Ieri, oggi, e domani, c'e sempre e solo l'inter

Glucosamine & Chondroitin Sulfate

Glucosamine เป็นสารตัวหนึ่ง ที่พบได้ตามกระดูกอ่อนทั่วไป (cartilage) หน้าที่หลักของมันคือเป็นสารตั้งต้นในการสร้างโปรทีน glycosaminoglycans (GAG) ที่ทำหน้าที่สร้างกระดูกอ่อน

ในขณะที่ Glucosamine sulfate (GS) เป็นส่วนประกอบของกระดูกอ่อน และส่วนของน้ำไขข้อ (synovial fluid)
และ Chondroitin ก็คือ glycosaminoglycans ที่อยู่ในรูปของเกลือ sulfate นั่นเอง (นิยมเรียกว่า chondroitin sulfate / CS)

ในรูปแบบของอาหารเสริมที่จำหน่ายกันในท้องตลาด GS จะสกัดมาจากเปลือกของสัตว์ทะเล (เช่น กุ้ง หอย ปู ฯลน) ส่วน chondroitin จะสกัดมาจากกระดูกวัว

จากงานวิจัยบางแห่งเชื่อว่า GS และ CS มีประโยชน์ในการบรรเทาอาการปวดเนื่องจากข้อกระดูกอักเสบ (osteoarthritis / OA) โดยเฉพาะในบริเวณหัวเข่า

โดยมีสมมติฐานกันว่า GS ช่วยให้กระดูกอ่อนแข็งแรงและช่วยเพิ่มการสร้าง GAG ซึ่งเป็นโปรทีนที่ทำหน้าที่สร้างกระดูกอ่อน
ส่วน CS ก็เชื่อว่า ช่วยลดการสร้างเอนไซม์ที่ทำลายกระดูกอ่อน และมีฤทธิช่วยต้านการอักเสบได้ ทำให้ลดการใช้ยาแก้ปวดที่ใช้กันในโรคนี้ลงได้

ฟังดูแล้ว การใช้ GS + CS ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ใช้ในการรักษา OA ได้ แต่ทว่า...

งานวิจัยส่วนใหญ่ที่บอกว่าได้ผลนั้น ทำการวิจัยโดยผู้ผลิตอาหารเสริมนั่นเอง ซึ่งหลายๆอันนั้น ไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือทางวิชาการ โดยเฉพาะในประเด็นของการวินิจฉัยและประมวลผลของอาการปวด, การ double-blind control และการ random ผู้ป่วย

ในขณะที่งานวิจัยที่ทำโดยคนอื่น กลับไม่พบว่าการใช้ GS + CS จะมีประโยชน์แต่อย่างใด

โดยเฉพาะที่ทำโดย NIH ของ USA ในปี 2006 (ซึ่งเป็นอันที่ดีที่สุดในปัจจุบัน) ทดลองในผู้ป่วย 1583 คน ใช้ระยะเวลา 6 เดือน โดยแบ่งผู้ป่วยเป็น 5 กลุ่มคือ
1. ได้รับ glucosamine HCl (เกลืออีกรูปแบบหนึ่งของ glucosamine)
2. ได้รับ CS
3. ได้รับทั้ง glucosamine และ CS
4. ได้รับ celecoxib (ยารักษาอาการ OA ที่ใช้กันทั่วไป)
5. ได้ยาหลอก
ผลการวิจัยพบว่า glucosamine และ CS (ทั้งแบบใช้เดี่ยวๆ และใช่ร่วมกัน) ไม่ได้มีผลลดอาการปวดไปมากกว่าการได้รับยาหลอกเลย
ในขณะที่กลุ่มที่มีผลลดอาการปวดจริงๆ มีเพียงกลุ่มที่ได้รับยา celecoxib เท่านั้น

ปล. มีบางคนแย้งว่า งานวิจัยนี้ไม่ดีเพราะไม่ได้ใช้ glucosamine ในรูปแบบ sulfate

นอกเหนือจากนี้ งานวิจัยเกือบทั้งหมด เป็นการศึกษาในระยะเวลาใช้ยาที่ไม่นาน ส่วนใหญ่ไม่เกิน 2 ปี ดังนั้น การจะพิสูจน์ว่าทั้ง GS และ CS จะมีประโยชน์จริง คงต้องรอการศึกษากันต่อไป

อีกปัญหาหนึ่งที่พบคือเรื่องของขนาดการใช้ที่แน่นอน เพราะขึ้นกับคนวิจัยเป็นใหญ่ ไม่มีขนาดการใช้ที่เป็นมาตรฐานรับรองว่า กินเท่าไรถึงจะพอ, กินเท่าไรไม่เกิดผล หรือกินเท่าไรแล้วจะมากเกินความจำเป็น

ถึงอย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ทางสมาคม OsteoArthritis Research Society International และทาง European League Against Rheumatism ต่างก็ยอมรับการใช้ทั้ง 2 ตัวในการรักษาอาการ OA แล้ว

ขนาดที่ใช้ในการรักษาโรค(ตามงานวิจัยทั่วไป ไม่ได้เป็นมาตรฐาน)
GS 500 mg วันละ 3 ครั้ง
CS 200-400 mg วันละ 2-3 ครั้ง หรือ 800-1200 mg วันละครั้ง

ความปลอดภัยในการใช้
ปกติแล้วทั้ง 2 ตัว ค่อนข้างปลอดภัยในการใช้ ถึงแม้ว่า GS จะสกัดมาจากสัตว์ทะเล (ซึ่งมีคนบางคนแพ้อาหารพวกนี้) แต่สารที่ทำให้แพ้นั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนเนื้อ ไม่ค่อยพบในส่วนของเปลือกที่นำมาสกัด

นอกจากนี้ยังไม่พบรายงานว่าจะทำให้เกิดการแพ้ หรืออันตรายร้ายแรงอื่นๆ

แต่ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งที่กล่าวว่ามันปลอดภัย เป็นเพียงเพราะว่า มันไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยา การศึกษาด้านความปลอดภัย จึงเข้มข้นน้อยกว่าเรื่องยา นั่นคือยังไม่มีรายงานยืนยันชัดเจนว่าจะปลอดภัยเมื่อใช้ในขนาดสูงๆ หรือใช้เป็นเวลานานๆ รวมทั้งความปลอดภัยในการใช้ขณะตั้งครรภืหรือให้นมบุตรก็ไม่มีด้วย

Update
เมื่อเดือนก.พ. ปี 2008 มีรายงานว่าผู้ใช้ยา warfarin (ยาต้านการแข็งตัวของเลือด) ร่วมกับ glucosamine อาจทำให้เกิดระดับยาสูงขึ้น จนเกิดเลือดออกในลูกตา, ไอเป็นเลือด หรือมีจุดเลือดออกตามผิวหนังได้

สรุป
การใช้ GS และ CS ยังคงไม่มีงานวิจัยที่มายืนยันผลแบบน่าเชื่อถือ และขนาดการใช้ก็ยังไม่มีมาตรฐานที่แน่นอน ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ต้องไปหามาใช้ก็ได้ ไม่จำเป็น ถ้าคิดว่ามีเงินเหลืออยากใช้ก็ใช้ได้เพราะค่อนข้างปลอดภัย (จนกว่าจะมีรายงานว่าไม่ปลอดภัย)


Create Date : 05 มีนาคม 2551
Last Update : 2 พฤษภาคม 2551 17:01:19 น. 1 comments
Counter : 8734 Pageviews.  

 
ขอบคุณนะคะ อยากรู้อยู่พอดีเลยค่ะเรื่อง glucosamine เพราะซื้อไปฝากแม่แล้วแม่ติดใจมาก พยายามค้น paper ก็ไม่เห็นว่ามันจะมีวิจัยอะไร support เท่าไหร่ แต่ก็เห็นหมอเค้าสั่งกันนะคะ


โดย: ลูกแม่ดอกบัว วันที่: 10 มีนาคม 2551 เวลา:8:26:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Marquez
Location :
Milano Italy

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




A te che sei il mio grande amore Ed il mio amore grande
A te che hai preso la mia vita E ne hai fatto molto di più
A te che hai dato senso al tempo Senza misurarlo
A te che sei il mio amore grande Ed il mio grande amore

[Add Marquez's blog to your web]