...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
 
All blogs
 
สัพเพเหระของชีวิต






พักผ่อนเบา ๆ ด้วยการเขียนกลอนดีกว่า
ระยะนี้เซ็ง ๆ กับหลายอย่างในชีวิต จึงขอเสนอกลอนแบบกินลมชมธรรมชาติ ในชื่อว่า

"วิมานดอกบัว"
ที่มาของกลอนบทนี้ เกิดจากวันหนึ่งฉันเดินกวาดรอบ ๆ บริเวณบ้าน ซึ่งเทปูนเป็นขอบไว้รอบ สูงจากพื้นดินเดิมราว ๑ เมตร ด้านนี้มีอ่างปูนก่อไว้ปลูกบัวยาวราว ๑๐ เมตร ดอกบัวหลวงดอกแรกที่ฉันเพิ่งปลูก กำลังบานพอดี ฉันหยุดนั่งดู เห็นแมลงผึ้งตัวเล็ก ๆ (ผึ้งพรวด-ภาษาใต้) หรืออาจจะเรียกผึ้งแมลงวัน ไม่แน่ใจ เป็นผึ้งตัวเล็ก กำลังซุกไซ้ชอนไชอยู่บนดอกบังของฉัน ฉันนั่งดูมันอย่างสนใจ ผึ้งตัวที่หนึ่ง ตัวที่สอง สาม...ก็มา

พลัน ฉันเกิดบทกวีขึ้นในใจ(กวีของฉันแปลว่า การเขียนคำเพราะ ๆ จากอารมณ์และจินตนาการ ส่วนกลอน คือการเขียนอะไรก็ได้แต่ให้ถูกฉันทลักษ์) ดังกลอน(กวี)บทนี้

กวีบทนี้ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารขวัญเรือน ซึ่งถือว่าค่าตอบแทนหลักพัน แพงกว่านิตยสารทั่วไป แต่ลงได้ยากมาก แบบว่าส่งไป ๑๐ ได้ลง ๑ หรืออาจจะไม่ได้ลงเลย

เนื้อหาของกวี

แมลงผึ้งคลึงเคล้าเข้าเย้ายั่ว
กลีบบางบัวไหวสั่นสะท้านหนาว
แหวกวิมานม่านชมพูสู่ดวงดาว
ดอกบัวสาวผึ้งแหวกแทรกดูดกิน

อกบัวงามยามสายสยายกลีบ
เหมือนแพรจีบมุ้งม่านวิมานถวิล
รายรอบด้วยกลีบกั้นสวรรค์อินทร์
อบประทิ่นบรรจถรณ์บนก้อนกลม

ผึ้งหนุ่มดุจอินทร์จากถิ่นเทพ
เหาะมาเสพสูดหวานประสานผสม
ก้านเกสรอ่อนร่ายส่ายเริงรมย์
กลิ่นบัวบ่มหอมหวนชวนสืบพันธุ์

ผึ้งหนึ่งอร่อยลิ้นกินอิ่มแล้ว
ผึ้งสองจองแถวมาต่อฝัน
เข้าสวมสอยรอยเก่าอย่างเมามัน
ปากขยันมือขยุ้มตะกรุมตะกราม

ราวจะรู้อยู่ว่าหากช้าอด
บัวสิ้นรสกลีบหล่นบนสนาม
พ้นเพียงวันกลีบทรุดหยุดความงาม
จึงรีบร่ายระเริงกามโกยความเมา

ฉันดูบัวหัวใจพลันใฝ่คิด
วิมานบัวตัวจริตความโฉดเขลา
เป็นความงามแค่พริบตามาหลอกเรา
แล้วทิ้งเหงาไว้จนกว่าถึงคราตาย
0000000

หมู่นี้ไม่ว่างนำการ์ตูนมาโพสต์ และก็ไม่ว่างที่จะเขียนการ์ตูนตลก เพราะงานวาดภาพประกอบกำลังถูกทวง ถูกเร่งจากผู้มาว่าจ้าง

ภาพดอกบัวไม่มีผึ้ง เพราะภาพที่ถ่ายไว้จริง ๆ ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม ไม่มีเวลาหา ภาพนี้จึงยืมมาจากอินเตอร์เน็ตมาประกอบพอให้มีสัน ขอขอบคุณเจ้าของภาพด้วย





ส่วนภาพล่าง คือ "บัวไม่เจียมก้าน"

เคยตีพิมพ์ในนิตยสารสกุลไทย ฉันเขียนจากเรื่องจริงเช่นกัน และได้เอากลอน(ที่ฉันเรียก กวี)ทั้ง ๒ บทไปเป็นตัวอย่างสอนนักเรียนด้วย

บัวไม่เจียมก้าน

ปลูกบัวสาว ขาวใส ไว้ในอ่าง
ทุกวันว่าง เดินดูบัว หัวใจหมาย…
เพราะบัวหนอง ในท้องน้ำ ถูกทำลาย
ทั้งบัวแดง บัวสาย ใกล้สูญพันธุ์…

บัวถูกทุน ถมดิน ทุกถิ่นหนอง
ในคูคลอง จ้องแต่เงิน เพลินจัดสรรค์…
บ้างสร้างสวน อาหาร ลานชมจันทร์
ดอกสวรรค์ ที่เคยงาม เป็นความเชย

ฉันจึงเก็บ บัวหนอง มาลองปลูก
เห็นมันถูก ทิ้งขว้าง อย่างเฉลย
ฉันรักบัว เขาหัวเราะ เพราะความเชย
ฉันก็เลย ปลูกบัวใหม่ ใบเท่าจาน

เป็นบัวหลวง ดอกขาว พราวเสน่ห์
ชื่อก็เท่ สัตตบุษย์ สุดวิศาล
บุณฑริก ก็สีขาว เข้าตำนาน
บัวฉัตรขาว อะคร้าวหวาน สราญรมย์

ฉันคอยแล ค่ำเช้า ราวคนบ้า
หมั่นคอยหา ปุ๋ยใส่ ใจสุขสม
จนดอกตูม ชูก้าน ผ่านโคลนตม
ดอกทรงกลม อ้วนป้อม ยิ่งน้อมใจ

บัวดอกขาว พราวไสว ใหญ่เกินก้าน
แย้มกลีบบาน เห็นเกสร สุดอ่อนไหว
พอตกค่ำ น้ำฝน หล่นซึมใน…
บัวดอกใหญ่ กลีบหนัก หักตรงคอ

เพราะว่าเธอ ดอกใหญ่ ไม่เจียมก้าน
จึงไม่ทาน น้ำฝน บนกลีบหนอ
โอ้เสียดาย บัวน้อย ฉันคอยพนอ
ฉันต้องรอ ดอกรุ่นใหม่ ใจระทม.

000000000000

หาฉบับที่ลงในสกุลไทยจริง ๆ ไม่พบ(ขี้เกียจหา) รู้สึกท่อนจบจะจบว่า "ดอกบัวใหญ่กลีบหนักหักหัวลง" แล้วจบ จึงอาจจะต่างกันนิดหน่อย แต่เนื้อสารอันเดียวกัน

เมื่อวันที่ ๙ - ๑๑ ที่ผ่านมา ฉันจึงได้รับเชิญจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ให้ไปเป็นวิทยากรสอนการเขียนกลอน หรือกวีแก่เด็ก ๆ ร่วมกับคุณกร ศิริวัฒโณ นักเขียนจากสุราษฎร์ธานี ผลปรากฏสำเร็จน่าภูมิใจมากเด็กสนุก

ว่าง ๆ (อาจจะ)นำมาเล่านะครับ

ภาพล่างฉันถ่ายจากดอกบัวของฉันเอง ตอนนี้กำลังเพิ่มบัวหลวงอีกหลายอ่าง เพราะดูแลง่ายกว่าบัวชนิดอื่น



ภาพนี้ฉันเจียมก้านแล้วนะจ๊ะ



เจ้าของปลูกฉันไว้ใกล้พี่แก้ว(มังกร) แต่พี่แก้วยังไม่ออกดอก

href="//www.bloggang.com/data/lungboon/picture/1216517012.jpg" target=_blank>



ฉันเป็นบัวสีส้มจ้ะ



ส่วนฉันบัวสีม่วงจ้ะ เจ้าของน่าจะแต่งกลอนให้ฉันบ้าง



ฉันเกิดจากกอเดียวกัน แต่ก้านต่างกันจ้ะ(ฉันกลัวหักจ้ะถ้าก้านยาวเกินไป)



ฉันเป็นบัวสี่เหล่าใช่ไหมจ้ะนี่



ฉันเป็นบัวสีเหลือง เจ้าของต้องขยันหมั่นตัดใบ แยกกอค่ะ ถ้าปลูกในกระถาง ไม่งั้นฉันชอบบ้าใบและจะไม่ออกดอกค่ะ



บัวขาวยามค่ำ กลางคืนฉันก็ยังบานน้อย ๆ พองามจ้ะ



ฉันเป็นบัวสีเนื้อจ้ะ

href="//www.bloggang.com/data/lungboon/picture/1216517882.jpg" target=_blank>

บัวสี่เหล่า แต่บานทุกเหล่า(แบบนี้จะขัดแย้งกันไหมนี่ เพราะต่างคนต่างอวดฉลาด เก่ง...)



บ้านรักบัว หัวใจใฝ่ถวิล...



คนรักบัวหัวใจใฝ่ถวิล อยากเห็นแผ่นดินพบสุขสันต์...




หยุดขัดแย้งหมายล้างเผ่าพันธุ์ เพียงเพื่อฉันเป็นใหญ่แล้วไชโย...




ปิดท้ายด้วย...

href="//www.bloggang.com/data/lungboon/picture/1216518502.jpg" target=_blank>

ดอกไม้ที่ไม่ได้ปลูกยังดูสวย แต่คนนี่ซี- เฮ้อ...



Create Date : 19 กรกฎาคม 2551
Last Update : 20 กรกฎาคม 2551 10:12:16 น. 38 comments
Counter : 2770 Pageviews.

 

สวัสดีครับ
ลุงบูลย์
ไม่ได้แวะมาซะนานเลยขอรับ
สบายดีไหมขอรับ


โดย: คนสาธารณะ IP: 124.121.9.206 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:27:27 น.  

 
ดีดี

ขอบคุณ

สำหรับกลอน

เเละ

ขอขอบคุณผู้แต่ง

กลอน



โดย: poon IP: 58.9.105.20 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:12:50 น.  

 
เซ็งอะไรกันครับลุงบูลย์
แต่่่ชีวิิตคนเราก็ยังงี้้แหละ จะให้เบิกบานรื่นเริง
ดุจพระอริยะผู้สละแล้วซึ่งโลกียวิสัย ก็คงเป็นไปไม่ได้
เป็นกำลังใจให้ครับ


โดย: ธารดาว IP: 202.149.25.241 วันที่: 20 กรกฎาคม 2551 เวลา:4:51:34 น.  

 
สวัสดีคนสาธารณะ

จนบัดนี้ผมยังไม่รนู้ว่าคุณชื่ออะไร ช่วยเมล์บอกหน่อยได้ไหม ลุงเองก็ไม่ได้ไปเยี่ยมนานเหมือนกัน

สวัสดีคุณ poon แหม ไม่ใส่เม็มเบอร์ไว้ให้ลุงไปเยี่ยมบ้าง

สวัสดีธารดาว
เซ็งสังคมที่เอาแต่จะให้ตนเองได้ เขาสนุกเขาได้ชื่อแต่เราเสียผลประโยชน์ ที่มาจากความเพียรพากอันหนักอึ้ง แบบว่าธารดาวอยากมีเวลาเขียนหนังสือ แต่คนในหมู่บ้าน ตำบล มาขอให้ไปช่วยนั่นช่วยนี่ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ประโยชน์ของสังคมส่วนใหญ่

อย่างกรณีที่ลุงไปสอนเด็กให้เขียนกลอน ๔ วัน ลุงมีความสุขมาก เพราะเด็กควรจะก้าวไปสู่ทางที่สุนทรี ส่วนคนแก่(ชมรมบางชมรม)จะเอาแต่ชื่อเสียง ห่....


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 20 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:22:40 น.  

 


ลุงบูลย์ขา..

มาแปะชื่อจองไว้ก่อน
เดี๋ยวมาอ่านนะคะ




โดย: Nok_Noah วันที่: 20 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:32:26 น.  

 

Recados e Imagens - Flores - Orkut

อรุณสวัสดิ์ค่ะ ลุงบูลย์หาทางเข้าบ้านลุงเจอแล้ว อิอิ ขอนุญาต แอดนะค่ะ วันก่อนลุงเล่นไม่บอกทางมาบ้านเลยหาทางมาทักทายไม่ถูกค่ะ วันนี้คลานตามบ้านคุณพี่คนสาฯมาค่ะ มีความสุขในเทศกาลเข้าพรรษานะค่ะ


โดย: กชมนวรรณ วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:7:08:51 น.  

 
มาช่วยเซ็ง....

เซ็งคนเดียวอาจจะเหงาได้...ยิ่งสูงวัยด้วยเนี่ยนะ
ตกลงบัวสี่เหล่หรือบัว 4 ดอกล่ะลุ้ง

คุณนายดอกสีส้มนี่หากินได้หลายงานแล้วเนอะ
บล๊อคปลายแปรงก็ยังเคยเอามาหากินกะเขาเลย

วันนี้ยังไม่ได้ตั้งต้นอะไรเลยเนี่ย
ที่บ้านยังกะมหกรรมวันหยุด ตลาดนัดเด็กอ่อน

เด็กปลายวาอีกเจนเนอเรชั่นหนึ่งเขามาประชันกัน....ปวดหัววิ้งๆไงม่ายรู้

รู้แล้วว่าชีวิตนี้คงไม่สามารถเป็นนางงามกะเขาได้ ก็เพราะพรรณนี้แน่เลยลุ่ง

ป้าพิศแกก็กำลังกลุ้มใจอยู่ ว่าจะเลี้ยงหลานยังไง มือเคล็ด ท่าจะอุ้มไม่รอด
อ้อ...ลูกสาวคนสวยแกกำลัง 4 เดือนอยู่เจ้าค่ะ
ปลายแปรงก็กะว่าจะชวนตานุไปอยู่เหนือสัก 2 ปี

รับรองเขาไล่ออกจากบ้านแหงมๆ....555
ครูประสิทธิ์ก็คงจะชื่นจึ้นแหละ
แต่เราไม่ห่วงอยู่แล้ว ถึงจะอุ้มเด็กม่ายเป็น ตาพันธุ์น้องชายตานุนี่คล่องแฮะ....
รับไปก็แล้วกัน....

กลัวเด็ก....จริงๆ

ไปตั้งสมาธิก่อนนะ...จะได้ลุยเขียนต่อ
ลุงก็อย่ากลุ้มใจสิกะผู้สูงอายุทั้งหลาย คนแก่ๆก็ยังงั้นแหละ
ต้องเอาตามที่ฉันว่า ฉันคิดนะ...อ้าว ลุงเพิ่ง 50 เองไม่ใช้เหรอ

อย่างเซ็งเลยลุง....เดี๋ยวบัวข้างบ้านจะเหงาหงอย พลอยหุบเร็ววันไปด้วย
นะ...ลุงนะ


โดย: ปลายแปรง IP: 118.175.189.74 วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:06:50 น.  

 
สวัสดี หทัยชนก
มีมาแปะไว้ก่อนค่อยอ่าน เหอ ๆ ๆ แบบนี้ก็มี

เมื่อเช้าลุงมาตอบเป็นกลอนแสนเพราะพริ้ง แบบว่าอารมณ์กำลังว่า แต่ไอ้คอมแฮ็ง ข้อความเลยหายเรียบ จากนั้นก็ไปทำงานให้หายมูดดี้


สวัสดี คุณกชมนวรรณ
ขอบคุณที่มา ลุงก็ว่าจะแอดบล็อกเธอไว้เหมียนกัน แต่ที่แอด ๆ ไว้ไม่เห็นค่อยมีใครมา ไอ้เราก็ไม่ค่อยได้ไปหาด้วย ก็เลยอาย ในทำนองว่า แหม แอดไว้เยอะจังนะ แต่คนที่นายแอ๊ดไว้นั่นนะ มีใครมาบ้างเปล่าล่ะ(คิดมาก) ก็เลยไม่อยากแอ๊ด


สวัสดีปลายแปรง
อ้าวจะหนีเด็กไปอยู่เหนือซะแล้วเรอะ รอจนหลานโตถึงจะกลับมา โธ่โถ... ขอแช่งให้เด็กมาเข้าท้องสักโหล ฮึ ๆ ๆ แน่จริงอย่าป้องกันเขียวนะ

ลุงเองตอนนี้เงินมีบทบาทเกินรับ กำลังขายครัว ขยายห้องนอนเผื่อหลาน เพราะที่เป็นอยู่พอมากันหมดที่นอนไม่พอ ฮา ค่าปูกระเบื้อง ขยายห้องใหม่ เงินที่หาได้ตอนนี้แฮ่ ๆ กลัวจะไม่พอ งานนี้ยายไรเขาเป็นใหญ่ เฮ้อ ทำ ๆ ไปจะอยู่กันอีกสักกี่วันไม่รู้


โดย: lungboon (pantamuang ) วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:32:09 น.  

 
แวะมาขอบคุณลุงบูลย์ค่ะ สำหรับกลอนเพราะๆๆที่แปะไว้ที่บล็อกรันค่ะ
อิอิ นั่นอารมณ์ประมาณน้อยใจ
ของผู้สูงวัยเปล่าค่ะ
อิอิ รับรองค่ะมีทางมาบ้านแล้ว
ต้องแวะมาสิค่ะ


ฝันดีค่ะคุณลุง


โดย: กชมนวรรณ วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:46:09 น.  

 
สวัสดี กชมนวรรณ

ก็ ไม่น้อยใจอะไรหรอก แบบว่าเข้าใจน่ะ คนเราวัน ๆ ยุ่งกับงาน ใครจะมามัวท่องเวบเป็นขาประจำคนนั้นคนนี้ นอกจากต้องการพักผ่อนแว็บ ๆ แป๊บ ๆ จริงมัยล่ะ


โดย: lungboon (pantamuang ) วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:31:38 น.  

 
แหมลุง มีด้วยเหรอขาประจำอ่ะ เค้ามีแต่คุยกันเอาสนุก
เนทบ้านหนูเดี้ยงสามวันแน่ะ เราก็ว่างใช้เนทช่วงเช้าๆ
แต่กว่าเนทสัญญาณจะแรง โน่น สามทุ่ม หนูแช่งมัน
แล้วก็โทรไปจิกมัน วันนี้ AT&T มันมาซ่อมตั้ง 2 ชั่วโมง

อิจฉาบัวบ้านลุงจัง เมืองนอกกอบัวแพงจะตาย
หนูไม่ได้ซื้อเลี้ยงหรอกค่ะลุง แค่ปลากัดห้าตัว
หนูตะเภาตัวนึง สวนครัวเพียบ หนูก็เหนื่อยแล้ว

ลุงอ่ะขี้น้อยใจ หนูอ่ะลูกสามนะ(รวมพ่อมัน)
สารพัดงานบ้าน ไม่ได้ซื้ออาหารง่ายๆได้อย่างลุงนี่
วันๆทำกับข้าวทั้งวัน เมืองนอกไม่ได้มีตลาดเช้า
อย่างบ้านเราเมื่อไหร่ เฮ้อ อิจฉาลุงบูลย์
มีแต่คนเอาของมาให้กิน วันๆนั่งทำงานรับเงินลูกเดียว
ว่าจะโทรไปกวนลุง หนูก็ไม่ได้อารมณ์จะคุยอ่ะ


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.244.11.84 วันที่: 23 กรกฎาคม 2551 เวลา:7:33:57 น.  

 
สวัสดีแมว
โห....เมืองเมกา นึกว่าเทคโนโลยีจะเพียบ งั้นเน็ตสู้บ้านลุงไม่ด๊าย บ้านลุงแรงทั้งวันเพราะใช้เน็๖เหมาของ tot เดือนละ ๕๐๐ บาท

บ้านลุงปลูกบัวไว้จัดว่ามาก แต่ตอนนี้ขาดการบำรุงรักษา แบบว่าไม่มีเวลาน่ะ ที่อ่างใหญ่โดนสาหร่ายบุก ไม่มีเวลาเอาออก ที่เป็นกระถางโดนหนอนหรือแมลงก็ไม่รู้กัดใบเกลี้ยง และกำลังลามไปเรื่อย ๆ เมื่อประมาณครึ่งเดือนที่ผ่านมา มีรถมาขายกระถางพร้อมบัว พร้อมปุ๋ย เขาปลูกให้เสร็จ ลุงให้ปลูก ๑ กระถาง เขามีดินเหนียวมาด้วยเสร็จ ติดใจเลยหละ พอปลูกคร ๒๐ วันดอกงี้ออกมาแข่งกัน ๒ ดอกแล้ว

บ้านลุงมีตลาดทุกวัน เช้ายันเย็น แต่ว่าลุงอยู่ห่างประมาณ ๑ กม. เพราะต้องอ้อมทางรถไฟ ลุงไม่ค่อยได้ออกหรอก ไม่มีเวลา ตอนนี้แม่บ้านไป จ.พิจิต ลุงหุงข้าวแล้วกินแต่แกงส้ม ฝืน ๆ กินไป ขี้เกียจออกตลาด เชื่อมั้ยถ้าได้ข้าวกล้องมะลิหอม ๆ กินกับซีอิ๊วยังอร่อยเลย กินเพื่ออยู่ มีเวลาว่าง มีเงิน จึงค่อยอยู่เพื่อกิน ฮา


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 23 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:11:31 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะลุงบูลย์ เหมือนลุงว่านั่นแหละค่ะต้องรอเวลาว่างๆๆ สมองโปร่งๆๆ ถึงจะท่องเวปได้ อิอิ ช่วงนี้งานรันเยอะหน่อยค่ะแต่ก็หาเวลาแวะทักทายกันประมาณวันเว้นวันหรือสองวันครั้ง ไม่ก็แล้วแต่เวลาเอื้ออำนวย(ทุกวัน ฮา)
ท่าทางลุงเป็นคนอารมณ์ดีจังนะค่ะ

สวัสดียามเช้าแก้หนาวจิต
มาสร้างมิตรหลานใหม่หทัยเหงา
อยู่บ้านคนเดียวเหี่ยวซึมเซา
มายึดเอาบล็อกนี้ที่พักใจ....

อรุณสวัสดิ์วันใหม่ใจหมดจด
คำงามงดทักทายดั่งสายไหม
ขอขอบคุณ..คุณลุงที่รุดไป
ส่งน้ำใสไมตรีมีให้กัน...

มีความสุขกับวันนี้ค่ะคุณลุง


โดย: กชมนวรรณ วันที่: 24 กรกฎาคม 2551 เวลา:5:57:12 น.  

 
อย่าลุงอย่า อย่าบอกว่าไม่มีเงิน เงินน่ะมีแต่ลุงขี้เกียจ
ออกไปหากินข้าวเองแหละ เจ็บป่วยมา ลุงโทษตัวเองนะ

ตอนนี้เนทหนูดีแล้วจ้ะ หลังจากมันใช้เวลาสองชั่วโมง
ตอนนี้ฉิวเลย มันเป็นบ้านหนูบ้านเดียวล่ะ ติดๆดับๆ
มาตั้งนาน เราแจ้งมันบ่อยครั้งมั๊ง บริษัทเลย
ส่งคนมาซ่อมให้ มันเป็นที่ระบบเคเบิลต่างหากล่ะลุง
ลองมันไม่มาซ่อมสิ มันจะเสียลูกค้า หนูไม่ใจเย็นคอย
กับบริการที่เห่ยหรอก เพราะเราเลือกได้ ถ้าจ่ายแพง
มันก็ต้องได้ของดีสิเนาะลุง

ลุงคะ ถ้าหายไปอีก อย่าน้อยใจนะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้า
เพื่อนจะมาจ้างให้ติวให้ลูกๆกับหลานๆเค้า เด็กห้าคน
หนูติวทั้งหมดไม่ไหว ต้องผลัดกันมาทุกวัน
น้องเค้าถามว่า พี่จะคิดเท่าไหร่ ลุงเอ๊ย ใจดำไม่พอ
เพราะน้องเค้ามักจะพาหนูไปเลี้ยงข้าวเป็นประจำเลย
แบบสาวสวยลุยคู่อะไรเงี้ย

หนูเลยบอก ตามแต่จะให้ ให้เท่าที่ไม่ลำบากละกัน
แต่ลูกเจ๊สามคนนั้น พี่คิดเป็นชั่วโมง ปกติเค้าคิดกัน
ชั่วโมงละ 40 เหรียญ/คนจ้ะลุง ตอนนี้ยัยเจ๊แกจ้างฝรั่ง
สอนลูกชั่วโมงเดียวสามคน จ่ายชั่วโมงละ 120 ดอลน่ะ
เจ๊แกคงอยากได้หนูมากเลยล่ะลุง เมื่อก่อนเค้าก็อยากจ้าง
แต่หนูไปสอนให้ที่บ้านไม่ได้ไง นี่ขนาดว่าน้องเค้าจะพา
ลูกกับหลานมาให้หนูสอนที่บ้าน จอห์นเค้ายังไม่อยาก
ให้ทำเลยลุงคิดดู เราก็อยากได้ตังอ่ะ

หนูตกลงรับปากกับเค้าไปก่อนถามสามีอีก
ลุงดู ว่าหนูงกแค่ไหน


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.82.214 วันที่: 25 กรกฎาคม 2551 เวลา:3:35:38 น.  

 
แวะมาส่งการ์ดค่ะ ลุงบูลย์ลองไปอ่านนิทานสมัยลุงบูลย์หน่อยนะค่ะ เมื่อมีเวลาว่างนะค่ะ
ฝันดีค่ะลุงบูลย์


โดย: กชมนวรรณ วันที่: 26 กรกฎาคม 2551 เวลา:0:05:10 น.  

 


สวัสดี..ลุงบูลย์ขา
หลานมาหาและมาอ่าน
เพิ่มจิตให้สำราญ
ด้วยกลอนกานท์สานไมตรี
หลานมีเวลาน้อย
ว่างนิดหน่อยเร่งเร็วรี่
แวะมาเยี่ยมเปี่ยมฤดี
ลุงคนดีของใครใคร
(ต่อจาก)คืนนี้ที่เข้ามา
อาจหายหน้าไปพักใหญ่
เพื่อพักกายและใจ
เผื่อจะได้มีพลัง
ขอเคลียร์การงานก่อน
ค่อยมาอ้อนลุงภายหลัง
ไมตรีติดภวังค์
ยังคงฝังมิจางไป





โดย: Nok_Noah วันที่: 26 กรกฎาคม 2551 เวลา:1:40:32 น.  

 
สวัสดีแม่น้องนิก
โอ้โฮ ๔๐ เหรียญต่อคน ได้มากกว่าลุงวาดรูปเยอะเลย ว่าแต่สี่สิบเหรียญนี่มันกี่บาทไทยว้า

เห็นด้วยเรื่องการทำมาหากิน สมัยนี้มีทางได้(โดยสุจริต)เมื่อใดต้องรีบคว้า ใครว่างานที่ไม่มีเงินควบคู่ลุงไม่เชื่อ แต่คนที่พูด พูดเพราะไม่มีทางเลือกมากกว่า... เอ๊ะคำนี้ระคายหูใครหรือเปล่า

แมวเคยอ่านต่วยตูนไหม ในต่วยตูนลุงชอบอ่านข้อเขียนของ อ.สุขุม นวลสกุล ท่านจะพูดถึงเรื่องเงินเรื่องรายได้นี่ทั้งตลก เป็นจริงและน่าฟังมาก แต่ว่าที่แมวเคยทำงานช่วยลุงแล้วมาหายจ้อยไป คงไม่ใช่เพราะ npl นะ (งานที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) ฮา

บ้านลุงเนตดีแต่คอมแฮ็งเป็นว่าเล่นนี่จะผ่านโพสต์ได้เปล่าไม่รู้


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 26 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:25:08 น.  

 
สวัสดี หทัยชนก

เห็นด้วยว่างานยุ่งมาก ๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมนี่ก็ขอบคุณละ เดี๋ยวลุงจะไปโพสต์กลอนที่บลอกเธอ แต่ไม่รู้คอมจะแฮ็งอีกหรือเปล่า


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 26 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:29:22 น.  

 
สวัสดีหลานหทัยชนก...
ไปบ้านเธอเห็นยกบันไดไว้
ไม่ให้เขียนบันทึกระลึกใดใด
ก็ขอให้พักผ่อนตอนวุ่นวาย

ทำสิ่งใดอย่าให้กลายเป็นบ่วง
เกิดเป็นห่วงหน้าหลังรั้งฉุดหมาย
วันใดนึกสนุกไม่ทุกข์กาย
ก็กลับมาแหวกว่ายสายธารกลอน....


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 26 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:55:11 น.  

 
สวัสดีค่ะ ลุงบูลย์ ขอบคุณค่ะสำหรับกลอนตลกที่แวะแจม
ที่บล็อกรัน อิอิ แล้วตอนนี้ ท่าน ฉฉ ได้เงินคืนยังค่ะ
มีความสุขค่ะคุณลุง


โดย: กชมนวรรณ วันที่: 26 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:11:53 น.  

 
มารอบสองแล้วเนี่ย

เมื่อกี้เขียนไปได้สัก 50 บรรทัดแล้วนะลุง มือบอน
ลบทิ้งซะนี่....หมดมุขเลย
ไอ้ที่โม้กระจายเมื่อกี้....โม้รอบสองไม่รอดแล้วสิ

สงสัยเครื่องมันไวเกิน...แรมตั้ง 3 ก๊กแล้ว...ฮี่ๆ

..........เห็นด้วยเรื่องการทำมาหากิน สมัยนี้มีทางได้(โดยสุจริต)เมื่อใดต้องรีบคว้า ใครว่างานที่ไม่มีเงินควบคู่ลุงไม่เชื่อ แต่คนที่พูด พูดเพราะไม่มีทางเลือกมากกว่า... เอ๊ะคำนี้ระคายหูใครหรือเปล่า............

เลยเถียงลุงไง....นี่แหละงานไม่ได้เงิน

ช่วงนี้เข้าเน็ตไม่ได้เพราะตานุยึดเครื่องถาวรก็งานไม่มีเงินนี่แหละ
งานการกุศลแลกแรม แลก การ์ดจอ ว่าจะขอฮาร์ดดิสก์อีกซักกะตัวอยู่เนี่ย
เลยคาดว่าคงจะดองบล๊อคไว้อีกระยะหนึ่ง...555

ไปนอนปะทิวรอบนี้จะได้นอนมุ้งสี่สายอีกหรือเปล่า...เล่นต่อเติมบ้านใหม่ซะเอี่ยมอ่องแบบนี้ หมดตัวอ๊ะยังลุ๊งงงงง

แล้วหายเซ็งหรือยังล่ะช่วงนี้....





โดย: ปลายแปรง วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:7:48:49 น.  

 
เอาแล้วแมะ คุณปลายแปรงเค้าเถียงแล้วล่ะลุง
งานนี้ คุยกันเอาเองนะคะ

แต่สำหรับหนูอ่ะ..งานลุงยังอยู่
จะทิ้งขว้างกันเพียงเพราะไม่มีค่าตอบแทนได้ไง
แต่ลุงบอกหนูไม่ใช่เหรอว่า ก่อนตายคงเขียนจบ
หนูก็เห็นว่า ตอนนี้ลุงยังไม่แก่มาก หนูเลยเพลาๆ
ไปทำอย่างอื่นก่อน เหมือนลุงแหละ หาเงินต่อเติมบ้าน
หนูก็หาเงินซื้ออะไรของหนูไปเรื่อยล่ะค่ะ

สี่สิบเหรียญ ก็ชั่วโมงละ 1,200 บาทต่อคนไงลุง
เอา 30 บาทคูณ 40 เข้าไปน้อ สามคน ก็ชั่วโมงละ
3600 บาท แต่หนูให้น้องเค้าจ่ายเป็นอาทิตย์
ตามแต่เค้าจะให้ ไม่ได้คิดเป็นชั่วโมงเป็นวันหรอกลุง
เพื่อนกัน ช่างมันเหอะ แต่กับยัยเจ๊ หนูคิดเป็นชั่วโมง
แต่จะคิดถูกกว่าฝรั่ง เพราะเด็กมาหาหนูที่บ้าน
ขายปัญญานี่ มันก็ได้ราคาเหมือนกันเนอะ


หนูไม่ได้อ่านต่วยตูนมานานแล้วลุง แต่สมัยเรียนรามฯ
เคยเรียนกับอาจารย์สุขุม ท่านสอนเก่ง ไม่ง่วงซักนิด


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.105.145 วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:6:34:49 น.  

 
สวัสดี ปลายแปรง
อันนี้เขาไม่ได้เรียกว่างานนะ แต่เขาเรียกว่าการสังสรรค์ สังสรรค์กันในระหว่างคนที่คุยกันถูกคอ(มั่งไม่ถูกคอมั่ง) เป็นการรีแลคหลังจากนั่งหลังขดหลังแข็ง แล้วข้าง ๆ ตัวก็ไม่มีใครมาคุยด้วย จนเสียงพูดนี่ก็จะไมอยู่แล้ว เพราะเอาแต่พูดกับตัวหนังสือ(ใครเอ่ย) ทีนี้ทางออกมันเก๊าะต้องหาเพื่อนคุยทางเน็ต แต่คุยทางเน็ตนี่ก็ต้องระวัง อย่าไปแตะการเมือง เพราะเกิดไปเห็นแย้งปั๊บนี่ คนที่เราเคยคุยด้วยจะหายวับไปทันที ฮา...

ที่ถามว่าไปนอนที่ปะทิวจะได้นอนมุ้งสี่สายอีกหรือเปล่า ที่นอนและมุ้งยังไม่ไปไหนนะ ทำแต่ในครัว แบบว่าอยากตามใจป้าเขาหน่อย ก่อนตาย ฮา

เครื่องใหญ่ตั้งโต๊ะของลุงแย่ ตอนนี้เข้าเนตไม่ได้ เข้าปุ๊บแฮงปั๊บ ทั้ง ๆ ที่อุตส่าห์ลบรูปภาพทั้งในบล็อกและในดิสค์ออกเสียเยอะแล้ว วันนี้มันแฮงกลางอากาศ ๓ ครั้งหมดม้ดเลย เมื่อวานเลยไม่ได้มาอ่านของใคร อย่างบล็อกของเธอนั่น ไปกี่ครั้ง ๆ ระหว่างรอโหลด พ่อแฮงได้แฮงดี

วันนี้เลยเอาโนตบุ๊คมาเข้าเน็ตแทน


สวัสดีแมว

โอย ดูรายได้ของแมวแล้ว ชั่วโมงละ เกือบสี่พัน เทียบกับของลุงแล้วตกชั่วโมงละ ราว ๑๐๐ บาท ห่างกันราวจรวดกับการเดินของหอยทาก แบบนี้อยากไฆ่ตัวตาย ไม่ได้ฆ่าเพราะอิจฉาหรอก แต่ฆ่าเพราะน้อยใจที่เกิดมาผิดที่ ลุงทำงานวันละราว ๑๐ ชั่วโมงได้แค่ ๙๐๐-๑๐๐๐ บาทเท่านั้น โห อยากตายยยย.....

ทำไมเมืองเมกาค่าแรงมันจึงแพงกว่าเงินเดืนนายกรัฐในตรี

แหมนี่ถ้าแมวคิดค่าคุยทางเน็ตกับลุงแต่ละครั้งนี่ ลุงมีหวังขายรถ ขายบ้าน มาจ่ายค่าคุย ว้าย... หวาดเสียว...

เฮ้อวันนี้มาคุยยาวๆได้ก็จากโน๊ตบุ๊คที่ราคาเท่ากับแมวทำงานวันเดียวนะเนี่ย โอย อ๋อย ไปก่อนเลี้ยว...


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:33:17 น.  

 
สวัสดีครับลุงบูลย์ (ผมตอบลุงทั้งที่บล็อกผม แล้วเลยมาตอบที่นี่เลยครับ)

ลุงบูลย์เอ่ยถึงพรินเตอร์ เครื่องติดแทงค์อย่างที่ลุงใช้ก็ประหยัดดีครับ ตอนแรกผมก็นึกจะซื้ออยู่เหมือนกัน แต่หมึกอิงค์ผมกลัวเรื่องน้ำ ประกอบกับผมไม่มีความจำเป็นต้องพิมพ์สี ก็เลยเอาเลเซอร์ขาวดำของซัมซุง รุ่น ML-2010 ราคาตอนซื้อมันสามพันต้น ๆ ครบ หมึกหลอดที่ติดเครื่องมาด้วยพิมพ์ได้ราว 1500 แผ่น ตามแต่จะตั้งค่าหมึก ไม่ต้องคอยระวังหัวหมึกด้วย ทิ้งไปเป็นเดือนก็ไม่เป็นไร

ถ้าลุงบูลย์อยากลองใช้เครื่องเลเซอร์ขาวดำ เพราะข้อดีของมันคือคมชัดกว่าอิงค์เจ็ต พรินเตอร์ของ HP เห็นเขาว่าทนมือดี แต่ราคาสูงหน่อย จริง ๆ เครื่องที่ผมอยากได้คือของเคียวเซร่า รุ่นที่ราคาสี่พันกว่าบาท มันประหยัดดีครับ เพราะหมึกที่มันแถมมาให้ใช้พิมพ์ได้ตั้ง 6000 แผ่นแน่ะครับ ใช้จนลืมว่างั้นเถอะ อิ อิ แต่เงินไม่พอ ไม่งั้นผมก็เอาไปแล้ว หมึกมันพิมพ์ได้เยอะมาก ๆ ลองนึกถึงกระดาษเอ 4 จำนวน 12 รีมสิครับ มันพิมพ์ได้ขนาดนั้นเขียนเรื่องสั้นและนิยายกี่เรื่องกว่าหมึกจะหมด เจอจอมขี้เกียจอย่างผม เครื่องคงพังก่อน (ฮา)

หวังว่าลุงบูลย์คงจะได้รางวัลใดรางวัลหนึ่งจากพานแว่นฟ้าปีนี้อีกครั้งนะครับ คงเป็นครั้งที่ 3 (เอ๊ะ หรือ 4 )ใช่มั้ยครับ ถ้าผมจำไม่ผิด อิ อิ


โดย: ธาร ยุทธชัยบดินทร์ IP: 202.91.19.204 วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:14:30 น.  

 
ปลูกดอกบัวยากมั้ยครับ อยากปลูกเหมือนกัน แต่ที่ทางไม่ค่อยมีครับ เสียดาย ๆ

บทกวีที่ลุงนำมาลงก็มีความหมายดีครับ เสียดายผมไม่ใช่กวี เลยไม่มีปัญญาแต่งมาให้ลุงบูลย์ได้อ่านบ้าง อิ อิ

ที่วกเข้ามาคอมเมนท์อีกครั้งก็เพราะไปอ่านตรงกระจกเงาบานที่ 23 ที่ลุงไปตอบหนุปลายแปรง ทำให้ผมยิ้มออกมา แล้วต้องพูดกับตัวเองว่า "ลุงบูลย์พูดถูก" อิ อิ


โดย: ธาร ยุทธชัยบดินทร์ IP: 202.91.19.204 วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:25:22 น.  

 
ข้างบนธาร ข้างล่างก็ธารเหมือนกัน ฮิ ฮิ
เจอะภาพลุงบูลย์ร้องไห้แงๆอีกแล้ว


โดย: ธารดาว IP: 202.149.25.234 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:5:43:17 น.  

 
เขาร้องไห้ปลาบปลื้มใจ...ลุงจะได้รางวัลย่ะ...ตาธารดาว

มีหลาย "ธาร" ใช่ป่าว

เราเปลี่ยนชื่อดีไหมเนี่ย....ธารแปรง....ปลายธาร....หรือ....ลำธารดี

ลุง....มาเปลี่ยนเป็น ธารๆกันมั่งไหม...


วันนี้ตานุยังไม่ตื่น....เลยยึดเครื่องก่อน งานการกุศลที่ทำสื่อการสอนให้น้องนะ แลกแรมมา 3 กิ๊กละ ตอนแรกว่าจะขอฮาร์ดดิสก์มาเก็บงานสัก 320 นะ

เปลี่ยนใจเพราะไม่ได้มาโม้กระจายกะลุงในเน็ตนี่แหละว่าเปลี่ยนเป็นขอไวร์เลทดีกว่า
จะได้เอาโน๊ตเข่ง(เดี๋ยวอธิบายอีกที) ที่นั่งจิ้มอยู่ข้างนอกมาเล่นเน็ตได้
พอร์ตเน็ตตั้ง 8 พอร์ตนะ เสียหมดใช้ได้ 2 พอร์ต อีตานุชิงไปหนึ่ง อีตาพันธ์น้องตานุชิงไปหนึ่ง
ปลายแปรงก็นั่งจ๋อยเด๊ะ...เขาเข้าส้วมทีก็วิ่งเสียบที...เซ็ง

ถ้ามีไวร์เลทติดก็ไม่ต้องใช้สายแลนก็ใช้เน็ตได้....ไชโย

เห็นแมะ....แม่น้องนิกน่ะพวกเดียวกะปลายแปรง งานไม่มีเงิน...ย้ำ

แต่เป็นของ....เย้...เย

จริงๆแล้วงานนี้ก็กะว่าช่วยน้องทำงาน...เพราะลองหัดเล่นโปรแกรมด้วย น้องเขาทำสื่อการสอนเรื่องคอมฯ เอามาให้ตานุตัดต่อหนังให้
ก็เพิ่งเคยเล่น...บอกพี่เอาเหอะ โปรแกรมก็หลายตังก์ เราจะได้ลองเล่นของใหม่ด้วยเพราะถ้าไปเข้าคอร์สเรียนนะเป็นหมื่นเหมือนกัน
แต่ปลายแปรงไม่เอานะ...ไม่ชอบ...ลูกพี่เล่นไปคนเดียวเหอะ ขืนเก่งไปหมด ทำได้ซะทุกอย่างชาวบ้านจะประนามเอา....กลัว...ฮี่ๆๆๆ

เครื่องเรามันก็ธรรมดาทั่วไปไง...ทำงานไฟล์ใหญ่ๆมันไม่วิ่ง ก็เลยรับบริจาคทั้งแรมและอีกสารพัด...

ตอนแรก...(อีกตอนแล้ว) ต่านุจะให้อัพโน๊ตบุคให้แต่ของบริจาค(อีกละ) น้องบอกรุ่นนี้อัพแรมได้แค่ 512 เอง ไม่คุ้มแฮะ แค่พิมพ์งานอย่างเดียวเนี่ย แล้วดูท่าทางอีกไม่นานมันก็คงจะไม่รอด
เพราะทุกวันนี้นะหอบหิ้วโน๊ตบุ๊คทำงานนะไปเป็นเข่งๆ....ถึงเรียกโน๊ตเข่งไง
แป้นคีย์บอร์ดในเครื่องไปนานแล้วก็ต้องเอาคีย์บอร์ดมาเสียบ....เอาเมาท์มาจิ้ม
เอาสาย USB มาเสียบ ยังกะกระสือ ย้ายตัวเองไปไหนทีก็ต้องเอาเข่งมาหิ้วไป....ของบริจาค

กลับบ้านรอบนี้ว่าจะวางแผนขอบริจาคเครื่องพริ้นต์ของอาเจ๊....เพราะตอนนี้ไม่มีตังค์ซื้อหมึกเปลี่ยน ไปดูราคาแล้ว 2,950 บาท....โว้ว

ก็กะว่าจะไปสะกิดบอกว่า...เจ๊...รุ่นใหม่เจ๋งกว่านะ...เจ๊ซื้อตัวใหม่แล้วเอาตัวนี้บริจาคเหอะ...
วัดบริจาคเยอะแล้ว...บริจาคน้องเหอะ....เข้าท่าไหมลุง

เพราะพริ้นต์เตอร์ของเจ๊...เอามาพริ้นต์เรื่องสั้นเราได้อีกเป็นปี เราก็ไม่ต้องซื้อหมึก....555

อ้อ...ธารดาวจ๊ะ
เกือบจบแล้วหนึ่งเรื่องจ๊ะ....อีก 4-5 ตอน
เอาพล๊อตเรื่องสั้นเก่ามาขยายความใหม่ให้มันยาวได้ 15 ตอนน่ะ

อีกเรื่อง...เดี๋ยวจะเปลี่ยนวิธีการทำงานตัวเองใหม่เพราะอิชั้นเขียนแล้วติดข้อมูล
พอมีข้อมูลใหม่มักจะไถลให้เสียพล๊อตน่ะ...มันถึงวนเวียนไม่จบ ไม่ถึงไหน
เลยต้องปรับกระบวนการคิด การทำงานของตัวเองใหม่...นะจ๊ะ
มาบอกความคืบหน้า....


ฝากบอกท่านพี่ธารด้วยนิ....
เพิ่งรู้นะเนี่ย...ว่าขี้เหงาเลยต้องหาเรื่องเม้าท์ในเน็ต
ลุงบูลย์ขี้เหงาวิ่งใกล้ 70 แล้วนะ
ท่านพี่ธารขี้เหงา....เข้าใกล้เลขอะไรค่ะพี่...


โดย: ปลายแปรง วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:24:28 น.  

 
สวัสดีตอนหัวค่ำค่ะ ลุงบูลย์รันแวะมาขอบคุณที่ลุงบูลย์แวะไปทักทาย พร้อมกลอนอีกรอบค่ะ แหะ ขอโทษค่ะ หากมันระคายตาลุงบูลย์ไปหน่อย เดี๋ยวอัพบล็อกใหม่รันจะ
ทำพื้นเรียบๆ ดีก่า อิอิ
ฝันดีค่ะคุณลุง


โดย: กชมนวรรณ วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:10:56 น.  

 
ไม่มาแป๊ปๆ .. บล็อกมีการเปลี่ยนแปลงอัพเดทตั้งเยอะนะคะลุง
เห็นบัวแล้วชื่นตา ชื่นใจดีนะคะ

_/\\_



โดย: สีน้ำฟ้า IP: 125.24.156.223 วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:29:31 น.  

 

สวัสดีธารยุทธ

ขอบคุณที่ตอบทั้ง ๒ บล็อก เพราะว่าลุงอาจจะไม่ได้ไปที่บล็อกเธอ เพราะตอนนี้กำลังเร่งงานครู เอากะตังค์ต่อครัวเพิ่ม ขืนทำช้าอาจทำไม่ทันอีก อดได้เงินด้วย

ฟังเรื่องพรินเตอร์ที่ว่าแล้ว ตกลงว่าลุงยังใช้ตัวเดิม เอปสัน ๓๕๐ หรือ แทงค์ เครื่องนี้ดีกว่า เพราะทำเงินค่าพรินท์ให้มากกว่าสี่หมื่นบาทแล้ว และเวลาครูมาจ้างทำงานวาดรูป พอวาดเสร็จลุงจะรีบสะแกนเก็บ จากนั้นพอว่างก็มาพรินท์เย็บเล่ม เอาไว้ให้ลูกค้าครู รายต่อไปดู กับเคยเอาไปแสดงในงาน เช่น การประกวดชมรมผู้สูงอายุดีเด่น(เน้นคุณภาพของสมาชิก) ทำให้ชมรมได้รางวัลระดับจังหวัดและเขต เมื่อหลายวันก่อนหลังจากชมรมฯ ได้รางวัลระดับเขต เขาก็มาถ่ายวีดีโอผลงานของลุงไป ซึ่งดีไม่ดีอาจจะชนะรางวัลชมรมผู้สูงอายุ ระดับภาคอีก

การพิมพ์ต้นฉบับส่งนิตยสาร ลุงว่าเครื่องไหนก็ใช้ได้ ความจริงเครื่อง hp นะคมชัดมากทั้งขาวดำและสี แต่เสียที่ว่าต้องเติมหมึกบ่อย กับสีต้องเปลี่ยน เติมเกิน ๒-๓ ครั้งไม่ได้

”หวังว่าลุงบูลย์คงจะได้รางวัลใดรางวัลหนึ่งจากพานแว่นฟ้าปีนี้อีกครั้งนะครับ คงเป็นครั้งที่ 3 (เอ๊ะ หรือ 4 )ใช่มั้ยครับ ถ้าผมจำไม่ผิด อิ อิ”

ขอให้สมพรปากเถอะ เพราะลุงเคยติดแค่ ๒ ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกเรื่องสั้น ครั้งที่ ๒ กวี แฮ่ ถ้าได้อีกครั้งก็ดี ฮา

เรื่องปลูกบัว ถ้าปลูกในกระถางก็ไม่ยุ่งยากเท่าใดนัก ของลุงตอนนี้บ้าใบ ไม่ออกดอกหลายกอ มัวแต่บุกงาน ไม่ได้ไปดูแลมัน ในอ่างใหญ่ก็มีสาหร่ายขึ้น จนบัวถอย จะจ้างใครก็ลำบาก ที่นี่หาคนรับจ้างยาก มีแต่พม่า พูดกันไม่รู้เรื่อง

สวัสดีธารดาว
ข้างบนธาร ข้างล่างก็ธารเหมือนกัน ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร ที ไพบูลย์ ยังมีไพโรจน์ ไพรัช ไพรินทร์ ไพฑูรย์ ไพชยนต์ เอ๊ย ไม่ใช่ คนละเรื่องแล้ว ไพชยนต์ นี่มันอยู่ในเรื่องสังข์ทอง เป็นราชรถของพระอินทร์

ภาพลุงบูลย์ร้องไห้ เป็นฝีมือเด็กซนชื่อปลายแปรง ตอนนี้ลุงขี้เกียจเสียเวลา เลยอาศัยรูปจากบล็อกที่ทางบล็อกแกงมีไว้ให้ ประหยัดเวลาดี ยายแปรงพยายามยืนยันว่านี่ก็งาน งานที่ไม่ได้เงิน ก็แหม จะไม่งานได้ไง แม่เล่นอัพกันแต่บล็อกหรูหราราวกับห้างร้าน ที่แข่งขันกันอวดความหรูหรา แล้วคนแก่ ๆ อย่างลุงจะเอาเวลาไหนไปทำ


สวัสดี ยัยแปรง ยัยติ๋ม
นี่ก็อีกคน ขยันอวยพรกันยังงี้แล้วถ้าได้จริงจะว่ายังไง นี่ถ้าจับพลัดจับผลูได้ที่ ๑ พานแว่นฟ้านะ จะหยุดเขียนส่งเลยหละ เพราะเขียนมานานเหนื่อยแล้ว

(มีหลาย "ธาร" ใช่ป่าว

เราเปลี่ยนชื่อดีไหมเนี่ย....ธารแปรง....ปลายธาร....หรือ....ลำธารดี

ลุง....มาเปลี่ยนเป็น ธารๆกันมั่งไหม...)

อย่าไปเปลี่ยนเลย ธาร ฟังเฉย ๆ คล้าย ๆ ไอ้ที่เขากำลังกำจัด อย่าเอาเลย ฮา

พูดถึงแรม ของลุงนี่สงสัยแรมจะมีปัญหา เพราะแฮงกลางอาอากาศบ่อย ๆ วันนี้ก๊อปมาพิมพ์ในเวิร์ด ไม่งั้นแฮงไปนานแล้ว โฮ้เก่งเรื่องคอมกันทั้งนั้น ยอมแพ้หมดประตูเลยเรา

พูดถึงเจ้าโน้ตบุ๊คตัวที่เพิ่งซื้อมาใช้ วันก่อนตอนไปเป็นวิทยาเกินสอนเด็ก ๓ จังหวัดเขียนกลอนที่โรงแรม ก็ได้อาศัยเจ้านี่แหละ ฉายภาพในจอโน้ตขึ้นจอผ้า ทำให้สอนเด็กได้สบาย ไม่ต้องเขียนกระดาน อยากอธิบายสัมผัสนอก ไน ก็ใช้เมาท์จี้ ใช้สีแดรก โอ สะดวกสบายกว่าตอนยังเป็นครูประถมเยอะ แปลกแม้ะ ตอนรับราชการสอนแค่เด็กประถม แต่พอเกษีญณออกมา สอนเด็ก ม.๕-๖ และยังเคยไปบรรยายให้ พวก ดร. พวกหมอ ฟัง โห นักเขียนหนอนักเขียน มีเท่ตรงนี้เอง แต่ขอโทษ จนฉายหิบ

(เห็นแมะ....แม่น้องนิกน่ะพวกเดียวกะปลายแปรง งานไม่มีเงิน...ย้ำ)
ยังจะเถียงอีกแนะ นี่จะไม่เมาท์กันบ้างหรือไง อะไร ๆ ก็จะให้เป็นงานหมด งั้นจดหมายก็ไม่ต้องตอบ เวลาใครเขียนมา หรือว่าจะจ้างเลขาไว้ตอบ

วันก่อนมีลูกศิษย์(ที่มาให้สอนที่บ้าน ตอนติวจะไปสอบเรียนต่อศิลป์) เพิ่งจบศิลป์มาจากรุงเทพฯ เขาทำสื่อการสอนประเภทแอนนิเมชั่น เป็นสื่อการสอน ขายครูตามโรงเรียน พอรู้ว่าลุงทำผลงานภาพให้ครูและใช้คอมช่วย เขามากันเลย พาแฟนมาด้วยมาสอนให้ลุง แต่ลุงรับไม่ได้ รับไม่ทัน(เหมือนตอนอุเทน พรมแดง มาสอน) ลุงบอกว่ามาสอนลุงสัก ๗ วันได้ไหม จะเรียกเท่าไหร่บอก เขาบอกมาสอนให้ฟรี แต่ว่าพรุ่งนี้ต้องกลับ ทั้ง ๒ คน(แฟนด้วย) เขาทำงานบริษัทที่ทำงานการ์ตูนแอนนิเมชั่น เงินเดือนแค่หมื่นสามพันบาท ลุงบอกว่า ถ้ามาทำแบบลุงจะได้เดือนละไม่ต่ำกว่าสามหมื่นบาท เขาบอกขอไปกอบเกี่ยวประสบการณ์อีกสักระยะ แล้วจะเปิดกิจการของตัวเอง

เขามีโน้ตบุ๊คมาด้วย แต่ราคาแพงกว่าเกือบ ๓ เท่าที่ลุงใช้ โฮ... จ๋อยไปเลยเรา

โลกไอทีนี่น่าจับตา ลูกใคร หลานใคร เรียนศิลป์แล้วเรียนคอมด้วย สมัยนี้ไปโลด


ความจริงราคาที่เล่า ๆ มานั่น ถ้าลุงมีงานล้นแบบปีที่แล้วเธอสามารถหาเงินได้มากกว่านั้นอีกสี่ห้าเท่า แต่ว่าปีนี้ครูมาแปลก เขามาทีละคน ก่อนมาก็ถามก่อนว่าทำของใครอยู่ ถ้าลุงไม่ว่างเขาก็ไม่มา อีกอย่างที่ทำ ๆ ไปปีที่แล้วผลยังไม่ออก ถ้าผลออก ทั้งที่เธอทำไปและลุงทำ คราวนี้แหละอาจจะต้องเลิกการเป็นนักเขียนมาปั๊มแต่เงินอย่างเดียว ฮา แต่ถึงอย่างไรก็สู้รายได้แถวอเมริกาไม่ได้หรอก ชั่วโมงละ สามสี่พันบาท โอย พูดไม่ออก

ฝากบอกท่านพี่ธารด้วยนิ....
เพิ่งรู้นะเนี่ย...ว่าขี้เหงาเลยต้องหาเรื่องเม้าท์ในเน็ต
ลุงบูลย์ขี้เหงาวิ่งใกล้ 70 แล้วนะ

ตอบแทนธารดาวก็ได้ว่า ธารดาวน่าจะอายุน้อยกว่าพี่นุ แล้วทำไม คนอายุ ๓๕-๓๖ เหงาไม่เป็นหรือไง


สวัสดีตอนสาย กชมนวรรณ หรือคุณรัน

ในบล็อกคุณรัน พื้นกับตัวอักษรที่โพสต์ คนแก่อ่านยากครับ แต่ถ้ามืดตื๋อแล้วตัวสีน้ำเงินอย่างบล็อกยัยแปรง ก็ไม่ค่อยไหวเหมือนกัน แถมไปแล้วกัวปี๋อีกต่างหาก

ฝันดีค่ะคุณลุง

ขอบคุณที่อวยพร ฝันดีไม่ชอบ ขอเป็น ขวัญดี แทนได้มั้ย เผื่อจะได้รางวัลเรื่องสั้นพานแว่นฟ้าอีกที ฮ่า ๆ ๆ

สวัสดีแจม
“ไม่มาแป๊ปๆ .. บล็อกมีการเปลี่ยนแปลงอัพเดทตั้งเยอะนะคะลุง
เห็นบัวแล้วชื่นตา ชื่นใจดีนะคะ”

ก่อนอื่นขอแสดงความยินดี ที่ผลงานไปสะพานมัฆวาน จะได้รวมเล่ม ความจริงน่าจะเขียนเป็นเรื่องสั้นส่งพานแว่นฟ้านะ แจมเขียนเรื่องนี้ได้บรรยากาศ เห็นภาพ ได้อารมณ์ความรู้สึกมาก ลุงเองยังชอบ แจมน่าจะเขียนเรื่องที่มีน้ำหนักของความเป็นจริงแบบนี้แหละจะไปได้โลด นี่อยากจะวิจารณ์ตั้งแต่แรกแต่ไม่ว่าง วันนี้เลยได้โอกาส

บล็อกลุงเหรอ
ก็อั้พ ๆ ไปงั้นแหละ ไหน ๆ ก็มาเปิดบล็อกแล้ว จะหยุดก็ดูกะไรอยู่ ทั้ง ๆ ที่ทำให้เสียเวลางานมากนะนี่ แจมเปิดบล็อกที่โอเคเนชั่น สมาชิกคงตรึมซีนะ ว่าง ๆ ลุงจะไปเยี่ยม ช่วยมาแปะชื่อบล็อกไว้อีกครั้งเถอะ เผื่อจะได้มีเพื่อนที่เป็นนักเขียน “มีระดับ” กับเขามั่ง



โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 30 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:30:10 น.  

 
แฮ่...เป็นหลวงลุงได้แล้วเนอะ

ฮิ...อิ...


โดย: pantamuang วันที่: 30 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:24:57 น.  

 
ลุงคะ ช่วงนี้ ขอมาๆหายๆนะจ้ะลุง
หนูมึนทุกวัน ติวเลข อังกฤษ ทำได้ก็วันละสองคน
มากกว่านั้น ไม่ไหวค่ะ เค้ามาหลายชั่วโมงอ่ะ


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.244.8.164 วันที่: 31 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:14:46 น.  

 
แวะมาช่วยแม่น้องนิกมึนค่ะ....
ท่าทางลุงบุลย์จะม่วนซื่นกะครัวใหม่

เผื่อรักครั้งใหม่จะไฉ(ป้าไร)กว่าเก่า....อิ...อิ...อิ

หลวงลุงปั่นเงินใหญ่เลย
ช่วงนี้เงินฝืด แต่ลุงไม่ฝืดเหวย....เหวยๆ..อิจฉาเหวย
แล้วใครจะทำครัวให้กันล่ะนี้...ก็แม่ครัวหญ่ายเลี้ยงหลานม่ายช่ายเร๊อะ...อิ...อิ...อีกรอบ


โดย: ป IP: 118.175.189.74 วันที่: 31 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:09:40 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ค่ะลุงบูลย์ รันขอให้คุณลุงสมหวัง นะค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ แล้วอย่าลืมส่งข่าวกันนะค่ะ หรือว่า
ให้ติดตามที่ไหนหรอค่ะ จะตามไปดูค่ะ

อ้อ รันเปลี่ยนใหม่แล้วค่ะ อิอิ
ขอให้ลุงขวัญดี นะค่ะ


โดย: กชมนวรรณ วันที่: 1 สิงหาคม 2551 เวลา:7:48:16 น.  

 
อ่านปลายแปรงเล่า แล้วขำลุงบูลย์
ตั้งหน้าหาเงินทำครัวใหญ่ แต่ไม่มีแม่ครัวอยู่บ้าน

ลุง รับสมัครแม่ครัวใหม่มั๊ยล่ะ เผื่อป้าไรจะตีกระจุย



โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:5:38:46 น.  

 
รีบๆรับเลยลุ่ง...

จะได้รู้ว่า...รักของป้าไรกะลุงยังยืนยงไหม...555

หายไปไหนล่ะเนี่ยลุ๊งงงงงงงง

อย่าให้ปลายแปรงหายหัวไปคนเดียวสิ....ไป hi5 จนลืมทางเข้าบล๊อคแก้งส์แล้วหรือไร...
หรือว่านั่งนับเงินเพลิน....จะได้ไปช่วย....


โดย: ปลายแปรง IP: 118.175.189.74 วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:19:18:56 น.  

 
ที่หายไปเพราะเดาได้ว่า บ่มีใครมาหรอกนอกจาก

แมว แม่น้องนิก

ปลายแปรง

คุณกชมนวรรณ

สามคนแค่นี้แหละ งั้นค่อยมาตอบรวม ๆ กันก็ได้ว่า รีบทำเงิน เพราะค่าใช้จ่ายบานเบอะ ป้าไรคิดขยายไปเรื่อย จากงบห้าหมื่นเป็นเจ็ดหมื่นแล้ว มีหวังเกินแสนบาท

คิดแล้วก็อิจฉาแม่น้องนิก โห ลุงทำทั้งวันยังไม่เท่าแม่น้องนิกทำ ๑ ชั่วโมง

ก็เลยต้องขยัน ๆ หน่อย

เพิ่งซื้อ ช่อการะเกดมา ๒ เล่ม มีชื่อคนชุมพรส่งไปด้วย ๑ ชื่อ แต่ไม่ใช่ลุง ขณะที่แถวพังงาแอนด์ภูเก็ตมีตรึมเลย

ขอแสดงความยินดีกับ ธารยุทธ ชัยบดินทร์ ที่มีผลงานลงช่อการะเกด ลุงเองเห็นทีจะเงียบต่อไปไม่ไหวแล้ว โว้ย หยุดงานครูสักวัน เพื่อ เขียน ๆ ๆ ฮา


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:14:55:59 น.  

 
เยื่ยมมากครับพี่ กลอนทั้งสองบท
คือผมก็ชอบแต่งโคลงกลอนอ่ะครับ
แต่ไม่รู้จะไปแต่งระบายได้ที่ไหน
มีอะไรแนะนำ ก็บอกนะครับ
atlantic_stickerแอท ฮอต นะครับ
และเรื่องเที่ยวด้วยนะครับ
ผมเป็นคนใต้ครับ เกิดที่เกาะสมุย แต่มาเรียนและทำงานที่ กทม แล้วครับ


โดย: อาณาจักรนักฝัน IP: 124.120.103.189 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:10:27:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pantamuang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย

ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ

ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..

ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.

เริ่ม 9 กันยายน 2550

Friends' blogs
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.