ธรรมที่นำความฉิบหายมาสู่บุคคล
๑. นักบวชสละเวลาศึกษาสาระทางโลก แทนที่จะสนใจคำสอนของปราชญ์ที่ตนเองตัดสินใจแล้ว ย่อมฉิบหาย
๒. คิดปฏิรูปผู้อื่น ย่อมฉิบหาย
๓. คิดสั่งสอนธรรมผู้อื่นก่อนตน ย่อมฉิบหาย
๔. ผู้ประพฤติธรรมได้สัมผัสธรรมขั้นต้นเพียงเล็กน้อย ชื่นชมยินดีและหยุดอยู่ ไม่เร่งพัฒนาตนต่อไป ย่อมฉิบหาย
๕. มีชีวิตอยู่ด้วยความหวังและความกลัวอย่างโลกๆ ย่อมฉิบหาย
๖. วางแผนล่วงหน้าในอนาคตราวกับจะสร้างที่อยู่ถาวรในโลกนี้ แทนที่จะอยู่ไปวัน ๆ ราวกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต ย่อมฉิบหาย
๗. ผู้เกียจคร้าน ไม่ฉกฉวยโอกาสขณะความเจริญก้าวหน้าทางจิตปรากฏอยู่เฉพาะหน้า ย่อมฉิบหาย
ผู้ใดประพฤติธรรมทั้ง ๗ ข้อนี้ ย่อมประสบกับความฉิบหาย มีชีวิตอยู่เหมือนเดือนแรมเสี้ยวเล็กลง...เล็กลง และก็มืดในที่สุด
หมายเหตุ :
* คัดจากหนังสือทำวัตรเช้า-เย็น(แปล)พิมพ์เผยแพร่โดยวัดสนามใน จ.นนทบุรี **เจตนาเพียงเพื่อจดจารจารึกเตือนสติตัวเองเท่านั้น ***ภาพประกอบเป็นภาพเขียนโดยท่านอาจารย์เขมานันทะ เป็นความชอบส่วนตัวค่ะ ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบล็อกแต่อย่างใด
|
แสงจันทร์ที่ทอดลงมาบนผิวน้ำ
กับปลากระโดด ดูแล้วเยือกเย็นดี