'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)

~ 2 เล่มของหลุยส์ ซาซาร์ ~ บรัดเลย์เด็เกเรหลังห้องเรียน & หลุม






บรัดเลย์ เด็กเกเรหลังห้องเรียน
(There’s a Boy in the Girl’s Bathroom)
ผู้เขียน : หลุยส์ ซาซาร์ (Louis sashar)
ผู้แปล : ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ
สนพ.แพรวเยาวชน


บางส่วนจากปกใน :



“... พวกนั้นเรียกเขาว่าสัตว์ประหลาด คนอื่น ๆ ก็เรียกตาม ทุกคนทำเหมือนกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาด หลังจากนั้นเขาจะเริ่มเชื่อคำพูดของพวกนั้น เขาจะเชื่อว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดจริง ๆ และทำตัวเหมือนสัตว์ประหลาด แต่จริง ๆ แล้วเขายังไม่ได้เป็นสัตว์ประหลาดหรอก ยังมีสิ่งดี ๆ มากมายที่ฝังรากลึกอยู่ในตัวของเขา”

......

เขานั่งอยู่หลังห้อง - - ที่โต๊ะตัวสุดท้าย แถวสุดท้ายจ้องมองแผ่นกระดาษที่ติดอยู่ข้างฝา
แน่ล่ะว่า ไม่มีดาวทองท้ายชื่อของเขาเลยสักดวง
ก็เขาเพิ่งจะทำความผิดไปสามอย่าง... อย่างแรก เขาแกล้งเด็กผู้หญิงจนร้องไห้
อย่างที่สองเขาเข้าห้องเรียนสาย
และสุดท้ายซึ่งแย่ที่สุดคือ เขาชื่อบรัดเลย์ ซอล์กเกอรส์ ผู้ซึ่งไม่เคยได้รับดาวทองเลย
ไม่มีใครให้ดาวทองแก่เจ้าตัวประหลาดอย่างเขาหรอก



*****


เรื่องย่อ :

บรัดเลย์เป็นเด็กประหลาดของบรรดาครูและเพื่อน ๆ นักเรียน
เขาไม่ทำการบ้าน ไม่มีเพื่อน และไม่เคยได้ดาวทองเลย

ที่บ้าน บรัดเลย์มีเพื่อนเยอะแยะไปหมด เขาพูดคุยปรับทุกข์กับเพื่อน ๆ เหล่านี้เสมอ
เพื่อนของเขาเป็นตุ๊กตาสัตว์ที่มีชีวิตชีวา สามารถเสนอแนวคิด
โต้เถียงและปลุกปลอบใจ ให้กำลังใจบรัดเลย์อยู่เสมอ

บรัดเลย์สามารถพูดโกหกได้หน้าตาเฉย หากเขาไม่ต้องการให้แม่รู้เรื่องของเขาที่โรงเรียน
เขาบอกว่าเขาได้เป็นหัวหน้าห้อง และเขาสอบได้ตะแนนเต็ม...
เมื่อแม่ถูกคุณครูเชิญไปพบ เขาจำเป็นต้องขัดขวางสุดกำลัง..

วันหนึ่ง คาร์ล่าก็ก้าวเข้ามาในชีวิตของบรัดเลย์ คาร์ล่า คือครูที่ปรึกษาคนใหม่
ผู้พยายามจะช่วยให้บรัดเล่ย์กลายร่างจากสัตว์ประหลาดกลับไปเป็นเด็กชาย ธรรมดาคนหนึ่ง
แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเมื่อเด็กผู้ชายจำนวนมากยังสนุกกับการรวมหัวล้อ เลียนบรัดเล่ย์
เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ก็รังเกียจความแปลกของเขา จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้บรัดเล่ย์ก้าวออกจากโลกสัตว์ประหลาดที่คุ้นชินของตัวเอง

เมื่อบรัดเล่ย์ค่อย ๆ ปรับตัว เริ่มทำการบ้าน เขาก็เริ่มมีเพื่อนเข้ามาในชีวิต...
แต่...ถึงตอนนั้นเขาก็ต้องพบกับการจากลาของคนที่เขารักมากที่สุดคนหนึ่ง และความผิดหวังเสียใจนี้ บรัดเลย์จะเรียนรู้และยอมรับมันได้แค่ไหน...
ไปให้กำลังใจเขากันค่ะ….



*****


เล่มที่สอง...



หลุม – Hole
ผู้เขียน : หลุยส์ ซาซาร์ (Louis sashar)
ผู้แปล : แมกไม้
ผู้พิมพ์ : มูลนิธิดำรงชัยธรรม (ครั้งแรก ต.ค. 2545)


เรื่องย่อ(จากปกหลัง)


เรื่องของเด็กชายเหงา ๆ ผู้สืบทอดความโชคร้ายของครอบครัว
สแตนลีย์ เยลแนตส์ ถูกส่งตัวไปกักกันที่ค่ายกรีนเลค
ที่นั่น เขาและเด็กคนอื่น ๆ มีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือ...
ขุดหลุมวันละหลุม ขุดทั้งวันและทุกวัน
เพื่อปรับปรุงพฤติกรรมของตนเอง

และแล้ววันหนึ่ง เขาก็ได้ทราบว่า ที่จริงพวกเขาไม่ได้ขุดหลุมเพื่อปรับปรุงพฤติกรรมตนเองหรอก แต่ขุดเพื่ออะไรล่ะ...
มีอะไรฝังอยู่ใต้ผืนทะเลทราย ที่เต็มไปด้วยหลุมแห่งนี้...


..................


เล่มหลังนี้ เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่..ส่วนตัวรู้สึกว่าน่าจะเป็นเยาวชนตอนปลาย ๆ สักหน่อย
ถึงจะอ่านรู้เรื่องและเข้าใจถึงสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะบอกเล่า

เรื่องราวต่อจากข้างบนนั้นอีกนิดค่ะ
สแตนลีย์ เยลแนตส์ ถูกกล่าวหาว่าขโมยรองเท้าที่ได้รับบริจาคมาจากนักกีฬาดัง...
และถูกส่งตัวไปเข้าค่ายเพื่อละลายพฤติกรรม...

ที่นั่นเขาพบกับเด็ก ๆ ในรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขาที่มีพฤติกรรมแปลก ๆ หลากหลายคน
แต่ละคนจะมีฉายาที่ตั้งกันขึ้นมาเอง...รวมทั้งเฮกเตอร์ ซีโรนี หรือฉายาซีโร่...

สัญชาตญาณเอาตัวรอดทำให้สแตนลีย์ต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง...
แล้วโชคชะตาก็บันดาลให้เขาได้ช่วยเหลือซีโร่ ลื่อ(ลูกของเหลน)ของมาดามซีโรนี
ซึ่งในสมัยก่อนนู้น...เคยช่วยเทียดของสแตนลีย์แล้วเทียดไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เคยให้สัญญาไว้...



*****



ในเรื่องจะเล่าขนานกันไประหว่างเรื่องของสแตนลีย์ในช่วงที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในแคมป์
แล้วก็เล่าย้อนไปถึงบรรพบุรุษของเขา...
แล้วทั้งสองเรื่องก็มาโยงต่อกันหลังจากที่สแตนลีย์ได้ให้ความช่วยเหลือซีโรนี ...
ถึงได้บอกว่า...น่าจะต้องเป็นเด็กโตนิดหนึ่งถึงจะเข้าใจในสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อ

ในขณะที่เรื่องแรก-บรัดเลย์เด็กเกเรหลังห้องเรียน ค่อนข้างเด็กหน่อย อ่านง่าย ตรงไปตรงมา

แต่ทั้งสองเรื่องจะมีธีมร่วมคือเป็นเรื่องราวของเด็กผู้ชายที่มีบุคลิกแปลกแยก เหงา โดดเดี่ยว หากเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์บางอย่างที่ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแปลง ปรับตัวเขาก็สามารถทำได้ และทำได้เป็นอย่างดีเสียด้วย

ทั้งสองเล่มมีรางวัลจากหลากหลายสถาบันเป็นการันตีความสนุกและเนื้อหาสาระของหนังสือค่ะ...

โดยเฉพาะเล่มหลังนี้ ได้รับรางวัลนิวเบอรี่อวอร์ด ปี 1999(พ.ศ. 2542)

อ่านตอบโจทย์แล้วเลยหยิบมาแนะนำกันในหน้านี้ด้วยค่ะ












 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 20 พฤษภาคม 2554 11:42:37 น.
Counter : 5418 Pageviews.  

~ มาร์ดี้ พี่สาวจอมป่วน (Mardie): หนังสือเด็กที่จะพาเราย้อนวัย ~





มาร์ดี้ พี่สาวจอมป่วน (Mardie)
ผู้เขียน แอสตริด ลินด์เกร็น (Astrid Lindgren)
ผู้แปล “คีรินทร์”
สนพ.ดอกหญ้า (ก.ค.๒๕๓๖)


โปรยปกหน้า-หลัง



ความซุกซนใส ๆ ของสองสาวน้อย ๆ
ที่สนุกกับจินตนาการ จนสร้างความปั่นป่วนให้คนรอบข้างได้อย่างน่าร๊าก-นารัก

จริงอย่างที่ใคร ๆ ว่า...มาร์ดี้...แม่สาวน้อยผู้น่าพิศวงน่ะ
ช่างคิดเรื่องซุกซนแผลง ๆ ได้ไวอย่างกับหมูกะพริบตา

..........

ที่จริงมาร์ดี้เป็นเด็กดีนะ อ่อนโยน ใส่ใจกับความรู้สึกของผู้อื่น
ถึงบางครั้งจะขี้สงสารไปสักหน่อย
นั่นก็เป็นเพราะเธออยากเห็นทุกคนสมหวังและมีความสุขต่างหาก






วรรณกรรมเด็กวัยใส ที่อ่านแล้วอมยิ้ม
ทำให้ ย้อนนึกถึงตัวเองในวัยเด็กบ้าง

มาร์ดี้วัยเจ็ดขวบ อาศัยอยู่เมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในสวีเดน...
เธอเป็นเด็กช่างคิดช่างจินตนาการ และมักจะเล่นอะไร ๆ ผาดแผลงพิสดารเสมอ ๆ
จนน้องสาววัยห้าขวบของเธอ – ลิซเบ็ท ที่ตามติดพี่สาวเป็นตังเมต้องคอยร้องว่า... ”พี่มาร์ดี้บ้าบอ...”

แล้วก็มีอยู่หลายครั้งที่มาร์ดี้สร้างความหวาดเสียวให้กับน้อง
จนเธอต้องร้องว่า... “พี่มาร์ดี้ตายแล้ว...!”

บางครั้งจินตนาการอันโลดโผนของมาร์ดี้จะทำให้คนที่เธอรักอย่างน้องลิซเบ็ทต้องตกอยู่ในอันตราย...
สร้างความหวาดหวั่นให้กับเธอเป็นยิ่งนัก...

อย่างเช่นตอนที่เธอประกาศขายทาส...
และทาสสวย ๆ ตัวเล็ก ๆ ที่เธอประกาศขายนั้นใช่ใครอื่น...ลิซเบ็ทนั่นเอง

เธอจะทำอย่างไรเมื่อพบว่ามีผู้มาซื้อทาสของเธอไปจริง ๆ ...
ลิซเบ็ทหายไปแล้วจากที่เธอขังไว้ แล้วมีเงิน 5 เพ็นซ์มาวางไว้แทนที่...
มาร์ดี้จะบอกกับพวกผู้ใหญ่ยังไงดี?
ตำรวจจะมาจับเธอไหมนะ...?
แล้วลิซเบ็ทล่ะ ลิซเบ็ทจะเป็นยังไงหากคนที่ซื้อเธอไปใช้ให้เธอทำงานแล้วเธอทำไม่ได้...?







สำหรับผู้ใหญ่ มาร์ดี้อาจเป็นเพียงเรื่องราวซุกซนของเด็ก ๆ...
แต่สำหรับเด็ก ๆ มาร์ดี้คือตัวแทนที่จะบอกเล่าความคิดความฝันของเธอ ที่เธอได้มีโอกาสทำตามใจฝัน...
ให้ความสดใสแก่ผู้อ่านตัวน้อย ๆ หลายคนที่บางทีไม่อาจทำอะไรที่อยากทำได้อย่างมาร์ดี้
...
และสำหรับผู้ใหญ่อย่างจขบ. มาร์ดี้มาช่วยจุดรอยยิ้มให้กับชีวิตประจำวันอันซ้ำซากน่าเบื่อหน่าย
กับช่วยย้อนวันย้อนวัยให้หวนรำลึกนึกถึงชีวิตเยาว์วัยอันแสนรื่นรมย์ได้เป็นอย่างดี...

หนังสือเล่มนี้อ่านเพลิน ๆ เพื่อใช้ตอบโจทย์เหมันต์ขยันอ่านข้อที่ว่า...ให้อ่านหนังสือที่มี "ชื่อตัวละคร" อยู่ในชื่อเรื่อง ค่ะ













 

Create Date : 10 มีนาคม 2554    
Last Update : 10 มีนาคม 2554 11:22:11 น.
Counter : 1139 Pageviews.  

~มหัศจรรย์บรรณารักษ์ :วรรณกรรมในดวงใจเยาวชนแคนาดา ~






มหัศจรรย์บรรณารักษ์ : La mysterieuse bibliothecaire
ผู้เขียน : Dominique Demers
ผู้แปล : เกลอกัน
สำนักพิมพ์ อิมเมจ (มูลนิธิดำรงชัยธรรม)
พิมพ์ครั้งแรก : มีนาคม 2546



วรรณกรรมในดวงใจเยาวชนแคนาดา



เรื่องย่อ(จากปกหลัง) :

ชาร์ลอต หญิงชราท่าทางแปลก เข้ามาสมัครเป็นบรรณารักษ์คนใหม่ของเมืองแซงค์-อนาโตล
ซึ่งมีห้องสมุดเล็กจิ๋วอย่างกับตู้เก็บไม้กวาด
แถมมีแต่หนังสือเปื่อย ๆ เลอะทั้งฝุ่น หยากไย่แล้วก็อึหนู

แต่ด้วยความพยายามที่มุ่งมั่น ชาร์ลอตทำให้เด็ก ๆ รู้สึกกระตือรือร้นที่จะอ่าน...
เพราทุกคนรู้ว่า เรื่องมหัศจรรย์พันลึกกำลังจะเกิดขึ้น มนตร์วิเศษนั้นแรงกล้า
จนแม้แต่ตัวคุณครูบรรณารักษ์เองยังเผลอใจ หายเข้าไปในโลกหนังสือ…






เรื่องราวเพิ่มเติม...
เมืองแซงค์-อนาโตลเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีนายกเทศมนตรีที่ไม่รักหนังสือเอาเสียเลย
ทำให้ห้องสมุดของเมือง เป็นเพียงที่เก็บหนังสือเก่า ๆ เขรอะไปด้วยฝุ่นและอึหนู

แต่เมื่อชาร์ลอต หญิงชราท่าทางแปลก ๆ ก้าวเข้ามาสมัครเป็นบรรณารักษ์ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป...

เธอของบเพื่อซื้อหนังสือใหม่ แต่เมื่อไม่ได้รับงบเธอก็จัดการรณรงค์ขอรับบริจาค
จนมีผู้สนับสนุนงบในการจัดซื้อหนังสือ
เธอสร้างบรรยากาศแห่งการอ่านขึ้นมาใหม่
จนเด็ก ๆ ของเมืองนี้ต่างกระตือรือร้น สนใจการอ่านหนังสือกันขึ้นมา
ไม่เว้นแม้แต่เด็กที่เกเรที่สุดของเมือง...


................

หนังสือเล่มนี้หยิบมาอ่านเพื่อตอบโจทย์เกม"เหมันต์ขยันอ่าน"เช่นเคยค่ะ โจทย์ที่ว่านั่นคือ...ให้อ่านหนังสือที่กล่าวถึงหนังสือเรื่องอื่น ๆ จะเป็นหนังสือที่สมมุติเอาเองในเรื่อง เช่น นิยายที่ตัวละครในเรื่องหยิบมาอ่านแล้วทะลุมิติเข้าไปในหนังสือ หรือภายในเนื้อเรื่องกล่าวอ้างถึงหนังสือที่มีอยู่จริง ๆ จะเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง เล่มใด หรือหลายเล่มก็ได้ โดยหนังสือที่ถูกเอ่ยถึงจะต้องมีบทบาทสำคัญกับเรื่อง ไม่ใช่แค่หยิบมาอ่านนิดเดียว หรือถูกพูดถึงโดยไม่มีผลต่อการดำเนินเรื่อง

ดังนั้น ส่วนที่ตอบโจทย์ของเล่มนี้ก็คือ...
เมื่อใดก็ตามที่ชาร์ลอตอ่านหนังสือแล้วอินจัด เธอจะหลุดเข้าไปในโลกของหนังสือเล่มที่เธออ่าน ...
เธอจะหมดสติไป จนบางครั้งเด็ก ๆ ก็เข้าใจว่าเธอตายแล้ว...

จนกว่าจะมีใครมาอ่านหนังสือเล่มนั้นต่อจากตอนที่เธออ่านค้างไว้...นั่นแหละเธอถึงจะฟื้นขึ้นมา และมีท่าทางกระปรี้กระเปร่า สดชื่นขึ้นเหมือนได้รับพลังวิเศษ...

เธอเคยผจญกับ"ปีศาจเคราสีฟ้า" จากหนังสือนิทานที่เขียนโดยชารลส์ แปร์โรลต์...
และเธอเคยร่วมผจญภัยไปกับฟีฟี แบรงดาซีเยร์อย่างสนุกสนานมาแล้ว

แต่ในตอนท้าย...เมื่อเธออ่าน“โฉมงามกับจอมอสูร” ...
ก็ปรากฏว่าเธอหลับไปนานกว่าปกติที่เคยเป็น จนเด็ก ๆ ตกใจ
เลโอจำได้ว่าชาร์ลอตหลงใหลในตัวอสูรร้ายมากถึงกับเคยออกปากว่า...”ฉันปรารถนาจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป..”
เลโอตัดสินใจว่าเขาต้องปลุกเธอให้ตื่นจากการหลับใหลครั้งนี้ให้ได้...

เขานึกถึงมารี เด็กหญิงจากต่างเมืองที่เขาเคยคุยด้วยทางจดหมาย และเธอก็รู้จักชาร์ลอตดี...
เขาต้องให้มารีมาช่วยเสียแล้ว...
เขาจะทำได้สำเร็จไหมนะ มาเอาใจช่วยกันเถอะค่ะ


มหัศจรรย์บรรณารักษ์ ได้รับรางวัล Le Prix du livre M.Christie,
รางวัล La PalmeLivromagie
และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน IBBY Honour List ปี 2000
ซึ่งเป็นการคัดเลือกหนังสือที่มีคุณค่าเหมาะสำหรับพิมพ์เผยแพร่ในระดับนานาชาติ
มีประเทศสมาชิกเข้าร่วมพิจารณา 44 ประเทศ
จัดขึ้นโดยหน่วยงาน IBBY (Internation Board on Books for Young People)


ข้อมูลนี้คงจะเป็นการันตีของความน่าอ่านของหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างดี !









 

Create Date : 08 มีนาคม 2554    
Last Update : 8 มีนาคม 2554 11:31:52 น.
Counter : 2424 Pageviews.  

~ สามวันดีสี่วันดื้อ : แนวรบด้านเชิงดอยเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง ~






สาม วัน ดี สี่ วัน ดื้อ (หรือแนวรบด้านเชิงดอยเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง)
ผู้เขียน “หนวนอู้”
สำนักพิมพ์ประดู่ลาย(ครั้งแรก ๒๕๓๖)



กลับมาประจำการที่หนังสือแนวโปรด...อ่านกระชากวัยอย่างหนังสือเด็กอีกครั้ง
เล่มนี้ภูมิใจนำเสนอเป็นพิเศษเพราะเป็นหนังสือเด็กสายเลือดไทยแท้ ๆ
แถมฉากหรือที่มาของเรื่องก็เกิดขึ้นในรั้วสถาบันเก่าแก่ของคนอ่านเอง แหะ ๆ


เรื่องย่อ ๆ (จากปกหลังแล้วกัน เพราะเขาย่อไว้ดีแล้ว)

เรื่องของพ่อบ้านวัย ๔๓ ซึ่งได้รับอนุญาตลาพักเป็นกรณีพิเศษนานหนึ่งปี
แต่มีข้อแม้ว่าเขาจะต้องเขียนตำราหนึ่งเล่ม ในช่วงวันหยุดอันยืดยาวนี้

ใต้ถุนเรือนพักอันแสนสงบคือห้องทำงานชิ้นเอกที่เขาหมายมั่นปั้นมือ

แต่ห้องใต้ถุนของเขาก็บังเอิญเป็นห้องโปรดของเพื่อนบ้านคนหนึ่ง ซึ่งพิสมัยที่จะได้มาขลุกอยู่
แบบใช้ชีวิตประจำวัน เสมือนเป็นบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นเชียว

เพื่อนบ้านของเขาผู้นี้มีอายุสามขวบ!

กิจกรรมประจำวันของเด็กวัยสามขวบมีอะไรบ้าง ไม่เหลือวิสัยที่จะคาดเดา...
ร้องหาขวดนม...ร้องหากระโถน...ร้องหาของเล่นชิ้นโปรด...

และมันมิได้มีเพียงเท่านี้...
ความสงบกลายเป็นความไม่สงบขึ้นมาทันทีที่เจ้าตัวเล็กย่างเท้าก้าวเข้ามา

ห้องใต้ถุนกลายเป็นสมรภูมิระหว่างคนวัย ๔๓ กับ ๓ ขวบ!
ขับเคี่ยวกันอย่างถึงพริกถึงขิงแบบว่าห้ามกะพริบตาเชียวแหละ...








เรื่องเล่าโดยอาจารย์ท่านหนึ่งแห่งภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษย์ศาสตร์ ม.เชียงใหม่
ที่ได้พักงานสอนเป็นเวลาหนึ่งปีแต่ต้องสร้างสรรค์งานวิชาการขึ้นมาหนึ่งชิ้น...

หลังจากที่ใช้เวลาพักในช่วงเรกอย่างเรื่อยเปื่อยไปแล้วถึง ๑๑ สัปดาห์... เกือบ ๆ หนึ่งในสี่ของเวลาพัก
อาจารย์ก็ตระหนักว่าถึงเวลาต้องลงมือทำงานได้แล้ว...
เขาจึงเริ่มรวบรวมสมาธิที่กระจัดกระจายเพื่อจะได้เริ่มต้นจริง ๆ จัง ๆ เสียที

แต่ทว่า...จู่ ๆ เขาก็มีข้าศึกบุกเข้ามาก่อกวนสมาธิให้เตลิดเปิดเปิงอีกครั้ง ...

ข้าศึกของเขานั้นหาใช่ใครอื่นเลย แต่เป็นเพื่อนบ้านสาวน้อย วัย ๓ ขวบชื่อน้องปอย

เขาจะต้องสรรหายุทธวิธีที่หลากหลายเพื่อต่อกรกับข้าศึกไปพร้อม ๆ กับการค้นคว้าหาข้อมูลเพื่องานหลักชิ้นสำคัญของเขา...





อ่านเพลินและสนุกค่ะ อ่านไปก็แอบเดาไปว่าผู้เขียนเป็นใครน๊อ...
รู้สึกคุ้น ๆ แต่ก็ไม่แน่ใจนักเพราะผู้เขียนระบุว่าช่วงเวลาในเรื่อง
เกิดขึ้นก่อนหน้าช่วงเวลาที่ตัวเองได้เข้าไปในนั้นถึงเกือบ ๆ สิบปี

ผู้เขียนมีอารมณ์ขันแพรวพราว...
มีมุขเสียดสีแวดวงคณาจารย์มหาวิทยาลัยประปราย...แต่นั่นเป็นเพียงเรื่องราวข้างเคียง

หากเรื่องเล่าที่จุดรอยยิ้มให้กับผู้อ่าน กลายเป็นเรื่องราวของเด็กน้อยที่ผู้เขียนตั้งป้อมต่อต้านไว้ในตอนแรก ...แต่เมื่อการรบรายืดเยื้อ...การต่อสู้กลับกลายเป็นความผูกพัน...แล้วเหตุการณ์จะผันแปร เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร...
หยิบมาชวนอ่านกันค่ะ...

*หนังสือเล่มนี้อ่านเพื่อตอบโจทย์ในเกม"เหมันต์ขยันอ่าน"ซีซั่นที่เพิ่งจบลงไป ยังคงมีหนังสือเด็กอีกหลายเล่มที่อ่านไปแล้วยังไม่ได้หยิบมาอัพบล็อก
ไว้ค่อย ๆ ทยอยส่งรีวิวแล้วกันค่ะ


**เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ












 

Create Date : 07 มีนาคม 2554    
Last Update : 7 มีนาคม 2554 11:07:17 น.
Counter : 1054 Pageviews.  

ขอพ่อให้ผมสักคน (Si on adoptait un papa?)





“ขอพ่อให้ผมสักคน (Si on adoptait un papa?)”
ผู้เขียน อานน์ มีร์มอง
ผู้แปล พูลสุข (อาภาวัชรุตม์) ตันพรหม
พิมพ์ โดย บลิส พับลิชชิ่ง จำกัด (มูลนิธิดำรงชัยธรรม)
(พิมพ์ครั้งที่ ๑ ก.ค. ๒๕๔๘)

(วรรณกรรมในดวงใจเยาวชนฝรั่งเศส)


เรื่องย่อ ๆ (จากปกหลัง)


เรื่องเหงาๆ แต่ไม่เศร้าของเด็กชายนิโกที่อยากได้พ่อสักคน
นิโกคิดสารพัดวิธี ทั้งจะไปแอฟริกาขอรับผู้ชายสักคนมาเป็นพ่อบุญธรรม
ทั้งลองเดินหาเอาตามท้องถนน
แต่จู่ๆ แม่ก็พาแฟนหนุ่มของแม่เข้ามาในครอบครัว

เรื่องราวที่น่าจะลงตัวกลับชุลมุนกันไปใหญ่
คราวนี้นิโกคิดแผนเด็ด เขาขอให้ซานตาคลอสพาพ่อมาส่ง
ว่าแต่ของขวัญชิ้นนี้จะถูกใจนิโกมั้ยนะ…






เรื่องเล่าผ่านบันทึกของอเล็กซ์ เด็กชายวียสิบขวบ พี่ชายของนิโก
เขาเล่าถึงน้องชายที่อายุน้อยกว่าเขาถึงห้าปีได้อย่างน่ารักทีเดียว...

เช่น...
’... นิโกน้องชายผมออกจะบ๊องๆ เพี้ยน ๆ...อาจจะเป็นเพราะเขาเพิ่งอายุห้าขวบ ยังไม่ค่อยเข้าใจชีวิต...’
…
ส่วนตัวเองนั้น...

‘ ...ในครอบครัวก็มีผมนี่แหละที่ฉลาดเฉลียวหลักแหลมที่สุด...’
(หือม์...พ่อคุณ ไม่ค่อยจะหลงตัวเองเลยนะ)

วันหนึ่ง นิโกพูดโพล่งขึ้นมา...

"หน้าร้อนนี้พวกเราต้องไปพักผ่อนที่แอฟริกา"

แม่กับผมไม่มีปฏิกิริยาอย่างใด ได้แต่คิดว่า ‘เอาอีกแล้ว นิโกเพี้ยนอีกแล้ว…'

...เสียงของแม่อ่อนหวานเหมือนเสียงน้ำในลำธารที่ไหลผ่านขุนเขา

"ไปแอฟริกาหรือจ๊ะ ไปทำไมล่ะลูก"

นิโกไม่ตอบทันที แต่ทำหน้าผากย่นขึ้นไปอีก ก่อนจะตอบว่า…

"ก็..เอ้อ...ไปหาพ่อบุญธรรมสักคน...คนอื่น ๆ เขาก็มีพ่อกันทั้งนั้น แล้วทำไมเราไม่มีล่ะ...
คนที่อยากได้ลูกบุญธรรมเขาก็ไปหากันที่แอฟริกา อย่างเมอซิเยอร์กับมาดามเลอบรองเช
เขาไปรับอเมลีเพื่อนผมมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม
เราไปหาพ่อบุญธรรมสักคนที่แอฟริกาเถอะครับแม่"


….....

น่ารักค่ะ อ่านแล้วมันอึ้ง ๆ

แต่วิธีเล่าเรื่อง สำนวนภาษาที่ใช้มันเรียบง่าย ชวนอ่าน...
ด้วยให้เด็กชายวัยสิบขวบเป็นผู้ดำเนินเรื่อง...อ่าน ๆ ไปแอบอมยิ้มกับความช่างคิดช่างเปรียบเทียบเปรียบเปรยของเด็กวัยนี้...

เขารู้สึกว่าน้องชายเขาหมกมุ่นกับการหาพ่อ...
ในขณะที่ตัวเองก็ต้องการพ่อไม่น้อยกว่าน้อง แต่เขาเป็น"ผู้ใหญ่"แล้ว
ต้องมีเหตุผลและเก็บงำความรู้สึก
อเล็กซ์เลือกที่จะหันเหความสนใจไปหาสิ่งอื่น...แต่เขาก็แอบหวังว่า...ความใฝ่ฝันของน้องจะเป็นจริง...

สุดท้ายก็ชวนมาลุ้นค่ะว่า...ในที่สุดนิโกจะสมหวังได้รับ”พ่อ”ที่เขาอยากได้นักหนาเป็นของขวัญวันคริสต์มาสหรือเปล่า...?


(ขอบคุณคุณโมกสีเงินที่เอื้อเฟื้อให้ยืมหนังสือเล่มนี้ค่ะ – เดี๋ยวอ่านอีกเล่มจบแล้วส่งคืนนะคะ)





***เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ







 

Create Date : 01 มีนาคม 2554    
Last Update : 2 มีนาคม 2554 9:08:14 น.
Counter : 2025 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.