มองให้เห็นหลายมุม แต่ไม่ลืมมุมที่มองไม่เห็น
Group Blog
 
All Blogs
 
เขาทำเพื่อตัวเอง หรือเพื่อประเทศชาติ ????

คนไทยจะฆ่ากัน ประเทศชาติที่มีวิกฤตเศรษฐกิจโลกรุมอยู่จะฉิบหายยังไงก็ไม่สน
เพราะตัวเองอยู่ต่างประเทศ
แล้วก็มาปลุกระดมให้คนในประเทศเกลียดชังกันเอง


เป็นการทำเพื่อตัวเอง หรือเพื่อประเทศชาติ ????


อดีตที่ผ่านมาก็เห็นอยู่แล้วว่าคน ๆ นี้ ไม่เคยแสดงความมีอุดมการณ์อะไร ใครมีประโยชน์ให้ก็พร้อมจะจูบปากทุกคน เพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนตัว
ไม่เคยเลือกว่าจะคบแต่คนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน หรือไม่
ไม่เคยเลือกว่าคนที่คบเป็นคนดีมีคุณธรรมหรือไม่
ไม่เคยเลือกวิธีการ ว่าสะอาดหรือสกปรก เพื่อให้บรรลุในสิ่งที่ตัวองต้องการ

คิดว่าคน ๆ นี้ ทำอะไรเพื่อชาติ หรือเพื่อตนเอง???


Create Date : 04 เมษายน 2552
Last Update : 4 เมษายน 2552 10:36:36 น. 11 comments
Counter : 594 Pageviews.

 
ชัวร์ว่าเพื่อตัวเอง
ก็ดูข้อเรียกร้องสิ บอกว่าให้ยกเลิกคดีทั้งหมด แล้วนับ1 ใหม่
ขอโทษเถอะแล้วถ้านักโทษทุกคนที่อยู่ในคุกขอแบบนี้บ้างพวกเราจะยอมมั้ย (ถ้ามีนท.ฆ่าข่มขื่นลูกเมียแกขอแกแบบนี้แกจะยอมมั้ย)
มันพูดเอาแต่ได้ ไอ้พวก 101ด้วย รวมไอ้พวกใหม่ที่มีบรรหารด้วย เห็นแก่ตัวเองทั้งนั้น
โดยเฉพาะบรรหาร อยากกลับมาเล่นการเมืองจนตัวสั่น
แก่จะตายอยู่แล้วไม่รู้จะตายวันตายพรุ่งยังหลงใหล
ในลาภยศสรรเสริญกันอยู่นั่นล่ะ
คอยดูเถอะลองเงินทักษิณหมดลิเดียก็จะเมิน
ไอ้พวกหัวขาด ก็จะทำเป็นไม่รู้จัก วันนั้นจะสมน้ำหน้าแก
อยากแต่งหนังสือชื่อว่า คนอื่นเรียกอดีตนายก แต่เราเรียกว่าไอ้คนจัญไร ไอ้นรกแตก ไอ้เจ้าเมืองลิเก


โดย: hhh IP: 125.24.64.78 วันที่: 4 เมษายน 2552 เวลา:13:28:01 น.  

 
แน่นอนครับ ทำเพื่อตัวเองแน่นอน ไอ้พวกเสื้อแดงทั้งหลายเห็นแก่เงินเล็กๆน้อยๆของมัน ส่วนไอ้พวกที่มาชุมนุมด้วยใจจริงๆ ไม่ได้รับเงินมาก็ไม่รู้สมองทำด้วยอะไร แค่นี้ยังดูไม่ออกอีก เฮ้อ.....

ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครองประเทศไทยครับ


โดย: PaTueng วันที่: 4 เมษายน 2552 เวลา:15:49:30 น.  

 
ป่วยการเมืองอยู่ค่ะตอนนี้ แทบจะไม่เปิดทีวีดูเลยเซ็ง


โดย: คุณนายทหารเรือ วันที่: 4 เมษายน 2552 เวลา:17:47:40 น.  

 
รักกันนะครับอย่าไปเชื่อแรงยุของใครครับ
เราต้องรักกัน รักประเทศ และ รักนายหลวงนะครับ
อย่าแตกแยกเพราะผลประโยชน์ของนักการเมืองเลย


โดย: รัก IP: 115.67.213.88 วันที่: 5 เมษายน 2552 เวลา:22:22:30 น.  

 
ผมเจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้างใหญ่ที่มีชื่อเสียงในเชียงใหม่ ที่คุณบอกว่าเสื้อแดงรับจ้างมา เห็นแก่เงินเล็กๆน้อยๆ ขอโทษครับ ระดับผมแล้วมีแต่ไปร่วมสมทบทุนค่าเดินทางค่าใช้จ่ายในกับกลุ่มที่รักประชาธิปไตย โปรดกรุณาอย่าคิดเองว่าคนอื่นเขาโง่


โดย: เอ IP: 118.172.102.167 วันที่: 6 เมษายน 2552 เวลา:12:36:41 น.  

 
รักกันนะคับ ผลกรรมตามสนองเขาแล้ว

แต่คนมีเงินก็ยังดันทุรังไปต่ออีกนิสนุงเพื่อให้หมดทรัพย์

แต่เชื่อว่าการดังทุรังนี้แหละคือไฟที่จะเผาผลาญคนคิดร้ายกับประเทศไปตลอดกาล

Photobucket


โดย: hiansoon วันที่: 7 เมษายน 2552 เวลา:15:08:26 น.  

 
ผมก็ไม่ได้เงินซักบาท
แต่ยอมโอนเงินหลักพันไปช่วยนะครับ

คนจนบางคนเค้าไม่มีเงินอ่ะ
แต่เค้าก็อยากมาร่วม
เราก็ต้องช่วยเค้าสิ

ต่อสู้กันสักครังครับ
ปลดแอกอมาตยา...



โดย: peeradol33189 วันที่: 7 เมษายน 2552 เวลา:16:34:46 น.  

 
เกร็ดเล็กน้อยของนายกสุดหล่อ

หล่อและดี มีที่อภิสิทธิ์


อ้ะแน่นอน ตรูเปนแม่ยกอภิสิทธิ์
นายกคนใหม่ที่ลูกหาบของไอ้หน้าเหลี่ยมกำลังดีดดิ้นทุกวัน
ด้วยว่า อดรน ทนเห็นนายกคนใหม่มาเบียดยังตำแหน่งบิดาไม่ได้
อย่าหวังว่าจะมาเปนนายกฯ เล๊ย
ให้กระเสือกกระสนหนีคุกให้รอดเท๊อะ ----- กรั่กๆ (สะใจว่ะค่ะ)


คนอะไรก็ไม่รู้ เปนผู้ดีในสายเลือดแต่อ้อนแต่ออก
ไม่ใช่เหลี่ยมผู้กระเหี้ยนกระหือรือ อยากได้อยากมี โลภจนหน้ามืด (และหน้าเหลี่ยม)


ประวัติไม่มีด่างพร้อยว๊อย
อย่าสาระแนเอาเรื่องเกณฑ์ทหารมาเปนประเด็น
จงเคาะกะโหลกหนา แล้วย้อนกลับไปสำเหนียกว่า เคลียร์ประเด็นนี้ไปนานแล้ว


ตั้งแต่พักรบ ปิดเทอม มหาวิทยาลัยราชดำเนิน นี่มีความสุข
นอนตีพุง ทำงานประจำ แล้วก็ดูเห็บหมาอย่างสีแดงดีดดิ้นทุกวัน
วันนี้ก็พล่านไปป่วนที่นี่
วันนั้นก็ไปป่วนที่นั่น
(ไปรักษากฏหมาย กติกา ประชาธิปไตย แบบพ่อมัน)


สีแดงเอ้ย ว่าแต่เขาอิเหนาเปนเอง -- ถรุย...


อ้ะ หันมาดูนายกสุดหล่อและดีต่อดีกว่า
มีความสุขวุ๊ย...



- - -


27 เรื่องเล็กๆ แต่น่ารู้ ของนายกฯ คนที่ 27 อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ


1.Birthday
นายกฯ คนใหม่ของเรา เกิดวันที่ 3 สิงหาคม 2507 เมืองนิวคาสเซิ่ล ประเทศอังกฤษ

2.Rock Never Die
เห็นนายกฯ ท่าทางสุภาพๆ เนี้ยบๆ แบบนี้ แต่เขาชอบฟังเพลง Rock เป็นชีวิตจิตใจ เขาชอบจังหวะและความหนักแน่นของเนื้อเพลง วงดนตรีที่ชอบคือ R.E.M. และถือว่าเป็นสาวกเพลงร็อคฉบับแฟนพันธุ์แท้ ทุกครั้งที่มีการแสดงคอนเสิร์ตร็อคในประเทศไทย หนุ่มมาร์คจะต้องหาโอกาสไปโยกทุกครั้ง
เล่ากันว่าเวลาหนุ่มมาร์คนั่งอยู่ในรถ มักจะหยิบวอล์คแมนขึ้นมาฟังเพลงร็อคพร้อมกับโยกตัวเองไปตามบทเพลงแทบทุก ครั้ง (ถ้าเพลงไทย เขาชอบเพลงเพื่อชีวิต)

3.ใจข้ามีแต่สาริกาดง
กีฬาสุดโปรดของนายกฯ ร้อนๆ คนนี้ คือฟุตบอล อาจถึงขั้นฟุตบอลลิซึ่ม และอย่างที่เราๆ รู้ สาริกาดง-นิวคาสเซิ่ล คือทีมที่นั่งอยู่ในหัวใจหนุ่มมาร์ค (ไม่แน่ หนุ่มมาร์คอาจทำให้บอลไทยไปบอลโลกก็ได้ใครจะรู้)

4.ไทย
ถึงแม้หนุ่มมาร์คจะเกิดและไปร่ำเรียนที่เมืองนอกเป็นเวลาหลายสิบปี แต่เขาไม่นิยมการพูดไทยคำอังกฤษคำ เรียกได้ว่าเขาเป็นคนที่มีความอนุรักษนิยมในภาษาไทยมากคนหนึ่ง แม้แต่กระทั่งตัวเลขเขายังเขียนเป็นตัวเลขไทยทุกครั้ง

5.นายไข่เจียว
อาหารจานโปรดของนายกฯ มาร์ค...ไม่ใช่หูฉลาม แต่เป็นข้าวไข่เจียว

6.แตงโม
อาหารที่ไม่ชอบทานคือ 'แตงโม' ไม่รู้ว่าแพ้ทางของภรรยาที่ชื่อ 'แตงโม' หรือเปล่า

7.ต้องโค้กสิ
เครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้คือ โค้ก นายกฯ มาร์คดื่มทุกเย็น

8.Family Man
ฯพณฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ชื่อว่าเป็นคนที่เกรงใจภรรยาแบบสุดๆ (ใครจะตีความเป็นอย่างอื่นก็สุดแท้แต่) ที่สำคัญรักครอบครัวมาก ทุกเช้าเขาจะต้องนั่งรถไปส่งลูกๆ ที่โรงเรียนเป็นประจำทุกวัน ยกเว้นวันที่มีประชุมตอนเช้าเท่านั้นที่เขาจะไม่ได้ไปส่งเอง

9.นายกฯ หนุ่ม
มีคนเข้าใจว่า โอบามาร์คเป็นนายกฯ ที่หนุ่มที่สุดที่ประเทศไทยเคยมี แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ นายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดคือ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ซึ่งขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ ในปี 2488 ด้วยอายุเพียง 40 ปี
อีกคนหนึ่งคือจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกฯ ในปี 2481 ตอนอายุ 41 ปี
แต่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ ในปี 2551 ตอนอายุ 44 ปี

10.ตัวเล็ก-ปมด้อยที่ทำให้เขาพ้นอันตราย
ครั้งหนึ่ง สมัยที่เขาศึกษาระดับชั้นมัธยมที่อีตัน ด้วยเครื่องแบบของโรงเรียนที่เหมือนชุดมายากล และทางโรงเรียนจะกำชับกำชาว่าถ้าจะข้ามไปฝั่งวินเซอร์ ห้ามใส่ชุดมายากล แต่วันนั้นด้วยความเฮี้ยวตามประสาเด็กหนุ่ม เขาข้ามกำแพงไปแถวนั้น ซึ่งคนแถวนั้นเขาไม่ชอบคนเอเชีย ด้วยความซวยปรากฏว่าหนุ่มมาร์คไปเจอพวกเหยียดผิวเข้า แต่ด้วยความที่เป็นคนตัวเล็กจึงช่วยให้เขาสามารถวิ่งหนีได้รวดเร็ว ก่อนที่จะถูกทำร้าย

11.โรคประจำตัว
หนุ่มมาร์คมีโรคเก๊าต์เป็นโรคประจำตัว

12.เด็กเรียน
นายกฯ อภิสิทธิ์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแบรนด์ดังอย่างออกฟอร์ด และเป็นคนไทยคนที่ 3 ที่ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 จากที่นี่ จบปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ก็ที่ออกฟอร์ด
นอกจากนี้ เขายังมีใบปริญญาตรีและได้รับดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขานิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

13.ทหารอภิสิทธิ์
หลังจากจบปริญญาตรีจากออกฟอร์ด หนุ่มมาร์คก็ไปเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เขาชะโงก จังหวัดนครนายก อยู่เกือบ 2 ปี จนได้รับพระราชทานยศเป็น ร้อยตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

14.ญาติ
งามพรรณ เวชชาชีวะ นักเขียนรางวัลซีไรต์ ปี 2549 จากเรื่อง ‘ความสุขของกะทิ’ คือพี่สาวของนายกฯ มาร์ค
สุรนันท์ เวชชาชีวะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร คือลูกพี่ลูกน้องของนายกฯ มาร์ค สุรนันท์เป็นลูกของ นิสสัย เวชชาชีวะ อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของ ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ พ่อของนายกฯ มาร์ค

15.บรรพบุรุษ
ต้นตระกูลของนายกฯ มาร์คเป็นชาวจีนที่เดินทางจากจีนโพ้นทะเลมาขึ้นฝั่งที่จันทบุรี

16.เวชชาชีวะ
นามสกุล ‘เวชชาชีวะ’ เป็นนามสกุลพระราชทานสมัย รัชกาลที่ 6 ลำดับที่ 4,881 จากนามสกุลพระราชทานทั้งหมด 6,423 นามสกุล
เหตุที่มีคำว่า ‘เวช’ ก็เพราะมีต้นตระกูลเป็นหมอนั่นเอง

17.ผู้ชายอารมณ์ดี
ภายนอกหลายคนอาจมองหนุ่มมาร์คว่าเป็นคนเคร่งขรึม จริงจังกับชีวิต แต่อีกมุมหนึ่งของหนุ่มคนนี้ เขาเป็นคนอารมณ์ดีคนหนึ่ง ชนิดที่ว่าเวลาถูกสัมภาษณ์ เขาจะตอบไป หัวเราะไปเกือบทุกคำถาม มีคนเคยสัมภาษณ์หนุ่มมาร์คว่า อาจารย์เป็นคนชอบอ่านหนังสือ แล้วมีปัญหาเรื่องสายตาหรือไม่ เขาตอบกลับมาทันทีว่าสายตาผมไม่สั้น และก็ไม่ยาวด้วย
หรือเมื่อถูกถามว่า ‘แล้วคิดว่าเรื่องอะไรที่คุณคิดว่ามีพรสวรรค์’
เขาตอบว่า ‘เรื่องอะไรบ้างเหรอ...เอาเป็นว่าเรื่องศิลปะนี่ไม่มีเลยแล้วกัน’ ...ว่าแล้วก็หัวเราะ
คนถามซักไซ้ต่อว่า ‘อ่อนวาดเขียน?’
เขาตอบว่า ‘พูดว่าอ่อนนี่ยังให้เครดิตมากไป ผมวาดอะไรในโลกนี้ไม่ได้เลยสักอย่าง’ ...หัวเราะอีกตามเคย

18.ยุง สัตว์ที่ไม่ชอบคือ ยุง เพราะถูกกัดนิดเดียวก็จะบวมเป็นอาทิตย์

19.รับโทรศัพท์
เล่ากันว่าหนุ่มมาร์คเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงเพียงไม่กี่คนที่ รับโทรศัพท์ด้วยตนเองโดยไม่ต้องผ่านเลขาฯ ส่วนตัว (แต่หลังจากนี้...ไม่แน่)

20.พอเพียง
หนุ่มมาร์คได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองที่ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงคนหนึ่ง นาฬิกาข้อมือเรือนหนึ่ง เขาจะใส่นานกว่า 10 ปี เรียกว่าจนกว่าจะพังกันไปข้าง

21.Game
เกมที่ชอบเล่น-โซโดคุ (Sodoku)

22.จุดเริ่มต้นทางการเมือง
หนุ่มมาร์คลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรกในนามพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2535 ในเขต 6 กรุงเทพมหานคร ตอนนั้นเขาอายุแค่ 27 ปี และก็ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่ครั้งแรก กลายเป็น ส.ส. ที่มีอายุน้อยที่สุดในขณะนั้น และยังเป็น ส.ส. กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์เพียงคนเดียวท่ามกลางกระแส ‘จำลองฟีเวอร์’ ในตอนนั้น

23.เพศที่สาม
หนุ่มมาร์คเคยให้สัมภาษณ์ที่หนึ่งและตอบคำถามที่ว่า ถ้ามีคนเพศที่สามมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เขาจะรับไหม เขาตอบทันทีทันใดว่า ‘รับ เราคงไม่ปฏิเสธใครด้วยเหตุผลนี้หรอก’

24.เพลงหากิน
เวลาหนุ่มมาร์คถูกเชิญให้ขึ้นร้องเพลงบนเวที เพลงของพงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ และพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ จะเป็นเพลงที่เขาใช้หากินเป็นประจำ

25.กิจวัตรยามเช้า
สิ่งแรกที่หนุ่มมาร์คทำตอนตื่นขึ้นมาในยามเช้าคือการชงกาแฟ เปล่า, เขาเป็นคนไม่ทานกาแฟ แต่เขาชงให้ภรรยา...
(ภายหลังจากเข้าร่วมพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา นางพิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ ภริยานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในช่วงสั้นๆ ว่า "รู้สึกดีใจกับนายอภิสิทธิ์ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และรู้สึกภูมิใจ แต่ก็รู้สึกหนักใจแทนเพราะทราบว่าปัญหาประเทศชาติกำลังลำบากอยู่ ซึ่งแม้จะมีเวลาให้ครอบครัวน้อยลง ก็ขอให้นายกรัฐมนตรีทำงานอย่างเต็มที่"
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้คำปรึกษาอะไรกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ภริยานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ปกติก็พูดคุยกันเป็นประจำอยู่แล้ว หากมีอะไรจะคุยก็คุยกันได้เหมือนเดิม แต่คงต้องให้กำลังใจเพิ่มขึ้น"
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ามีเคล็ดลับอะไรในการดูแลนายกรัฐมนตรีคนนี้ นางพิมพ์เพ็ญกล่าวว่า "คงไม่มีเคล็ดลับอะไร นอกจากคอยให้กำลังใจ ส่วนตัวเองก็ยังคงทำงานเหมือนเดิม สอนหนังสือที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตามปกติ" พิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ ภริยานายกฯ หมาดๆ เปิดใจต่อสื่อมวลชน)

***นางพิมพ์เพ็ญ รู้จักกับนายอภิสิทธิ์ สมัยเป็นเพื่อนนักเรียนชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งคู่สมรสกันเมื่อปี พ.ศ. 2531 มีบุตร 2 คน คือ ปราง เวชชาชีวะ (บุตรสาว) กับ ปัณณสิทธิ์ เวชชาชีวะ (บุตรชาย)

26.ของสะสม
ซีดีเพลง

27.แหวนหมั้นของยายเนียม
ในการแถลงหลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 หนุ่มมาร์คก็เริ่มหาเสียงจากคนอีสานทันทีด้วยเรื่องราวของ ‘แหวนหมั้นของยายเนียม’ เป็นแหวนที่ ยายเนียม พันธุ์มณี วัย 84 ปีเคยให้กับหนุ่มมาร์คไว้เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2550 ขณะที่ไปช่วยหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดอุบลราชธานี เขต 1 ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยระหว่างที่นั่งทานข้าวร่วมกันอยู่นั้น ยายเนียมก็ถอดแหวนที่ใส่ติดตัวมาตั้งแต่อายุ 20 ปี ให้กับหนุ่มมาร์ค
“และสำหรับพี่น้องชาวอีสานครับ 16-17 ปี บนถนนการเมือง ผมไปเยี่ยมเยียนท่านหลายครั้ง ได้รับรู้ปัญหา ความทุกข์ ความยากจนของทุกๆ ท่าน และไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ได้ร่วมปั้นข้าวเหนียวข้างเถียงนา ที่สนทนากันที่ไร่มันสำปะหลัง ผมไม่ลืม และที่ผมอดที่จะเอ่ยถึงไม่ได้ คือ คุณยายเนียม ที่ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ที่ครั้งสุดท้ายที่ผมได้ไปรณรงค์หาเสียงนั้น ท่านมอบแหวนวงนี้ให้กับผม และบอกผมว่า ยายหมั้นคุณอภิสิทธิ์ให้กับคนอีสานแล้ว ผมไม่ทราบว่า คุณยายเนียม กำลังดู หรือฟังสิ่งที่ผมพูดอยู่หรือไม่ แต่อยากบอกกับคุณยาย ว่า วันนี้ คนที่รับแหวนจากท่าน จะทำงานให้ท่าน ทำงานให้กับญาติพี่น้องของท่าน ทำงานให้กับชาวอีสานของท่าน และคนไทยร่วมชาติกับท่านอย่างเสมอภาค ด้วยความทุ่มเทและด้วยความซื่อสัตย์สุจริต” ส่วนหนึ่งจากคำแถลงของ นายกฯ อภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2551
ล่าสุด ยายเนียมบอกว่าจะเตรียมสีข้าวกับหาปลาช่อนตัวโตๆ รอเลี้ยงรับขวัญนายกฯ คนใหม่ หากหนุ่มมาร์คกลับไปเยี่ยม





โดย: xiuxiu (ไปอ่านมา ชอบมากมายค่ะ) IP: 124.120.150.175 วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:10:50:43 น.  

 
ทำไมต้องทำให้วุ่นวายกันไปหมด


เห็นแก่พระทัย ของในหลวงบ้าง

พระองค์ ผู้สืบทอดราชวงศ์จักรี เป็นผู้ก่อตั้งสถาบันต่างๆขึ้นมา

ร.5 ไปเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตย มาเพื่อให้คนไทยมีความคิด สิทธิเสรีภาพ

แต่ไม่ได้ให้ใช้อย่างไร้ความคิดและถูกใครจูงจมูก

หนูไม่ได้เป็นเสื้ออะไรเช่นกัน

แต่หนู ไม่อยากเห็นในหลวงทรงเสียพระทัย และประชวรหนักกว่าเดิม



พระปรมาภิไธยของในหลวง มีใครเคยให้ความเคารพบ้าง?

ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการเมือง ท่านต้องออกมาทุกครั้ง คิดว่าพระองค์ไม่เหนื่อยงั้นหรือ?


สิ่งที่คนไทยควรสำนึกคือ คุณทำอะไรอยู่ ถ้าได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง แต่นี่มันเสียและเสียมานานแล้ว

หยุดต่อสู้ หันหน้าหากัน

แล้วรับรู้สักทีเถิดว่า ไม่มีใครอยากให้ประเทศยับย่อย นอกซะจากว่า คนผู้นั้นได้ผลประโยชน์


หนูเกลียดทักษิณ หนูไม่ชอบเสื้อแดง เสื้อเหลือง

หนูอยากให้ประเทศสงบ ให้รัฐบาลช่วยพยุงประเทศที่ระส่ำระส่ายนี้ไปได้ก่อน ถ้าปัญหาอื่นๆทุเลาลง

คุณๆจะก่อม๊อบก่อปัญหาการเมือง ขึ้นมาตอนนั้นก็ว่าไป

นี่ประเทศแทบจะต้องอับอายทั้งที่เราไม่ได้เป็นส่วรร่วมสร้าง ดังบรรพบุรุษหรือ ราชวงศ์ที่ผ่านมา

เรามีหน้าที่ร่วมกันรักษา....รักษาประเทศ ไม่ใช่ รักษา ตนเอง....



ป.ล. ถ้าเสื้อแดงไปพัทยา หนูว่า ประเทศไทยคงแย่

เพราะนี่คือการประชุมผู้นำอาเซียน เค้าเคยคิดกันมั่งไหมว่า

ถ้าทำเยี่ยงนี้ ในภาวะนี้ แล้ว ประเทศเรา มีอะไรเหลือ

ยิ่งกว่าแอฟริกาใต้เสียอีก

..........

รัก และ สงสาร ในหลวง

พอ เถอะ ค่ะ


โดย: ซิ่ว IP: 124.120.150.175 วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:11:03:19 น.  

 
10 เหตุผลที่ควารไว้ทุกข์ให้กับการเมือง

1. “ไทย” หมายถึงเสรีภาพ, เอกภาพ และภารดรภาพ แต่วันนี้ดูเหมือนจะมีให้เลือกแค่ระหว่างปิดสนามบินแล้วไม่มีงานทำ กับปิดถนนแล้วไปทำงานไม่ได้... เท่านั้นเองรึ!!??
2. ตอนเด็กๆ ชอบใส่เสื้อสีเหลือง เพราะมันแจ่มดี, ชอบใส่เสื้อสีแดง เพราะแม่บอกว่าจะถูกจะแพงก็แดงเข้าไว้ลูก เดี๋ยวนี้เหรอ... ใส่สีดำเถอะ... ปลอดภัย
3. เอกราช กับประชาธิปไตยแปลว่าอะไรเหรอ... เริ่มจำความหมายไม่ได้แล้วล่ะ คิดเหมือนกันว่าถ้าบ้านเราเคยเป็นเมืองขึ้นกะเค้าบ้างก็คงดี จะได้รู้ค่าว่าการมีสิทธิได้แสดงความคิดเห็นน่ะ มีความหมายแค่ไหน
4. อยากย้อนเวลาไปเล่าให้บรรพบุรุษที่เลือดอาบแผ่นดินเพื่อเอกราชของลูกหลานจัง ว่าดินผืนนี้กำลังทำให้ลูกหลานนองเลือด แย่งชิงกันเอง ท่านบรรพบุรุษคงจะอยากรักษาชีวิตไว้ เพื่ออยู่อบรมเราๆ ท่านๆ เนอะ
5. ผู้นำที่ดีที่ที่สุด คือผู้นำที่ประชาชนในประเทศอดอยากไม่มีจะกิน แต่ผู้นำสามารถทดลองขีปนาวุธระยะไกลได้ไม่รู้กี่ครั้ง.. ไม่เห็นคนบ้านเค้าจะประท้วงกันเลย.. อยากได้แบบนั้นไหมล่ะ!!??
6. เคยเห็นผัวเมียข้างบ้านเค้าทะเลาะกันทุกวี่วัน ลูกเต้าร้องกระจองอแง เอาแต่ทะเลาะ ไม่สนใจลูก เงินจะไปโรงเรียนก็ไม่มี ลูกคงจะอยากเรียนจบปริญญา, ไม่ติดยา, ไม่ฆ่าตัวตายหรอกนะ พอสู้ลูกข้างบ้านที่พ่อแม่ขยันทำมาหากิน มีเวลาอบรมสั่งสอนลูกเยี่ยงบุพการีที่ดีไม่ได้ ถ้าลูกเค้าจบดอกเตอร์ก็อย่าไปอิจฉาเค้าละกัน แต่พึงสังเวชตัวเองเถอะ
7. เหมือนผู้คนจะลืมไปแล้ว ว่าทำนาผลผลิตก็เพื่อส่งออก เลี้ยงปลา เลี้ยงกุ้งก็ส่งออก ต่อไปก็กินแต่กุ้งกับปลาละกัน เพราะฝรั่งมังค่า คงจะเข็ดไม่กล้ามาซื้อกันแล้ว ป่านนี้ข้างบ้านคงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ไม่กลับมาบ้านเราแล้ว!!
8. คุ้มไหม ที่คนสองคนมีความเห็นไม่ตรงกัน อีกคนก็ไม่เคยมีตัวตน อีกคนก็มาแต่ภาพกับเสียง เพียงแต่พวกเราเองรึเปล่าจ๊ะ ที่แบ่งพัก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย.. ทำกันไปเพื่อใคร.. เหนื่อยกันบ้างไหมเนี่ย...
9. เพิ่งจะเคยสงสารทหารกับตำรวจนี่แหละ ต่อไปเค้าคงจะตกงาน บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป จะสีอะไร วุนวายเดือดร้อนแต่ไหนก็ทำได้แค่อำนวยความสะดวก (แต่ไม่ใช่กันประชาชนที่หาเช้ากินค่ำนะจ๊ะ.. เพราะตอนนี้ลำบากมาก!!)
10. ถ้าสีของชาติ กับสีของกษัตริย์มารวมเป็นธง “ไทย” ผืนเดียวกันไม่ได้ ก็รีบกลับบ้านไปตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินจะดีกว่าไหม.. อีกไม่กี่เดือนลูกหลานท่านที่กำลังจะเรียนจบ จะตกงานอีกเป็นแสน เป็นล้าน ส่วนที่มีงานอยู่ก็ยังต้องเกาะเก้าอี้กันเหนียวเลยละท่าน!!??



โดย: EvilPim IP: 203.146.130.2 วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:12:51:10 น.  

 
ถ้านักการเมือง สุจริต จริงๆ
บ้านเมืองเราก้าวหน้าไปไกลแล้วค่ะ

มีแต่นักการเมือง หวังผลทางการเมืองทั้งนั้น


โดย: Jeab (rayasuree2526 ) วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:0:58:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หลายมิติ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




คนเราบางคน เป็นคนหลายคน ได้ในคน ๆ เดียว
คนเราหลายคน กลายเป็นคน ๆ เดียวกันได้กับคนอีกหลายคน
คนเราบางคน เป็นเหมือนคนหลายคน ที่ไม่เหมือนคนอีกหลายคน
Friends' blogs
[Add หลายมิติ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.