Business, Management, Skill, Experiences--แลกเปลี่ยน เรียนรู้ แบ่งปัน ประสบการณ์ บริหาร และอื่น ๆ
Group Blog
 
All blogs
 

วิธีอยู่เหนือดวงชะตา


วิธีอยู่เหนือดวงชะตา



(วิธีอยู่เหนือดวงชะตา โดยเฉพาะเวลาดวงตก หรือ ป่วยใกล้ หมดอายุ)

๑. รักษาศีล ๕ ตลอดชีวิต (หาโอกาสถือศีล ๘ หรือ ศีลอุโบสถบ้างในวันพระ)

๒. ถวายสังฆทานเป็นประจำ หรือบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าดวงกำลังตกหรือมีเคราะห์หนัก ภายใน ๓ วัน ต้องไม่ต่ำกว่า
๗ วัด ถ้าได้ ๙ วัดจะยิ่งดี ถ้า ได้มากกว่านั้นจะดีเลิศ

๓. ปล่อย โค กระบือ นก ปลา เต่า หอยขม หอยโข่ง หรือสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่า ฯลฯ โดยด่วน

๔. ทำบุญ ใส่บาตรพระ ทุกวัน อย่างน้อยวันละ ๑ รูป หรือ ถ้าได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี

๕. นั่งสมาธิ ให้ได้ก่อนนอนทุกคืน สวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น เป็นประจำ สม่ำเสมอ

๖. ตอบแทนบุญคุณพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และผู้มีพระคุณ ให้ท่านชื่นใจทุกวิถีทาง เท่าที่สามารถจะกระทำได้เพราะ
ทำบุญกับท่านเหล่านี้จะให้ผลมาก

๗. สงเคราะห์คนชราที่เร่ร่อน ขาดคนอุปถัมภ์ เลี้ยงดู เด็กกำพร้า เด็กพิการ ผู้ด้อยโอกาส ฯลฯ สม่ำเสมอ

๘. สงเคราะห์ญาติมิตรที่ลำบาก คนยากจน คนตกงานโดยเต็มใจ และเมตตา อย่างจริงใจ และฝึกการเป็นผู้ให้ จนติด
เป็นนิสัย

๙. มีความจริงใจ บริสุทธิ์ใจกับทุกๆคน ให้อภัยผู้อื่นเสมอ ให้มองหาแต่ความผิดความบกพร่องของตนเอง และพยายามแก้
(ข้อนี้สำคัญที่สุด) คนเลว คนชั่ว จะมองหาแต่ความผิด ความเลวของผู้อื่น

๑๐. ไม่นินทาว่าร้าย อิจฉาริษยาผู้อื่น เมื่อเขาผิดพลาด หรือได้ดีกว่าตน มองแต่ความผิดพลาดของตนเองและพยายามแก้ไข ๑๑ การกล่าวโทษว่าร้ายผู้อื่น ถ้าแม้จะจริงก็ตาม เราก็จะได้รับผลตามที่ติเตียน หรือกล่าวร้ายเขาหนักยิ่งกว่าหลายเท่า

๑๒. ไม่ถือสา โกรธเคืองผู้ใด หรือผูกอาฆาต พยาบาท จองเวรใคร เพราะผู้ที่ทำให้เราโกรธ หรือไม่พอใจ นั้น เขาได้ทำบาป
ทำผิด อยู่แล้วที่มีพฤติกรรมเช่นนั้น ถ้าเราโกรธตอบ แสดงว่าเราก็เช่นเดียวกับเขา และแย่ยิ่งกว่าเขา สองเท่า เพราะรู้
แล้วยังทำ ให้แผ่เมตตาหรือทำเฉยๆ เสีย อย่าเอาใจใส่

๑๓. ให้พยายามทำใจให้รักและเมตตาสงสารคน และสัตว์ทุกๆ คน เพราะเขาเกิดมาก็เป็นทุกข์ เช่นเดียวกับเรา คือทุกข์
เพราะการเกิด ความแก่ ความเจ็บป่วย ความตาย ความพรัดพรากจากของรัก ความไม่สมหวัง ในสิ่งที่ปรารถนา (ได้มา
แล้วย่อมเสียไป) เป็นเช่นนั้นทุกๆ สรรพสิ่งในโลก

๑๔. ทุกครั้งที่ทำความดี จะรู้สึกมีความสุข อิ่มใจ สดชื่น แจ่มใส ขณะนั้นบุญกุศลเกิดเต็มเปี่ยม จงแบ่งความสุขเหล่านั้น คือ
ผลบุญที่ทำให้เจ้ากรรมนายเวร โดยการไม่ลืมอุทิศผลบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรทุกๆ ครั้งด้วย และแถมท้ายด้วยการ
ขออโหสิกรรมกับเขาด้วย เสร็จแล้ว แผ่เมตตา อุทิศผลบุญกุศลให้กับพ่อ แม่ ผู้ที่มีพระคุณต่อเราทุกๆ คนด้วย บุญของเรา
ก็จะแผ่ไพศาลกว้างไกล อยู่เหนือดวงชะตาในที่สุด

ขออานิสงส์ของการเผยแพร่บทความนี้จงส่งผลให้ผู้ที่เผยแพร่ทั้งหลาย โชคดี มีความเจริญ คิดสิ่งใดที่ดีงามขอให้สมหวังดังปรารถนาทุกประการ มีดวงตาเห็นธรรม ในการที่จะดำเนินชีวิตที่มีความสุขกาย สุขใจ ประสบแต่สิ่งที่ดีงาม เพื่อสังคม เพื่อประเทศไทย เพื่อโลกจะได้มีสันติสุข


ที่มา: FWD Email




 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 24 พฤษภาคม 2552 0:09:35 น.
Counter : 1414 Pageviews.  

มหัศจรรย์แห่งชีวิต... หลักคิดจากท่าน ว.วชิรเมธี

มหัศจรรย์แห่งชีวิต... หลักคิดจากท่าน ว.วชิรเมธี



โดย
ว. วชิรเมธี



๑. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน?
ไม่อยากให้เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูก
ให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ

๒. ไหว้พระขอพรอะไรดี?
(๑) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด
(๒) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง
(๓) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว
(๔) ขออย่าให้ตายในสงคราม ระหว่างคนไทยด้วยกันเอง

๓. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดีี?
ปลาที่ยังเป็นอยู่ ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ
ส่วนปลาตาย มักไหลตามน้ำ
ปัญหาทำให้คนธรรมดาท้อ แต่ทำให้คนมีปัญญาลุกขึ้นมาแก้ไข

๔. ทะเลาะกับแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน?
งานส่วนงาน แฟนส่วนแฟน
รู้จักแบ่งเวลาให้งาน รู้จักแบ่งเวลาให้แฟน
อย่าเสียงานเพราะแฟน อย่าเสียแฟนเพราะงาน

๕. โกรธ! ถูกเพื่อนนินทา?
โบราณว่าไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว
คุณถูกนินทาแสดงว่าคุณยังมีความหมาย
คุณเป็นคนโชคดี จู่ๆ ก็มีกระจกวิเศษสะท้อนความอัปลักษณ์
ให้เห็นความบกพร่องของตัวเอง

๖. จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กทำอย่างไรดี?
(๑) ถามตัวเองว่าเราดีกับเขาพอหรือยัง
(๒) ระหว่างเรากับกิ๊กมีข้อดีข้อด้อยต่างกันตรงไหน
(๓) ถามแฟนว่าจะเลือกใครก็รีบทำ
ไม่รักฉัน อย่าทำให้ฉันเสียเวลา

๗. โดนเพื่อนร่วมงานแย่งซีนทำอย่างไร?
เขาแย่งจากเราได้เพียงแค่ซีนและภาพลักษณ์เท่านั้น
แต่เขาไม่สามารถแย่งความรู้และความสามารถไปจากเราได้

๘. งานเยอะมากทำอย่างไรดี?
(๑) รู้ว่างานเยอะต้องรีบทำ
(๒) อย่าดองงานข้ามปีข้ามชาติ
(๓) เรียงลำดับความสำคัญของงาน
สำคัญก่อนให้รีบทำ สำคัญน้อยค่อยทยอยทำ

๙. ทำงานดี มีแต่คนริษยา จะรับมืออย่างไร?
โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม
คนเด่นต้องมีคนด่า คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี
คนทำงานดีจึงมีคนริษยา ปรากฏการณ์เช่นว่านี้< BR>เป็นของธรรมดา ทำงานดีจนมีคนริษยา
ยังดีกว่าทำงานไม่ดี จึงเป็นได้อย่างดีแค่คนที่คอยริษยา

๑๐. ทำงานแทบตาย เงินไม่พอใช้ ทำอย่างไรดี?
(๑) หางานใหม่
(๒) ลดความต้องการให้น้อยลง อยู่กับความจริงให้มาก
(๓) บริโภคปัจจัยสี่โดยมุ่งประโยชน์ อย่ามุ่งประดับ
(๔) ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รับมากกว่าจ่ายจึงนับว่ายอด
จ่ายมากกว่ารับนับว่าแย่

๑๑. ถูกนายด่า อารมณ์เสีย?
คนที่ด่าคนอื่นสะท้อนว่าระบบข้างใจกำลังพัง
คนอารมณ์เสียเพราะถูกด่า
แสดงว่าระบบของตัวเองก็พังตามไปด้วย

๑๒. ไถ่ชีวิตโคได้บุญมากไหม?
ถ้าไถ่แล้วโคอยู่รอด คุณได้บุญ
แต่หากไถ่เพื่อทำให้วัดอยู่รอด คุณได้บาป
แทนที่จะไถ่โคกระบือ
คุณควรไถ่ตัวเองให้พ้นจากความโลภ โกรธ หลง ดีกว่า

๑๓. แฟนติดหนังเกาหลี ดูทั้งคืนไม่ยอมนอน?
ขอให้คิดว่าอย่างน้อยเธอยังนั่งดูอยู่ในบ้าน
ถึงเธอจะติดหนังเกาหลี ก็ยังดีกว่าติดผู้ชายขี้หลีที่อยู่นอกบ้าน

๑๔. ลูกค้าจู้จี้ทำอย่างไรดี?
มีลูกค้าจู้จี้ยังดีกว่าวันทั้งวันไม่มีใครแวะเวียน
ผ่านมาเยี่ยมเยียนถึงในร้าน
ลูกค้าจู้จี้ได้ แต่คุณต้องทำให้เขาประทับใจเอาไว้เสมอ

๑๕. ไปงานวันเกิดควรได้อะไร?
(๑) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร
(๒) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาจากใคร
(๓) ได้ถามตัวเองว่า เรากตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดแล้วหรือยัง

๑๖. สวดมนต์บทไหนดี?
(๑) สวดพุทธคุณเพื่อเตือนว่า จงเป็นผู้ตื่น
(๒) สวดธรรมคุณเพื่อเตือนว่า
จงเว้นสิ่งที่ควรเว้น จงทำสิ่งที่ควรทำ
(๓) สวดสังฆคุณเพื่ อเตือนว่า พระอรหันต์ที่แท้
คือพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเรานั่นเอง

๑๗. สามีไม่สนใจธรรมะเลยทำอย่างไรดี?
(๑) เราควรมีธรรมะให้เขาดู
(๒) เราควรอยู่ให้เขาเห็น
(๓) เราควรสงบเย็นให้เขาได้สัมผัส
เนื่องเพราะ หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด

๑๘. โดนขับรถปาดหน้า โมโหมาก?
(๑) บอกตัวเองว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ด่าคือมาร ระรานคือบาป
(๒) เปลี่ยนการด่าเป็นการแผ่เมตตาให้เขาถึงที่หมายโดยปลอดภัย
(๓) เตือนตนไว้ว่า อย่าขับรถปาดหน้าใคร เพราะอาจมีอันตรายรอบด้าน

๑๙. อยู่ในกลุ่มเพื่อนชอบนินทาจะตีจากดีไหม?
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า
ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับ เขา แสดงว่าเราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน

๒๐. ทำไมมักเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจอยู่เสมอ?
ผู้รู้บอกว่า ศิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูดีๆ ยังมีศิลป์
ดังนั้น ในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ย่อมมีแง่มุมที่คุณชอบอย่างแน่นอน



ที่มา: FWD Email




 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 16 พฤษภาคม 2552 15:15:27 น.
Counter : 415 Pageviews.  

ธรรมทานชนะการให้ทานอื่นทั้งปวง



ธรรมทานชนะการให้ทานอื่นทั้งปวง


ที่มา: FWD Email



ในพระธรรมบทพระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ สพพทานํ ธมมทานํ ชินาติ ธรรมทานชนะการให้ทานอื่นทั้งปวง แล้วอย่างไรบ้างจึงเรียกว่า "ธรรมทาน"

ทานกุศลแบ่งออกเป็น 2 วิธีใหญ่ๆ คือ 1. อามิสทาน 2.ธรรมทานและอภัยทาน




อย่างไรจึงเรียกว่า ธรรมทาน ?

ปฏิบัติ ธรรมเองเพื่อชำระกิเลสออกจากกาย วาจา ใจของตนเอง ตั้งตนอยู่ในคุณความดี เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น เรียกว่าแจกธรรมะ ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้ที่ดำเนินชีวิตประจำวันพูดแต่คำ พูดไม่ดี ทำแต่กรรมที่ไม่ดี คิดแต่ความคิดที่ไม่ดีมาตลอด ประพฤติปฏิบัติตัวอย่างที่เลวแก่ผู้อื่น ชื่อว่าแจกอธรรม

ธรรมทาน ต้องปฏิบัติเองเพื่อละชั่ว ทำดี ทำใจให้ใส เพื่อชำระกิเลสหยาบ กลาง และละเอียดๆ ยิ่งขึ้นไปถึงวิสุทธิ คือ ความบริสุทธิ์แห่งใจ แล้วจึงจะพบสันติสงบ และจะถึงนิพพานคือความดับกิเลสไม่มีเหลือ

จะถึงนิพพานต้องเป็นลำดับจนถึงที่สุดอย่างถาวรนี่เรียกว่าธรรมทาน

เบื้องต้นเป็น ปฐมคือทำความดี ละชั่ว ทำใจให้ใสเองทั้งหมด และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น แล้วยังให้การแนะนำสั่งสอนอบรมผู้อื่น ให้ประพฤติปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตามพระธรรม พระวินัย และสนับสนุนอุปการะแก่ความประพฤติปฏิบัติดีปฏิบัติชอ บเช่นนั้นของบุคค หรือคณะบุคคล ผู้ที่กำลังเพียรประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อชำระกิเลสแห ่งทุกข์นั้นให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ตรงนี้ก็ยิ่งด้วยธรรมทานไปอีก



อย่างไรเรียก อภัยทาน ?

ก็ เมื่อบุคคลเจริญธรรมขึ้นด้วยทานกุศล ศีลกุศล และภาวนากุศล เพื่อละชั่ว ทำดี ฝึกอบรมจิตใจให้ผ่องใสและอบรมปัญญาให้บริสุทธิ์ยิ่งข ึ้นเพียงใด ความเข้าใจ ความซึ้งใจในบาปบุญคุณโทษก็เจริญมากขึ้น

และพรหมวิหาร ธรรมอันมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ก็เจริญขึ้นเป็นบุญบารมี เป็นเมตตาบารมี และ อุเบกขาบารมี อุปบารมี และ ปรมัตถบารมียิ่งขึ้นเพียงนั้น

ความเห็นอกเห็นใจเข้าใจในความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของส ัตว์โลกผู้ยังมีจักษุอันมืดบอดด้วยความหลงผิด จึงคิดผิด พูดผิด ทำผิดๆ ในเราก็มีมากขึ้น ความรักปรารถนาให้สัตว์โลกเป็นสุขด้วยเมตตาพรหมวิหาร ธรรม และความเวทนาสงสารปรารถนาให้สัตว์โลกให้พ้นจากความทุ กข์ด้วยกรุณา พรหมวิหารธรรม แม้จะถูกกร้าวร้าว ปรามาส ล่วงเกิน และถูกก่อกรรมทำเข็ญแก่ตนมาแล้วมาก จากทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคตเพียงใด ย่อมไม่ติดใจโกรธพยาบาทยิ่งขึ้น และสามารถอดทน อดกลั้นต่อความก้าวร้าว ปรามาส ล่วงเกิน ความเบียดเบียนจากสัตว์โลกทั้งหลายผู้ล่วงเกิน และผู้เบียดเบียนโดยรอบทั้งหลายเหล่านั้น ได้มากขึ้นเพียงนั้น จนถึงวางใจเป็นอุเบกขาไม่ยินดี ยินร้ายได้มั่นคง นี้ชื่อว่า อภัยทาน จัดเป็นทานอันเยี่ยมยอดไปอีก



ธรรมทาน คืออะไร

ธรรมทาน คือ การให้คำแนะนำสั่งสอนสิ่งที่ดี บอกศิลปวิทยาที่ดีที่มีประโยชน์ในการดำเนินชีวิต เป็นเหตุให้มีความสุข รวมถึงการอธิบายให้รู้และเข้าใจในเรื่องบุญบาป ให้ละสิ่งที่เป็นอกุศล ดำรงตนอยู่ในทางกุศล ซึ่งจะนำพาตนให้สะอาดบริสุทธิ์ หมดจดจากกิเลสอาสวะทั้งปวงได้

ประเภทของธรรมทาน


ธรรมทาน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ วิทยาทาน และ อภัยทาน


1. วิทยาทาน
วิทยาทาน คือ การให้ความรู้ ยังแบ่งออกได้อีกเป็นวิทยาทานทางโลก และวิทยาทานทางธรรม

วิทยาทานทางโลก คือ การสั่งสอนให้เกิดความรู้ความสามารถในเชิงศิลปวิทยาการ เพื่อนำไปประกอบสัมมาอาชีพเลี้ยงชีวิต และสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ด้วยความสะดวกสบายทุกอย ่าง ดังนั้นทางพระพุทธศาสนาได้จัดความรู้ว่าเป็นขุมทรัพย ์อย่างหนึ่ง ชื่อ องฺคสมนิธิ แปลว่า ขุมทรัพย์ติดตัวได้ บุคคลผู้มีความรู้ดี จึงเปรียบได้ว่ามีขุมทรัพย์ติดตัวไป ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เชื่อมั่นได้ ว่าจะสามารถใช้ปัญญารักษาตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยได้ แน่นอน


วิทยาทานทางธรรม (จัดเป็นธรรมทานแท้) คือ การให้ความรู้ที่เป็นธรรมะนั้นยิ่งเป็นสิ่งที่ประเสร ิฐ ด้วยเหตุที่ว่า การดำเนินชีวิตของแต่ละคนนั้น ถ้าขาดเสียซึ่งหลักธรรม ชีวิตก็จะพบแต่ความทุกข์ เดือดร้อน ผิดหวังตลอดไป ต่อเมื่อได้ยินได้ฟังธรรม และนำมาประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้องเหมาะสม ย่อมเกิดความเจริญงอกงามในชีวิตของตน ทำให้จิตใจปลอดโปร่ง สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ในที่สุดก็ทำให้รู้แจ้งเห็นแจ้งในพระธรรมคำสอนของพระ สัมมาสัมพุทธเจ้า และเข้าถึงความสุขที่แท้จริงได้

การให้คำสอนที่ถูกต้องที่เป็นธรรมะนั้น เปรียบได้กับการให้ขุมทรัพย์ที่เป็นอมตะติดตัวไว้ หรือให้ประทีปแสงสว่างที่คอยติดตามไป ดังนั้น บัณฑิตทั้งหลายจึงกล่าวว่า การ ให้ธรรมทาน เปรียบเหมือนการให้ ขุมทรัพย์ หรือประทีปที่จะเป็นเครื่องส่องทางชีวิต ให้ดำเนินไปในทางที่ถูกต้องดีงาม นำชีวิตไปสู่ความสุขความเจริญ


และเมื่อยังต้องเวียนว่ายตาย เกิดอยู่ในวัฏสงสาร ย่อมเป็นผู้ไม่ตกต่ำ มีชีวิตที่ดีงาม ได้เกิดในสุคติภพ เมื่ออบรมบ่มบารมีแก่กล้าแล้ว ย่อมสละละกิเลสได้โดยสิ้นเชิง เข้าถึงพระนิพพานได้ เพราะเหตุนี้ พระผู้มี-พระภาคเจ้าจึงตรัสว่า การให้ธรรมะย่อมชนะการให้ทั้งปวง


2. อภัยทาน

อภัยทาน คือ การให้ความปลอดภัย ให้ความไม่มีภัยแก่ตนและผู้อื่น ไม่ถือโทษโกรธเคืองในการ ล่วงเกินของผู้อื่น ไม่มีเวร ไม่ผูกเวรกับผู้ใด ทั้งยังมีจิตเมตตาปรารถนาดีต่อผู้อื่นเป็นนิตย์


การให้อภัย เป็นการให้ที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เป็นการให้ที่ง่าย แต่ที่บางคนทำได้ยาก เพราะมีกิเลสอยู่ในใจ ต้องอาศัยการฟังธรรม ประพฤติปฏิบัติธรรมบ่อยๆ จนเกิดความเข้าใจแจ่มแจ้ง เห็นคุณ ประโยชน์ของการให้อภัย แล้วจะให้อภัยได้ง่ายขึ้น

หากมองเผินๆ จะดูเหมือนว่าการให้อภัยเป็นการให้ประโยชน์สุขแก่ผู้ อื่น ทำให้ผู้อื่นมีความสุขสบายใจ แต่แท้ที่จริงแล้ว ผู้ที่ได้รับประโยชน์สุขมากที่สุดก็คือตนเอง เพราะทุกครั้งที่ให้อภัยได้ จะรู้สึกปลอดโปร่ง เบากายเบาใจ สดชื่นแจ่มใส มีความสุข

นอก จากนี้ การช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในอันตรายให้ปลอดภัย หรือพ้นจากอันตรายนั้นได้ เช่น การช่วยปล่อยสัตว์ที่เขาจะนำไปฆ่าให้พ้นจากการถูกฆ่า ดังประเพณีปล่อยสัตว์ปล่อยปลา ก็นับว่าเป็นอภัย ทานเช่นกัน เพราะได้ให้ความไม่มีภัย ให้ความเป็นอิสระแก่สัตว์เหล่านั้น
การให้ความ ปลอดภัย ให้ความไม่มีเวรไม่มีภัยแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยการไม่เบียดเบียน จัดเป็น การให้ที่สูงขึ้นไปอีก พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสเรียกว่า มหาทาน ซึ่งท่านจัดไว้ในเรื่องศีล

ส่วน การให้อภัย คือ ทำตนเป็นผู้ไม่มีภัยกับตนเอง ใครที่สามารถสละภัย คือโทสะออกจากใจได้ มีจิตใจสงบ สะอาด จิตจะประกอบไปด้วยเมตตา เมื่อทำไปแล้วถึงระดับหนึ่ง จัดว่าเป็นการภาวนา ที่ เรียกว่า เมตตาภาวนา ซึ่งมีอานิสงส์สูงยิ่ง


อานิสงส์ของธรรมทาน

ธรรมทานนี้มีอานิสงส์มาก ดังที่มีการพรรณนาคุณไว้ในอรรถกถาธรรมบท 1 ว่า
แม้ ทายกจะถวายจีวรอย่างดีที่สุดแด่พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันตเจ้าทั้งหลาย ที่นั่งติดๆ กันเต็มห้องจักรวาลนี้ ก็ยังมีอานิสงส์น้อยกว่าการอนุโมทนาของพระพุทธเจ้า ด้วยพระคาถาเพียง 4 บาท และจีวรทานนั้นมีค่าไม่ถึงเศษส่วน 16 แห่งพระคาถาที่พระพุทธองค์ทรงอนุโมทนา


แม้ทายกจะถวายโภชนะข้าวสาลี กอปรด้วยสูปะพยัญชนะ (แกงและกับข้าว) อันประณีต เป็นต้น ให้เต็มบาตรพระพุทธเจ้าก็ดี จะถวายเภสัชทาน มี เนยใส เนยเหลว น้ำผึ้ง เป็นต้น ให้เต็มบาตรพระพุทธเจ้า ที่นั่งติดๆ เต็มห้องจักรวาลก็ดี ยังมีอานิสงส์น้อยกว่าธรรมทานที่พระพุทธเจ้าอนุโมทนา ด้วยพระคาถาเพียง 4 บาท


จัก ไม่กล่าวคำที่กระทบตนและผู้อื่น คือไม่แสดงธรรมโดยยกความดีของตัวเองเพื่อโอ้อวด หรือ ยกความผิดพลาดหรือจุดด้อยของคนอื่นขึ้นมาเป็นเหตุเพื่อประจานความผิด หรือกล่าวล้อเลียนเขา ต้อง กล่าวมุ่งอธิบายธรรมะจริงๆ และหากต้องยกตัวอย่างประกอบในการอธิบายเพื่อความเข้า ใจในธรรมนั้น ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้ผู้อื่นเสียหายได้


ผู้ ที่จะให้ธรรมทาน พึงตั้งอยู่ในองค์คุณดังกล่าวมานี้ จะยังประโยชน์ใหญ่ อานิสงส์ยิ่งใหญ่ให้เกิด ขึ้นกับผู้แสดงธรรมได้อย่างเต็มที่ ทำให้ผู้แสดงธรรมได้บุญกุศลมหาศาล ดังพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัส สรรเสริญว่า บุคคลให้ธรรมเป็นทาน โดยไม่ปรารถนาลาภสักการะ ย่อมมีอานิสงส์ประมาณมิได้




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 11 พฤษภาคม 2552 15:24:15 น.
Counter : 1536 Pageviews.  

ไหว้พระหน้าคอมพ์แล้วทำใจสงบ กับสมาธิดอทคอมเริ่มวิสาขบูชานี้


ไหว้พระหน้าคอมพ์แล้วทำใจสงบ กับสมาธิดอทคอมเริ่มวิสาขบูชานี้


((( เดี๋ยวนี้ .... อะไร อะไร ก็ ... Online! แม้แต่ไหว้พระ ก็ Online! ... แต่ก็ ... ดีครับ )))


"สาธุๆ มาไหว้พระออนไลน์กัน" คำเชิญชวนที่ปรากฏอยู่หน้าจอคอม พิวเตอร์ ในวันวิสาขบูชานี้ ถ้าไม่มีโอกาสหรือ ขี้เกียจออกจากบ้าน แล้วนั่งจุมปุ๊ก ทำนั่นทำนี่ ท่ามกลางชีวิตดิจิตอล


ก็ไม่ควรพลาด... ที่จะมีจิตภาวนา ทำบุญไหว้พระในเทศกาลพระจันทร์เต็มดวง หรืออาจจะเป็นวันอื่นๆ ก็ได้ เมื่อคิดจะพึ่งพิงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือใช้โอกาสทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ภาวนาให้ผ่านพ้นวิกฤตทั้งหลายทั้งปวง


ทั้งหมดนี้มีเว็บไซต์ "ไหว้พระหน้าคอมพ์" (Worship infront of your computer) url : //www.polyboon.com/worship/inside/ worship06.html ซึ่งเป็นภาคหนึ่งใน "โครงการผู้ก่อการดี" ทำขึ้น รายละเอียดหน้าเว็บไปถึงเนื้อภายใน ก็ประกอบด้วยสถานที่ บทสวด ดอกไม้ให้เลือกถวาย ฯลฯ


สำหรับเนื้อหามีตั้งแต่ให้เลือก "สถานที่" ที่จะไปไหว้พระได้ ทั้งวัดพระแก้ว ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง วัดโพธิ์ วัดเกาะลอย จ.ชลบุรี ภาพหลวงพ่อพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ พระวิหาร วัดตองปุ และอีกมากมายทั่วทุกภูมิภาคของไทย



เลือก "บทสวดมนต์ต่างๆ" มีสารพัดบท ทั้งเลือกสวด หรือเลือกฟังบทสวด เช่น คาถาชินบัญชร และพระคาถามงคล 38 ประการ บทสวดพุทธมงคลชัยคาถา ฯลฯ


เลือก "ดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา" โดยแสดงความหมายไว้อย่างชัดเจน เช่น เลือกดอกกล้วยไม้ เป็นดอกไม้ที่ให้ความสุข ความสดชื่น ดอกดาวเรือง บูชาเพื่อความเจริญรุ่งเรือง เป็นต้น


วิธีดำเนินการก็บอกเป็นขั้นเป็นตอน 1.คลิกเมาส์จุดธูปเทียนอธิษฐานจิตให้ดี ... 2.นำเมาส์ลากทองเปลวไปปิดที่องค์พระ....3..นำเมาส์จับพวงมาลัยหรือ ดอกไม้มาบูชาพระ (เมาส์คลิกแจกันเพื่อซ่อนโคนดอกไม้) ... 4.เลือกสวดมนต์ และพระคาถาตามต้องการ


ถัดจากนั้น เมื่อสวดมนต์ไหว้พระ สร้างความอุ่นใจแล้ว รู้สึกเริ่มซึ้งกับความเงียบสงบใกล้เข้ามาอีกนิด มีเว็บ "สมาธิดอทคอม" url : //www.samathi.com เลือกที่จะเรียนรู้แบบง่ายๆ และบอกความสำคัญของการจะทำให้ "ใจ" สงบนิ่ง


ทั้งนี้ ในแต่ละวันมีคนไทยโดยเฉพาะกลุ่มคนไทยที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ต้องการกำลังใจ เพื่อได้คลายความคิดถึงบ้านเกิด คลายความเหงา ความทุกข์ และที่สำคัญทำให้พวกเขามีสติ ที่จะเผชิญกับทุกปัญหาที่เข้ามาในชีวิต


ขณะที่ผู้จัดทำ ไหว้พระหน้าคอมพ์เป็นส่วนหนึ่งในโครงการผู้ก่อการดี ผู้ก่อการบุญ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่ต้องการไหว้พระแต่ไม่ค่อยได้เดินทางไปวัด หรือผู้ที่ต้องการไหว้พระอย่างฉับพลันทันใด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ได้มีโอกาสเข้ามาไหว้พระหน้าคอมพ์ให้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการช่วยให้คนสามารถนำความศรัทธาที่อยู่ในตัว ออกมาใช้ด้วยวัตถุประสงค์ใดๆ ก็ตามเช่น เพื่อทำใจให้สงบ เพื่อขอพร เป็นต้น


"คุณอย่ามองว่าคุณกำลังไหว้คอมพิวเตอร์ สิ่งที่คุณกำลังไหว้อยู่คือ พระพุทธ คอมพิวเตอร์ เป็นเพียงอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดภาพพระพุทธเท่านั้น เช่นเดียวกับว่า เมื่อคุณไหว้ภาพพระพุทธที่พิมพ์ลงบนกระดาษ หรือ พระพุทธรูปที่สร้างจากโลหะ หรือวัสดุอื่นๆ ขณะที่คุณไหว้ คุณคิดถึงเพียงกำลังไหว้พระพุทธอยู่ ไม่ได้คิดว่าคุณกำลังไหว้ กระดาษ เหล็ก หิน ปูน ทราย เพราะฉะนั้น ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา"


เพราะสิ่งสำคัญของความตั้งใจนี้ คือ ไม่ใช่ต้องการให้ทุกคนหลงงมงาย แต่หวังให้ทุกคนมีสติ มีศรัทธา ที่จะเชื่อ และจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งการกราบสักการะบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดามารดา ครู อาจารย์ ล้วนเป็นสิ่งดี เพราะทำให้เราระลึกถึงพระคุณทั้งหลายของท่านเหล่านี้ ทำให้เรามีสติยั้งคิด ในการประกอบกิจการงานใดด้วย


การไม่ทำชั่ว ทำแต่ความดี และทำจิตใจให้ผ่องใส ตามหลักหัวใจของพระพุทธศาสนา



ที่มา: //www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01epe01070552§ionid=0147&day=2009-05-07




 

Create Date : 07 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 7 พฤษภาคม 2552 8:53:30 น.
Counter : 573 Pageviews.  

ดูกายดูจิต-เจริญสติตามรู้


ดูกายดูจิต-เจริญสติตามรู้






ด้วยความที่สถานที่สะดวกสบาย สะอาด ปลอดภัย และอยู่ในกรุงเทพมหานคร ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานใหญ่ เพชรเกษม 54 จึงต้อนรับผู้ประสงค์เข้าอบรมปฏิบัติธรรม ตลอดทั้งปี โดยปฏิบัติกับพระอาจารย์ที่เลือกสายศรัทธาตามจริต


รศ.วารินทร์ มาศสกุล อุปนายกยุวพุทธิกฯ และ ดร.นวลศิริ เปาโรหิตย์ ผู้ประสานงานหลักสูตร กล่าวว่า ยุวพุทธฯ มีแนวปฏิบัติธรรมหลายแนว แต่ยึดหลักสติปัฏฐาน 4 ตาม พระไตรปิฎก ลักษณะการปฏิบัติแล้วแต่ลักษณะเฉพาะของครูบาอาจารย์ อาทิ โครงการพัฒนาจิตให้เกิดปัญญาของ คุณแม่สิริ กรินชัย บริกรรมคำภาวนาพอง-ยุบ,หลักสูตรพระมานพ อุปสโม กำหนดรู้เจริญสติ,หลักสูตรพระครูเกษมธรรมทัต วัดมเหยงคณ์ กำหนดรู้รูปนาม,หลักสูตรสายพระป่าหลวงพ่อชา สุภัทโท บริกรรมพุท-โธ และสายดูจิต


อุปนายกยุวพุทธิกฯ ยกตัวอย่างหลักสูตร คุณแม่สิริ กรินชัย แนวปฏิบัติเบื้องต้นระยะเวลา 8 คืน 7 วัน หากไม่เคยปฏิบัติมาก่อนสอนให้รู้จักแนวปฏิบัติภาพรวม เช่น มาปฏิบัติทำไม เพื่ออะไรและได้อะไร เริ่มตั้งแต่ดูรูปกายที่เคลื่อนไหวก่อน ขาเป็นอิริยาบถใหญ่ อิริยาบถย่อยคือการเอี้ยว หันซ้ายขวา ลุกเดิน เริ่มจากอิริยาบถใหญ่ไปหาย่อย จากกายสัมพันธ์ไปสู่จิต ส่วนภาคปฏิบัติไม่ใช่ เปิด-ปิดก๊อกเวลาปฏิบัติ ขณะดูการเคลื่อนไหวของลม เรียกดูอานาปานสติ ดูลมหายใจเข้าออก แต่บางคนดูที่ท้อง เมื่อธาตุลมปรากฏที่ท้อง ท้องขยายขึ้น เมื่อลมออกท้องยุบลง คือที่มาคำว่า “พอง-ยุบ” จริงๆ ไม่ใช่การท่อง เป็นการดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับกายเรา ถ้าดูด้านบนของลมก็ดูลมหายใจ ถ้าดูปลายลมดูที่ท้อง แต่ต้องเป็นผู้ดู ไม่ใช่เข้าไปจัดการ คำบริกรรมภาวนาเหล่านี้จะค่อยๆ หลุดเอง เมื่อจิตเป็นผู้รู้มากขึ้น เห็นว่าอะไรเกิดขึ้นกับกาย สภาวะผู้รู้จะเกิดขึ้นเอง


“การเจริญสติ กำหนดรู้ว่ากำลังจะทำอะไร รู้กาย รู้ใจ ไม่ให้หลง ไม่ให้เผลอ เพื่อให้จิตอยู่กับกาย ถามว่าดูกายดูจิตเพื่ออะไร ก็เพื่อเจริญสติตามรู้ แล้วปัญญาเกิด พูดง่ายๆ เวลามีโทสะ ถ้าไม่มีสติ ที่จะกำหนดรู้ว่าเกิดอาการโกรธ ปัญญาจะไม่เกิด ถ้ามีสติรู้ปัญญาเกิด ทำให้รู้ว่าควรแสดงอะไร”


รศ.วารินทร์ มาศสกุล แนะนำว่า ฝึกสติทำให้ได้ความรู้การเจริญสติในชีวิตประจำวันคือ ระลึกรู้ว่า คิดอะไร ทำอะไร ทำให้เกิดการยับยั้งชั่งใจ โอกาสผิดพลาดน้อยลงเพราะมีสติเตือนตัวเอง ทำนองเดียวกันการระลึกรู้สิ่งไม่ดีที่เป็นบาป โลภะโทสะ เมื่อมีสติรู้ทำให้มีปัญญาคิด ละไม่ทำ คิดถึงสิ่งดีและสิ่งไม่ดี รู้ว่าควรหรือไม่ควรทำอะไร การฝึกเพื่อให้สติพัฒนา กระทั่งสามารถบอกตัวเองว่า จิตรู้สึกอย่างไร เมื่อมีโทสะ จิตจะถอยออกมาได้ เหมือนเห็นตัวเองในกระจก จะไม่หลุดและหลงเข้าไปในอารมณ์นั้น ไม่ให้เป็นทาสของอารมณ์


ดร.นวลศิริ กล่าวเสริมว่า เมื่อปฏิบัติธรรมแล้วจะรู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง เพราะตัวเราเป็นผู้มีสติ ไม่เผลอไม่หลุดไปในโลกของความหลง เมื่อปฏิบัติไปเรื่อยๆ จิตจะตื่นจะเบิกบาน คำว่า “พุทธะ”จะเกิดกับจิต คนเราส่วนใหญ่หลงไปกับการหลงโลก ดังนั้นการปฏิบัติ ก็เพื่อกลับมาดูกายดูจิตเห็นตัวเองอย่างแท้จริง


นำพาบุญ

ระเบียบ ยุวพุทธิกฯ กำหนดว่า เมื่อเข้าปฏิบัติธรรมขอให้ปิดวาจา ทำให้มีศีลบริบูรณ์ ไม่ได้ห้ามพูดโดยสิ้นเชิง แต่อย่าพูดคุยกันเองโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ต้องเตรียมตัวเตรียมใจ ยอมรับสิ่งที่จะต้องปฏิบัติ อยู่ให้ครบ 8 วัน 7 คืน เพื่อเรียนรู้จิต บางคนแค่ 2 วันพอแล้ว เปรียบเหมือนดูหนังไม่จบเรื่อง จึงขอให้อยู่ให้ครบ เมื่อเรียนรู้แล้วตัดสินใจอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สนใจโทร.0-2413-1706,0-2805-0790-4



ที่มา: //www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=197794&NewsType=1&Template=1




 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 4 พฤษภาคม 2552 9:04:04 น.
Counter : 1334 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

byonya
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




I am not a perfect, but simple!

 
 
Custom Search



 
 

Website น่าสนใจ  
 
หนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท

เว็บการศึกษา Eduzones.com

Business Web Directory .biz - Business Directory
 


Word of the Day

This Day in History

Quote of the Day

Hangman




Friends' blogs
[Add byonya's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.