เรื่องของชาที่น่ารู้
ชาประเภทต่างๆ ชาเขียว (Green tea) เป็นยอดอ่อนของชาที่ถูกนำไปอบให้แห้งทันทีโดยไม่มีการหมัก เพื่อไม่ให้ใบชามีปฏิกิริยากับออกซิเจน (ออกซิเดชัน) จึงได้ใบชาที่ยังมีสีเขียว มีกลิ่นและรสชาติใกล้เคียงใบชาธรรมชาติมาก ชาดำ (Black tea) คือ ยอดอ่อนของชาที่ถูกนำมานวดอย่างเต็มที่ แล้วหมักจนได้กลิ่นหอม ก่อนนำไปอบให้แห้ง ทำให้ได้ใบชาสีเข้มและมีรสขมปนฝาดกว่าชาเขียว เนื่องจากปฏิกิริยาทางเคมีของสารแทนนินในใบชา ชาแดงหรืออู่หลง (Red tea or Oolong) คือ ยอดอ่อนของชาที่ถูกนำมานวดพอให้ผิวนอกช้ำ เพื่อกระตุ้นสารแทนนิน แล้วจึงอบให้แห้งเพื่อหยุดยั้งปฏิกิริยาทางเคมี สีและรสของชาจึงอยู่กึ่งกลางระหว่างชาดำกับชาเขียว ชาขาว (White tea) หรือรู้จักกันในชื่อหยินแชน (เข็มเงิน) สามารถเก็บได้เฉพาะช่วงเวลา 2-3 วัน ในแต่ละฤดูใบไม้ผลิเมื่อช่อสีขาวเพิ่งจะผลิออกมา เพราะชาขาวคือใบชาที่อ่อนที่สุดซึ่งยังปกคลุมด้วยปุยขนอ่อนสีขาวเท่านั้น หลังจากนั้นจึงตากแห้งในแสงอาทิตย์ธรรมชาติ
การเลือกและเก็บรักษาใบชาอย่างไร 1. ใบชาที่ดีต้องแห้งสนิท ไม่มีกลิ่นไหม้หรือกลิ่นอื่นแปลกปลอม 2. ใบชาที่จับดูแล้วแห้งกรอบ สามารถบี้แหลกได้ คือใบชาที่ดี ถ้ามีลักษณะหยุ่นๆ ไม่แห้งกรอบ อาจเป็นใบชาขึ้นรา แต่ใบชาที่มีขนสีขาวๆ อาจไม่ใช่ใบชาขึ้นราเสมอไป เพราะใบชาอ่อนชั้นดีจะขนของใบสีขาวเช่นกัน สามารถแยกแยะได้ด้วยการสัมผัสและดมว่าไม่มีกลิ่นอับชื้น 3. ชามะลิหรือชากลิ่นดอกไม่ที่ดีต้องมีดอกไม้อยู่ในปริมาณน้อย สัดส่วนคร่าวๆ ไม่เกิน 1:3 4. ใบชาที่ไม่มีบรรจุหีบห่อสำเร็จรูป ไม่ควรซื้อครั้งละมากนัก และควรนำมาบรรจุในภาชนะทึบแสงที่มีฝาปิดสนิท ขนาดภาชนะบรรจุใบชาที่ซื้อมาได้เต็มโดยไม่เหลือที่ว่างดีที่สุด 5. กล่องพลาสติกเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับใบชา เพราะใบชาจะดูดกลิ่นพลาสติก ทำให้ใบชาเสียรส 6. ไม่ควรเก็บใบชาหลายชนิดปนกันในภาชนะเดียว รวมทั้งไม่ควรเก็บไว้ใกล้เครื่องหอมประเภทแป้ง สบู่ น้ำหอม ลูกเหม็น เพราะชาอาจดูดเอากลิ่นเหล่านั้นเข้าไปได้ 7. แสงแดดและอุณหภูมิสูงก็ทำให้ใบชาเปลี่ยนคุณสมบัติได้ง่ายเช่นกัน 8. ห้ามใช้มือที่เปียกหรือชื้นหยิบใบชา เพราะความชื้นจากมือทำให้ใบชาเสื่อมเร็วขึ้น
ข้อห้ามสำหรับการดื่มชา 1. ไม่ควรดื่มชาขณะกินยา เพราะสารต่างๆ ในชาอาจไปทำปฏิกิริยาให้คุณสมบัติของชาเจือจางหรือเสื่อมสภาพลง หรือยาบางตัวเมื่อทำปฏิกิริยากับสารต่างๆ ในชาอาจกลายเป็นสารพิษได้ 2. ไม่ควรดื่มชาก่อนนอนสำหรับผู้ที่นอนหลับยาก เพราะน้ำชาช่วยกระตุ้นร่างกายให้นอนหลับยากยิ่งขึ้น 3. ไม่ควรดื่มชาที่ร้อนจัด เพราะอาจถูกลสกจนเกิดอันตรายในช่องปาก ลำคอ ลำไส้ 4. ไม่ควรดื่มชาที่ชงไว้หลายชั่วโมง เพราะชาอาจบูด เสื่อมสภาพ หรือเปลี่ยนเป็นสารพิษ 5. ผู้ที่เป็นไตทำงานบกพร่อง หรือมีอาการไตวาย ไม่ควรดื่มชาจำนวนมาก 6. ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและลำไส้ น้ำชาจะทำให้มีอาการแน่นท้องและอาเจียนออกมาเป็นน้ำใสๆ 7. เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบไม่ควรดื่มชา เพราะเมื่อกรดแทนนินรวมกับธาตุเหล็กในกระเพาะอาหารจะกลายเป็นสารที่ไม่สามารถละลายได้ ทำให้เด็กไม่เติบโต มีอาการขาดธาตุเหล็ก และเป็นโรคโลหิตจางได้ 8. ผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิดไม่ควรดื่มน้ำชาเข็มข้น เพราะกรดแทนนินทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมลดลง 9. สตรีระหว่างมีประจำเดือน ตั้งครรภ์และแม่ลูกอ่อนที่ให้นมลูก ไม่ควรดื่มชาเพราะทารกจะได้รับผลเช่นเดียวกับข้อ 7 10. ผู้ที่เป็นโรคความดันสูงหรือโรคหัวใจไม่ควรดื่มชาเข็มข้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ร่างกายถูกกระตุ้นมากเกินไป
Create Date : 04 ตุลาคม 2551 | | |
Last Update : 4 ตุลาคม 2551 10:24:16 น. |
Counter : 1417 Pageviews. |
| |
|
|
|