เคยผิดหวัง ก็มีสิทธิ์ผิดหวังได้อีกไม่ต้องห่วง

ฟังเพลงแล้วเตรียมรับมือกับทุกอย่าง

วันนี้แม่เอาเพลง live & learn มาฝาก วันนี้เอาเนื้อไปก่อน เดี๋ยวแม่จะหาเพลงมาให้นะเด็กดี

เมื่อวันที่ชีวิต เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน
จนบางครั้งคนเราไม่ทันได้ตระเตรียมหัวใจ
ความสุขความทุกข์ ไม่มีใครรู้ว่าจะมาเมื่อไหร่
จะยอมรับความจริงที่เจอได้แค่ไหน

เพราะชีวิตคือชีวิต เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป
มีสุขสมมีผิดหวัง หัวเราะหรือหวั่นไหว เกิดขึ้นได้ทุกวัน

อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน
อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

สุขก็เตรียมไว้ ว่าความทุกข์คงตามมาอีกไม่ไกล
จะได้รับความจริงเมื่อต้องเจ็บปวดไหว

เพราะชีวิตคือชีวิต เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป
มีสุขสมมีผิดหวัง หัวเราะหรือหวั่นไหว เกิดขึ้นได้ทุกวัน

อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน
อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน
อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน
อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด




 

Create Date : 03 ตุลาคม 2551    
Last Update : 3 ตุลาคม 2551 16:32:41 น.
Counter : 248 Pageviews.  

เคล็ดลับแห่งความสุข

เคล็ดลับแห่งความสุข : ว.วชิรเมธี


คนส่วนใหญ่มีความเชื่อกันว่า ความ "มี" มีความสุขมากกว่าความ "ไร้" การได้ "เป็น" คนมีชื่อเสียงมีความสุขมากกว่าการเป็นคน "สามัญ" แสนธรรมดา แต่...เมื่อถึงเวลาหนึ่ง หลายคนเริ่มคิดสวนทางกับความเชื่อของคนส่วนใหญ่ เพราะเริ่มค้นพบด้วยตัวเองว่า บางทีความ "ไร้" กลับทำให้มีความสุขยิ่งกว่า เช่นเดียวกัน ใครบางคนตะเกียกตะกายที่จะได้เป็นนั่นเป็นนี่ แต่พอได้เป็นแล้วกลับโหยหาความเป็นคนธรรมดาสามัญที่คุ้นชินมาแต่ก่อน
ฯลฯ
บางครั้งความสุขของคนเราก็อยู่ที่การได้เป็นคน "ธรรมดา" และอยู่ที่การได้เป็นคนซึ่ง "ไร้" ภาระผูกพันในทางสังคม มากกว่าการเป็นคนมีชื่อเสียงและการแวดล้อมด้วยประดาวัตถุอำนวยกิเลสสารพัดชนิด
การเป็นคนง่าย ๆ ซึ่งไม่มีใครรู้จัก มีเวลาเป็นของตัวเองอย่างล้นเหลือ การเป็นคนซึ่งสามารถเดินตัวปลิวไปยังทุกหนทุกแห่งได้อย่างที่ใจปรารถนา โดยไม่ต้องทนแบก "อัตตา" ของตัวเองไปด้วย หรือการมุ่งไปข้างหน้าโดยไม่มีภาระให้กังวลอยู่ข้างหลังแม้แต่น้อย ใช่หรือไม่ว่าสิ่งนี้คือปรารถนาแห่งชีวิตของคนส่วนใหญ่ในโลกนี้
แต่จะมีสักกี่คนที่ได้เป็นได้ทำอย่างที่ปรารถนาแห่งหัวใจเรียกร้องต้องการ
อะไรกันที่ทำให้เราไปไม่ถึงจุดหมายแห่งความสุขของชีวิตตามที่ตั้งเข็มทิศแห่งชีวิตเอาไว้ อะไรกันที่ทำให้เราจมจ่อมสถิตเสถียรอยู่กับสถานะใดสถานะหนึ่ง หรือที่ใดที่หนึ่ง และ/หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่าวยาวนาน จนปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น ก้าวไปไม่ถึงความสุขที่สงบเย็นอย่างที่ปรารถนาเสียที อะไรกันคือพันธนาการที่ว่านั้น
บางทีคำตอบอาจอยู่ที่นิทานปรัชญาต่อไปนี้ก็เป็นได้



ผู้อาวุโสคนหนึ่งใช้ชีวิตอย่างแสนสุขอยู่กับครอบครัวบนเกาะแห่งหนึ่งมาเป็นเป็นเวลานาน ที่เกาะแห่งนี้เขามีบ้าน มีครอบครัว มีทรัพย์สมบัติ มีอิสรเสรีในชีวิต มีเวลามากมายจนเขารู้สึกว่าตัวเองไม่ต่างอะไรกับพระราชา
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างในโลกนี้ย่อมมีวันหมดอายุของตัวเองเสมอ แล้วอยู่มาไม่นานเขาก็รู้วาวันเวลาของตัวเองกำลังเดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว เขาขอให้ลูก ๆ พาเขาออกไปสูดอากาศริมทะเลที่ชายหาด เขาหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์แห่งแผ่นดินถิ่นเกิดเข้าไปเต็มปอด ทอดตามองทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นสมบัติของตัวเองอย่างภาคภูมิ แล้วเขาก็ค่อย ๆ ทรุดตัวลงกับชายหาด กอบเอาดินทรายจำนวนหนึ่งมากำไว้ในมือแน่น เขาบอกตัวเองว่า ผืนดินถิ่นนี้คือสมบัติของเขาแต่เพียงผู้เดียว ในระหว่างนี้เอาก็ขาดใจตาย
เมื่อตื่นขึ้นมาอีกที เขาพบว่าตนเองยืนอยู่บนสถานที่อันเป็นทิพย์แห่งหนึ่ง ข้างหน้าเขามีเทวทูตมากมายมาเชิญให้เขาเข้าสู่ดินแดนสวรรค์อันผาสุก แต่พอเขาย่างเท้าก้าวมาถึงธรณีประตูแดนสวรรค์เขาก็ต้องหยุดชะงัก ไม่สามารถก้าวผ่านไปได้ มีบางสิ่งบางอย่าง ทำให้สมาชิกแห่งสวรรค์คนล่าสุดไปอาจก้าวต่อไปได้อีก เทวทูตสงสัยจึงตรวจค้น ก็พบว่าสองมือของชายชรายังกำดินทรายเอาไว้แน่น เทวทูตบอกให้เขา "ปล่อยวาง" สมบัติเก่าจากแผ่นดินเกิดเสีย มิฉะนั้นก็จะไม่สามารถเข้าสู่ดินแดนสวรรค์ได้ แต่..ชายชราบอกว่า จะให้เขาทิ้งอะไรก้ได้ทั้งนั้น แต่จะให้ทิ้งผืนดินจากแผ่นกินเกิดนั้น เขาทำไม่ได้ เพราะ"ส่งนี้"เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เป็นตัวแทนของความทรงจำอันแสนสุขของเขาในเมืองมนุษย์
เมื่อชายชราไม่ยอมวาง "เงื่อนไข" อันผิดกฏสวรรค์ เขาก็จำต้องรั้งรออยู่ตรงธรณีประตูสวรรค์ชั้นนอกต่อไป ไม่สามารถเข้าสู่ดินแดนสวรรค์ชั้นในได้ ต่อมาเทวทูตคณะเดิมได้เพียรมาพบเขาและอ้อนวอนให้เขาเข้าไปยังดินแดนสวรรค์เสียที แต่ไม่ว่าจะพยายามอยางไร ชายชราก็ไม่ยอม "ปล่อยวาง" ดินในมือ เมื่อเขาไม่ยอมปล่อยวางอยู่อย่างนั้น เทวทูตทั้งหลายก็จนด้วยเกล้า จำต้องปล่อยเขาไว้อย่างนั้นตามยถากรรมตั้งหลายสิบปี
กระทั่งเวลาผ่านไปนานแสนนาน วันหนึ่งมีสมาชิกแดนสวรรค์คนใหม่อุบัติขึ้นมา เธอคนนี้หาใช่ใครอื่นไม่ หากแต่คือหลานสาวของชายชรานั่นเอง เมื่อทั้งสองพบกันตรงหน้าประตู ปู่กับหลานโผเข้ากอดกันด้วยความยินดีปรีดา วินาทีที่ชายชราโผตัวเข้ากอดหลานสาวนั้นเอง เขาก็เผลอตัวแบมือออก ดินทรายในมือร่วงหล่นลงสู่พื้นโดยฉับพลัน เทวทูตเห็นดังนั้นจึงจับมือปู่กับหลานก้าวผ่านธรณีประตูเข้าสู่แดนสวรรค์ชั้นในอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่ชายชราย่างเท้าก้าวผ่านธรณีประตูสวรรค์นั้นเอง เขาก็ตกใจจนตะลึงลาน เพราะแดนสวรรค์อันแสนสุขที่อยู่ตรงหน้าหาใช่อะไรอื่นไม่ เพราะมันคือประดาทรัพย์สมบัติทั้งปวงซึ่งเขาเคยครอบครองแต่เมื่อยังมีชีวิตอยู่นั้นเอง บัดนี้ทรัพย์สมบัติทั้งปวง บนเกาะนั้นได้ลอยเลื่อนมาประดิษฐาน ณ แดนสวรรค์อันแสนสุขพร้อมทั้งยังเปลี่ยนสถานภาพกลายเป็นทรัพย์สมบัติอันเป็นทิพย์วิจิตรตระการตา รอให้เขาผู้เป็นเจ้าของเพียงหนึ่งเดียวมาครอบครองเหมือนเดิมอยู่เป็นเวลานานแล้ว
พอเห็นเช่นนั้น ท่านผู้เฒ่าถึงกับออกปากอุทานกับตัวเองเบา ๆ ด้วยความเสียดายว่า
"โธ่! ถ้ารู้ว่าวิมานอันแสนสุขมิได้มีอยู่แต่ในเมืองมนุษย์เท่านั้นเราก็คงก้าวเข้ามายังแดนสวรรค์นี่ตั้งนานแล้ว"



"ขอให้ทุกท่านมีดวงตาเห็นธรรม เพื่อประโยชน์สุขแก่ตนเองและผู้อืน"




 

Create Date : 17 กันยายน 2551    
Last Update : 17 กันยายน 2551 9:31:22 น.
Counter : 177 Pageviews.  


แมลงอ้อล้อลม
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แมลงอ้อล้อลม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.