Group Blog
 
All Blogs
 

เหตุเกิดเมื่อวันพุธ 18 พค 48

หลังจากที่ฝนกระหน่ำเมื่อเช้ามือเมื่อวาน ต้องฝ่าฝนออกมาออฟฟิสเพราะนัดกันไปดูสถานที่ถ่ายทำละครตอน 9.00 ไอ้เราก็ประมาณว่าเออ! เฮ้ย ฝนแม่มตกก็เลยมาซะก่อนกลัวมาไม่ทันไม่เป็นไรมาเล่นเนตรอๆก็ได้

9.30 น.ทีมเพิ่งจะโผล่แต่ยังไปไม่ได้อยู่ดี หัวหน้าทีโทรมาบอกว่ารถติดรอหน่อย 10 โมงก่าก็โทรมาบอกว่ารถชนไม่ไปแล้ว เอิ้ก งงคิดไรไม่ออก เก็บของ เดินออกจากออฟฟิสขึ้นรถเมล์สาย 72 ไปขนส่งเอกมัย ซื้อตั๋วรถทัวร์ไปบางแสนซะงั้น

ฮ่วย สมองมันแบบปั่นป่วน เหตุการณ์ประมาณนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ปัญหาต่างๆในการทำงานมันแบบค่อยๆสะสมมาไงเลยตรูมมมม ตูไม่อยู่แล้ววกรุงเทพ ใช้เวลาไม่นานก็พาตัวเองระเห็ดมาอยู่ที่ชายหาดบางแสน

หาของใส่ท้อง หุหุ ไก่ขมิ้นย่างกะข้าวเหนียวแถมด้วยปูอีก 5 ตัวยัดเข้าไปให้มันหายเครียด ซัดจนหมด เออ อิ่ม อิ่มโคด ความเหนื่อยและอิ่มแปรเปลี่ยนเป็นคววามง่วง หลับซะเลย

กว่าจะตื่นขึ้นมาบ่าย 2 กว่าทำไรดีๆ สมองสั่งการให้เดินไปเรื่อยๆ อ่าห์จักรยาน ที่เช่าจักรยาน เอาล่ะ 50 บาทแลกจักรยานเสือภูเขาที่ลูกปืนตรงจานปั่นแตก

ปั่นไปไหนล่ะ เขาสามมุขสิ ไปๆๆ ปั่นไปหุๆเกือบถึงแระมีเนินลูกแรก ใส่ทั้งตัวหอบแฮ่กๆขึ้นไปจนสุดแล้วปล่อยไหลแต่...มันมีลูก 2 รออยู่เด่ะสูงกว่ารอบแรกอีก เอาวะ ปั่นส่งแรงสุดตัว ลูกที่ 2 ขึ้นไปครึ่งเนินแรงส่งหมด แรงถีบก็หมด ลงเข็นครับเอิ้กๆ

ไปถึงศาลเจ้าแม่สามมุขนั่งพักเหนื่อยแล้วก็กลับหันไปเห็นไอ้เนิน 2 ลูกนั่นก็เหมือนเดิม คราวนี้เข็นขึ้นอย่างเดียว เอิ้ก กลับมาส่งจักรยานมันคืนคอแห้งสิ หาเบียร์เย็นๆแก้คอแห้งหน่อย กว่าจะหายคอแห้งหมดไป 5 ขวด

ยังไม่อยากกลับกรุงเทพเลยคิดว่าจะไประยองต่อ จะ 6 โมงเย็นแล้วไปดีก่านั่งรถ 2 แถวออกมาที่ตลสดหนองมน จ่ายตังเสร็จก็เหลือบไปเก็นรถกรุงเทพ-ระยองมาจอด ๕๕๕๕ ไปๆขึ้นรถกันดีกว่า ขึ้นไปถึงจ่ายตังเค้าบอกอย่างมั่นใจ "สุดสายเลยน้อง" มันก็เก็บตังไป

ง่วงวุ้ย มึนๆด้วย หลับก่อนเด๋วรถสุดสายมันก็มาปลุกเอง แล้วมันก็มาปลุกมาบอกว่า พี่ครับถึงแล้วครับ เอ...โลเคชั่นมันคุ้นโคดๆ ลงมาจากรถ อ้าว หมอชิต ฮ่วยตูนั่งรถผิดฝั่ง

จากคุณ : ม้าทิงนองนอย - [ 19 พ.ค. 48 12:26:07 ]




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2548    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2548 18:02:13 น.
Counter : 323 Pageviews.  

เหนื่อยครับ แต่มีความสุขครับ

ร้านเนตหน้าปากซอยเวลาค่ำ

เมื่อวานตอนเช้าตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อท่วมตัว(โหยก็คืนวันศุกร์กลับบ้านตี 2 อ่ะเหมือนเดิมไปเกะ) ไฟมันดับเลยลงไปสับคัทเอ๊าท์ดู เวงมันดับทั้งซอยเลย

เดินไปทั่วบ้านไม่มีใครอยู่เลยทุกคนอพยพหนีร้อนไปพึ่งเย็นกันหมด เฮ้อ เราเลยต้องระเห็ดออกไปออฟฟิส

วันนี้(15)วันเกิดป้าอ้อ เมียของเพื่อนสุดที่รัก ที่เดิมครับที่เดิม แก๊งค์นี้นี่เข้าคาราโอเกะตลอดเวลา

ก่อนขึ้นไปช่วงบ่ายๆโทรไปหาเค้า คิดถึงเค้าจังก็ตอนเที่ยงโทรไปเค้าทานข้าวอยู่แล้วเค้ารับแล้วบอกว่าทานข้าวอยู่แค่นี้นะแล้ววางสายไป

อึ้งครับ วรพลอึ้งรับประทาน แต่ตอนเย็นๆก็โทรไปเค้าก็คุยดีนะ(คิดไปเองป่าวไม่รู้)

เย็นๆออกไปซื้อของขวัญให้ป้าแกซะหน่อย รีบขึ้นไปตั้งกะหัวค่ำ นั่งซักพักเจ้าปอมก็ขึ้นมากะเด็กใหม่ น่ารักดีกะลังจีบกันใหม่ๆเลย น่าอิจฉาที่สุด คนอื่นไม่ต้องพูดถึง มากันเป็นคู่ๆหมด เจ้าหนุ่มก็มีคู่ เว๊ยยยย อิจฉาโว๊ยยยยย

เห็นเวลาที่ปอมมันร้องเพลงแล้วน้องเค้ามองมันนะ สายตาเงี้ยยยโอ๊ยยย เรานี่ตาร้อนผ่าวๆๆๆ ทนอิจฉาไปซักพักป้าอ้อกะเอก็มาถึงประมาณ 3 ทุ่ม เฮ้อเค้าก็มาเป็นคู่อยู่ดี

ทำไมคราวนี้เราอยู่คนเดียวนานมาก เหงาแบบโคดๆเลยอ่ะ ไม่สนใจใครแระ กินเหล้าและร้องเพลงไป ไม่สนใจใครแระ ดึกๆเริ่มเมาได้ที่ก็เริ่มแซวชาวบ้านเค้าไปทั่ว
เออดึกแล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ยังไม่ได้ถามชื่อเด็กเจ้าปอมเลย ก็เลยถามดู น้องเค้าบอกว่าชื่อ “ปลา” .................30 วินาที อึ้งไป 30 วินาที คนชื่อปลานี่น่ารักหมดทุกคนเลย ป้าอ้อกะเอหัวเราะกลิ้งเลย เรื่องไร ไม่บอกหรอก จากนั้นก็ทำหน้าทีเมาต่อไปเรื่อยๆ

10.00 16/5/48

ตื่นมาพร้อมกะอาการปวดหัวตึ้บๆ ไม่ได้แฮงค์แต่คงเป็นอาการนอนไม่พอ ลากสังขารออกไปออฟฟิสเพื่อตรวจความเรียบร้อยของเอกสารที่จะแจกให้ทีม(ใบคิวถ่ายละครอ่ะ)

บ่ายกว่าๆโทรไปหาเค้าคุยกันแปร๊บนึงก็เริ่มประชุมแบบไม่ได้เรื่องอะไรเพราะคิวดาราป่วนอีกแล้ว กล้วยทอด นี่กรูมาออฟฟิสวันอาทิตย์เพื่อทำคิวแล้วไม่ได้ถ่ายอีกแล้วเหรอเนี่ย เอิ้ก

เหนื่อยครับ เหนื่อยโคดๆ แบบว่าเหนื่อยแล้วได้งานมันโอเคไง แต่นี่อะไรอ่ะ เป็นการประชุมที่ไม่ได้อะไรเลย ต้องรอความปราณีจากใครไม่รู้ กว่าจะบ่น กว่าจะหาทางแก้ไขกันได้ก็ 6 โมงเย็นแต่ก็ยังไม่ชัดเจน ต้องรอพรุ่งนี้อีก

เฮ้อ เหนื่อยยยยย เลิกประชุมแยกย้ายกันกลับบ้าน ฝนตกอีก เลยขอให้ซูสมาส่งมันก็ใจดีมาส่ง ระหว่างทางก็คุยกับเค้า เค้ากำลังออน msn เลยคุยโทรศัพท์กับเราไม่ค่อยรู้เรื่อง เลยมาออนไลน์เจอเค้าที่นี่แหละก็คุยกันซักพักนึง เนตเค้าหลุดบ่อยมากเลยจนในทึ่สุดเค้าก็หายไปเลย เลยส่ง sms ไปราตรีสวัสดิ์เค้า ไม่อยากกวนให้เค้าพักผ่อนเยอะๆ

วันพฤหัสเค้าจะกลับมาแล้ว เย้ๆ ดีใจจัง วันพฤหัส จะรอวันพฤหัส อย่างน้อยวันนี้ก็มีเรื่องนี้แหละที่ทำให้เรามีแรงและมีความหวัง จะรอนะวันพฤหัส




 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2548    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2548 17:59:40 น.
Counter : 219 Pageviews.  

ขนข้าวของมาจาก my space

May 15

ไม่ได้หายไปไหนนะ

FM 1 RCA สถานีเพลงรักที่ไม่เคยหลับไหล (แม้ Program Co จะแอบหลับบ้าง)

หายไปหลายวัน ก็ตั้งแต่วันศุกร์ อืมม....วันศุกร์วันนั้นเย็นๆเราโทรไปหาเค้านี่นา ได้คุยกับเค้าแล้ว ดีใจจัง ดีใจมากๆไม่รู้จะบอกยังไง เสียงเค้ายังแย่ๆอยู่เลยวันนั้น ยังไม่หายป่วยนี่นา

อยากให้เค้ากลับมากรุงเทพเร็วๆ แต่ก็อีกน่ะแหละ อยู่บ้านไปก่อนน่ะดีแล้ว มีคนดูแลใกล้ชิด หายเมื่อไหร่ค่อยกลับมา วันศุกร์ก็คุยกับเค้าแป๊บนึงเค้าก็ไปหาหมอแล้วจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีก เลยจะกลับบ้าน

พระเจ้าช่วย ฝนตกครับกว่าจะหยุด 2 ทุ่ม เฮ้อว่าจะนอนเร็วซะหน่อยกว่าจะกลับถึงบ้านวันนั้นก็ดึกแระ อาบน้ำ นอนเลยดีกว่า

วันเสาร์ ตื่นตั้งแต่ตี 5 เตรียมตัวไปทำงาน วันนี้ถ่ายทำที่ร้าน POF สุขุมวิท 24 (ของคุณนาร่า ที่เล่น Big Brother Thailand) วันนี้เริ่มถ่ายทำได้เร็ว 8.30 ก็เริ่มซ้อมกันแล้ว

ช่วงเช้างานเดินเร็วดี ผ่านไปด้วยดีไม่มีอะไรตื่นเต้น แค่ จุ้มจิ้มต้องไปขึ้นเครื่องตอนเที่ยงเพื่อเดินทางไปขอนแก่น แล้วเราปล่อยเค้าเที่ยง เอิ้ก จะไปทันม๊ะนั่น

พักเที่ยงทานข้าวเสร็จก็โท่รไปขอฟังเสียงเค้าหน่อย หน่อยเดียวจริงๆ แล้วก็เริ่มทำงานต่อ ช่วงบ่ายก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น งานเดินไปเรื่อยๆตามกลไกของมัน ถ่ายกันจนถึง ทุ่มครึ่ง อ้าว เสร็จแล้ว งานเสร็จหมดแล้ว แยกย้ายกันกลับบ้าน ระหว่างเก็บของก็โทรไปหาเค้า คุยกับเค้า

เค้ากำลังออน MSN (คนป่วยนะแทนที่จะพักผ่อน) ก็เลยให้เค้าเข้าไปดู my space ไม่รู้จะว่ายังไง ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันเลยหลังจากที่เค้าได้อ่านไปแล้ว คิดถูกหรือคิดผิดก็ไม่รู้ที่ให้เค้าอ่าน

วันนี้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อท่วมตัว ไฟดับ โหยย 8 โมงเช้าวันอาทิตย์ เวลาที่ควรจะได้พักผ่อน นอนหลับให้สบายใจนี่ต้องลากสังขารอาบน้ำออกมานั่งที่ออฟฟิส ซึ่งจริงๆกะจะเข้ามาอยู่แล้วแต่ไม่เช้าแบบนี้ไง

ไม่มีใครอยู่บ้านเลย ทุกคนดูเหมือนจะรู้ว่ามีไฟดับเลยอพยพกันหมดทั้งบ้าน เราเลยต้องระเห็ดออกมานั่งที่ออฟฟิสจนตอนนี้แหละ ยังไงก็มาแระขอทำงานก่อนละกัน เดี๋ยวเที่ยงๆจะลองโทรไปหาเค้าดู (จริงๆเมื่อกี๋แอบกดไปหาเค้านะ แต่ไม่รับ คิดในแง่ดี ยังไม่ตื่นๆ)


May 13


1 วันที่หายไปวันกับเวลาที่ว่างเปล่า

สถานีบัญชาการละคร Click Television RCA

หายไป 1 วันกับวันที่ว่างเปล่า ไม่มีการติดต่อสื่อสารใดๆ ทั้งจากเราและเค้าตั้งแต่วันที่เค้าส่ง sms มาบอกนั่นแหละ เหมือนเวลาที่ผ่านไปไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ยังรอความหวังว่าคืนนี้จะได้คุยกัน เราก็ยังคงปล่อยให้ใจล่องลอยไปเรื่อยๆกับความหวังที่ลางเลือน ไม่รู้จะทำยังไง

วันนี้จะได้คุยกันไม๊ ถ้าไม่ได้คุย พรุ่งนี้ไปทำงานเจอกันจะทำหน้ายังไง ในสมองมีแต่คำถามและความสับสน มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ความรู้สึกนี้กลับมาหาเราแล้ว มันหายไปนานแสนนาน มันกำลังกลับมา

ความรู้สึกนี้ มาเร็วเกินไปรึเปล่า ไม่รู้เราไม่สามารถห้ามมันได้ ไม่สามารถกำหนดกฏเกณฑ์ได้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ และความรู้สึกนี้มันจะอยู่กับเราตลอดไป


May 11


เหนื่อยๆ เพลียๆ

ร้านเนตหน้าปากซอย

ตื่นตั้งกะ 6.30 ทั้งที่เมื่อคืนอยู่ที่ฮอไรซันถึงตี 2 ก็จะอะไรซะอีกเมื่อคืน 4 ทุ่มก่าๆเจ้านัทโทรมาบอกว่าวันนี้จะไปดูโลเคชั่นกัน

เฮ้อ! มาบอกซะตอนนี้ถ้าบอกซะตั้งกะเย็นก็ไม่นอนดึกแล้ว แล้ววันนี้ดันมาปวดฟันอีก เฮ้อ! หลังจากที่รู้ว่าจะต้องไปดูโลเคชั่นก็เลย sms ไปหาเค้าบอกว่าพรุ่งนี้คงไม่ได้ไปส่งข้าว แต่อาจจะไปส่งตอนเย็นแทน

แต่กว่าเค้าจะได้อ่านก็คงเช้าเพราะคงจะสลบไปด้วยฤทธิ์ยาแก้อักเสบ แล้วก็จริงอย่างที่คาดว่าเค้าตื่นมาอ่านตอนเช้า พร้อมกับ sms กลับมาประมาณว่า เค้ากลับบ้านและตอนนี้ยังไม่อยากคุยกับใครเพราะอยากพักผ่อน แต่ไม่ต้องห่วง แล้วค่อยคุยกันวันศุกร์

อืมมกลับบ้าน ชลบุรีเหรอ อืมมม ไม่เป็นไรศุกร์ก็ศุกร์ วัน 2 วันนี้คงต้องหางานทำเยอะๆจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ง่วงจังนี่เพิ่งกินยาแก้อักเสบมันทำให้ง่วงบวกกับวันนี้ตะลอนทั้งวัน เพลียโคดๆ ขอไปนอนก่อนล่ะ ฟันมันปวดจนคิดไรไม่ออก

พรุ่งนี้ เฉิ่มเข้า หวังว่าจะหาคนดูด้วยได้นะ


May 10


รอบค่ำเหรอเนี่ย

สยามสแควร์

หลังจากที่เขียนไดเมื่อบ่ายเสร็จเราก็นั่งดูเวบไปเรื่อยเปื่อยท่ามกลางนักรบ counter strike ที่ยังตะเบ็งเสียงกันอย่างเมามัน เราก็เออ เด็กมันอินไม่ว่าไร เสือกไปนั่งเล่นใกล้ๆมันเอง

กะลังเพลินๆดูเวบอยู่ จู่ๆหน้าจอก็ดับพรึ่บลง หันขวาไปมองเห็นนักแม่นปืนคนนึงกำลังกดรีสตาร์ตคอมอยู่ มันกดๆๆๆๆ ประมาณว่าเฮ่ยทำไมเครื่องกูไม่ดับวะ เพื่อนมันก็หันมาดู แล้วก็บอกมันว่ามึงกดเครื่องผิด

ไอ้คนที่กดกะหันมาประสานสายตากับเราที่รอที่จะถามมันอยู่ ไม่ต้องพูดอะไรกับสายตาที่มันเห็น หน้ามันซีดๆๆๆ เหลือ 2 นิ้วแล้วรีบขอโทษแล้วสงสัยไม่รู้มันจะทำยังไงมันก็เลยบอกกับเพื่อนๆว่าเลิกดีกว่า

ขำโคดๆ เพื่อนๆมันก็หน้าเสียไม่แพ้กันก็เลยเลิกกันไปทั้งก๊วน โอ๊วพระเจ้าความสงบมาเยือน นี่ขนาดโกนหนวดแล้วนะเนี่ย อิอิถ้าไม่โกนมันคงเยี่ยวแตกไปแระมั๊ง เอิ้กๆ

เล่นจนจะบ่าย 3 ก็เลยออกไปหาสเต๊กใส่ท้อง ไหนๆก็มาถึงนี่แระจะไม่กินก็เสียเที่ยว ดั๊นไปเจอไอ้ก๊วนนั้นเข้าอีก กร๊ากกก รีบสั่งเก็บตังเผ่นแน่บไปเลย ๕๕๕๕๕๕๕ นี่ตูยังไม่ได้ทำไรเลยนะเฟ้ย ถ้าทำจริงๆตูคงกองตีนน่ะเพราะมันตั้งหลายคน เอิ้กๆ

กินเสดก็เดินโต๋เต๋จากสามย่านมาถึงสยามดิส เดินดูของไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้จะทำไร ในที่สุด XXX ก็เป็นทางออกให้เราจนได้ ซื้อตั๋วเสร็จก็ไปเดินรอเวลาจนถึงเวลาก็เข้าไปนั่งรอ รู้สึกง่วงแล้วสิเลยพักสายตาซักนิดนึง

มารู้สึกตัวอีกทีก็หนังตัวอย่างให้ดูแระ เฉิ่ม หึหึ หนังที่ติดโฆษณาเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง ไม่คิดว่าจะดู แต่เราก็รู้ว่าเราคิดผิด ไม่น่าเชื่อกับคำโปรยตามโปสเตอร์และคัทเอาท์ที่ว่า เฉิ่ม หม่ำจะรักนุ่นจนน้ำตาซึม จะเป็นจริง

มันไม่ใช่แค่ซึมอ่ะสิ มันไหลออกมาเลยล่ะ องค์ประกอบต่างๆนาๆที่ตัดมาโปรโมท ดีจัง ขอโทษเจ้าของหนังกะ ผกก. เค้าไว้ตรงนี้ด้วยแล้วกันที่คิดผิดๆมาตลอด

หนังเรื่องนี้จะเป็นหนังไทยอีกเรื่องหนึ่งที่เราจะรอดูอย่างตั้งใจ แม้ว่าจะต้องดูคนเดียว เพราะว่าอะไรเหรอ เรารู้ของเราคนเดียวก็พอ ตัวอย่างหนังเรื่องนี้ทำให้เราคิดได้เตลิดไปเรื่อยทีเดียวถึงขนาดดู XXX ไม่รู้เรื่องอ่ะเด่ะ เวรจริงๆถึงขนาดต้องมาหาที่ระบายเนี่ย

เฮ้อสุดท้ายเดี๋ยวเราคงไปที่ของเราอีกแหละรถติดมากๆไม่อยากฝ่าการจราจรไปไหน จากตรงนี้ขึ้นรถไฟฟ้าแค่ 10 นาทีก็ถึงแล้ว จะทุ่มครึ่งแระไปหาของกินก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยไป โอเคแล้วเจอกัน

แม้จะไม่มีใครรัก ฉันก็น้ำตาซึม


May 10


วันนี้ที่ตลาดสามย่าน

ร้านเนตในตลาดสามย่าน กับเหล่านักรบ counter strike

งัวเงียขี้ตาตื่นมาตอน 8.00 น.หลังจากที่เมื่อคืนไปแหกปากร้องเพลงที่เดิมของเรา หุหุไม่มีแอลกอฮอล์ผ่านเข้าร่างกายซักหยด

เมื่อวานนี้เป็นวันที่ประชุมได้ยาวนานอีกวันนึง มันเกิดจากความไม่แน่นอนของคิวนักแสดงนางเอกทั้ง 2 ของเรานั่นเอง

แต่จะไปโทษเค้าทั้งหมดก็ไม่ได้ เกือบจะไม่ได้ถ่ายวันเสาร์นี้แล้ว ดีนะที่พี่นุพยายามรีดคิวถ่ายออกมาจนได้ จับนู่นผสมนี่ดึงฉากจากเดอะวันมาถ่ายเยอะเหมือนกัน แต่อาทิตย์ถัดไปสิ ทำใจ ไม่มีถ่ายแน่ๆ นอนอยู่บ้านไปเหอะ

เฮ้อ เมื่อวานเริ่มประชุมประมาณบ่าย 3 แต่กว่าจะเสร็จปาไป 3 ทุ่ม เพลียสมองกับเรื่องงานสุดๆ เลยเป็นเรื่องที่ต้องไปคลายเครียด ไม่ใช่แค่เรื่องงานอย่างเดียว ยังมีเรื่องของเรากับเค้าอีก รู้สึกว่าเรื่องของเรากับเค้าตอนนี้จะเป็นเรื่องสนุกของทุกคนที่เมื่อเจอหน้าจะต้องทิ่มแทงเสียบหลังเราตลอดเวลา

เราน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ความรู้สึกของเค้าน่ะ เราไม่อยากให้เค้ารำคาญ ขนาดบางครั้งเราเองก็รู้สึกแปลกเหมือนกันว่าทำไมต้องมายุ่งกะเรื่องของเรานักหนา เราทำผิดเหรอ? ใครจะมาตัดสินมีกฏหมายห้ามไว้เหรอ จะมาอ้างจรรยาบรรณ พระเจ้า! มันจะอะไรนักหนา สำหรับบางคนนะเราเข้าใจได้

แต่สำหรับ"บางคน"(จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม)เราเสียความรู้สึกกับนายนะ เราเข้าใจว่านายหวังดีกับเราแล้วที่บอกว่าสงสารเราน่ะ ขอบคุณ แต่ไม่เป็นไร เราไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร เราเลือกแล้ว เลือกที่จะเป็น พร้อมที่จะยอมรับกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้ เราจะทำอะไรเยอะหรือน้อย นายเอาตาชั่งที่ไหนมาวัด นี่คือตัวเราไง เค้ามีคนมารับที่กองถ่าย เฮ่ย! เรามีตาเราก็เห็น เราก็รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เราถามนายอย่างนึงเรื่องของนายกับคนของนายเราเคยเข้าไปยุ่งไม๊ หลายๆครั้งที่นายมาเล่าเรื่องคนของนายกับปัญหาที่มี เราพูดเราให้คำปรึกษากับนายรึเปล่า เราเคยทิ่มแทงใจนายให้เจ็บช้ำหรือเปล่า เราไม่รู้ เราว่านายน่าจะจำได้ว่าเราเคยคุยกับนายว่ายังไงบ้าง ปล่อยเราให้เจอกับสิ่งทีเราเลือกเองเถอะ ขอบใจจริงๆที่บอกว่าเป็นห่วงและสงสาร แต่ไม่รู้นะเรารู้สึกไม่ดีในบางจังหวะที่นายพูดออกมา

เฮ่ย!เราแค่เสียความรู้สึกกับนาย แต่เชื่อเถอะยังไงเราก็ยังปรารถนาดีกับนาย อยากให้นายมีความสุขกับคนของนาย นายอยากมีความสุขใช่ไม๊ เราก็เหมือนกัน เราทุกคนต่างเสาะแสวงหาความสุขให้กับตัวเอง ในแบบของตัวเอง ขอเราเถอะ ให้เรามีความสุขบ้างนะ ถึงแม้จะเป็นความสุขของเราแต่ฝ่ายเดียว แต่เราก็เต็มใจรับกับสิ่งที่มีอยู่

"ความสุขไม่ได้มีผ่านมาทุกวัน เมื่อมันผ่านมาเราจะรีบคว้ามันไว้ ใครตอบที เราทำผิดตรงไหน"

เฮ้อ! เอาล่ะได้ระบายไปหนึ่งยก กลับมาถึงเรื่องของวันนี้มั่ง คงจะแปลกใจ หรือไม่แปลกใจก็แล้วแต่ตอนนี้เรามานั่งจ่อมอยู่หน้าคอมพ์ในร้านเนตในตลาดสามย่าน

(บรรดาเหล่านักรบ counter strike อยู่รอบๆลั่นกระสุนใส่หัวกันอย่างเมามัน พร้อมกับตะโกนสบถและส่งสัตว์เลื้อคลานยั๊วเยี้ยร้าน) ไม่มีเรื่องน่าแปลกใจอะไรเลยก็เหมือนเดิม

เมื่อวานเค้าไม่สบายเราก็พยายามโทรหาเค้าตอนค่ำๆ แต่เค้าไม่รับเราก็เลยเดาว่าจะต้องกินยาแก้อักเสบแล้วหลับปุ๋ย เช้านี้ก็เลยสวมวิญญาณเด็กส่งข้าว เอาข้าวมันไก่มาส่งให้เค้า มาถึง 9 โมงกว่าๆก็ sms ขึ้นไปว่าเรามาหา ก็เงียบเลยนึกว่ายังไม่ตื่น ไม่เป็นไรเราก็นั่งอ่านหนังสือรอไปเรื่อย ไม่รีบอยู่แล้ววันนี้

พอ 10 โมงกว่าๆก็โทรไปหา เค้ารับแล้วเค้าบอกขออาบน้ำก่อนแล้วจะลงมา โอเคล่ะ นั่งรอซักพักเค้าก็ลงมา วันนี้เค้าดูดีขึ้น ถามถึงอาการเค้าบอกว่าเป็นคออักเสบอย่างรุนแรง เลยโดนยาแรงๆให้หลับซะอิอิ

เค้าบอกว่าโดน รูมเมท บ่นว่ามีคนมาส่งข้าวส่งน้ำ เย็นนี้เค้าเลยบอกว่าจะไปกินข้าวกะเพื่อนเค้า นั่งคุยกับเค้าแป๊บนึงก็ให้เค้าขึ้นไปพักผ่อน เรายังไม่อยากไปไหน ไม่อยากไปออฟฟิส เข้ามาทุกวันแล้ววันนี้ขอหยุดบ้างเหอะ ได้เดินเล่น ได้พักผ่อน แต่ก็คงวนเวียนอยู่แถวนี้แหละ สยาม มาบุญครอง หรืออาจจะไปพันทิพย์ หาอะไรใส่เพิ่มหยักสมองซักหน่อย วันนี้แค่นี้ก่อนดีกว่า แล้วเจอกันพรุ่งนี้ละกัน

ต่างคน ต่างฝัน ตามฝัน ให้เจอ


May 09


วันที่มีความสุขเหลือเฟือ

วันจันร์ที่เฝ้ารอ

ก็สืบเนื่องมาจากเมื่อวานนี้แหละ ทำงานจนมึน เย็นๆเลยโทรไปหาเค้า เสียงดังเจี๊ยวจ๊าว เค้าบอกว่าคุยกับเพื่อนอยู่ แล้วบอกเราว่าเดี๋ยวจะยิงกลับมา มีเรื่องอยากคุยด้วย แล้วก็วางสายไป เอาล่ะสิ จะคุยเรื่องอะไร หัวสมองหมุนติ้วๆ คิดไปเรื่อยเปื่อย ใจตุ๊มๆต่อมๆ แต่ก็พยายามทำงานต่อไป จนค่ำๆเค้าก็ยิงมา

สรุปแล้วไม่มีอะไรแค่อยากเล่าว่าเมื่อวันที่เค้าไปเที่ยวที่แจ่มบาร์เป็นยังไง ประมาณเปิดเพลงอกหักติดกันเป็น 10 เพลงเลยปี่แตก แต่ก็ยังมีพี่คนนั้นของเค้าคอยอยู่ใกล้ๆ แถมยังอยากจะโทรไปหาคนที่ทำให้เค้าร้องไห้ พี่คนนั้นก็เลยยุส่ง

เฮ้อ ไม่รู้จะบรรยายยังไง เค้าก็เล่าๆๆๆๆ เราก็ฟังๆๆๆๆ ซักพักเค้าก็บ่นเจ็บคอ ก็คงเป็นผลมาจากการตะโกนคุยกันเมื่อคืนที่เค้าไปเที่ยวน่ะแหละ เราก็บอกให้ทานน้ำเยอะๆ คุยกันไปซักพักเราก็เลยนัดมาทานข้าวกลางวันด้วยกันที่ออฟฟิส เค้าก็ตกลง

เราก็หน้าบานตามระเบียบ คุยกันซักชั่วโมงนึงเค้าจะเข้าห้องน้ำเลยวางสายไปก่อน เราก็เลยจะกลับบ้านกำลังเดินลงจากออฟฟิสไปซื้อบัตรเติมเงิน เค้าก็ยิงมาหาเราอีกก็เลยเดินคุยกันไปเรื่อย เพราะเค้าก็จะเดินไปซื้อบัตรเติมเงินด้วยเหมือนกัน ก็คุยกันซักแปร๊บแบตเค้าก็หมดเราก็เลยขึ้นรถกลับบ้าน

ถึงบ้านเกือบๆ 4 ทุ่มจัดการตัวเองเสร็จก็จะนอนโทรหาเค้าอีกทีเค้าดูหนังอยู่ UBC อ่ะไม่รู้เรื่องไรแต่เค้าบอกว่าสนุกเค้าก็เลยบอกว่าเด๋วดูจบแล้วจะโทรมาหาก็โอเคเราก็นอนดูบอลไป เฮ้อ หงส์แดงของเราชวดที่ 4 อดไป UCL ปีหน้าเซ็ง

บอลจบเค้าก็ยิงมาเราโทรกลับไปเสียงเค้างัวเงียๆ เราก็เลยราตรีสวัสดิ์ให้เค้านอนแล้วเราก็หลับไปแบบมีความหวัง

7.00 น.ตื่นมาพร้อมกับความกระปรี้กระเปร่า อาบน้ำทานข้าวเช้าที่แม่เตรียมไว้ให้จัดการเรียบร้อยก็นั่งรถออกมา รถวิ่งมาถึง กิ่งเพชร เค้าโทรมาหาโฮ่ๆๆๆ เราเลยโทรกลับไปปรากฏว่าโทรมาบอกว่าไม่สบายเป็นไข้ ปวดหัวเราก็บอกให้เค้าพักผ่อน

แต่แล้วสมองไวเท่าความคิด เราโดดลงจากรถแล้วต่อรถไปสามย่านทันที วิ่งไปซื้อข้าวต้มปลาแล้วก็โทรไปบอกเค้าว่าเราซื้อข้าวมาฝากรออยู่ที่หน้าหอ เค้าก็ลงมา หน้าตาดูแย่ๆก็คุยกันนิดนึงแล้วเราก็ให้เค้าขึ้นไปพักผ่อน เราก็ขึ้นรถมาออฟฟิสมานั่งทำงานต่อ

จวนได้เวลาประชุมแล้ว ขอลงไปเตรียมตัวก่อนนะ แต่อยากจะบอกว่าวันนี้มีความสุขมากๆ แต่ก็เป็นห่วงเค้า ถ้าโชคดีประชุมเลิกไม่มืดคงได้ไปส่งข้าวให้เค้าอีกนะ


May 08


กลับมาพร้อมกับอารมณ์ที่หลากหลาย

ฐานบัญชาการ FM1 99.5MHz วันอาทิตย์ที่ 8 พย. 48

วันที่เสียงเพลงต่อเนื่องอย่างยาวนานที่คลื่น FM1 หายไป 1 วัน รู้สึกว่ามีบางอย่างหายไปกับการที่ไม่เจอไดอารี่

เมื่อวานเป็นวันที่เราต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อไปทำธุระสำคัญของเราที่ ศาลมีนบุรี กว่าจะเสร็จก็ปาไป 10 โมงเช้า เสร็จจากธุระที่แสนเครียดก็รู้สึกปลอดโปร่งขึ้นในระดับนึง

ลำดับต่อมาก็คิดถึงแต่ว่าต้องรีบไปทำงานลาเค้าไว้ครึ่งวัน รู้สึกเป็นห่วงว่างานจะเป็นอย่างไง รีบขึ้นรถจากมีนบุรีบึ่งไปอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ร้าน คาเฟ่ เดอ ม๊อค คือสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำฉากในวันนี้ ใช้เวลากว่าชั่วโมงกว่าจะมาถึง

น้องๆในทีมงานหลายๆคนทำท่าดีใจที่เราไปถึง บางคนเล่าถึงสถานะการณ์ของงานที่ถ่ายไปแล้วและปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น รับรู้แล้วก็รีบเข้าไปในร้าน ทักทายกับทุกคนด้วยเสียงอันดังลั่นร้าน(ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าตูมาแล้วนะ)

สายตากวาดไปทั่วทั้งร้านแล้วไปสะดุดหยุดอยุ่ที่เค้าทำหน้าบ้องแบ๊วที่เพิ่งเงยมาจากจานข้าวมันไก่มีรอยยิ้มเล็กน้อยที่ส่งมาให้(ใจละลายไปเสี้ยวนึงเลยล่ะ)ใส่เสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ รวบผมสูงเป็นหางม้าแบบที่เราชอบ (ไม่เคยบอกเค้าหรอก กลัวบอกแล้วเค้าจะไม่รวบแบบนั้นอีก) แต่....อ้วนขึ้นนี่นา

คงเป็นผลมาจากการที่นั่งๆนอนๆอยู่บ้านอาทิตย์นึงน่ะแหละ แต่ก็โอเคยังน่ารัก(อยากตัดคำว่าน่าออกจัง)เหมือนเดิม น้องบียังแต่งหน้าไม่เสร็จมาสายนะน้องบี แต่เราก็เข้าใจเพราะคืนก่อนก็ไปกองเกิดแต่ตม(ระทมไปทั้งกอง)ถึงตี 3 มั้งเข้าใจได้ๆ แต่เห็นพี่เปี๊ยกยืนคุมอยู่อย่างใกล้ชิดก็เลยรีบขึ้นดูเซตข้างบน

สวัสดีพี่นุคุยกันถึงสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นนิดหน่อยก็ลงมาดูความเรียบร้อยและน้องบี วันนี้มี เติ้ล บี เดียร์ โอ๋ โอ๊ต เอก จุ้มจิ้ม มาเข้าฉากตอนเช้า เดินโต๋เต๋รอบีแต่งหน้าเสร็จ ได้คุยกับเค้านิดนึง แต่น้องบีแต่งหน้าเสร็จพอดี ทำงานก่อนดีกว่า

วันนี้รู้สึกอยากทำงานมากๆ ซ้อม block เสร็จก็กลับมาที่หน้ามอร์นิเตอร์ เค้าก็ถามเราว่าโอเคไม๊(เรื่องที่เราไปทำมาตอนเช้าที่ศาลไงเราเล่าให้เค้าฟังก่อนนั้นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น) เราก็บอกเค้าว่าเราโอเค กับความรู้สึกดีๆที่มีให้มา ขอบคุณนะครับ

มันเพิ่มขึ้นมามากกว่าเดิมเรื่อยๆทุกครั้งที่เค้าทำแบบนี้ เค้าอาจจะไม่ได้ตั้งใจให้เรารู้สึกแบบนี้ก็ได้ แต่เราก็อยากที่จะรับมันไว้แม้ว่าจะต้องเก็บเอามาเป็นเรื่องของเราคนเดียว เราก็ยินดี แล้วเค้าก็บอกว่าคืนนี้จะไปเที่ยว แจ่มบาร์ เราก็เลยแซวว่ากลับบ้านมาอาทิตย์นึงนี่เก็บกดแหง กลับมาเลยรีบโกยหาความสุขใส่ตัว เค้าก็ยิ้มๆแล้วบอกว่าเดี๋ยวจะมีชายหนุ่มตามไปด้วย

แปล๊บ...ความรู้สึกที่แล่นผ่านเข้ามา พี่คนที่เคยเป็นแฟนเค้าที่อยู่คณะวิทยาฯจะมารับตอนเลิกกองไปส่งที่ แจ่มบาร์ แล้วจะแยกตัวไปหาเพื่อน พอเลิกก็จะไปรับกลับบ้าน อยากเป็นคนที่ได้ทำหน้าที่นี้จัง อิจฉาเค้าไม๊ อิจฉาสิ เราถามไปว่าตกลง รีเทิร์น เหรอเค้าก็บอกว่าไม่ มันบอกไม่ถูกนะความรู้สึกช่วงนี้ แต่ก็คุยกันไม่ได้มากเพราะกำลังทำงาน

วันนี้อยากทำงานไง ก็เลยทำงานๆๆๆ ถ่ายไปอีก 3 ฉากก็พักกินข้าวเที่ยง หลายๆคนยกโขยงกันไปกินข้าวมันไก่เพราะเห็นข้าวกล่องกองแล้วไม่อยากกิน ไปเจอเบียร์กับจอยนั่งกินอยู่ก่อนแล้ว กินไปคุยไปเฮฮากันจนเกือบเสร็จเบียร์ซึ่งออกไปก่อนโทรมาตามว่าพี่นุ block ฉากต่อไปแล้วเลยวงแตกรีบวิ่งกลับมาที่ร้าน

จุกแฮะ เริ่มถ่ายงานช่วงบ่ายอย่างรวดเร็ว ไม่น่าเชื่อวันนี้งานจะรื่นไหลไปด้วยดี ปัญหาก็ไม่เกิด เสร็จจากที่ร้านคาเฟ่ เดอ ม๊อค ก็ย้ายไปถ่ายที่ปั๊ม esso ที่ตลิ่งชันเราติดรถพี่นุไป คุยกับพี่นุไปตลอดทาง ไปถึงก็รีบเซตถ่ายให้ทันแสงเพราะเป็นฉากกลางวันฉากสุดท้ายก่อนพักกินข้าวเย็นเราไม่ได้กินเพราะมันรู้สึกตื้อๆ อาจจะเป็นเพราะเมื่อบ่ายซัดนมมนกับขนมปังปิ้ง(ซึ่งเก๋เป็นสปอนเซอร์)

ช่วงเวลากลางวันที่ผ่านมารู้สึกสนุกกับงานแบบที่ไม่ได้เป็นมานาน เรากลับมาแล้ว เดินรอเวลาก่อนจะเซตถ่ายฉากกลางคืน เค้ามาถามถึงตารางการทำงานของช่วงกลางคืน เราก็เลยเล่าให้เค้าฟังซึ่งมันไม่เป็นอย่างที่เค้าคิด เค้าก็เลยไปโทรศัพท์

เราแอบถามเค้าว่ายังจะไปอยู่รึเปล่าเค้าก็ยังยืนยันว่าจะไป แสงโพล้เพล้กินข้าวกันเสร็จ ทีมงานก็มาเริ่มเซ็ตกล้องเซ็ตไฟเพื่อถ่ายฉากกลางคืนเสร็จประมาณทุ่มนึงก็ย้ายไปถนนอักษะ เค้าติดรถกันไป(แฟนกันขับรถกันมารับ)ที่ถนนอักษะ

พอเราไปถึงก็เห็นเค้าโทรศัพท์อยู่เลยก็เลยไม่อยากเอาหน้าเห่ยๆไปโผล่ให้รำคาญใจก็เลยมาเซตกล้อง DV ติดรถปั้นซักพักเสียง ว. จากพี่นุซึ่งขับรถวนดู location เหมาะๆที่จะใช้ถ่ายฉากกลางคืนให้กองถ่ายย้ายไปอีกจุดนึง ก็เลยย้ายกันไปพอถึงก็เริ่มเซต ตาก็ยังไปเห็นว่าเค้ายังโทรศัพท์อยู่ เราก็ยังทำงานของเราต่อไป

จนซักพักเค้าเดินมาที่เซ็ต(จะมายิงสเลท)ก็มาเล่าให้ฟังด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดประมาณว่าทะเลาะกะพี่คนนั้นเพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่สรุปแล้วเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวพี่คนนั้นจะมารับ เราก็พยักหน้ารับฟังแล้วก็หางานให้ตัวเองทำต่อ ไม่อยากให้ถ่ายเสร็จเร็วเลยวันนี้ แต่ทำไงได้เวลามันหยุดไม่ได้ไม่มี item หยุดเวลาด้วยสิ

ฉากสุดท้ายกำลังจะเริ่มถ่ายเค้าก็ลงมาจาก O.B. เดินลงมามองๆหาแล้วก็บอกว่า มาแล้วแต่ไม่รู้อยู่ไหน ในที่สุดเสียงคัท เช็คเทป และผ่านก็ดังออกมาจากปากพี่นุ เราสั่งเลิกกองใหญ่เหลือแค่ DV แล้วเราก็เดินไปเอากระเป๋าที่รถสวัสดิการเพื่อจะเก็บบท เห็นเค้าเดินนำหน้าไปกับกัน มีผู้ชายรออยู่ 2 คนคนนึงเป็นแฟนกัน(เราเจอที่ร้านคาเฟ่ เดอ ม๊อค ตอนกลางวัน) อีกคนนึงก็คงเป็นพี่ของเค้า เค้าหันกลับมาเห็นเราก็ไหว้ 1 ทีแล้วรีบขึ้นรถไป

เราเก็บของเสร็จก็ไปนั่งรวมกลุ่มรอกับทีมงานคนอื่นๆที่ไม่ได้ไปถ่าย DV บนสะพาน นั่งเฉยๆด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก สุดท้ายก็ sms ไปหาเค้าให้เค้าดูแลตัวเองดีๆ แล้วไม่นานก็มี sms ตอบกลับมาจากเค้า(ดีใจมั่กๆ)มาบอกว่า "Thanks ka take good care 2 na ^.^"

พอแล้ว ได้แค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว ทีม DV กลับมาแล้วเก็บของแยกย้ายกันกลับบ้าน ติดรถเอกกลับบ้านถึงประมาณเกือบๆ 5 ทุ่ม อาบน้ำอาบท่าเสร็จเล่นกับลูก(วันนี้นอนดึกจังก็นั่งดู DVD ตามฟอร์ม) ซักพักกับมาที่ห้องตัวเองจะนอนแล้วแต่สุดท้ายก็ต้องกดโทรศัพท์ไปหาเค้าจนได้

เสียงเค้าสนุกจัง มีความสุขดีก็ดีแล้วแต่เสียงดังมากเลยไม่ได้คุยอะไรกัน เราก็เหนื่อยและเพลียจากสิ่งที่เจอมาทั้งวันเราเลยหลับไปอย่างง่ายดาย หวังไว้กับตัวเองว่าซักวันจะได้ฝันดีๆบ้าง

8.00 น.เสียงนกร้องที่หน้าต่างห้องกับเสียงฆ้อนไม้ที่กระทบกายศาสตร์จากบ้านทำกายศาสตร์ดังแว่วเข้ามาปลุกโสตประสาทให้ตื่นขึ้นมา วันอาทิตย์วันที่ทีมงานทั้งหมดได้หยุดพักผ่อนแต่เราต้องเข้ามาทำคิวถ่ายของเสาร์หน้า และอาจจะจบทั้งคิว

กว่าจะยืดยาดอยู่ที่บ้านก็มาถึงออฟฟิสเกือบเที่ยงมานั่งโหลดรูปจากโทรศัพท์ที่เค้าให้มาเมื่อวานลงคอมแล้วก็มานั่งพิมพ์ diary นี่แหละ ยังไม่ได้เริ่มทำคิวเลยสงสัยคงต้องไปทำก่อน วันนี้ไม่รู้เค้าจะตื่นกี่โมงเดี๋ยวบ่ายๆเย็นๆค่อยโทรไปหาเค้าละกัน ไม่รู้เมื่อคืนเป็นไงมั่ง เอาน่ะเด๋วถ้าโทรเจอแล้วค่อยถามเค้าละกัน ตอนนี้ไปทำงานดีกว่า แล้วเจอกันนะ


May 06


วันศุกร์แล้ว

วันนี้แล้วสิเค้าจะกลับมาแล้ว คิดถึงจังแต่ก็ยังไม่ได้เจอเค้าอยู่ดีกว่าจะได้เจอก็ต้องพรุ่งนี้บ่ายๆละมั่ง เพราะเราต้องไปทำธุระช่วงเช้า เมื่อวานคุยกะเค้าได้รู้ข็อมูลเพิ่มมาอีกอย่างนึงที่เค้าเป็น ไทรอยด์เป็นพิษ หมอห้ามกินคาเฟอีน แต่เค้าก็ยังกินชาเขียว เดี๋ยวค่อยหาข้อมูลว่ามันร้ายแรงแค่ไหน คุยกะเค้าเมื่อคืนชั่วโมงกว่าๆ

เคยสงสัยนะว่าไอ้เอกมันมีเรื่องคุยอะไรกับเมย์นักหนาตอนช่วงแรกๆ ตอนนี้ไม่สงสัยแล้ว เรื่องต่างๆที่อยากคุยมันมาเองแบบไม่ได้คิดล่วงหน้า บางเรื่องเค้าก็เป็นคนเริ่ม แต่ส่วนใหญ่เราจะเริ่มก่อน

เมื่อคืนลองแย๊บๆว่าจะชวนไปทานข้าวเย็น แต่เค้าอยากไปกับเพื่อน ก็เข้าใจได้ไม่ได้เจอเพื่อนตั้งนานนี่ อืมมม..เราก็โอเคล่ะ อยากเจอๆๆๆ คิดถึง ช่วงนี้ต้องเคลียร์งาน ลงคิวถ่ายละครให้เสร็จให้ได้ แล้วเดี๋ยวมีเวลาคงได้มาพล่ามต่อล่ะ

แต่เมื่อคืนเค้าให้โทรไปหา 5 ทุ่มเราก็โทรไป แต่เค้ากำลังคุยกับแม่พอดี เราเลยบอกว่ายิงกลับมาละกัน เค้าก็รับปาก แต่สุดท้ายเค้าก็ไม่ได้โทรมา สงสัยจะง่วง แต่ไม่เป็นไรเพราะเราก็หลับเหมือนกัน เอาล่ะไปทำงานก่อนนัทมันตามแระ


May 05


Endless Love

โหะๆ เมื่อวานโทรไปหาเค้าตอนบ่ายคุยกันนิดนึงก่อนพี่นุจะมาที่ออฟฟิส เมื่อวานทำคิวถ่ายละครไปจนจบเรื่องแล้ว อยากให้ปิดกล้องวันที่ 19 มิย.

มันนานเกินไปแระคาดว่าจะได้ไปปิดกล้องริมทะเลแหงๆ อิอิ กว่าจะทำเสร็จก็ค่ำๆแหละ ทำเสร็จก็โทรไปหาเค้า อิอิ เค้ากะลังซ้อม piano อยู่นี่นาเลยขอให้เค้าเล่นให้ฟัง เค้าก็มีลูกอิดออดประมาณนึง เค้าคงรำคาญที่เราตื้อมากๆเลยเล่นให้ฟัง

กดมาคีย์แรกรู้ทันทีว่าเพลงอะไร"ENDLESS LOVE" เรารักเพลงนี้มากๆ เป็นเพลงที่เราประทับใจ เป็นเพลงสากลเพลงแรกมั้งที่เราหัดร้องแบบประสานเสียงเป็นเพลงคู่ด้วย

เค้าไม่รู้หรอกว่าเราร้องตามไปด้วยเพราะเค้าต้องวางโทรศัพท์ไว้บนหลัง piano ไงพอเล่นจบเรารีบบอกเค้าว่าเรารู้สึกยังไงกับเพลงนี้ คุยกันอีกนิดหน่อยก็วางโทรศัพท์

มานะชวนไปกินข้าวแถวเกษตร-นวมินทร์ อ่ะก็ไปซะหน่อย เบียร์กับจอยก็ไป กว่าจะกลับก็เที่ยงคืนละมั้ง เช้านี้เลยตื่นเกือบ 7 โมงครึ่ง ซวยแระมีนัดที่ออฟฟิส 9 โมงไปดูโลเคชั่น รีบซะพอมาถึงออฟฟิสก็คนแรกเหมือนเดิมเฮ้อ มารอตั้งนานกว่าจะมากันสรุปโลเคชั่นกันได้ซะทีของสัปดาห์นี้

พรุ่งนี้แล้วสิ...เค้าจะกลับมาพรุ่งนี้แล้ว เย้ๆ ดีใจจัง เดี๋ยวค่ำๆโทรไปหาเค้าดีกว่า ตอนนี้ขอทำคิวถ่ายก่อนนะ


May 04


You'll never walk alone

สมใจล่ะหงส์เข้าชิง ดีใจจนบอกไม่ถูก หลังจากที่เมื่อนวานรู้สึกแย่ๆตอนประชุมเรารู้ว่าประสิทธิภาพในการทำงานของเราลดลง แต่เราก็มีเหตุผลที่จะแย่ หลายๆปัจจัยในทีมตอนนี้มาจากไหน ปัจจัยใหญ่คืออะไรเราว่าทุกคนในทีมรู้ดีว่าสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจของทีมงานเกิดจากอะไรบ้าง ไม่มีใครอยากพูดถึงมันเรารู้แต่เพียงว่าเราคงทำให้เต็มที่อย่างที่เราเคยเป็นมา

เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้เมื่อวานหลังประชุมแล้วเรารู้สึกจมดิ่งกับความรู้สึกของตัวเอง สิ่งแรกหลังประชุมที่เราทำคือโทรไปหาเค้า ไม่ต้องการอะไรนักหนา ได้ยินเสียงของเค้าก็ทำให้เรามีแรงฮึดอย่างประหลาด

เค้ามีผลต่อความรู้สึกเรามากขนาดนี้เชียวเหรอ เค้าบอกว่าออน msn อยู่เราก็เลยขึ้นมาคุยกับเค้าทางนี้ก็บอกเค้าไปว่าเกิดอะไรขึ้น คุยอยู่จนเกือบ5 ทุ่มก็ตั้งใจว่าจะกลับบ้าน บอกเค้าไปก่อนกลับว่า "คิดถึง"

เรารู้สึกอยากบอกเค้าจริงๆ เค้าก็หัวเราะ ออกมาจากออฟฟิสก็โทรหาเค้าทีนึง เค้ารับแล้วก็บอกว่าแม่นอนอยู่เราก็เลย ราตรีสวัสดิ์เค้าแล้วก็วางไป เดินๆไปก็เรียก taxi กลับบ้านรถกำลังจะวิ่งออกจาก RCA เราก็เปลี่ยนใจกระทันหันบอกคนขับให้บ่ายหน้าไป โรบินสัน สุขุมวิทแทน

วันนี้ไม่ได้อยากกินเหล้าแต่อยากร้องเพลง ที่เดิมๆของเราที่ๆเราสามารถไปนั่งคนเดียวได้ในทุกอารมณ์ อยากพาเค้าไปจังแต่คงต้องรอไปก่อนซักวันนึงคงมีโอกาสนะแหกปากร้องเพลงไปเรื่อยจนเกือบตี 2 เออ

ลิเวอร์พูลตัดเชือกกับเชลซีนี่นา รีบกลับไปดูดีกว่าระหว่างทางก็นั่งฟังผลทางวิทยุไปเรื่อย แค่ 4 นาที การ์เซียก็เบิกร่องยิงประตูเชลซีแหกปากลั่น taxi ถึงบ้านก็มาลุ้นต่อจนหมดเวลา หัวใจจะวายตายตอนช่วงทดเวลาเจ็บมีความสุขดีกว่าจะข่มตาหลับได้ก็ตี 4 กว่าๆ

ตื่นมา 7 โมงมาดูเฮียยุธดู high light ที่เค้าทำมีความสุขมากๆ วันเสาร์นี้จะมีถ่าย ดีใจนะจะได้เจอเค้า เราเป็นอะไรไปเนี่ย คิดถึงเค้าจังเลย ทำงานดีกว่าเดี๋ยววันนี้จะต้องวางคิวถ่ายจนปิดกล้อง งานหนักอีกแล้ว เจอกันพรุ่งนี้นะ


May 03


จะเจออะไรน๊อวันนี้

ตื่นมาพร้อมกับความกังวล วันนี้จะต้องประชุม มีเรื่องต่างๆมากมายที่บั่นทอนกำลังใจของทีมงาน แต่เอาเถอะ ยังไงก็ต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้ เมื่อคืนดีใจจังเค้าออนไลน์ MSN ได้คุยกันทางนี้ครั้งแรกดีใจมั่กๆ แต่ก็เศร้าๆนะที่ชื่อของเค้าดูเศร้าๆยังไงก็ไม่รู้

แต่จริงๆก็ไม่ได้คุยกันซักเท่าไหร่เพราะนานๆเค้าจะออน พอออนก็ต้องอยากคุยกับเพื่อนๆเค้า แต่ก็ยังดีเค้าชวนไปดูละครเวที thesis ของ ม.ก.ท. คงต้องรอดูผลการประชุมวันนี้แหละแล้วค่อยจัดเวลาของตัวเอง ซัก 4 ทุ่มก็เลยเลิกกลับบ้านนอน

นอนไม่ค่อยหลับเลยอยากคุยกับเค้านะ แต่ก็ไม่อยากกวนเค้ามากแค่อยากให้เค้าหลับฝันดี แค่นั้นเอง


May 02


วันที่ปวดหัวตึ๊บๆ

วันนี้ตื่นมาพร้อมกับหัวที่ปวดร้าว โหยก็เมื่อวานบอกว่าค่ำๆจะกลับมาเขียนต่อไง แต่ให้ตายเหอะ นั่งมองจอคอมที่เต็มไปด้วยปัญหาที่แก้ไม่ได้ ไม่รู้จะลงคิวถ่ายละครยังไง อยู่ๆก็กลายเป็นคนหมดความสามารถไปซะงั้น ก็เลยเผ่นออกจากออฟฟิสไปสิงสถิตย์ที่เดิม

ก่อนออกก็โทรหาเค้ากะลังดินเนอร์กะครอบครัวประมาณ 2 ทุ่มมั้งเค้าบอกให้โทรไปใหม่หลังจากนั้นชั่วโมงนึงก็โอเคอ่ะ เราก็เลยไปนั่งแหกปากร้องเพลงแก้เหงาตามประสาเรา

ไอ้เอกะป้าอ้อก็ไม่มา เฮ้อ!ก็ร้องๆไป สิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นแฮะ เค้ายิงมาหาเรา ดีใจไม่รู้จะบอกยังไงก็คุยไปซะชั่วโมงนึง เพลงไม่ร้องมันแระ แต่ก็มีประมาณคลอๆตามไปเออ เค้าก็ร้องตาม เสียงก็โอเคนะ

เวลาผ่านไปเร็วจังเค้าง่วงนอนแล้วก่อนจะวางสายเลยร้องเพลงกล่อมไปเพลงนึง เจ้าหญิง ที่ป๊อด โมเดิร์นด๊อก ร้องน่ะแหละ ตั้งใจร้องให้เค้าเลยนะ ร้องจบก็ราตรีสวัสดิ์แล้วปล่อยให้เค้าไปนอน

อยากคุยต่อจังแต่ก็โอเคน่ะเค้าให้แค่นี้ก็น่าจะดีใจแล้ว แหมก็เราไม่ใช่ประเภทหล่อเลือกได้นี่นา ร้องเพลงต่อไปเรื่อย ละเลียดเบียร์ไปเรื่อยซักพักก็เจอเพื่อนจนได้

อิอิเจ้าปอม โผล่มาค่อยมีคนคุยด้วยหน่อย ซักพักมีแขกต่างชาติมา(มารู้ทีหลังว่าเป็นคนสิงคโปร์2 สามี-ภรรยา) เค้าจำเราได้แฮะเคยมาเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนมั้ง มาถึงก็ยิ้มให้

ตอนแรกเสี๊ยวเสียวนึกว่าเค้าจะเป็นเสือไบ เหอะๆที่แท้ชอบฟังเราร้องเพลง เค้าก็ร้องดี เราก็ร้องของเราไปเรื่อย จนจะตี 2 สงสัยเมาได้ที่สั่งเบียร์เลี้ยงเราอีกขวด จับชนไปเรื่อยแปร๊บเดียวจากที่ประคองๆกินไปโดนชน 4-5 ทีติดเท่านั้นแหละ อาการออก ซะเลยเห่อเลยเป็นที่มาของการปวดหัวเมื่อเช้านี่แหละ

ลงมาทานอาหารเช้าแล้วพยายามจะนอนต่อแต่สุดท้ายต้องลงมาอาเจียนเอาออก ระหว่างหลับก็มีโทรศัพท์จากนัทมาบอกว่าเลื่อนประชุมไปพรุ่งนี้ สบายเลยได้นอนยาวกว่าจะตื่นก็เกือบบ่าย

ตื่นมาก็ไม่ทำไรกดไปหาเค้าได้คุยกันแป๊บนึงเค้ากะลังทานก๋วยเตี๋ยวปลาอยู่ที่บ้านบึงน่ะ หุหุ หิวเลยเรา วางสายก็ลงมาหาไรใส่ท้องมั่งจัดการอาบน้ำแล้วก็ออกมานั่งที่ร้านเนตปากซอยเนี่แหละ

ไม่รู้สิ เราไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ได้เจอเค้าน่ะ มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกยังไม่รู้เลยว่าต่อไปจะเป็นยังไง เค้าก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรกะเรา ก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลาละกัน


May 01


วันเหงาๆ

โหยยย...ตื่นเช้ามาไม่ต้องทำไร กดโทรศัพท์ 1 ทีไปหาเค้า เฮ้อ...ไม่รับซะนี่นา ไม่เป็นไรตื่นลงมาทำนู่นนี่ เล่นกับลูกชายสุดที่รักซักพักก็อาบน้ำแต่งตัว ออกมาก็หั่นผมทิ้งซะหน่อย อื่ม..มันสั้นไปหน่อยนี่นาช่างมันเด๋วก็งอก เอิ้กๆ

นั่งรถเรื่อยเปื่อยมาออฟฟิส มานั่งทำงานซักพักโทรไปหาเค้าอีก พระเจ้ารับแล้ว บอกให้เค้าไม่ต้องมาประชุมพรุ่งนี้ ทั้งที่อยากให้มาใจจะขาด ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ แต่ก็โอเครู้ว่าเค้ามีความสุขกับครอบครัวก็ดีแระ เสียงเค้าดีใจมากๆเลย หวังว่าค่ำๆคงได้คุยกับเค้าอีก อยากได้ยินเสียงๆๆๆ แค่เสียงก็ยังดี ก็รอไปว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ เด๋วมาพล่ามต่อตอนค่ำๆละกันเน๊าะ




 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2548    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2548 18:26:56 น.
Counter : 170 Pageviews.  


ม้าทิงนองนอย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ม้าทิงนองนอย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.