Art Therapy ศิลปะสะท้อนชีวิต
Art Therapy ศิลปะสะท้อนชีวิต
ศิลปะบำบัด หรือ Art Therapy เป็นศาสตร์แห่งการรักษาบุคคลที่มีปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดออกมาเป็นคำพูด มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับคนอื่น เจ็บป่วยจากพิษสุราเรื้อรัง ติดยาเสพติด เบื่ออาหาร มีความพิการทางกายหรือสมอง ซึ่งการทำงานศิลปะจะช่วยให้บุคคลเหล่านี้ได้แสดงความรู้สึกนึกคิดที่เก็บกดไว้ออกมา นอกจากจะใช้ในการบำบัดรักษาแล้วศิลปะยังใช้ในการตรวจคนไข้ได้ด้วย โดยนักจิตวิทยาจะวิเคราะห์อาการได้จากผลงาน หรือการแสดงออกของผู้ป่วย
ดนตรีบำบัด พลังเยียวยาด้วยสุนทรียะแห่งเสียง คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ดนตรีที่นุ่มนวลฟังสบายๆ ช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ปล่อยวางจากทุกสิ่งที่แสนจะยุ่งเหยิงสับสนรอบๆกายได้อย่างง่ายดาย มนุษย์เรารู้จักการใช้ดนตรีบำบัดมานานแสนนาน ดังที่เมื่อห้าพันปีก่อนชาวอียิปต์ได้เรียกดนตรีว่า "ยาแห่งวิญญาณ" นับจากนั้นมาได้มีการศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่องจนมีการกำหนดรูปแบบและมาตรฐานของวิชาดนตรีบำบัดขึ้น ซึ่งมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก
ดนตรีบำบัดทางจิตเวช ดนตรีสามารถใช้ทั้งป้องกันและบำบัดโรคที่เกิดจากจิตใจได้หลายประเภท ตั้งแต่โรคเครียด โรคไมเกรน โรคนักบริหาร ก้าวร้าวผิดปกติฯลฯ ในการบำบัดนั้นสามารถทำได้ 2 รูปแบบคือเปิดเพลงให้ผู้ป่วยฟังโดยต้องเลือกท่วงทำนองให้เหมาะกับโรคนั้นๆเช่น เพลงประเภทบรรเลง หรือเพลงคลาสสิค ช่วยให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย สำหรับผู้ที่เป็นโรคเครียด ไมเกรน ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้า จะใช้เพลงจังหวะสนุกสนาน ให้รู้สึกคึกคัก มีชีวิตชีวาขึ้น ส่วนการบำบัดอีกรูปแบบหนึ่งคือ การบำบัดเป็นกลุ่มประมาณ 6-10 คน เป็นกิจกรรมเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกายไปตามจังหวะเสียงเพลง เพื่อเบนความสนใจเรื่องที่หมกมุ่นอยู่ หรือระบายความเครียด นอกจากนี้ยังทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสปรับตัวเข้าหาสังคมได้มากขึ้นด้วย
ดนตรีบำบัดโรค นอกจากจะมีอิทธิพลต่อจิตใจ อารมณ์ ความนึกคิดแล้ว ดนตรียังช่วยรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยทางกายอย่างได้ผลเป็นรูปธรรมเมื่อใช้รักษาร่วมกับการใช้ยา เช่น ช่วยลดอาการปวดจากโรคมะเร็ง, ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง, ผู้ป่วยอัมพาต, อาการพิการต่างๆ, ฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังผ่าตัด หรือผู้ป่วยที่อยู่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน, และผู้ป่วยในภาวะใกล้เสียชีวิต แต่ทั้งนี้การใช้ดนตรีบำบัดโรค ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร และเป็นไปอย่างต่อเนื่องจึงจะได้ผล
ดนตรีบำบัดกับเด็กออทิสติก ลักษณะทั่วไปของเด็กออทิสติกคือ มีความล่าช้าและผิดปกติทางด้านสังคม ไม่สามารถสร้างสัมพันธภาพกับบุคคล ทางด้านการสื่อความหมาย การพูดและการใช้ภาษา แต่จากการศึกษาวิจัยพบว่า ดนตรีบำบัดช่วยให้เด็กออทิสติกมีพัฒนาการด้านการพูด ความเข้าใจการสื่อความหมายได้ดีขึ้น โดยกิจกรรมดนตรีสามารถจูงใจให้เด็กออทิสติกที่แยกตัวออกจากสังคม ให้มีปฏิสัมพันธ์กับครูและกลุ่มเพื่อน จากการมีส่วนร่วมและการยอมรับบทบาทหน้าที่ของตน ในรูปแบบของกิจกรรมดนตรีที่หลากหลาย
ดนตรีในชีวิตประจำวัน สำหรับคนปกติทั่วไปก็สามารถใช้ดนตรีในการป้องกันรักษาสุขภาพทางกายและจิตด้วยวิธีง่ายๆ เพียงเปิดเพลงบรรเลงในจังหวะช้าฟังสบาย ความนุ่มนวลของเสียงเพลงจะทำให้คุณหลุดออกจากกรอบของความคิด ความวิตกกังวลในขณะนั้น ขณะเดียวกันภายในร่างกาย กระบวนการเมตาโบลิสซึ่มจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง ฯลฯ เพลงที่จังหวะแตกต่างกันย่อมให้ผลที่ต่างกันไป จังหวะช้าจะช่วยลดความเครียด ความเจ็บปวดลงได้ เพลงที่มีจังหวะปานกลาง สนุก เพลิดเพลิน ทำให้รู้สึกสุขสบาย สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนเพลงที่มีจังหวะเร็ว ตื่นเต้นเร้าใจ จะทำให้รู้สึกตื่นตัว อยากออกกำลัง และมีพลังมากขึ้น
ศิลปะการแสดงเพื่อการบำบัด ละครก็เป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดการปลดปล่อย แสดงความรู้สึก หรือระบายอารมณ์ไม่ดีทั้งหลายที่เก็บกดไว้ในใจออกมา โดยผู้เข้ารับการบำบัดจะได้สวมบทบาทต่างๆในเหตุการณ์จำลอง เพื่อย้อนกลับไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาแล้วในอดีตให้เป็นไปอย่างที่ต้องการ แม้ในความเป็นจริงไม่อาจย้อนเวลากลับไปทำอย่างนั้นได้ แต่การทำเช่นนี้จะช่วยให้รู้สึกคลายปมปัญหาในจิตใจลง นอกจากเจ้าของปัญหาจะรู้สึกดีขึ้นแล้ว เพื่อนร่วมกลุ่มก็สามารถนำละครฉากดังกล่าวเชื่อมโยงเข้ากับประสบการณ์ของตนเอง และสามารถนำไปเป็นต้นแบบในการแก้ปัญหาได้ นอกจากการสวมบทบาทตัวละคร อาจจะใช้วิธีแสดงละครใบ้ ละครหุ่นมือ การเล่นกับหน้ากาก ก็ได้
ละครบำบัดเหมาะกับใครบ้าง ละครจิตบำบัดสามารถใช้ได้กับผู้ที่มีปัญหาหลากหลายรูปแบบ ใช้ได้กับคนทุกวัยในวงกว้าง ไม่จำกัดเฉพาะผู้ป่วยเท่านั้น ยังรวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาความเครียด การเข้าสังคม การทะเลาะเบาะแว้ง อิจฉาริษยา คนที่ปฏิเสธใครไม่เป็น เด็กที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นแต่พ่อแม่ไม่รู้จะสอนเรื่องเพศสัมพันธ์หรือเรื่องยาเสพติดอย่างไรก็พาลูกมาทำกิจกรรมนี้ได้ แม้แต่ผู้ที่ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่อยากค้นพบตัวเอง อยากพัฒนาศักยภาพของตัวเอง เสริมความมั่นใจ หรืออยากทำกิจกรรมที่สนุกสนาน ผ่อนคลาย ก็สามารถทำกิจกรรมดังกล่าวได้
อ่านเพิ่มเติมในคอลัมน์ Health นิตยสาร Health & Cuisine ปีที่ : 3 ฉบับที่ : 33 เดือน : ตุลาคม 2546
From: //healthandcuisine.com/health.aspx?cId=7&aId=292
Create Date : 18 มกราคม 2553 |
Last Update : 18 มกราคม 2553 15:41:05 น. |
|
0 comments
|
Counter : 573 Pageviews. |
|
|