Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
All blogs
มูกไข่ตก
ชุดทดสอบการตกไข่ # 2
ชุดทดสอบการตกไข่ # 1
การกระตุ้นการตกไข่
เทคนิคได้ลูกสาว ลูกชาย
กรดโฟลิค
อาการเริ่มแรกของการตั้งครรภ์
Sex เลือกเพศ
ไข่ตก ตกไข่
กรดโฟลิค
กรดโฟลิคคืออะไรนะ
กรดโฟลิค (Folic acid) เป็นสารอาหารในกลุ่มวิตามิน บี ที่ละลายน้ำ ซึ่งอาจอยู่ในรูป สารประกอบชนิดอื่น ๆ และมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น โฟเลต (Folate) โฟลาซิน (Folacin) เป็นต้น กรดโฟลิคมีหน้าที่ในการสังเคราะห์สารพันธุกรรม (DNA) ให้คงรูปโครโมโซม ควบคุมการสร้างกรด อะมิโน (Amino acids) ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของโปรตีน จำเป็นต่อการแบ่งตัวของเซลล์และการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ในการสร้างและการแก่ตัวของเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวในไขกระดูก กรดโฟลิคเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกดูดซึมที่บริเวณลำไส้เล็ก จากนั้นจะถูกส่งไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและสุดท้ายจะถูกขับออกจากร่างกายไปกับปัสสาวะในรูปของโฟเลท
ใครกันที่เสี่ยงต่อการขาดกรดโฟลิค
กลุ่มที่เสี่ยงต่อการขาดกรดโฟลิคมากที่สุด คือ หญิงตั้งครรภ์ คนที่รับประทาน กรดโฟลิค ไม่เพียงพอ กลุ่มทารก เด็กที่กำลังเจริญเติบโตและผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน ๆ
อาการแสดงสำคัญของการขาดกรดโฟลิค
1. โลหิตจางที่มีขนาดเม็ดเลือดแดงใหญ่กว่าปกติ (Megaloblastic Anemia) ภาวะโลหิตจางชนิดนี้เกิดขึ้นเพราะมีการปล่อยเม็ดเลือดแดงที่ยังไม่โตเต็มที่ออกมาในกระแสเลือด เนื่องจากมีเม็ดเลือดแดงที่ไม่โตเต็มที่ไม่เพียงพอ (เม็ดเลือดแดงที่โตไม่เต็มที่ จะมีขนาดใหญ่กว่าเม็ดเลือดแดงปกติที่โตเต็มที่แล้ว)
2. ความพิการทางสมอง (Neural tube defect) เป็นความผิดปกติในการสร้าง หลอดประสาท มีผลต่อไขสันหลังและสมอง เกิดขึ้นในระยะแรกของการพัฒนาเป็นตัวอ่อนในครรภ์ ในช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงในตัวอ่อน เพื่อพัฒนาเป็นไขสันหลัง ประสาทและสมอง ขณะเดียวกันกระดูกส่วนสันหลังจะค่อย ๆ เจริญออกมาล้อมรอบไขสันหลัง ซึ่งในช่วงที่ร่างกายกำลังพัฒนานี้ เกิดความผิดปกติขึ้น จะทำให้เกิดปัญหาได้ ภาวะรุนแรงที่สุด คือ สมองทั้งหมดขาดหายไป (Anencephaly) ที่พบบ่อยที่สุด คือ กระดูก สันหลังไม่ยื่นมาเชื่อมเป็นวงแหวน เพื่อจะโอบล้อมไขสันหลัง ทำให้ของเหลวในไขสันหลังดันช่องกระดูก สันหลังที่ปิดไม่สนิทนี้โป่งออกมา เรียกว่า Spina Bifida ซึ่งความพิการทางสมองนี้ เกิดจากการขาดกรดโฟลิคในช่วงก่อนตั้งครรภ์และช่วงแรกของการตั้งครรภ์
3. ภาวะมีสารโฮโมซีสเตอีนสูงเกินปกติ (Homocysteinemia) ภาวะนี้เกิดเนื่องจาก การเพิ่มขึ้นของปริมาณสารโฮโมซีสเตอีนในกระแสเลือด เชื่อว่าโฮโมซีสเตอีนนี้ จะยับยั้ง Cross-linking ระหว่างการสร้าง elastin และ collagen เพิ่มการสร้าง prostaglandin ในเกร็ดเลือดและหลอดเลือด มีการกระตุ้น coagulation factors จนมีการทำลายหลอดเลือดในที่สุด ซึ่งการเพิ่มขึ้นของโฮโมซีสเตอีนนี้จะมี ความสัมพันธ์กับการเพิ่มอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ ไขมันอุดตันในหลอดเลือดสมอง เกิดภาวะ เลือดแข็งตัวเป็นก้อนอุดตันทางเดินของกระแสเลือดในเส้นเลือดบริเวณรอบนอกตามแขนขาและอาจส่ง ผลให้เกิดภาวะโคเลสเตอรอลสูง โรคความดันโลหิตสูงหรือโรคเบาหวาน
กรดโฟลิก กินก่อนท้อง 1-3 เดือน
สำหรับ ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วและกำลังคิดจะมีลูก อย่าปล่อยให้ความคิดดีๆ นั้นผ่านไปโดยคุณไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ เพราะสิ่งสำคัญก่อนที่คุณจะมีลูก ก็คือการวางแผนครอบครัว ซึ่งเป็นการวางแผนเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆโดย เฉพาะการกินกรดโฟลิกเสริมก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1-3 เดือน และกินต่อไปอีก 3 เดือนหลังตั้งครรภ์แล้ว จะได้รับประโยชน์และช่วยลดความพิการของโรคได้ แม้ความเสี่ยงเหล่านี้มีเพียง 1:1,000 ของกาตั้งครรภ์ก็ตาม แต่ก็เป็นเร่องที่เราไม่ควรเสี่ยง จริงไหมคะ ส่วน การกินกรดโฟลิกขณะตั้งครรภ์ จะไม่มีผลต่อการป้องกันความพิการแต่กำเนิด เนื่องจากการปิดหัวปิดท้ายจะปิดเสร็จภายใน 28 วันหลังปฏิสนธิ (ปฏิสนธิช่วงกลางรอบเดือนที่มีไข่ตก) ซึ่งกว่าจะรู้ตัวว่าประจำเดือนไม่มา หรือรู้ว่าท้องก็เลยช่วงเวลานี้ไปแล้ว เพราะแต่ละวันกลไกของธรรมชาติร่างกายคนจะถูกกำหนดไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะ สร้างอะไร เมื่อผ่านไปแล้วก็ไม่สามารถกลับมาสร้างซ้ำได้อีก สำหรับคุณ แม่ที่ไม่ได้เสริมกรดโฟลิกก่อนตั้งครรภ์ก็ไม่ต้องตกใจนะคะ เพราะกรดโฟลิกจะมีในอาหารที่เรากินทุกวันอยู่แล้วค่ะ ถ้าคุณไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงก็ไม่ต้องกังวล และอีกอย่างหนึ่งคือ ความผิดปกติเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเด็กทุกคน และไม่ได้เกิดขึ้นจากการขาดกรดโฟลิกอย่างเดียว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกถึง 50% คือ
ความผิดปกติของโครโมโซม ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับไข่ของคุณแม่มากกว่าน้ำเชื้อของคุณพ่อ เพราะจะมีการแบ่งโครโมโซมไว้ครึ่งหนึ่งแล้วตั้งแต่อยู่ในท้องเพื่อรอปฏิสนธิ ซึ่งอาจจะมีการแตก หัก หลุด และไปจับกันใหม่จนผิดที่ผิดทาง หรือหายไปบ้าง พอผสมกับน้ำอสุจิทำให้ไม่ครบคู่บ้าง เกินบ้าง ยิ่งอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป เปอร์เซ็นที่จะเกิดก็เพิ่มมากขึ้นไปด้วยได้รับเชื้อบางชนิดระหว่างตั้งครรภ์ เช่น ไวรัสหัดเยอรมัน ก็มีส่วนทำให้สมองพิการได้เหมือนกัน เช่น ปัญญาอ่อน สมองลีบเล็กไม่เติบโต การกินยาบางชนิดขณะตั้งครรภ์ เช่น ยาขับประจำเดือนและยาอื่นๆ ซึ่งเข้าไปรบกวนการสร้างอวัยวะ เป็นต้น อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี เช่น พื้นที่เสี่ยง โดนรังสีเอกซ์เรย์ ได้รับสารเคมีบางอย่าง เป็นต้น
กรดโฟลิก กินแค่ไหนจึงจะพอ
แม่กลุ่มทั่วไป คือกลุ่มที่ไม่เคยมีประวัติว่าลูกหรือญาติมีความพิการแต่กำเนิด เมื่อตั้งครรภ์กรดโฟลิกในตัวแม่จะลดลง เนื่องจากถูกดึงไปใช้ในการสร้างตัวอ่อน ดังนั้นควรได้รับอย่างน้อยวันละ 400 ไมโครกรัม (0.04 มิลลิกรัม) จึงจะช่วยลดอุบัติการณ์ความพิการแต่กำเนิดได้มากกว่า 50% แต่ถ้าไม่ได้รับกรดโฟลิกก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดความพิการแต่กำเนิดมากกว่า 50% เช่นกัน
แม่ในกลุ่มเสี่ยง คือกลุ่มที่มีประวัติว่าลูกหรือญาติเคยมีความพิการเกิดขึ้นอย่างชัดเจน เช่น ความพิการของกะโหลก ระบบประสาทส่วนกลาง สมองพิการแต่กำเนิด โรคปากแหว่งเพดานโหว่ หรือแม่เป็นโรคโลหิตจาง เป็นต้น แม่กลุ่มนี้จะต้องได้รับกรดโฟลิกเพิ่มเป็นวันละประมาณ 40,000 ไมโครกรัม (4 มิลลิกรัม) คือมากกว่าแม่กลุ่มปกติประมาณ 100 เท่าค่ะ
กรดโฟลิก หาง่าย & สูญสลายง่าย
หาง่าย บ้านเรามีอาหารที่มีกรดโฟลิกให้เลือกมากมาย เพราะมีอยู่ในผักใบเขียวเกือบทุกชนิด เช่น คะน้า กะหล่ำปลี ปวยเล้ง ผักกาดหอม หน่อไม้ฝรั่ง บล็อกโคลี ถั่วลันเตา ธัญพืชต่างๆ ผลไม้ตระกูลส้ม ที่สำคัญหากได้รับกรดโฟลิกแบบครบคุณค่าควรกินแบบสดๆ หรือถ้าจะลวกก็ต้องทำด้วยความรวดเร็วค่ะ
สูญสลายง่าย
การปรุงอาหารที่ต้องใช้ความร้อนนานๆ จะทำให้กรดโฟลิกสูญสลายได้ง่ายหากมีอาการตัวร้อนและเป็นไข้หลายวัน ด้วยอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นทำให้ระดับกรดโฟลิกในร่างกายลดลงได้เช่นกันการ ได้รับยารักษาโรคลมชัก คนที่เป็นโรคลมชักและต้องกินยาเป็นประจำ ยาตัวนี้จะเข้าไปต่อต้านการสร้างโปรตีนและลดการดูดซึมของกรดโฟลิก ดังนั้น คุณแม่ที่มีภาวะลมชักอยู่จะต้องกินโฟลิกให้มากขึ้นประมาณ 10 เท่าจากที่กินอยู่เดิมค่ะ
การวางแผนกินกรดโฟลิกก่อนตั้งครรภ์ 1-3 เดือน เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า และคุ้มเวลาแห่งการรอคอยของคนเป็นแม่แน่นอนค่ะ
[ที่มา: นิตยสาร รักลูก ฉบับที่ 299 เดือนธันวาคม พ.ศ.2550]
[ที่มา: //www.babyfancy.com]
Create Date : 20 กรกฎาคม 2552
Last Update : 20 กรกฎาคม 2552 10:59:19 น.
2 comments
Counter : 5109 Pageviews.
Share
Tweet
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีนะคะ
โดย: mook (
haiti
) วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:37:20 น.
สวัสดีค่ะ
เป็นข้อมูลน่ารู้ที่มีประโยชน์มากค่ะ ขอบคุณนะคะ
โดย:
กิ่งลีลาวดี
วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:00:35 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
++Love Shuffle++
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Second impact
Nong Fern Daddy
แม่น้องเอเอ
น้องไทนี่
พลอยพนาลี
รินตินติน
ริน-otto
triplen
เจ้าแม่แฟชั่น
moomeaw
warabimochi
mamydd
มารุจัง
Athlons
Angel_pink...
Puyfai Makeup
ta-to
triny
quiltmom
Pattylala
annasugars9000
โกโก้คุง**
wee_nong
PuPe_so_Sweet
alwaysfluke
fozzil
hamjujang
patchar
nongmacki
fuku
KOok_k
japanberry
ge-or-ge
chopchop
addsiripun
ZiNNiAz
anadiar
de-ja-vu
KiRaRi
Webmaster - BlogGang
[Add ++Love Shuffle++'s blog to your web]
Links
happybakeryshop
ทำผมไปงานปาร์ตี้
ทำผมไปงานปาร์ตี้#2
hairstyle
jeban
งานฝีมือญี่ปุ่น
ตั้งฮั่วเส็ง
มารยาทธุรกิจ
all about love
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.