แม่จะเข็มแข็งเพื่อหนู/ที่หนึ่งในหัวใจ
Group Blog
 
All blogs
 

วันแรกที่เราได้เจอกัน





สองวันก่อน เปิดวิทยุฟังอยู่รายการนึง
ไรที่ แหล แหล ตอนเช้าเนี้ยหล่ะ
ดีเจหญิง ด.ด. (สาบานว่าเป็นชื่อของเธอจริงๆ)
กับดีเจที่ไม่แบ่งแยกดินแดน ม.ด. (เป็นดีเจที่พูดเร็วจนฟังไม่รู้เรื่อง)
คุยกันว่า
“นี่คุณไปดูไหม ละครเวทีหน่ะ”
“เรื่องอะไรเหรอ เอ ตอนนี้ที่ดังๆ ก็ ลูกคุณหลวง หรือป่าว”
“อืม นั่นหล่ะ หนุ๊กกกกกกก หนุกนะคุณ เราไปดูมาแล้ว ตลกดี”
“จริงเหรอ ไว้จะลองหาเวลาไปดูบ้าง”
“ไปซิ เค้าเพิ่มอีกตั้ง 3 รอบนะ ว่างๆ ก็ไปดูซะ”
บลา บลา บลา......................................
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้
พอถึงออฟฟิศปุ๊บ //www.thaiticketmaster.com/
ไล่หา โป๊ะเชะ เจอแล้ว
จองๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ทีแรกว่าจะพาปันปันไปดู
อ้าว เฮ้ย เด็กต่ำกว่า 5 ขวบ ห้ามเข้า
ปันปันมันก็ดันเป็นเด็ก(ความสูง)ต่ำกว่ามาตรฐาน
แต่ความดัน(ทุรัง) สูกกว่าเกณฑ์ปกติ
จะไปหลอกเค้าก็กระไรอยู่ หากถึงแม้ว่าหลอกได้
เข้าไปแล้วมันแหกปากโว้ยวาย หรือเบื่อ หรือถาม
หรือวิ่งขึ้นไปบนเวที (โอ้ววววววววววววววว ไม่อยากคิด)
ยังไม่อยากให้ลูกเป็นดารา (จำเป็น) ด้วยวิธีนี้
ติ๊กตอก ติ๊กตอก..................................ปิ๊ง
ยกหูโทรศัพท์ชวนเพื่อน
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
บลา บลา บลา ................................................
สรุป she ไม่ว่าง ไปบ่ได้กา แต่แนะนำให้นั่งตรงกลางๆ
จะได้เห็น สิว ไฝ ฝ้า ของดาราชัดๆ
อืมงั้น...ลองขุดรอยหยักในสมองเพิ่มอีกหน่อย
ปิ๊งอีกรอบ........ได้เรื่องหล่ะ
จองเลยค่ะ 2 ที่
บัตร N 37 และ N 38 (ต้องเก็บไว้เป็นบัตรในความทรงจำ แพงโคตร)
กลับถึงบ้าน
“เฮีย วันนี้นะโชคดีจริงๆ เลย มีคนให้บัตรดูละครเวทีมา 2 ใบ”
“ละครเวทีอะไร ไม่ชอบ ไม่ดู” (แป่วววววววววว) เราเริ่มหน้าซีด
“พี่ เรื่อง ลูกคุณหลวงป่ะ” น้องเล็กมาช่วยชีวิต
“เอ่อ เรื่องนั่นหล่ะ ทำไมรู้หล่ะ”
“ก็มันออกรายการ TV อ่ะ หนูดูแล้วมันก็ตลกดีนะ”
“เห็นไม๊ เฮีย มันตล๊กกกกกกกกกกก ตลก ไปดูกันเถอะ นี่ที่เอามาเห็นว่า
เป็นวันเกิดเฮียด้วยนะ
ยังไม่ได้ให้อะไรเลย ไปดูด้วยกันเถอะ” อ้อนสุดฤทธิ์
“แล้วปันปันหล่ะ ใครจะดูปันปัน” (เฮ้อ เกิดอาการรักลูกขึ้นมาอีก)
“ฝากน้องเล็กดูก็ได้”
“ไม่เอาหรอก แล้วปันปันมันจะกินอะไร เล็กมันจะดูไหวเหรอ
เอางี้ เธอไปดูกับปันปันแล้วกัน เฮียรออยู่ข้างนอก”
“เฮีย เค้าไม่ให้เด็กต่ำกว่า 5 ขวบเข้า”
“ ทำไมหล่ะ โอ๊ยยุ่งยาก ไปดูกับเล็กมันแล้วกัน”
คือบอกตรงๆ นะ ถ้ามีไม้ก็ฟาดไปสักทีแล้วลากเข้าถ้ำ
เอ๊ย แล้วลากขึ้นรถให้มันหมดเรื่องหมดราวไปเลย
“เฮีย ไปดูแค่ 2-3 ชั่วโมงเอง เด๋วก็กลับแล้ว”
“อ้าวเหรอ แล้วก็ไม่บอก แค่แป๊บเดียว งั้นไปก็ได้”
บทจะง่ายก็.......................................................
เวลา 18.00 น ของวันเสาร์ที่ 25 สค
เราเตรียมชุดสวย(ในความรู้สึก)ไว้
เตรียมชุดไว้ให้เฮียและแน่นอน
มันต้อง Red Match อิอิ
เมืองไทยรัชดาลัยเธียรเตอร์
ชื่อหรู ดูดี มีสกุล แต่ยังไม่เคยไป
เฮียบอกมันอยู่ที่เดียวกับ เอสพะนาด
ก็ยิ่งไม่เคยไปอีก
งั้นเฮียนำแล้วกัน
ไปถึงขอลงก่อน รีบไปแลกบัตร (เด๋วเฮียจับได้)
โห ไมมันดูเริ่ดๆ งี้ฟ่ะ
ทำเอามึน ไม่รู้จะเริ่มไง
มีประชาสัมพันธ์ แต่ไม่มีคน
เอาฟ่ะ เดินไปดู map แล้วกัน
ชั้น 4 ก้าวฉับๆๆๆๆ ถึงแล้ว
แลกบัตรเสร็จ รอไปค่ะครึ่งชั่วโมงกว่าคุณชายจะมาถึง
ไม่ใช่อาราย แกไปหาของกิน แถมหิ้ว mac มาให้ด้วย
กลิ่นยวนใจทีเดียว แต่เค้าต้อนให้เข้าโรงแล้ว เก็บใส่กาเป๋าก่อนแล้วกัน
เข้าไปนั่งเสร็จสรรพเรียบร้อย
ละครเวทีเริ่ม
โอ๊ยยยยยย สนุก ตลก (ตายหล่ะ)
แหะ แหะ ที่จริงมันก็ได้รสชาติพอประมาณ
แต่บังเอิญมีอย่างอื่นสนุกกว่า (อึ๊ยยยยยยยย)
เมื่อมีมือใครบางคนเอื้อมมาจับมือเรา
มือที่ไม่ได้อ่อนนุ่มเหมือนเคย
แต่ให้ความอบอุ่นได้อย่างประหลาด
เมื่อมีไหล่ใครบางคนให้เราได้อิง
ไหล่กว้างๆ กลิ่นน้ำหอมจางๆ
ยังสร้างความมั่นคงให้เราได้เสมอ
เหมือนมีแค่เรากับเฮียสองคนในโรงละคร
แปลกแต่จริง ดูละครตลก กลับรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ (ฮิ้วววววววววววววว)
ตอนเดินออกจากโรงละครจนถึงรถ เฮียแทบไม่ได้ปล่อยมือเราเลย
รู้สึกเหมือนวันแรกที่เป็นแฟนกัน (กรุณาอย่านับว่านานแค่ไหน)
ออกจากเอสพะนาด สี่ทุ่มกว่า
หิวข้าววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
เฮียพาไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำที่สวนหลวง
ฝนตกพร่ำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โรแมนติคชะมัด
กลับถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน
ทันก่อนจะแปลงร่างกลับเป็นนางซิน(คนใช้) เหมือนเดิม
ต่อจากนี้ อุ๊บส์สสสสสสสสส

I know that he loves me cause he told me so
I know that he loves me cause his feelings show
When he stares at me you see he cares for me
You see how he is so deep in love
I know that he loves me cause its obvious
I know that he loves me cause its me he trust
and he's missing me if he's not kissing me
and when he looks at me his brown eyes tell it so


ใครว่าเรามีแต่มุขตลกฝืนๆ
เรายังมีมุมเล็กๆที่หวานประแหล่มๆ ด้วยหล่ะ




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2550    
Last Update : 23 กันยายน 2550 22:03:09 น.
Counter : 370 Pageviews.  

ช่วยกันขำนิ๊ดดดดนึง

ไม่รู้เด็กคนอื่นจะเรียนบวกเลขกันแล้วยัง

แต่ลูกเราเรียนบวกเลขแล้วววววววววววว

เขียนมันยังเขียนไม่ค่อยจะถูกเร้ยยยยยยยยย

แต่ไปบวกเลขแล้ว

ครูค่ะ คิดอะไรอยู่หรือป่าวค่ะ

วิธีการบวกเลข ช่างแสนน่ารักประทับใจแม่มานมาก

“ปันปัน 1+3 เท่ากับเท่าไหร่”

วิธีการนับเลขของปันปันคือ

เอามือนึงชูขึ้นมาหนึ่งนิ้ว แล้วก็จิ้มไปที่หน้าอก พร้อมพูดว่า

“เอาหนึ่งไว้ในใจ”

แล้วมืออีกข้าง ชูขึ้นมาสามนิ้ว

“นับต่อจากหนึ่ง เป็นสอง สาม สี่ เขียนเลขสี่”

แต่ที่ขำคือท่าทางของปันปันนั่นหล่ะ

อ้ายมือที่ไว้ในใจ มันจะจิ้มอยู่ที่หน้าอก

ตามสเต็ปการพูดของปันปัน (แบบมันหยุดไม่ได้)

จนกว่าจะนับจนครบจำนวนที่ถูกต้องนั่นหล่ะ

ไม่อยากคิด เกิดแม่มานบ้าให้ 1+100 มันจะเป็นไงน้า

นั่งโยก นั่งจิ้ม จนอกทะลุหล่ะมั่งนั่น

++++++++++++++++++++++++++++

เหตุมาจากคราวที่พลาดมีทติ้งรวมดาว

คนที่ได้ไปก็เริงร่าสุดขีด โทรมาหัวเราะเยาะเย้ย

บางก็ว่าเห็น ลูก ปั๋ว ดีกว่าเพื่อน

บางก็ว่า เป็นแม่ศรีเรือนที่ดี

แต่ทุกข้อครหา อิชั้นก็รับไว้ด้วยฟามเต็มใจ

ก็คนมันรักกกกกกกกกลูก รักกกกกกกปั๋ว จริงๆนี่หว่า

ในบรรดาเพื่อนที่ไปก็มีอยู่คน she ท้องแก่ใกล้คลอด

แต่ท้องแก่ๆ ก็ไม่เป็นอุปสรรคอันใด ในการเม้าท์

หลังจากอิชั้นได้เบอร์ she มา ก็โทรไปถามสารทุกข์สุกดิบ

ตามประสาแม่ลูก 1 เหมือนกัน

“นี่ ท้องสองแล้วใช่ป่ะ แล้วคนแรกเป็น หญิงหรือชายอ่ะ”

“เป็นผู้หญิงสี่ขวบแล้วหล่ะ”

“เหรอ ต๊ายยยย ลูกฉันเป็นผู้ชายหว่ะ เอ่อ จะเอาไว้พาไปเจอ เพื่อมันจะกิ๊กกัน”

“เอ่อ เอ่อ เอ่อ”

“แล้วนี่ ท้องนี่ผู้หญิงหรือผู้ชายหล่ะ”

“โห แกผู้หญิงอีกแล้วหว่ะ”

“อ้าว.....งี้แกก็ไม่เปลี่ยนท่าอ่ะดิ”

“….?????????........ แกกกกกกกกกกกกกกกกกก ทุเรศหว่ะคิดไปได้”

“พูดเรื่องจริงก็ด่า งั้นจะไม่สอนเคล็ดลับให้ได้ลูกปู้ชายหล่ะ เด๋วหาว่า ตรูทะลึ่งอีก........”

“เอ่อ ไว้คลอดก่อน ถ้าอยากได้ผู้ชายจะมาถาม”

“ถ้าจะให้สาธิตให้ดูต้องบอกก่อนล่วงหน้านะเฟ้ย มันต้องเตรียมตัวกันนิดนึง”

“……อ้ายบ้า เด๋วนี้แกร้ายกาจ ช่างเจรจาจิงนะ”

“พอหล่ะ....เหนื่อย ไว้ชั้นจะไปเยี่ยมแกที่บ้านแล้วกัน เตรียมแห่รับด้วย”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หลายวันมานี่ แฟนไม่รู้เป็นอะไรอยากกินข้าวซอยมั่กๆ

แกเลยไป serch หาร้านใน google (หากบ้านนี้ไม่มีเน็ตใช้คงเฉากันทั้งบ้าน)

พอแกเจอปั๊บ ก็ยกหูโทรทันที

“สวัสดีครับ”

“ครับ ว่าไงครับ”

“เอ่อ ร้านข้าวซอยหรือป่าวครับ”

“เอ ไม่เข้าซอยนะครับ ร้านอยู่หน้าปากซอยเลยครับ”

“??????????????????”

คือแกโทรผิดเบอร์หน่ะ




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2550    
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2550 8:44:30 น.
Counter : 426 Pageviews.  

.............. รัก... อีกครั้ง .............









ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

หญิงสาวคนหนึ่งเคยคิดว่าชีวิตเธอคงจบสิ้น

เมื่อคนรักเธอได้ทอดทิ้งเธอไป

วันแล้ววันเล่าที่เธอโทรไปอ้อนวอนขอให้คนรักเธอกลับคืนมา

ขอแค่เขากลับมา เธอจะยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการ

แต่สิ่งที่ได้รับคือความว่างเปล่า

เหมือนคนไม่เคยรัก ไม่เคยห่วงหาอาทร

คืนแล้วคืนเล่าที่เธอมีน้ำตาเป็นเพื่อน

สิ่งที่เธอคิด สิ่งที่เธอเห็นคือภาพแห่งความทรงจำของเขาและเธอ

ของทุกชิ้น ทุกภาพถ่าย ทุกย่างก้าวที่เธอเดิน ล้วนแต่มีไออุ่นของเขา

กลิ่นน้ำหอมที่เขาชอบใช้

หนังที่เขาชอบดู

เพลงที่เขาชอบฟัง

ยามนี้มันเหมือนไฟที่คอยเผาไหม้ใจเธอให้แตกสลายไปอย่างช้าๆ

หากใครบอกว่ารักคือการเสียสละ การยอมให้คนที่เรารักมีความสุข

เธอก็ขอยอมเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ขอเก็บเขาไว้เป็นของเธอคนเดียว

แต่เมื่อนาฬิกาชีวิตของเธอยังเดินต่อไป

ถึงแม้ว่ามันจะเดินช้าลงก็ตาม

จากคืนที่เธอร้องไห้แทบบ้า

จนถึงวันที่เธอไม่มีหยดน้ำตา

วันเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน

เธอไม่รู้ แต่เธอไม่เคยเสียดายวันเวลาเหล่านั้น

เพราะความเจ็บปวดทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้น

ทำให้เธอรู้ว่า ความรักจะสมบูรณ์

เมื่อเธอส่งเขารับ

เมื่อเธอให้และเขาให้

เมื่อระยะห่างของใจอยู่ในแนวเดียวกัน

เธอคิดว่าเธอพร้อมจะก้าวเดินไปข้างหน้า

กับใจดวงเดิม

เธอจะปล่อยให้มันเป็นไป

หากเมื่อไหร่ ความรักมาเคาะประตู

เธอจะเปิดรับมันด้วยความเต็มใจ

..... อีกครั้ง ......




 

Create Date : 17 สิงหาคม 2550    
Last Update : 17 สิงหาคม 2550 11:31:34 น.
Counter : 324 Pageviews.  

หนีเที่ยว





ตั้งแต่ทำงานมาจะสิบกว่าปี ไม่เคยสักครั้งจะลางานไปเที่ยว 555 จะมาใจแตกก็ตอนแก่นี่เสียกระมั้ง ลางานตั้งกะบ่ายโมงโดยไม่รู้เลยว่าอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น เขียนเหมือนโลกจะถล่ม ป่าวค่ะแต่เป็นความสนุกสนานที่ได้รับแบบเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม พลาดงานนี้คงเสียดายมากๆ

เริ่มตั้งแต่บ่ายหนิงนัดไปนวด ไม่ได้อโรมาเธอราปีอะไรที่ไหน นวดแผนโบราณ 555 นวดไปคุยไป เด๋วหนุมานเหินหาว เด๋วเมขลาล่อแก้ว ก๊อกแก๊กๆ กระดูกกรอบหมด อ้ายตอนทำท่านวดเพลินๆแล้วสะบัดต้นคอเนี้ย กลัวมันจะไม่คืนรูปอ่ะจิ เสียวชะมัด แต่ก็คุ้มจริงๆอ่ะ 260 บาท ตั้ง 2 ชั่วโมง เสร็จจากนวด หนิงไปรับพี่หนูที่แถวสุรวงศ์ แล้วไปต่อที่พันทิพกะมิเลเนียม ซื้อของกันนิดหน่อย แล้วเลยไปเข้างานประกวด AF แถวฟอร์จูน รัชดา

ไม่รู้ใครกล่าวเปิดงาน แต่พอไปถึง ก็เกือบครบ V แล้วอ่ะ มีนา นิ้ง พี่แอร์ ปอ พี่หน่า (กรี๊ดคนหลังสุด ไม่รู้ว่าพี่จะมา) พี่แอร์กำลังร้องเพลง เถียนมีมี่ รอบแรก ยังค่ะ ลีลายังไม่มา ฝ่ายปอก็เป็นพี่เลี้ยงแสนดี คอยส่งน้ำ คอยพัด คอยโบกให้ (กลัวป้าแกลมจับค่ะ) แถมปล่อยมุขฮาๆ แบบฉบับปอ ชวนชื่น ยิ่งตอนพี่หน่าขอตัวเข้าห้องน้ำ ปอและชาวคณะรีบอำว่า พี่หน่าคงทนไม่ไหว ไปขอเต้นขอกรี๊ดอยู่ในห้องน้ำ จะเต้นในห้องก็กลัวเสียภาพพจน์เจ้าป้าที่สั่งสมมานาน คิดดูขนาดยัยนิ้ง แว๊บจากที่ทำงานมายังเอาชุดมาเปลี่ยน เหมือนว่าตรูมาจากบ้านยังไงยังงั้นเลย แต่เจ้าป้าใส่ชุดเดิมค่ะ เสื้อเชิ้ตกับกระโปรงเรียบร้อยมั่กๆ เจ้าป้าบอกพี่หนึ่งว่ามาธุระขอกลับ 5 ทุ่ม 55555 ธุระอารายจะนานขนาดนั้น ดูหนังควบได้เลยนะเนี้ย ขนาดเจ้าป้าจะเข้าข่าว gossip ยังสุขุม นุ่มลึกอยู่เลย ส่วนคนฟังวี๊ดว๊ายกระตู้ฮู้กันใหญ่ ว่าแต่ถ้าเจ้าป้าได้อ่านไดฯ ขอสัก 1 ชุดนะค่ะ

ยัยนิ้ง เธอนิ้งสมชื่อจริงๆฟ่ะ ฉันนึกว่าวิญญาณเด็กแนวเข้าสิง เต้นได้ทุก mv ต่อให้ไม่เคยได้ยินเพลงนี้ ฉันก็ขอเต้นหล่ะเฟ้ย ประมาณเสีย 260 แต่เต้นไป 2500 เราเองก็อืมนะเสีย 260 บาทคุ้มจริงๆ ได้อิ่มหน่ำสำราญ ได้ดูตลกชวนชื่น แถมด้วยหางเครื่องชั้นดี คณะนี้จะเดินสายที่ไหน คงขอตามไปเป็นแม่ยกคล้องพวงมาลัยให้ตลอดเลยอ่ะ

ส่วนมีนาเธอยก Class English มาไว้ให้ห้องเกะค่ะ เริ่มจาก Bitch , Can’t take my eye out of you, Can’t flight the mool light, One way or another , Stupid Cupid, I Say a Little Prayer for You etc ร้องดีเสียงดีฟังเพลิน แล้วจู่ๆ เธอก็เปลี่ยนแนวมา ฮิพฮอพค่ะ London Bridge ของพวกเราเป็น Bridge แบบโนเนะ แต่ของเธอเป็นฮิพฮอพ บังเอิญพี่แอร์ปรึกษากับปอแล้ว เกรงว่าคง โย่ว โย่ว ไม่ไหว ขอผ่านก่อนแล้วกัน จากนั้นมีนาก็ขอตัวไปทำวิทยานิพนธ์ หารายชื่อเพลงที่นิยมร้องในเกะอย่างเคร่งเครียด

พี่เอ๋มาสุดท้าย ร้องก็ไม่ค่อยได้ร้อง คุยก็ไม่ค่อยได้คุย เอ! แล้วพี่เอ๋มาทำมายค่ะ พี่เอ๋ดูไม่คึกคักอาจจะเพราะขาดพี่เอกไม่มาช่วยกันร้องเพลงคู่หรือป่าว คราวหน้ามีหลายคนลงความเห็นว่าน่าจะให้พ่อบ้านเปิดห้องข้างๆไว้แล้วกัน จะได้สบายใจทั้งแม่แพะพ่อแพะ ไม่ต้องโทรเช็คเรทติ้งกันให้วุ่น

สุดท้ายพี่น้องคู่ฮา ฮามั่กๆค่ะ บรรดา V ทั้งหลายที่ถูกตั้งขึ้นมาส่วนใหญ่ก็มาจาก พี่น้องคู่นี้หล่ะค่ะ พี่หนูกะน้องหนิง (ต้องขออภัยที่ต้องพาดพิงถึงนะค่ะพี่หนู) ตอนแรกที่จะมาพี่หนูถามว่ามีผู้ชายมาป่าว หนิงบอกไม่มี พี่หนูโอเชให้หนิงเสยรถไปรับที่ทำงาน มาถึงเกะแรกๆ เงียบค่ะ ประทานโทษกินข้าวกันอย่างหิว แต่พอพี่แอร์ V69 มาเท่านั้นหล่ะ V 5-8 มาเลยค่ะ แกจะแถมให้ครบทุกคน แต่พอดีคนไม่ครบ ครั้งหน้าช่วยมากันให้ครบคนด้วยนะค่ะ จะได้ไม่ค้างๆ คาๆ ใจกันแบบนี้อีก สองพี่น้องกอดคอกันแพ้ใจ (ใครก็ไม่รู้) แล้วก็แค้นเค้าสุดฤทธิ์สุดเดช จนอยากจะควักหัวใจออกมาเลยหล่ะ อิอิ ยกใหม่มาทั้งอัลบั้ม แต่เสียงเหมือนมากๆเลยนะค่ะ

แต่ขอวนกลับมาที่พี่แอร์อีกนิด ตอนเถียนมีมี่ รอบสองเนี้ย อารมณ์แกเริ่มมาแล้ว หยิบทิชชูมาทำเป็นผ้าเช็ดหน้า โบกสะบัดไปมา นั่งๆร้องอยู่ไม่พอ ยืนร้องแล้วค่ะ ยังดีที่ปอเบรกไว้ ไม่งั้นพี่แอร์อาจปีนขึ้นโต๊ะได้ ต่อให้แซวแกยังไง พี่แอร์ทำไม่สนใจค่ะ ฉันต้องร้องให้จบให้ได้ แต่ก็ดีแล้วหล่ะค่ะ ไม่งั้นอาจมี เถียนมีมี่รอบที่สามก็ได้ วุ้ยนึกแล้ว...


เฮ้อ....เขียนจบซะที ถ้าคนมาเยอะกว่านี้ อิฉันคงขอไปเขียนเป็นนิยายขายหล่ะค่ะ




 

Create Date : 16 สิงหาคม 2550    
Last Update : 20 มีนาคม 2551 21:59:49 น.
Counter : 336 Pageviews.  

3 เดือน กับ มะเร็ง สมอง

เนื่องจากเป็นการเขียนเก็บสะสมไว้ เหตุการณ์อาจจะไม่ได้ปะติดปะต่อ หรือเป็นเหตุการณ์ ณ ปัจจุบัน


ฉบับที่ 7 กลับบ้าน

แฟนได้ออกจาก รพ วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน ตอนแรกๆ ก็ งง อยู่เหมือนกันว่า ทำไมหมอให้กลับเร็วจัง ดูเหมือนยังไม่หายดีนัก ตัวบวม (อาจจะเพราะน้ำเกลือที่ให้) ผื่นยังมีอยู่ ยังคันตามตัว แต่ไม่อ้วกและกินข้าวได้มากแล้ว ยังไงซะหมอให้กลับก็กลับ เคสนี้ตอนออกจาก รพ ต้องร้อง โอ้ว อู้ว แพงดีจัง สามหมื่นกว่าบาท เพราะประกันไม่จ่ายค่ายาให้ เนื่องจากเป็นการรักษาต่อเนื่อง จ่ายแค่ค่าห้องกะค่าหมอ หึหึ น้ำตาเล็ด

พอกลับมาบ้านเช้าวันอาทิตย์คิดว่าจะพาไปมีทติ้งบ้านเจี๊ยบเสียหน่อย ปรากฎว่าหน้าแฟนบวมฉุ มองแทบไม่เห็นตา ปากเจ่อ เราก็รีบลิ่วพาไปหาหมอที่พญาไท 3 หมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไร ที่เป็นเนื่องจากลดยาที่รักษาเร็วเกินไป จากเดิมเป็นยาฉีด เปลี่ยนเป็นยากินครั้งละ 9 เม็ด พอกลับบ้านให้กิน 5 เม็ด เลยทำให้หยุดฤทธิ์ที่แพ้ยาไม่ได้ หมอบอกให้กลับมากิน 9 เม็ดเหมือนเดิมก่อน แล้วก็กลับบ้าน

ยังไม่ทันหายเหนื่อย เราก็บอกแฟนว่า ให้ไปหาหมอที่ รพ ธนบุรี อีกที เพราะหมอที่ผ่าและเป็นคนให้ยามีเวรเข้าเย็นนั้น ไปให้แกดูเสียหน่อยแล้วก็บอกว่าไม่ได้กินยาแล้ว จะมีผลอะไรหรือป่าว พอพบหมอแล้วก็บอกว่า ถ้าตั้งแต่ผ่าตัดออกมายังไม่เคยชัก และไม่เคยมีประวัติการชักมาก่อน หมอจะถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงน้อย ตอนนี้ที่แพ้ยาก็หยุดยาไปแล้วเกือบ 10 วัน ไม่มีอาการชัก หมอจะยังไม่ให้ยา รอจนกว่าคนไข้มีอาการชัก ถึงจะให้ยาตัวใหม่ ซึ่งหมอก็ไม่อาจทราบได้ว่า คนไข้จะชักหรือไม่ และเมื่อไหร่ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้พร้อมกับชี้นิ้วขึ้นไปบนฟ้า อืม... (อาเมน).... พากันกลับบ้านเสียค่ารถ ค่าน้ำ ค่าขนมให้ปันปัน แต่ไม่เสียค่าหมอค่อยดีหน่อย



ฉบับที่ 8 30 บาท

วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน แฟนต้องไปทำการตรวจสุขภาพ ทำซีทีสแกนอีกครั้ง หมอให้งดอาหารและน้ำตั้งแต่เที่ยงคืน น้องเล็กเป็นคนพาไป หลังจากทำสแกนเสร็จแล้วก็รอคุยกับหมออีกครั้ง ด้วยความสับสนทำให้เข้าใจว่า ไปคุยก่อนแล้ววันที่หมอนัดฉายค่อยมาจ่ายเงิน ปรากฎหมออธิบายให้ฟังว่าคุณต้องตัดสินใจวันนี้เลยว่าจะใช้สิทธิอะไร ระหว่าง
1 จ่ายเองทั้งหมดตลอดการรักษา
2. จ่ายเองเฉพาะค่าฉายแสงส่วนครั้งต่อๆ ไปก็ไปใช้สิทธิ 30 บาท
3. ใช้สิทธิ 30 บาท
ซึ่งถึง ณ ตอนนั้น ทาง รพ. ต้นสังกัดก็ยังไม่ได้แจ้งทำเรื่องส่งตัวมา ทางเราโทรไปตามแล้วตามอีก ทางโน้นเห็นค่าใช้จ่ายแล้วก็พยายามถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ แต่ทางเราก็โทรไปคุยกับสายด่วน 1330 ด้วย ให้ช่วยตามอีกแรง
ระหว่างที่หมอพูดถึงการรักษาและค่าใช้จ่ายต่างๆ
หมอก็ถามแฟนว่า “คุณเข้าใจไหม”
แฟนบอก “ผมหิวข้าว”
หมออึ้งไป แบบพูดตั้งนานได้ฟังหรือป่าวเนี้ย เลยบอกให้ไปกินข้าวก่อนแล้วกัน อีก 1 ชั่วโมงมาให้คำตอบหมอ เพราะทีมงานเค้ารออยู่ ด้วยที่แฟนไม่อยากจะรอตามสไตล์คนใจร้อน บอกหมอไปว่าตกลงจะจ่ายค่าฉายแสงเอง ส่วนครั้งต่อๆไปจะไปตามเรื่องที่ 30 บาท หลังจากเซ็นต์เอกสารยินยอมรักษาเอง และสละสิทธิการใช้ 30 บาทแล้ว ทางรพ.ต้นสังกัด โทรมาบอกว่า ตกลงทำเรื่องส่งตัวให้แล้ว มารับเอกสารได้เลย อ้าวดีใจก็ดีใจ แต่เพิ่งเซ็นต์ไปต้องเดินไปบอกนางพยาบาลใหม่ คราวนี้ก็โดนสรรเสริญยกใหญ่ แต่ก็ยังมีนางพยาบาลผู้ใจดีมาช่วยให้คำแนะนำ บอกให้รีบไปเอาเอกสารมาที่ศิริราชไปที่ฝ่าย 30 บาท ยื่นเรื่องเพื่อรอให้ผู้อำนวยการ รพ
ที่ศิริราชอนุมัติอีกครั้ง น้องเล็กก็วิ่งหูตูบเลยคราวนี้เพราะมันปาไปเที่ยงกว่าแล้ว บอกให้แฟนนั่งรถกลับบ้านเอง ซึ่งตอนนั้นแกก็ไม่สนใจอะไรแล้ว แกเบลอๆ หิวข้าวอย่างเดียว จำทางกลับบ้านถูกอย่างเดียวก็พอ

ส่วนน้องเล็กหลังไปเอาเอกสารที่ รพ แล้ว ก็กลับมาที่ศิริราชเพื่อรอให้ ผอ เซ็นต์อนุมัติ ซึ่งก็ผ่านพ้นไปด้วยดีเสร็จเรื่องทุกอย่างก็บ่ายสี่โมง น้องเล็กถึงมีน้ำเสียงแจ่มใส บอกว่าถึงจะเหนื่อยแต่ไม่ต้องเสียตังค์หนูก็โอเคแล้วค่ะ เด๋วหนูต้องกลับไปสวดชินบัณชร 5 คืนแก้บนอีก หนูบนไว้ว่าขอให้ทาง รพ อนุมัติมาเราจะได้มีต้องเสียตังค์

หมอนัดทำเครื่องหมายที่จะฉายแสงวันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม แล้วอีกราว 2 อาทิตย์ ก็จะได้เริ่มฉายแสงกันอย่างจริงจังซะที

ทั้งหลายทั้งปวงขอบใจน้องเล็กที่ช่วยเป็นธุระให้ทุกอย่าง



ฉบับที่ 9 หน้ากาก

วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม แฟนมีนัดกะหมอที่ศิริราช ไปมาร์คจุดที่จะใช้ฉายแสง หมอทักทายว่า หน้าตาดูแจ่มใสกว่าคราวก่อน แฟนยิ้มแก้มปริ แกก็ดีขึ้นจริงๆ หล่ะ บางทีไม่ใช่เพราะกำลังใจจากใครที่ไหน แต่เป็นเพราะหมอคู่ใจแกนั่นหล่ะ หมอที่แกรักษาที่ พญาไท 3 บอกว่าแกดีขึ้นแล้ว ผลตรวจเลือดดีขึ้น แกก็ดีขึ้นจริงๆ กินข้าวได้เยอะขึ้น เริ่มมีแรงพูดและบ่นมากขึ้น 555 แล้วก็อยากจะออกข้างนอกบ้าง ที่ผ่านมาแกเอาแต่นอนอย่างเดียวเลย

เรื่องมาร์คจุดฉายแสง นึกว่าทำเป็นเครื่องหมายด้วยปากกาสีดำไว้ที่หัวซะอีก แต่เปล่าเลยเคสของแฟนเป็นแบบ 3 มิติ เค้าทำแบบเป็นหน้ากากมาครอบที่หัว แล้วเหลือเป็นช่องเฉพาะจุดที่จะฉายแสง ดูปลอยภัยดี ทำให้แกไม่ต้องมีมลทินอะไรที่หัว การฉายแสงเริ่มวันจันทร์นี้เลยน่าจะใช้เวลาประมาณ 30-35 วัน ไม่นับวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ ใช้เวลาแค่วันละ 3-5 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย

น้องเล็กว่าจะพาไปแค่วันแรก ส่วนวันอื่นๆจะให้แกไปเอง (น้องเล็กใจแข็งน่าดู อิอิ) ส่วนผลจากการฉายแสงจะเป็นยังไง ไว้จะมาเล่าสู่กันฟังในครั้งต่อไป




 

Create Date : 15 สิงหาคม 2550    
Last Update : 17 พฤษภาคม 2551 22:45:31 น.
Counter : 471 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

แม่เจ้าปัน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ขอรหัสผ่านหลังไมค์นะค่ะ
Free Counters
Friends' blogs
[Add แม่เจ้าปัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.