|
"เผื่อฮู้ก่ะปอวาย เผื่ออายก่ะปอเถ้า เผื่อฮู้กำพระเจ้า ก่ะปอเข้าไปอยู่ในหล้อง "
ศัพท์ : วาย = สาย, เลิกรา (เช่นตลาดวาย เป็นต้น) เถ้า = เฒ่า , แก่ หล้อง = โลง คำแปล : กว่าจะรู้ก็สาย กว่าจะอายก็แก่ กว่าจะรู้ธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าก็เมื่อเข้าโลง ขยายความ : เป็นคำกล่าวในเชิงเตือนสติว่าให้รีบเร่งศึกษาหาความรู้ และฝึกฝนปฏิบัติธรรมเสียแต่เมื่ออายุยังน้อย อย่าปล่อยให้วันเวลาล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ หากรอจนแก่ชราลงทุกอย่างก็อาจจะสายเกินการ
"ก้อนหินขว้างซัด ถูกตี้หินขัง จ้างหุมขะนัง สะต๊อนใส่หน้า"
ศัพท์ : ตี้หินขัง = หน้าผาหิน จ้าง = ช่าง,มักจะ หุมขะนัง = มีแนวโน้มที่จะเป็นเช่นนั้น สะต๊อน = สะท้อน
คำแปล : ถ้าขว้างก้อนหินไปถูกบริเวณหน้าผาหรือกำแพงหินนั้น ก้อนหินนั้นอาจจะสะท้อนกลับมาถูกหน้าผู้ขว้างได้
ขยายความ :เป็นคำกล่าวเตือนใจว่า หากจะกระทำการใด ๆ ก็ตามควรคิดให้ดีก่อนที่จะลงมือทำ ให้ระมัดระวังถึงผลที่จะสะท้อนกลับเข้าหาตนเอง เช่น ถ้าทำร้ายผู้อื่น ผลร้ายจะกลับมาถึงตน พูดให้ร้ายบุคคลอื่นตัวเองก็จะเป็นแบบนั้น อาจจะเปรียบได้กับสำนวนไทยภาคกลางที่ว่า...ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว...หรืออีกสำนวนหนึ่งที่ว่า...ถ่มน้ำลายรดฟ้า...(สุดท้ายน้ำลายนั้นก็ลงมารดหน้าตัวเอง)
"ยามป้อแม่มี กิ๋นขว้างโบ๊ะขว้างบ๊ะ กันป้อแม่ต๋ายละ เป๋นมะห่อยนอยจา"
ศัพท์ : ป้อแม่ = พ่อแม่ ขว้างโบ๊ะขว้างบ๊ะ = ทิ้งๆ ขว้างๆ, มะห่อยนอยจา = มะระขม หรือมะระขี้นก (มักใช้เปรียบเทียบกับอะไรที่แตกหักแล้ว ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน)
คำแปล : ตอนที่พ่อแม่ยังมีชีวิต เรามักจะกินใช้อะไรทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แต่เมื่อพ่อแม่ตายจากไป สิ่งที่เหลืออยู่ก็กลายเป็นอีลุ่ยฉุยแฉกไป
ขยายความ : ในขณะที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่นั้น คนเป็นลูกมักจะใช้จ่ายเงินทอง สิ่งของอย่างสุรุ่ยสุร่าย โดยไม่คิดว่าเงินหรือทรัพย์สินที่มีอยู่นั้น พ่อแม่หามาด้วยความยากลำบาก และย่อมจะมีวันหมดไปได้ จนกระทั่งท่านทั้งสองตายจากไปนั่นแหละ ไม่มีใครให้พึ่งพาหรือสนใจดูแล ชีวิตก็จะประสบแต่ความทุกข์ยาก ทรัพย์สินเงินทองก็กระจัดกระจายสูญหายไปสิ้น สุภาษิตนี้สอนให้ลูกหลานรู้จักทำมาหากินมีความขยันขันแข็ง และมีความประหยัดไม่ฟุ้งเฟ้อ แม้ในยามที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อวันข้างหน้าจะได้สบาย
กันเฮาเป๋นดี มีเก้าป้าสิบป้า ไหลตวยมา บ่จ๊า กันจ๊ะต๋าลง พันธุ์พงษ์ปี้น้า บ่เหลียวหน้ามาใจ เปิ้งปี้เจ็บต๊อง เปิ้งน้องเจ็บใจ๋ กึ๊ดสังอันใด ใจ๋ตั๋นตีบเสี้ยง
ศัพท์ : ไหลตวยมา = หลั่งไหลมา บ่จ๊า = ในไม่ช้า จ๊ะต๋า = ชะตา มาใจ = มาดูแล, มาเยี่ยม เปิ้ง = พึ่งพา ต๊อง = ท้อง กึ๊ด = คิด สังอันใด = (อะหยัง) อะไร ตั๋นตีบเสี้ยง = ตีบตัน, ตื้อตันไปหมด
คำแปล : ยามเรามั่งมี มีป้าเก้าคนสิบคน หลั่งไหลมาหาไม่รอช้า ครั้นถึงคราวชะตาตกอับพี่ป้าน้าอาไม่มาสนใจ จะพึ่งพี่ก็ปวดท้อง จะพึ่งน้องก็เจ็บใจ คิดอะไรก็คิดไม่ออก
ขยายความ : "กำบ่ะเก่า" สำนวนนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็น "ค่าวก้อม" คือเป็นคำค่าวบทสั้น ๆ ที่ให้ข้อคิด เตือนจิตสะกิดใจ ทั้งยังบ่งบอกถึงวิถีชีวิตของผู้คนอันเป็นธรรมดาโลก นั่นคือ เมื่อยามที่เราเฟื่องฟู มั่งมีเงินทองทรัพย์สิน ดูเหมือนว่าญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงจะเข้ามาห้อมล้อมเต็มไปหมด แต่หากเมื่อใดถึงคราวชะตาตก ทรัพย์สินเงินทองหมดไป พี่น้องเพื่อนฝูงก็มักจะหายหน้าหายตาไปเช่นกัน... เป็นการ "จ่ม"(บ่น)ในเชิงน้อยอกน้อยใจในชะตาชีวิตของตนเองรวมทั้งเป็นการเตือนสติไม่ให้เราหลงใหลไปกับคำสรรเสริญเยินยอจากผู้อื่น หรือหวังพึ่งผู้อื่นมากไป...เพราะการหวังพึ่งผู้อื่นนั้นย่อมจะนำมาซึ่งความผิดหวังอยู่เรื่อยไป... ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนจึงเป็นสุภาษิตที่สอดคล้องกับ "กำบ่ะเก่า" สำนวนนี้เป็นที่สุด
มี "กำบ่าเก่า" อีกหนึ่งสำนวนที่ความหมายใกล้เคียงกับสำนวนข้างต้น คือ...
"ยามเป๋นดีมีเก้าป้าสิบป้า เสื้อปุดหลังขาดหน้า ป้าฅนเดียวก่หาย"
ศัพท์ :ปุด = ขาด
คำแปล : ยามที่เรามั่งมีศรีสุข ก็จะมีป้าถึงเก้าคนสิบคนมาดูแล แต่เมื่อใดเราตกอับถึงขนาดใส่เสื้อผ้าขาดปุปะทั้งหน้าหลัง...ป้าแม้แต่คนเดียวก็หายหน้า
**ทยอยเก็บเล็กผสมน้อย "กำบ่ะเก่า" ค่ะ อาจจะไม่ได้เรียงตามลำดับหัวข้อหมวดหมู่อะไรชัดเจนนัก แต่นึกอะไรได้ก็นำมาอัพ มาบอกต่อ...
หากปี้ ๆ น้อง ๆ คนใดจะใช้อ้างอิงกรุณาตรวจเช็คกับผู้รู้(จริง)อีกทีเน้อเจ้า
|
หมิงหมิงอาการดีขึ้นจ๊าดนั๊กแล้วครับ
กิ๋นได้เยอะขึ้นครับ
ซอบกำบ่าเก่ากำแรกตี้สุดครับ
อ่านแล้วนึกถึงเพลง
อาขยายล้านนาของครูจรัลเลยครับ