Free to read , to write , Free to live, live it free!! - เพื่ออิสรภาพทางการเงิน**
Group Blog
 
All Blogs
 
กฏ 24 ข้อสำหรับนักซื้อขายหุ้นรายวัน (เทรดเดอร์)

กฏ 24 ข้อสำหรับนักซื้อขายหุ้นรายวัน (เทรดเดอร์)

การเป็นเทรดเดอร์นั้น
โอกาสที่จะแม้แต่คุ้มทุนแทบจะน้อยมากหรือไม่มีเลย หากเราไม่นิ่ง
ไม่มีระบบปฏิบัติตนประจำตัว และไม่ทำตนให้แตกต่างจากผู้อื่น
และจำเป็นอย่างมากที่จะต้องปฏิบัติตามแนวทาง
หรือกฏที่เราจะกล่าวถึงต่อไปนี้ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการเป็นเทรดเดอร์


เป้าหมายของกฏนี้ก็คือ ลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด และทำกำไรให้ได้มากที่สุด

กฏข้อที่ 1 ปฏิบัติตามกฏ
บางคนเวลาเข้าตลาดใหม่ๆนั้นก็จะลงทุนซื้อขายกันเลย
โดยเห็นผู้ที่เข้ามาก่อนหน้านั้นได้กำไร
แต่ความเป็นจริงก็คือผู้ที่เข้ามาก่อนหน้านั้น
เขามีประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนหน้ามากมายนัก
กฏดังที่จะกล่าวต่อไปนี้นั้น รวบรวมมาจากประสบการณ์หลากหลาย
ดังนั้นจึงเป็นทางลัดของเทรดเดอร์มือใหม่
โดยรับประกันได้ว่าหากไม่ปฏิบัติตามกฏนี้แล้ว จะขาดทุนในระยะยาว


กฏข้อที่ 2 ให้พิจารณาว่าเราจะซื้อขายอย่างไร
ต้องพิจารณาถึง เทคนิค กลยุทธ์ และระบบที่เราถูกใจและเข้ากับลักษณะการเทรดของเราได้มากที่สุด
คลิ๊กที่นี่เพื่อศึกษาเรื่องกลยุทธ์วื้อขาย

กฏข้อที่ 3 ค้นหาเทคนิคการเทรดที่จะยึดปฏิบัติ และพยายามฝึกฝนให้ชำนาญ
บ่อยครั้งที่มือใหม่จะเปลี่ยนเทคนิคการเทรดไปๆมาๆ
เพียงเพื่อให้ได้พิสูจน์ว่าเทคนิคอันแรกนั้นใช้ได้ดีที่สุด
แต่กว่าจะพบได้เงินลงทุนก็หมดพอดี

แต่หากต้องการที่จะเปลี่ยนเทคนิคใหม่
ให้ทดลองเทรดเทคนิคใหม่นี้ในกระดาษเสียก่อนอย่างน้อยสองอาทิตย์
หากได้ผลแล้วจึงเทรดโดยใช้เงินจริง


กฏข้อที่ 4 เทรดในกระดาษก่อน
คือการเขียนหุ้นตัวที่จะซื้อ พร้อมทั้งราคาซื้อ ราคาที่จะขาย และจุดตัดขาดทุนหากหุ้นไม่ขึ้นตามที่คาดไว้ โดย
ก. เลือกหุ้นที่ต้องการจะซื้อ แล้วเขียนชื่อมันลงในกระดาษ
ข. เขียนจุดตัดขาดทุนลงในกระดาษ
ค. ระบุจำนวนหุ้นที่ต้องการจะซื้อ
ง. เขียนราคาที่ต้องการจะขายลงในกระดาษ
ตรวจสอบราคาซื้อและขายว่าได้หรือเปล่า แล้วจดบันทึก กำไร
หรือ ขาดทุนเอาไว้
ห้ามข้ามไปกฏต่อไปจนกว่าจะทดลองเทรดในกระดาษอย่างน้อยสองอาทิตย์
หรือเมื่อทำกำไรได้ถึง75% ของจำนวนครั้งที่เทรด


กฏข้อที่ 5 เทรดโดยเงินจริงๆ
สิ่งที่เราจะได้พบก็คือว่า
การเทรดโดยใช้เงินจริงนี้ยากกว่า และแตกต่างกับ การเทรดในกระดาษมากนัก
ซึ่งเราจะต้องเทรดโดยเดิมพันด้วยเงินของเรา
และจะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องมาก

ในแต่ละครั้งที่เราจะซื้อหรือขายนั้น เราจะต้องมีลักษณะสมดุลย์ที่มีเหตุผล ระหว่าง ความกลัว และความโลภ
ก. เริ่มต้นด้วยการเทรดในจำนวนที่ไม่มากกว่า 1 หมื่นบาท
หรือในการซื้อขาย 20 ครั้งแรกนี้นั้นห้ามใช้เงินเทรดเกิน 25%
ของเงินที่เรามีอยู่ จนกว่าจะมีความชำนาญในระดับ 75% ก่อน (หมายความว่า
เทรด 100 ครั้ง จะได้กำไร 75 ครั้ง)
หลังจากนั้นให้เพิ่มเงินเทรดขึ้นอีกระดับหนึ่ง
และเทรดที่ระดับนี้จนกระทั่งได้ความชำนาญในระดับ 75%
จึงเพิ่มวงเงินขึ้นได้ต่อไป

ด้วยวิธีนี้เราจะได้ความมั่นใจ
เราจะได้รู้ว่ามันยากหรือง่ายขนาดไหนไนการซื้อหรือขายให้ได้กำไร
ให้จำไว้เสมอว่าการซื้อขายจริงนี้เราไม่สามารถซื้อหรือขายได้ดั่งใจดั่งที่
เคยทำในกระดาษ

ในช่วง 20 ครั้งแรกนี้ แม้ว่าเราจะไม่ได้กำไรเลย แต่การที่เราเทรดในจำนวนน้อยนั้น ทำให้เราไม่ขาดทุนในจำนวนมาก

กฏข้อที่ 6 ไม่มี

กฏข้อที่ 7 ใช้การตั้งออเดอร์ในการซื้อหรือขาย
การเคาะซื้อหรือเคาะขายนั้น หากไม่ทำให้เราติดหุ้นที่ยอดดอยแล้ว เราก็จะมีต้นทุนที่สูงขึ้น

กฏข้อที่ 8 ให้ตั้งจุดตัดขาดทุนไว้เสมอ
ทุกครั้งที่เข้าซื้อ จะต้องตั้งจุดตัดขาดทุนไว้เสมอ
และเมื่อราคาหุ้นไม่เป็นไปตามที่เราคาด
และตกต่ำหรือทำท่าว่าจะตกต่ำกว่าจุดตัดขาดทุนนี้ เราจะต้องขายทันที
อย่าหวังลมๆแล้งๆว่าหุ้นจะขึ้นอีก การตั้งจุดต้ดขาดทุนนี้
อาจจะทำได้โดยให้มาณเก็ตติ้งดูราคาที่เราตั้งไว้ว่าเป็นจุดตัดขาดทุน
และหากมรการเคาะขายลงมาจะจำนวนหุ้นที่รอซื้ออยู่ที่ระดับราคานี้นั้น
เหลืออยู่น้อยแล้ว เราก็ควรจะเคาะขายที่ราคานี้เลย
มิเช่นนั้นแล้วเราอาจจะต้องเคาะขายที่รัคาต่ำกว่านี้อีก 1 สเต็บได้


กฏข้อที่ 9 ห้ามไล่ซื้อ
หากเราตั้งซื้อหุ้น แล้วไม่ได้หุ้น
ในขณะที่หุ้นวิ่งขึ้นไปแล้ว ห้ามไล่ซื้อเป็นอันขาด
แต่ให้ตั้งซื้อในราคาที่สูงขึ้นไปอีกสักสองสเต็บ
ซึ่งโดยปกติแล้วหุ้นจะวกกลับมาหาเราเอง แต่หากมันไม่มาก็ไม่ต้องสนใจ
ให้ไปหาโอกาสในหุ้นตัวอื่นที่ความเสี่ยงน้อยกว่าดีกว่า

การไล่ซื้อนั้นจะทำให้เราซื้อหุ้นได้ที่ยอดสูง
และเมื่อหุ้นปรับฐานลงมา ราคาก็จะต่ำกว่าจุดตัดขาดทุนของเรา
และเราก็จะต้องขายตัดขาดทุนออกมา


กฏข้อที่ 10 หากดัชนีเป็นสีแดงห้ามซื้อ
หากดัชนีตลาดรวม
หรือดัชนีกลุ่มของหุ้นที่เราจะซื้อเป็นสีแดง (หมายถึงราคาลดลง)
ห้ามซื้อหุ้นเด็ดขาด ให้นั่งพัก และเรียนรู้ลักษณะของหุ้นแต่ละตัวไปพลางๆ


กฏข้อที่ 11 ห้ามเทรดสวนแนวโน้ม
หากหุ้นที่เราจะเทรดมีแนวโน้มลง ห้ามซื้อ เด็ดขาด

กฏข้อที่ 12 ให้ใช้เงินที่มีเก็บสะสมไว้ในการซื้อขายหุ้นเท่านั้น
ห้ามใช้เงินที่กันไว้สำหรับ ใช้จ่ายประจำวัน
ใช้หนี้เงินกู้ ใช้ในธุรกิจประจำ มาซื้อขายหุ้นเป็นอันขาด และ
ห้ามกู้เงินมาซื้อขายหุ้นเด็ดขาด


กฏข้อที่ 13 สะสมหุ้นที่แตกต่างกันหลายตัว
กฏข้อนี้เหมาะกับผู้ที่จะลงทุนถือหุ้นข้ามคืน
ห้ามลงทุนในหุ้นตัวหนึ่งในจำนวนเงินที่มากกว่า 20% ของจำนวนเงินทั้งหมด
จำนวนหุ้นที่เหมาะสมคือ 5 ตัว


กฏข้อที่ 14 ลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด และทำกำไรให้มากที่สุด
เมื่อหุ้นไม่เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ ควรตัดขาดทุนที่ระดับ 1-2 สเต็บ เพื่อให้เราขาดทุนมากที่สุดก็แค่นี้
ซึ่งหากเราเทรดได้ชำนาญแล้วนั้น อัตราความชำนาญที่ 75% จะทำให้เราได้กำไรต่อเนื่อง
การถือหุ้นไว้ด้วยความหวังลมๆแล้งๆที่คิดขึ้นมาเองนั้น จะทำให้หมดตัวในไม่ช้า
ความเตรียมใจยอมรับการขาดทุน และต่อสู้ต่อไปเพื่อให้ได้กำไรมา

กฏข้อที่ 15 ห้ามโลภ
หากได้กำไรในระดับที่เหมาะสมแล้วนั้น อย่าโลภ ให้ทำกำไร
และหาหุ้นตัวอื่นเพื่อทำกำไรต่อไป การทำกำไรในระดับ 2.5-5%
ในการเทรดในระหว่างวันนั้นเป็นกำไรที่ใช้ได้แล้ว
การทำกำไรให้ได้มากขึ้นนั้นอาจจะทำได้อีกวิธีหนึ่ง
ซึ่งทำได้เฉพาะในตลาดขาขึ้นเท่านั้น คือให้ขายที่กำไร 3% ครึ่งหนึ่ง
แล้วที่เหลือถือไว้ขายในตอนบ่าย 3
โมงซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่ราคาหุ้นอยู่สูงสุดของวัน เพราะหลังจากนี้แล้ว
พวกเราเองที่เข้ามาซื้อทีหลังจะเทขายออกมา เพราะไม่ถือหุ้นข้ามคืน


กฏข้อที่ 16 อย่าเทรดบ่อยเกินไป
ถ้าวันนั้นไม่ใช่เป็นวันของเราแล้ว
การเทรดมากครั้งเกินไปก็จะยิ่งแย่กันไปใหญ่
และหากวันนั้นเป็นวันของเราแล้ว
การเทรดมากครั้งเกินไปก็อาจจะทำให้เราขาดทุนได้

จำนวนครั้งในการเทรดในวันหนึ่งๆ นั้น ใม่ควรเกิน 4 ครั้ง

กฏข้อที่ 17 หากเป็นเทรดเดอร์ในระหว่างวันแล้ว ห้ามถือหุ้นข้ามคืน
ช่วงเวลาที่เสี่ยงที่สุดของเทรดเดอร์ระหว่างคือช่วง 15
นาทีสุดท้าย เพราะเทรดเดอร์คนอื่นๆก็จะขายหุ้นเหมือนกับเรา
ดังนั้นหากแนวโน้มหุ้นไม่ขึ้นอย่างแข็งแกร่งแล้ว ควรจะขายให้ได้หมดก่อน 40
นาทีสุดท้าย


กฏข้อที่ 18 หยุดซื้อหุ้นเมื่อเลย 11.00 น. ไปแล้ว
โอกาสที่เราจะทำกำไรได้ จะมีอยู่แค่ช่วง 10.00-11.00 น.
เท่านั้น หลังจากนี้แล้ว โอกาสที่จะได้กำไรจะลดลง และความเสี่ยงจะมากขึ้น
ในช่วงหลังจาก 11.00 น. ไปแล้วนั้น ควรจะเป็นเวลาหาความรู้เพิ่มเติม
เพื่อเสริมสร้างอาวุธคู่ตัวต่อไป


กฏข้อที่ 19 ถ้าขาดทุน ให้ออกจากตลาดทันที
หากขาดทุนหนึ่งครั้งในวันนั้น ให้หยุดและออกจากตลาดทันที โดยให้เริ่มใหม่วันรุ่งขึ้นแทน

กฏข้อที่ 20 หากได้กำไรแล้ว อย่าโลภไล่ซื้อหุ้นตัวตัวเดิมหากมันวิ่งต่อไปอีก
บ่อยครั้งที่เมื่อเราได้กำไรเร็วในตอนเช้าแล้ว
โดยหลังจากที่เราขายหุ้นนั้นไปแล้ว มันก็วิ่งขึ้นต่อไป
ในตอนนี้ห้ามไล่ซื้อหุ้นตัวนี้โดยเด็ดขาด การทำอย่างนี้นั้น
โอกาสที่จะเสียมากกว่าได้ เพราะฉะนั้น อย่าทำ


กฏข้อที่ 21 ต้องฝึกฝนระดับสองต่อไป
ให้ฝึกฝนในระดับสองต่อไป (จะมีมาทีหลังครับ)

กฏข้อที่ 22 การถือหุ้นนั้นมากกว่า 15 นาที โอกาสที่จะขาดทุนมีมาก
ห้ามถือหุ้นเกิน 15 นาที เพราะหากมันไม่วิ่งต่อไปแล้วนั้น
โอกาสที่จะลงนั้นก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ การซื้อหุ้นโดยใช้หลักการ โมเมนตัมนี้
โดยทั่วไปแล้วจะได้กำไรภายใน 1-5 นาที


กฏข้อที่ 23 ห้ามซื้อขายหุ้นที่ออกเสนอขายก่อนเข้าตลาด
เขาบอกว่ามันเสี่ยงสูง เพราะไม่มีใครทราบว่า มีอะไรซุกซ่อนอยู่ลึกๆข้างในหรือเปล่า

กฏข้อที่ 24 ฝึกฝน ฝึกฝน และฝึกฝน
ขอให้ทุกคนโชคดีทำกำไรได้สม่ำเสมอในการซื้อขายหุ้นครับ
หรือใครมีเทคนิคอย่างไรก็เมลมา joooobs@hotmail.com เพื่อเผยแพร่ แลกเปลี่ยนกันได้ครับ ทางเราจะนำเสนอขึ้นให้ครับ


หมายเหตุ บทความชิ้นนี้ ดัดแปลงมาจาก 24 Rules To Follow For Your Survival As A New Day & Stock Trader! ครับ


นำมาจาก //www.bobby2book.com/stock/knowledge/day%20trade%2024%20rules.html




Create Date : 24 กรกฎาคม 2552
Last Update : 24 กรกฎาคม 2552 23:39:56 น. 0 comments
Counter : 3232 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MakotoN
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




สวัสดีครับ

เพิ่งเริ่มเล่นหุ้น มือใหม่ฝากตัวด้วยครับ
กำลังศึกษาเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นอยู่


บลอกแห่งนี้มีไว้แปะข้อมูล บทความต่างๆ ที่ผมพบเจอในเว็บไซต์ต่างๆ
ที่ผมเห็นว่า มีประโยชน์ และรวมรวมมาจากที่ต่างๆ มากมาย

บทความทั้งหมด ผมจะพยายามใส่เครดิตที่มาไว้นะครับ
บทความไหนถ้ามีลืมใส่ไปก็แจ้งเข้ามาได้นะครับ บางทีรีบแล้วลืมใส่


...



อาจจะมีแปะเรื่องอื่นๆบ้าง แล้วแต่อารมณ์

ยังไงก็เข้ามาเยี่ยมชมบ่อยๆ นะครับ รับรองว่าได้ความรู้ติดไม้ติดมือกลับไปแน่นอน *-*
Friends' blogs
[Add MakotoN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.