Free to read , to write , Free to live, live it free!! - เพื่ออิสรภาพทางการเงิน**
Group Blog
 
All Blogs
 
รูปแบบแท่งเทียน ข้างในซ่อนอะไร

เครดิต - //www.stock2morrow.com/forums/showthread.php?t=4587


ผมจะยกตัวอย่างของรูปแท่งเทียน รูปแบบหนึ่งออกมาให้ดู ที่เรียกว่า แท่งขาวยาว ๆ ไส้บน (harami) ส่วนรูปแบบอื่นให้ท่านผู้อ่านไปลองขีด ๆ เขียน ๆ เอง ตามแนวคิดที่แนะในรูปแบบนี้


ดูรูปก่อน



1..แท่งเทียนแต่ละรูปแบบจะมีคุณสมบัติ ที่เพาะบ่มจากการซื้อขายตามเวลาที่กำหนด (เช่น Day = 1 วันต่อ 1 แท่ง Week = 1 สัปดาห์ต่อ 1 แท่ง)


2..คุณสมบัติแต่ละรูปแบบจะบ่งเส้นทางการเคลื่อนของราคาตามเวลากำหนด(ซึ่งข้างในยังแบ่งเวลาย่อยได้อีกเป็นชั่วโมงหรือ นาที ในรูปจะเห็น ราย 10 นาที และราย 30 นาที)


3..เส้นทางการเคลื่อนจะมีทางเลือกที่ smooth มากกว่า Zigzag หักฉาก (โอกาส
Zigzag น้อยกว่า นอกจากมีข่าวร้ายระหว่างเทรด หรือการปั่นราคารุนแรง
หรือถูกบังคับขายฯลฯ) ค่า smooth
มักหมายถึงราคาจะขยับไปทีละช่อง(จะเร็วหรือช้าอีกเรื่องหนึ่ง
แต่ไม่ใช่กระโดดราคาครั้งละหลายช่องโดยไม่มีการจับคู่ราคา(วันหน้าคุยเรื่อง
เปิดเก็ป ทางรถไฟสายขาดตอน) ยกเว้นช่วงเปิดตลาดและปิดตลาด ATO ATC)


4..ความเป็นไปได้ของการเคลื่อนราคาจะเป็นตัวกำหนด รูปแบบแท่งเทียนภายหลัง
ดังนั้นแท่งเทียนจึงยังไม่สามารถบอกอนาคต
นอกจากการรวมรูปแบบเท่งเทียนPattern หลายรูป
(วิชาสถิติทางจิตวิทยามวลชนรวม และรูปแบบที่เกิดขึ้นมักเกิดซ้ำรูปในอนาคต
เวลาใดเวลาหนึ่ง)


5..จากข้อ 4 จะทำให้เรามองกราฟ
ถอยหลังไปและมองภาพเหตุการณ์วันนั้นในอดีตว่า เป็นอย่างใด ถ้าดูร่วมกับ
วอลุ่มจะมองเห็นความร้อนแรงหรือซึมช้า


6..เนื่องจากการเคลื่อนของราคาจะเป็นตัวกำหนดรูปแบบ
ดังนั้นเวลาที่แบ่งเป็น 2 ช่วง (เช้าและบ่าย) จะทำให้เราต้องคาดคะเน ว่า
ค่าราคาสด(ราคาตลาดขณะนั้น) หากผ่านพ้นไปอีก 30 นาที น่าลงไปตัดค่า E5 E10
E25 E50 E75 E100 หรือไม่ (ความน่าจะเป็นจะก่อตัวให้เห็นในช่วงเช้า อาธิ
ช่วงเช้าราคาทุกราคาที่ผ่านยังไม่มีราคาใดต่ำกว่าราคาเปิด
และมาถึงเที่ยงราคาปิดเที่ยงก็สูงกว่าราคาเปิดหลายช่องราคา
ดังนั้นเวลาบ่าย 15.30 น หากยังดำเนินเหตุการณ์เช่นนี้
ราคาจะปิดตลาดจะต่ำกว่าราคาเปิดเช้า น่าจะยาก
เราจึงเอาราคาเปิดมาประเมิณว่าเป็นราคาสูงกว่าหรือต่ำกว่า ค่าE ขณะนั้น ๆ
หรือไม่ เพื่อช่วยสนับสนุนการตัดสินใจการลงมือ ซื้อหรือขาย)


เมื่อทำความเข้าใจ และเทียบรูปแบบแท่งเทียนอื่นดู จะเริ่มเข้าใจมากขึ้น



อธิบายรูป เฉพาะแท่งเทียนรูปแท่งขาวยาว (สั้นเตี้ยยังไม่เกี่ยว คุณสมบัติแตกต่างกัน 555)


1..พักเที่ยงราคาอยู่สูงกว่าเปิดหลายช่องราคา

2..จนถึงช่วงบ่าย ราคายังไม่มีต่ำกว่าราคาเปิด

3..ประเมินให้เลวร้ายได้ว่า(ประเมินว่าราคาต่ำที่สุดของวันจะไม่มีต่ำกว่าราคาเปิดเช้า)เมื่อปิดตลาด

4..ดังนั้นหากหุ้นตัวนี้เป็นช่วง กราฟเส้น Eเวลาน้อยกำลังจะตัด E เวลามาก
(จะเป็นขาขึ้น) จึงพอตัดสินใจซื้อได้ ณ ราคาใด ๆ ที่สูงกว่าราคาเปิดได้


งง ไหมเนี่ย 555 งง ก็พัก คอยติดตามต่อไป

รูป


 




ผมจะยกตัวอย่างของรูปแท่งเทียน รูปแบบหนึ่งออกมาให้ดู ที่เรียกว่า แท่งขาวยาว ๆ ไส้บน (harami) ส่วนรูปแบบอื่นให้ท่านผู้อ่านไปลองขีด ๆ เขียน ๆ เอง ตามแนวคิดที่แนะในรูปแบบนี้


ดูรูปก่อน



1..แท่งเทียนแต่ละรูปแบบจะมีคุณสมบัติ ที่เพาะบ่มจากการซื้อขายตามเวลาที่กำหนด (เช่น Day = 1 วันต่อ 1 แท่ง Week = 1 สัปดาห์ต่อ 1 แท่ง)


2..คุณสมบัติแต่ละรูปแบบจะบ่งเส้นทางการเคลื่อนของราคาตามเวลากำหนด(ซึ่งข้างในยังแบ่งเวลาย่อยได้อีกเป็นชั่วโมงหรือ นาที ในรูปจะเห็น ราย 10 นาที และราย 30 นาที)


3..เส้นทางการเคลื่อนจะมีทางเลือกที่ smooth มากกว่า Zigzag หักฉาก (โอกาส
Zigzag น้อยกว่า นอกจากมีข่าวร้ายระหว่างเทรด หรือการปั่นราคารุนแรง
หรือถูกบังคับขายฯลฯ) ค่า smooth
มักหมายถึงราคาจะขยับไปทีละช่อง(จะเร็วหรือช้าอีกเรื่องหนึ่ง
แต่ไม่ใช่กระโดดราคาครั้งละหลายช่องโดยไม่มีการจับคู่ราคา(วันหน้าคุยเรื่อง
เปิดเก็ป ทางรถไฟสายขาดตอน) ยกเว้นช่วงเปิดตลาดและปิดตลาด ATO ATC)


4..ความเป็นไปได้ของการเคลื่อนราคาจะเป็นตัวกำหนด รูปแบบแท่งเทียนภายหลัง
ดังนั้นแท่งเทียนจึงยังไม่สามารถบอกอนาคต
นอกจากการรวมรูปแบบเท่งเทียนPattern หลายรูป
(วิชาสถิติทางจิตวิทยามวลชนรวม และรูปแบบที่เกิดขึ้นมักเกิดซ้ำรูปในอนาคต
เวลาใดเวลาหนึ่ง)


5..จากข้อ 4 จะทำให้เรามองกราฟ
ถอยหลังไปและมองภาพเหตุการณ์วันนั้นในอดีตว่า เป็นอย่างใด ถ้าดูร่วมกับ
วอลุ่มจะมองเห็นความร้อนแรงหรือซึมช้า


6..เนื่องจากการเคลื่อนของราคาจะเป็นตัวกำหนดรูปแบบ
ดังนั้นเวลาที่แบ่งเป็น 2 ช่วง (เช้าและบ่าย) จะทำให้เราต้องคาดคะเน ว่า
ค่าราคาสด(ราคาตลาดขณะนั้น) หากผ่านพ้นไปอีก 30 นาที น่าลงไปตัดค่า E5 E10
E25 E50 E75 E100 หรือไม่ (ความน่าจะเป็นจะก่อตัวให้เห็นในช่วงเช้า อาธิ
ช่วงเช้าราคาทุกราคาที่ผ่านยังไม่มีราคาใดต่ำกว่าราคาเปิด
และมาถึงเที่ยงราคาปิดเที่ยงก็สูงกว่าราคาเปิดหลายช่องราคา
ดังนั้นเวลาบ่าย 15.30 น หากยังดำเนินเหตุการณ์เช่นนี้
ราคาจะปิดตลาดจะต่ำกว่าราคาเปิดเช้า น่าจะยาก
เราจึงเอาราคาเปิดมาประเมิณว่าเป็นราคาสูงกว่าหรือต่ำกว่า ค่าE ขณะนั้น ๆ
หรือไม่ เพื่อช่วยสนับสนุนการตัดสินใจการลงมือ ซื้อหรือขาย)


เมื่อทำความเข้าใจ และเทียบรูปแบบแท่งเทียนอื่นดู จะเริ่มเข้าใจมากขึ้น



อธิบายรูป เฉพาะแท่งเทียนรูปแท่งขาวยาว (สั้นเตี้ยยังไม่เกี่ยว คุณสมบัติแตกต่างกัน 555)


1..พักเที่ยงราคาอยู่สูงกว่าเปิดหลายช่องราคา

2..จนถึงช่วงบ่าย ราคายังไม่มีต่ำกว่าราคาเปิด

3..ประเมินให้เลวร้ายได้ว่า(ประเมินว่าราคาต่ำที่สุดของวันจะไม่มีต่ำกว่าราคาเปิดเช้า)เมื่อปิดตลาด

4..ดังนั้นหากหุ้นตัวนี้เป็นช่วง กราฟเส้น Eเวลาน้อยกำลังจะตัด E เวลามาก
(จะเป็นขาขึ้น) จึงพอตัดสินใจซื้อได้ ณ ราคาใด ๆ ที่สูงกว่าราคาเปิดได้


งง ไหมเนี่ย 555 งง ก็พัก คอยติดตามต่อไป


รูป



หลักคิดของการวิเคราะห์รูปแท่งเทียนที่นำมาเสนอนี้ ห้ามนำไปใช้กับ ดัชนีต่าง ๆ (คน
ละทฤษฎี) เพราะราคาหุ้นถูกกำหนดด้วย ช่องราคา (spread) มีกฎบังคับ
แต่ดัชนี ไม่มีกฎบังคับ การใช้รูปแท่งเทียนมองสถานการณ์ ณ ขณะนั้น ๆ
ในอดีต ค่าประเมิณต้องลดลงหรือมากขึ้นเป็นเท่าตัว
เช่นแท่งเทียนขาวยาวไส้บน มีโอกาสเกิดเหตูการณ์ hi และ lo ได้หลายครั้ง ใน
1 วัน แม้กค่าสูงต่ำจะมีมาก เช่น Hi สูงกว่า Lo 30 จุด ทั้งที่ดัชนี300
จุด


ดังนั้นจึงเกิดความเข้าใจผิดเสมอในกลุ่มชาวหุ้นมือใหม่ว่า ดัชนี บวก 1.5% หุ้นควร บวก 1.5% +-

ไม่ใช่เลย คิดแบบนี้ได้เฉพาะหุ้นกลุ่ม market cap สูง ๆ ไม่กี่ตัวเท่านั้น นอกนั้น 400-500 ตัวไม่จำเป็น


ส่วนการใช้กราฟแท่งเทียนกับดัชนี
ต้องมีค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หรือเครื่องมืออื่นมาประกอบเป็นสำคัญ ดังนุนั้น
เราแทบจะลบรูปแท่งเทียนได้เลยเมื่อต้องการวิเคราะห์รูปแบบราคา(หลายวัน
เกี่ยวกัน)
แต่จะใช้แท่งเทียนเมื่อใช้ในการวิเคราะห์ลงมือแบบเก็งกำไรและหลักการลงมือ
เท่านั้น


เมื่อไม่เอารูปแท่งเทียน เราสามารถเอาค่าเฉลี่ยกลาง หรือเฉลี่ยราคาปิด
มาแทนรูปแท่งเทียนได้ดีกว่า แต่ทางปฎิบัติ
ผู้คนถูกสอนให้ดูรูปแท่งเทียนของ index จนชินตาฝังสมองหมดแล้ว
(ถ้าใครจะลองตั้งค่าแท่งเทียนให้มีสีเป็นสีพื้นทั้ง + และ - กลมกลืนไป
แล้วมีปรากฎค่าราคาเฉลี่ยปิด หรือเฉลี่ยกลาง จะวิเคราหะและมองภาพดีกว่า
ลองดู





 








Free TextEditor


Create Date : 25 กรกฎาคม 2552
Last Update : 25 กรกฎาคม 2552 11:55:14 น. 0 comments
Counter : 4326 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MakotoN
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




สวัสดีครับ

เพิ่งเริ่มเล่นหุ้น มือใหม่ฝากตัวด้วยครับ
กำลังศึกษาเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นอยู่


บลอกแห่งนี้มีไว้แปะข้อมูล บทความต่างๆ ที่ผมพบเจอในเว็บไซต์ต่างๆ
ที่ผมเห็นว่า มีประโยชน์ และรวมรวมมาจากที่ต่างๆ มากมาย

บทความทั้งหมด ผมจะพยายามใส่เครดิตที่มาไว้นะครับ
บทความไหนถ้ามีลืมใส่ไปก็แจ้งเข้ามาได้นะครับ บางทีรีบแล้วลืมใส่


...



อาจจะมีแปะเรื่องอื่นๆบ้าง แล้วแต่อารมณ์

ยังไงก็เข้ามาเยี่ยมชมบ่อยๆ นะครับ รับรองว่าได้ความรู้ติดไม้ติดมือกลับไปแน่นอน *-*
Friends' blogs
[Add MakotoN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.