|
" เกิดเป๋นคน ควรดีร่ำปิ๊ด หื้อหันสิ่งอั้น เป๋นภัย กันค่ำมาแล้ว อย่าสอดแอ่วไก๋ จัดแจงต๋ามไฟ ไหว้สาพระเจ้า หลับอย่าลุกขวาย เนอนายลูกเต้า อย่าได้มัวเมา ต่ำจ๊า กันแสงอรุณ สายส่องขึ้นฟ้า หื้อเจ้าลูกหล้า ทำงาน "
ความหมายและคำแปล
"ค่าวก้อม" บทนี้เป็นคำสอนคนบ่ะเก่าล้านนา ที่สอนลูกผู้หญิงว่า... เกิดมาเป็นคนควรร่ำพิจารณาถึงสำนึกผิดชอบชั่วดี รู้การควร ไม่ควร รู้จักระมัดระวังตน สำเหนียกถึงสิ่งที่อาจจะเป็นภัยแก่ตน
ตกเย็นก็อย่ามัวเถลไถลเที่ยวไปไกลบ้าน ก่อนนอนควรไหว้พระสวดมนต์ให้เป็นกิจวัตร ถึงตอนเช้าก็ให้ตื่นแต่เช้า ตาม"กำบ่ะเก่า" ที่บอกว่า "ลุกเจ๊าได้กิ๋นผักยอดป๋าย ลุกขวายได้กิ๋นผักยอดเก๊า" ( ตื่นแต่เช้าได้กินผักยอดอ่อน ๆ แต่ถ้าตื่นสายก็จะได้กินแต่โคนผักหรือก้านผักที่แข็ง )
ลูกสาวของแต่ละบ้านจะต้องรู้จักนึ่งข้าวเป่าไฟ ทำกับข้าวกับปลาไว้ให้พ่อกับแม่ และโดยประเพณี ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเนิ่นนานนั้น หน้าที่เหล่านี้มักจะตกอยู่กับผู้ที่เป็น"ลูกสาวหล้า" นั่นคือลูกสาวคนสุดท้อง เพราะเชื่อว่าจะเป็นผู้สืบทอด "บ้านเก๊า" (คือจะเป็นคนรับหน้าที่ดูแลบ้านและพ่อแม่ยามแก่ชราต่อไป)
ขออู้เอิ้นสั้น ๆเจ้า... ปัจจุบันตัวแม่ไก่ต้องทำหน้าที่ดังกล่าวข้างต้น ทั้ง ๆ ที่บ่ใจ้ "ลูกสาวหล้า" แต่ก็เห็นว่าคำบอกคำสอนของ "คนบ่ะเก่า" นั้น มีเหตุมีผลมีนัยยะอันลึกซึ้งแฝงอยู่เสมอ สามารถนำไปใช้ได้กับผู้ที่น้อมรับคำสอนเหล่านั้นไปปฏิบัติทุกคน มิได้เจาะจงบอกกล่าวผู้ใดโดยจำเพาะ...
ข้อสำคัญ...เป็น "กำบ่ะเก่า" ที่บ่าเคยเก่าอย่างแท้จริง
ขอนำมาบันทึกไว้หน้านี้ เพราะกำบ่ะเก่า... หากไม่เก็บมาเล่า...เกรงว่าอาจจะถูกลืมเลือนไป...ในวันหนึ่ง
|
ดีจังเลยค่ะที่ช่วยกันอนุรักษ์คำสอน และคำเมืองเก่าๆ
ให้ลูกหลานรุ่นหลังได้เรียนรู้