหรือเกิดจากความเครียด หรือไม่ก็มีความ
ผิดปกติในเซลล์หนังศีรษะ ถ้าร่วงมากจนผิดปกติ ควรให้แพทย์ดูแลรักษาดีกว่าหายามาใช้เอง

ผมแตกปลาย
เกิดจากผมที่แห้ง หรือการไว้ผมยาวเกินกว่าที่น้ำมันจากรากผมจะส่งมาหล่อเลี้ยงถึง ฉะนั้น
คุณควรเล็มปลายผม

เคล็ดลับคงความอ่อนเยาว์ให้ดวงตาดูสวยสดใส

- ควรตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกๆ 2 - 4 ปี แต่สำหรับผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไปแล้ว ควรจะตรวจให้บ่อยขึ้นคือทุกๆ 1 - 2 ปี
- สำหรับผู้ที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นประจำ ควรเริ่มฝึกนิสัยในการพักสายตา โดยการมองออกไปไกลๆ ทุกๆ 10 - 15 นาที
- ควรสวมแว่นตาดำที่สามารถปกป้องและกรองแสงยูวีได้ ทุกครั้งที่ต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีแดดจัดจ้า
- ปกป้องและระวังไม่ให้ดวงตาสัมผัสกับควันและฝุ่นละอองต่างๆโดยตรง


อาหารเสริมเพื่อดวงตาสดใส

- รับประทานผัก ผลไม้ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Anti Oxidant) ในปริมาณสูง เช่น ผลบลูเบอร์รี่ ผักใบเขียว และแครอท ซึ่งจะช่วยลดอันตรายจากอนุมูลอิสระในแสงแดดที่ทำลายจอตา และช่วยลดปัญหาตาบอดจากจอประสาทตาเสื่อมได้ อีกทั้งช่วยให้สายตาทำงานดีขึ้นในที่มืด และมีความไวในที่แสงน้อยๆดีกว่า

- รับประทานผักที่มีสารลูทีน (Lutien) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่ง มีสีเหลือง พบมากในพืชผักที่มีสีเหลืองและสีเขียวเข้ม เช่น ผลอะโวคาโด บร็อคโคลี่ ข้าวโพด ฟักทอง ผักโขม และผักกวางตุ้ง เหล่านี้ล้วนเป็นสารธรรมชาติที่พบมากในตาบริเวณจุดรับภาพและจอประสาทตา ทำหน้าที่ช่วยกรอง หรือป้องกันรังสีจากแสงแดด ช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตา ไม่ให้ถูกทำลาย โดยการต้านอนุมูลอิสระพร้อมทั้งกรองแสงสีน้ำเงินที่จะทำลายดวงตา

- รับประทานสารสกัดของโอเมก้า 3 หรือรับประทานปลาชนิดต่างๆ

เคล็ดลับการนวดกดจุดเพื่อผ่อนคลายบริเวณรอบดวงตา

1. ใช้ปลายนิ้วชี้ กลาง และนาง ยืดคิ้วออกทางด้านข้าง 3 ครั้ง
2. ใช้นิ้วกลางของทั้งสองข้าง หมุนวนรอบดวงตาพร้อมๆกัน ในลักษณะวนตามเข็มนาฬิกา และแต่ละครั้งให้หยุดกดที่บริเวณหัวคิ้ว ทำแบบนี้ซ้ำทั้งหมด 60 รอบ
3. ใช้นิ้วกลางกดจุดไล่ตั้งแต่หัวคิ้วไปถึงขมับ 3 รอบ
4. กดจุดไล่ลงมาที่บริเวณใต้ตา ไล่ตั้งแต่หัวตาไปถึงหางตา 3 รอบ
5. ใช้นิ้วกลางนวดที่บริเวณขมับ หมุนเป็นรูปเลขแปด ทำซ้ำทั้งหมด 6 รอบ
6. ทำซ้ำข้อ 2 - 5 ทั้งหมด 3 รอบ
7. นำมือทั้งสองข้างปิดที่ดวงตา โดยลากน้ำหนักลงที่ปลายนิ้ว ออกไปที่ด้านข้างกรอบหน้า แล้วจึงค่อยๆ ยกฝ่ามือออกจากใบหน้า


Create Date : 16 กันยายน 2550
Last Update : 7 พฤษภาคม 2551 12:31:04 น. 0 comments
Counter : 437 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เภสัช
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เภสัชจุฬ่า รุ่น 57
ออนไลน์ขณะนี้
Friends' blogs
[Add เภสัช's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.