เรื่องดีเป็นทุน….เรื่องวุ่นเป็นกำไร..@@..แต่ตอนนี้ขาดทุนสะสม
 
ความรักหรือภาวะพี่งพิง

ทันทีที่รู้ว่าคน (ที่เรา) รักจากไปสู่ที่ชอบๆ ...คือไปอยู่กับคนที่เขาชอบมากกว่าเรา และที่ชอบของเขาเป็นที่ไม่ชอบของเรา ไม่ว่าหญิงหรือชายจะเกิดอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับ จะเป็นจะตาย
คำพูดที่ได้ยินอยู่เสมอจากปากของคนอกหัก หรือผิดหวังในความรัก คือ "ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา(หรือเธอ)" ฟังดูแล้วก็รู้สึกน่าเห็นใจ และออกจะเป็นห่วงผู้พูดเพราะเกรงว่าอาจจะคิดทำร้ายคนที่ตนรักและ/หรือทำร้ายตนเองเพื่อให้ตายด้วยวิธีการต่างๆ นานา เป็นการบูชาความรัก คนที่พูดคงจะลืมไปว่าก่อนที่จะพบจะมีเขาหรือเธอนั้น ตนเองก็ยังมีชีวิตอยู่ได้ แล้วทำไมทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องจบลงเพียงเพราะ"ขาดเขาหรือเธอไม่ได้" ...จงอย่าเอาคำว่า "รักมากเหลือเกิน" หรือ "ถ้ารักกันแล้วเราขาดกันไม่ได้" มาลวงหลอกใจตัวเอง เพราะนี่คงจะเป็นความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความรักที่พบบ่อยที่สุด
ความจริงแล้วคุณไม่ได้รักแฟนคุณหรอกครับ แต่เขาเรียกว่า.... “ภาวะพึ่งพิง” เพราะตราบใดที่คุณยังต้องพึ่งใครสักคนเพื่อความอยู่รอดของคุณ คุณก็ทำตัวเหมือนพยาธิ ในลำไส้ของเขา.... มันทำให้ชีวิตคุณไม่มีทางเลือกและขาดอิสรภาพ มันกลายเป็นภาวะจำเป็นมากกว่าความรัก
Dr.Scott Peck ซึ่งได้เขียนบรรยายเหตุการณ์เรื่องนี้ในหนังสือขายดิบขายดีชื่อ The Road Less Traveled ซึ่งท่านได้ให้แนวคิด เรื่อง "ภาวะพึ่งพิง" (Dependency) ไว้ด้วยความหมายว่า เป็นภาวะที่เราไม่สามารถดำเนินชีวิตโดยปราศจากการดูแลเอาใจใส่จากบุคคลอื่น ในภาวะปกติเราอาจต้องพึ่งพิงขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นในกรณีที่เราได้รับบาดเจ็บ หรือกำลังป่วย แต่หากเรามีสุขภาพร่างกายที่ดีแล้วยังต้องพึ่งพิงผู้อื่นทางจิตใจ เพื่อช่วยให้เรามีความสุข แสดงว่าสุขภาพทางจิตของเรากำลังย่ำแย่ เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ คนที่มีสุขภาพจิตดีจะให้ความรักแก่ตัวเองเป็น และดำเนินชีวิตได้โดยไม่ต้องพึ่งพิงใคร คนที่มีสุขภาพจิตดีจะรู้จักใช้เวลาที่ผ่านไปช่วยเยียวยาบาดแผลให้สมานจนหายสนิท พร้อมภูมิต้านทานทางใจที่มากขึ้น..

Dr.Scott Peck พูดกับคนไข้ด้วยภาษาต้นฉบับ " Love is the free exercise of choice. Two people love each other only when they are quite capable of living without each other but choose to live with each other " ถอดความว่า “ความรักที่แท้ต้องมีอิสรภาพ...คนสองคนจะรักกันได้ก็ต่อเมื่อเขาทั้งสองสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามลำพังอย่างไม่เป็นทุกข์ แต่เขาทั้งสองก็เลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกันเพื่อความสุขที่มากขึ้น”


Create Date : 06 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2550 13:45:27 น. 4 comments
Counter : 425 Pageviews.

 
...เห็นด้วยกับบทความข้างต้นที่สุดค่ะ...


โดย: G_LoVeLy วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:49:34 น.  

 
เห็นบทความนี้ครั้งแรก อูยเยอะขี้เกียจอ่านจัง แต่ว่าลองอ่านดีกว่า เขียนดีจังค่ะ ชอบค่ะ


โดย: ตติตา วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:45:16 น.  

 
emo

emo


โดย: yoja วันที่: 8 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:44:34 น.  

 

พรุ่งนี้วันพระนะค่ะ


โดย: yoja วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:21:45:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 
 

pnkio
Location :
อุดรธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับนะคะเข้ามาแล้วอย่าลืม Comment ให้ด้วยนะคะ
****ปลาเป็นย่อมว่ายทวนน้ำฉันใด...หัวใจที่ยังไม่ตายก็เอาแต่ใจตัวเองฉันนั้น...เอ๊ะเกี่ยวกันไหมนี่***** ช่วงเวลาสุขช่างแสนสั้น
[Add pnkio's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com