Group Blog
 
All blogs
 

รีิวิว Skinceuticals C+ E Ferulic & Gamma Hydroxy & Kanebo กระปุกแดง

หลังจากที่ได้รีวิวสูตร Vit C + AHA ไว้นานมาแล้วที่่ลิงค์นี้ รีวิวสูตร Vit C + AHA เราใช้อะไรบ้างมาดูกันค่ะ ตอนนั้นเราได้รีวิววิตซีของ Avalon และ PSF ไว้ รวมกับ AHA ของ Alpha hydrox AHA Souffle 12% หลังจากนั้นก็ได้ใช้ Avalon มาเรื่อยๆ มีหยุดใช้บ้างบางระยะตอนที่น้องสิวรุมเร้า (ส่วนใหญ่เป็นพวกสิวฮอร์โมนอ่ะค่ะ) ช่วงนั้นก็จะหันไปรักษาสิวเป็นหลักค่ะ พอสิวทุเลา็จะหันมารักษารอยก็จะกลับมาใช้วิตซีกะ aha อีกรอบค่ะ หลังจากที่วิตซีของ Avalon ขวดที่สามใกล้จะหมดไป เราก็เริ่มเล็งๆ หาวิตซีตัวใหม่มาลองค่ะ ตอนแรกก็กะว่าจะซื้อของ Cellular Skin RX แต่ว่าพอดีไปเจอวิตซีของ SkinCeuticals C E Ferulic ในราคาที่น่าลองก็เลยจัดการสั่งมาลองก่อนเลยค่ะ นอกจากนี้ก็ได้มีโอกาสลอง Gamma Hydroxy ของ Skin Doctors ที่เอามาใช้แทน AHA เลยอยากเอาผลการใช้มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่านกันดู เืผื่อจะได้เป็นข้อมูลช่วยในการตัดสินใจซื้อนะคะ

สำหรับใครที่สนใจจะอ่านรีวิววิตซีของ Avalon & PSF และ AHA ของ Alpha hydrox รบกวนคลิ๊กไปอ่านที่บล็อคเดิมตามลิงค์้ด้านบนนะคะ สำหรับบล็อคนี้จะขอรีวิวตัวใหม่แค่นั้นค่ะ มาเริ่มกันเลยแล้วกันนะคะ





ภาพด้านบนเป็นกล่องขนาดทดลองนะคะ ส่วนภาพด้านล่างถ่ายให้ดูขวดที่อยู่ด้านในค่ะ ถ่ายเทียบกับเหรียญควอเตอร์ของเมกานะคะ พอดีหาเหรียญไทยไม่เจอ ขนาดจะพอๆ กะเหรียญสิบบาทไทยค่ะ



Product: SkinCeuticals C E Ferulic

Retail price: $128.00 (full price for 1 oz.)

ราคาที่ซื้อมา: เราซื้อขนาดทดลองมาใช้ค่ะ เค้าขายเป็นแพ็ค 6 ขวดเล็กในราคาประมาณ $25 รวมๆ ปริมาณก็ประมาณเท่าขนาดจริงคือ 1 oz. ค่ะ

แหล่งที่ซื้อ: สำหรับของจริงหาซื้อได้ที่เวปหลายเวปเลยค่ะ ส่วนเราซื้อตัวอย่างทดลองนี้จาก ebay ค่ะ

Size: 1 fl oz

ใช้ได้นาน: เราใช้เช้า-เย็น ใช้ได้ประมาณ 1 สัปดาห์กว่าๆ ต่อหนึ่งขวดเล็กค่ะ

Comment: วิตซีตัวนี้เป็นแบบ L-Ascorbic ค่ะเพราะงั้นจะให้ผลได้ดีกว่าแบบ MAP อย่าง Avalon ตัวที่เราเคยใช้ประจำ แล้วตัวนี้จะมี vit E และ Ferulic acid ด้วย ทำให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ antioxidant ทั้งสองตัวค่ะ ลักษณะวิตซีนี้จะเป็นน้ำใสๆ ไม่มีสีเลยค่ะ แต่ถ้าทิ้งไว้นานๆ ก็จะเกิดการ oxidize เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองๆ ได้ง่ายค่ะ อย่างของ PSF ที่เราเคยใช้ก็จะเปลี่ยนสีหลังเปิดใช้ได้ประมาณเดือนนึงค่ะ เราเลยค่อนข้างเข็ดกับวิตซีแบบ L-Ascorbic ไม่ได้สั่งมาใช้อีกจนกระทั่งมาเจออันนี้ที่เค้าขายขนาดทดลอง นอกจากราคาที่ย่อมเยาลง เรายังชอบใจมากๆ กับแพ็คเกจที่เล็ก เหมาะกับการทยอยใช้ ทำให้ไม่ต้องเสี่ยงกับการ oxidize น่ะค่ะ เราจะทาวิตซีเช้า-เย็นเลยค่ะ ตอนแรกที่ลองทาแอบรู้สึกว่าต้องทิ้งความมันไว้แน่ๆ แต่หลังจากใช้แล้วเรากลับประทับใจมากๆ กับการซึมเข้าผิวของตัวนี้ เพราะหลังจากทาทั่วหน้า ก็จะรู้สึกได้เลยว่ามันซึมเข้าผิว ไม่มัน จะรู้สึกแค่มีอะไรบางๆ เคลือบผิวไว้แค่นั้นค่ะ ปกติเวลาเราใช้วิตซีจะไม่ได้รู้สึกยิบๆ เวลาทาเลยค่ะ สำหรับกลิ่นก็จะเป็นกลิ่นออกไหม้ๆ เล็กๆ ค่ะ ส่วนผลการใช้ประทับใจมากๆ ค่ะ รู้สึกได้เลยว่าใช้ไม่ถึงอาทิตย์ดีก็รู้สึกว่าผิวสุขภาพดีขึ้นมากๆ หน้าใสขึ้น ผิวกระชับขึ้น แต่คงเป็นผลจากการใช้ร่วมกับครีมตัวอื่นด้วยนะคะ

ใช้ต่อหรือไม่: ยกให้เป็นวิตซีอันดับหนึ่งในดวงใจตอนนี้เลยค่ะ กับราคาเท่านี้ยิ่งรู้สึกว่าคุ้มค่ามากมายจริงๆ แต่ก็ยังอยากลองของ Vivier กะ Cellex C ดูเหมือนกันค่ะ แต่ยังไงก็ตามเราคงซื้อต่อแน่ๆ ค่ะตัวนี้







ภาพด้านล่างเปิดฝาให้ดูเนื้อครีมด้านในนะคะ เป็นครีมสีขาวเนื้อค่อนข้างแน่นหน่อย กลิ่นหอมออกผลไม้อ่อนๆ ค่ะ




Product: Skin Doctors Gamma Hydroxy Skin Resurfacing Cream

Retail price: ไม่แน่ใจค่ะ

ราคาที่ซื้อมา: ประมาณ $48

แหล่งที่ซื้อ: ครีมตัวนี้เป็นของทางออสเตรเลียค่ะ เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหาซื้อได้ที่ไหนที่นั่น แต่เราซื้อที่เมกาจากเวป Amazon ค่ะ

Size: 1.7 fl oz (50 ml)

ใช้ได้นาน: เริ่มใช้ประมาณต้นเดือนมกราคม 2008 นี้แหละค่ะ แต่มีหยุดใช้บ้างบางช่วง บางช่วงใช้แค่ตอนกลางคืน แต่ช่วงนี้เราใช้เช้า-เย็นเลยค่ะ ตอนนี้จากรูปคงเห็นว่าพร่องไปแค่ประมาณครึ่งกระปุกเองค่ะ

Comment: ตอนแรกที่ใช้คู่กับวิตซี Avalon ก็ไม่ได้รู้สึกว่าให้ผลน่าประทับใจเท่ากับตอนนี้นะคะ คือก็รู้สึกได้ว่าผิวหน้าดีขึ้น เรียบขึ้น แข็งแรงขึ้น รอยสิวก็จางเร็วลง แต่มันไม่ได้ดีขนาดเทพอย่างที่เค้าโฆษณาอ่ะค่ะ สำหรับเราแล้วมันไม่ได้ช่วยให้สิวหาย ไม่ได้ช่วยให้รูขุมขนเล็กลง และไม่ได้ช่วยให้หน้าหายมัน แต่โดยภาพรวม.. เราชอบมากกว่า Alpha Hydrox แต่ถ้าเทียบระหว่างราคาและผลการใช้ เราคิดว่า Alpha Hydrox คงจะคุ้มกว่าเพราะราคาถูกกว่าเยอะเลยอ่ะค่ะ

ใช้ต่อหรือไม่: อืม.. ยังไม่แน่ใจค่ะ เพราะว่าผลการใช้ก็โอเคอยู่ เพียงแต่ยังรู้สึกว่าเจ้า Alpha Hydrox ก็ให้ผลที่ใกล้เคียงกันในราคาที่ย่อมเยากว่าเยอะ เพราะงั้นถ้าหมดปุกนี้อาจจะกลับไปใช้ Alpha Hydrox อีกก็ได้ค่ะ





ขอเพิ่มรีวิวอีกตัวสำหรับวันนี้เพราะพอดีช่วงนี้ใช้สามตัวนี้ด้วยกันแล้วรู้สึกว่าผลที่ได้รับค่อนข้างดีกับผิวของตัวเองน่ะค่ะ ตัวที่สามก็คือเจ้าคาเนโบ้กระปุกแดงที่หลายคนคุ้นเคยกันดีเนี่ยแหละค่ะ เราเคยใช้มาก่อนหน้านี้แล้วกระปุกนึงค่ะ แล้วก็หยุดใช้ไปลองตัวอื่น ตอนนี้กลับมาลองอีกรอบผลเป็นไงมาดูกันเลยค่ะ..



กระปุกนี้ถ้าจำไม่ผิดยังเป็นรุ่นเก่านะคะ เพราะเราฝากเพื่อนซื้อจากญี่ปุ่นนานแล้วเหมือนกัน เพิ่งได้เอามาใช้น่ะค่ะ ส่วนรูปด้านล่างเปิดให้ดูเนื้อครีมนะคะ สีจะออกเหลืองอ่อน เนื้อจะหยุ่นๆ หน่อยนึงค่ะ




Product: Kanebo Blanchir Whitening Night Conditioner

Retail price: ไม่แน่ใจค่ะ

ราคาที่ซื้อมา: ฝากคุณเพื่อนซื้อจากญี่ปุ่นค่ะ จำราคาที่แน่นอนไม่ได้แล้วค่ะ

แหล่งที่ซื้อ: ฝากคุณเพื่อนซื้อจากญี่ปุ่นค่ะ

Size: 1.3 oz

ใช้ได้นาน: เพิ่งเริ่มใช้ได้ประมาณเกือบสองสัปดาห์ค่ะ ยังพร่องไปไม่เท่าไหร่เอง (ดูได้จากภาพนะคะ) ตอนใช้กระปุกแรกก็จำไม่ได้แล้วว่าใช้ได้นานแค่ไหน แต่รู้สึกว่านานกว่าเดือนนึงแน่ๆ ค่ะ

Comment: จำได้ว่าตอนใช้ครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจพอควรเลยค่ะ หลังจากได้กลับมาใช้อีกครั้งก็ยังประทับใจอยู่ อาจจะเป็นเพราะผลที่ได้ร่วมกับวิตซีและ GHA ด้วยเลยยิ่งทำให้รู้สึกว่าพอใจกับผลที่ได้รับ พอทาตอนกลางคืนตื่นมาจะรู้สึกว่าหน้านุ่ม ผิวขาวใสขึ้นค่ะ ถ้าใช้ไปอีกซักระยะคงจะบอกผลได้ชัดเจนมากกว่านี้ค่ะ

ใช้ต่อหรือไม่: ก็ถือว่าเป็น nitght cream ที่ดีตัวนึงนะคะ แต่ไม่ชอบแค่ว่าหลังจากทาแล้วหน้ามันฉึ่งเลย ประมาณว่าทาแล้วจงนอนซะ ไปเจอใครคงไม่งาม ก็อาจจะยังไม่ซื้อต่อค่ะ คงลองตัวอื่นๆ ดูต่อไปค่ะ



วันนี้ขอรีวิวแค่สามตัวนี้ก่อนแล้วกันนะคะ วันหลังจะทยอยเอาบรรดาเครื่องสำอางที่เราได้ลองใช้มารีวิวเพิ่มเติมหลังจากที่ทิ้งห่างการรีวิวไปนานแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานะค้า...














 

Create Date : 30 มีนาคม 2551    
Last Update : 30 มีนาคม 2551 16:01:32 น.
Counter : 7083 Pageviews.  

Review ครีมหอมๆ กลิ่นใหม่ๆ จาก Victoria's Secret และ Bath and Body Works ค่ะ

หวัดดีค่ะ วันนี้มารีวิวครีมหอมๆ ที่ซื้อมาจาก Victoria's Secret และ Bath and Body Works ล็อตล่าสุดที่เพิ่งเปิดถุงช้อปไปเมื่อวานนี้ที่บล็อคนี้นะคะ เปิดถุงช้อปลดปลายปีจาก Victoria's Secret กะ BBW สองร้านคู่ใจสาวชอบของหอมๆ ค่ะ กลิ่นที่ซื้อมาและเอามารีวิววันนี้เป็นกลิ่นใหม่ๆ ที่เราเพิ่งซื้อมานะคะ ส่วนกลิ่นเก่าๆ ที่เคยใช้ก็ได้รีวิวไว้แล้วในบล็อคนี้ค่ะ เปิดกรุรีวิวครีมทาผิวกะของหอมๆ ค่ะ เอาล่ะค่ะมาไล่ดูทีละตัวกันเลยนะคะ




แฮะๆ.. ลืมถ่ายรูปแยกทีละหลอดอ่ะค่ะ เอารูปรวมหมู่ไปแทนแล้วกันนะคะ จะไล่จากทางซ้ายมือสุดไปทางขวานะคะ


ยี่ห้อ: Victoria’s Secret
สินค้า: Luxurious Hand and Body Cream – Pretty in Pink
ปริมาณ: 7.25 oz/205 g
ราคาปกติ: $9.50
ราคาที่ซื้อมา: 6 for $19.99
ความคิดเห็น: เป็นกลิ่นที่หวานแนวๆ ดอกไม้ปนสดชื่นนิดๆ ค่ะ สำหรับเราเราว่าเป็นกลิ่นที่ดูเป็นผู้หญิงดีค่ะ แล้วก็ไม่ฉุนด้วย แต่เรายังก็ยังชอบน้อยกว่า Romantic Wish, Pure Seduction, กะ Love Spell ค่ะ คิดว่าคงซื้อแค่หลอดนี้หลอดเดียวพออ่ะค่ะเพราะไม่ได้ติดใจอะไร



ยี่ห้อ: Victoria’s Secret
สินค้า: Luxurious Hand and Body Cream – Enchanted Apple
ปริมาณ: 7.25 oz/205 g
ราคาปกติ: $9.50
ราคาที่ซื้อมา: 6 for $19.99
ความคิดเห็น: กลิ่นที่ทาครั้งแรกจะรู้สึกเหมือนกำลังปอกแอปเปิ้ลแดงสดๆ เลยล่ะค่ะ กลิ่นหอมแอปเปิ้ลสดชื่นน่ากินมั่กๆ เลย แต่ว่าพอทิ้งไปซักพัก กลิ่นแอปเปิ้ลก็แอบจางไป เหลือกลิ่นหอมหวานอ่อนๆ ซึ่งไม่ค่อยจะแอปเปิ้ลเท่าไหร่นะคะในความรู้สึกของเรา ถ้าเทียบกับ BBW – Irresistible Apple เราว่ากลิ่นแรกสุดของ VS จะหอมกลิ่นแอปเปิ้ลมากกว่า และกลิ่นตอนทิ้งไว้ซักพักแล้ว กลิ่นของ BBW จะหอมกลิ่นออกน่ารักๆ ไม่ค่อยหวานเท่าของ VS ค่ะ สำหรับเนื้อครีมก็ไม่ได้ต่างจาก hand and body cream อันปกติของเค้าเลยค่ะ อย่าหวังเรื่องการช่วยบำรุงผิวอะไรมากมาย เพราะมันเน้นทาเพื่อกลิ่นหอมๆ มากกว่าค่ะ




ยี่ห้อ: Victoria’s Secret
สินค้า: Ultra-moisturizing Hand and Body Cream – Pear Glace
ปริมาณ: 7.25 oz/205 g
ราคาปกติ: $9.50
ราคาที่ซื้อมา: 6 for $19.99
ความคิดเห็น: ส่วนตัวแล้วเราว่ามันไม่ค่อยจะกลิ่นลูกแพร์เท่าไหร่เลยอ่ะค่ะ คือมันก็แนวๆ ผลไม้อ่ะนะคะ แต่เราไม่ได้ประทับใจเลยแฮะ ที่หยิบมาเพราะคิดจะซื้อมาหลายทีแล้ว แต่ก็ไม่เคยหยิบมาซักทีเพราะเฉยๆ กับกลิ่นนี้ สงสัยคราวนี้ที่หยิบมาเพราะอยากเลือกอะไรที่ตัวเองยังไม่มีอ่ะค่ะ กลิ่นนี้คาดว่าคงไม่ซื้ออีกแล้วค่ะ




ยี่ห้อ: Victoria’s Secret
สินค้า: Shimmer Body Lotion – Pure Seduction
ปริมาณ: 5 oz/150 g
ราคาปกติ: $10
ราคาที่ซื้อมา: 6 for $19.99
ความคิดเห็น: ซื้อมาเพราะยังไม่มี shimmer ที่เป็นกลิ่น Pure Seduction ค่ะ กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่เราชอบอันนึงของ VS เลยล่ะค่ะ เป็นกลิ่นหอมหวานที่เราคิดว่าหลายคนน่าจะชอบนะคะ ทาแล้วมีวิ้งๆ สีทองเล็กๆ กำลังดีเลยค่ะ






ยี่ห้อ: Bath and Body Works
สินค้า: Body Cream – Velvet Tuberose
ปริมาณ: 8 oz/226 g
ราคาปกติ: $10.50
ราคาที่ซื้อมา: $3
ความคิดเห็น: กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่เพิ่งออกใหม่ค่ะ เค้าว่ามันเป็นกลิ่นของเจ้า Tuberose (ซึ่งเพิ่งทราบจากคุณชิฟฟอนคาปูชิโน่ นี่เองค่ะว่าคือดอกซ่อนกลิ่น เปิดดูหาความหมายและรูปก็ใช่เลยค่ะ เห็นเค้าว่ากลิ่นนี้เค้าใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอมหลายกลิ่นเลยค่ะ) ผสมกับ diamond orchid และ cashmere musk เอาเป็นว่าจากที่เราดมๆ เนี่ยนะคะ เราว่ากลิ่นจะออกแนวๆ ดอกพุดดอกมะลิอ่ะค่ะ หอมหวานแบบไม่ฉุนดีค่ะ ใครชอบกลิ่นแนวๆ ดอกไม้ไทย ที่หอมแบบหวานๆ เย็นๆ กลิ่นนี้ไม่น่าพลาดนะคะ เห็นว่าจะมีกลิ่นใหม่ออกมาอีกเป็นกลิ่นกล้วยไม้ค่ะ คงต้องลองติดตามดูต่อไปว่าจะเป็นยังไง






ยี่ห้อ: Bath and Body Works
สินค้า: Body Cream – Irresistible Apple
ปริมาณ: 8 oz/226 g
ราคาปกติ: $10.50
ราคาที่ซื้อมา: $3
ความคิดเห็น: กลิ่นที่ทาครั้งแรกจะแปลกๆ อยู่แป๊ปนึง แล้วซักพักจะรู้สึกว่ากลิ่นแอปเปิ้ลออกสดชื่นๆ จะตามมาค่ะ พอทิ้งไว้ซักพักนึงกลิ่นก็จะจางลงเหลือเป็นกลิ่นที่อ่อนลงหอมอ่อนๆ ค่ะ ถ้าเทียบกับกลิ่น Enchanted Apple ของ VS เราชอบของ VS มากกว่าค่ะ เพราะจะกลิ่นแอปเปิ้ลแบบน่ากินกว่า แต่ถ้าพูดถึงกลิ่นที่ติดผิวเมื่อทิ้งไว้แล้วเนี่ย เราว่าไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ค่ะ แต่แอบรู้สึกว่ากลิ่นของ BBW จะออกน่ารักๆ แต่ของ VS จะออกแนวหวานๆ กว่าน่ะค่ะ






ยี่ห้อ: Bath and Body Works
สินค้า: Body Cream – Freshwater Cucumber
ปริมาณ: 8 oz/226 g
ราคาปกติ: $10.50
ราคาที่ซื้อมา: $3
ความคิดเห็น: เราแปลกใจกับตัวเองมากๆ เลยค่ะที่ตอนกลิ่นนี้ออกใหม่ๆ เมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมาแล้วเราไม่ชอบเลยอ่ะค่ะ แต่พอได้ลองใช้โฟมล้างมือกลิ่นนี้ เรากลับปิ๊งกลิ่นนี้แบบถอนตัวไม่ขึ้นเลยล่ะค่ะ เพิ่งมาตอบคำถามตัวเองได้ว่าทำไมตอนแรกไม่ชอบ ก็เพราะว่าตอนที่ไปเทสกลิ่นนี้เนี่ย ไปลอง body cream ไงคะ แล้วกลิ่นที่ทาตอนแรกเนี่ยมันแบบว่าเหมือนกลิ่นเปลือกแตงกวาตอนปลอกใหม่ๆ ที่จะมีกลิ่นเหม็นเขียวแปลกๆ ที่เราไม่ชอบอ่ะค่ะ แต่พอทิ้งไว้ซักพักมันจะหอมแนวๆ สดชื่นมากๆ ตอนนี้เป็นกลิ่นโปรดกลิ่นนึงของเราเลยล่ะค่ะ ขอเล่าหน่อยแล้วกันว่ารุ่นน้องคนนึงมาล้างมือที่บ้าน แล้วพอออกมานั่งซักพักก็ถามว่าพี่ฝนใช้น้ำหอมอะไรเหรอ หอมจัง เราก็บอกว่าดมมือตัวเองดูสิ กลิ่นที่ถามเนี่ยมาจากกลิ่นโฟมล้างมือนะ อันนี้เป็นน้องผู้ชายนะคะ เราว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยค่ะ highly recommend ค่ะสำหรับกลิ่นนี้ โดยเฉพาะคนที่ชอบกลิ่นแนวๆ แตงกวาอยู่แล้วห้ามพลาดนะคะ






ยี่ห้อ: Breathe (ขายใน BBW)
สินค้า: Moisture Wrap in-shower Body Lotion - Happiness
ปริมาณ: 6.7 oz/200 g
ราคาปกติ: $12
ราคาที่ซื้อมา: $3
ความคิดเห็น: เคยซื้อเจ้าตัวนี้แต่เป็นกลิ่นอื่นมาค่ะ เพราะตอนนั้นอ่านรีวิว in-shower moisturizer ของ olay หรือไงเนี่ยอ่ะค่ะที่นู๋เตย Crotte รีวิวเอาไว้แล้วอยากลองมั่ง พอดีตอนนั้นไปเห็นเจ้านี่ลดราคาอยู่เลยสอยมาลอง แบบว่าลองแล้วติดใจเลยค่ะ ไม่ได้ติดใจเพราะตัว moisture หรอกนะคะ เพราะสิ่งที่เราปิ๊งกลับเป็นอย่างอื่นมากกว่า เล่าหน่อยแล้วกันนะคะ คือว่าตอนใช้ครั้งแรกเนี่ยใช้เสร็จหลังอาบน้ำก็เฉยๆ จนกระทั่งมาสังเกตตัวเองว่าทำไมตัวเราถึงได้มีวิ้งๆ เต็มตัวไปหมดเลยเนี่ย คือเราไม่รู้ไงคะว่ามันมี shimmer ด้วยอ่ะค่ะ แต่เรากลับติดใจเจ้าตัวนี้ก็เพราะ shimmer นี่แหละค่ะ แบบว่ามันสวยทำให้ผิวดูโกลว์กำลังดีมากๆ เลย แบบว่าถ้าจะออกงานแล้วต้องโชว์ผิวเนี่ย มันจะงามมั่กๆ เลยอ่ะค่ะ ใครสนใจซื้อมาลองดูได้นะคะ สำหรับกลิ่นของตระกูล Breathe จะเป็นแนวสดชื่นใช้ได้ทั้งหญิงและชายค่ะ กลิ่นนี้ก็หอมดีค่ะใช้แล้ว happy สมชื่อเลยว่างั้น 555















 

Create Date : 11 มกราคม 2551    
Last Update : 11 มกราคม 2551 8:33:45 น.
Counter : 9983 Pageviews.  

Magic Liquid Powder & Magic Illuminating Potion by Prescriptives

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเดินเล่นที่ห้างไม่ไกลจากบ้านเนื่องจากรุ่นพี่คนไทยที่สนิทจะต้องไปหาซื้อของให้กับเพื่อนที่เมืองไทย ของที่เค้าสั่งซื้อคือ Magic Liquid Powder สี Translucent ของ Prescriptives อยากรู้จังว่าทำไมเค้าถึงย้ำนักย้ำหนาว่ายังไงก็ขอให้ได้ตัวนี้มานะ

เจ้า Magic Liquid Powder ตัวนี้เป็นเหมือนแป้งฝุ่นในกระปุกทั่วไปเลยค่ะ ในตระกูล Magic นี่จะมีวิ้งๆ ค่ะ แต่ความสงสัยของเรายังมีเพราะทำไมถึงใช้ชื่อว่า Liquid Powder ล่ะ ในเมื่อเนื้อที่เห็นมันก็คือแป้งฝุ่นชัดๆ คุณบีเอผิวสีแสนอารมณ์ดีเป็นคนเข้ามาดูแลพวกเราสาวๆ สามคนค่ะ เธอบอกว่าที่ใช้ชื่อว่า Liquid Powder เพราะอะไรให้ลองเทสดูค่ะ ว่าแล้วเธอก็จัดการเอาบรัชมาปัดแป้งให้ที่หลังมือ ครั้งแรกที่สัมผัสก็เข้าใจเลยค่ะว่าทำไม ก็เพราะว่าพอได้แตะกับเนื้อแป้งจะรู้สึกเย็นๆ ชื้นๆ เหมือนกับสิ่งที่ทาเป็นน้ำเลยค่ะ แอบสงสัยเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ (สมองไร้ความรู้ด้านเคมีอย่างสุดๆ) เอาเป็นว่าแค่นี้ก็แอบเริ่มปิ๊งแระ

เอาล่ะค่ะ หลังจากได้ลองที่หลังมือของทั้งสามสาว ทุกคนเอามาเทียบกะหลังมืออีกข้าง สิ่งที่รู้สึกเหมือนกันคือ ทำไมข้างที่ทาถึงได้ดูผิวเนียนมากมายขนาดนี้ ว่าแล้วคงต้องลองกับหน้าแล้วล่ะว่าเป็นยังไง เริ่มด้วยคุณน้องสุดสวยก่อนเลย เพราะน้องเค้าแต่งหน้ามาด้วยวันนี้ น้องคนนี้ผิวสีน้ำผึ้งค่ะ แต่พอปัดด้วย Magic Liquid Powder สี Translucent แล้ว หันมาให้ดูอีกทีทุกคนอึ้งไปเลย เพราะหน้าน้องเค้าผ่องเด้งออกมาแบบเห็นได้ชัดเลยค่ะ ว่าแล้วเรากะพี่อีกคนเลยลองมั่ง ของเราปัด translucent ค่ะ ก็รู้สึกเหมือนกันเลยว่าหน้าดูผ่องเด้งขึ้นมาเลยจริงๆ ส่วนรุ่นพี่เราเค้าอยากลองระหว่าง translucent กับ red Neutralizer เราเลยปัดอย่างละครึ่งหน้า พี่เค้าไม่ได้แต่งหน้ามาเลยนะคะวันนี้ แต่แค่ปัดตัวนี้ลงไปหน้าก็ผ่องขึ้นมาเลยอ่ะ แต่ด้านที่เป็น translucent จะเด้งกว่า

สรุปแล้วพวกเราสามสาวเลยกรี๊ดแตกกับแป้งอันนี้อย่างแรง แต่ด้วยความงกก็เลยตกลงกันว่าจะอดใจไว้รอซื้อตอนช่วงมีโปรโมชั่นค่ะ บีเอน่ารักมากถึงมากที่สุดแอบเชียร์ว่ารอก่อนดีแล้วเพราะช่วง holiday จะมีเป็นเซ็ทซึ่งน่าซื้อมากกว่าเยอะ เลยตกลงวันนั้นได้แต่ซื้อของที่มีคนฝากซื้อ คุณบีเอแถมกระเป๋าเครื่องสำอางใบนึง กะตัวอย่างของ Magic Illuminating Potion กับ mascara base มาให้คนละชุดค่ะ

หน้าตาของ Magic Liquid Powder เป็นแบบนี้ค่ะ เครดิตรูปจากเวปของ Prescriptives นะคะ



Size: 1.2 oz.
Price: $35.00

ตัวนี้เป็น Best Seller ของเค้าเลยค่ะ ได้ลองแล้วก็เข้าใจเลยว่าทำไมถึงขายดี คำโปรยในเวปคือจะช่วยลดการมองเห็นพวกริ้วรอยและรูขุมขนค่ะ ใช้หลังทารองพื้นค่ะ เป็น Oil-free, Non-acnegenic, Ophthalmologist-tested, และ Dermatologist-tested ตอนนี้หลงรักตัวนี้อย่างแรงเลยค่ะ


ส่วนอีกตัวที่พอดีบีเอเค้าให้ตัวอย่างมาทดลองคือ Magic Illuminating Potion สี Translucent ค่ะ หน้าตาเป็นแบบนี้นะคะ (เครดิตรูปจากในเวปของ Prescriptives เช่นกันค่ะ)



Size: 1 oz.
Price: $30.00

ตัวนี้เป็น Foundation Primer หรือเบสที่มีวิ้งๆ งามมากๆ วิ้งละเอียดสุดๆ สีออกเหลือบๆ รุ้งๆ เลยค่ะ เวลาทาเค้าให้ใช้แค่นิดเดียวพอ ทาก่อนลงรองพื้นให้ทั่วหน้า คำโปรยในเวปบอกว่าตัวนี้จะช่วยกระจายแสงทำให้ผิวดูไร้ที่ติค่ะ เราลองใช้แล้วสองครั้งก็รู้สึกว่าเป็นเบสที่โอเคนะคะ แต่ไม่ได้ปลื้มมากมายขนาดว่าต้องซื้อ เพราะรู้สึกว่าใช้ตัว Liquid powder แล้วมันเห็นผลชัดเจนกว่าเยอะ


สรุปว่าเราคงไม่พลาดที่จะซื้อ Magic Liquid Powder สี Translucent แน่นอนค่ะ แล้วอยากจะแนะนำมากๆ เลยด้วย ปกติไม่ค่อยจะเป็นหน้าม้าให้อะไรแบบนอกหน้าขนาดนี้เลยนะเนี่ย ยังไงถ้ามีโอกาสได้ลองก็อย่าลืมไปลองดูนะคะ ใครใช้อยู่รู้สึกยังไงมาช่วยแชร์กันด้วยก็ดีค่ะ เพราะเราก็มือใหม่กับการแต่งหน้ามากๆ เลยล่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะค้า..จุ๊บๆ





แวะมาเพิ่มเติมค่ะ หลังจากที่กลับมาบ้านจัดการถ่ายรูปของแถมที่คุณบีเอใจดีให้มา ก็เลยรีบเอามาลงเลยค่ะ หน้าตาของที่ได้ก็นี่เลยค่ะ อันนึงเป็น Magic Illuminating Potion ส่วนอีกอันเป็น mascara base



เจ้า mascara base กะว่ายังไม่เปิดใช้ค่ะ เลยไม่ขอลองนะคะ ได้ลองใช้แต่เจ้า Magic Illuminating Potion ที่ได้รีวิวเกริ่นๆ ไว้ในช่วงแรก เนื้อจะข้นหน่อยนึงจะเห็นวิ้งๆ เหลือบๆ ชัดเจนเลยค่ะ ลองซูมมาให้ดูเผื่อจะมองเห็นวิ้งๆ ในเนื้อเบส



พอทาไปแล้วก็จะซึมเหลือวิ้งๆ เคลือบผิว มองไปจะรู้สึกว่าผิวดูชุ่มชื้น ดู glow อ่ะค่ะ ก็คงอย่างที่เค้าบอกว่าเจ้าวิ้งๆ อันนี้มังคะที่จะช่วยกระจายแสงทำให้เวลามองเนี่ยจะช่วยให้ผิวดูดีขึ้น ผ่องขึ้น ทาแล้วไม่ได้รู้สึกว่าทำให้ผิวมันขึ้นค่ะ



พยายามถ่ายให้เห็นว่าพอหลังจากทาลงบนผิวแล้วจะเห็นความแตกต่างจากส่วนที่ไม่ได้ทานะคะ ส่วนที่ดูเหลือบๆ คือส่วนที่ทาค่ะ



อันนี้ลองถ่ายอีกมุม พยายามถ่ายสุดชีวิตแล้วค่ะ กล้องเรามันซูมมากจัดๆ ไม่ได้ ภาพที่ถ่ายนี้แค่พยายามหามุมที่ทำให้เห็นความแตกต่างของผิวนะคะ เวลาทาที่หน้าไม่ได้ออกวาวๆ ขนาดนี้ค่ะ















 

Create Date : 18 กันยายน 2550    
Last Update : 18 กันยายน 2550 11:54:03 น.
Counter : 2076 Pageviews.  

รีวิวที่ดัดขนตาค่ะ

วันนี้บ้าพลัง เลยขออัพบล็อคอีกซักอันแล้วกันค่ะ พอดีมีที่ดัดขนตาอยู่สามอัน ก็เลยเอามารีวิวแก้เซ็งซะเลยค่ะ แรกเริ่มเดิมทีเราไม่ค่อยจะแต่งหน้าอะไรเท่าไหร่หรอกค่ะ เพิ่งมาช่วงหลังๆ ที่เข้ามาในห้องแป้งนี่แหละ ถึงได้เริ่มที่จะหัดมาแต่งหน้า โดยเฉพาะกับตา เพราะงั้นที่ดัดขนตาเนี่ย เป็นอะไรที่ไม่ค่อยจะได้ใช้เลยล่ะ เพราะงั้นอันแรกที่เราซื้อเลยเลือกแบบถูกๆ หน่อย แต่เห็นคนในห้องแนะนำกันมากมาย ก็เลยถอยมาลองใช้ค่ะ กับน้อง Sunday หลังจากนั้นทนกระแสของลุงชูไม่ไหว ก็เลยฝากเพื่อนที่ไปญี่ปุ่นซื้อมาลอง ต่อมาไม่นานไปเดินเล่นในร้าน TBS แล้วก็เจอที่ดัดขนตาลดราคาอยู่ก็เลยสอยมาลองอีกอัน เลยเป็นที่มาของที่ดัดขนตาสามอันนี้ค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าเรารู้สึกยังไงกับเจ้าที่ดัดขนตาสามอันนี้


SUNDAY





ราคา: 39 บาทมังคะ จำไม่ค่อยได้แล้วอ่ะ
ของแถม: มียางมาให้อีกหนึ่งอันค่ะ
คะแนน: 7/10
ความเห็น: เป็นที่ดัดขนตาราคาย่อมเยาดีค่ะ คุณภาพก็สมราคาอ่ะนะ เวลาดัดตอนแรกๆ ก็เด้งสวยดีนะคะ แต่พอใช้ไปเรื่อยๆ ด้วยคุณภาพยางที่คงแปรตามราคา ทำให้ยางเสียเร็วจังอ่ะค่ะ หรือเราซาดิสต์ไปป่าวก็ไม่รู้ เพราะรู้สึกใช้ไประยะนึงก็จะเป็นรอยแตกที่ยางตามรอยกดของที่ดัดขนตาน่ะค่ะ ทำให้หลังๆ ขนตาดัดแล้วเหมือนเป็นรอยหักอ่ะค่ะ เลยไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่




THE BODY SHOP







ราคา: $3 + tax (ราคาที่ลดราคาแล้วนะคะ ราคาเต็มบ่รู้อ่ะ)
ของแถม: มียางมาให้อีกสองอันค่ะ อันนึงอยู่ในถุง ส่วนอีกอันแอบกิ๊บเก๋มีที่หนีบเก็บไว้กับที่จับค่ะ



คะแนน: 8/10
ความเห็น: ถ้า ณ ราคาสามเหรียญแบบนี้ เราว่าคุ้มมั่กๆ เลยค่ะ เพราะนอกจากจะมียางมาให้อีกสองอัน คุณภาพก็ดีใช้ได้เลยค่ะ ดัดเด้งมั่กๆ ไม่ต้องดัดย้ำก็โอเคแล้วอ่ะค่ะ ข้อเสียก็คือคุณภาพยางที่ไม่ค่อยทนเท่าไหร่ เราว่าไม่ค่อยต่างจากยางของ Sunday เลยอ่ะค่ะ ใช้ไปซักพักก็จะเป็นรอยแยกๆ ตรงยางแล้วอ่ะ (หรือเราใช้โหดไปหว่า..ชักสงสัย)



SHU UEMURA







ราคา: $9 (ราคานี้ซื้อที่สนามบินนาริตะค่ะ)
ของแถม: มียางมาให้อีกหนึ่งอันค่ะ
คะแนน: 9.5/10
ความเห็น: แอบกั๊กไว้ 0.5 คะแนนเนื่องจากรู้สึกว่าต้องดัดย้ำหลายครั้งเหมือนกันอ่ะค่ะกว่าจะเด้งได้ใจ อาจเป็นเพราะขนตาเราเส้นหน้าไปป่าวหว่า สำหรับคุณภาพของลุงชูคงไม่ต้องพูดถึงแล้วมังคะ เป็นที่ดัดขนตาที่เรารู้สึกชอบมากๆ เพราะดัดแล้วรู้สึกว่าไม่ต้องใช้แรงมาก ดัดยังไงขนตาก็ไม่หัก จะงอนสวยแบบธรรมชาติดี ตัวยางก็มีสกุลรุนชาติ คือ คุณภาพดีอ่ะค่ะ คาดว่าคงใช้ได้นานโขเชียว เพราะค่อนข้างหนาและแน่น ไม่เหมือนกันสองอันด้านบนอ่ะค่ะ ยิ่งซื้อมาในราคาที่ญี่ปุ่นแล้ว เราว่าคุ้มมากๆ เลยล่ะค่ะ














 

Create Date : 18 สิงหาคม 2550    
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2550 4:20:08 น.
Counter : 3871 Pageviews.  

รีวิวด้วยความเห่อ กะน้อง Maybelline Volume express turbo boost

วันนี้ไปเดินเล่นที่ซูเปอร์เล็กๆ ร้านนึงเพื่อที่จะซื้อสำลีเช็ดหน้าค่ะ เดินๆ ไปก็ไปเจอเจ้า Maybelline Volume express turbo boost รุ่นกันน้ำที่สาวๆ ในห้องเคยพูดถึง ราคาเหรอคะ... $3 + tax ก็ราวๆ สามเหรียญนิดๆ ถูกซะไม่มี แล้วงี้จะรอดเหรอคะ ว่าแล้วก็สอยมาลองซะเลย



กลับมาบ้านด้วยความยากลอง จัดการเช็ดเครื่องสำอางออกแล้วทดลองเลยค่ะ เริ่มต้นก็ดัดขนตาให้งอนๆ เท่าที่ขนตาน้อยๆ ของเราจะทำได้ แล้วก็ปัดค่ะ ออกตัวเลยว่าเราเป็นคนที่ไม่ค่อยปัดมาสคาร่าเลย และมีมาสคาร่าก็ไม่ค่อยจะใช้หรอก ส่วนใหญ่ได้มาจากของแถมก็จะกองไว้งั้น เพราะเคยปัดแล้วไม่ได้เรื่องเลยอ่ะค่ะ เจอตัวนี้เข้าไปปิ๊งเลยอ่ะ

แต่เราไม่มีรูปที่ถ่ายเองนะคะ เพราะว่าคุณน้องไปเที่ยวเลยเอากล้องไปแย้วววว เราก็เลยมะมีกล้องมาถ่ายอ่ะค่ะ คงเป็นแค่การรีวิวแบบบอกเล่าและยืนยันว่ามันดีจริงๆ นะเออ ปัดแล้วเรารู้สึกว่าทำให้ขนตาเราดูมี volume มากขึ้น ยาวขึ้น เรียงเส้นดีไม่จับเป็นก้อน แพนด้ารึเปล่ายังไม่แน่ใจเพราะยังไม่ได้ใช้ทั้งวัน ล้างออกง่ายค่ะ เราคงไม่สามารถให้คะแนนได้นะคะ เพราะประสบการณ์การใช้มาสคาร่าของเราน้อยมั่กๆ เลยไม่มีตัวเปรียบเทียบ แต่เอาเป็นว่าเราคงจะหันมาปัดมาสคาร่าบ่อยขึ้นแน่นอนค่ะ เพราะรู้สึกเลยว่าปัดแล้วทำให้ตาดูดีขึ้นเยอะเลยล่ะ



มาสรุปดีกว่า.. ตามความเห็นของเราซึ่งไม่ใช่เซียนมาสคาร่านะคะ

Pros: ราคาไม่แพง เพิ่มวอลุ่มได้ดี ทำให้ขนตาดูเข้มขึ้น เด่นขึ้น ยาวขึ้นเล็กน้อย ปัดแล้วไม่จับเป็นก้อนเท่าไหร่ ล้างออกได้ไม่ยาก ปัดแล้วเด้งได้ทั้งวันเลยค่ะ

Cons: ตัวหลอดอ้วนๆ เวลาจับแล้วมันรู้สึกใหญ่เกินไป ปัดแล้วไม่ได้ทำให้ขนตางอนเด้งถ้าไม่ดัดค่ะ สำหรับเราซึ่งผิวมันมั่กๆ ก็แอบมีแพนด้าเล็กๆ ที่ขนตาล่างนะคะ

Recommended: Yes


ก็ถือเป็นรีวิวง่อยๆ ให้อ่านกันเล่นๆ แล้วกันนะคะ ไม่ได้มีการปัดให้ดูนะคะว่าเป็นไง แต่ว่าใครอยากลองก็แนะนำเลยค่ะ วันนี้ลองปัดมาทำงานตั้งแต่เช้าผลคือเด้งไม่มีทีท่าว่าจะตกเลยค่ะ แต่แอบแพนด้านิดส์นุง เลยมาอัพเดทผลไว้ค่ะ

ปล. เครดิตรูปจากเวปของ maybelline.com ค่ะ












 

Create Date : 01 สิงหาคม 2550    
Last Update : 2 สิงหาคม 2550 2:32:05 น.
Counter : 1379 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

แมวจอมกวน
Location :
กรุงเทพฯ United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่อดีตคนไกลบ้านคนนึง ที่เริ่มจากหลวมตัวมาเรียนที่อเมริกา ผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมายในชีวิต ได้รับประสบการณ์และแง่คิดมากมายจากดินแดนแห่งนี้ ตอนนี้หาทางกลับบ้านเจอแล้วค่า.. ได้กลับมาเริ่มต้นชีวิต (อีกครั้ง) ที่เมืองไทยซะที ที่มาของชื่อก็เพราะว่าเป็นคนที่รักแมว จึงเป็นที่มาของชื่อ "แมวจอมกวน" ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนค่ะ


Link Blog ล่าสุด

คนโสดและไม่โสดหงายมือขวามาดูเดี๋ยวนี้ (เส้นสมรส ฟันธง!!!!)
มาทำความเข้าใจระบบเศรษฐกิจจากควายกันดูมั๊ยคะ ^^
คนค้นคน: มิสป่าตอง... หญิงที่ผูกติดกับภาพในอดีต
Cherubin Chocolate Cafe ร้านเค้กสำหรับคนรักช็อกโกแลต (และน้องหมี)
สำหรับแฟนบาร์บี้.. ชวนมาสะสมแสตมป์ไทยชุดบาร์บี้กันค่ะ
ตามรอยห้องก้นครัวไปชิม King Kong Buffet ซอยหลังสวนค่ะ
Lenka สาวสวยเสียงน่ารัก..เพลงยิ่งน่ารักน่าฟัง
หน้าร้อนแบบนี้.. มาสครับผิวกันดีกว่าค่ะ: รีวิวสครับที่กำลังปลื้ม
แอบงอน Coffee Bean เลยได้มาลอง Sugaroma ร้านเค้กน่ารักและน่ากินค่ะ
มาทำความเข้าใจกับวิกฤติการณ์แฮมเบอร์เกอร์กันง่ายๆ ด้วยภาพกันค่ะ
Review น้ำหอมในกรุ (ภาค 4)
Review น้ำหอมในกรุ (ภาค 3)
Ho Kitchen กับอาหารเย็นมื้อใหญ่
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 5 Luzern & ไปลุยหิมะบนยอดเขาTitlis
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 4 Lausanne, Vevey, and Montreux
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 3 Berne & Mont Blanc
บิบิมบับ ข้าวยำเกาหลี เมนูที่ทำเองได้ไม่ยากเลยค่ะ
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 2 Zurich & Geneva
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นการเดินทางและการเตรียมตัว
ผลจากโปรโมชั่นของ drugstore ทำให้ได้ไรมามั่ง มาเปิดถุงพร้อมรีวิวกันเลยค่ะ
รีวิว Bath & Body Works กลิ่นใหม่ต้อนรับสปริงค่ะ
If we hold on together >> Piano by คุณ tutu_pianist เพลงพิเศษสำหรับพี่หญิง ตัวเล็กอ้วนค่า
รีวิวผ้าเช็ดเครื่องสำอาง Pond's Cleansing Towelettes
Joanna Wang >> An Asian Version of Norah Jones
แม่ครัวสมัครเล่นกะเค้ก Tres Leches --> เค้กสามนม
รีวิว Skinceuticals C+ E Ferulic & Gamma Hydroxy & Kanebo กระปุกแดง
บล็อคสีชมพูกะเทศกาลดอกเชอรี่บาน Cherry Blossom @ DC
Review ครีมหอมๆ กลิ่นใหม่ๆ จาก Victoria's Secret และ Bath and Body Works ค่ะ
เปิดตัว MMU ตัวที่สามกับ Lumiere
เปิดตัว MMU ตัวที่สองกับน้องเหมียว Meow Cosmetics ค่ะ
รีวิว Everyday Minerals

เปิดตัว Mineral makeup ชิ้นแรกของเรา กับ Everyday Minerals ค่ะ
ประสบการณ์กรีดสิวที่คลินิคหมอเสริม-เพ็ญจันทร์

Magic Liquid Powder & Magic Illuminating Potion by Prescriptives
Aspirin Mask ของดีราคาถูกที่น่าลอง

บลัชลุงชู P Amber 87 VS elf Sun Kissed ความเหมือนที่แตกต่าง
Review Eyeshadow ของ Nars ค่ะ

รีวิวสีบลัช NARS ตามสัญญาค่ะ


   
11 March 2008
Friends' blogs
[Add แมวจอมกวน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.