อัมพวา วัดบางกุ้ง วัดบางนกแขวก

ปั่นเที่ยวอัมพวา ระหว่างวันที่ ๒ ถึง ๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ ระยะทาง ๒๗๔ กม.


จักรยานที่ใช้ปั่น


ปั่นมาทางถนนพระราม ๒ เจอชาวต่างประเทศอายุ ๒๕ ปี ปั่นจักรยานท่องเที่ยวมาจากประเทศอินเดีย มาถึงไทย ปั่นเที่ยวมานานประมาณ ๕ เดือนแล้ว จะไปต่อมาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตเรีย นิวซีแลนด์ คณะเขาให้ร่วมทางกับเราด้วย


จอดให้ซื้ออาหาร


แวะที่กม ๓๑ เจ้าแม่กวนอิม


ทานข้าวเที่ยวที่นี้ครับ


ปั่นต่อจนสะพานลอยเลี้ยวขวาเข้าอำเภออัมพวา


เข้าทางวัดปากน้ำ อยู่ติดริ่มแม่น้ำ ใกล้โรงเจ


มืดแล้วครับ ทานอาหารเย็นที่นี้ครับ


ผมตื่นเช้ามืดมานั่งริมแม่น้ำถ่ายรูปโอมสเตย์ที่พัก ไว้เป็นที่ระลึก ต่อจากนั้นรอตักบาตร พระสงฆ์พายเรือมารับบิณฑบาต

ทานอาหารเช้าเสร็จฝรั่งจะไปต่อ ขอบคุณที่เมื่อวานช่วยลาก ทำให้ไล่แซงกันสนุก อย่างไรก็หนีผมไม่พ้น



(จากวิกิพีเดีย )

วัดบางกุ้ง เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ตามประวัติกล่าวว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปีพ.ศ. ๒๓๐๘ กองทัพพม่ายกเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์จึงทรงมีพระราชดำรัสสั่งให้หัวเมืองปากใต้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งที่ตำบลบางกุ้ง เมืองสมุทรสงคราม เรียกว่า “ค่ายบางกุ้ง” กองทัพพม่าซึ่งยกทัพเข้ามาตามลำน้ำแม่กลองและบุกลงมาจนถึงค่ายบางกุ้ง โดยที่กองทัพของกรุงศรีอยุธยาไม่สามารถต้านทานไว้ได้ค่ายบางกุ้งจึงแตก หลังจากพม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตกในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ ค่ายบางกุ้งก็ตกอยู่ในสภาพค่ายร้าง เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสถาปนากรุงธนบุรีแล้ว โปรดให้ชาวจีนรวบรวมสมัครพรรคพวกมาตั้งเป็นกองทหารรักษาค่ายเก่าที่บางกุ้ง จึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “ค่ายจีนบางกุ้ง” ในปี พ.ศ. ๒๓๑๑ หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาไปประมาณ ๘ เดือน กองทัพพม่านำโดยเจ้าเมืองทวายยกทัพบกและทัพเรือลงมาล้อมค่ายจีนบางกุ้งไว้ ทหารจีนที่รักษาค่ายบางกุ้งสู้รบอย่างเต็มที่แต่มีกำลังน้อยกว่าเกือบจะเสียค่ายแก่พม่า กรมการเมืองสมุทรสงครามจึงมีหนังสือกราบทูลไปยังกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงทราบจึงยกกองทัพมาตีทัพพม่าแตกพ่ายไป และต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๑๗ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยกกองทัพเรือนำทหารไปออกศึกที่บางแก้ว เมืองราชบุรี ในระหว่างการเดินทางได้หยุดกองทัพพักพลเสวยพระกระยาหารที่วัดกลางค่ายบางกุ้ง

หลักฐานโบราณสถานที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ พระอุโบสถก่ออิฐถือปูนปัจจุบันถูกต้นไทรขึ้นปกคลุมทั้งหลังหน้าบันของพระอุโบสถ มีปูนปั้นลวดลายพันธุ์พฤกษาประดับด้วยเครื่องถ้วยซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย


พระอุโบสถที่ถูกต้นไทรปกคลุม 1 ใน unseen Thailand ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่สมัยอยุธยาตอนปลาย สลักจากหินทรายแดง แสดงปางมารวิชัย ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” ที่ฝาผนังของพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังรูปพระอดีตพุทธเจ้า และภาพพุทธประวัติ นอกจากนี้ยังมีสระน้ำโบราณรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดความกว้างประมาณ ๕ เมตร ความยาว ๗ เมตร ที่ขอบสระมีกำแพงเตี้ยกั้น และกรุด้วยอิฐถือปูนลักษณะสอบลงไป ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของพระอุโบสถ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัดบางกุ้งเป็นโบราณสถานของชาติในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๓ ตอนพิเศษ ๕๐ เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙
























เที่ยวตลาดน้ำ ทานไอสติมกะทิ ถ้วยละ ๑๕ บาท



(จากวิกิพีเดีย)
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด (อังกฤษ: Nativity of Our Lady Cathedral) ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลบางนกแขวก จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นอาสนวิหารประจำเขตมิสซังราชบุรี ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การบังเกิดของพระแม่มารีย์ ถือเป็นสถานที่สักการะอันศักดิ์สิทธิ์ของศริสตชนนิกายโรมันคาทอลิกที่อาศัยอยู่โดยรอบ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1890 (พ.ศ. 2433) โดยบาทหลวงเปาโล ซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปี เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่สร้างด้วยอิฐเผา ผนังฉาบด้วยปูนตำกับน้ำเชื้อมจากอ้อยใสสีดำ ภายในประดับด้วยกระจกสีที่สวยงามจากประเทศฝรั่งเศสที่เป็นเรื่องเล่าของพระแม่มารีย์จากคัมภีร์ไบเบิล และภาพของบรรดานักบุญชายหญิง มีรูปปั้น ธรรมาสน์ อ่างล้างบาป ขาเทียนลักษณะต่าง ๆ และรูปแกะสลักประดับบานประตู บรรยายเกร็ดประวัติในพระคัมภีร์คริสต์ศาสนาบางตอน














วิถีชุมชนบางนกแขวก


ทานจานนี้ที่ตลาดน้ำบางนกแขวก เขาบอกว่าเคยออกทีวีด้วย จานละ ๕๐ บาท กุ้งสดๆ จับจากกระชัง ในแม่น้ำตรงนั้นแหละ ที่นี่มีเรือบริการไปชมสวนฟรี สวนมีผลไม่ขาย มีเรืองล่องลำน้ำให้บริการ เที่ยวหนึ่งใช้เวลาประมาณ ๔๕ นาที




บรรยายให้ฟัง มีโอมสเตย์บริการ ขายของชุมชน สมโอขายดีมากเขาบรรยายเสียเลิศเลย



อยู่ติดกับอุทยาน ร. 2 เป็นวัดของตระกูลราชินิกุลบางช้าง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 หลังวัดแห่งนี้เคยเป็นนิวาสสถานเก่าของหลวงยกกระบัตร (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) และ คุณนาค (สมเด็จพระอมรินทรามาตย์พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1) และเป็นสถานที่พระราชสมภพของรัชกาลที่ 2










ตลาดน้ำอัมพวา คนแน่น เดินยาก ร้อน แต่ได้ซื้อของฝาก และห่อหมกใส่หม้อดินและข้าวสวยนึ่งในหม้อดิน ชุดละ ๕๐ บาท สำหรับมื้อเย็น






ดูข้อมูลจากเว็ปนี้ครับ //www.amphawanurak.com/index.php?option=com_content&task=blogcategory&id=20&Itemid=51



ยามเช้าวันที่ ๔ มิถุนายน ที่บ้านบน โอมสเตย์


เข้าห้องน้ำก่อนลา




สะพานแขวนใกล้วัดปากน้ำ

จบ




Create Date : 05 มิถุนายน 2555
Last Update : 6 มิถุนายน 2555 7:37:59 น. 0 comments
Counter : 4221 Pageviews.  

มาสบาย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




เป็นบล๊อกที่ได้รวบรวม เรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจและเป็นประโยขน์

เน้นเรื่องจักรยาน ท่องเที่ยวแบบประหยัด กางเต็นท์ ศึกษาธรรมชาติ

ได้ลงรูปและรายละเอียด ของสถานที่ได้ไปมาแล้ว ส่วนสถานที่น่าสนใจ จะค้นหาข้อมูลจากเน็ต ลงได้ เพื่อจะไปเที่ยวในโอกาสต่อไปครับ

ขอให้สนุกกับใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ประหยัด นะครับ
[Add มาสบาย's blog to your web]