Group Blog
 
All blogs
 

Lunasol 2010 Spring Makeup Collection Workshop มีอะไรน่าสนใจบ้าง.. มาชมกันเลยค่า

หวัดดีค่าเพื่อนๆ ห่างหายไปนานมากมาย ไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คบล็อคซักเท่าไหร่ในช่วงนี้ด้วยความยุ่งวุ่นวายในชีวิต ถ้าใครแวะมาฝากคำถามอะไรไว้แล้วไม่ได้ตอบก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ไว้ผ่านช่วงงานท่วมหัวเมื่อไหร่แล้วจะแวะมาอัพบล็อคให้บ่อยขึ้นค่า..

วันนี้มีเหตุให้ต้องรีบมาอัพบล็อคโดยด่วนเนื่องจากอดใจไว้ไม่ได้ที่จะต้องมารีบเขียน ไม่งั้นกลัวว่าสมองปลาทองอย่างเราจะลืมทริคต่างๆ ในการแต่งหน้าสำหรับ collection ใหม่ของ Lunasol ไปน่ะค่ะ อยากสารภาพว่าตั้งแต่คราวก่อนที่ได้โอกาสไปร่วม workshop กับ Lunasol กับ autumn collection ก็เล่นเอาเราปลื้มกับ Lunasol มั่กๆ จะหาว่าม้าก็ยอมนะคะเพราะเราหลงรักเจ้า eye shadow ใน collection นั้นจริงๆ แบบว่าใช้บ่อยมากกกกกกกกกก แล้วหลายครั้งที่จะมีคนชมว่าสี eye shadow สวยจัง ของยี่ห้อไหน อยากได้มาใช้มั่ง (ทั้งๆ ที่ฝีมือการแต่งหน้าเราออกแนวสู้ชีวิตมั่กๆ แต่ใช้เซ็ทนี้แล้วมันดูดีขึ้นได้อย่างประหลาด 555) เอาหล่ะ..ก่อนจะกลายเป็นม้าไป มาเริ่มกันดีกว่าค่ะ


งานวันนี้จัดที่ Zen ค่ะ หนีงานมาโดยเฉพาะเพื่อมาร่วมงานในวันนี้ มาถึงแบบเส้นยาแดงผ่าแปด เพราะได้เวลาเริ่มงานพอดี ยังดีที่ได้เจอเพื่อนๆ ห้องแป้งที่คุ้นหน้าคุ้นตาหลายคน เลยได้ไปนั่งโต๊ะกับคุณโอ๋ ชฏาแหลมสุดสวย กะนุ้งเล็กกี้ LoveToBeLoved สุดน่ารัก มาถึงโต๊ะก็ได้เห็นเซ็ทเครื่องสำอางสุดอลังการวางอยู่กลางโต๊ะพร้อมอุปกรณ์ที่คุ้นเคยและเพียบพร้อม เห็นแล้วอยากจะยกเซ็ทของ collection ใหม่กลับบ้านจริงๆ



เริ่มงานด้วยการกล่าวเปิดงานด้วยคุณ Marketing Manager สุดสวยที่เกริ่นถึง 2010 spring collection ว่าจะเป็นการนำเอาสีสันของธรรมชาติมาสร้างสรรค์ความงามสำหรับการแต่งหน้าค่ะ ต้องขอโทษที่จำชื่อใครไม่ค่อยจะได้เลยนะคะ ความจำปลาทองจริงๆ




ลำดับถัดไปเป็นคุณศรีจันทร์ วิทยากรที่จะมาสอนการทำความสะอาดผิวค่ะ ขั้นตอนจะคล้ายๆ กับที่เคยสรุปไว้ค่อนข้างละเอียดในบล็อคที่แล้วเลยค่ะ

สรุปทิปการทำความสะอาดหน้าและแต่งหน้าจาก Stardust Purification Exclusive Web Blogger Workshop ค่ะ



สรุปๆ ก็คือใช้สำลีที่ชุ่มด้วย Eye Makeup Remover เช็ดตา ปาก แล้วใช้ Cleansing Cream (1) แปะ 5 จุดบนหน้า ค่อยๆ เกลี่ยครีมให้ทั่วหน้าแล้วนวดให้เครื่องสำอางออก เช็ดออกด้วยเจ้า sponge sheet (ที่ลูกศรในรูปชี้) จนสะอาด แล้วตามด้วยโทนเนอร์ (2) โดยเทใส่สำลีเช็ดทั่วหน้า แล้วค่อยเอาสำลีแผ่นนั้นมาตบเลาๆ บนผิวเพื่อช่วยในการซึมซับ และปิดท้ายด้วย Emulsion (3) โดยแปะ 5 จุดบนหน้า ค่อยๆ เกลี่ย แล้วจึงนวดให้ครีมซึมเข้าผิวก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนค่ะ




แล้วก็มาถึงจุดสำคัญของงานก็คือการสอนการแต่งหน้าด้วย 2010 Spring Makeup Collection ของ Lunasol โดยคุณซาไก เมคอัพอาร์คติสจากญี่ปุ่นค่ะ วันนี้มาด้วยเสื้อสีชมพูสดใสได้อีก ช่างใส่สีนี้ได้ขึ้นจริงๆ แฮะ คราวนี้เค้าพูดญี่ปุ่นได้เร็วปรี๊ดส์เลยค่ะ เพราะมีคุณล่ามช่วยแปลเป็นภาษาไทยให้ คราวก่อนเค้าต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษน่ะค่ะ เลยจะพูดช้ากว่านี้ ส่วนนางแบบวันนี้สวยน่ารักหุ่นดีจริงๆ เห็นว่าเพิ่งอายุ 17 เองนะนี่

สำหรับการแต่งหน้าจะแบ่งเป็น 2 ส่วนนะคะ ส่วนแรกคือการลง Base Makeup อีกส่วนคือการลง Point Makeup ช่วงลงเบสเมคอัพนี้ไม่ค่อยได้ถ่ายไรเท่าไหร่ค่ะ เพราะทำตามคุณซาไกจนไม่ได้แว้บมาถ่ายของที่ใช้เลย ขึ้นตอนก็คือ

1. ลงเบส ซึ่งของ Lunasol จะมี 3 สี
01 Moisture เหมาะสำหรับผิวแห้ง
02 Lighting ออกเงามีวิ้ง ช่วยให้ผิวดูกระจ่างสว่างใส ช่วยกลบความหมองคล้ำของใบหน้า
03 Clear เหมาะกับผิวออกโทนแดง ช่วยกลบรอยแดง
คุณซาไกบอกว่าถ้าผิวแห้งและอยากเพิ่มความกระจ่างใสก็สามารถใช้ 01 แล้วตามด้วย 02 ได้นะคะ วิธีใช้ก็ใช้นิ้วค่อยๆ เกลี่ยบนผิวหน้าให้ทั่วและสม่ำเสมอค่ะ




2. ลงรองพื้น ที่ใช้ในวันนี้เป็น Water Liquid Foundation ค่ะ ทาด้วยฟองน้ำ โดยกดรองพื้นลงบนฟองน้ำ พับฟองน้ำเพื่อซับรองพื้น แล้วค่อยๆ ทาบนผิวค่ะ เริ่มจากโหนกแก้มนะคะ

3. Nuance Change Foundation เป็นตัวช่วยเพิ่มประกายให้กับผิวหน้า โดยใช้ฟองน้ำค่อยๆ ทาที่สันจมูก โหนกแก้ม หน้าผาก และคาง

4. Under Eyes Base เอามาป้ายบนหลังมือก่อน วอมด้วยการนิ้วแล้วค่อยแตะๆ ที่ใต้ตาหรือมุมปากค่ะ

5. ใช้แปรงแป้ง (ใครมองหาแปรงปัดแป้งฝุ่นที่นุ่มละมุมของเชียร์ของ Lunasol นะคะ มันนุ่มฝันหวานมากๆ เลยอ่ะค่ะ) ปัดแป้งฝุ่นบนผิวค่ะ


ต่อไปก็คือการลงสีแล้วค่ะ คราวนี้เค้าให้เลือกกันค่ะว่าจะเลือกใช้สีโทนไหน เริ่มตาลายรักพี่เสียดายน้อง ก็แต่ละสีสวยๆ ทั้งนั้นเลยอ่ะค่ะ แถมเป็นวิ้งๆ โดนใจสาวรักวิ้งอย่างเรามั่กๆ ลองมาดูกันนะคะว่าจะคิดเหมือนฝนรึเปล่า


(Credit: //www.lunasol-net.com/en/product/pointmake/index.html)

01 Nature Blue เฉดสีฟ้าของน้ำทะเล
02 Nature Green เฉดสีเขียวแทนสีของป่าไม้ที่เขียวขจี
03 Nature Brown เฉดสีน้ำตาลที่เป็นสีโทนสว่างสวยกลมกลืนกับทุกสีผิว
04 Nature Beige เฉดสีเบจ แรงบันดาลใจจากทิวทัศน์แห่งทะเลทราย
05 Nature Colorful สีสรรสดใส เสมือนสีสันสวยงามของดอกไม้แรกแย้ม


แต่ละเฉดสีก็จะมี Shining Eyes ลิป และกลอสที่เค้าจัดไว้ให้อย่างลงตัวเลยล่ะค่ะ สำหรับเราวันนี้เราใส่ชุดสีออกโทนเบจก็เลยเลือก 04 มาลองค่ะ



ในเซ็ทก็จะมี eye shadow 04, shining eyes EX04, Full Glamour Lips G 32.33, และ Full Glamour Gloss N 20 มาเปิดดูข้างในกันค่ะ



ภาพห่วยหน่อยนะคะ แบบว่าไม่ได้เอากล้องไปค่ะ เลยต้องใช้ภาพจากมือถือตามมีตามเกิดแบบนี้แหละค่ะ ลิปจะสีออกชมพูอ่อนอันนึง อีกอันจะออกสีเบจสีจะอ่อนกว่าค่ะ ส่วนกลอกจะค่อนข้างใสเลยล่ะ มาซูม eye shadow ดีกว่า...




มาเริ่มละเลงสีกันดีกว่าค่ะ เริ่มต้นด้วยการลง Eyelid Base โดยใช้ปลายนิ้วแตะๆ บนเปลือกตาให้ทั่ว แล้วตามด้วย Shining Eyes เห็นคุณซาไก หมุนแท่งจิ้มจุ่มมาปาดๆ ตรงปากแท่งก่อนแล้วค่อยเอามาป้ายที่่เปลือกตา แล้วค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วแตะเกลี่ยให้ทั่วเปลือกตาค่ะ หล้งจากนั้นก็ลง eye shadow ตามนี้เลยค่ะ


(Credit: //www.lunasol-net.com/en/product/pointmake/index.html)

สรุปก็คือเค้าจะแบ่งการใช้เป็น 2 กลุ่มนะคะ กลุ่มแรกคือเฉดสี 1,3,5 อีกกลุ่มคือเฉด 2,4 เพราะการใช้สีจะต่างตำแหน่งกันเล็กน้อยค่ะ ลองดูตามภาพข้างบนแล้วกันนะคะจะเห็นชัดเจนเลย คุณซาไกบอกว่าสำหรับเจ้า Shining Eyes นี่สามารถเอามาทาอีกครั้งหลังทาสีตาเสร็จก็ได้นะคะ โดยเอามาแตะๆ บนเปลือกตาตรงไหนก็ได้ตามชอบ จะเป็นทั่วเปลือกตา ใต้คิ้ว หรือกลางเปลือกตาก็ได้ค่ะ แล้วจึงต่อด้วยไลน์เนอร์ ดัดขนตาปัดมาสคาร่า ตามถนัดเลยค่ะ เอารูปน้องนางแบบมาให้ดูใกล้ๆ หน่อยค่ะ




หลังจากได้ลองเล่นกับ 2010 Spring Makeup Collection จนหนุกหนานกันทุกคนแล้วก็ไปรวมกลุ่มถ่ายภาพกันค่ะ



มีแอบไปถ่ายทีมงานด้วยค่ะ ทุกคนน่ารักเป็นกันเองมากๆ ต้องขอขอบคุณสำหรับโอกาสดีๆ มา ณ ที่นี้ด้วยเลยนะคะ



หลังจากกลับบ้านด้วยความอิ่มเอมใจทั้งได้ความรู้ ได้ของมาลองใช้ และได้เจอเพื่อนๆ ห้องแป้งหลายๆ คน ก่อนนอนก็ของัดเอาของที่ได้มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันดีกว่าค่ะ มาเปิดถุงกันเร้ววววว..




รีบงัดแงะมาลองเลยค่ะ อันแรกขอพูดถึงตัวสำคัญอันนึงของ collection นี้ก่อนแล้วกันนะคะ กับเจ้า Shining Eyes สีฟ้าหวานๆ อันนี้ เป็นปลื้มกับสีนี้มากๆ ค่ะ มันหวานวิ้งโดนใจจริงๆ ใครชอบทาตาให้วิ้งๆ ล่ะก้อ อย่าลืมสอยมาเล่นกันนะคะ เราว่ามันติดทนดีด้วยอ่ะค่ะ



อันที่สองเป็นลิป Full Glamour Lips G 27 สีออกชมพูมีวิ้งเล็กๆ ทากับปากแล้วเราชอบอ่ะค่ะ ทาแล้วจะออกชมพูอมแดง ดูปากมีสุขภาพดี ชอบๆ



ปิดท้ายด้วยลิปกลอส Full Glamour Gloss 17 สีชมพูอ่อน สีหวานมากมาย ทาทับลิปอันบนแล้วช่วยเพิ่มความวาวใสปากอิ่มเอิบดีแท้ เข้ากันได้อีก




ลองทาที่ผิวเทียบสีให้เพื่อนๆ ดูค่ะ จากขวาไปซ้าย ก็จะเป็นกลอส --> ลิป --> Shining Eyes --> Shining Eyes หลังเกลี่ยกับผิวแล้ว



สรุปส่งท้ายในวันนี้ต้องขอขอบคุณกับกิจกรรมดีๆ และโอกาสที่มอบให้จาก Lunasol นะคะ ก่อนหน้านี้จะติดกับแบรนด์ทางเมกา แต่พอได้ลองใช้ของ Lunasol ก็ทำเอาเราหลงรักแบรนด์นี้ไปแล้วอ่ะค่ะ แอบปลื้ม eye shadow กับลิปเป็นพิเศษเลยค่ะ วันนี้ดีใจที่ได้เจอพี่หญิง พี่เอ๋ คุณโอ๋ น้องเปิ้ล น้องเล็กกี้ คุณมด น้องตูน ฯลฯ หลายคนมั่กๆ อีกอย่างคือตอนนี้เริ่มเกิดแรงบันดาลใจที่จะหัดกรีดไลน์เนอร์ให้สวยอย่างที่พี่จนท.ในห้องช่วยทำให้ ไม่รู้จะสำเร็จได้รึเปล่านะนี่









 

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2553 2:29:39 น.
Counter : 2085 Pageviews.  

สรุปทิปการทำความสะอาดหน้าและแต่งหน้าจาก Stardust Purification Exclusive Web Blogger Workshop ค่ะ

หวัดดีค่า... ห่างหายจากการรีวิวเกี่ยวกับความงามมาพอสมควร วันนี้ได้โอกาสเหมาะๆ จากการที่ได้เข้าร่วม workshop กับทาง Lunasol ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในการได้ไปร่วมกิจกรรมของเราเลยค่ะ แอบตื่นเต้นเล็กๆ แต่ก็ไปถึงที่งานจนได้ งาน Stardust Purification Exclusive Web Blogger Workshop จัดขึ้นที่ Grand Hyatt Erawan Bangkok เราเลือกไปช่วงบ่ายค่ะ เพราะถ้าไปรอบเช้าคงตื่นไม่ทันแน่ๆ แฮะๆ แต่ก็เพิ่งรู้ตอนหลังว่ากลุ่มพี่หญิง ตัวเล็กอ้วนไปกันช่วงเช้า เสียดายมากมาย แต่ไม่เป็นไร..เพราะก็ยังมีโอกาสได้เจอมด น้องตูน คุณหนีแม่ฯ และสาวๆ อีกหลายๆ คน รวมทั้งได้รู้จักกับ Tavy_Potter สาวหน้าใสแต่งหน้าเก่งมั่กๆ อีกคนด้วยค่ะ



เริ่มต้นงานด้วยคุณพี่สาวที่เป็นผู้จัดการสุดสวยมาดดีเป็นคนกล่าวเปิดงานค่ะ แล้วต่อด้วยคุณศรีจันทร์ วิทยากรที่น่ารักมากๆ มุขเยอะสุดๆ เป็นคนที่จะมาสอนการทำความสะอาดผิวค่ะ จะบอกว่าเราก็เพิ่งสังเกตจริงๆ นะคะว่าคำว่า "Lunasol" เนี่ยมันเป็นการรวมคำสองคำของ Luna พระจันทร์ กับ Solar พระอาทิตย์นั่นเองค่ะ เอาล่ะ..มาดูกันที่โต๊ะดีกว่าค่ะว่ามีอุปกรณ์อะไรเตรียมไว้ให้บ้าง ทุกอย่างเตรียมไว้พร้อมจริงๆ ค่ะ



สำหรับ workshop นี้จะแบ่งเป็น 2 ช่วงค่ะ ช่วงแรกเป็นการสอนการทำความสะอาดผิวหน้า ซึ่งขอยอมรับเลยว่าปกติเราไม่ได้ทำความสะอาดหน้าได้อย่างละเอียดและรักษาสภาพผิวแบบที่เค้าสอนเอาเสียเลยค่ะ เราเลยอยากสรุปคร่าวๆ เท่าที่เราพอจะจดๆ จำๆ มาไว้ให้เพื่อนๆ ได้ลองไปหัดทำกันดูนะคะ ต้องขอขอบคุณคุณศรีจันทร์ วิทยากรด้วยนะคะสำหรับทิปดีๆ ในการทำความสะอาดผิวหน้าตามนี้เลยค่ะ

เริ่มต้นจากการทำความสะอาดตาก่อนนะคะ ใช้สำลีแผ่นในการเช็ดค่ะ ซึ่งวิธีการใช้ก็ให้วางสำลีแนวขวาง หงายมือ วางสำลีบนนิ้วกลาง แล้วใช้น้ำชี้และนิ้วนางหนีบไว้ตามตัวอย่างในรูปด้านล่างค่ะ



เท Eye Makeup Remover บนสำลีตรงส่วนด้านบนนิ้วกลางให้ชุ่มขนาดที่ถ้าคว่ำมือลง และไม่ใช้นิ้วหนีบไว้ สำลีก็ไม่ตกลงมาค่ะ เวลาเช็ดที่เปลือกตาให้เริ่มจากการแปะค้างไว้ประมาณสามวินาที แล้วค่อยๆ เช็ดลงเบาๆ นะคะ เสร็จแล้วก็แปะบนเปลือกตา แล้วค่อยๆ เช็ดจากหัวตาไปหางตาเบาๆ ค่ะ

หลังจากนั้นพับครึ่งสำลีทับด้านที่เปื้อนไว้ แล้วพับครึ่งอีกครั้งจะตามภาพด้านบนนะคะ เอาสันเช็ดบริเวณที่กรีดไลเนอร์ โดยใช้นิ้วอีกมือช่วยยกเปลือกตาบริเวณหางตาขึ้นนะคะ และเช็ดมาสคาร่าจากขนตาค่ะ เวลาเช็ดก็ให้เช็ดจากโคนขนตาขึ้นไปเหมือนตอนเราปัดมาสคาร่าค่ะ

ใช้สำลีอีกแผ่นมาเช็ดริมฝีปาก โดยใช้มืออีกด้านยกมุมปากด้านนึงไว้ ริมฝีปากจะได้ตึงนะคะ แล้วให้เริ่มเช็ดจากด้านที่ยกมุมปากไปอีกด้านค่ะ หลังจากนั้นก็พับสำลีเหมือนเดิมแล้วใช้สันเช็ดตามร่องริมฝีปากตามแนวตั้งจากบนลงล่างค่ะ

หลังจากนั้นค่อยใช้ครีมล้างเครื่องสำอาง ซึ่งวันนั้นใช้ Impress Cleansing Cream ค่ะ บีบครีมบนกลางฝ่ามือ แล้วป้าย 5 จุดบนหน้า ค่อยๆ ปาดครีมให้ทั่วใบหน้าโดยใช้หลักจากกลางออกไปด้านข้างนะคะ และตรงคางก็ให้จากล่างขึ้นไปบริเวณขมับ พอครีมทั่วแล้วก็ค่อยๆ นวดวนค่ะ โดยใช้นิ้วสามนิ้ว ชี้ กลาง นาง นวดวนออกค่ะ พอเนื้อครีมใสก็แสดงว่าครีมไปจับกับเครื่องสำอางแล้วค่ะ



สำหรับตอนล้างออกเห็นในแพ็คเกจบอกว่าใช้ทิชชูสำหรับเช็ดหน้าเช็ดออกได้เลยค่ะ แต่ในวันนั้นใช้แผ่นคล้ายๆ ฟองน้ำ จำไม่ได้แระว่าเรียกว่าอะไร เราว่าก็สะดวกดีนะคะ หลังจากเช็ดเรียบร้อยแล้วก็เข้าสู่การบำรุงแล้วค่ะ

ใช้สำลีชุบด้วย Impress Lotion I เป็นแนวๆ โทนเนอร์ เช็ดบนผิวหน้าด้วยหลักการเดิมค่ะ แล้วค่อยนำครีมบำรุง Impress Emulsion I ป้ายบนหน้า 5 จุด แล้วค่อยๆ ปาดเนื้อครีมให้ทั่วใบหน้า หลังจากนั้นให้ใช้เทคนิคการการกดตามแบบของ Impress ซึ่งเพื่อนๆ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เวปนี้เลยค่ะ //www.impress-web.com/th/ip/technic/skincare.html จบขั้นตอนนี้ก็พักเบรคกันก่อนค่ะ



สารภาพว่าประทับใจกับอาหารว่างมากๆ เลยค่ะ มีให้เลือกเยอะแยะจนกินกันไม่ทันเลยทีเดียว หมูสะเต๊ะอร่อยมั่กๆ เสียดายอดทานก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่เค้าว่าอร่อยมั่กๆ พักประมาณ 15 นาทีก็ได้เวลาสอนการแต่งหน้าโดย Mr. Matsuya Sakai เมคอัพอาร์คติสจากญี่ปุ่นค่ะ เห็นว่าดังมากๆ เลยล่ะค่ะ



คุณซาไกสอนการแต่งหน้าด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงญี่ปุ่น บางคำเลยฟังไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ดีที่ได้คุณศรีจันทร์ช่วยสรุปเทคนิคต่างๆ ให้ฟังอีกครั้งค่ะ ซึ่งเราก็ขอสรุปการแต่งหน้าด้วย Lunasol 2009 Autumn Make up Collection ตามที่เราจดๆ จำๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ลองนำไปใช้กันตามนี้เลยค่ะ



ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่า collection นี้เป็นธีมของความระยิบระยับตอนกลางคืน โดยแบ่งสีสันของเซ็ทเป็น 5 ช่วงด้วยกัน

Start of Night เป็นแสงแรกแห่งดวงดาวที่เริ่มส่องประกาย สีจะออกเฉดสีอบอุ่นแบบสีของไวน์แดงแห่งท้องฟ้า

Medium Night ช่วงที่แสงกลางท้องฟ้าเริ่มมืดลง สีสันจะออกโทนสีอ่อนเฉดสีเขียว

Dazzling Night ช่วงค่ำคืนแห่งรัตติกาล กับหมู่ดาวทอประกายบนฟ้า เป็นโทนสีเงินและฟ้าในเฉดสีน้ำเงินเข้ม

Star River กลุ่มดวงดาวทอประกายเป็นทางช้างเผือก อายแชโดว์เกล็ดประกายสีเงินและโพลาไรซ์ไล่เฉดสีแนวม่วงดำ

Close of Night เมื่อแสงดาวค่อยๆ จางหายและแสงสีทองของเช้าวันใหม่สาดส่องเข้ามาแทนที่ หรูหราด้วยสีทองประกายในสีส้มเบจ

วันนั้นคุณซาไกเลือกใช้ Dazzling Night ค่ะ เราเองก็เลือกใช้ชุดนี้เหมือนกันค่ะ สีงามมั่กๆ (แต่ฝีมือของเรายังมือใหม่จริงๆ ) ก่อนอื่นก็ต้องเริ่มต้นจากการทาเบสเพื่อปรับสภาพผิวกันก่อนนะคะ โดยใช้ Control Makeup Base ซึ่งมีสามเบอร์

01 Moisture เหมาะสำหรับผิวแห้ง
02 Lighting ออกเงามีวิ้ง ช่วยให้ผิวดูกระจ่างสว่างใส
03 Clear เหมาะกับผิวออกโทนแดง

เวลาทาเบสก็ให้บีบลงบนฝ่ามือประมาณ 1 ปั๊มแล้วใช้ฟองน้ำซับเนื้อเบส แล้วถึงเอาไปกดลงบนผิวเบาๆ ค่ะ


ต่อจากนั้นก็เป็นขั้นตอนการทารองพื้น ซึ่งเราจะไม่ใช้การแปะบนหน้า 5 จุดนะคะ แต่จะใช้วิธีค่อยๆ ใช้นิ้วทาบนผิวหน้าทีละส่วนไปเรื่อยๆ จนทั่วค่ะ ต่อด้วย Nuance Change Foundation ใช้ฟองน้ำซับมากดบนผิวบริเวณ Bone Structure ซึ่งก็คือ โหนกแก้ม กลางหน้าผาก และคาง เพื่อช่วยสร้างมิติให้กับหน้าค่ะ

ต่อไปก็กลบแพนด้ากันด้วย Under Eyes Base เอามาทาบนปลายนิ้วแล้วค่อยๆ แปะเบาๆ ที่ใต้ตา มุมปาก ปีกจมูก เสร็จแล้วก็ลงแป้งฝุ่นโดยใช้แปรงเทพของ Lunasol ที่จะบอกว่ามันนุ่มมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ปัดแล้วเคลิ้มจริงๆ ค่ะ แบบว่าปัดแล้วมันนุ่ม เบา ล่องลอยจริงๆ สงสัยต้องเริ่มหยอดกระปุกมาถอยเจ้าแปรงขนม้าอันนี้ซะแล้ว



จะบอกว่าแอบปลื้มแป้งฝุ่นเหมือนกันแฮะ แบบว่ามันละเอียด ทาแล้วดูธรรมชาติจริงๆ ค่ะ อ้อ..การปัดแป้งฝุ่นให้เริ่มจากบริเวณ under eyes ก่อนนะคะ แล้วค่อยปัดส่วนอื่นๆ โดยให้ปัดวนเพื่อให้แป้งกระจายตัวคลุมรองพื้นไม่ให้หนาเตอะ ปัดพอไม่ให้หน้าเหนียวก็พอค่ะ



เอาล่ะ..มาเข้าสู่การใช้ Point Makeup กันซะทีนะคะ เริ่มต้นก็เริ่มจากการแต่งตาก่อนเลยค่ะ นางเอกของวันนี้ก็คือ Star Shower Eyes Eye Shadow นั่นเองค่ะ ในตลับจะมี 4 สี ในรูปด้านล่างเป็น Medium Night นะคะ

1. Highlight
2. Medium Color
3. Star Shower Base
4. Shade Color




เวลาใช้ให้เริ่มจาก 3. Star shower base ก่อนค่ะ จะใช้กับแปรงเบอร์ L นะคะ ทาให้ทั่วเปลือกตา แล้วดัดขนตาและเขียนไลเนอร์เป็นโครงเอาไว้ หลังจากนั้นก็ใช้สี 1. Highlight เพื่อเพิ่มความระยิบระดับแรกให้กับเปลือกตา แล้ววจึงตามด้วย 2. Medium color ทาแนวเบ้าตาจากหางตาเข้ามา ซึ่งเข้ามาแค่ไหนขึ้นกับความลึกของเบ้าตาด้วยนะคะ ถ้าลึกอาจจะเป็นครึ่งนึง แต่ถ้าไม่ลึกก็ 1/3 ค่ะ หลังจากนั้นจึงใช้ 4. Shade color โดยใช้แปรงเล็กสุดทางช่วงติดโคนขนตาไล่จากหางตาเข้ามา รวมด้านล่างด้วยนะคะ โดยความเข้มตรงหางตาจะเข้มสุดแล้วไล่น้ำหนักไปหัวตาที่จะอ่อนสุดค่ะ แล้วจบด้วยใช้สี highlight มาทาบริเวณหัวตา

ทิป: ถ้ากลัวสีของ eye shadow เปื้อนใต้ตาก็ให้ปัดแป้งหนาๆ บริเวณใต้ตาก่อนลงสีนะคะ พอแต่งตาเสร็จแล้วค่อยปัดแป้งออก

ต่อไปก็ใช้ eye liner แต่งตา ซึ่งสำหรับเซ็ทนี้จะมีสองด้าน ด้านนึง matt อีกด้านเป็น gliter ใช้ด้าน matt กับขอบตาด้านบน และใช้แบบ gliter กับขอบตาล่างค่ะ ตามด้วย Liquid eye liner เพิ่มความคมให้กับตาค่ะ



อย่าลืมแต่งตาด้วย Stardust on Eyes มี 2 สีให้เลือก Ex01 Silver กับ Ex02 Gold ค่ะ ส่วนตัวแล้วจะชอบสีทองมากกว่าเพราะเราว่าเกล็ดมันจะเล็กละเอียดกว่าสีเงินค่ะ สำหรับตัวนี้เนื้อจะนุ่มเนียนมือมากๆ เลยค่ะ ใช้สำหรับแตะบริเวณส่วนนูนของตาดำบนเปลือกตาเพื่อเพิ่มประกายระยิบระยับสวยงามมากๆ เหมาะกับการแต่งหน้าตอนกลางคืนสุดๆ เห็นว่าที่ญี่ปุ่นขายดิบขายดีจนมีบินมาหาซื้อที่เมืองไทยกันเลยทีเดียว แต่เห็นว่าจะออกขายที่ไทยต้นเดือนหน้านะคะ ใครสนใจก็อย่าลืมรีบไปจับจองด่วน

หลังจากนั้นก็ปัดมาสคาร่า แล้วจึงเขียนคิ้วกันต่อไป โดยการเขียนคิ้วหัวคิ้วอ่อน กลางคิ้วเข้ม ปลายคิ้วอ่อนลง โดยกลางคิ้วนี้ให้ยึดจุดโค้งสุดของคิ้วนะคะ ต่อด้วยทาลิปไลเนอร์ที่ริมฝีปาก โดยให้ค่อยๆ ลงสีจากขอบปากไล่สีเข้าไปด้านในหน่อยนึงนะคะ แล้วจึงใช้สเปตูล่าปาดเนื้อลิปสติคแล้วใช้แปรงสำหรับทางลิปสติคทาที่ริมฝีปากค่ะ ตามด้วยลิปกลอสเพิ่มความเงางาม

ปัดแก้มด้วยบลัชสีอ่อนหน่อยนะคะ เพราะสีอื่นๆ เข้มแล้ว ปัดแค่ให้ดูสุขภาพดีพอนะคะ การปัดเนี่ยจะมี 2 แบบ ถ้าอยากให้หน้าดูยาวเรียว ให้ปัดแนวเฉียงจากมุมปาก แต่ถ้าอยากให้หน้าดูอิ่มกว้าง ก็ให้ปัดแนวขวางจากจมูกไปกกหูค่ะ แต่อย่าลืมนะคะว่าการปัดเนี่ยจะต้องไม่ปัดเกินจากแนวเส้นจมูกนะคะ ไม่งั้นจะดูแก้มย้อยค่ะ

เฮ่อ.. บรรยายมายาวนานมาก มาดูหน้าคุณนางแบบกันดีกว่าค่ะ ภาพห่วยหน่อยนะคะ เพราะใช้คุณมือถือถ่ายน่ะค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ จะบอกว่าคุณนางแบบสวยคมมากๆ ไม่แต่งไรก็สวยแล้วอ่ะ ยิ่งแต่งแล้วยิ่งสวยเข้มปนหวานดูดีจริงๆ ค่ะ



จบวันแห่งความสนุกกันด้วยการถ่ายภาพหมู่ค่ะ ใครเป็นใครกันบ้างก็ลองดูนะคะ มีแต่สาวๆ สวยๆ แต่งหน้าเก่งๆ ทั้งนั้นเลยล่ะค่ะ (ยกเว้นเราอ่ะนะ )



พอกลับมาบ้านก็ขอบ้าเห่อเปิดถุงของติดไม้ติดมือจากงานหน่อยค่ะ



อันแรกที่กรี๊ดมากๆ เลยก็คือเจ้า Star Shower Eyes นี่แหละค่ะ ปลื้มมากๆ สีที่ได้มาเป็นสี 02 Medium Night ค่ะ มาดูกันเร้วววว



สำหรับสีดูได้จากภาพด้านบนๆ นะคะ ส่วนชิ้นที่สองก็คือ Contrasting W Eyeliner ค่ะ สี 02 Olive Green



และชิ้นสุดท้ายเป็น Full Glamour Lips S สี 32 Shiny Beige Red ค่ะ



และแล้ววันนี้ก็จบไปอย่างมีความสุขแถมได้ความรู้ในการทำความสะอาดผิวหน้าและการแต่งหน้ามาเต็มเปี่ยม ก็เลยอยากเอามาแชร์ให้เพื่อนๆ ที่ผ่านเข้ามาได้มาเก็บความรู้ดีๆ ที่ได้จาก Stardust Purification Exclusive Web Blogger Workshop ด้วยกันนะคะ ถ้าหากมีข้อผิดพลาดประการใด ฝนก็ต้องขออภัยไว้ด้วยนะคะ แบบว่าอาจจะมีจำผิดไปบ้างน่ะค่ะ

และที่ขาดไม่ได้ก็คงต้องขอขอบคุณคุณกิฟ ผู้ที่เชิญชวนให้ได้มีโอกาสไปร่วมงาน workshop ดีๆ แบบนี้ และที่สำคัญก็คือทาง Lunasol ที่ได้จัด workshop ดีๆ มีประโยชน์ บรรยากาศที่ดี ดูแลเทคแคร์ได้น่ารักและประทับใจมากๆ เลยค่ะ เห็นทีถ้ามีโอกาสได้ไปร่วม workshop อีกรับรองไม่พลาดแน่ๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยค่า....




More Free Music at MP3-Codes.com












 

Create Date : 27 กันยายน 2552    
Last Update : 28 กันยายน 2552 1:04:47 น.
Counter : 2115 Pageviews.  

รีวิวสครับ St. Ives Microderm Abrasion กะครีมทาผิวสำหรับคนรักไอศครีม Me! Bath

หวัดดีค่า... ห่างหายจากการรีวิวที่ห้องแป้งมาพอสมควร วันนี้ขอนำเสนอสครับกะครีมทาผิวที่ใช้แล้วปลื้มมาให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเพื่อนๆ ดูค่ะ อันแรกก็คือสครับสำหรับผิวหน้าค่ะ จริงๆ เคยรวมรีวิวพวกสครับไว้ส่วนนึงแล้วที่บล็อคอันนี้ค่ะ //www.bloggang.com/viewblog.php?id=maewjomkuan&date=14-03-2009&group=8&gblog=27
ในบล็อคนั้นมีทั้งสครับผิวหน้าและผิวกายค่ะ ส่วนอีกอันก็เป็นครีมทาผิวที่ใครชอบกินไอศครีมเห็นแล้วคงอดที่จะหยิบมาไม่ได้เลยล่ะค่ะ





St. Ives Microderm Abrasion

สครับผิวตัวที่สองที่เราเคยลองของยี่ห้อนี้ค่ะ อันแรกก็คือเจ้าสครับ apricot ที่เพื่อนๆ คงคุ้นเคยกันดี ซึ่งเราว่าอันนั้นมันก็โอเคนะคะ เสียตรงที่เม็ดสครับมันใหญ่ไปหน่อย พอมาเจอตัวนี้ก็เลยลองซื้อมาตั้งแต่มันออกมาใหม่.. ดองเค็มจนกลัวหมดอายุถึงได้เอามาลองใช้ดู แล้วก็พบว่า..มันดีใช้ได้เลยนะเนี่ย

สครับตัวนี้เค้าบอกว่าใช้ mineral crystals เป็นตัวสครับค่ะ แถมบอกว่ามี Chamomile กะ Vit E เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยถนัดเรื่องส่วนประกอบเท่าไหร่ เลยขอไม่ให้ความเห็นนะคะว่าส่วนผสมของสครับตัวนี้เป็นยังไง คงบอกได้แต่ความรู้สึกส่วนตัวหลังทดลองใช้มาได้ซักระยะแล้วกันนะคะ

ลักษณะสครับจะเป็นเนื้อไม่มีสี เม็ดสครับค่อนข้างเล็ก (ยิ่งเทียบกะน้อง apricot แล้วจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างเลยค่ะ) เราว่าความละเอียดใกล้เคียงกับเบคกิ้งโซดานะคะ ซึ่งเราว่ามันไม่ระคายผิวดีค่ะ เราใช้แล้วไม่แพ้หรือระคายเคืองค่ะ ส่วนตัวค่อนข้างปลื้มเจ้าตัวนี้เลยนะคะ เพราะราคาไม่แพงและคุณภาพดีเลยล่ะ เสียแต่ว่าที่เมืองไทยคงไม่มีมั้งเนี่ย





Me! Bath Strawberry Kiwi Body Icing

ครีมทาผิวที่เห็นแพ็คเกจแล้วอดที่จะหยิบมาไม่ได้จริงๆ เลยค่ะ วันที่ซื้อเลยได้ทั้งเจ้าครีมตัวนี้กะ Shower Sherbet มาเลยค่ะ วันนี้ขอนำเสนอครีมทาผิวก่อนแล้วกันนะคะ ไว้วันหลังค่อยแนะนำเจ้า Shower Sherbet ที่เป็นสครับผิวคราวหลัง พอดีว่ายังไม่ได้ถ่ายรูปไว้รีวิวน่ะค่ะ

สนนราคาเจ้าครีมนี้ก็พอควรเลยนะเราว่ากับราคาเต็มที่ $25 ซึ่งขนาดใกล้ๆ กะ BBW หรือ VS ที่ราคาเต็มประมาณ $10 แต่ความต่างก็คือเจ้า Me! Bath จะไม่ได้เน้นความหอมเหมือน BWW กะ VS นอกจากนี้ใครเห็นแพ็คเกจก็คงจะรู้สึกว่ามันน่ากินดีใช่มั๊ยค่ะ ก็เพราะยี่ห้อนี้เค้าทำสินค้าออกมาเอาใจคนรักไอศครีมเลยล่ะค่ะ ตอนแรกเราก็ไม่ได้รู้จักหรอกกะเจ้า Me! Bath เนี่ย แต่พอเห็นกระปุก Shower Sherbet แล้วก็ต้องหยิบมาดู เพราะมันเหมือนกระปุกไอติมมากๆ เลยค่ะ แล้วก็เลยอดไม่ได้ที่จะเอามาลอง ใครสนใจสอยากรู้จักก็ลองเข้าไปที่ //mebath.com ดูนะคะ

สำหรับเจ้า Strawberry Kiwi Body Icing เนี่ย ทำเอาคนชอบกินไอติมที่ผิวแห้งอย่างเราหลงรักได้ไม่ยากเลยค่ะ ด้วยเนื้อครีมที่เข้มข้นแต่ไม่หนักเหมือนพวก butter เลยช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นแต่ไม่เหนอะหนะดีค่ะ กลิ่นก็ออกแนวขนมๆ ผลไม้ เหมือนกลิ่นไอติมโยเกิร์ตประมาณนั้นน่ะค่ะ ปัญหาก็คือที่เมืองไทยจะมีรึเปล่าเนี่ยสิคะ เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ที่เมกาคงหาซื้อได้นะคะ เราซื้อจากร้าน BBW ค่ะ













 

Create Date : 14 สิงหาคม 2552    
Last Update : 15 สิงหาคม 2552 2:07:37 น.
Counter : 2425 Pageviews.  

ของฝากจากน้องเป๋อเหวอกะ HIP และของชำร่วยน่ารักๆ จากพี่นุท ปุ๊กกี้ & คิตตี้

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสได้นัดมีท เม้าท์ หม่ำ กะสาวๆ ห้องแป้งอีกสี่คนด้วยกันค่ะ เริ่มมาจากที่น้องเป๋อ เป๋อเหวอ กลับมาจากเมกา หลังจากหนีไปเรียนที่นั่น ไม่น่าเชื่อว่าแป๊บๆ ก็ผ่านไปปีนึงแล้ว พอมีโอกาสได้กลับมาพักร้อนที่เมืองไทยก็เลยต้องขอนัดเจอกันซักหน่อย แล้วก็เลยได้มีโอกาสได้เจอกันน้องเปิ้ล มิถุนา น้องสาวสุดน่ารักที่เพิ่งเคยเจอกันก็ครั้งนี้นี่เอง ขอบอกว่าน้องเปิ้ลตัวจริงน่ารักมากกกกกกกกกกกกก ส่วนอีกสองสาวก็คือพี่นุท ปุ๊กกี้ & คิตตี้ และฝ้ายจัง Cottony นั่นเองค่ะ

วันนั้นนัดไปทานอาหารเกาหลีกันที่ร้านกาบิน ตรงซอยสุขุมวิท 26 ค่ะ เพิ่งเคยไปทานที่นี่เป็นครั้งแรก จากคำแนะนำของน้องเปิ้ลค่ะ อาหารอร่อยใช้ได้ทีเดียว เราชอบพิซซ่าเกาหลีเป็นพิเศษเพราะกรอบนอกนุ่มในอร่อยมั่กๆ ส่วนพวกปิ้งๆ ก็ชอบเนื้อซี่โครงที่สุด สำหรับบิบิมบับส่วนตัวแล้วคิดว่ารสไม่ค่อยจัดจ้านเลยไม่ค่อยปลื้ม แกงกิมจิก็ใช้ได้เลยค่ะ แต่เห็นน้องเปิ้ลบอกว่ารสชาดไม่ค่อยแน่นอน สงสัยวันนั้นจะโชคดี ส่วนพวกเครื่องเคียงเราว่ากิมจิกลิ่นมันตุ่ยๆ ยังไงพิกลเลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ไปชอบสลัดมันฝรั่งค่ะ อร่อยดี สรุปว่าวันนั้นนั่งทานกันตั้งกะร้านเปิดยันพนง.มาเก็บของไล่.. เอ้ยไม่ช่าย เค้าต้องเก็บเพราะจะปิดร้านรอบบ่ายน่ะค่ะ

พอหม่ำและเม้าท์กันได้เวลาที่ต้องแยกย้ายกันกลับ น้องเป๋อก็เอาของฝากมาให้ทุกคนเลย ขอบคุณมากๆ เลยนะจ๊ะ ว่าแล้วก็เลยขอรีวิวไปเลยแล้วกันเพราะบ้าเห่อลองใช้ไปเรียบร้อยแล้ว

ชิ้นแรกที่น้องเป๋อแนะนำก็คือ L'Oreal HIP Pure Pigment Shadow Stick สี Dazzling ที่ต้องขอมาลองเพราะเราสองคนประสบปัญหาเดียวกันที่เปลือกตาจะมันแล้วอายแชโดว์ก็เลยชอบเลือนง่าย แต่น้องเป๋อเป็นปลื้มกับตัวนี้มากว่าติดทน ก็เลยต้องขอคว้าหมับมาลอง แล้วก็ขอยืนยันอีกเสียงว่าติดทนจริงๆ ค่ะ สีก็สวยนะ เป็นวิ้งๆ สีเงินๆ ออกเทา ไม่แปลกใจเลยที่น้องเป๋อเหมามาตุน



เปิดออกมาเป็นแท่งเล็กๆ ที่อัดแน่นไปด้วย pigment เราว่าแบบนี้ใช้สะดวกดีเหมือนกันนะคะ พกก็ง่ายด้วย นี่ถ้าที่เมืองไทยมีคงต้องไปเหมามาตุนอีกคน 555



ส่วนอีกชิ้นที่น้องเป๋ออยากให้มาลองก็คือลิปกลอสของ HIP อีกเช่นกัน เค้าเขียนไว้ว่าคือ Color Presso สี Chic ตัวนี้เพิ่งออกใหม่เหมือนกับตัวข้างบนเลยค่ะ ลิปนี้มีความเก๋ตรงที่จะเป็นลิปสองสีที่สามารถเอามาผสมกันได้สีใหม่ตามที่เราชอบค่ะ ขอสารภาพว่าหาทางเปิดอยู่นาน กว่าจะค้นพบว่าก็แค่ดึงจุกฝาออกแค่เนี้ย



เปิดออกมาก็จะเห็นรู 2 รู พอบีบลิปออกมาก็สามารถเลือกได้ว่าจะใช้สีไหน หรือจะผสมกันให้ออกมาเป็นสีใหม่ๆ ได้เลยค่ะ จะบอกว่ากลิ่นหอมแบบขนมน่ากินเชียว แต่ไม่มีรสนะคะ..แฮะๆ ส่วนตัวแล้วเราว่าก็ติดทนแค่ระดับนึงนะ ไม่ได้ขนาดกินอะไรแล้วยังอยู่ ชอบตรงที่มันเก๋สามารถผสมสีได้ และตรงที่ทาก็โค้งเข้ากะริมฝีปากดีค่ะ

นอกจากของฝากจากน้องเป๋อแล้วก็ยังได้ของชำร่วยงานแต่งงานของพี่นุทมาด้วย จะบอกว่าแอบเล็งมานานแระ แบบว่าไม่สามารถไปงานแต่งของพี่นุทได้เพราะจัดที่ตจว. ก็เลยอดไปเห็นเจ้าสาวแสนสวยและงานที่จัดได้สวยจริงๆ ค่ะ ของชำร่วยเป็นแท็คห้อยกระเป๋าค่ะ เก๋ปนน่ารักจริงๆ



แล้วก็ได้เวลาแยกย้ายกันกลับค่ะ อิ่มหนำสำราญและสนุกมากๆ ขอบคุณน้องเป๋อมากๆ สำหรับของฝากและเป็นหัวแรงในการนัดกันครั้งนี้ รวมทั้งขอบคุณพี่นุทสำหรับของชำร่วยนะคะ แล้วก็ดีใจที่ได้มีโอกาสเจอน้องเปิ้ล และได้เม้าท์กะฝ้ายจังอีกนะจ๊ะ




















 

Create Date : 26 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 5 ตุลาคม 2552 23:46:47 น.
Counter : 1964 Pageviews.  

หน้าร้อนแบบนี้.. มาสครับผิวกันดีกว่าค่ะ: รีวิวสครับที่กำลังปลื้ม

ช่วงนี้อากาศร้อนมากมาย ออกไปข้างนอกทีเนื้อตัวก็เหนียวเหนอะหนะ พักนี้ฝนเลยจะชอบสครับผิวบ่อยขึ้นค่ะ เพราะพออาบน้ำสครับผิวแล้วจะรู้สึกสบายตัวแล้วก็รู้สึกสะอาดแถมหอมสดชื่นดีด้วย วันนี้เลยเอาสครับที่ฝนใช้อยู่ในช่วงนี้แล้วชอบมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ชมกันค่ะ




Desert Essence: Gentle Stimulating Facial Scrub with Jojoba Oil & Almond Meal


ส่วนผสม: Purified Water, Jojoba Meal, Vegetable Glycerin, Cetyl Alcohol (vegetable source) Glyceryl Stearate, Clay, Hydrolyzed Wheat Protein, Allantoin, Honey, Aloe Extract, Cucumber Extract, Almond Meal, Kelp, Rye Flour, Methylparaben, Citrus Essential Oils

เป็นสครับสำหรับหน้าที่ฝนชอบมากๆ เลยค่ะ เพราะนอกจากราคาที่ย่อมเยาว์ (ราคาไม่ถึงห้าเหรียญเองค่ะ) ส่วนประกอบก็ทำจากธรรมชาติ กลิ่นจะหอมอ่อนๆ ธรรมชาติๆ แต่ก็แอบตุ่ยๆ แบบคล้ายๆ กลิ่นพืชแปลกๆ เหมือนกันนะ เม็ดสครับขนาดไม่ใหญ่ไม่บาดหน้า



ฝนชอบที่มีส่วนประกอบของ Jojoba Oil เวลาจับเนื้อสครับเลยจะรู้สึกได้ว่ามีออยผสม บางครั้งฝนก็จะเช็ดเครื่องสำอางออกแล้วตามด้วยสครับตัวนี้ ใช้แล้วรู้สึกว่าหน้าสะอาดมากๆ ค่ะ เสียดายที่เป็นยี่ห้อที่ซื้อที่เมกา ถ้าหมดแล้วคงไม่รู้จะหาซื้อจากที่ไหนได้ในเมืองไทยเลยค่ะ





H2O Body Buffer Raspberry Guava


ส่วนผสม: Aloe Vera Gel, Apricot Extract, Kiwi Extract, Lemon Peel Extract, Orange Peel Extracts, Provitamin B, Vitamin E, Shea Butter, Aloe Vera Gel

เป็นสครับสำหรับผิวตัวที่หอมน่ากินมากมาย เม็ดสครับละเอียดไม่บาดผิว ทำจาก Apricot seeds, jojoba beads แล้วก็ pumice (หินภูเขาไฟ) เพิ่งรู้วันนี้เองว่ามีหินภูเขาไฟอยู่ด้วย วันไหนได้ใช้สครับตัวนี้จะรู้สึกสดชื่นมีความสุขตอนอาบน้ำทุกทีเลยค่ะ คงเพราะกลิ่นนี่แหละ ทำเอาห้องน้ำคลุ้งไปด้วยกลิ่นราสเบอร์รี่เลย แถมช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกทำให้ผิวเรียบเนียนนุ่มดีค่ะ





Victoria’s Secret: Stimulating Body Scrub กลิ่น Romantic Wish


ส่วนผสม: Propylene Gylcol, Sodium Laureth Sulfate, Water, Hydrated Silica, Fragrance, Cocamide MEA, Sodium Cocoamphopropionate, DMDM Hydantoin, Disodium EDTA, BHT, Ethylexyl Methoxycinnamate, Butyl Methoxydibenzoylmethiane, Ethylhexyl Salicylate

สครับอันนี้เป็นสครับน้ำตาลค่ะ เรื่องกลิ่นคงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันแล้วถึงความหอม วันไหนใช้ทีเล่นเอากลิ่นหอมฟุ้งเลยค่ะ ฝนชอบสครับน้ำตาลอันนี้เพราะเวลาสครับผิวแล้วมันจะละลายไปเลย แต่แอบรู้สึกว่าละลายเร็วไปหน่อยนะ ยังสครับไม่สะใจก็ละลายหมดแระ เพราะงั้นมักจะใช้เจ้าตัวนี้ในวันที่ไม่ได้ตั้งใจจะสครับผิวมากเท่าไหร่ค่ะ





H2O Spa Smoothing Body Complex with AHAs center>

ขอปิดท้ายด้วยครีมทาผิวแล้วกันนะคะ เพราะกำลังปลื้มค่ะ.. อากาศร้อนๆ แบบนี้ ฝนจะไม่ค่อยชอบใช้ครีมทาผิวที่หนักมาก ฝนเลยได้โอกาสหยิบเอาครีมที่เคยซื้อไว้นานแล้วหลอดนี้มาใช้ค่ะ เพราะเนื้อครีมเบา กลิ่นหอมอ่อนๆ แบบสปา ใช้แล้วหอมสดชื่นแถมรู้สึกรีแลกซ์ดีด้วยค่ะ ที่สำคัญคือมีส่วนผสมของ AHA ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว แล้วยังไม่ทิ้งหน้าที่หลักของครีมทาผิวก็คือบำรุงและให้ความชุ่มชื้นกับผิวค่ะ สำหรับตัวนี้ฝนกำลังปลื้มค่ะ เพราะสภาพผิวตอนนี้จับแล้วจะชอบมากๆ เพราะผิวเรียบ ลื่น และนุ่มดีค่ะ แต่เหมือนรุ่นนี้เค้าจะเลิกผลิตไปแล้วมังคะน่าเสียดายจัง















 

Create Date : 14 มีนาคม 2552    
Last Update : 14 มีนาคม 2552 19:16:14 น.
Counter : 3831 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

แมวจอมกวน
Location :
กรุงเทพฯ United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่อดีตคนไกลบ้านคนนึง ที่เริ่มจากหลวมตัวมาเรียนที่อเมริกา ผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมายในชีวิต ได้รับประสบการณ์และแง่คิดมากมายจากดินแดนแห่งนี้ ตอนนี้หาทางกลับบ้านเจอแล้วค่า.. ได้กลับมาเริ่มต้นชีวิต (อีกครั้ง) ที่เมืองไทยซะที ที่มาของชื่อก็เพราะว่าเป็นคนที่รักแมว จึงเป็นที่มาของชื่อ "แมวจอมกวน" ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนค่ะ


Link Blog ล่าสุด

คนโสดและไม่โสดหงายมือขวามาดูเดี๋ยวนี้ (เส้นสมรส ฟันธง!!!!)
มาทำความเข้าใจระบบเศรษฐกิจจากควายกันดูมั๊ยคะ ^^
คนค้นคน: มิสป่าตอง... หญิงที่ผูกติดกับภาพในอดีต
Cherubin Chocolate Cafe ร้านเค้กสำหรับคนรักช็อกโกแลต (และน้องหมี)
สำหรับแฟนบาร์บี้.. ชวนมาสะสมแสตมป์ไทยชุดบาร์บี้กันค่ะ
ตามรอยห้องก้นครัวไปชิม King Kong Buffet ซอยหลังสวนค่ะ
Lenka สาวสวยเสียงน่ารัก..เพลงยิ่งน่ารักน่าฟัง
หน้าร้อนแบบนี้.. มาสครับผิวกันดีกว่าค่ะ: รีวิวสครับที่กำลังปลื้ม
แอบงอน Coffee Bean เลยได้มาลอง Sugaroma ร้านเค้กน่ารักและน่ากินค่ะ
มาทำความเข้าใจกับวิกฤติการณ์แฮมเบอร์เกอร์กันง่ายๆ ด้วยภาพกันค่ะ
Review น้ำหอมในกรุ (ภาค 4)
Review น้ำหอมในกรุ (ภาค 3)
Ho Kitchen กับอาหารเย็นมื้อใหญ่
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 5 Luzern & ไปลุยหิมะบนยอดเขาTitlis
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 4 Lausanne, Vevey, and Montreux
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 3 Berne & Mont Blanc
บิบิมบับ ข้าวยำเกาหลี เมนูที่ทำเองได้ไม่ยากเลยค่ะ
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 2 Zurich & Geneva
สวิสเซอร์แลนด์ ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นการเดินทางและการเตรียมตัว
ผลจากโปรโมชั่นของ drugstore ทำให้ได้ไรมามั่ง มาเปิดถุงพร้อมรีวิวกันเลยค่ะ
รีวิว Bath & Body Works กลิ่นใหม่ต้อนรับสปริงค่ะ
If we hold on together >> Piano by คุณ tutu_pianist เพลงพิเศษสำหรับพี่หญิง ตัวเล็กอ้วนค่า
รีวิวผ้าเช็ดเครื่องสำอาง Pond's Cleansing Towelettes
Joanna Wang >> An Asian Version of Norah Jones
แม่ครัวสมัครเล่นกะเค้ก Tres Leches --> เค้กสามนม
รีวิว Skinceuticals C+ E Ferulic & Gamma Hydroxy & Kanebo กระปุกแดง
บล็อคสีชมพูกะเทศกาลดอกเชอรี่บาน Cherry Blossom @ DC
Review ครีมหอมๆ กลิ่นใหม่ๆ จาก Victoria's Secret และ Bath and Body Works ค่ะ
เปิดตัว MMU ตัวที่สามกับ Lumiere
เปิดตัว MMU ตัวที่สองกับน้องเหมียว Meow Cosmetics ค่ะ
รีวิว Everyday Minerals

เปิดตัว Mineral makeup ชิ้นแรกของเรา กับ Everyday Minerals ค่ะ
ประสบการณ์กรีดสิวที่คลินิคหมอเสริม-เพ็ญจันทร์

Magic Liquid Powder & Magic Illuminating Potion by Prescriptives
Aspirin Mask ของดีราคาถูกที่น่าลอง

บลัชลุงชู P Amber 87 VS elf Sun Kissed ความเหมือนที่แตกต่าง
Review Eyeshadow ของ Nars ค่ะ

รีวิวสีบลัช NARS ตามสัญญาค่ะ


   
11 March 2008
Friends' blogs
[Add แมวจอมกวน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.