แม่จะเข็มแข็งเพื่อหนู/ที่หนึ่งในหัวใจ
Group Blog
 
All blogs
 

The Joy Luck Club






คลับนี้มีแต่ความรัก

จำได้ว่าเคยดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว

ตั้งแต่ยังไม่มีปันปัน

แล้วก็ได้มีโอกาสดูอีกหลายๆ ครั้ง

ล่าสุดก็เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ดูแล้วก็ไม่สามารถละสายตาได้เลย

ดาราที่เราไม่เคยรู้จัก ไม่เคยได้ยินชื่อ

พวกเธอดูเรียบง่าย และเป็นธรรมชาติ

ดูแล้วเหมือนกับว่าคนเขียนบท

ช่างเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกสาวได้เป็นอย่างดี

ยามที่เราเป็นลูกไม่เคยสักครั้งที่จะเข้าใจถึงความหวังดีของแม่

กลับมองเห็นแต่ด้านตรงกันข้าม

ไม่เข้าใจและไม่ความพยายามจะเข้าใจ

เมื่อวันหนึ่งที่เราได้เป็นแม่

เราได้ให้ความรัก ความเข้าใจแก่ลูกอย่างเต็มเปี่ยม

มันกลับกลายเป็นวัฎจักรที่ลูกจะรับรู้แต่ด้านตรงข้ามเช่นกัน

Suyuan แม่ของ June

ในมุมมองของ June แม่ของเธอคาดหวังในตัวเธอมากเกินไป

จนเธอรับไม่ไหว

หลายครั้งที่คำพูดของแม่ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเอง

เป็นคนไม่มีความสามารถ ไม่ได้ดั่งที่แม่หวัง

เธอมักถูกเปรียบเทียบกับ Waverly ลูกของน้า Lindo อยู่บ่อยๆ

จนเมื่อเธอทนไม่ไหวและบอกกับแม่ว่าเลิกคาดหวังกับคนอย่างเธอเสียเถอะ

แม่เลยบอกกับเธอว่า

เพราะแม่รู้ว่าลูกเป็นคนแบบไหน แม่รู้ดี

ปูที่แม่นึ่งให้ทุกคนกิน ใครๆ ก็จะเลือกตัวที่ดีที่สุด

Waverly เองก็เช่นกัน เธอจะเลือกตัวที่ดีที่สุด

เธอจะรีบคว้ามันไว้ก่อนคนอื่น นั่นอาจจะเป็นพรสวรรค์ของเธอ

แต่ลูกไม่ใช่ ลูกจะกินปูตัวที่ไม่มีใครอยากได้

ลูกยอมกินโดยที่ไม่เรียกร้องใดๆ

นี่หล่ะคือตัวลูก

แต่แม่ก็คงไม่ผิดใช่ไหมที่จะคาดหวังในตัวลูก

มีหลายคนที่สงสัยว่า Suyuan สามารถทิ้งลูกฝาแฝดของเธอไว้ที่เมืองจีนได้อย่างไร

สำหรับคนที่เป็นแม่อย่างเราๆ แล้ว

รู้สึกได้ว่ามันต้องมีเหตุผลสักอย่างแน่นอน

และเมื่อเราได้รับรู้คำตอบนั้น

เราก็จะเข้าใจว่าทำไม Suyuan ถึงได้คาดหวังในตัว June มากมายขนาดนั้น

Lindo แม่ของ Waverly

เด็ดเดี่ยว เข็มแข็ง ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ

ใครจะคิดว่าเด็กที่อายุแค่ 15 ปี จะสามารถคิดแผนการ

ให้ตัวเองหลุดรอดจากประเพณีเก่าๆ ของชาวจีนได้

แต่ Lindo เธอทำได้ และทำได้แบบแนบเนียนเสียด้วย

Waverly ได้รับอิทธิพลของแม่มาแบบเต็มๆ

แต่เธอยังไม่สามารถเด็ดเดี่ยวได้เท่าแม่

แม่ยังคงคลอบงำเธอ เธอคิดแบบนั้น

ความจริงแล้วถ้าเธอมองอีกด้าน

เธอจะพบความอ่อนโยนในความแข็งกระด้าง

Ying Ying แม่ของ Lena

หญิงที่เคยบูชาในรักแรก รักเดียว ที่เธออยากให้มันเป็นรักแท้

เมื่อมันไม่ใช่ เธอก็ยังยอมทนอยู่เพื่อลูก

จนนานวันก็เหลือแต่ร่างที่ไร้วิญญาณ

เมื่อไม่มีลูก เธอก็ไม่รู้จะอยู่เพื่ออะไร

Lena เกิดมาท่ามกลางความโศกเศร้า

สิ่งที่เธอต้องการคือใครสักคนที่เธอสามารถพักพิงกายและใจได้

เธอเลือกการแต่งงานให้เป็นคำตอบสุดท้าย

มันอาจจะเป็นการเดินที่ผิดพลาด

ก่อนที่มันจะสายเกินไป

Ying Ying เริ่มรู้ตัวว่าคนที่ทำร้าย Leno ไม่ใช่ใคร แต่เป็นเธอนั่นเอง

เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ไปพร้อมๆกับ Leno

An-Mei แม่ของ Rose

ด้วยเหตุการณ์และความคิดที่ผิดๆ

ทำให้เธอต้องกลายเป็นลูกเมียน้อย

แต่ก่อนแม่ของเธอจะตาย

แม่ขอให้เธอจำไว้ว่า

แม่เป็นเมียคนเดียวของพ่อเธอ

และเธอก็เป็นลูกคนเดียวเช่นกัน

เมื่อเธอให้กำเนิด Rose เธอหวังให้เป็นหญิงสาวที่เข้มแข็ง

แต่ Rose เธอเลือกที่จะอยู่ในสถานะของผู้ให้หรือยินยอม

ทำให้เธอผิดหวังและบอกว่า Rose ชั่งทำตัวเหมือนยายเสียจริง

แม้แต่สามีของ Rose เองก็ไม่ชอบการตามใจเช่นนี้

แปลกดีบางคนคิดว่าการอยู่ด้วยกัน ทะเลาะกันเพราะความคิดเห็นไม่ตรงกัน

ยังดีกว่าการอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความคิดเห็นอะไรเลย

มันกลายเป็นความน่าเบื่อหน่ายและทำให้ชีวิตรักจืดชืด

สามีของ Rose เลยเลือกให้ชีวิตสดใสอีกครั้งด้วยการมีเมียน้อย

และขอเลิกกับ Rose

เธอนัดคุยเรื่องแบ่งสินสมรส

แม่เธอบอกว่า

ทำไมเราต้องทำแบบนั้นในเมื่อสิ่งที่มีค่าที่สุดอยู่ที่ตัวลูกอยู่แล้ว

ดูจบ คิดถึงประโยคที่ว่า

รัก(ของแม่)ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง(จริงๆ นะ)




 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2550 9:44:59 น.
Counter : 760 Pageviews.  

ลองเปลี่ยน

เมื่อวานลองกินก๋วยเตี๋ยวใส่ข้าว

เฮียชอบกินมาก

ทำให้อิ่มและอร่อยด้วย

แต่เราไม่เคยเชื่อไม่เคยชอบ

และจะรู้สึกแปลกๆ

ทุกครั้งที่เห็นอาหารที่มีส่วนผสมของผลไม้

หรือสิ่งแปลกประหลาด เช่น แกงหอยขม แกงสัปปะรด

กินไม่เป็น และไม่อยากลอง

ผลไม้ก็ด้วย

แทบจะเป็นศัตรูกันอะไรที่กินกันทั้งบ้านทั้งเมือง

อย่าง กล้วย ส้ม มะละกอ มะม่วง เรากินไม่เป็น

เคยลองแต่ก็ต้องอ้วกออกมาทุกที

อ้วกเพราะกลิ่นและความรู้สึกเละๆ

แต่เมื่อวานกินก๋วยเตี๋ยวใส่ข้าว

อร่อยดี

คงเพราะรสชาติกลมกล่อมของก๋วยเตี๋ยว

และข้าวสวยร้อนๆ

รวมทั้งความหิว

ทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไป

เมื่อเช้าออกจาก รพ มาทำงานตอนหกโมงครึ่ง

สงสารตัวเองจัง ขับมาทั้งที่ตาตี่ๆ ยังปิดอยู่

รถติดเป็นพักๆ

เลือกที่จะไม่ขับขึ้นสะพานข้ามแยก

เพราะเห็นไฟท้ายแดงๆ ยาวเป็นสายตามความยาวของสะพาน

ขับทางธรรมดามันนี่หล่ะหว่ะ

ปรากฏว่าต้องติด 3 ไฟแดง

แต่เร็วกว่าขึ้นสะพานข้ามแยกเสียอีก

เพราะเจอไฟเขียวแบบผ่านตลอด

รู้สึกเอ่อ เฮ้ย

ทางที่คิดว่าเร็วกลับไม่เร็ว

ส่วนทางที่คิดว่าช้า กลับไม่ช้า

อย่างนึงมันก็อยู่ที่ใจด้วย

ถ้าใจร้อนต่อให้ถนนว่างแค่ไหนก็ยังว่าไม่ทันใจ

แต่ถ้าคิดว่าไปมันเรื่อยๆ แล้วกัน

ยังไงมันก็ต้องถึงอยู่แล้ว

หากเราคิดแบบนี้ได้ทุกวัน

ต่อให้ใครมันปาด มันเบียด มันแซง

ก็ช่างมัน ดูเป็นเรื่องง่ายๆ

แต่ก็เป็นการบังคับใจที่ยากเอาการ

หากใครหลายๆ คน

ได้ลองที่จะเปลี่ยน

หรือปรับอะไรบางอย่างในชีวิต

เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีกว่าก็คงจะดี




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2550 20:13:20 น.
Counter : 356 Pageviews.  

Blog Tag ทำดีเพื่อพ่อ










รอคอยมานานแสนนาน

ทำเอาจิตกระวนกระวาย สับสน

ไฉนใย ไม่มีใครมา Tag อิชั้นสักกะที

คราวนี้ดีใจแสนดีใจ ที่เพื่อนรักส่ง Tag ดีดีมาให้

ยินดี เต็มใจ เป็นปลื้ม และภูมิใจที่ได้รับ Tag

Blog Tag ทำดีเพื่อพ่อคืออะไร?

เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา
ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550
พวกเราในฐานะคนเขียนบล็อก/เว็บไดอารี่
ขอถวายพระพรให้พระองค์ทรงพระเจริญ
มีพระพลานามัยที่แข็งแรง
และพวกเราปรารถนาที่จะทำความดีคนละหนึ่งอย่างเพื่อพ่อหลวงของพวกเรา
Blog Tag ทำดีเพื่อพ่อ
คือการเขียนลงในบล็อกว่าตั้งใจจะทำความดีอะไรหนึ่งอย่างเพื่อพ่อ
แล้วส่งต่อไปให้คนอื่นอีก 5 คนเพื่อให้เขียนบล็อกแบบเดียวกัน

กติกา
* ให้ copy เนื้อหาในหัวข้อ Blog Tag ทำดีเพื่อพ่อคืออะไร? ที่อยู่ด้านบน และหัวข้อกติกานี้ นำไป paste ลงในบล็อกของคุณ

* เขียนบอกว่าใครที่ tag มาหาคุณ โดยให้ทำลิงก์ไปยังบทความที่ tag มาหาคุณด้วย เพื่อที่คนที่เข้ามาอ่านบทความของคุณ จะได้ตามไปอ่านบทความของคนที่ tag หาคุณได้ เขียนความดีหนึ่งอย่างที่คุณตั้งใจจะทำเพื่อพ่อ ถ้านึกไม่ออกว่าจะเขียนอะไร ให้เข้าไปดูในเว็บ//www.dogood.or.th/

* ให้ tag ไปหาคนอื่นอีก 5 คนเพื่อให้เขาทำเช่นเดียวกับคุณ โดยให้ทำลิงก์ไปยังบล็อกของทั้ง 5 คนด้วย และถ้าเจ้าของบล็อกเข้ามาเขียนบทความแล้ว ก็ให้แก้ลิงก์ไปที่ตัวบทความเลย คนที่เข้ามาอ่านบทความของคุณแล้วจะตามอ่านของคนที่คุณ tag ไปหา จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาว่าบทความอยู่ที่ไหนในบล็อก เข้าไปขอแบนเนอร์โครงการทำดีเพื่อพ่อจากเว็บ //www.dogood.or.th/banner_exchange/ แล้วนำมาติดในบทความที่คุณเขียน

* เข้าไปแจ้งที่ //blog.macroart.net/dogood/ ว่าคุณได้เขียนบทความทำดีเพื่อพ่อแล้ว ข้อนี้สำคัญที่สุด เมื่อเขียนว่าจะทำดีอะไรแล้ว ขอให้มีความตั้งใจมั่นและลงมือทำความดีที่เขียนไว้ให้สำเร็จ

สังคมเราจะดีขึ้นเพียงแค่ทุกคนช่วยกันทำความดีกันคนละเล็กคนละน้อย

ได้รับมาจากหนิง- กุหลาบงามแห่งทะเลทราย //desortrose.diaryclub.com/


ตั้งแต่ที่จำความได้ จะไม่ชอบดูข่าวพระราชสำนักมากๆ

เพราะอยากดูละครมากกว่า

มักคิดในใจเมื่อไหร่ข่าวจะจบสักทีนะ

จนวันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป

เมื่อสมองเล็กๆ ได้ซึมซับรับทราบ

เรื่องราวพระราชกรณียกิจต่างๆ

ที่ในหลวงท่านทรงทำเพื่อลูกทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินของท่าน

ความรัก ความศรัทธา ความภาคภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกคนหนึ่งของท่าน

คงไม่สามารถบรรยายให้สิ้นสุดได้เพียงแค่หน้ากระดาษนี้

ถึงแม้ในชีวิตอาจมีหรือไม่มีโอกาสได้รับเสด็จท่าน

เพียงแค่ได้มองท่านทางโทรทัศน์หรือพระบรมฉายาลักษณ์ตามสถานที่ต่างๆ

เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับลูกคนหนึ่งแล้ว

การทำความดีในความคิดของแต่ละคน คงคล้ายหรือแตกต่างกัน

แล้วแต่ลักษณะหรือสิ่งที่แวดล้อมอยู่ อย่างไรก็แล้วแต่

สิ่งที่ตั้งใจทำต่อไปนี้ คงทั้งเพื่อพ่อ, เพื่อตัวเองและเพื่อคนที่เรารัก

- ใช้เงินอย่างคุ้มค่า คิดถึงความจำเป็นที่จะต้องมีหรือต้องใช้ของสิ่งนั้นก่อนซื้อเสมอ

- สละทรัพย์บางอย่าง เพื่อให้เกิดการทำความดีอย่างต่อเนื่อง (เป็นโครงการที่คิดไว้นานแล้วแต่คงขอเวลาจัดการทรัพย์ดังกล่าวให้เรียบร้อยแล้วจะแจ้งให้ทราบต่อไป)

- อบรมสั่งสอนลูก ให้รู้จักการ ขอโทษ ให้อภัย และยอมรับผู้อื่น

สำหรับผู้โชคดี 5 คนกับ Tag ทำดีเพื่อพ่อ ได้แก่

1. คุณมรรคณิชา

2. คุณคนเลวที่แสนดี

3. คุณนางไม้หน้า 3

4. คุณหนูชล

5. คุณโสดในซอย

ยังมีอีกหลายคนที่อยากจะส่ง Tag ให้ เสียดายจัง




 

Create Date : 09 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2550 13:03:47 น.
Counter : 387 Pageviews.  

ผ่ามะเร็งสมอง รอบ สอง

เฮียผ่ารอบสองวันอังคารที่ 6 พ.ย

เข้าไปนอนที่ รพ. วันจันทร์

ได้ห้องเดี่ยวแต่เป็นห้องเก่าราคาถูกดีแค่ 1500 บาทเอง

ถ้าเป็นห้องเดี่ยวแบบคราวก่อนราคาตั้ง สี่พันกว่าบาทอ่ะ

เราก็ว่าไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น

เพียงแค่ต้องการความเป็นส่วนตัว

ไม่ได้ต้องการความหรูหราอะไรมากมาย

ไปนอนเฝ้าคืนวันจันทร์กับปันปัน

ปันปันรู้เรื่องที่เฮียไม่สบายหมดทุกอย่าง

ถามว่า เด๋วพ่อจะต้องทำอะไร

ปันปันบอก เด๋วพ่อจะผ่าหัว

ทำไมพ่อต้องผ่าหัว

เพราะพ่อปวดหัวไม่หาย

แต่ปันปันก็ไม่เคยบ่นที่ต้องไปโรงพยาบาลบ่อยๆ

เช้าวันอังคารเจ้าหน้าที่มาโกนผม

นั่งรอจนถึงเที่ยงยังไม่เห็นมีใครมาสักคน

เดินไปถามพยาบาล จะได้ผ่าวันนี้ป่าวค่ะ

นี่เที่ยงกว่าแล้ว กลัวคนไข้หิวหน่ะค่ะ

พยาบาลบอก ผ่าเป็นเคสที่สอง

เคสแรกผ่ายังไม่เสร็จแล้วค่ะ - -‘

ไว้จะลองตามดูให้นะค่ะ

ตอนบ่ายโมงกว่าเจ้าหน้าที่เข็นเตียงมารับ

ปันปันเดินไปส่งเฮียที่หน้าห้อง

บอก หนูรักพ่อนะแล้วจุ๊บแก้มไปหนึ่งที

ผ่าเสร็จออกมาก็ประมาณห้าโมงเย็น

ไปดูอาการที่ห้อง ICU ก่อน

พยาบาลให้เข้าไปได้แป๊บนึง

เฮียยังดูมึนๆ ยาอยู่ แต่อาการโดยรวมก็ดี

เช้าวันพุธน้องเล็กรีบไปหาซื้อข้าวเตรียมไว้

เพราะให้เยี่ยมได้ตอน 11 โมง

พอเข้าไปถึงเฮียขอกินก่อน

กินไป 2 ชาม เหอะ เหอะ

คงไม่ต้องบอกว่าแข็งแรงและมีสติดีหรือป่าว

บ่ายๆ ย้ายจากห้อง ICU กลับไปที่ห้องพัก

หมอในทีมผ่ามาเยี่ยม

น้องเล็กถามว่า นี่ผ่าออกหมดเลยหรือป่าวค่ะ

หมอว่า เอาออกหมดเท่าที่ตามองเห็นแล้ว

ด้วยว่าเนื้อร้ายประเภทนี้จะมีสีเดียวกับเนื้อสมอง

อ้าว แล้วหมอรู้ได้ไงว่าอันไหนเป็นเนื้อดีเนื้อร้าย

เราฟังๆ ที่พูดก็เป็น งง อยู่

แต่หมอก็คงชำนาญแล้วมั้งหรือไม่ก็ตัดไปเท่าที่จะตัดได้

เฮียพูดได้ ยกแขนขาได้ปกติ

แต่หมอให้ระวังชัก ซึมเศร้า และแขนขาอ่อนแรง

หรือหากปวดหัวก็ให้รีบบอกหมอ

ตอนเย็นไปหาเฮียนอนอยู่

ไม่ค่อยอยากจะพูดอะไรเท่าไหร่

อาจจะด้วยเจ็บแผล

หมอไม่ได้ให้น้ำเกลือหรือต่อท่อปัสสาวะแล้ว

เฮียลุกขึ้นทำเองได้แต่ก็ต้องช่วยพยุงบ้าง

วันนี้คงได้เอาลูกตุ้ม(ถุงที่ใส่เลือดที่ออกจากสมอง)ออก

ไว้บ่ายๆ จะโทรไปถามน้องเล็กอีกทีว่าเป็นยังไงบ้าง

แต่เมื่อเช้าก็ทานข้าวได้หมด

+++++++++++++++++++++++++++++

มะวานน้องเล็กได้รับเสด็จ ในหลวง ด้วย

บอกว่าเห็นแบบใกล้ๆ เพราะเดินมาแถวที่น้องเล็กเฝ้าอยู่พอดี

แต่ก็ต้องทนรอตั้งแต่เก้าโมง ในหลวงเสด็จประมาณ สิบเอ็ดโมงครึ่ง

พอรับเสด็จเสร็จน้องเล็กนึกว่า ขาหายไปเสียแล้ว แบบนั่งนานจัด

ยังไงเสียก็คงคุ้มเกินคุ้ม

ในชีวิตหนึ่งอย่างเราไม่รู้จะมีโอกาสแบบนี้บ้างป่าว

ขอให้พระองค์ทรงพระพลานามัยแข็งแรง

อยู่เป็นมิ่งขวัญให้ปวงชนชาวไทย นานเท่านาน

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ




 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2550 9:00:40 น.
Counter : 619 Pageviews.  

Our Song







ใครๆ คงมีเพลงของเรา

ทุกครั้งที่ทำนองเพลงขึ้น

เป็นต้องนั่งอมยิ้ม

คิดถึงคนที่เป็นเจ้าของเพลงร่วมกัน

คนที่ผ่านสุขด้วยกัน

ส่วนทุกข์อาจจะมีบางครั้ง

ทุกข์ใคร ทุกข์มัน หรือทุกข์ร่วมกัน

เพราะเรารักเค้าไง

เพราะรักจึงไม่อยากให้เธอทุกข์

ขอแค่เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันมีแต่ความสุขก็พอ

แค่หนึ่งรอยยิ้ม หนึ่งเสียงหัวเราะ

ความหม่นหมองในใจก็จางหาย

บังเอิญได้ฟังเพลงนี้จากไดฯ ใครคนหนึ่ง

พอได้ฟังปุ๊บ

รู้สึกได้ถึงความรัก

เหมือนกลิ่นลอยมาตามลม

แล้วก็นึกปิ๊งหน้าเฮียขึ้นมา

อืม...เฮ้ย ใช่เลย เพลงนี้หล่ะ

เราจะจองให้เป็นเพลงของเรา(คนเดียว)

เพราะเฮียยังไม่เคยฟังเพลงนี้เลยด้วยซ้ำ

แต่ทุกครั้งที่คิดถึง จะฟังเพลงนี้

บิวท์อารมณ์ ได้เห็นหน้ากลมๆ ของเฮียลอยมา

บางสิ่งบางอย่างที่ผ่านพ้นไป ดูไร้ค่าจัง

ตั้งแต่ท้องปันปันก็ไม่เคยได้ถ่ายรูปคู่เฮียเลย

ถึงตอนนี้ก็ไม่ได้คิดอยากจะถ่าย

เพราะถ้าสมองถูก memory ให้จำแล้ว

ก็คงไม่มีทางเผลอไปกดปุ่ม delete มันทิ้งมั้ง

ต่อให้เป็นคนที่เกลียดหรือเรื่องร้ายๆ ก็เถอะ

อยากจะลืม อยากจะไล่ให้ออกไปจากพื้นที่สมอง

ก็ไม่ยักจะยอมไปสักที

แต่ก่อนเฮียอยากจะกอด ก็สะบัดสะบิ้ง ทำเล่นตัว

เด๋วนี้ต้องคลานไปกอดเฮียแทนหล่ะ

ไม่ได้สำคัญว่า วัน วันหนึ่งเรากอดกันกี่ครั้ง

บอกรักกันกี่หน

ที่มันมากกว่านั้น

คือเรารู้สึกอะไรบ้างจากสิ่งที่ได้ทำไป

คืนหนึ่งเฮียหลับไปแล้ว

เราเข้าไปกอดเฮีย

รู้สึกอยากจะกอดแบบนี้ไปนานๆ

ได้ยินเสียงกรนเบาๆ

แผ่นหลังกว้างๆ ที่ยังมีไออุ่น

หน้าอกที่กระเพื่อมขึ้น-ลงตามจังหวะหายใจ

ความรักมันมาจ่ออยู่ที่ตา

ล้นออกมาเป็นหยดน้ำเล็กๆ

ขณะเดียวกันก็อยากจะรู้สึกให้เหมือนตื่นจากความฝัน

สิ่งที่เราเป็นอยู่ ตอนนี้เป็นความฝัน

อีกเด๋วเราก็จะตื่น

เราจะมีลูกกันอีกหลายๆ คน

ได้เป็นปู่ ย่า ตา ยาย

ได้เห็นความเป็นไปของลูกๆ

และเราได้ใช้ชีวิตกันสองคนอย่างมีความสุข

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ตอนนี้ใครพอจะติดต่อโดราเอมอนได้บ้างไหม

อยากนั่งไทม์แมชชีนไปดูอนาคต

จะได้กลับมาบอกเฮียว่า ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้น

เราสองคนแม่ลูกอยู่ได้ และสบายดี

Remember the first day when I saw your face

Remember the first day when you smiled at me

You stepped to me and then you said to me

I was the woman you dreamed about

Remember the first day when you called my house

Remember the first day when you took me out

we had butterflies although we tried to hide

and we both had a beautiful night



วันจันทร์ เฮียต้องไปนอน รพ เพื่อเตรียมผ่าครั้งที่สองแล้ว

ช่วงนี้เฮียเลยตะลอนทัวร์ ทำธุระปะปังของตัวเองเสียยกใหญ่

บอกว่า เผื่อแกผ่าแล้วไม่ฟื้นก็จะได้ไม่ต้องกังวลอะไรอีก

ธุระของแก คือ

ไปคลองถมซื้อ วิทยุธานินทร์ ยังอุตส่าห์มีอีกนะ

ไปพันทิพซื้อ อุปกรณ์คอมฯ

ไปโลตัสซื้อ ไม้ตียุง ใช้ดี ใช้ทน ช็อตนาน

ไปโฮมโปรซื้อ หลอดไฟ

บล้า..บล้า...บล้า...

อื่นๆ อีกมากมาย

ซึ่งเป็นสิ่งจุกจิก แต่สำคัญสำหรับแก

ถ้าทำแล้วสบายใจก็ทำเถอะ

เพียงแต่ไม่อยากให้ไปไหนมาไหนไกลๆ

ก็แค่นั้นเอง

ปล...วันนี้ได้คุยกับใครหลายๆคน โดยมิได้นัดหมาย

แต่ก็ทำให้มีกำลังใจขึ้นอีกมากมาย

ได้มองไปอีกหลายๆ มุม

ได้เห็นโลกแห่งความหวัง

หากเรายังมีศรัทธาในตัวเอง





 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2550 9:43:08 น.
Counter : 559 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

แม่เจ้าปัน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ขอรหัสผ่านหลังไมค์นะค่ะ
Free Counters
Friends' blogs
[Add แม่เจ้าปัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.