|
"พี่น้องผิดกั๋น เหมือนพร้าฟันน้ำ อย่าก๋ำผูกมั่นตือเวร เปอะเปิกนั้น น้ำหากพาเป๋น เอาน้ำใสเย็น ซ่วยเปอะจึ่งเสี้ยง พี่น้องผิดกั๋น เหมือนเหล็กขี้เหมี้ยง ฝนแล้วหากทึงมี"
ศัพท์ :
ผิดกั๋น = ทะเลาะกัน โกรธกัน กำ , ตือ = ยึด , ถือ เปอะ = ขี้โคลน เปิก = เลอะเทอะ ซ่วย = ล้าง เสี้ยง = หมด ขี้เหมี้ยง = สนิม
คำแปล : พี่น้องทะเลาะกันก็เหมือนกับมีดพร้าที่ฟันลงสายน้ำ (ไม่มีวันขาดได้) อย่ายึดถือผูกเวรต่อกันเลย ขี้โคลนที่เลอะเทอะนั้นก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบ ก็ให้ใช้น้ำสะอาดนั่นแหละล้างจึงจะออกหมด พี่น้องทะเลาะกันก็เหมือนกับสนิมเหล็ก ถึงจะฝนแล้วเดี๋ยวก็ขึ้นสนิมใหม่
เป็นคติเตือนใจคนที่เป็นพี่น้องกันว่าให้รักใคร่ปรองดองกัน การทะเลาะเบาะแว้ง หรือกระทบกระทั่งกันย่อมมีบ้างเป็นธรรมชาติธรรมดา ด้วยความใกล้ชิด แต่ไม่ควรคิดเคียดแค้น จองเวรกัน เพราะอย่างไรเสียพี่น้องก็เหมือนกับสายน้ำที่ไม่มีวันตัดขาดจากกันได้
"พี่ฮู้สอง น้องฮู้นึ่ง พี่ฮู้พรอง น้องฮู้กล่าว"
คำแปล : พี่รู้สอง น้องรู้หนึ่ง พี่รู้คิดตริตรอง น้องรู้วิธีกล่าววาจา
เป็นคติเตือนใจคนที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมว่า เมื่อมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นก็ให้หันหน้าเข้าปรึกษาหารือกัน เพราะบางสิ่งบางอย่างอาจจะหนักหนาเกินที่คนคนเดียวจะแก้ไขได้ หรืออาจจะไม่มีความรู้ครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ จึงอาจต้องอาศัยความรู้ความคิดจากคนอื่นบ้าง
"วัว ควาย จ๊าง ม้า ต๋ายแล้วเหลือหนัง ดูก ขน เขายังเอาใจ๊ก๋ารได้ จ๋าตี้สุด แม้ปุ๋มและไส้ คนยังกิ๋นลำอิ่มต๊อง มนุษย์เฮาตาย สหายพี่น้อง ไผบ่อ่วงข้อง อาลัย แม้แต่ดูกพัวะ ยังเอาขว้างไกล๋ จักกลัวเป็นภัย ผีหลอกหลอนได้ ความชั่วรีบหนี ความดีรีบใกล้ ตายแล้วจื้อหากตึงยัง"
คำแปล : วัวควายช้างม้า แม้ตายแล้วยังคงเหลือหนัง กระดูก ขน และเขาไว้ให้คนนำไปใช้งานได้ พูดถึงที่สุด แม้บรรดาเครื่องใน(สัตว์)ก็ยังให้คนนำมาประกอบอาหารกินอร่อยและอิ่มท้อง
แต่มนุษย์เราเมื่อตายลง ไม่มีใครคิดพะวงถึงสิ่งเหล่านี้ แม้กระดูกและเถ้าถ่านก็ยังนำไปทิ้งให้ไกล ด้วยเกรงว่าจะมีเภทภัยหรือกลายเป็นผีมาหลอกหลอนได้
ดังนั้น ให้รีบหนีห่างจากความชั่ว และเร่งเข้าใกล้ความดี เพราะเมื่อตายไปแล้วจะได้คงยังเหลือชื่อไว้ให้คนข้างหลังจดจำ
เห็นภาษิตบทนี้แล้วนึกถึงสุภาษิตภาคกลางที่บอกว่า
พฤษภกาสร.................อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง............สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย..............มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตย์ทั่วแต่ชั่วดี...........ประดับไว้ในโลกา
(พระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส)
นับว่าคนโบราณช่างมีวิธีคิดที่ลุ่มลึกเหมือน ๆ กันไปหมด ไม่ว่าภาคไหน ๆ
|
ก็เลยนึกถึง"กำบ่าเก่า"อย่างข้างบนขึ้นมาได้ แหะ ๆ