ชวนดูหนังเรื่อง When Beckham met Owen , Part II
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอเล่าต่อจากภาคแรกเลยล่ะกัน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นกลับทำให้ไมเคิลยิ่งสับสนในสถานภาพทางเพศของตนเองมากขึ้นไปอีก ความรู้สึกนั้นทำให้เค้างงว่าตกลงเค้ารักผู้ชายเหมือนกันหรือ? เค้ามีความรู้สึกแปลกๆเมื่อเดวิดสวมกอด มีความรู้สึกทางเพศกับผู้ชายโดยสังเกตว่าในหนังจะมีฝันเปียกหลายครั้งโดยที่ฝันเกี่ยวกับผู้ชาย หรือแม้กระทั่งในห้องแต่งตัวนักกีฬาที่เค้าแอบมองของลับของเดวิด (และก็ถูกเดวิดด่ากลับมาด้วยว่าแอบมองน้องชายชั้นทำไม) , ไมเคิลเกิดความสับสนจนถึงกับไปค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเพศศึกษาในห้องสมุด มาเพื่อศึกษาเรื่องเพศโดยเฉพาะ (เป็นไปถึงขนาดนั้นเลยน่ะเนี่ย - - " )
เมื่อเกิดความสับสนมากขึ้น ประกอบกับต้องการหลุดพันจากความรู้สึกทรมาณที่หลงรักเพื่อนของตัวเอง โดยที่ไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกมาได้เหมือน ชาย-หญิง ไมเคิลก็พยายามปลีกตัวห่างออกจากเดวิดมากขึ้น เวลาเดวิดทักทายก็จะเป็นแบบถามคำตอบคำ และก็จะรีบปลีกตัวออกไป ยังความประหลาดใจให้กับเดวิดมาก แต่เดวิดก็ไม่ย่อท้อ เค้าพยายามชวนไมเคิลคุยมากขึ้น ,พยายามช่วยงานของไมเคิลที่โรงเรียนโดยที่ไม่รู้ว่าไมเคิลอยากปลีกตัวออกห่าง
การดำเนินเรื่องของหนังในช่วงนี้จะเห็นมีแต่ความเย็นชาของไมเคิลที่มีต่อเดวิด จนกระทั่ง ..วันหนึ่งเดวิดเปรยออกมาว่า เค้าจะต้องตั้งใจสอบให้ได้คะแนนเต็มทั้งสามครั้ง เพราะถ้าหากเค้าได้คะแนนเต็มทั้งสามครั้งแล้วแม่จะให้เสื้อทีมฟุตบอลที่เค้าชื่นชอบเป็นของขวัญ
แต่เดวิดบอกว่าเค้าไม่ต้องการเสื้อทีมแล้ว เค้าต้องการรองเท้ากีฬา Adidas คู่ใหม่มากกว่า , เมื่อไมเคิลฟังที่เดวิดพูดก็ถามว่าเดวิดจะเอารองเท้าคู่ใหม่ไปอีกทำไมในเมื่อเค้าเพิ่งซื้อคู่ใหม่มาหยกๆ เดวิดตอบว่าเค้าต้องการที่จะเอารองเท้าให้เป็นของขวัญแก่ไมเคิล คำพูดนี้สร้างความซาบซึ้งให้กับไมเคิลเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่วายที่ไมเคิลยังทำตัวเย็นชากับเดวิดต่อไป
แต่ทว่าเดวิดไม่สามารถทำคะแนนได้เต็มร้อยคะแนน ทั้ง สามครั้ง ครั้งที่หนึ่งกับครั้งสองได้หนึ่งร้อย ส่วนครั้งที่สามได้ 99/100 เพียงเพราะเขียนคำว่า "Commitment" ผิด ,เดวิดลืมใส่ตัว M อีกหนึ่งตัว เขียนเป็น "Comitment" และคำนี้ที่เดวิดจำฝังใจเค้าตลอดมา เพราะเค้าไม่สามารถทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับไมเคิลและไม่ได้รางวัลจากแม่ของเค้าด้วย
หนังดำเนินไปเรื่อยจนถึงฉากที่ไมเคิลกำลังจะเข้านอน ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามา ซึ่งคนที่โทรมาหาคือเดวิด บอกว่าที่โทรมาเพราะเหงา ทั้งบ้านไม่มีคนอยู่เลย ทุกคนออกไปงานเลี้ยงกันหมด ปล่อยให้เค้าต้องเฝ้าบ้านคนเดียว
เดวิดพูดว่าตอนนี้ออกมาคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงกำลังนั่งที่ขอบระเบียง ลมแรงมาก พร้อมกับยื่นโทรศัพท์ออกไปข้างนอกเพื่อให้ไมเคิลได้ยินเสียงลมพัด , ขณะที่ไมเคิลกำลังฟังเสียงลมพัดอยู่นั้นฉับพลันก็เกิดมีเสียงตกใจของเดวิด พร้อมเสียงกระแทกอย่างรุนแรง พร้อมกับเสียงสนธนาก็หายไป โทรกลับไปก็เป็นสายไม่ว่าง ไมเคิลตกใจมากเพราะคิดว่าเดวิดคงพลัดตกตึกลงมา จึงรีบลุกออกจากที่นอนวิ่งไปที่คอนโดของเดวิด อย่างเหน็ดเหนื่อย
แต่เมื่อไมเคิลมาถึงคอนโดของเดวิดภาพที่พบคือ เห็นเดวิดในสภาพมอมแมม ในมือมีโทรศัพท์พังๆ เนื่องจากโทรศัพท์ได้พลัดตกลงมา และเดวิดก็ปีนขึ้นไปบนหลังคาตีกชั้นหนึ่งเพื่อเก็บโทรศัพท์มา เมื่อเดวิดเห็นไมเคิลก็แปลกใจจึงถามออกไปว่า
"นายมาทำอะไรที่นี่ตอนนี้เหรอ"
ไมเคิลเห็นเดวิดไม่เป็นอะไรก็ดีใจมาก แต่ไม่สามารถแสดงอารมณ์นั้นออกมาได้เต็มที่ ทำได้เพียงแต่ร้องให้ออกมา พร้อมกับเดินกลับบ้านโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกับเดวิดสักคำ ทำให้เดวิดงงมาก
อีกฉากหนึ่งที่ทำให้ผมประทับใจในหนังเรื่องนี้มากคือฉากตอนที่ไมเคิลกลับมาบ้าน วันนั้นเป็นวันก่อนการแข่งฟุตบอลนัดสำคัญ แต่ฝนกลับตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา เมื่อเปิดประตูบ้าน แม่ของไมเคิลก็บอกว่าเดวิดเอาของมาฝาก อุตสาห์ตากฝนเพื่อเอามาฝากให้ไมเคิลโดยเฉพาะ ไมเคิลรีบเปิดดูกล่องของขวัญนั้นทันที ภาพของขวัญที่เห็นเบื้องหน้านั้นทำให้ไมเคิลตื้นตันจนพูดไม่ออก เพราะมันเป็นรองเท้าคู่ใหม่ที่เดวิดสัญญาว่าจะเอาให้ รองเท้าคู่นั้นสีขาว แต่เนื่องด้วยเดวิดมีเงินไม่มากพอที่จะซื้อ Adidas จึงซื้อได้แค่รองเท้า Primsoll ธรรมดาแต่ถูกแต่งแต้มไปด้วยลวดลายการระบายสีซึ่งบ่งบอกถึงความตั้งใจทำของคนให้เป็นอย่างดี ของเพียงเล็กน้อยเท่านี้ ถึงแม้ไม่มีมูลค่าทางเงินตรามากมาย แต่คุณค่าทางจิดใจนั้นมันแพงเหลือเกิน
และในวันนั้นเองที่ไมเคิลมั่นใจแล้วว่าเค้ามีสถานภาพเป็นอย่างไร เค้าจึงสารภาพกับแม่ที่โต๊ะอาหารว่า "ผมเป็นเกย์ครับแม่"
ไมเคิลหายไปไม่มาแข่งฟุตบอลนัดสำคัญ ทำให้ทีมของเค้าแพ้คู่แข่งไป 8-0 , เดวิดเป็นห่วงที่เห็นไมเคิลหายไปจึงออกตามหาท่ามกลางสายฝนที่ตกมาอย่างไม่หยุดหย่อน และพบว่าไมเคิลมานั่งคนเดียวในมุมมืดของสนามกีฬา และเค้าก็สวมรองเท้าที่เดวิดมอบให้เป็นของขวัญ
เดวิดโวยวายเล็กน้อยว่าหายไปไหนมา รู้มั้ยว่าทีมเราแพ้ยับเยินเลย
ไมเคิลไม่ตอบแต่ลุกขึ้นและทำท่าจะเดินหนึไปอีก เดวิดวิ่งตามแล้วตะโกนออกมาว่า"สิ่งที่ผ่านมาแล้วช่างมันเถอะ เรามาเริ่มกันใหม่ได้มั้ย?"
คำพูดของเดวิดทำให้ไมเคิลหยุดเดิน พร้อมกับน้ำตาของไมเคิลที่ไหลเอ่อออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
ไมเคิลหันกลับมาพร้อมกับน้ำตานองหน้า แล้ววิ่งมาผลักเดวิดล้มลง
หลังจากนั้นก็เป็นฉากที่ทั้งสองคนต่อสู้กัน ผลักกันล้มหัวคะเมนตีลังกา แต่ผมดูแล้วมันไม่ใช่การต่อสู้แบบเกลียดชังกัน
บางทีไมเคิลไม่รู้ว่าจะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ยังไง จะพูดออกมาเป็นคำพูดก็ไม่ได้ จึงต้องใช้วิธีนี้
มันดูเป็นการต่อสู้เพื่อที่เค้าสองคนต้องการบอกแก่กันและกันว่าชั้นเป็นห่วงแกน่ะเว้ย! แกอย่าทำตัวอย่างนี้ได้มั้ย แกยังมีเราเป็นเพื่อนอยู่เสมอน่ะอะไรประมาณนี้ และผู้กำกับได้ทิ้งฉากนี้เอาไว้แล้วจบเรื่องให้เราเก็บเอามาคิดต่อกันเอง
ขอได้รับความขอบคุณจากผู้ผลิตหนังที่ทำให้เราได้ชมหนังที่ดี ขอบคุณอีกครั้งครับ
Create Date : 21 มีนาคม 2549 | | |
Last Update : 24 สิงหาคม 2552 17:46:47 น. |
Counter : 5319 Pageviews. |
| |
|
|
|