แม่จะเข็มแข็งเพื่อหนู/ที่หนึ่งในหัวใจ
Group Blog
 
All blogs
 
>_< ... ขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ ... >_<

สืบเนื่องมาจากเรื่องที่พาปันปันไปเรียนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเมื่อวันอาทิตย์ พอกลับบ้านก็เล่าให้สามีฟังว่าเป็นอย่างไรบ้าง พอฟังจบสามีบอกคำดียวเลยว่าไม่ให้ไปอีกแล้ว ถ้าอยากจะให้เรียนก็จ้างครูมาสอนที่บ้าน ทำไมต้องไปเรียนรวมกับเด็กพิเศษด้วย ในเมื่อปันปันไม่ได้เป็นอะไร เกิดเรียนด้วยกันแล้วจะทำให้เป็นแบบเค้าหรือป่าว เราได้ฟังก็โมโหว คิดในใจว่าเรียนกับเด็กพิเศษแล้วมันทำไมเหรอ (ด้วยที่เราไปเห็นกับตาว่า น้องเค้าต่างจากลูกเราก็จริงอยู่ แต่เมื่อเรียนด้วยกันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร ครูก็ดูอยู่ตลอดเวลา ทำไมต้องแบ่งแยกด้วย) ด้วยความโกรธเลยบอกไปว่า

“ปันปันมีปัญหาเรื่องการเข้ากลุ่ม แล้วจะให้มาเรียนแยกมันจะมีประโยชน์อะไร”

“แล้วตัวเองเป็นแม่ภาษาอะไร ไม่รู้หรือไงว่าลูกไม่ได้เป็นแล้วทำไมจะต้องเที่ยวพาไปหาหมอที่โน่นที่นี่ด้วย” สามีโกรธบ้าง

“ทำไมเราจะไม่รู้ว่าลูกเราไม่เป็น คนเป็นแม่ย่อมรู้ดีแต่จะให้ไปบอกกับครู โดยไม่มีอะไรยืนยัน ครูก็ต้องว่าเราเข้าข้างลูกน่ะซิ” เรายังไม่ลดละ

“ไม่รู้หล่ะ ไม่ให้ไป ต่อไปนี้วันเสาร์-อาทิตย์ ห้ามพาลูกออกไปแล้ว ให้ซื้อหนังสือมาสอนที่บ้าน” สามีสั่ง

“หนังสือปันปันมีอยู่เยอะแยะ แล้วทุกวันนี้เราก็เป็นคนสอนลูกเราอยู่ตลอด จะซื้อมาอีกทำไม ลูกเราต้องการการพัฒนาอย่างอื่นนอกจากการเรียนหนังสือ เข้าใจไหม” เราตวาด

“ตามใจ งั้นก็ไม่ต้องไปโรงเรียนมันหล่ะ อยากจะพาไปที่ไหนก็เชิญ” ประโยคสุดท้ายที่สามีพูด

จากนั้นเราก็ระงับอารมณ์ด้วยการขึ้นไปทำความสะอาดห้อนนอน ลูกเดินตามขึ้นมาติดๆ ช่วยทำโน่นทำนี่ ทำให้อารมณ์โกรธดับไปบ้าง จนสติค่อยๆ กลับมา เรารู้ดีว่าสามีจะเป็นคนไม่ง้อใคร ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ฉันไม่สน ฉันไม่พูดก่อนแน่นอน ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน รอไปเถอะ จนทนไม่ไหวต้องพูดก่อน พอมาตอนนี้ไม่รู้ว่าจะรอทำไมในเมื่อมันก็ต้องคุยกันอีกอยู่ดี หลังๆ ไม่รอแล้ว ทะเลาะกันเสร็จ แยกย้ายมุมใครมุมมัน แล้วเราก็เป็นคนเอ่ยบทสนทนาก่อน โดยปล่อยให้เรื่องที่ทะเลาะกันมันเป็นแค่เรื่องที่ผ่านมาแล้วผ่านไป เพราะเป็นแค่เรื่องหยุมหยิม

แต่เรื่องลูก ปล่อยให้ผ่านไม่ได้ ต้องคุย ต้องเคลียร์ ต้องเข้าใจ หลังจากที่ตรึกตร่องมาดีแล้ว เริ่มเข้าใจสามีว่าทำไมเขาถึงไม่อยากให้ไปเรียน คงเพราะเขารักลูกเขา เลยพาลกลัว ซึ่งมันก็เหมือนกับเราที่กลัวว่าลูกจะมีปัญหา เพียงแต่แว่บแรกที่เราฟังดันไปรู้สึกถึงมุมมองอื่นว่า สามีไม่ชอบเด็กพิเศษ มันจริงแล้วไม่ใช่เลย เขาไม่ได้รังเกียจ แต่เขากลัวว่าลูกจะติดพฤติกรรมบางอย่างมา และเจตนาของเขาคือ พอเราได้คำแนะนำมาแล้ว อยากให้เราสอนเอง ไม่อยากให้ไปร่วมกลุ่ม เช้านี้เราเลยโทรไปบอกว่า

“พ่อ ขอให้พ่อรู้ไว้นะ ว่าปันปันคือสิ่งที่แม่รักที่สุด แม่อยากให้พ่อไว้ใจแม่ เพราะแม่จะต้องเลือกและดูแลปันปันอย่างดีที่สุด เหมือนอย่างที่พ่อทำ”

“ตามใจ อยากจะพาไปก็ตามใจ” เพียงแค่นี้เราก็รู้แล้วว่า สามีเข้าใจเราแล้ว

อยากจะบอกว่าการที่เรามีความเห็นที่แตกต่างกันมันไม่ใช่สิ่งที่บอกว่าความคิดไหนถูกหรือผิด เพียงแต่ ณ เวลานั้นเราต่างมองคนละมุม หากเราลองเปลี่ยนมุมที่มอง เราก็จะเข้าใจมากขึ้น ยิ่งเรื่องของครอบครัวการขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ จะยิ่งช่วยให้เราเข้าใจกันมากขึ้น



Create Date : 29 มกราคม 2550
Last Update : 17 พฤษภาคม 2551 22:11:21 น. 4 comments
Counter : 407 Pageviews.

 
น่ารักจังค่ะ.......

บางเรื่องน่าจะกลายเป็นเรื่องร้อนได้......

แต่คุณสามารถทำให้มันเย็นลง..................

จะจำวิธีคิดแบบนี้ไปใช้บ้างนะคะ...............

ขอบคุณที่ให้คติดีๆค่ะ


โดย: ปลายปัญญา วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:15:52:51 น.  

 
ยินดีด้วยที่ความขัดแย้งลงเอยด้วยความเข้าใจแบบนี้นะคะ

ร้านคุณลุงราเมง ปิดวันอังคารวันเดียวค่ะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:16:19:20 น.  

 
ดีจังค่ะ ที่เคลียร์กันได้ สงสัยต้องจำวิธีคิดแบบนี้ไปใช้มั่ง ..ชีวิตจะได้ Happy happy


โดย: หนูชล วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:17:27:05 น.  

 
สวัสดีค่ะ เพิ่งเข้ามาครั้งแรก ท่าทางคุณแม่เป็นคนใจเย็นจังเลยค่ะ


โดย: แม่น้องสองพี วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:20:10:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แม่เจ้าปัน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ขอรหัสผ่านหลังไมค์นะค่ะ
Free Counters
Friends' blogs
[Add แม่เจ้าปัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.