|
เปลือย...ใจ ใส่บันทึก บทที่ 66 - 70
บทที่ 66 ความสุขกับความดีเหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ อยู่ที่การกระทำ |
พฤษภาคม อากาศค่อยคลายตัวลงมาหน่อย ที่ห้องสมุดคนเริ่มหนาตาขึ้น แสงสว่างจ้าจากภายนอกอาคาร แต่ สลัวกว่าภายใน คุณไม่ได้มาที่นี่เสียนาน ทางเดินแคบ ๆ ให้แสงสว่างโดยไฟห้อยอยู่ที่ปลายทาง เสียงก้าวเดินของคุณสะท้อนจากพื้นตะแกรงเหล็กยังกับเสียงในห้องขัง เจ้าหน้าที่บรรณารักษ์กำลังเก็บหนังสือคืนเข้าที่เหลือบขึ้นมามองทางคุณด้วยสายตาตำหนิจากชั้นล่าง คุณเพิ่งนึกได้ว่าไม่ควรที่จะใส่กระโปรงสั้นเข้ามาในห้องสมุดเก่าแก่แห่งนี้ แต่มันก็สายไปเสียแล้ว ความห่างของพื้นตะแกรงเหล็กทำให้คนข้างล่างสามารถมองขึ้นมาเห็นอะไรที่ไม่สมควรได้ เพื่อให้คุณได้ความรู้สึกอีโรติคบ้าง คุณกล้าที่จะไม่ได้ใส่กางเกงชั้นในมาด้วย แต่ทันใดคุณก็รู้ผิดขึ้นมาอย่างหนัก โดยเฉพาะเมื่ออยู่ที่นี่ เวลานี้ ขณะที่คุณกำลังคิดอยู่ว่าคุณอาจจะได้เจอกับแกเบรียลโดยบังเอิญก็ได้ คุณพยายามที่จะสลัดความครอบงำต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่คุณอยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความครอบงำเหล่านั้น เค้าคงไม่ได้อยู่ที่นี่ คุณเพียงแค่อยากจะคุยด้วย จะได้ไม่ต้องหนักใจอยู่อย่างนี้ ขณะที่คุณเดินแผ่นตะแกรงกระทบกันส่งเสียงน่ารำคาญ คุณเกลียดความต้องการของตัวเองที่ไม่ยอมลดลาแบบนี้ คุณนั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่งสองมือจับขอบโต๊ะไว้แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ตั้งใจว่าจะจดจ่อกับงานของคุณดีกว่า คุณจะต้องทำให้ได้ คุณต้องการให้ชีวิตมีสิ่งยึดมั่น แล้วบางอย่างก็มาถึงคุณอย่างสวยงามสมยอมเหมือนกับได้สร้อยคอเส้นที่คุณอยากได้มานานแต่ไม่เคยหยิบมาใส่ แถมด้วยสร้อยลูกปัดอีกเส้น คุณจะเขียนโต้ตอบหนังสือลึกลับจากศตวรรษที่สิบเจ็ดเล่มนั้น คุณจะเขียนหนังสือเล่มนี้อย่างลับ ๆ เหมือนกับที่เธอทำ ทำไมคุณจะทำบ้างไม่ได้ล่ะ มันจะเป็นการเขียนแก้ต่าง หรือว่าไม่ ใช่ซิ ใช่แล้ว ต้องเขียนแก้ คุณเลียริมฝีปาก ล้วงมือเข้าไปหยิบสมุดจดออกมา และภายในบ่ายวันนั้นคุณหลุดลอยลึกเข้าไปในความสงบ จดจ่อกับงานของคุณ คุณเขียนออกมาได้สามหัวข้อด้วยกัน อะไรที่คุณจำได้ดีที่สุดจากผู้ชายทั้งหมดที่คุณเคยนอนด้วย มันเกิดขึ้นได้อย่างไร และ อะไรเป็นสิ่งชักนำ
บทที่ 67 ฟูกขนนกย่อมนอนสบายกว่านอนเสื่อเป็นแน่ แต่ว่ากันว่านอนเสื่อจะมีสุขภาพดีกว่ามากนัก |
เตียงนอน ฮึ แน่นอน แคร่ที่วางบนพื้น, เตียงของน้องสาวที่มีกลิ่นหญ้า, ฟูกในห้องใต้หลังคา, เตียงนอนในรถนอนที่อับชื้น, เตียงสำรองที่มีผ้าปูลื่นจนคุณไหลตกเตียงในห้องต่อเติมของพ่อแม่ของโคล, เตียงใหญ่ในโรงแรมหรูในฮ่องกงที่มีความกว้างมากกว่าความยาว ใช้ฟูกสองตัวซิปติดกันจนคุณรู้สึกเหมือนมันจะแยกออกจากกันเมื่อไหร่ก็ได้แล้วคุณอาจจะตกลงไปตรงระหว่างที่มันแยกจากกัน
นอกเตียง บนฝากระโปรงรถยนต์, กลางทุ่งท่ามกลางฝูงวัวที่อยากรู้อยากเห็น, ที่สระว่ายน้ำตอนตีสามท่ามกลางแสงเดือนดาว, คุณจำได้ถึงความเงียบสงัดในตอนที่คุณทำอะไรกัน คุณจำมันได้ดีทีเดียว มีแต่เสียงน้ำกระเพื่อมในยามที่คุณแนบเข้าหากัน คุณไม่ได้พูดอะไรกันเลยสักคำเดียว จดจ่ออยู่แต่กับสัมผัสรัดแน่นและน้ำที่ประโลมคุณอยู่เท่านั้น ในรถเช่า, บนพื้นทราย, บนโต๊ะในครัวที่บ้านป้าคนที่เป็นสาวโสด
ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เคยได้ยินมาแล้วทั้งนั้น เป็นที่น่าสังเกตุว่าเทคนิคลีลาท่าทางต่าง ๆ ที่พวกผู้ชายใช้เหมือนกันซะแทบจะทุกคน แต่กระนั้นคุณก็ยังจำความแตกต่างของแต่ละคนได้ดีแม้ว่าคุณจะจำชื่อพวกเค้าไม่ได้ก็ตาม คุณจำคราวที่ไม่ประทับใจได้ดีกว่าคราวที่ประทับใจเสียอีก คุณจำได้ว่าทำไมมันไม่เวิร์ค และคุณก็ไม่พยายามที่จะให้มันเวิร์คด้วย เพราะมันไม่ได้ดีกว่าที่คุณคาดไว้ตั้งแต่เริ่มแรก ตั้งแต่ตอนที่เสื้อผ้าของคุณเริ่มหลุดลุ่ย แต่คุณก็ไม่แสดงออกให้รู้ มันน่าอาย
บทที่ 68 เมษายน เป็นเดือนแห่งความหวังสำหรับการจัดตกแต่งสวน |
คุณกลับไปที่ห้องสมุดอีกหลายครั้ง คุณเดินไปทั่วทั้งอาคารสวยหลังนั้น มันเหมือนเป็นห้องสมุดของคุณพอ ๆ กับที่มันเป็นห้องสมุดของเค้าเหมือนกัน เพียงแต่เค้ามาที่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมาที่นี่ไม่ได้ คุณถอดรองเท้าออกเพื่อยืดเส้นยืดสายฝ่าเท้า คุณเอาเท้าเคาะพื้นเหล็กเล่นเป็นจังหวะ แสงของหลอดนีออนสาดส่องอยู่ตามมุมโน้นบ้างมุมนี้บ้างทั้งชั้นบนและชั้นล่าง คนที่อ่านหนังสือต่างก็จมอยู่กับรัศมีแสงไฟของตัวเอง โต๊ะไม้โบราณวางอยู่ที่สุดทางเดินเหมือนที่พักระหว่างบนไฮท์เวย์ มีกลิ่นจากกระดาษเก่าและหนังหุ้มปกหนังสืออวลออกมา คำต่าง ๆ ในหนังสือรอให้เปิดอ่าน คุณเริ่มลงมืออ่านมันในที่สุด เพื่อที่จะพิชิตมัน เพื่อคำถามต่าง ๆ อีกมายมาย ทำไมผู้หญิงถึงจะต้องเก็บความรู้สึกเกี่ยวกับความสุขของตัวเองด้วย ทำไมพวกเธอจะต้องจดจ่อไปที่ความสุขของคนอื่นก่อนแม้มันจะบั่นทอนความสุขของตัวเองลงไปก็ตาม ทำไมต้องเป็นอย่างนั้นด้วย
แต่แล้ววันแห่งความกระจ่างแจ้ง วันที่ดีที่สุดในช่วงใบไม้ผลิก็มาถึง หัวใจของคุณถึงขั้นหกคะเมนตีลังกาเลยทีเดียว เค้านั่งอยู่บนพื้นหลังพิงฝาผนัง กำลังอ่านหนังสือและจดลงบนสมุดโน้ตที่วางอยู่ข้าง ๆ ไปพลาง คุณไม่ได้เดินตรงไปที่เค้าเลยทีเดียว คุณมองไป มองไปที่ต้นคอของเค้า ผมของเค้าลงมาปรกหน้าปิดตาไว้ มือของเค้ากำปากกาเสียงคลิ้กดังเหมือนเวลาปิดปลอกสิปสติก นาฬิกาหน้าปัดกว้างตั้งแต่ยุคฟอร์ตี้มีรอยขูดขีดอยู่บ้าง คงจะมีอะไรบางอย่างทำให้เค้าเหลือบขึ้นมามอง สบตากับคุณเข้าพอดี
เค้ายิ้ม เหมือนกับร่มที่กางออกจนพลิกด้านในออกด้านนอกไปเลย คุณกลับมาแล้ว
คุณทั้งคู่เหมือนติดกับ คุณมองเห็นได้ ใบหน้าของเค้าบ่งบอกอย่างนั้น
บทที่ 69 สวดมนต์ให้สม่ำเสมอ |
ที่ร้านคาเฟ่แห่งใหม่ เค้าจับมือคุณกุมไว้เหมือนกับหลังเต่า เค้าไม่ยอมปล่อยราวกับว่าไม่มั่นใจว่าถ้าหากเค้าปล่อยไปแล้วคุณอาจจะหลุดลอยไปอีก ถ้วยชาวางอยู่ตรงหน้าตั้งแต่ขึ้นไอร้อนจนเย็นชืด ชาในถ้วยได้มีคราบนมเกาะตัวลอยอยู่บนผิวหน้า แกเบรียล คุณยังไม่เคยนอนกับผู้หญิงเลยใช่มั๊ย คุณถามออกไปตรง ๆ ถูกต้อง ถามตอบเสียง่าย ๆ อย่างนั้นเอง คุณไม่ได้คาดคิดที่จะได้รับการสารภาพอย่างรวดเร็วแบบนี้ รอยยิ้มของเค้าเต็มไปด้วยความโปร่งใสเหมือนฟ้าโล่ง มันเหมือนกับว่าเค้าไม่เคยยืนยันยอมรับมันกับใครมาก่อน โล่งออกที่ได้ปล่อยมันออกมาเสียได้ ที่ได้พูดออกไป เค้าพูดแล้ว พูดอีกว่า ใช่ เค้ายังสดอยู่ พูดพลางมือเค้าก็ลูบไล้มือของคุณไปพลางอย่างไม่รู้ตัว เค้าลูบอยู่ที่ข้อนิ้วของคุณ ลูบอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหยุด จนเค้าพูดออกมาว่า ผมคิดว่าผมต้องการความช่วยเหลือ ผมคิดเรื่องนี้อยู่ทั้งวันทั้งคืน คุณฟังพลางพยักหน้าไปพลาง ไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้พูดถึงวันและคืนของตัวเอง ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะค๊ะ คุณถามอย่างนุ่มนวล เค้านั่งยืดหลังพิงพนัก แล้วหัวเราะ คืออออ เค้าพูดอย่างช้า ๆ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี เค้าอยากจะพูดบางสิ่งออกมาแล้วเปลี่ยนใจ แล้วก็ตัดสินใจที่จะพูดว่า ตอนที่เค้าอายุสิบห้า มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อแคลร์ เค้ากับเธออยู่ในวงดนตรีด้วยกัน มันเป็นวงที่รวมตัวกันของวงประจำโรงเรียนทางตอนเหนือของลอนดอนกับโรงเรียนคอนแวนท์ในท้องถิ่น ตอนนั้นเค้าเพิ่งย้ายมาจากสเปน เป็นดนตรีแบบไหนค๊ะ คุณไม่อยากรู้จักหรอก เค้าเรียกสลัดเดส์ แล้วคุณทั้งคู่ก็หัวเราะกัน แคลร์เป็นอเมริกัน พ่อแม่ของเธอเป็นชาวสเปน แต่เธอมาจากแคลิฟอร์เนีย เธอจะโดดเด่นกว่าใครอื่น เธอดูอบอุ่น มันเหมือนกับ... ไม่รู้ซิ ผมบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าเธอเก็บแสงอาทิตย์ไว้ใต้ผิวเธออย่างนั้นแหละ ผม...หลงเธอเข้าอย่างจัง คุณพยักหน้า แล้วยิ้ม มันเป็นเรื่องที่คุณแทบจะคิดต่อไปเองได้ พวกเค้าจะตกหลุมรักกันอย่างโงหัวไม่ขึ้น อาจจะมีครูไปเจอพวกเค้าทำอะไรกันอยู่ในห้องเก็บของในช่วงฝึกซ้อมก็ได้ พวกเค้าอาจจะยังไปไม่ถึงไหนแต่เสื้อผ้าคงจะหลุดลุ่ยกันหมดแล้ว คุณนึกเห็นสีหน้าของพวกเค้า มือไม้ ความอาย สะท้าน ใคร่รู้ จดจ่อ และ หวาดกลัว แล้วเค้าทั้งสองก็ถูกแยกออกจากกัน พ่อแม่ของแคลร์เป็นคนเข้มงวดมากเธอก็เลยถูกถอนออกจากกลุ่ม และเธอก็ไม่ได้ไปดูการแสดงด้วย ส่วนแกเบรียลถูกสั่งห้ามไม่ให้โทรศัพท์หาเธอ ห้ามพบเจอกัน เค้าส่งจดหมายหาเธอว่าเค้าจะรอแต่เธอ เค้าจะไม่มองใครอีก แต่เค้าก็ไม่รู้เลยว่าเธอได้รับจดหมายที่เค้าส่งไปบ้างหรือเปล่า เธอถูกย้ายไปเรียนที่อื่น เค้าไม่สามารถสืบได้ว่าเธอไปเข้าเรียนที่ไหนต่อเค้าก็ขาดการติดต่อกับเธอในที่สุด คนในครอบครัวของผมว่าผมยึดติดกับเธอเกินไป ผมก็เห็นด้วย ไม่รู้ซิ แต่ไม่เคยมีสักวันที่ผ่านไปโดยที่ผมไม่ได้คิดถึงเธอ คิดถึงสิ่งที่ผมสูญเสียไป นั่นจะเรียกว่ายึดติดได้มั๊ย ก็คงได้มั้ง คุณตอบยิ้ม ๆ คุณพลิกฝ่ามือขึ้นประกบกับฝ่ามือของเค้าแนบราบติดกัน แม่ของผมบอกว่าผมมีบุคลิกแบบยึดติด เค้ายิ้มหน้าสลด อย่างไรก็ดี ผมตัดสินใจที่จะเป็นนักแสดง เพราะคิดว่าบางที ในบางจังหวะมันอาจจะทำให้ผมได้กลับไปพบกับเธออีกครั้ง ผมคิดอย่างนั้น ผมใช้เวลาไปมากมายกับการเพ้อฝัน หลอกตัวเองอยู่ในความคิด วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังเดินอยู่บนถนนชาริ่งครอส แล้วเธอก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าผม ผมตื่นเต้นพูดไม่เป็นจังหวะ คุณจำได้ว่าเวลาที่เค้าตกอยู่ในสถานะแบบนั้นเค้าจะเป็นอย่างไร เช่นตอนที่เค้าสอบถามบิลจากพนักงาน หรือ ตอนที่เค้าโต้ตอบกับชายก้าวร้าวสติไม่ดีคนนึงที่ในรถไฟ ผมรอคอยวันนี้มานานเหลือเกิน เค้าเล่าต่อ แล้วเราก็พากันกลับไปที่แฟลตของผม ตอนนี้มือของคุณกำมือเค้าแน่น แกเบรียลหยุดนิดหนึ่ง เลียริมฝีปาก แล้วมองตรงมายังคุณ ผมบอกกับเธอว่า คุณจะต้องนุ่มนวลกับผมนะ ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ผมยังไม่เคยมาก่อน ในความคิดของผมตอนนั้นผมคิดว่าผมยังอยู่ความสัมพันธ์กับเธอ ความสัมพันธ์ที่ผมรอมาตั้งนาน คุณเอามือประกบแก้มเค้าไว้ คุณกลั้นหายใจ แล้วเธอก็หัวเราะ หัวเราะ แล้วก็หัวเราะ เค้ายังรู้สึกโกรธอยู่ แม้ว่าจะผ่านมาแล้วหลายปี เธอเปลี่ยนไปมาก มากเหลือเกิน เธอเข้มแข็งขึ้น เธอเยาะเย้ยผม ทั้ง ๆ ที่รู้ ความน่ารักทั้งหลายที่เคยเห็นหายไปหมด ผมของเธอก็เปลี่ยนสี ปากก็ทาลิปสีจัดจ้าน เครื่องสำอางเยอะเกินไปบนหน้าของเธอ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ต้องการมันซักหน่อย เธอไม่ต้องอาศัยเครื่องสำอางเลยจริง ๆ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ผมจับไหล่เธอข้างเขย่าอย่างแรงเหมือนพยายามที่จะให้เธอหยุดหัวเราะ ให้อารมณ์ที่เธอหัวเราะเยอะผมออกมาให้หมด ผมเขย่าเธออยู่อย่างนั้นไม่หยุด คุณประกบมือของคุณกับเค้าเข้ากันอย่างสวยงามเหมือนกับก้อนหินที่คุณเคยเจอตามชายหาด หลังจากนั้น ผมก็ไม่จำไม่ค่อยได้ มันเบลอไปหมด เหมือนกับเกิดไวรัสที่ทำลายความมั่นคงขึ้นในตัวผม ใคร ๆ ก็รู้จักผม โดยเฉพาะผู้หญิง บางคนก็มีรูปของผมพกติดกระเป๋าด้วย ขณะที่พูดเค้าก็ค่อย ๆ เลื่อนมือของเค้าให้หลุดออกจากมือของคุณ กลับไปจับเล่นอยู่กับกระดาษกันเปื้อนแทนแล้วเริ่มที่จะฉีกมันเล่นเป็นรู ๆ จะพูดว่าผมไม่เคยนอนกับผู้หญิงเลยเสียทีเดียวก็ไม่ได้นะ ผมแค่ทื่อเวลาที่ทำอย่างนั้นนะ ผมบอกกับตัวเองว่าพอผมอายุยี่สองผมจะได้นอนกับผู้หญิงแล้ว จนยี่สิบห้า แล้วก็สามสิบ พระเจ้า! ผมจะบอกทุกคนว่ายังไงดีเวลาที่ถูกถาม แต่ก็แปลก หลายปีที่ผ่านมามันเห็นจะยากตรงไหนที่จะพูดว่า ยังไม่เคย เหมือนแกล้ง มันเหมือนกับคุณยืนอยู่หลังกระจกสามารถมองเห็นทุกคนเหมือนอยู่ร่วมกันแต่คุณไม่สามารถสัมผัสถึงกันได้เท่านั้นเอง เค้าหัวเราะออกมาเบา ๆ จนกระทั่งผมมาพบกับผู้หญิงคนนี้ ที่คาเฟ่ คุณหายใจติดขึ้นมาที่ลำคอ ผมชอบเธอ ชอบมาก เค้าพูดอย่างช้า ๆ คุณรู้สึกหวาด ๆ ที่จะได้ยินที่เค้าพูดในขณะที่หัวใจของคุณกำลังเต้นโครมครามอยู่ในอก เธอแต่งงานแล้ว ซึ่งมันก็หมายความในทางพิลึกหน่อยก็คือ เธอเป็นอิสระ มันจะไม่มีอะไรให้สับสนวุ่นวายยุ่งเหยิงหลังจากมีอะไรกันแล้ว ผมครุ่นคิดอยู่อย่างหนัก ผมรู้สึกว่าเธอเป็นคนที่ผมสามารถไว้ใจได้ และเธอก็เป็นอาจารย์ด้วย มันตลกนะ ตอนนี้ปากคอของคุณแห้งผาด แต่ผมก็ไม่สามาขอเธอให้ช่วยผมได้ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะผมจะไปขอเธออย่างนั้นได้อย่างไรกัน เธอเคยบอกกับผมครั้งหนึ่ง แต่มันทำให้ผมประหม่า หวาดผวาไปเลย ตอนนั้นผมยังไม่ได้ตั้งตัว และแล้วผมก็ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้า ผมขอโทษ คุณมองเค้าซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าคุณ เห็นเค้าเปลือยเปล่า กับใบหน้าที่หมดหวัง คุณเหมือนถูกกระตุ้น ถูกกระตุ้นโดยความกล้าในความตรงไปตรงมาของเค้า คุณคิดถึงความตรงกันข้ามของเค้ากับโคล โคลกัดกรามเวลาที่คุณถามถึงธีโอ ครั้งแล้วครั้งเล่า โคลกำมือแน่นเวลาที่เค้าพยายามเบี่ยงเบนคำถามของคุณ แกเบรียลพูดออกมาอย่างปลดปล่อย คุณเชื่อว่ายังไม่มีใครเคยได้ยินในสิ่งที่คุณเพิ่งได้ยิน แต่ก็มักจะมีการหลบหายไปบ่อย ๆ ของเค้าที่ออกจะแปลกอยู่สักหน่อย เป็นปริศนาที่คุณยังหาคำตอบไม่ได้ เวลาที่เค้าโผล่กลับมามันทำให้รู้สึกว่าอะไร ๆ ก็ดีไปหมด คุณจะไม่ตำหนิหรือต่อว่าที่เค้าหายไป จริง ๆ แล้วคุณเลื่อมใส ให้เกียรติเค้าที่ไม่ได้พ่ายต่อความตระหนก กดดันต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เสียความบริสุทธิ์ แล้วยังยืนหยัดอยู่ได้ มันฟังดูโบราณ หรือ เคร่งครัดไปหน่อย ในสมัยนี้ไม่มีใครทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว จู่ ๆ แกเบรียลก็โน้มตัวเอามือปิดหน้าเหมือนว่าจะไม่เชื่อว่าตัวเองได้สารภาพอะไรออกไป ช่วงเวลาแบบนี้แหละ เค้าจะไม่มีทางลืมได้เลยทั้งชีวิต คุณจะต้องทะนุถนอมเค้าอย่างดี คุณจะต้องไม่ทำให้เค้าเจ็บ อย่าให้เค้าตื่นกลัว อย่าทำให้กระจกที่กั้นอยู่นั้นหนาขึ้นไปอีก ตอนนี้เค้าไกล้ชิดกับคุณอย่างที่ไม่เคยมาก่อน เค้าอ่อนไหว ไม่มีอะไรซ่อนเร้นแล้ว และคุณก็รู้ดีว่าช่วงเวลาแบบนี้เหมือนกันที่คุณจะไม่ลืมได้เลยจนชั่วชีวิต เหมือนกับหลอดไฟนีออนสว่างจ้าตรงเฉลียงทางเดินที่ไม่เคยปิด ช่วงเวลาแบบนี้ที่แกเบรียลนั่งตรงหน้าคุณ เปลือยเปล่า เวลาที่ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ของคุณได้เริ่มกลับมาทำงานอย่างดีอีกครั้งหลังจากที่ได้หยุดไปเสียนาน ตกลงค่ะ
บทที่ 70 คุณยอมที่จะให้เอาหินห้อยถ่วงคอแล้วโยนดิ่งลงทะเลลึกเสียดีกว่าที่จะไปเป็นคนขี้ยา |
ตอนเดินไปยังแฟลตของแกเบรียล คุณไม่กล้าที่จะพูดอะไร ไม่กล้าที่จะจับมือกัน คุณรู้สึกสะท้าน ชื้น
ห้องของเค้ากว้างขวางและจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยดี สมถะเหมือนพระ มีของตกแต่งเพียงไม่กี่ชิ้นที่ได้มาจากการเดินทางที่นี่บ้างที่โน่นบ้าง กับมีกองหนังสือและโพสการ์ดขาวดำหลายใบติดอยู่ที่ผนัง เค้าไม่ได้ใช้พื้นที่ว่างในห้องอย่างฟุ่มเฟือยเลย เตียงของเค้ากว้างใหญ่อย่างน่าแปลกใจ คุณปิดไฟซะ แล้วคุณจะเริ่มตรงไหนดีล่ะ คุณเป็นครูสอน ตรงหน้าคุณมีกระดานว่างเปล่ารออยู่ พระเจ้า! คุณตระหนักถึงความรับผิดชอบของหน้าที่ คุณรวบรวมความคิด คุณจะต้องไม่เร่งรัดรีบร้อน คุณไม่ต้องการให้เค้าต้องประสบกับความผิดหวัง หรือเจ็บปวดเหมือนกับที่คุณเคยเจอมาแล้วบ่อย ๆ จะมีผู้หญิงสักกี่คนกันที่มีโอกาสได้ทำอย่างนี้กับผู้ชาย ได้ฉีกพรหมจรรย์ผู้ชาย มันจะต้องเป็นความทรงสำหรับเค้า มันเป็นจะเป็นรูปรสที่เค้าจะติดตรึงไปตลอดชีวิต
คุณบอกเค้าว่าคุณอยากให้เค้าใช้ลิ้นโลมเลียคุณ ช้า ช้า จากที่ข้อมือด้านใน แล้วคุณก็ถลกแขนเสื้อขึ้นเหมือนกับขี้ยาที่เตรียมจะฉีดเข้าเส้นเป็นครั้งแรก แกเบรียลมองคุณ โน้มลงอย่างลังเล ลิ้นของเค้าลากเลียผิวคุณจังหวะเดียวยาว ไม่มีพลิกพลิ้ว คุณหลับตาพริ้ม ปล่อยเสียง อาาาาร์ เบา ๆ จนลิ้นเค้าหยุด คุณจัดการถอดเสื้อแจ๊คเก็ตของเค้าออก ปลดกระดุมเชิ้ต คุณสัมผัสได้ถึงความอ่อนไหวของเค้า มือลูบไล้แผงอกกว้างรู้สึกถึงจังหวะตึกตักของหัวใจที่เต้นอยู่ข้างใน คุณเอามือขวาวางแนบไว้ จับจังหวะการเต้นของมัน กลิ่นกายเค้าสะอาดน่าเคลียเคล้า แต่คุณก็ไม่ได้กลิ่นที่แท้จริงของเค้า ร่างกายของเค้ายังหนุ่มแน่นเหมือนยังไม่พัฒนาถึงขีดสุด รู้สึกเหมือนไม่เคยถูกสัมผัสมาก่อน อาจจะเป็นเพราะความไม่กล้าของเค้าที่ทำให้เค้าสดมาได้ถึงป่านนี้ คุณลากไล้ริมฝีปากไปตามผิวเนื้อเนียนบนต้นแขนด้านในของเค้าอย่างช้า ๆ แผ่วเบาเหมือนเวลาที่แมลงขายาวเดิน คุณเงยหน้าขึ้นมองยิ้มเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างกำลังไปได้สวย ด้วยเหตุผลบางอย่างคุณโอบศรีษะเค้าไว้เหมือนกับเวลาที่แม่โอบอุ้มลูกน้อย เค้าเริ่มที่จะพูดบางอย่างออกมา ชูวววววส์ คุณจุ๊ปากกระซิบห้ามแล้วประคองหน้าเค้าไว้ในมือ เค้ากำลังเคร่งเครียด จดจ่อ เกินไปแล้ว ชูววววส์ คุณกระซิบบอกอีกก่อนที่จะพรมจูบเค้าอย่างช้า ช้า แผ่วเบา ราวกับว่าความนุ่มนวลอ่อนโยนที่สุดโนโลกมารวมอยู่ในสัมผัสนี้ ขณะเดียวกันมือของคุณก็เลื้อยไหลไปตามร่างกายลงไปหยุดที่สะโพกเซ็กซี่ของเค้า คุณคุกเข่าลงแล้วปลดเข็มขัดเค้าออก
ตรงนั้นของเค้าเอียงไปทางข้างนิดหนึ่ง มันมีขนาดใหญ่ทีเดียว คุณมักจะแปลกใจเสมอกับขนาดที่มันสามารถขยายใหญ่ออกมาได้ เค้ามองลงมาที่คุณ หายใจถี่ขึ้น คุณผละจากเค้า ยืดเส้นยืดสายนิดหนึ่ง ชูสองมือขึ้นฟ้าเหมือนจะดันแผ่นฟ้าให้มันสูงขึ้นไปอีกนิด คุณรู้สึกเหมือนแมวที่แอบขึ้นไปนอนบนเก้าอี้นวมต้องห้ามอย่างสบายอารมณ์
แกเบรียลพลิกตัวลงนอนคว่ำหน้า คุณเดินเข้าไปหาเค้าแล้วล้มลงนอนข้าง ๆ ลูบไล้รอยนูนตรงร่องกระดูกสันหลังเค้าเล่นด้วยปลายนิ้ว เคยมีอีกครั้งหนึ่ง เค้าพูดโดยที่ไม่ได้มองคุณ มือของคุณหยุดลูบไล้เค้า ตอนที่ผมอายุยี่สิบเอ็ด เค้าพูดต่อ ผมเมามากในงานปาร์ตี้ที่พ่อแม่ของผมจัดให้ มีเด็กสาวอีกคนหนึ่ง เธอเป็นลูกของเพื่อน ๆ ของพ่อแม่ เธอเองก็เมามากเหมือนกัน เราพากันขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นบน แต่ตอนที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มเท่านั้นและผมก็อ่อนเป็นเส้นด้ายไปเสียเฉย ๆ งั้นแหละ ตอนนั้นผมได้ยินแต่เสียงหัวเราะของแคลร์ดังก้องหู ผมทำต่อไปไม่ได้เลย คุณเอาแขนโอบกอดเค้าไว้ บีบเคล้นตรงหัวไหล่ แกเบรียลพลิกกลับมากทางคุณ นอนตะแคงเอามือข้างหนึ่งหนุนไว้ที่แก้ม เพราะงั้น....ผมต้องขอขอบคุณคุณ เค้าพูดอย่างตะขิดตะขวงอาย ๆ เงียบไปนิดหนึ่งก่อนที่ความขี้เล่นซุกซนของเค้าจะกลับมา ถามคุณว่า แล้วต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีก คุณส่ายหน้าเอามือปิดตาแล้วหัวเราะ ไม่ ไม่ ไม่ค่ะ เราคงต้องหยุดแล้วละ นะค๊ะ ตกลงมั๊ย ขอโทษครับ คุณผู้หญิง แต่คุณคงจะยังไม่ออกไปจากแฟลตนี้หรอกนะครับ
Create Date : 01 มกราคม 2554 |
Last Update : 1 มกราคม 2554 14:21:48 น. |
|
2 comments
|
Counter : 410 Pageviews. |
|
|
|
โดย: deeplove วันที่: 1 มกราคม 2554 เวลา:17:09:48 น. |
|
|
|
โดย: wbj วันที่: 1 มกราคม 2554 เวลา:18:14:04 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
แม๊กซ์ ครับ อยากเขียนนิยายแต่ไม่เก่ง ก็เลยอาศัยการแปลจากที่คนอื่นเขียนไว้แล้วไปก่อน รวมทั้งงานเขียนอื่น ๆ แล้วแต่อยากจะเขียน ลองติดตามกันดูนะครับ
|
|
เปลือย...ใจ ใส่บันทึก เป็นเรื่องราวของ
ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสามีแล้ว
แต่โชคชะตาพาเธอ ให้ไปพบกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งชักนำชีวิต ของเธอ
ให้ต้องเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ที่พูดไม่ได้ห้ามใจไม่อยู่
เลยต้องเปลือยใจใส่ ไว้ในบันทึก.....อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับใคร หลายคน
แตกต่างกันไปในรายละเอียด และ จุดจบ....... |
| สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจผลิตภันณ์จาก Dream Cosmetique จาก Link เวชสำอาง ข้างล่างนี้ ท่านจะได้รับส่วนลด 10% ทันที เพียงท่านแจ้งการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ว่าได้ข้อมูลจาก Maxmaya http://www.dreamcosmetique.com/ |
|
|
|
|
|
|
|
ศุภฤกษ์เบิกดิถีวันปีใหม่
ขอให้สมหมายทุกสิ่งดั่งใจหวัง
ให้ชีวิตมีสุขทุกข์มลายเกิดพลัง
สุขสมหวังกายและใจให้ชื่นบาน
ขอคุณพระศรีรัตนตรัย
ทุกเทพไท้ที่สถิตทุกสถาน
จงปกป้องคุ้มครองอภิบาล
มีความสุขทุกวันวารตลอดไป
อำนวยพรปีใหม่ให้พร้อมพรั่ง
ทุกสิ่งหวังเป็นไปตามใจมุ่งหมาย
งานการเจริญก้าวหน้าตลอดไป
ให้กายใจสุขสมหวังนิรันดร์เทอญ