Group Blog
 
All Blogs
 
ช่วยด้วย...หนูท้อง!(1)

จะทำอย่างไรดีละครับ ถ้าคุณเกิดตั้งท้องในแผ่นดินจิงโจ้

จะมัวโทษยาคุม “ไดแอน” ที่ซื้อหาจากไทยทาวน์ว่าเสื่อมคุณภาพ หรือจะโทษตัวเองที่ดันลืมกินยา หรือจะโทษฝ่ายชายว่า ไม่ยอมใส่ปลอก เหล่านี้ล้วนช่วยอะไรคุณไม่ได้มากนัก

ไม่เป็นไรครับ ใจเย็นๆ วันนี้ นินจา ราตรี มีคำตอบ

ไม่ว่าคุณจะตั้งท้องโดยเจตนา หรือด้วยความพลั้งเผลอ ก่อนอื่นคุณต้องถามตัวเองก่อนว่า จะจัดการกับตนเองและสิ่งมีชีวิตในครรภ์อย่างไร

แล้วค่อยไปถามคู่กรณีว่า จะร่วมรับผิดชอบในชีวิตน้อยๆที่จะเกิดมาในอนาคตอย่างไร

แต่ไม่ว่าคู่กรณีของคุณจะตอบตกลง หรือปฏิเสธอย่างไร ไม่ต้องกังวลใจไปครับ เอาการตัดสินใจของคุณเป็นหลัก

เพราะที่ประเทศออสเตรเลียแห่งนี้ การตัดสินใจของฝ่ายหญิงเป็นตัวชี้ขาดสำคัญว่าจะเลือกเอาเด็กไว้ หรือไม่

พูดง่ายๆคือ ที่นี่คุณเลือกได้ว่าจะท้อง หรือจะแท้ง

ครับ เมื่อคุณมั่นใจว่าแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ที่คุณซื้อมาจากร้านขายยา ยืนยันผลเป็นเครื่องหมายบวก อันแสดงว่าประจำเดือนที่ขาดหายไปหลายวันนั้น ก็เนื่องจากคุณกำลังตั้งครรภ์อยู่นั่นเอง

ถ้าอยู่เมืองไทย คุณที่ต้องการมีลูกคงรีบแจ้นไปโรงพยาบาลเพื่อฝากครรภ์ ส่วนคุณที่ไม่ต้องการเอาเด็กไว้คงหลบๆซ่อนๆไปทำแท้งตามศูนย์บริการวางแผนครอบครัวต่างๆ ซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่วัยโจ๋

แต่ช้าก่อนครับ... ที่ประเทศออสเตรเลียนี้ ใช่ว่าปวดหัว ตัวร้อน ท้องเสียแล้วเราจะเดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปให้หมอที่โรงพยาบาลตรวจได้อย่างนั้น

โรงพยาบาลที่นี่ เขามีไว้สำหรับคนที่นัดหมายล่วงหน้าก่อน หรือมีอุบัติเหตุ หรือฉุกเฉินจริงๆ ประเภท รถหวอ Ambulance ต้องมาจอดเทียบหน้าตึกถึงเข้าไปได้

ถึงกระนั้นก็ตาม พวกเจออุบัติเหตุ ฉุกเฉิน ก็ใช่ว่าจะได้รักษาง่ายๆนะครับ มีข่าวออกตามทีวีอยู่บ่อยๆว่าคนไข้หัวแตก แขนหักต้องนั่งๆนอนๆร้องโอดโอยในแผนกฉุกเฉินหลายชั่วโมงกว่าจะมีหมอมาดูอาการ

เอาละครับ เมื่อคุณชัวร์แน่ว่าท้อง คุณคงต้องไปหาหมอที่คลีนิกก่อน ก็หมอประจำที่คุณเคยไปปรึกษาเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยธรรมดาๆนั่นแหละครับ ที่นี่เขาเรียกว่าหมอ GP (General Practitioner) ไม่ต้องรีบไปหาหมอสูตินารีเวชอะไรให้วุ่นวายนะครับ

แต่ถ้าคุณยังไม่มีหมอ GP ประจำตัว ลองสอบถามเพื่อนๆ ให้แนะนำคลีนิกแถวบ้าน หรือถ้าคุณเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย คุณก็ไปนัดหมายกับคลีนิกประจำมหาวิทยาลัยได้เลย

เมื่อเจอหมอแล้ว ไม่ต้องอายนะครับ มีอะไรขัดข้องหมองใจก็ถามปรึกษาหมอไปได้เลย

ส่วนใหญ่หมอจะใช้แผ่นทดสอบการตั้งครรภ์มาเช็คปัสสาวะเหมือนกับที่คุณเคยทดสอบเองไปแล้ว หลังจากทราบผลว่าท้องแน่ คำถามแรกที่หมอมักจะถามคือ เราพร้อมไหมที่จะมีลูก

ถ้าคุณต้องการทำแท้ง หมอเขาจะแนะนำเองแหละครับว่าจะต้องไปที่ไหน หรือทำอย่างไร อันนี้ นินจา ราตรีไม่อยากลงรายละเอียดมาก

เอาเป็นว่า ถ้าคุณอยากมีเด็ก ส่วนใหญ่หมอ GP จะคำนวณวันกำหนดคลอด พร้อมทั้งวัดความดันและเจาะเลือดทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีโรคใดๆ อันอาจจะส่งผลกระทบต่อเด็กในท้องได้

ต่อจากนั้น หมอ GP มักจะขอตรวจมะเร็งปากมดลูก หรือที่เรียกกันว่า Pap test ให้

เพราะส่วนใหญ่คนไข้หญิงชาวเอเชียมักจะละเลยกับการตรวจประเภทนี้

แต่สำหรับประเทศนี้ การตรวจสอบมะเร็งปากมดลูก เขาแนะนำให้ตรวจกันทุกๆ 2 ปี โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป แต่หากใครมีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นเขาก็แนะให้เริ่มตรวจได้ก่อนนั้นด้วยซ้ำไป ซึ่งการทำ Pap test จะเป็นตัวที่ช่วยลดความเสี่ยงและเป็นการเตือนภัยแต่เนิ่นๆ ก่อนโรคมะเร็งปากมดลูกจะถามหา

สำหรับในรัฐ New South Wales ทางการจะเก็บข้อมูลการตรวจสอบของคุณไว้และจะส่งจดหมายเตือนให้มาทำ Pap test ทุกๆ 2 ปีด้วย

สำหรับเรื่องยาบำรุงครรภ์ คุณไม่ต้องคิดนะครับว่าจะได้ยาเป็นถุงๆเหมือนเมืองไทย ที่นี่อย่างมากหมอ GP ก็จะแนะนำให้คุณไปซื้อหายาบำรุงตัวนั้นตัวนี้มาทานเอง หรือหมอ GP บางคนอาจจะเขียนใบสั่งยาให้คุณไปซื้อหาเอาเอง

หลังจากตรวจทุกอย่างเสร็จ หมอ GP จะถามที่อยู่ปัจจุบันของคุณเพื่อตรวจสอบว่า มีโรงพยาบาลใดที่ใกล้บ้านมากที่สุด หลังจากนั้น หมอ GP จะเขียนจดหมายปิดผนึกผลการตรวจสอบร่างกายเพื่อให้คุณนำไปโรงพยาบาลนั้น

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าวันรุ่งขึ้น คุณจะสามารถเดินไปโรงพยาบาลได้ทันทีเลยนะครับ คุณจะต้องโทรศัพท์ไปที่โรงพยาบาลแห่งนั้นขอคิวนัดหมายก่อน เมื่อโทรศัพท์ไปแล้ว เจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลการตั้งครรภ์และส่งจดหมายนัดวันที่จะมาโรงพยาบาลได้

ส่วนใหญ่แล้วเขาจะนัดหมายให้ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจครรภ์ครั้งแรก เมื่อคุณมีอายุครรภ์ประมาณ 12 สัปดาห์ขึ้นไป

พูดภาษาชาวบ้านคือ คุณต้องท้องได้ 3 เดือนก่อนละครับถึงมีสิทธิ์ไปโรงพยาบาลตรวจครรภ์

ยกเว้นว่าคุณมีปัญหาฉุกเฉินอะไรก่อนหน้านั้น คุณก็ต้องไปหาหมอ GP ก่อน เพื่อให้หมอทำเรื่องส่งตัวมาตรวจที่โรงพยาบาล

เอาละครับ ก่อนจะถึงวันตรวจ คุณคงต้องคิดให้หนักว่าจะคลอดที่ประเทศออสเตรเลีย หรือจะกลับเมืองไทยมาคลอดที่บ้านเกิดเมืองนอน

แต่ขอบอกก่อนนะครับว่า ตอนนี้ เด็กที่คลอดในประเทศออสเตรเลียไม่ใช่ว่าจะได้เป็นพลเมืองออสซี่อย่างอัตโนมัติเหมือนที่หลายๆคนคิด

เด็กจะได้สิทธิเป็นพลเมืองที่นี่ ก็ต่อเมื่อมีพ่อหรือแม่ หรือทั้งคู่เป็นพลเมืองของออสเตรเลีย

หากทั้งพ่อและแม่ เป็นแค่นักศึกษา อันนี้หมดสิทธิ์ครับท่าน


ทีนี้มาคำนวณค่าใช้จ่ายในการคลอดกันก่อนนะครับ หากคุณเป็นนักเรียน นักศึกษา ขอให้ดูในคู่มือบัตรประกันสุขภาพ ที่ทางการออสซี่เขาบังคับคุณๆให้ทำมาตั้งแต่เมืองไทย ก่อนเหิรฟ้าบินมาแดนจิงโจ้นี่แหละครับ

บริษัทประกันสุขภาพส่วนใหญ่จะระบุว่า หากคุณมีวีซ่านักเรียนเกิน 3 เดือน เขาคลุมค่าใช้จ่ายในการตรวจครรภ์ รวมถึงช่วงคลอดและช่วงพักฟื้นในโรงพยาบาลให้ด้วย

นั่นหมายความว่า ค่าตรวจครรภ์ ค่าทำคลอด ทุกอย่างหากอยู่ในโรงพยาบาลของรัฐ คุณสามารถเคลมคืนได้หมด

นั่นหมายถึง ท้องนี้ ไม่จ่ายตังค์

หรือถ้าจ่ายก็น้อยนิด เขาจะคิดเฉพาะส่วนเกินที่บริษัทประกันไม่ได้ครอบคลุมไว้เท่านั้น

แต่ถ้าคุณไม่ได้ทำประกันสุขภาพ หรือไม่ได้ต่ออายุประกันสุขภาพ ขอให้คิดให้ดีเรื่องการคลอดในประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการทำคลอดแพงกว่าเมืองไทยมาก

อย่างค่าตรวจครรภ์ปกติรายครั้งตามโรงพยาบาลรัฐ หากคุณไม่ใช่พลเมืองออสซี่เขาจะคิดประมาณ 90 เหรียญ ยิ่งช่วงทำคลอด หากไม่มีเงินประมาณ 4 พันเหรียญให้โรงพยาบาลเพื่อจองเตียง มีหวังหมดสิทธิ์คลอดในโรงพยาบาลแน่

สรุปค่าใช้จ่ายในการคลอดที่ออสเตรเลียตกอยู่ที่ประมาณ 4,500 - 5,000 เหรียญ หรือประมาณ 135,000 150,000 บาท

ถ้าไม่มีประกันสุขภาพ แนะนำให้กลับเมืองไทยดีกว่าครับ ถูกกว่ากันเยอะเลย

แต่ถ้าคุณเป็นพลเมืองออสซี่อยู่แล้ว อันนี้สบายครับ เพราะประกันสุขภาพของรัฐครอบคลุมค่าใช้จ่าย
หมด

เอาไว้ตอนหน้า ค่อยมาว่ากันเรื่องการตรวจครรภ์ที่ออสเตรเลียต่อนะครับ ว่าเหมือนหรือแตกต่างจากไทยอย่างไร

.......................................................................................................

บทความนี้ผมเขียนลง ตีพิมพ์ครั้งแรกโดยใช้นามปากกา "นินจา ราตรี" ลงในเวบไซด์ //www.manager.co.th ส่วนของ คอลัมนิสต์ออนไลน์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2547








Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2551 14:47:31 น. 6 comments
Counter : 2167 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ อ่านแล้วฉลาดขึ้นเลยค่ะ มีสาระมากค่ะ


โดย: Natt (ThaiKielA ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:19:48 น.  

 
ทำไมโรงพยาบาลที่โน่นแพงจังคะ
เข้าโรงพยาบาลก็ยากเย็นจัง

เมืองไทยยิ่งตอนนี้คนเป็นอะไรนิดหน่อย
ก็ไปโรงพยาบาลแล้วเพราะไม่ต้องจ่ายตัง

จ๊ะจ๋าว่าระบบเมืองไทยแบบนี้จะยิ่งทำให้คน
ละเลยการรักษาสุขภาพของตัวเอง

น่าจะทำแบบออสเตเลียคนจะได้ระวังตัวเอง
รักษาสุขภาพของตัวเองมากยิ่งขึ้น

พี่ว่าจริงไหมคะ

จ๊ะจ๋าว่าสุขภาพจะดีหรือไม่ดีต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อนอะค่ะ


โดย: karug-karing วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:03:01 น.  

 
อยู่ควีนส์แลนด์คะ ไม่ทราบว่าถ้าเกิดแต่งงานกับ PR. ที่นี่ แต่ไม่สามารถมีลูกได้แบบวิธีธรรมชาติ เราเลยอยากมีลูกแบบวิธีไม่ธรรมชาติ อันนี้ครอบคลุมใน Medicare ไหมคะ
ขอบคุณล่วงหน้าคะหากมีคำตอบให้ ....


โดย: nOkky IP: 121.45.199.234 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:12:54 น.  

 
อย่างคุณจ๊ะจ๋าว่าก็เห็นจะจริงครับ ..สุขภาพจะดีต้องเริ่มที่
ตัวเราก่อน แต่อย่าให้การไปพบหมอยุ่งยากเหมือนเค้า
เลยครับ ตอนนี้หลายๆโรงพยาบาลโดยเฉพาะของรัฐกำ
ลังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้การบริการผู้ป่วยไม่ยุ่งยาก
และเสียเวลามาก ผมว่าก็ดีนะครับพอเจ็บป่วยใครๆก็อยากหายไว การไปหาหมอแต่ละทีไม่ควรยุ่งยากกว่าการไป
ฝาก/ถอนเงินที่ธนาคารครับ

ยังไงก็อยากให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง.
...'อโรคยา ปรามา ลาภา '


โดย: friendlymitt IP: 58.147.56.99 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:2:31:32 น.  

 
คุณnOkky ครับ

ถ้าคุณแต่งงานกับ PR แล้ว เรื่องนี้น่าจะครอบคลุมด้วยนะครับ แต่ต้องเป็นโรงพยาบาลของรัฐนะ...อย่างไรก็ตามถ้าจะให้ชัวย์ลองโทรถาม Medicare ยืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้งนะครับ


โดย: สายน้ำกับสายเมฆ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:24:51 น.  

 
ที่บอกว่าถ้าเด็กเกิดที่ออสแล้วไม่ได้เป็นคนออสนั้นไม่จริงค่ะ จริงๆแล้วที่ออสมีกฏหมายคือ เด็กที่คลอดที่ประเทศนี้มีใบเกิดที่นี่ยืนยัน ไม่เกี่ยวว่าพ่อแม่ถือวีซ่าอะไรเป็นคนที่นี่หรือไม่ แต่ถ้าเด็กคลอดที่นี่และอยู่ที่นี่จนอายุครบ สิบ ขวบ เต็ม เพียงแค่เอกเอกสารการเรียนไปยืนยันว่าเด็กเกิดและเติบโตที่ออสเตรเลียในช่วง สิบปีแรกของชีวิต เด็กก็จะได้ ซิติเซนต์ทันทีค่ะ ไม่ต้องสมัครวีซ่าใดๆทั้งสิ้น เพิ่งทำให้ลูกชายเมื่อเดือนที่แล้วนี่เองค่ะ เขียนเมื่อ เดือน เจ็ด ปี สองพันสิบหกค่ะ


โดย: ขอเถียงนิดนึงค่ะ IP: 192.95.30.51 วันที่: 3 กรกฎาคม 2559 เวลา:19:12:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สายน้ำกับสายเมฆ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Locations of visitors to this page

Tracked by Histats.com
Friends' blogs
[Add สายน้ำกับสายเมฆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.