|
ยิ่งหลงยิ่งกลัว บทความโดย ศ.นพ.ธีระ ทองสง
ผู้ติดใจในความเพริศแพรวของแสงไฟแห่งยุคสมัย ย่อมไม่เห็นคุณค่าของชีวิตสามัญ ผู้ฝังใจในความสวยความสาวย่อมหวาดผวาต่อข้อเท็จจริงของชีวิต ที่ต้องเดินทางไปสู่ภาวะเก่าแก่ เน่าเปื่อย ผุพัง แต่ละเส้นผมที่ขาวหงอกจะงอกขึ้นมาบาดใจผู้ลุ่มหลง ทั้งถิ่นฐาน สมบัติ อำนาจ วาสนา ที่ต่างพากันเสพย์แล้วกลัวการสูญเสีย
ยิ่งเข้าใจว่าเราคือตัวเอก ฮีโร่ที่ผู้ชมต้องตามล่าลายเซ็น ยิ่งไม่อยากให้ละครมีฉากสุดท้าย
ใครเลยจะรู้ว่าล้วนเป็นโขนมงกุฎที่สมมุติให้แสดงชั่วคราว ยิ่งลุ่มหลงยิ่งผูกพัน ยิ่งหวาดหวั่นต่อการพลัดพราก
นี่คือความจริงง่าย ๆ ที่สื่อทั้งหลายพากันปกปิด โหมกระพือให้ผู้คนคิดแต่ว่าชีวิตที่ต้องใฝ่ฝันถึงผิวพรรณกระชากวัย ใสปิ๊ง หน้าเด็ก เส้นผมสลวยและสีสันแปลกตา ต้องเอาเป็นเอาตายกับการสำอางรูปลักษณ์ของเปลือกชีวิต มุ่งสร้างอัครฐานแห่งการมั่งมี ครอบครอง จนกระแสผู้คนต่างถูกทำให้คลั่งไคล้ ใฝ่ฝันกับภาพลักษณ์สำเร็จรูปที่ถูกโปรแกรมผ่านสื่อ จนเกลียดกลัว และสิ้นความพอใจในสภาพที่ตนเป็น
ทั้งที่การยอมรับในสิ่งที่ตนเป็นและเปลี่ยนไป หรือพอใจในสิ่งที่เป็นที่มี คือความโชคดีและฉลาดล้ำโลก
แต่สื่อแวดล้อม ทีวี แมกกาซีน สื่อไซเบอร์ ล้วนต่างพากันโปรแกรมมนุษย์ด้วยกันด้วยความไม่รู้ ให้ฝังใจกับรูปลักษณ์อลังการ โอ่อ่า อ่อนกว่าวัย ไม่พอใจกับตัวเลขอายุที่นับวันมากขึ้น เกลียดกลัวความเสื่อมสลาย
ไม่ส่งเสริมให้มวลมนุษย์มีความสุขสงบกับการยอมรับข้อเท็จจริง สื่อวันนี้ยากยิ่งนักที่ทำให้คนฉลาดต่อชีวิต ยิ่งเสพย์ยิ่งขาดแคลน ยิ่งหิวโหย ยิ่งบกพร่อง ยิ่งไม่พอใจกับสภาพที่ตนเป็น
ยิ่งทุกข์กับสิ่งที่ตนคิดว่าขาด แทนที่จะฉลาดสุขใจในสิ่งที่ตนมี รับรู้การเปลี่ยนแปลงอย่างไม่สะเทือนใจ ไยเราต้องรอให้เกษียณหรือ จึงจะเข้าใจว่าปัญหาที่แท้จริง คือสิ่งทั้งหลายกำลังจากเราไป แต่หัวใจของเราไม่ยอมจากมัน ยิ่งผูกพันยึดมั่นก็ยิ่งหวาดกลัวกับการสูญเสียพลัดพราก
*คัดจากหนังสือ"ศาสตร์และศิลป์ของการสิ้นชีวิต"โดย ศ.นพ.ธีระ ทองสง
**กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาบุญกับผู้เขียนมาณ ที่นี้ค่ะ
|
|
เป็นหนังสือที่ให้แง่คิดที่ดีมากครับ