ดารานพรัตน เป็นต้นเค้าของเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ มีที่มาจากธรรมเนียมไทยแต่โบราณว่าอัญมณีนพรัตนอันประกอบไปด้วย เพชร ทับทิม มรกต เพทาย บุษราคัม นิล มุกดา โกเมน และไพฑูรย์ ครั้นเมื่อรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำริสร้างเครื่องประดับสำหรับยศตามแบบตะวันตกจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างดารานพรัตนขึ้นเป็นรูปดอกจันมีรัศมี 8 แฉก สำหรับทรงประดับฉลองพระองค์เป็นเครื่องต้นและพระราชทานพระบรมวงศานุวงศ์
ดวงตราดารานพรัตน รูปดอกจันมีรัศมี 8 แฉก
เครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้มีชั้นเดียว ประกอบด้วย
1. ดวงตรามหานพรัตน สำหรับห้อยกับสายสะพายสีเหลือง ขอบเขียว มีริ้วสีแดง และน้ำเงินคั่นระหว่างสีเหลืองและขอบเขียว
2. ดารานพรัตน สำหรับประดับอกเสื้อเบื้องซ้าย
3. แหวนนวรัตน ทำด้วยทองคำเนื้อสูงฝังพลอย 9 อย่าง สำหรับสวมนิ้วชี้มือขวา แหวนนี้มีเฉพาะฝ่ายหน้า (บุรุษ) สายสะพายนพรัตน สะพายบ่า
ถนิมพิมพาภรณ์ เครื่องอาภรณ์ ในราชสำนัก
นอกเหนือจาก เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และ เครื่องประกอบเกียรติยศต่าง ๆ แล้ว อัญมณีนพรัตน์ ก็ยังใช้เป็นเครื่องประดับ เพื่อเสริมความเป็นสวัสดิมงคลแก่ผู้สวมใส่ตามลักษณะเฉพาะของอัญมณีแต่ละชนิด เช่น เพชร สวมใส่แล้วมีอำนาจวาสนา บารมี ทับทิม ทำให้พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ และยังอุดมไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง มรกต ช่วยป้องกันภยันตรายจากสัตว์ที่มีเขี้ยว บุษราคัม ทำให้มีอายุยืนยาว โกเมน เป็นที่เคารพนับถือโดยทั่วไป นิล ส่วมใส่แล้วประสบแต่ความสุขดีงาม มุกดาหาร ป้องกันภัยจากสัตว์ร้ายและอสรพิษ เพทาย ใส่แล้วเกิดสิริมงคล ไพฑูรย์ ใส่แล้วจะมีแต่ชัยชนะ รวมเรียกอัญมณีเหล่านี้ว่า นพเก้า
กล่าวกันว่าในบรรดาพระมเหสี เจ้าจอมในราชสำนักฝ่ายในนั้น สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ทรงมีเครื่องประดับ เพชรนิลจินดามากที่สุด ทรงโปรดปรานเครื่องเพชรพลอยและใฝ่พระทัยในการเสาะหาเครื่องเพชรที่เป็นชุดเป็นเถา แต่ละชิ้นล้วนมีความงดงามประมาณค่ามิได้
สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ทรงเครื่องประดับไข่มุกที่งดงามมาก
เครื่องเพชรนิลจินดาต่าง ๆ ทรงซื้อด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อีกทั้งยังมีเครื่องเพชรต่าง ๆ ที่ทรงได้รับเป็นของขวัญจากพระราชาธิบดีและพระราชินีต่างประเทศทรงฝากมาถวายอีกจำนวนมาก จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยังไม่มีพระมเหสีพระองค์ใด รัชกาลไหน ๆ ในราชวงศ์จักรี เป็นเจ้าของเพชรนิลจินดาอันมีค่ามากมายเท่าพระองค์มาก่อน ดังจะเห็นได้จากคำบอกเล่าของ นางอมรดรุณารักษ์ อ. สุนทรเวช ข้าหลวงที่เคยถวายงานใกล้ชิดพระองค์ ได้บรรยายความงดงามและลักษณะของเพชรนิลจินดาเฉพาะที่เป็นชุดใหญ่ไว้ ดังนี้
ทรงเครื่องเต็มยศ ประดับเข็มขัดเพชร
ทรงเครื่องประดับสายสร้อยเพชร
ทรงเครื่องประดับสายสังวาลและเครื่องเพชรชุดมรกต
ทรงเครื่องประดับสายสร้อยเพชรเส้นยาว ไข่มุกเม็ดงาม
1. ชุดเพชรรูปกลม ประกอบด้วยสร้อยพระศอ เป็นเพชรลูกน้ำขาวเม็ดใหญ่ เหมือนเฟื่องระย้าซ้อนสองชั้น รัดเกล้ารูปดอกเบญจมาศเพชรคาดรอบพระ เศียร เข็มกลัดดอกเบญจมาศระย้าเพชรใหญ่สามดอกจัดเป็นช่อ พระวัลยกรเพชรลายละเอียดโปร่งทั้งสองข้าง และพระธำมรงค์เพชรเป็นชุดหนึ่ง
2. ชุดเพชรรูปกลมขนาดใหญ่ เป็นสร้อยสังวาลเฟื่องเพชรสามชั้นรอบพระศอเรียงกันตามลำดับเล็กใหญ่เป็นเถา สำหรับประดับเวลาทรงเครื่องเต็มยศอย่างขัตติยนารีตามแบบโบราณราชประเพณีของไทยเดิม
3. เพชรรูปน้ำหยด ประกอบด้วยสร้อยพระศอระย้าเพชรสลับกับไข่มุก ล้วนแต่เม็ดใหญ่น้ำงามๆ โดยเฉพาะเม็ดเพชรน้ำหยดนั้นมีสร้อยพระสังวาลระย้า เพชรสลับไข่มุกเป็นรัศมีกว้างเต็มพระอุระเป็นชุดหนึ่ง
4. ชุดทับทิม เป็นทับทิมจากพม่าสีแดงสดเจียระไนเป็นรูปหัวใจบ้าง รูปไข่บ้าง และรูปสี่เหลี่ยมบ้าง ประกอบลวดลายมงคลเพชรรวมกันเป็นชุดใหญ่ มีทั้งตุ้มพระกรรณ สร้อยพระศอ สังวาลระย้าลายกนก เพชรประกอบทับทิม กำไลต้นพระพาหา พระวลัยกร หัวเข็มขัด และพระธำมรงค์ทับทิมมงคลเพชร เข็มกลัดรูปตัวแมลง และปิ่นปักผม
5. ชุดมรกต เป็นมรกตรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่น้ำเขียวขจีสดใส ประกอบด้วยสร้อยพระศอ พาหุรัดสวมต้นพระพาหา วลัยกรและพระธำมรงค์
6. ชุดนิลสีน้ำเงินแก่ เป็นนิลสีน้ำเงินเข้มมงคลเพชร ประกอบกันเข้าเป็นชุด
7. ไข่มุก ทรงมีทั้งชุดไข่มุกประกอบเพชร และไข่มุกหลายสีหลายขนาดตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ ทำเป็นเครื่องประกอบลักษณะต่าง ๆ เช่น สร้อยพระสังวาลเฟื่องไข่มุกเม็ดขนาดใหญ่ 3 ชั้น มีตุ้มเพชรห้อยเป็นระยะ หรือเป็นไข่มุกเม็ดขนาดกลางร้อยเป็นสายยาวพันรอบพระศอเป็นชั้น ๆ ตั้งแต่สั้นลงมาจนถึงบั้นพระองค์ 6-7 ชั้น ซึ่งต้องใช้ไข่มุกคัดที่มีสีและขนาดเท่า ๆ กัน หรือลดหลั่นเข้าเถากันได้ไม่ต่ำกว่าพัน ๆ เม็ด และยังมีสร้อยพระศอไข่มุกสีกุหลาบอ่อน นอกจากนี้ยังทำเป็นเครื่องอาภรณ์แบบต่าง ๆ มีทั้งที่เป็นระย้าเพชรประกอบไข่มุกติดเข็มกลัด
เครื่องประดับไข่มุก นั้น หมอสมิธ แพทย์ประจำพระองค์ได้บันทึกไว้ โดยมีข้อความที่น่าสนใจขอหยิบยกมา ดังนี้ ....คืนนั้นข้าพเจ้าได้ทูลขอให้สมเด็จพระพันปีหลวง (ในรัชกาลที่ 6) ทรงนำสร้อยพระศอไข่มุกที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานเป็นของขวัญแก่พระองค์เมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก ซึ่งมีมูลค่ากว่า 100,000 ปอนด์ ออกมาให้ชม แม้ว่าข้าพเจ้าจะเคยเห็นสร้อยพระศอเส้นนี้ถูกนำออกมาจากห้องที่อยู่ติด ๆ กันเกือบจะในทันที และเมื่อเห็นข้าพเจ้ามิได้รู้สึกผิดหวังเลย ไข่มุกเม็ดที่จัดว่าเป็น น้ำเอก มีขนาดกำลังพอเหมาะประดับตกแต่งด้วยอัญมณีงดงาม ภายใต้แสงตะเกียงสลัว ๆ ขณะปล่อยให้มันไหวตัวกลิ้งไปมาส่งประกายระยิบระยังอยู่นอุ้งมือข้าพเจ้า นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน ความยาวเต็มที่ของสร้อยร้อยเข้าไว้ด้วยกันทั้งเส้นเกือบ 6 ฟุต เวลาสวมสามารถจัดแต่งให้พันรอบพระศอได้เป็น 2 ทบ มุกเม็ดใหญ่ที่สุดขนาดเท่าลูกหินห้อยอยู่ตรงกลางของมุกแต่ละสาย
เครื่องราชาภรณ์ชุดไข่มุกนี้ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถเพิ่งจะทรงรวบรวมจัดเป็นเครื่องประดับพระวรกายภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสยุโรป และได้มีลายพระราชหัตถ์เลขามาพระราชทานและทรงแนะนำด้วยวิธีการที่ได้ทอดพระเนตรเห็นตัวอย่างราชินีชาวต่างประเทศแต่งเครื่องเพชรพลอยต่าง ๆ มาเพื่อให้เป็นแนวทางแก่สมเด็จพระบรมราชินีนาถของพระองค์ ขณะเดียวกันก็ทรงแสวงหาไข่มุกอันงามและมีค่ายิ่งมาสำหรับประเดิมเครื่องทรงชุดไข่มุก คือไข่มุกสีเหลือน้ำผึ้งซึ่งกล่าวกันว่าเม็ดใหญ่มากและงามที่สุด และ มีลายพระราชหัตถเลขาส่งมาพระราชทานสมเด็จฯ จากกรุงโรม อิตาลี มีว่า ได้ซื้อไข่มุก 3 เม็ด เม็ดหนึ่งเหลืองงามประเสริฐเลิศล้น ราคาแพงเต็มที่ ต้องเกี้ยวกันอยู่นานเป็นนานกว่าจึงซื้อได้
ข้อความที่ตรงกันบอกเล่าถึงความอลังการวิจิตรบรรจงของเครื่องเพชรนิลจินดา ของสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ทรงได้บรรยายไว้ในหนังสือเกิดวังปรารุสก์ ดังนี้
.... สมเด็จพระศรีพัชรินทราฯ เห็นจะต้องเป็นกษัตรีไทยพระองค์หนึ่งที่ใคร ๆ จะต้องยอมรับกันทั่วไปว่า ท่านทรงมีเครื่องเพชรมากมายเหลือเกิน ถ้าจะเสด็จไปในงานใด ข้าหลวงจะต้องเอาเครื่องเพชรของท่านมาถวายทั้งหมดให้ทรงเลือก นอกจากเครื่องใหญ่จริง ๆ จึงไม่มีเก็บไว้ที่พญาไท เพราะเครื่องชุดใหญ่ ๆ นั้นเก็บรักษาไว้ในที่พระบรมมหาราชวัง ถึงกระนั้นเครื่องย่อย ๆ ของท่านก็ดูคล้าย ๆ กับร้านขายเครื่องเพชรร้านใหญ่ในมหานครหลวงยุโรป ข้าหลวงต้องขนมาเป็นถาด ๆ หลาย ๆ ถาด บางทีถาดเดียวจะมีแต่พระธำมรงค์เพชรต่าง ๆ ตั้ง 60 วง.......
ในช่วงรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระศรีพัชรินทรา พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนี พระพันปีหลวง ทรงพระประชวรเรื้อรัง มีอาการไข้ รวมทั้งมีอาการพิษขึ้นในพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) จึงเสด็จสวรรคตวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2462 พระชนมายุ 55 พรรษา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์สรงน้ำพระบรมศพ และโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระโกศพระบรมศพประกอบพระลองทองใหญ่ขึ้นประดิษฐานไว้ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มุขตะวันตก ภายในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวายสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระบรมราชชนนี ทรงมีพระโอรส 7 พระองค์ พระธิดา 2 พระองค์ ตกเสีย 5 พระองค์ รวม 14 พระองค์
พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระศรีพัชรินทรา พระบรมราชินีนาถ
ในปลายพระชนม์ชีพ สมเด็จพระศรีพัชรินทรา พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนี พระพันปีหลวง ก็ไม่ได้สนพระทัยกับของพวกนี้แล้วจะทรงชิ้นเล็กๆเป็น พวกเข็มกลัดอักษรพระนาม เครื่องอาภรณ์เพชรนิลจินดา เหล่านั้นทรงมีมากมาย สวยงามล้ำค่ามาก เวลาจะทรงใช้ นางข้าหลวงต้องเชิญมาเป็นถาดๆ ให้ทรงเลือก
v
หนังสืองานพระราชทานเพลิงพระบรมศพ
สมเด็จพระศรีพัชรินทรา พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนี พระพันปีหลวง
ภายหลังจากที่พระองค์เสด็จสวรรคต ถือเป็นพระราชมรดก และเปลี่ยนผู้ครอบรองตามสายพระโลหิต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ก็ยังไม่ได้แบ่งให้กับบรรดาพระทายาทผู้ใด ทรงเก็บไว้เป็นกองกลาง เวลาที่พระองค์ใดจะใช้ก็พระราชทานยืมชั่วครั้งชั่วคราว จวบจน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคต ก็ยังมิได้มีการแบ่งพระราชมรดก ดัง.กล่าว .............โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป
***** ถ้าชอบบทความนี้ คุณสามารถให้กำลังใจด้วยการร่วม Vote นะครับ****