|
กูรูการเงินแนะวิธีบริหารหนี้ฝ่าวิกฤติ
กูรูการเงินแนะวิธีบริหารหนี้ฝ่าวิกฤติ
((หลายคนอาจจะได้เคยอ่านแล้ว ... ขอลงใหม่นะครับ))
จาก การรวบรวมไอเดียกูรูการเงินสหรัฐของ เจสซิก้า ดิคเลอร์ จาก ซีเอ็นเอ็นมันนี่ ให้คำแนะนำภาคครัวเรือนทั่วโลกในการฝ่าวิกฤติหนี้สินส่วนบุคคลให้อยู่รอด ดังนี้
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : 0โยกหาหนี้คิดดอกเบี้ยต่ำกว่า
หา ทางออกด้วยการค้นหาบัตรเครดิตหรือสินเชื่อที่ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่า เพื่อเป็นตัวเลือกช่วยลดภาระ ขอให้โยกหนี้จากเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยมากกว่า มาอยู่กับสินเชื่อคิดดอกเบี้ยต่ำกว่า เพราะบริษัทบัตรเครดิตเสนอดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน
การโอนหนี้มาใช้บริการอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือนจึงเป็นโอกาสดีมาก ที่คุณจะใช้จังหวะนี้ชำระคืนหนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่ต้องยอมรับด้วยว่าบริษัทบัตรเครดิตส่วนใหญ่โดยเฉพาะในสหรัฐ ยังจะคิดค่าธรรมเนียมการโอนหนี้ 3%
ฮาร์ดคอพฟ์เตือนว่า ขอให้คุณมองหาบัตรเครดิตสักใบคิดค่าธรรมเนียมโอนหนี้น้อยที่สุด เพราะเมื่อบวกลบกันแล้วการโอนย้าย จะต้องช่วยประหยัดค่าดอกเบี้ยหนี้ที่ต้องชำระทุกเดือน ให้ได้มากกว่าค่าธรรมเนียมการโอนหนี้
0เลิกใช้บัตรพลาสติก
คำ แนะนำแบบหักดิบนี้ เหมาะสำหรับคนไทยที่มีความรู้สึกว่า การจมอยู่กับกองหนี้บัตรเครดิต เหมือนคนกำลังจมน้ำตาย ดังนั้นการหยุดใช้บัตรเครดิตทุกใบไปเลย น่าจะช่วยเขาหรือเธอพ้นจากบ่อน้ำแห่งหนี้ได้แน่
พยายามนึกถึงเงินสดหรือบัตรเดบิตซึ่ง สามารถหักเงินในบัญชีทันที เพื่อเป็นหนทางควบคุมนิสัยการใช้จ่าย และช่วยประหยัดเงินค่าดอกเบี้ย ที่สำคัญการหยุดใช้บัตรเครดิตยังส่งผลดีในทันที ช่วยคุณลดรายจ่ายในสิ่งไม่จำเป็น นอกจากการซื้อของกินกับของใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น
0ใช้วงเงินเครดิตให้น้อยที่สุด
นอก เหนือจากแผนต้องจ่ายคืนหนี้ที่คิดดอกเบี้ยสูงสุดก่อน คุณๆ ที่มีปัญหาการใช้วงเงินสินเชื่ออยู่ตลอดเวลา และสินเชื่อแต่ละก้อนล้วนคิดดอกเบี้ยสูงทั้งนั้น ผู้เชี่ยวชาญแนะให้หันมาบริหารหนี้ ด้วยการดูการจำกัดวงเงินให้กู้ยืม
ขอให้คุณลดสัดส่วนหนี้ต่อวงเงินสิน เชื่อที่ให้ เพื่อเบาภาระหนี้และช่วยให้คะแนนการเป็นลูกหนี้ที่ดีดีขึ้นด้วย ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าสัดส่วนหนี้ต่อวงเงินกู้ให้ได้หรือจำกัดไว้ ควรต่ำกว่า 30% ของวงเงินที่จำกัดนั้นๆ
0คืนหนี้เงินต้นให้ได้มากที่สุด
เป้า หมายข้อนี้นั้น ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่ามุ่งให้คุณๆ ที่มีหนี้ ให้บ่มเพาะนิสัยจ่ายคืนหนี้ให้มากกว่าวงเงินขั้นต่ำสุด ซึ่งควรนำไปใช้ปฏิบัติอย่างมากสำหรับผู้เป็นหนี้บัตรเครดิต เพราะยิ่งชำระน้อยความสามารถชำระคืนหนี้ให้หมดไปโดยเร็วยิ่งเป็นไปไม่ได้
ฮาร์ดคอพฟ์ยกตัวอย่างว่า หากคุณมีหนี้บัตรเครดิต 8,000 ดอลลาร์ คิดดอกเบี้ยที่ 12% หากคุณชำระหนี้ขั้นต่ำแค่ 2% ของมูลหนี้ในแต่ละเดือน คุณต้องใช้เวลาถึง 346 เดือน เพื่อคืนหนี้ให้หมด พร้อมต้นทุนดอกเบี้ยเสียไป 7,696 ดอลลาร์ แต่ถ้าคุณชำระ 5% ของมูลหนี้แต่ละเดือน จะใช้เวลา 109 เดือน เพื่อคืนหนี้ทั้งหมด และเสียต้นทุนดอกเบี้ยเพียง 1,579 ดอลลาร์
0เช็คประวัติขอสินเชื่อเสมอ
คน ไทยที่พำนักอยู่ในสหรัฐ สามารถขอสำเนาประวัติการใช้บัตรเครดิตของตนเองได้ ด้วยการเข้าไปดูเว็บไซต์ annualcreditreport.com หรือ โทรศัพท์หมายเลข 877-322-8228 เป็นความไม่ประมาท เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดที่จะทำให้ประวัติการขอสินเชื่อผิดเพี้ยนไป
ปัจจุบัน คนไทยทั้งในและต่างประเทศสามารถยื่นคำร้อง ขอแก้ไขข้อมูลผิดพลาดได้ ผ่านทางอีเมล ทางโทรศัพท์ หรือทางไปรษณีย์ หากว่าคุณสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดในประวัติการขอสินเชื่อได้ จนคะแนนการเป็นลูกหนี้ดีขึ้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คุณติดต่อกับบรรดาเจ้าหนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเจ้าหนี้รู้เรื่องการขอแก้ไขประวัติดังกล่าวแล้ว เพื่อเดินหน้าขอความเห็นใจให้ลดดอกเบี้ยลงอีก จากประวัติการขอเงินกู้ที่ดีขึ้น
0ขอคำแนะนำเพิ่มเติม
หากคุณชำระหนี้ได้มากขึ้น และตัดลดค่าใช้จ่ายแล้วยังไม่ได้แผนปรับโครงสร้างหนี้ที่ยืดหยุ่น ขอให้ติดต่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากองค์กรให้คำปรึกษาเรื่องหนี้ อย่างในสหรัฐคนไทยที่พำนักอยู่ในแดนแห่งเสรีภาพนี้ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากองค์กรที่เรียกว่าThe National Foundation of Credit Counseling ซึ่งเข้าไปดูได้จากเว็บไซต์ //www.nfcc.org
0เริ่มต้นออมดีที่สุด
แมคไบรด์ ทิ้งท้ายคำแนะนำ ที่จะช่วยคุณฝ่าวิกฤติบริหารหนี้ให้ดีที่สุด คือการออมให้มากที่สุด เพราะกำแพงขวางกั้นการอดออมไม่ใช่เรื่องของรายได้น้อย แต่เป็นเรื่องวินัยการใช้เงินต่างหาก
เริ่มต้นจำกัดเงินจำนวนหนึ่งแม้ไม่มาก เก็บโดยฝากไว้กับธนาคารให้ผลตอบแทนมากที่สุด แมคไบรด์ย้ำว่าไม่มีการเงินรูปแบบใดช่วยให้คุณนอนหลับสบายได้ในยามค่ำคืน เท่ากับความพยายามอดออมเงินไว้เผื่อใช้กรณีฉุกเฉินหรือยามที่คุณเดือดร้อน เข้าตาจนอย่างที่สุดในชีวิต
ข้อคิดเตือนใจภัยการเงิน
1.ต้องมีวินัยคุมหนี้ เข้มงวดการใช้จ่ายทั้งเก่าและใหม่
2.เลิกนิสัยชอบชำระคืนหนี้ขั้นต่ำสุด
3.อย่าซื้อของไม่จำเป็นสำหรับครอบครัว
4 อัพเดทประวัติการเงินอยู่เสมอ
5.รีบเข้าหาเจ้าหนี้เมื่อเกิดปัญหา
6.ไม่ควรคิดว่างบการเงินเป็นคำน่าเบื่อ
7. อย่าผัดวันประกันพรุ่งต้องมีเงินทุนเผื่อฉุกเฉิน
ที่มา: Bankrate.com
Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2552 12:58:09 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2343 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หมูน้อยร้อยชั่งhttp://oh-fatgirl.exteen.com/ IP: 119.31.1.195 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:22:30:58 น. |
|
|
|
| |
|
|
ตอนนี้ เก็บบัตรเครดิตทุกใบหมดแล้ว เพราะติดนิสัย เวลาซื้อของ มักจะเพลิน กว่าจะรู้ตัวก้อรูดซื้อของไปเพียบแล้ว บางอย่าง ไม่จำเป็นเลย
พกเงินสดเท่าที่จำเป็น ต้องท่องไว้ ประหยัดๆๆๆๆ