แม่จะเข็มแข็งเพื่อหนู/ที่หนึ่งในหัวใจ
Group Blog
 
All blogs
 
>>>> ฝันของเธอ...หาให้เจอ...ฉันเอาใจช่วย <<<

ใครๆ ก็คงมีความฝันกันใช่ม๊า ความฝันเราก็มีมากเกินบรรยาย แปรเปลี่ยนไปตามวัย แต่ไม่เปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมนะ เพราะชีวิตไม่ค่อยจะได้เคยผจญภัยอะไรกับเค้าสักเท่าไหร่ เท่าที่จำได้


ไม่เคยฝันว่าอยากเป็นครู เพราะเป็นคนอธิบายอะไรไม่ค่อยจะรู้เรื่อง จำได้ว่าตอนเด็กๆ สอนการบ้านน้อง สอนไม่ได้ไม่รู้จะพูดยังไงให้เข้าใจ พูดแล้วก็โมโหทั้งตัวเองและโมโหน้องด้วย ด่าน้อง ทำไมเมิงโง่อย่างนี้ แค่บวกเลขยังทำไม่ได้ ดีแล้วที่สอบตก น้องมันสวนกลับมาว่า ถ้ากรูฉลาด จะมานั่งให้เมิงสอนเหรอ จากนั้นเลยเลิกสอน เปลี่ยนเป็นนั่งทำการบ้านให้มันแทน เอิ๊ก เอิ๊ก ปรากฎว่ามีทำผิด น้องมันกลับเอามาให้ดูแล้วบอก เมิงทำการบ้านภาษาอะไรทำผิด โง่ฉิบหาย อ้าวดูมันพูด จากนั้นเลยไม่ทำการบ้านให้มันหล่ะ บอกแม่ให้มันไปเรียนพิเศษที่โรงเรียนก็แล้วกัน ส่วนฉลาดๆ อย่างเรา จะนั่งเล่นรอน้องอยู่ที่โรงเรียน แล้วนับแต่นั้นมาก็เข้าใจตัวเองเลยว่า อนาคตเป็นครูคงไม่รุ่งแน่ๆ


ไม่เคยฝันอยากเป็นนางงาม ก็ใครจะไปอาจเอื้อมปานนั้น เด็กกะโปโล ตัวผอม ใส่แว่นหนาเตอะ ตัดผมม้า ไว้ผมบ๊อบ เล่นแต่กับเด็กผู้ชาย ไม่เคยคิด ไม่เคยรู้จักนางงาม ไม่เคยรู้ว่าต้องแต่งตัวไงให้ดึงดูดเพศตรงข้าม อันนี้เป็นปมด้อยมากๆ สมัยนั้นมักมีคำพูดเกี่ยวกับสาว(ไม่)สวยว่า แม้แต่หมามันยังไม่มอง เพราะฉะนั้นแล้วคนมันจะมองเหรอ ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ สมัยประถมเรียนโรงเรียนสหศึกษา poppy love อะไรเนี้ย ไม่มีกะเค้า แล้วก็ไม่รู้จักด้วย จะมีก็ไปแอบชอบเค้าเพราะเค้าเรียนเก่งกว่าเรา อุตส่าห์แอบปลื้มอยู่เป็นปีๆ จนวันหนึ่งได้มีโอกาสไปบ้านเค้า กรี๊ดดดดดดดดด คาดว่าครั้งนี้คงจะสามารถกระเถิบความสัมพันธ์ได้อีกจิดนึง พอเข้าบ้านนั่งคุยโน่นนี่กันกระหนุงกระหนิง บังเอิญพูดมากเกินไปหน่อย ถามเค้าว่าขอกินน้ำได้ไหม เค้าว่าได้สิ แก้วละ 1 บาท จ๊ากกกกกกก สมัยโน่น 1 บาทมันก็ไม่ได้แพงหรอกนะ แต่มัน งง อ่ะ ต้องซื้อน้ำกินด้วย น้ำใจอ่ะมีไหม เราก็ได้แต่บ่น งุ๊งงิ๊งๆ ขอลากลับบ้านก่อนดีกว่า วันรุ่งขึ้น น้ำ 1 บาท ก็กลายเป็น talk of the room ให้ทันที จนเค้าเดินมาถามว่า เธอไปบอกคนอื่นเหรอว่า ถ้ากินน้ำบ้านเราต้องเสียตังค์ เราก็ว่า ใช่ดิ หรือว่ามีคนอื่นเค้าไปขอกินน้ำบ้านเธออีกนอกจากฉัน เชอะ พร้อมกับสะบัดหน้าพรืดหนีไป หลังจากนั้นมา ก็ไม่เคยมีหมาตัวไหนมามอง สาวน้อยคนนี้อีกเลย TT ขนาดย้ายบ้านและย้ายโรงเรียนก็แล้ว มันก็ไม่มีมาเลยค่ะ แต่ถ้าอยากรู้ว่า แล้วไฉนเราจึงกลายมาเป็นแม่เจ้าปันได้ ต้องติดตามตอนต่อไป ซึ่งมันก็คงไม่ธรรมดาแน่ๆ อิอิ


ไม่เคยฝันอยากเป็นดารา เพราะแสดงละครไม่เป็น ไม่เข้าใจว่าต้องทำหน้าตาอย่างไร ทำอารมณ์แบบไหน จนถึงทุกวันนี้เวลาทำงานก็แสดงละครไม่เป็น เลยได้แต่ย่ำอยู่กับที่มา 10 ปีล่ะ สมัยมัธยมปลาย วิชาการภาษาไทย อาจารย์มีให้แสดงละครแบ่งเป็นกลุ่ม ทำเหมือนละครวิทยุ+ละครเวที คือให้เราอัดเสียงกันมาก่อน แล้วก็แสดงตามสคริปที่ได้รับ ก่อนอัดเสียงมีการเทสต์เสียงกันก่อนว่าใครจะเหมาะกับละครตัวไหน คนสวยแต่เสียงไม่สวย อนาคตดับวูบสำหรับกลุ่มนี้ ส่วนคนไม่สวยเสียงดี กลับจับพลัดจับพลูได้เป็นนางเอกค่ะ ด้วยมติอันเป็นเอกฉันท์กับน้ำเสียงสวยๆ ที่ไม่เหมือนตัว ทำให้เราได้พากย์เสียงนางเอก คริคริ จากพากย์เสียงนางเอกก็เขยิบได้มาเป็นนางเอก (ที่แสดงได้แย่มั่กๆ) ตอนซ้อมก็ดูดีอ่ะน่ะ แต่พอแสดงจริงเหลวไม่เป็นท่าเชียวค่ะคุณขา ก็เมื่อเทียบกับอีกกลุ่มเธอร้องไห้ได้เป็นวรรคเป็นเวร แสดงได้ดีมั่กๆ ส่วนกลุ่มเราร้องไห้ไปหัวเราะไป ประมาณเสียใจแล้วเสียสติไปเลยหล่ะค่ะ ครูเลยขอร้องว่า เธออวดเสียงไดแต่อย่าเอาหน้าไปให้เค้าดูหล่ะ พร้อมกับให้คะแนนเต็ม 10 แหม อาจารย์ขา หนูก็อยากจะบอกว่า หนูก็จะเสียสละแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นหล่ะค่ะ


ส่วนเรื่องความฝันที่อยากจะเป็นไว้มาเขียนต่อครั้งหน้าแล้วกันนะค่ะ


ปอลอ

ขอบคุณคุณ oreocream ที่แวะมาทักทายกันนะค่ะ




























Create Date : 22 มกราคม 2550
Last Update : 17 พฤษภาคม 2551 22:08:38 น. 0 comments
Counter : 293 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แม่เจ้าปัน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ขอรหัสผ่านหลังไมค์นะค่ะ
Free Counters
Friends' blogs
[Add แม่เจ้าปัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.