เรื่องราวความทรงจำไม่มีที่สิ้นสุด

Madmankrub
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ผมรักแฟนผมที่สุดครับ
Code =
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Madmankrub's blog to your web]
Links
 

 
จากปางอุ๋งสู่ปาย เสน่ห์ที่แฝงตัวในความเงียบงัน

.... ยังไม่เช้าเลย เสียงไก่ขัน เสียงนกร้องก็จ๊อกแจ๊กจอแจปลุกให้ผมตื่นขึ้นมาท่ามกลางอากาสหนาวเหน็บแล้ว แต่ยังโชคดีที่ทริปนี้มากับสุดเลิฟเลยได้หายหนาวไปได้เยอะ งัวเงียเอื้อมไปไปเปิดหน้าต่างที่หัวนอน ลมหนาวก็พรูกันเข้ามาจนปิดแทบไม่ทัน ฟ้ายังมืดอยู่เลย แต่เอาวะ ตื่นขึ้นมาแล้วนี่ ก็เลยไปนั่งก่อกองไฟไล่ความเย็นแถวๆลานสาวแตก รออรุณแรกของวันที่สาดส่องในเช้านี้ ขอบฟ้าทิศตะวันออกเริ่มฉาบแสงสีทองขึ้นมาแล้วครับ เพื่อนๆเริ่มทะยอยลุกกันออกมาจากที่นอน มานั่งผิงไฟกับผม ไม่นานนักฟ้าก็สว่าง เผยให้เห็นไอหมอกพริ้วตัวอยู่เหนือทุ่งข้าวและบนเทือกเขาในบริเวณใกล้ๆกัน ทุกคนจัดแจงล้างหน้าล้างตาแล้วชักชวนกันไปเดินชมวิวยามเช้าบริเวณอ่างเก็บน้ำ แต่ผมและสุดเลิฟพรอ้มเพื่อนอีก2-3คนขอตัวครับงานนี้ เช้าตรู่อย่างนี้ไม่ค่อยอยากจะลุกไปไหนเลย ขณะที่เพื่อนกลุ่มหนึ่งไปเดินเล่นที่อ่างเก็บน้ำ พวกเราที่เหลือก็เก็บข้าวของเข้ากระเป๋า และจัดการกับซากเศษที่เหลือจากสังสรรค์เมื่อคืนนี้ ไปกันไม่นานหรอกครับ ราวๆเกือบๆชั่วโมงก็เดินกลับมากันแล้ว เห้นบอกว่าประชาชนชาวเต๊นท์เช้านี้มีมากกว่าเมื่อวานเย็นเกือบเท่าตัว สงสัยต้องนอนหนาวกันแย่เลยนะครับ ขนาดพวกเรานอนในบ้านมิดชิดยังหนาวซะขนาดนี้ เราไปนั่งจิบกาแฟหอมฉุยที่หน้าบ้านกันเหมือนเคยครับ กาแฟที่นี่คั่วกันสดๆจริงๆ คั่วกันเห็นๆแล้วก็ต้อมกันเห็นๆเลยครับ เช้านี้เรามีข้าวต้มหมูสับ ขนมปังปิ้ง ชากาแฟ เป็นอาหารเช้าของพวกเรากัน ไม่นานนักหลังจากที่อาหารเช้าได้ถูกจัดการหมดแล้ว พวกเราก็เริ่มทะยอยกันขนกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นรถตู้ เตรียมมุ่งหน้ากลับจากปางอุ๋ง อำลาดินแดนในเทพนิยายที่ตรึงมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติไว้อย่างเหนียวแน่น ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะได้กลับมาที่นี่อีก และเมื่อกลับมาอีกครั้งเรายังตั้งคำถามไว้กับตัวเองว่า เมื่อถึงวันนั้นมนต์เสน่ห์ของปางอุ๋งจะยังคงมีอยู่เหมือนเดิมหรือไม่ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปีๆจะเป็นเครื่องมือที่เข่นฆ่าความงามของสาวน้อยที่บริสุทธิ์คนนี้ให้ด้อยค่าลงหรืออย่างไร เป็นสิ่งที่ผมและเพื่อนกังวลใจกันมากที่สุดครับ

..... รถตู้ค่อยๆเคลื่อนออกจากปางอุ๋งพร้อมกับความคิดคำนึงมากมายที่ผมเป็นห่วงที่นี่ จนเข้าสู่ถนนใหญ่แล้ว จากจุดนี้ เราจะเดินทางต่อไปสู่อำเภอเล็กๆอำเภอหนึ่งในแม่ฮ่องสอน ที่มีมนต์เสน่หือีกแบบต่างไปจากปางอุ๋งครับ ที่นี่ มีความงามที่ซ่อนเร้น หลายคนชอบที่นี่ หลายคนหลงใหลได้ปลื้มจนต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ หลายคนก็บอกว่าไม่เห็นจะมีอะไรเลย แต่สำหรับผมแล้ว ผมคือหนึ่งในหลายคนที่หลงรักในความงามแบบเงียบๆของที่นี่ครับ ที่นี่คืออำเภอปาย ที่อยู่ห่างออกไปจากแม่ฮ่องสอนราวๆ 150 กิโลเมตรครับ แต่การเดินทาง กลับกินเวลากว่าสามชั่วโมง เพราะพวกเราต้องลัดเลาะขึ้นเขาลงเขา วกวนไปตามโค้งมากมายกว่าพันโค้งเพื่อเข้าไปสัมผัสความงามของปายแห่งนี้กันครับ หลังจากที่พวกเราวกวนไต่ขึ้นสู่ยอดเขายอดแล้วยอดเล่า เราก็มาถึงยอดสุดท้ายที่สูงที่สุดและกั้นเมืองปายกับแม่ฮ่องสอนแยกเอาไว้สองฝั่งเขา ที่นี่คือดอยกิ่วลมครับ เราจอดพักรถกันที่นี่ ออกมายืดเส้นยืดเส้นกันก่อน แล้วก็ทานส้มตำดอยด้วย หลายคนลงความเห็นว่าอร่อยทีเดียว ก็ถ่ายรูปกันไปบ้าง ทานโน่นทานนี่เล็กๆน้อยๆไปบ้าง พอได้เวลาสมควรก็ขึ้นรถตู้กันแล้วเตรียมตัวออกเดินทางต่อไป จากจุดนี้เราจะดิ่งลงเขากันอย่างเดียวครับ ไม่ต้องขึ้นเขากันแล้ว ระยะทางราวๆ20กว่ากิโลเมตรจากนี้เป็นทางที่กำลังซ่อมแซมครับเสียหายหนักจากน้ำท่วมคราวที่แล้วนี่แหละครับ พวกเราใช้เวลากันไม่นาน ราวๆครึ่งชั่วโมงก็ตรงดิ่งเข้าสู่พื้นที่ราบของอำเภอปายครับ พวกเราแวะนมัสการวัดพระธาตุน้ำฮูกันก่อนครับ พระประธานในวัดนี้จะมีน้ำไหลออกมาทางเศียรครับ และทางวัดจะเปิดเศียรเพื่อนำน้ำนั้นมาผสมน้ำมนต์ไว้ให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่ศรัทธาครับ จากพระธาตุน้ำฮูออกมา เจ้าของรีสอร์ทก็เตรียมมารอรับพวกเราอยู่แล้วครับที่หน้าโรงพยาบาล ตอนแรกแกบอกว่าเป็นผู้ชาย ใส่เสื้อมิกกี้เม้าส์สีเหลือง สุดเลิฟของเราก็สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าใช่แน่ๆ แต่คราวนี้พลาดครับ เกย์ดาร์ทำงานผิดพลาด เค้าเป็นผู้ชายธรรมดาๆครับ น้องเค้าขับรถพาพวกเราวกเข้าหมู่บ้าน ออกไปทางทุ่งนาที่มีวิวสวยทีเดียวครับ มีภูเขาโอบล้อมลูกเบ้อเริ่ม วิวแบบพาโนรามากว้างใหญ่ไกลสุดลุกหูลูกตาทีเดียวครับ วิวเดียวกับสิบสองพันนา เบลล์วิล ที่ค่าที่พักหลักพันขึ้นทั้งนั้นครับ รถเราเลี้ยวเข้าสู่รีสอร์ทแล้วครับ ที่นี่ชื่อว่า Love pai Home หรือ ปายมาหาสู่ ครับ มีบ้านปลูกเรียงกันอยู่สี่หลัง เจ้าของออกมาทักทายต้อนรับแล้วพาดูห้องก่อน บอกว่าถ้าเราไม่ชอบก็จะหาที่ใหม่ให้ เพราะว่าบ้านเสร็จแต่ตัวบ้านครับ landscape ยังไม่เสร็จ คนสวนยังขุดดินปลุกต้นไม้ ขุดสระกันเต็มเลย แต่พวกเรากลับชอบครับดูเป็นส่วนตัวดี เพราะแถบนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย บ้านสี่หลังเราก็ยึดหมดกลุ่มเดียว มีแต่พวกเราจริงๆครับ ที่นี่เป็น Boutique house ที่ออกแบบได้ลงตัวครับ ออกแนว minimalize ที่ใช้ของน้อยชิ้นที่สุดแต่ก็ดูHip เหมาะกับพวกเราครับ มีบ้านสี่หลัง ดิน น้ำ ลม ไฟ ผมกับสุดเลิฟเลือกนอนบ้านดินครับ ใกล้คลับเฮาส์ที่สุด ทุกคนลงคะแนนว่าบ้านไฟของที่นี่ร้อนแรงมากๆเพราะสีแดงเถือกไปทั้งห้องนอนและห้องนอน เชื่อไม๊ครับว่าพวกเราเป็นแขกกลุ่มแรกของที่นี่ เจ้าของเค้าต้อนรับขับสู้น่าดูเลยครับ จนบางครั้งก็เกรงใจอยู่เหมือนกัน ตกลงแล้วทริปนี้เราเปิดวิงบ้านพักสองคืนติดๆกันเลยครับ จัดแจงเก็บข้าวของแล้วก็อาบน้ำอาบท่า แต่ละคนดูสวยงามฮิปสุดๆเหมาะกับคอนเซปตืบูติคเฮ้าส์ครับ ยกเว้นคนเดียวที่ดูยังไงก็ไม่เข้าพวกซะเลย จะเป็นใครเดาเอานะครับ แต่ไม่ใช่ผมแน่นอน

...ขณะที่เพื่อนๆแต่งสวยกันอยู่ผมก็รับอาสาเข้าตลาดไปหาซื้อพวกเบเกอรี่ ผลไม้มาให้รองท้องกันไปก่อนครับ ไปไม่นานหรอกครับ เข้าไปในตลาดแล้วสภาพความเสียหายยังหลงเหลืออยู่มากมายครับ บ้านหายไปเป็นหลังๆ สะพานขาด ตลาดหายไปทั้งตลาด มันน่าเศร้าจริงๆครับ กลับมาเพื่อนๆตั้งวงกันอีกแล้ว วงไพ่เหมือนเดิมครับ ลูกค้าก็หน้าเดิมทั้งนั้น ก็มีบางคนที่ยังคงนอนคุยกันอยู่ในบ้าน พอแดดร่มลมตกก็พากันไปขับรถหาน้ำตกเที่ยว เพราะเห็นเจ้าของบอกว่าแถวนี้มีน้ำตกครับ แต่ขับออกไปแล้วกลับหาไม่เจอ ชาวบ้านแถบนี้บอกว่าต้องขับรถไปอีกไกล แถมต้องใช้ 4WD ด้วย ก็เลยล้มเลิกโปรแกรมนำตกกลับมาตั้งวงกับเพื่อนๆกลุ่มเดิมต่อกันที่บ้านครับ แดดเริ่มร่มลงเรื่อยๆแล้วครับ อากาศเริ่มสบายขึ้น เย็นนี้เรากะว่าจะเข้าเมืองไปทานอาหารเย็นกันซักห้าโมงครึ่งไม่อยากให้เย็นมาก เพราะอะไรเรามีเหตุผลครับ เดี๋ยวจะเฉลยให้ทราบกันครับ อาหารเย็นวันนี้ ไปทานกันร้านเดิมกับปีที่แล้วเลย เป็นร้านที่อยู่บนสันเขาครับ มองลงมาเห็นวิวแม่น้ำปายสวยงาม แถมที่นั่งก็เป็นเบาะนั่งได้นอนได้สบายๆ เจ้าของร้านก็ยังเป็นพี่คนเดิมที่ปะทะคารมกับพวกเราได้อย่างสนุกปาก น่ารักดีครับ เรานั่งแล้วสั่งอาหารเย็นมาทานกันเป็นอาหารพื้นๆครับ ไม่มีเมนูแปลกๆอะไรเลย แล้วก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆรออาหาร นั่งชมวิวทิวทัศน์สวยงามรับลมเพลินๆกันไปจนมืดพอดีอาหารถึงได้เวลาออกมาเป้นชุดแรก นานครับนานเอาเรื่องทีเดียว แต่สำหรับคนที่หิวมากๆนี่ไม่แนะนำเด็ดขาดครับ แต่แลกกับวิวสวยๆก็โอเคครับ เพราะเหตุนี้พวกเราถึงยกขบวนกันมาตั้งแต่ห้าโมงครึ่งไงล่ะครับ นี่นี่ชื่อว่า ปาย ริเวอร์ฮิลล์ ครับ วันหลังกะจะมาพักที่นี่ดูบ้าง อาหารก็รสชาติโอเคครับ ไม่นานก็หมดเกลี้ยงด้วยความหิวที่ทวีขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีใครสั่งเพิ่มหรอกครับ เพราะต้องรอไปอีกนาน ที่นี่ช้าก็เพราะว่าทำกันอยู่แค่สองคนผัวเมียครับ ทั้งดูแลบ้าน ทั้งทำกับข้าว แต่พี่ๆน่ารักมากครับ เลยให้อภัยกันได้ ใครไม่อิ่มก็ไปเดินหาอะไรทานในเมืองต่อก็ได้มีตั้งเยอะแยะให้เลือกครับ ลาพี่เค้าแล้วเราก็ไปจอดรถในเมืองกัน แถบๆถนนคนเดิน ก็ลงมาเนดูของสินค้ามากมายที่เรียงรายกันมาขายสองข้างทางทั้งของกินของใช้ของที่ระลึกแหละครับ แต่ผมว่าปีนี้ของน้อยกว่าปีที่แล้วเยอะเลยอ่ะ นักท่องเที่ยวก็หายไปเยอะเหมือนกัน ใช้เวลาซักครู่ กินโน่นกินนี่จุบจิบๆแล้วก็นั่งรถกลับที่พักกันครับ เพื่อนบางคนก็หิ้วมะตะบะ บะหมี่ กลับมาทานที่พักกันต่อ กลับมาถึงก็ตั้งวงอีกละครับ ขาเดิมทั้งนั้น เล่นไพ่ไปก็นั่งดื่มกันไปด้วย อากาศวันนี้ไม่หนาวแล้วครับ แต่ก็เย็นขึ้นเรื่อยๆพร้อมๆกับเวลาที่เดินหน้าสู่ความดึกสงัดของอำเภอปาย วงไพ่เลิกไปแล้ว เพื่อนๆทะยอยกันไปนอนพักผ่อน เหลือเพียงผมกับเพื่อนอีกสองคนนั่งดริ๊งกันต่อ สุดเลิฟหลบไปนอนแล้ว คงจะเพลียจากการเดินทาง เหล้าพร่องไปเรื่อยๆพร้อมๆกับโซดาและน้ำแข็ง จนในที่สุดน้ำแข็งหมดก่อนครับ เอาไงล่ะทีนี้ ส่วนผมน่ะไม่มีปัญหาหรอก ตอกกรึ๊บได้ไม่มีปัญหา แต่อีกสองคนนี่สิ คุยกันไปคุยกันมา เหลืออีกครึ่งขวด เอาวะ เล่นยกตามให้หมดขวดแล้วกัน บรรยากาศดีๆอย่างนี้ นั่งคุยกันทุกเรื่อง เผาเพื่อนที่ไม่ได้มา เม้าท์เพื่อนที่หลับไปแล้ว นี่ละครับกิจวัตรของพวกเราทุกครั้งที่เดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกัน ยังสงสัยว่าเพื่อนที่กรุงเทพหลายคนคงต้องนอนสะดุ้งกันในคืนนี้แน่ๆละครับ เวลาปาเข้าไปตี3แล้ว เหล้าแก้วสุดท้ายไหลรินเข้าสู่ปากจนหมดเกลี้ยงขวด แต่ละคนก็ซวนเวกันแล้ว แต่ยังมีรายนึงที่อยากดื่มต่อจะไปปลุกคนรถให้ไปซื้อให้ได้ แต่ถ้าไปจริงๆนี่ก็ไม่ไหวนะครับ เราก็เลยตกลงแยกย้ายกันกลับเข้าสู่บ้านพักหลังใครหลังมัน ทั้งสามคน ก็สามหลังเลยครับ หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยครับคืนนี้ นอนสบายจริงๆ เมาๆแล้วได้นอนกอดสุดเลิฟทั้งคืนนี่สุดยอดครับ อบอุ่นมากๆ

....เช้าแล้วครับ สุดเลิฟตื่นมาแต่เช้า ผมก็ยังงัวเงียๆอยู่เลย เพื่อนๆทะยอยตื่นขึ้นมาแล้วแต่ผมนอนต่อไป จนราวๆแปดโมงครึ่งได้ก็มาเคาะประตูปลุกอีกครั้ง ได้เวลาเสิร์ฟอาหารเช้าครับ อาหารเช้าวันนี้จานใหญ่ยักษ์หรูหราจริงๆ เมนูวันนี้มี American Breakfast ที่มีมันฝรั่งอบหั่นชิ้นวางมาในจานใบใหญ่คู่กับไข่คนและไส้กรอกอีก2ชิ้น พร้อมกาแฟหอมกรุ่น ตบท้ายด้วยผลไม้อีกหนึ่งชุด เพื่อนบางคนก็ลองชิม Mexican Breakfast ที่เสริฟพริกหวานผัดมากับแฮมและไข่ วางบนแผ่นแป้งทอทิลย่าเต็มจาน สีสันน่ากินทีเดียว มีอยู่คนนึงสั่งแพนเค้กที่เสิร์ฟมาแล้วน่ากลัวจริงๆ แพนเค้ก2ชิ้นหนาเกือบ1เซน กว้างเต็มจาน แบบว่ากินกันอิ่มได้3คนอ่ะครับ ใหญ่จริงๆ น่ากลัวจัง เพื่อนอีกคนหยิบเอาข้าวเหนียวหมูหวานที่ซื้อมากเมื่อคืนฝากให้น้องเจ้าจองรีสอร์ทไปอุ่นให้หน่อยแล้วเสิร์ฟกลับมาเป็น Lao Breakfast ซึ่งเป็นจาดโปรดที่สุดที่ทุกคนอยากได้ทีเดียวครับ กลายเป็นงั้นไป อาหารเช้าถูกกำจัดไปจนเรียบเกลี้ยงในเวลาไม่นาน พวกเราก็แยกย้ายกันไปเก็บสัมภาระครับ เพราะเราต้องเดินทางกลับกรุงเทพกันแล้ว พูดถึงแล้วไม่อยากกลับเลย ทำไมทุกครั้งที่พวกเราเดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน เวลามันช่างผ่านไปรวดเร็วจริงๆครับ ทุกคนเก็บช้าวของใส่ท้ายรถกันเรียบร้อยแล้ว อำลาเจ้าของบ้านแล้วเดินทางกลับจากปาย มา หา สู่ มุ่งหน้าสู่เชียงใหม่เพื่อส่งสุดเลิฟของเรา หลายคนพูดว่าอีกสองสามเดือนที่น่คงจะสวย เมื่อดอกไม้บานเต็มสนามและบ้านทุกหลังเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนยังภูมิใจลึกๆว่า เรานี่แหละคือแขกกลุ่มแรกของที่นี่ และจะกลับมาอีกครั้งเมื่อทุกอย่างลงตัว กลับมาเยี่ยมเยือนฟูกนุ่มที่พวกเราได้นอนกันเป็นกลุ่มแรก กลับมานั่งคลับเฮ้าส์ที่ต้อนรับพวกเราเป็นกลุ่มแรก กลับมาดูในทุกจุดที่พวกเราได้เจิมกันอย่างครบถ้วนแล้วเป็นกลุ่มแรกครับ จากปายใช้เวลาราว 3 ชั่วโมงก็ถึงตัวเมืองเชียงใหม่ เราแวะส่งสุดเลิฟที่บ้านของเพื่อนในเชียงใหม่ที่ได้จอดรถทิ้งไว้ กอดอำลากัน เพื่อที่จะเจอกันอีกในสองสัปดาห์ต่อไป เรามีเวลาลากันไม่นานนักเพราะระยะทางจากเชียงใหม่สู่กรุงเทพคงกินเวลาอีกหลายชั่วโมง และพรุ่งนี้ยังเป็นวันทำงานของเพื่อนๆอีกหลายคน เราจากเชียงใหม่มุ่งตรงสู่กรุงเทพ โดยแวะซื้อของฝากที่ตลาดทุ่งเกวียนลำปาง ใช้เวลาไม่มากและดิ่งไปทานอาหารเย็นที่นครสวรรค์ก่อนตียาวสู่กรุงเทพ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวา เวลาเที่ยงคืนตรง วันนี้ผ่านไปพร้อมๆกับวันใหม่ที่ผ่านเข้ามา เป็นอีกครั้งที่การเดินทางท่องเที่ยวของพวกเราสิ้นสุดลง เพื่อรอการเดินทางครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ มิตรภาพต่อกันกระชับมั่นขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นมา แต่บรรยากาศในการเดินทางยังคงเหมือนเดิม เพราะทุกครั้งที่พวกเราได้เที่ยวด้วยกัน เรามีเพียงรอยยิ้มและความประทับใจเท่านั้นที่ได้กลับมาพร้อมกับพวกเราทุกคน เป็นเช่นนี้มาตลอดและตลอดไป.


Create Date : 08 ธันวาคม 2548
Last Update : 8 ธันวาคม 2548 16:18:00 น. 4 comments
Counter : 300 Pageviews.

 
แง๊!!! อยากดูรูปเยอะๆอ้ะคร้าบบบ

น่าอิจฉา


โดย: T_Ang วันที่: 12 ธันวาคม 2548 เวลา:1:38:59 น.  

 


ชินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้
เฮง เฮง นะคร้าบบบ..


โดย: T_Ang วันที่: 28 มกราคม 2549 เวลา:21:03:24 น.  

 
พี่อุ๋ยลืมบล็อกแล้วม้างงง


โดย: T_Ang วันที่: 1 มิถุนายน 2549 เวลา:17:40:23 น.  

 
อยากให้ลองมาพักที่นี่บ้างค่ะ
ปายกลางนารีสอร์ท
บ้านพักที่มีความสะดวกสบาย
แบบอิงแอบธรรมชาติ
ติดทางขึ้นน้ำตกแม่เย็น
น้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในเมืองปาย
อยากให้ลองแวะมาดูกันก่อนค่ะ



โดย: o0o MeAw o0o IP: 61.7.173.90 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:50:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.