|
|
ช่วยด้วย...หนูท้อง!(2)
เอาละครับ เมื่อคุณแน่ใจว่าตั้งครรภ์แน่ และตัดสินใจจะคลอดลูกในแผ่นดินจิงโจ้ ให้เด็กประทับตราว่า เมด อิน ออสเตรเลีย
สิ่งสำคัญที่คุณควรรู้คือ ระบบการดูแลหญิงตั้งครรภ์ในออสเตรเลีย แตกต่างจากเมืองไทย
อย่างเมืองไทย หากคุณตั้งครรภ์ ภาระรับผิดชอบในการดูแลคุณและทารกในครรภ์ คือสูติแพทย์ตามโรงพยาบาล
แต่ที่นี่เขามีกันหลายรูปแบบครับ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้รูปแบบไหน
อย่างแรกคือ Midwives Clinics
รูปแบบนี้ ผดุงครรภ์ (Midwife) จะทำหน้าที่ดูแลและตรวจครรภ์ของคุณเป็นหลักตลอดช่วงที่คุณตั้งครรภ์ โดยมีทีมสูติแพทย์ในโรงพยาบาลคอยช่วยเหลือหากคุณมีปัญหาด้านการตั้งครรภ์ และจะคอยช่วยเหลือในช่วงคุณคลอดลูกในห้องคลอดของโรงพยาบาล
แบบนี้จะเหมาะสำหรับ ผู้ตั้งครรภ์ปกติ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผดุงครรภ์จะช่วยเหลือให้คุณอุ่นใจตลอดช่วงของการตั้งครรภ์
อย่างที่สองคือ Birth Centre
แบบนี้จะคล้ายกับรูปแบบแรกคือ ทีมผดุงครรภ์ (Midwife) จะเป็นหลักในการดูแลคุณตลอดช่วงของการตั้งครรภ์ สิ่งที่แตกต่างคือคุณจะคลอดใน Birth Centre ไม่ใช่ห้องคลอดของโรงพยาบาล ปรัชญาของ Birth Centre คือ เน้นการคลอดแบบธรรมชาติมากที่สุด ไม่ใช้ยาหรือเครื่องบรรเทาความเจ็บปวดใดๆมาช่วยเหลือ
รูปแบบนี้เหมาะสำหรับสาวมั่น ผู้ต้องการประสบการณ์แห่งความเป็นแม่อย่างสมบูรณ์แบบ
อย่างที่สามคือ GP Shared Care Program
รูปแบบนี้ถูกคิดค้นขึ้นมา เพื่อลดจำนวนผู้มาใช้บริการในโรงพยาบาล ทั้งนี้หากคุณเลือกการดูแลครรภ์ในลักษณะนี้ ผู้ที่ดูแลครรภ์ของคุณจะประกอบด้วย หมอ GP (General Practitioner) ที่ผ่านการอบรมจากโรงพยาบาล และ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล
แบบนี้คุณจะต้องไปหาหมอ GP ตรวจครรภ์ตามตารางนัดหมาย แต่บางสัปดาห์จะต้องมาที่โรงยาบาลเพื่อตรวจผลรวมอีกครั้ง
อย่างสุดท้ายคือ Specialty Clinics
รูปแบบนี้ ทีมงานของสูติแพทย์จะคอยดูแลและเฝ้าระวังตลอดช่วงการตั้งครรภ์ของคุณ แน่นอนครับแบบนี้เขาจัดให้เฉพาะคนตั้งครรภ์ผิดปกติ
สำหรับคุณๆที่ตั้งครรภ์ แต่ไม่มั่นใจในภาษาอังกฤษของคุณเองว่าจะสื่อสารกับหมอ หรือผดุงครรภ์ได้มากน้อยแค่ไหน ผมแนะนำให้สอบถามโรงพยาบาลตั้งแต่ตอนจองคิวตรวจครรภ์ดูนะครับว่าเขามีล่ามด้วยหรือเปล่า
เพราะปกติแล้ว ตามโรงพยาบาลใหญ่ๆ โดยเฉพาะในตัวเมืองซิดนีย์ เขาจะจัดให้มีล่ามช่วยแปลไว้ให้
คุณไม่ต้องเสียค่าบริการใดๆเพิ่มสำหรับล่ามครับ เพียงแต่อาจจะต้องรอคิวให้ล่ามเขาว่างก่อนเท่านั้น
ทีนี้มาถึงวันแรกในการตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาล หรือที่เรียกกันว่า Booking Visit ผดุงครรภ์จะทำหน้าที่สอบถามรายละเอียดข้อมูลเบื้องต้นของคุณ
เช่น ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายเมื่อไร หลังจากนั้นจะคำนวณหาวันกำหนดคลอด รวมทั้งจะถามด้วยว่าคุณตกลงใจที่เอาเด็กไว้หรือไม่ และสอบถามรายละเอียดด้านสุขภาพของคุณและฝ่ายชายว่ามีโรคประจำตัวอะไรบ้าง อันนี้ผดุงครรภ์เธอจะดูประกอบกับข้อมูลผลเลือดที่ หมอGP ส่งแนบเป็นจดหมายมาให้ ก่อนจะอธิบายถึงบริการและการตรวจต่างๆ ที่คุณจะต้องพบ
เมื่อได้รายละเอียดพอสมควร ผดุงครรภ์จะวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และดำเนินการขั้นตอนการตรวจครรภ์ต่างๆ
เมื่อได้ข้อมูลหลักๆครบถ้วน หากคุณไปตรวจพร้อมฝ่ายชาย ผดุงครรภ์จะเชิญฝ่ายชายให้ออกไปรอนอกห้อง ก่อนจะสอบถามพูดคุยกับคุณเป็นการเฉพาะ
ผดุงครรภ์จะสอบถามว่า คุณถูกบังคับให้มีบุตรหรือไม่ สบายใจที่มีบุตรหรือไม่ ฝ่ายชายยอมรับเรื่องบุตรหรือไม่ฯลฯ
นัยว่า เพื่อป้องกันสิทธิของหญิงบางคน ซึ่งอาจจะถูกฝ่ายชายบังคับขู่เข็ญให้มีบุตรโดยไม่ตั้งใจ
ต่อจากนั้นผดุงครรภ์จะไปช่วยติดต่อจองคิวการตรวจอัลตราซาวด์เด็กให้ ซึ่งปกติแล้วจะอยู่ในช่วงสัปดาห์ที่ 18 ของการตั้งครรภ์
ในกรณีที่คุณเลือกรูปแบบการดูแลครรภ์แบบ Midwives Clinics เจ้าหน้าที่จะนัดหมายให้คุณมาตรวจที่โรงพยาบาลทุกเดือนจนถึงอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ ถึงนัดหมายให้มาตรวจบ่อยขึ้นเป็น 2 สัปดาห์ครั้ง และในช่วงเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์จะนัดตรวจทุกสัปดาห์
แต่หากคุณเลือก แบบ GP Shared Care Program เจ้าหน้าที่จะมีตารางให้ว่าช่วงไหนไปตรวจกับหมอ GP ช่วงไหนมาตรวจที่โรงพยาบาล
ระหว่างคุณยังตั้งครรภ์ หากมีปัญหาฉุกเฉินใดๆเกิดขึ้น ไม่ต้องกังวลใจไปนะครับ คุณสามารถโทรศัพท์ปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลเขาได้ตลอดเวลา
การตรวจครรภ์แต่ละครั้งในโรงพยาบาลรัฐ คุณๆที่ยังเป็นนักเรียน นักศึกษา อาจจะต้องสำรองจ่ายไปก่อนครั้งละประมาณ 90 เหรียญ แล้วค่อยไปเคลมคืนจากบริษัทประกันสุขภาพ อันนี้เฉพาะการตรวจครรภ์นะครับ เรื่องการจองเตียงในโรงพยาบาลสำหรับพักฟื้น และค่าทำคลอดไม่เกี่ยวกัน เขาคิดต่างหากอีก
โดยทั่วไปในโรงพยาบาลรัฐจะคิดค่าเตียงสำหรับพักฟื้นต่อคืนประมาณ 775 เหรียญ เขาจะคำนวณเอาไว้ 3 คืน รวม 2,325 เหรียญ และคิดค่าทำคลอดเอาไว้ก่อน 2,000 เหรียญ รวม 4,325 เหรียญ
แต่เงินยอดนี้ไม่ใช่เงินค่าใช้จ่ายสุทธินะครับ นี่เป็นเพียงแค่เงินสำรองที่คุณต้องจ่ายให้เขาไปล่วงหน้าก่อนเท่านั้น
หากวันคลอดจริงคุณพักฟื้นน้อยกว่า 3 วันก็สามารถขอเงินคืนได้ หรือค่าทำคลอดหากน้อยกว่า 2,000 เหรียญ เขาก็จะคืนเงินให้คุณ
แต่ถ้าคุณต้องผ่าคลอด และต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลมากกว่า 3 คืน แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็จะสูงตามไปด้วย แต่เขาจะคิดกับคุณหลังจากออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเงินที่คุณต้องสำรองจ่ายไปก่อนคือ ยอดประมาณ 4,325 เหรียญ เมื่อได้ใบแจ้งยอดค่าใช้จ่ายสุดท้ายจากโรงพยาบาล หลังจากคุณคลอดลูกเรียบร้อยแล้วนั่นแหละ คุณถึงสามารถไปเคลมคืนเงินก้อนนี้ได้จากบริษัทประกันสุขภาพ
พูดง่ายๆคือ หากคุณต้องการจะคลอดลูกในออสเตรเลีย อย่างน้อยควรจะมีเงินประมาณ 4,325 เหรียญ สำรองเอาไว้ก่อนจะอุ่นใจกว่า
และช่วงใกล้คลอด อย่าลืมไปเปลี่ยนประกันสุขภาพให้ครอบคลุมถึงเจ้าตัวน้อยที่จะคลอดออกมาด้วยนะครับ
ไม่เช่นนั้นเวลาเทวดาตัวน้อยเกิดมาแล้ว ไปหาหมอตรวจร่างกาย ฉีดวัคซีนทีก็หลายตังค์นะครับ
เอาไว้ตอนหน้าค่อยมาว่ากันว่า จะเตรียมตัวสำหรับวันคลอด ในดินแดนจิงโจ้อย่างไรดี
.......................................................................................................
บทความนี้ผมเขียนลง ตีพิมพ์ครั้งแรกโดยใช้นามปากกา "นินจา ราตรี" ลงในเวบไซด์ //www.manager.co.th ส่วนของ คอลัมนิสต์ออนไลน์ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2547
| Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2551 |
| Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2551 10:00:34 น. |
|
5 comments
|
| Counter : 2949 Pageviews. |
 |
|
|
| โดย: friendlymitt IP: 203.156.43.235 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:32:36 น. |
|
|
|
| โดย: ปอ IP: 192.99.14.34 วันที่: 29 มีนาคม 2557 เวลา:17:12:23 น. |
|
|
|
| โดย: Patt IP: 192.99.14.34 วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:7:24:21 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [
สวัสดีปีใหม่อาจารย์และทุกๆท่าน
' ซินเจีย หยู่อี่ ซินนี้ ฮวดไช้ '
ขอให้สุขภาพดี และร่ำรวยทุกท่านครับ
โดยเฉพาะอาจารย์ ขอให้มีแรงบัลดาลใจ
ในการนำเสนอบทความดีๆอย่างนี้ต่อไปครับ