เหตุผลคือการขึ้นลงของหุ้นไม่ได้เป็นเส้นตรง
ดังนั้นการเกิดสัญญานซื้อหรือขายจึงทยอยกันเกิด....โดยหลักการคือ
....ไล่จากกราฟสั้นไปกราฟยาว /ไล่จาก
indicator ที่ไวที่สุดไป indicatorที่ช้ากว่า ....
- ในกรณีที่ท่านใช้
indicator
เดียวเป็นสัญญานซื้อขายอาจไล่กราฟสั้นไปยาวซึ่งก็ต้องทยอยซื้อทยอยขาย เช่น
ท่านใช้ ema5 ตัด ema10 ตัดขึ้นซื้อหุ้น...ถ้ามี trend จะเกิดการตัดของ
ema5/ema10 ไล่ไปตั้งแต่กราฟสั้นไปยาว(เช่น กราฟ 15 นาที ไปกราฟ
ชม.ไปกราฟวัน ไปกราฟweek
เป็นต้น)....
- แต่ถ้าท่านใช้กราฟเดียวในการเล่นเช่นใช้กราฟวัน
การเกิดสัญญานซื้อขายจะไล่จาก indicator ที่ไวสุดคือ...การเกิดภาวะ
divergence...ตามด้วยการตัดของ ssto...ตามด้วยการตัดของ
rsi...ตามด้วยการตัดของ ema5/10 หรือ
macd....ซึ่งในทางปฏิบัติเราจึงเข้าซื้อขายเป็นไม้ๆ เช่นกราฟ 15 นาที
15%port...กราฟ 60 นาที 30%port...กราฟวัน 65% port
เป็นต้น......กรณีใช้กราฟเดียวเราอาจเข้าเมื่อ ssto ตัดขึ้น 30% port
..ema5 ตัด ema10/macd ตัดขึ้น 20%port ...ทำ new high(new low ) 15% port
เป็นต้น....
ด้วยระบบจะช่วยเราลดความเสี่ยงไปในตัว
แต่สำคัญคือท่านต้องมีวินัย(เปรียบเหมือนไฟจราจร)