Bloggang.com : weblog for you and your gang
'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น'
*
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า
:)
นิทานของพ่อ เรื่องที่ ๑ (เรื่อง เสือ ช้างใหญ่ กับกระต่ายเจ้าปัญญา)
ขอเกริ่นก่อน...
เว้นว่างห่างเหินจากการดูแลบล็อกกลุ่มนี้มาเนิ่นนานเต็มที ทั้ง ๆ ที่ยังเล่าเรื่องของพ่อยังไม่จบบริบูรณ์เลย...
ขออภัยเถอะค่ะ สารภาพว่ามันเกิดอาการติด ๆ ตัน ๆ ตื้อ ๆ บอกไม่ถูก...
(สงสัยไม่อยากให้เรื่องของพ่อจบลงไปตามชีวิตของพ่อนั่นแหละ...
และดูเหมือนว่า แท้จริงแล้ว...
เรื่องของพ่อช่างมีมากมายให้เล่าได้ไม่รู้จบทีเดียว...)
ขออนุญาตพักเรื่องของพ่อไว้อีกสักระยะหนึ่ง...
แต่ขอเปลี่ยนมาเป็นนำเรื่องเล่าของพ่อมาเล่าต่อก็แล้วกันนะคะ
ต้องขอคุยหน่อยว่าพ่อของแม่ไก่น่ะ เขาเป็นนักอ่าน นักคิด
นักเขียน นักเล่านิทานตัวยงคนหนึ่งเชียวค่ะ
ไม่ว่าพ่อเขาจะไปไหน ๆ สิ่งของที่จะต้องติดตัวเขาอยู่ตลอดก็คือ
หนังสือ(อย่างน้อยหนึ่งเล่ม)
สมุดบันทึกเล่มโต (เป็นสมุดทำมือที่พ่อทำเองด้วยนะ โดยพ่อเขาจะนำกระดาษฟุลสแก้ปบ้าง กระดาษโรเนียวบ้างซึ่งเป็นกระดาษใช้แล้วที่พ่อขอมาจากโรงเรียน หรือไม่ก็จากบรรดาชีทเรียนของลูก ๆ นี่แหละ นำมาเจาะรูแล้วร้อยด้วยเชือกป่านที่ฝั้นเองอีกต่างหาก...
เท่านี้พ่อก็จะได้สมุดบันทึกเล่มใหญ่ ๆ บันทึกได้อิสระดังใจพ่อเลยทีเดียว...
)
ดินสอกะปากกาอย่างละหนึ่งด้าม ...
(ถ้ากระดาษพื้นขาว ๆ พ่อจะใช้ดินสอ
แต่ถ้าเป็นกระดาษโรเนียวสีขุ่น ๆ พ่อต้องใช้ปากกา
ไม่งั้นจะเขียนไม่ชัด)
แล้วพ่อเขาก็จะบันทึกทุกอย่างที่ขวางหน้า...
หรือถึงแม้ไม่ได้ออกไปไหน เมื่ออยู่กับบ้านงานสุดโปรดของพ่อก็คือ...การได้นั่งลงที่โต๊ะตัวโปรดแล้วก็ขีดเขียนนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย...
เรื่องของพ่อที่แม่ไก่เล่าไปทั้งหมดเกือบยี่สิบตอนนั่น ส่วนใหญ่ก็ร้อยเรียงมาจากสมุดบันทึกของพ่อนี่แหละค่ะ
รวมทั้งบรรดา "กำบ่ะเก่า" ในบล็อกคนเมืองอู้กำเมืองนั่นก็อีก...
แอบคัดลอกของพ่อเขาไปทั้งนั้น...
แหะ ๆ คุยยาววววว....อีกแล้ว
กลุ่มบล็อกนี้ ช่วงนี้ขอ "คัดลอก" นิทานของพ่อมานำเสนอค่ะ บางเรื่องก็อาจจะซ้ำ ๆ กับแหล่งที่มาแหล่งอื่น เพราะบางทีพ่อเขาไปอ่านเจอในหนังสือเก่า ๆ แล้วนำมาจดบันทึกไว้
แต่บางเรื่องพ่อเขาก็เล่าเองนะคะ จำได้ว่าสมัยเด็ก ๆ บางเรื่องพ่อก็ด้นสด ๆ กลายเป็นนิทานที่เล่าได้ไม่รู้จบก็มี...บางเรื่องก็ปริวัตรมาจากนิทานธัมม์หรือนิทานชาดกที่จารไว้ในใบลานเป็นภาษากำเมือง
ซึ่งจะได้พยายามเก็บมารวบรวมไว้ตรงนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
(ปัญหาของอิฉันถ้าจะมีก็คือ...ขี้เกียจพิมพ์นั่นเอง...)
นิทานของพ่อ เรื่องที่ ๑
เรื่อง เสือ ช้างใหญ่ กับกระต่ายเจ้าปัญญา
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในป่าใหญ่แห่งหนึ่ง มีสัตว์น้อยใหญ่มากมายอาศัยอยู่ร่วมกัน ต่างก็หากินตามวิสัยไม่เบียดเบียนกัน
อยู่มาวันหนึ่ง เจ้าเสือหนุ่มตัวหนึ่งเกิดอารมณ์นึกสนุกขึ้นมา อยากจะลองดีกับช้างใหญ่ มันจึงเดินไปยังที่อยู่ของช้าง ในตอนเย็นวันนั้น...
ช้างใหญ่เพิ่งกลับมาจากการออกหากินประจำวันพอดี เมื่อกลับมายังที่อยู่แล้วพบกับเจ้าเสือหนุ่มก็ร้องทักทายอย่างอารมณ์ดีว่า...
ช้าง :
"โอ...เจ้าเสือ วันนี้คิดยังไงหรือ ถึงได้มาหาข้าถึงนี่ในเวลาย่ำค่ำอย่างนี้ ?"
เสือ :
" สวัสดีพ่อใหญ่ช้าง คือข้ามาคิด ๆ ว่าพวกเรานี่ก็อาศัยอยู่ในป่าเดียวกันนี้มานานแล้ว ไม่ค่อยได้โอภาปราศรัยกันสักเท่าไหร่ วันนี้ข้าคิดอะไรสนุก ๆ ขึ้นมาได้เลยอยากจะมาชวนท่านมาร่วมเล่นสนุกกับข้าน่ะ "
ช้าง :
"เล่นอะไรหรือ พ่อเสือหนุ่ม ?"
เสือ :
"คืองี้พ่อช้าง...ข้าน่ะเห็นว่าท่านน่ะเป็นช้างตัวใหญ่ ลำคอก็ใหญ่โตกว่าข้ามากมายหลายเท่านัก ข้าก็เลยอยากจะรู้ว่าเสียงร้องของท่านกับของข้าใครจะดังกว่ากันเท่านั้นเอง..."
ช้างได้ยินดังนั้นก็หัวเราะชอบใจ กล่าวว่า "เออ...พ่อเสือหนุ่มนี่ช่างคิดแฮะ ว่าแต่แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ...?"
เสือก็บอกว่า..."อ๋อ...ไม่ยากดอก พ่อช้าง เราก็ลองมาแข่งเสียงร้องกันดูทีหรือ ดูซิว่าเสียงร้องของใครจะดังไปไกลกว่ากัน ดีไหมท่าน ?"
ช้างใหญ่ก็หัวเราะ แล้วพูดว่า "เอาอย่างนั้นหรือ ข้าน่ะยังไงก็ได้ ว่าแต่ท่านเถอะ ท่านก็พูดเองว่าข้าน่ะตัวก็ใหญ่กว่าท่าน ลำคอก็ใหญ่โตกว่าท่าน แล้วไฉนถึงคิดอยากมาแข่งเสียงร้องกับข้าล่ะ ท่านไม่กลัวแพ้ข้าหรือ ?"
เจ้าเสือก็ตอบว่า "ก็แค่เล่นสนุก ๆ เท่านั้นแหละพ่อช้าง...
แต่ว่าถ้าจะให้สนุกยิ่งขึ้น ข้าว่าเราต้องมีเดิมพันกันเสียหน่อยไหม ?"
ช้างใหญ่ได้ฟังก็หัวเราะร่า..."ตกลง ๆ พ่อเสือ เอาอย่างนี้ ในฐานะที่ข้าตัวใหญ่กว่าท่านข้าขอเป็นคนกำหนดเดิมพันเองก็แล้วกัน...
ถ้าท่านชนะข้า ร้องได้เสียงดังไปไกลกว่าข้า ข้ายอมให้ท่านตัดขาข้าหนึ่งข้าง เอาไหม แต่ถ้าท่านแพ้ข้า ข้าจะขอแค่ปลายหางของท่านเท่านั้นเอง ตกลงไหม ?"
เจ้าเสือก็ตอบตกลงตามนั้น
จากนั้นสัตว์ใหญ่ทั้งสองก็นัดแนะกัน และบอกว่าแต่ละตัวจะต้องหาสักขีพยานของตัวเองมาอย่างละหนึ่งตัว จะเป็นสัตว์อะไรก็ได้ แล้วให้มาพบกันที่เดิมในอีกสามวันข้างหน้า...
แล้วทั้งสองก็แยกย้ายกันไป...
อีกสามวันต่อมา เสือก็เดินทางมาหาช้างใหญ่พร้อมด้วยสุนัขจิ้งจอกหนึ่งตัว เพื่อให้เป็นสักขีพยานฝ่ายตน ส่วนช้างใหญ่ก็ได้เชิญนกแขกเต้าที่อาศัยอยู่ใกล้ ๆ กันนั้นมาเป็นสักขีพยานให้
เมื่อทั้งหมดมาถึงจุดนัดพบก็ทำความเข้าใจและข้อตกลงในการแข่งขันทันที
ช้างใหญ่กับเจ้าเสือเห็นพ้องต้องกันว่า จะให้สักขีพยานของตนทั้งสองเดินทางไปยังทิศใต้ อันเป็นทิศที่อยู่ใต้ลมจากจุดที่คู่แข่งขันยืนอยู่ และใช้ต้นประดู่สองต้นที่ยืนต้นโดดเด่นตรงเนินเขาด้านโน้นเป็นจุดเป้าหมาย เมื่อสุนัขจิ้งจอกกับนกแขกเต้าไปถึงตรงนั้นก็ให้บินวนเวียนอยู่บนยอดต้นประดู่ให้ทางนี้รับรู้ จะได้เริ่มการแข่งขัน...
นกแขกเต้าบินไปถึงที่นั่นก่อนสุนัขจิ้งจอก ก็ขึ้นไปบินวนสามรอบตามที่ได้รับคำสั่งมา ช้างใหญ่เห็นดังนั้นก็บอกเจ้าเสือว่า
"...เอาล่ะ ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ท้าประลอง เราขอให้ท่านเป็นฝ่ายเริ่มก่อนก็แล้วกัน..."
เสือตอบตกลง แล้วจึงเริ่มส่งเสียงร้องดัง "โฮกกกก...! โฮกกกก! ........." ถึงเจ็ดที เสียงนั้นดังเหมือนเสียงกลองทุ่ม สะท้อนก้องไปทั้งราวป่า จนเจ้านกแขกเต้าที่เกาะอยู่บนปลายไม้กับเจ้าสุนัขจิ้งจอกที่กำลังเดินทางไปยังไม่ถึงจุดหมายปลายทางได้ยินอย่างชัดเจนที่สุด
เมื่อเสือร้องจบก็กระหยิ่มยิ้มย่องในพลังเสียงของตนเอง บอกกับช้างใหญ่ว่า...
"เอ้า...ทีนี้ถึงตาท่านบ้างล่ะนะพ่อช้าง..."
ถึงตอนนั้นเจ้าหมาจิ้งจอกก็เดินทางไปถึงจุดนัดหมายกับเจ้านกแขกเต้าพอดี
ช้างใหญ่ก็ส่งเสียงร้องบ้าง เสียงของช้างนั้นดัง...
"แปร๊นนน!...แปร้นนน! ..." ซึ่งช้างก็ร้องเจ็ดทีเช่นกัน
เสียงนั้นดังเหมือนเสียงฉาบใหญ่ที่แม้จะดังมากหากก็ไม่ก้องกังวานไปไกลเท่ากับเสียงเจ้าเสือ
เมื่อทั้งสองร้องจบ ก็รออยู่สักพักนกแขกเต้าก็บินกลับมาก่อน...เจ้าเสือกับช้างใหญ่ก็ถามขึ้นพร้อมกันว่า..."เป็นยังไงเจ้านก...เสียงของใครดังกว่ากันเมื่อกี้นี้ ?"
นกแขกเต้าก็ตอบตามตรงว่าเสียงของเจ้าเสือฟังชัดเจนกว่า ก้องกังวานไปไกลมาก...ช้างใหญ่ก็รู้สึกผิดหวังในขณะที่เจ้าเสือก็ทำท่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่
แต่ช้างใหญ่ก็บอกว่า...
"เจ้าอย่าเพ่อกระหยิ่มใจไป เดี๋ยวรอเจ้าหมาจิ้งจอกมาถึงก่อนค่อยตัดสินอีกที "
รอเพียงครู่ เจ้าสุนัขจิ้งจอกก็กลับมาถึงด้วยท่าทางที่หอบแฮ่ก ๆ ...
เสือกับช้างก็ถามเหมือนกันอีกว่า...."เป็นยังไงเจ้าหมาจิ้งจอก...เสียงของใครดังกว่ากันเมื่อกี้นี้ ?"
เจ้าสุนัขจิ้งจอกก็ตอบตามที่ตังเองได้ยินว่า "เสียงของเจ้าเสือดังก้องไปไกลกว่าอย่างชัดเจนจ้า...เสียงพ่อช้างก็ดังเหมือนกันแต่ไม่ก้องกังวานเท่า..."
เจ้าเสือได้ฟังดังนั้นก็หัวร่อร่าอย่างชอบใจ แล้วจึงบอกกับช้างใหญ่ว่า "เป็นอันว่าข้าชนะท่านขาดลอยแล้วนะพ่อช้าง...แต่เอาเถอะ ข้าไม่รีบร้อนทวงเดิมพันจากท่านหรอก ข้าจะให้เวลาท่านเตรียมตัวเตรียมใจสักสามวันเป็นไร แล้วข้าถึงจะมาขอตัดขาท่านหนึ่งขาตามที่เราได้ตกลงกันไว้..."
ช้างใหญ่ก็หน้าเสีย แต่ก็ต้องยอมรับตามคำสัจจ์ที่ได้พูดไว้ บอกกับเจ้าเสือว่า...
" ถ้าอย่างนั้น อีกสามวันท่านก็มาพบข้าที่นี่ตามเดิมก็แล้วกัน ข้าจะรอท่านอยู่ที่นี่แหละ ไม่หนีไปไหน "
จากนั้นสัตว์ทั้งหมดก็แยกย้ายกันจากไป
ฝ่ายช้างใหญ่เมื่อกลับมายังที่อยู่ของตนก็มีท่าทีที่เงียบเหงา ซึมเซา นึกถึงว่าตนเองจะต้องสูญเสียขาไปหนึ่งขาก็รู้สึกไม่สบายใจ...
ยังมีกระต่ายน้อยตัวหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในป่าแถบเดียวกันนั้น มันเคยมาเยี่ยมช้างใหญ่อยู่เป็นประจำเพราะมันรู้สึกรักและเคารพพ่อช้างใหญ่มาก ในเย็นวันนั้นเจ้ากระต่ายป่าตัวนั้นก็มาหาพ่อช้างใหญ่เหมือนเช่นเคย เมื่อเห็นท่าทีที่หงอยเหงาของพ่อช้าง เจ้ากระต่ายจึงถามไถ่ถึงสาเหตุ...
ช้างใหญ่จึงเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กระต่ายฟัง
กระต่ายนิ่งฟังอย่างตั้งใจ พลางคิดตามไปด้วยอย่างรวดเร็ว เมื่อช้างใหญ่เล่าจบ กระต่ายป่าก็บอกกับช้างว่า
"พ่อช้างใหญ่อย่าได้กังวลไใจไปเลย เรายังมีเวลาอีกตั้งสามวัน ประเดี๋ยวข้าจะหาทางช่วยพ่อใหญ่เอง"
ช้างใหญ่ได้ยินดังนั้นก็ถามว่า..."เจ้าจะทำอย่างไร จะให้ข้าหนีไปน่ะข้าไม่ทำหรอกนะ ให้ข้าตายเสียยังจะดีกว่าที่ข้าจะต้องเสียคำสัจจ์"
กระต่ายน้อยก็บอกว่า "รับรองว่าข้าไม่ให้เสียท่านพ่อช้างใหญ่หรอก เราเพียงแต่ออกอุบายไม่ให้ท่านต้องเสียขาเท่านั้นเอง...ขอเวลาข้าไปปรึกษากับเจ้าลิงเพื่อนข้าก่อน แล้วขาจะกลับมาบอกแผนการของข้าให้ท่านฟัง"
ว่าแล้วเจ้ากระต่ายก็ขอตัวจากไป
อีกสามวันต่อมา เป็นวันที่ชี้ชะตาขาของช้างใหญ่...
เจ้ากระต่ายก็เดินทางมาหาช้างใหญ่แต่เช้า บอกช้างใหญ่ว่า
"ขอให้ท่านทำตามที่ข้าบอกก็แล้วกัน...แล้วข้ารับรองว่าท่านต้องปลอดภัย"
ในเวลาอีกไม่นาน เจ้าเสือก็เดินทางมาหาช้างใหญ่ แต่บนหลังเจ้าเสือนั้นมีเจ้าลิงตัวหนึ่งเกาะติดมาด้วย...เห็นอยู่ไกล ๆ ลิบ ๆ โน่น
เจ้ากระต่ายจึงรีบกระซิบให้ช้างใหญ่หมอบลงแล้วตัวมันก็กระโดดขึ้นไปเกาะอยู่ตรงโคนใบหูของช้าง...
แล้วให้ช้างยืนขึ้น ขวางทางของเจ้าเสือกับลิงไว้
เมื่อมาใกล้ เจ้าลิงก็ทำทีเป็นร้องตะโกนอย่างตกใจว่า...
"เฮ้...อะไรกันนั่นท่านเสือ ท่านเห็นไหม เจ้ากระต่ายมันกำลังแทะหูช้าง เจ้าข้าเอ๊ย...สัตว์เล็กกินสัตว์ใหญ่ เจ้าข้าเอ๊ย...!"
เมื่อเสือมองตามไปก็เห็นภาพดังที่เจ้าลิงร้อง จึงยืนลังเลอยู่
ฝ่ายเจ้ากระต่ายก็ลุกขึ้นยืนบนคอช้างแล้วร้องตะโกนใส่เจ้าลิงว่า
"อ้าวเฮ้ย ! เจ้าลิง เอ็งเป็นหนี้เสือข้าถึงเจ็ดตัว ทำไมเอามาแค่ตัวเดียว อีกหกตัวที่เหลือเมื่อไหร่เอ็งจะเอามาให้ข้าได้ล่ะ เสือตัวเดียวข้ากินไม่อิ่มหรอกนะโว๊ย..."
เจ้าเสือเมื่อได้ยินดังนั้นก็ตกใจ คิดว่าตนถูกเจ้าลิงหลอกมาให้กระต่ายกินเป็นการใช้หนี้ จึงหันหลังกลับสะบัดเจ้าลิงจนหลุดกระเด็นตกจากหลัง แล้วกระโจนหนีเข้าป่าไปอย่างไม่คิดชีวิต...
นิทานเรื่องนี้ก็จบลงอย่าง...แฮปปี้เอนดิ้ง ด้วยประการฉะนี้
คติเตือนใจจากนิทานน่าจะได้แก่...
คนหรือสัตว์ที่โง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนหรือสัตว์ที่ฉลาดกว่า
Create Date : 26 มิถุนายน 2551
Last Update : 8 มิถุนายน 2552 12:31:32 น.
12 comments
Counter : 1323 Pageviews.
Share
Tweet
อิอิอิ
ตะกี้นั่งอ่านนิทานเรื่องนี้
ให้ข้าวปั้นฟังครับ
อ่านจบหลานสาวบอก
"เอาอีกค่าาาาา" 55555
ขอบุคณสำหรับนิทานดีดีเรื่องนี้นะครับ
โดย: ก.ก๋า (
กะว่าก๋า
) วันที่: 27 มิถุนายน 2551 เวลา:11:03:41 น.
มาอ่านนิทานค่ะ
ชอบ ชอบ
โดย:
เมณี
วันที่: 27 มิถุนายน 2551 เวลา:14:37:14 น.
ได้ข้อคิดดีค่ะ
แต่สงสัยว่า เจ้าลิงไปอยู่บนหลังเสือได้ไงหนอ ใช้กลวิธีอะไรอ้ะ น่าสนใจๆ
อ่านแล้วรู้สึกอิจฉา ที่จขบ.มีพ่ออย่างนี้อะค่ะ
โดย:
สาวไกด์ใจซื่อ
วันที่: 27 มิถุนายน 2551 เวลา:16:45:59 น.
สวัสดีค่ะแม่ไก่ คิดถึงจังค่ะ
นิทานเรื่องนี้สนุกจังเลยค่ะ
เปิ้ลขอเก็บไว้เอาไปเล่า
ให้น้องฟังบ้างนะคะ
จะว่าไปขนาดเปิ้ลโตจน
ป่านนี้แล้วยังชอบอ่านชอบฟังนิทานอยู่เลยค่ะ ^^
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
มีความสุขทุกวันจ้า จุ๊บๆ
โดย:
ดอกคูณริมฝั่งโขง
วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:14:16:57 น.
ขอบคุณครับ
ขอบคุรจ๊าดนั๊กเลยครับ
บ่าอยากบอกว่าต๋อนนี้
หมิงหมิงก่ยึดบล้อกของป้อมันเป๋นตี้เรียบร้อยแล้วครับ 555555
โดย: ก๋า เก็กเสียง (
กะว่าก๋า
) วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:16:10:26 น.
อิอิ แม่ไก่ขา...
ช่วงนี้น่าจะเป็นงั้นแหละค่ะ
เพราะตอนนี้รู้สึกว่าอะไรๆ
มันก็ดูสวยงาม และช้าลงไปหมดเลย ^^
ถ้าแม่ไก่หายเซ็งแล้วก็มาแจมกันนะคะ
เน็ตอืดนี่เป็นอะไรที่ทรมานใจเนอะ
โดย:
ดอกคูณริมฝั่งโขง
วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:16:28:16 น.
นิทานน่ารัก และได้ข้อคิดดีเหลือเกิน เดี๋ยวผมเก็บไว้เล่าให้หลานสาวตัวเล็กๆ ของผมฟังบ้างดีกว่าครับ
อ่านจบแล้วรู้สึกได้จริงๆ ครับว่าคุณพ่อของคุณแม่ไก่
เป็นนักคิด นักอ่าน และนักวิชาการเก็บเรื่องราวดีๆ ไว้จริงๆ ครับ
ขอชื่นชมจากใจครับผม
โดย: ธรรม (
ห่วงใย
) วันที่: 29 มิถุนายน 2551 เวลา:22:03:48 น.
คุณพ่อ พี่แม่ไก่น่ารักจังค่ะ
ช่างเล่าเรื่องเหมือนพ่ออ้อนเลยนะคะ
ได้ข่าวว่า ช่วงนี้ต้องดูแลคุณแม่ ยังไงอย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะเจ้า...
น้องสาวเป๋นห่วงหนาเจ้า..
โดย:
BeCoffee
วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:1:00:25 น.
ยังไม่ได้อ่านเลย..ไม่ว่ากันนะคะ
แวะมาทักทายพี่แม่ไก่ค่ะ...หวะงว่าคงสบายดี
เห้นอ่านมาจากบล็อกคุณอ้อน
ว่าต้องดูแลแม่...เอาใจช่วยด้วยค่ะ
ดูแลสุขภาพนะคะ..ไม่ค่อยได้เข้าบล้อกบ่อยช่วงนี้
แต่ยังนึกถึงกันเหมือนเดิมค่ะ
โดย:
nikanda
วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:6:14:56 น.
สวัสดีค่ะแม่ไก่
คุณแม่อาการเป็นยังไงบ้างค่ะ
ขอให้คุณแม่ดีขึ้นไวๆนะคะ
มีความสุขทุกวันจ้า จุ๊บๆ
โดย:
ดอกคูณริมฝั่งโขง
วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:10:09:01 น.
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้น ที่จะอยู่ในโลกใบนี้ได้
จริงๆด้วยครับ
ตอนนี้ก็แวะมาแจ้งข่าวด้วยว่า
นกปิ๊ดจะลิวคงตายไปหมดแล้วครับ
เพราะเช้านี้โผล่ไปดู ไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตบนต้นไม้เลยครับ
มีแต่รังเปล่าๆ
ทุกสิ่งในโลกนี้มีเกิดและดับครับ
โดย:
Dr.Manta
วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:10:58:14 น.
สวัสดีเจ้า เพื่อนพ้องน้องนุ่ง...
ยิ้นดีเจ้าตี้เข้ามาอ่านนิทาน...ขอบคุณสำหรับความห่วงใยในสุขภาพของแม่นะคะ ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วค่ะ แม่เขาเป็นหลอดลมอักเสบค่ะ เวลามีไข้ทีอาการจะน่าตกใจไม่น้อย...เพราะเขาจะหนาวสั่น ทำยังไงก็ไม่หายอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง...
แต่ตอนนี้เกือบหายเป็นปกติแล้ว ไม่มีไข้ เพียงแต่ต้องดูแลให้กินยาสม่ำเสมอน่ะค่ะ
ขอบคุณจริง ๆ อีกครั้งค่ะ
โดย:
แม่ไก่
วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:14:03:58 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [
?
]
**หลังไมค์เจ้า**
Cute Clock Click!
เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย
รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล
Latest Blogs
~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~
~เพชรรากษส/อลินา ~
~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~
~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~
~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~
~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~
~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~
~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~
~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~
สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒
Group Blog
ชวนศึกษา(ธรรมะ)
ชวนปฏิบัติ(ธรรม)
เปิดบ้านแม่ไก่-ทักทายกันหน่อย
หนังสือเก่า...อยากเล่าต่อ
นิย๊าย ~ นิยาย
นิย๊าย-นิยาย(๒)
นิยายฝาหรั่ง & หนังสือแปล
นิยายสายจีน
วรรณกรรมเยาวชน
สาระ(ค)ดี-ดี (Non-fiction)
อ่านตามเกม
ชวนดู(K)ซีรี่ยส์
ฅนเมือง อู้กำเมือง
เรื่องเล่าจากหลังดอย
ปกิณกะ ซะป๊ะ ~ ซะเป้ส
บทกวีที่ผูกพัน
เดินทางไกลกับ"ไซอิ๋ว"
บ่นบ้า' ตามอารมณ์ '
สารบัญหนังสือในบล็อก
All Blogs
~ หรือ'พี่'เขาจะมาบอกข่าว...จริงๆ ?(ต่อ)(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน!) ~
~ หรือ'พี่'เขาจะมาบอกข่าว...?(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน!) ~
~ สาวน้อยร้อยชื่อ ... เธอคือแรงใจ ~
~ ความสุขง่าย ๆ ที่ปลายมือแม่...~
~ เรื่องเล่าจากหลังดอย ...เรื่อง "ผีลักซ่อน" ~
บทสวดมนต์พิเศษสองบท...ที่ใช้เตือนใจตนตลอดมา ^^
~ ๓ มีนาคม...วันที่คิดถึงพ่อ
นิทานของพ่อ เรื่องที่ ๓ เรื่อง...ตำนานแห่งนกฮูก
อุ่นไอหนาว
นิทานของพ่อ เรื่องที่ ๒ เรื่อง...สุกรกับสุนัข
นิทานของพ่อ เรื่องที่ ๑ (เรื่อง เสือ ช้างใหญ่ กับกระต่ายเจ้าปัญญา)
เรื่องของ"พ่อ" (๑๘.๒)
เรื่องของ"พ่อ" (๑๘.๑)
เรื่องของ"พ่อ" (๑๗.๒)
เรื่องของ"พ่อ" (๑๗.๑)
เรื่องของ "พ่อ" (๑๖)
เรื่องของ"พ่อ" (๑๕)
เรื่องของ"พ่อ" (๑๔)
เรื่องของ"พ่อ" (๑๓)
เรื่องของ"พ่อ" (๑๒)
เรื่องของ"พ่อ" (๑๑)
แด่พ่อ...ด้วยดวงใจ
เรื่องของ"พ่อ" (๑๐)
เรื่องของ"พ่อ" (๙)
เรื่องของ"พ่อ" (๘)
เรื่องของ "พ่อ" (๗)
เรื่องของ"พ่อ" (๖.๒)
เรื่องของ"พ่อ" (๖.๑)
เรื่องของ"พ่อ" (๕)
เรื่องของ"พ่อ" (๔)
เรื่องของ"พ่อ" (๓)
เรื่องของ"พ่อ" (๒)
เรื่องของ"พ่อ" (๑)
~บ้านของฉัน~
Friends' blogs
เมณี
บังอร-บังเอิญ
โมกสีเงิน
ป้ามด
แม่เฮือน
ปลิวตามลม
นวลกนก
January Friend
ดอกเสี้ยวขาว
อั๊งอังอา
กวินทรากร
Zhivago
BoOKend
ทิวาจรดราตรี
นัทธ์
nikanda
โสดในซอย
นายแจม
narumol_tama
Chulapinan
แพนด้ามหาภัย
beer87
yjam
วินนี่ย์หมีพูห์
เจ๋วะรัฐถะ
ammataya
ลูกปัดแก้ว
กะว่าก๋า
นิงัย
ร่มไม้เย็น
แก้วกังไส
พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง
ศรีสุรางค์
แพรจารุ
last_tibetstone
malarn cha
หอมกร
JewNid
กิ่งไม้ไทย
หวานเย็นผสมโซดา
komyooth
PTNCenter
rngja
dream-devil
เหมือนพระจันทร์
kangsadal
PhueJa
ปลายทางของสายรุ้ง
ปลาทองแก้มยุ้ย
Pribtaa
วิรตี
Friday Story
อุ้มสม
~:พุดน้ำบุศย์:~
สามปอยหลวง
ดอยสะเก็ด
lovereason
คนสวยที่ไม่เคยสวย
PZOBRIAN
ออโอ
เรียวรุ้ง
Webmaster - BlogGang
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
olddreamz
เมืองแจ๋ม
เปิดโลกลำปาง
ฅนเมือง
โลกล้านนา
ธรรมะดอทคอม
Yahoo !
Google
คนเมืองฟังกำเมือง
คำไท - คำถิ่น
คลังภาพ
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ตะกี้นั่งอ่านนิทานเรื่องนี้
ให้ข้าวปั้นฟังครับ
อ่านจบหลานสาวบอก
"เอาอีกค่าาาาา" 55555
ขอบุคณสำหรับนิทานดีดีเรื่องนี้นะครับ