แม่จะเข็มแข็งเพื่อหนู/ที่หนึ่งในหัวใจ
Group Blog
 
All blogs
 
Phenomenon = ขอเป็นเพียงคนเดินดิน










That I can

Change the world

I would be the sunlight in your universe

You would think my love was really something good

Baby, if i could change the world

If I could be king, even for a day

I'd take you as my queen

I'd have it no other way

And our love would rule

this kingdom we have made

Til' then i'll be a fool

Wishing for the day






นั่งดูหนังเรื่องนี้มาประมาณ 5 รอบ แต่ไม่เคยดูจนจบสักครั้ง

ดูครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้นั่งดูแบบจริงๆ จังๆ

เพราะคิดว่าเป็นเพียงหนังธรรมดา

ครั้งนี้รอบที่ 6 ได้นั่งดูจนจบ

ประทับใจหลายอย่าง

หนังที่สร้างมาเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว

(เข้าฉายเมื่อปี 1996)

เราได้มานั่งดู ณ ปัจจุบัน (2007)

กลับไม่มีความรู้สึกว่าเป็นหนังเก่า

บรรยากาศย้อนยุค ฉากน่าเบื่อ หรือ ล้าสมัยแต่อย่างไร

หลายๆ คนพูดว่า จุดเปลี่ยนของชีวิตผู้ชายน่าจะอยู่ที่วัย 40 ปี

และจุดเปลี่ยนของชีวิตผู้หญิงน่าจะอยู่ที่ 30 ปี

ความจริงแล้วทุกเวลานาที ที่เข็มนาฬิกาเดินไป

ชีวิตเราก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

คงเพียงเพราะความเคยชิน

ทำให้เราไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น

แต่สำหรับ จอร์จ พระเอกของหนังเรื่องนี้แล้ว

วันเกิดในวัย 38 ปี ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเปลี่ยนแปลงไป

ด้วยเหตุบังเอิญ หรือเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ หรือ จะมียานจากนอกโลกจริงๆ

นั่นก็สุดแล้วแต่เราที่อยากจะให้มันเป็นไป

เมื่อจอร์จได้รับพลังวิเศษมาแล้ว

จะทำอย่างไรกับมันดี

เอาไปโชว์พาวกับบ้านใกล้เรือนเคียง

ใคร ๆ ก็หาว่าเป็นคนบ้า

แม้แต่นางเอกเองก็ยังหวาด





คนที่รับรู้และเข้าใจมีแค่ 2 คน

คือเพื่อนสนิท และ ลุงหมอ

การที่หนังบอกว่าลุงหมอคืออีกคนที่เชื่อในพลังวิเศษ

มันจะบอกเป็นนัยๆ ได้หรือป่าวว่า

ต่อให้โลกเราก้าวไกลไปมากแค่ไหน

ก็ยังมีบางสิ่งที่เราไม่สามารถหาเหตุผลมาอธิบายได้

นอกจากยอมรับและนำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์

ลุงหมอได้ให้จอร์จใช้พลังวิเศษในการช่วยเหลือคนอื่นๆ

โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่า

เมื่อยิ่งใช้พลังมากเท่าไร

อายุเขาก็จะยิ่งสั้นลงมากเท่านั้น

มุมมองให้ย้อนกลับมาคิด

เมื่อทั้งนักวิทยาศาสตร์หรือหมอจากที่อื่นๆ

พบเรื่องราวของจอร์จต่างก็มาขอให้ทำการทดสอบ

เพื่อนำมาวิเคราะห์

แถมบางคนคิดไกลว่าจอร์จอาจเป็นบุคคนอันตรายต่อประเทศชาติ

พยายามหน่วงเหนี่ยว กักขัง

แสดงให้เห็นว่า เผด็จการมีซ่อนอยู่ในทุกซอกหลืบของสังคม

ที่เด็ดสุดคือ เมื่อหมอใน รพ มาพยายามพูดให้ผ่าตัดสมอง

เพื่อจะเอาไปเป็นกรณีศึกษา

โดยไม่มีการรับรองความเสี่ยงของการผ่าตัดอีก

จอร์จโต้กลับไปว่า

ที่ผ่านมาผมยังทำให้พวกคุณไม่พออีกหรือ

นี่คุณยังจะมาขอร้องให้ผมตายเพื่อพวกคุณอีก

ผมคิดว่าผมคงไม่มีอะไรจะพูดกํบคุณอีกแล้ว

เมื่อเวลาจวนเจียนจะหมดลง จอร์จหนีออกจาก รพ

เพื่อที่ว่าอย่างน้อย เมื่อคนเราเลือกที่จะเกิดไม่ได้

แต่บางครั้งเราก็ยังสามารถเลือกที่จะตายได้

การได้ใช้ลมหายใจสุดท้ายกับคนที่เรารัก

คงเป็นความตายที่มีความสุขที่สุดแล้ว

หลายคนชอบประโยคที่ซาบซึ้งตรึงใจประโยคนี้

Will you love me for the rest of my life? No, I'll love you for the rest of mine.





แต่เรากลับชอบตอนที่ลุงหมอนั่งอยู่ในบาร์อย่างเหงาๆ คนเดียว

หลังจากทราบว่า จอร์จเป็นเนื้องอกในสมองและกำลังจะตาย

ในขณะที่คนอื่นๆ กำลังพูดถึงจอร์จเหมือนเป็นตัวตลก

ทำล้อเลียน และพูดใส่สีตีไข่กันอย่างสนุกสนาน

ลุงหมอเขวี้ยงแก้วลงกลางวงสนทนาแล้วพูดว่า

จอร์จ เคยทำอะไรพวกเธอเหรอ

เคยไหม เคยไหม

เค้าไม่เคยทำอะไรพวกเธอเลย

โฮะ โฮะ โฮะ สะใจง่ะ

เพราะเรารู้สึกว่าอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของมนุษย์

คือ การนินทาว่าร้ายคนอื่น

ถึงแม้หนังจะจบแบบ unhappy ending

แต่เป็นความประทับใจที่คงยากจะลืม



Create Date : 11 ธันวาคม 2550
Last Update : 13 ธันวาคม 2550 15:28:58 น. 2 comments
Counter : 3517 Pageviews.

 
ยังไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ แต่ชอบหนังทื่จอห์นทราโวลต้าเล่นทุกเรื่องค่ะ


โดย: 小风儿 (bench ) วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:21:13:30 น.  

 
ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้เหมือนกันจ้ะ
เป็นช่วงที่เริ่มห่างหายจากโรงหนังเชียวแหละ
ถ้า ๑๙๙๔ - ๑๙๙๖ นะ ดูจนหนังไม่ทันฉายเลย
แต่ชอบเพลงของเรื่องนี้ Change the world


โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 12 ธันวาคม 2550 เวลา:23:55:29 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แม่เจ้าปัน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ขอรหัสผ่านหลังไมค์นะค่ะ
Free Counters
Friends' blogs
[Add แม่เจ้าปัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.